ซากุระในสายลมร้อน ตอนที่22

    ซากุระในสายลมร้อน
    พ.ไทยยืนวงษ์

    ตอนที่ 22

    ผมฟาดมือแรงๆบนเข่าทั้งสองข้างของตัวเองเพื่อให้เจ็บ ยกขึ้นมาดู ฝ่ามือแดงเป็นปื้นและร้อนวูบ ทว่าจางหายไปอย่างรวดเร็วและชาจนไร้ความรู้สึก เปลี่ยนจากตีมาเป็นถูมือเข้าด้วยกันหลายๆครั้งคล้ายเวลาผิงกองไฟหน้าหนาว ดีขึ้นนิดหน่อย แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ชะเง้อคอมองหาคนรู้จัก ยังไม่พบใคร ผมคงมาเร็วไปหน่อย ยังเช้าเกินกว่าที่คนส่วนใหญ่จะขึ้นมาบนนี้ สำหรับคนอื่นๆนั้นช่างเถิด ไม่มีผลอะไรกับผมนักหรอก คนที่ผมมองหาและอยากให้มาที่สุดมีเพียงคนเดียว เธอสัญญาว่าจะมา และถ้าโนริโกะสัญญาอะไรแล้ว เธอต้องทำตามอย่างแน่นอน


    วันแข่งขัน ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ผมนอนแทบไม่หลับ ตื่นเต้นตลอดทั้งคืน หยิบกีตาร์มาซ้อมทบทวนยิ่งรู้สึกแย่ไปกันใหญ่ เล่นผิดเล่นถูก ความไม่มั่นใจว่าจะเล่นได้จบเพลงเกิดขึ้นทันที ผมไม่ควรเลือกเพลงของบาคเลย ที่สำคัญ ผมสำนึกตัวเองที่บังอาจเล่นชาโคเน่ที่มีความยาวสิบกว่านาที โอย ตายแน่ จะขายขี้หน้าเขาสักเพียงใดถ้าเล่นหลุดบนเวที

    ตื่นแต่เช้า ไม่สินะ จะเรียกตื่นไม่ได้เพราะไม่ได้นอน ผมแต่งตัวในชุดที่ดีที่สุด คือชุดนักศึกษา ตรวจดูกีตาร์อีกครั้งก่อนเก็บลงกล่อง เดินหิ้วลงจากอพาร์ทเมนท์ แม้เป็นวันพิเศษที่ควรให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของตน แต่ผมก็ยังคงเลือกนั่งรถเมล์ จะว่าเลือกก็คงไม่ถูกอีกนั่นแหละ ผมจะเดินทางอย่างไรสะดวกและประหยัดได้มากเท่านี้อีกเล่า

    เก้าโมงเช้า ห้องแสดงดนตรีของโรงแรมระดับห้าดาวบนถนนสุรวงศ์ ช่างใหญ่โตงดงาม มันข่มให้ตัวผมรู้สึกเป็นเพียงมดแมลงที่บังอาจก้าวย่างเข้ามา ผมเริ่มได้ยินเสียงซ้อมกีตาร์จากตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ได้ยินทำนองเพลงคุ้นหู แทบรู้จักไปเสียทุกเพลงด้วยหนึ่งปีที่ผ่านมาผมฟังเป็นบ้าเป็นหลัง ศึกษาแนวการเล่นจากนักกีตาร์หลายๆคนที่เล่นเพลงๆเดียวกัน โดยส่วนใหญ่การเล่นกีตาร์คลาสสิกในเมืองไทยยังไม่กว้างขวางนัก คนเล่นอย่างจริงจังมีจำนวนน้อย แต่ละคนมักเลือกเพลงที่ได้รับความนิยมเพื่อไม่ให้ผู้ฟังที่อาจจะยังไม่เข้าถึงดนตรีคลาสสิกเข้าใจได้ไม่ยากนัก และเพลงแบบนั้นมักได้ยินได้ฟังกันประจำ จึงไม่น่าแปลกที่ผมจะรู้จักเพลงเหล่านั้นจนขึ้นใจ จำได้แม้ทุกเมโลดี้ของมัน

    ผู้เข้าแข่งขันมีมากกว่าสิบคน ไม่มากเท่ารายการประกวดแบบอื่น แต่สำหรับกีตาร์คลาสสิกในประเทศไทยแล้ว ผมคิดว่าจำนวนนี้มากเกินคาดเสียอีก ก่อนหน้าคงจะมีมากกว่านี้หลายเท่า ต่างต้องผ่านการคัดเลือกเพื่อค้นหาคนที่ฝีมือเป็นเลิศของแต่ละท้องถิ่นแต่ละสถาบันเข้ามาร่วมชิงตำแหน่งยอดฝีมือของชาติในวันนี้ ผู้เข้าแข่งขันล้วนแต่งกายงดงาม ผู้ชายใส่สูทผูกเนคไทอย่างสง่า ส่วนผู้หญิงที่ผมเห็นว่ามีเพียงสองคน อยู่ในชุดกระโปรงบานยาวฟูฟ่องเหมือนในเทพนิยาย มีผมคนเดียวที่ใช้ชุดนักศึกษา ความคิดที่ว่ากลับบ้านดีกว่าเกิดขึ้นทันที แต่ก่อนที่ร่างกายจะปฏิบัติตาม อาจารย์สุวิทย์ก็โผล่เข้ามาฉวยที่ข้อมือ

    จากคุณ : อันโตนิโอ - [ 26 ธ.ค. 46 02:14:01 ]