..เมื่อผมเหลือเงิน60บาท...

    ----

    “ตกลงพี่ไม่มีเหรอฮะ”


    “ของพี่ก็เพิ่้งใช้หมดไปเมื่อวานเอง เนี่ย ทั้งเนื้อทั้งตัวพี่ก็เหลืออยู่แค่200”


    “โอเค ไม่เป็นไรฮะ ขอบคุณมากฮะพี่โต้ง”



    ฮงกดปิดโทรศัพท์มือถือลงเบา ๆ “ทำไงดีวะกุ”เขาคิดพลางเปิดกระเป๋าตังค์ของเขาออกมาคุ้ยดูอีกรอบ ทุกอย่างที่ฮงเห็นก็ยังคงเหมือนเดิม แบงค์20เก่า ๆ 3ใบวางเรียงแนบชิดอยู่ตรงมุมด้ายซ้ายของกระเป๋า บัตรเอทีเอ็มค้างปีที่เหลือเงินแค่35บาทในบัญชี บัตรเหล้าเก่า ๆ ที่หมดอายุไปตั้งหลายเดือนแล้วอีก2-3ใบ นอกจากนั้นกระเป๋็าของฮงก็ว่างเปล่า.. มันเบาโหวงเหลือทนกับกระเป๋าที่เขาถืออยู่ในมือที่มีเงินติดตัวแค่เพียง60บาท...


    “แค่60บาทเนี่ยนะ”


    ฮงตัดสินใจรื้อคุ้ยดูตู้เสื้อผ้าเขาอีกรอบ ทุกอย่างในตู้กระจัดกระจายออกมา นิ้วของฮงควานหาล้วงเข้าทุกช่องกระเป๋าทั้งเสื้อ กางเกง ทุกครั้งที่ล้วงเข้าไปสีหน้าของเขาเหมือนเปี่ยมฝากไปด้วยความหวังเต็มที่ และทุกครั้งที่ล้วงเข้าไปแล้วนั้นฮงกลับเจอแต่ความว่างเปล่า..



    “สัดดเอ้ยย ไม่มีแม่งสักบาท”


    ฮงสบถออกมาอย่างผิดหวัง นี่เขายังเหลือแค่ลิ้นชักใต้ตู้เท่านั้นที่ยังไม่ได้คุ้ย โดยไม่รอช้า เขารีับกระชากลิ้นชักล่างตู้ออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างในนั้นถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย เหมือนสวรรค์ยังจะไม่สิ้นปราณีเขา เมื่อสายตาของฮงเหลือไปเห็นเหรียญเล็ก ๆ เหรียญนึงอยู่ตรงมุมใต้ลิ้นชักตู้นั้น..


    “ฮ่า ๆ ๆ เจอแล้ว”


    “แม่งเหรียญห้าด้วยโว้ยย”


    ฮงหยิบเหรียญห้าเหรียญนั่นขึ้นมาอย่างลิงโลด พลางค้นต่อไปอย่างมีความหวัง แต่ไม่นานเขาก็ต้องปรับเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่มีค่าอีกนอกจากเหรียญห้าที่เขาเพิ่งเจอเมื่อกี้..


    ฮงย้อนมองดูสภาพของห้องถูกรื้อค้นกระจุยกระจายด้วยเพราะัเงินเพียง5บาท พลันสีหน้าสลดวูบปนกึ่งสมเพชตัวเอง ทำไมต้องมาเกิดเอาตอนสิ้นเดือนด้วยว้า เขาคิด..


    “ฮงต้องมาให้ได้นะค่ะ”


    “วันเกิดอ้อมนะ อ้อมอยากฉลองเงียบ ๆ กะฮงคนเดียว”


    “ของขวัญไว้วันหลังก็ได้นะ เพราะยังไงฮงก็ต้องให้อ้อมอยู่แล้ว”


    “อ้าว โทรมาบอกวันนี้เลยมันเซอร์ไพร์สดีนี่ค่ะ”


    ฮงย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์ที่สาวน้อยหน้าแฉล้มคนนั้นโทรคุยกับเขาเมื่อเที่ยง ธรรมดาเขาก็แทบไม่เคยปฎิเสธเธออยู่แล้ว และยิ่งเหตุการณ์อย่างนี้ยิ่งทำให้ฮงปฎิเสธเธอลำบาก..

    ฮงเจอเธอในงานเลี้่ยงของบริษัทเมื่อ4เดือนที่แล้ว ด้วยความสวยและอัธยาไมตรีของเธอทำให้เขาแอบปิ๊งเธอทันทีเมื่อแรกพบ ตอนแรกก็ใจแทบแป๊วเหมือนกันเมื่อรู้ว่ามีคนสนใจเธออยู่มากมาย แต่แล้วหัวใจเขากลับพองโต เมื่อรู้ว่าเจ้าหล่อนก็มีใจโอนเอียงมาทางเขาบ้างเหมือนกัน..


    ฮงใช้เวลาเพียรพยายามเฝ้าจีบเธอไม่ถึงเดือน ก็นัดหล่อนออกมาทานข้าวได้สำเร็จ แต่ก็นั่นเถอะ ทุกครั้งที่ออกไปด้วยกันก็แทบทำให้เขาแทบซีดไปเหมือนกัน ในเมื่อเจ้าหล่อนเป็นพวกประเภทมือเติบ ใช้ชีวิตอย่างลูกคุณหนู ต้องเที่ยวแต่ที่หรู ๆ กินแต่อาหารแพง ๆ ...


    แต่ฮงก็ไม่ลดละ ด้วยเพราะว่าถูกความรักมันบังตาซะมิด เงินเก็บเกือบสี่หมื่นที่ฮงอุตส่าห์เจียดจากเงินเดือนหมื่นนิดๆที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบกันมาถูกเอาออกมาใช้ราวสาดน้ำ แค่เวลาชั่วเดือนกว่า เงินเขาก็ลดฮวบฮาบลงจนแทบไม่เหลือ และเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนนี้เอง ที่เขาเริ่มประสบปัญหาเงินช๊อตครั้งแรกหลังจากจ่ายอาหารค่ำบนโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา..


    และที่เหลืออยู่จนวันนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีแค่ 60บาท???
    (อ้อ ไม่สิ เมื่อกี้เพิ่งเก็บได้อีก5บาท น่าจะเป็น65บาทถึงจะถูก)


    ช่างเหอะ จะ60หรือ65ก็เหมือน ๆ กันแหละ ฮงป่ายแขนยกนาฬิกาขึ้นดูอีกที ตายโหงเธอนัดเขาไว้ทุ่มครึ่ง ป่านนี้ก็เกือบทุ่มแล้ว ฮงรีบจัดการหวีผมอีกทีอย่างลวก ๆ ก่อนจะเทน้ำหอมที่เหลืออยู่ก้นขวดพรมไปทัุ่วร่างกายจนหอมฟุ้ง และเดินออกจากห้องมาอย่างเร่้งรีบ..




    ..

    ...



    บนรถเมล์ ฮงรู้สึกเบื่อกับสายตาแต่ละคนที่มองเขาเหลือเกิน


    “มองทำห่าไรวะ“


    “กุจะไปหาแฟนกุก็ต้องแต่งหล่อใส่น้ำหอมบ้างสิวะ ไอ้เชี่ยย”


    เขาคิดพลางหลังจากที่จ่ายตังค์เหรียญ5บาทที่เขาเพิ่งคุ้ยเจอเมื่อกี้ให้กับกระเป๋ารถเมล์..



    (( ฮงเหลือ60บาทอีกแล้ว))



    ชั่วระยะทางกว่ายี่สิบนาทีบนรถเมล์ ทำให้ฮงมีเวลาทบทวนและคิดหาวิธีแก้ปัญหาว่าจะรับมือสถานการณ์เฉพาะหน้ายังไง บ่อยครั้งที่เขาสามารถเอาตัวรอดในยามวิกฤติอย่างฉิวเฉียด แต่คราวนี้กลับแล้วจนรอดก็ยังคิดหาทางไม่ได้สักที..


    คงต้องตามวิธีเดิมแหละ ถึงจะน่าเกลียดไปหน่อย แต่ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด


    วิธีเดิมของเขาที่ว่านี้ก็คือ ไปสารภาพกับเธอตรง ๆ เลยว่าเขาไม่มีเงิน แล้วขอให้เธอออกไปก่อน..



    “ น่าจะโอเคนะ เพราะที่ผ่านมากุก็จ่ายตลอดนี่ “เขาคิด..


    ....



    ....


    ฮงมาถึงสถานที่นัดหมายก่อนเธอได้สักครู่ ช่วงขณะที่รอเขาไม่กล้าแม้นจะสั่งอะไรกินเลยมากเกินไปกว่าน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว..


    “ อ้าว มานานรึยังค่ะ ”


    ฮงสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงใสเล็ก ๆ พลางเหลียวหันมองร่างงามระหงต้นเจ้าของของเสียงน่ั่น..


    “สักพักเองครับ อ้อมเชิญนั่งก่อนฮะ”


    เขาเอ่ยปากเชื้อเชิญ ทั้งที่กายภายในเย็นวาบ นี่เขาจะบอกกับเธอไงดีเนี่ย..



    “ทำไมไม่สั่งอาหารไว้รอก่อนละค่ะ”


    “เอ๊ะ ฮงเป็นอะไรรึเปล่า สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนิ”


    “อ้อ ป่าวฮะ ไม่มีอะไร อ้อมสั่งอาหารก่อนเถอะ” อ้าว สัด  ทำไมมืงไม่พูดไปเลยวะ ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมืงมีแค่60เนี่ย  ยังอุตส่้าห์บอกเขาสั่งอาหารด้วยนะ ไอ้ห่า..


    “งั้นอ้อมสั่งเลยนะค่ะ หิวจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”



    อาหารแต่ละอย่างยิ่งทำให้ใจของฮงตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม พาลนึกโทษตัวเองเหมือนกัน นี่ถ้าหากบอกเธอก่อนหน้านี้สักหน่อย เธออาจไม่สั่งไม่บันยะบันยังอย่างงี้..


    ฮงรับประทานอาหารมื้อนั้นอย่างจืดชืด พาลนึกหวังว่า รอให้เธอทานก่อน หลังเธออิ่มแล้วเธอคงอารมณ์ดีพอ และเขาจะได้รวบรวมความกล้าบอกกับเธอเสียที..


    “ขอบคุณนะค่ะ ที่พาอ้อมมาเลี้ยงบ่อย ๆ แบบนี้ เกรงใจแย่เลยค่ะ” เธอเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมยกแก้วน้ำข้าง ๆ ขึ้นมาจิบ...


    เออ น่านแหละ เข้่าเค้าพอดี กุก็กะลังจะบอกกับมืงเหมือนกันว่าตังค์กุหมดแล้ว เผลอ ๆ แม่งยังอยากยืมอีกสัก500 ด้วยซ้ำ แต่ก่อนที่ฮงจะตัดสินใจรวบรวมความกล้าบอกออกไปนั้น..


    “คืออ้อมยังมีเรื่องอยากรบกวนฮงอีกหน่อยนะคะ”


    “พักนี้เงินอ้อมช๊อตด้วย เดี๋ยวก่อนกลับรบกวนฮงหยิบให้อ้อมก่อนสักสองพันนะค่ะ”



    เขาตะลึงชาวาบไปทั้งร่าง เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงตรงกล่างกระหม่อมเขาอย่างจัง สิ่งที่แทบนึกไม่ถึงกลับอุบัติขึ้นราวกับจะซ้ำเติมเขาให้จมดิ่งลงเข้าไปอีก..


    “น่ะค่ะ... ฮงคนดีที่หนึ่งเลย..”



    เธอไม่วายยังหยอดคำหวานทับถมเข้าไปอีก น้ำลายฮงเหนียวฝืดทั่วคอไปหมด แต่กระนั้นเขายังไม่วายที่จะยังคงสติบอกกับเธอไปว่า..


    “คะ.. ครับ ไม่มีปัญหาครับบ”



    เหงื่อกาฬฮงเริ่มตก เขาปลีกตัวขอเดินเข้าห้องน้ำด้วยจิตใจอันสับสน นับว่ามันเป็นสมการที่ยากที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา ความเครียดก่อตัวขึ้นบีบรัดหัวเขาจนแทบคลั่ง ..



    (( กุเหลือเงินแค่60บาท ))



    “อืมม อันนี้เข้าท่านะ น้อง ๆ เอาปลาสามทะเลที่นึงนะ”



    (( กุเหลือเงินแค่60บาท... ))




    “เป๋าฮื้อน้ำแดง”



    (( กุเหลือเงินแค่60บาท.... ))




    “กุ้งมังกรซาซิมิ”



    (( กุเหลือเงินแค่60บาท.... ))




    “รบกวนฮงหยิบให้อ้อมก่อนสักสองพันนะค่ะ”




    (( กุเหลือเงินแค่60บาท.... ))




    ให้อ้อมก่อนสักสองพันนะค่ะ....





    สองพันนะค่ะ...




    ...........






    ......





    ..




    ฮงกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งด้่วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ปัญหาที่เขาว่ายากนักยากหนาแท้จริงแล้วเขากลับรู้ว่าเป็นสมการที่ง่ายนิดเดียว ที่เสมือนเส้นผมเส้นโตบังตาเขาไปชั่วขณะ.. เขาสั่งไวท์ที่แพงที่สุดในร้านมา สั่งเด็กเสริพจุดเทียนเล็ก ๆ กลางโต๊ะ พร้อมกับใหั้เปิดเพลงโรแมนติคเย็น ๆ ให้เขาดื่มด่ำบรรยากาศไปกับเธอ..


    ดูเหมือนเธอจะพึงพอใจมากทีเดียว และยิ่งท่าทางดูขวยเขินจนหน้าแดงระเรื่อหลังจากที่ฮงรินไวท์ให้เธอดื่มไปแล้่ว2-3แก้ว..


    “ฮงมองอะไรค่ะ”


    เธอหลบสายตาวูบของฮงลง..



    “ผมอยากมองอ้อมไว้ให้นาน ๆ ฮะ”



    “ผมกลัวว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีอ้อมให้ผมได้มองอีก”



    ฮงละเลียบปากหยอดคำหวานอย่างไม่มีติดขัด สารพัดคำพูดที่ฮงสามารถพรรณาถึงเธอตอนนี้ได้ถูกกล่าวออกมาอย่างไม่ขาดระยะ


    ใบหน้าที่แดงระเรื่ออยู่แล้วของเธอกลับยิ่งแดงก่ำเข้าไปอีก ให้ตายเหอะ หน้าตา เธอตอนนี้ช่างดูเย้าอารมณ์เขาเหลือเกิน ยิ่งเวลาที่ริมฝีปากน้อย ๆ ของเธอเผยอจิบไวท์สีแดงขุ่นคลั่กจากแก้วทรงสูงนั่นแล้ว ยิ่งทำให้ฮงวาบหวามไปเลยทีเดียว..

    ฮงรู้สึกบังเกิดอารมณ์ขนลุกซู่ซ่า อะไรบางอย่างใต้กางเกงเขาเริ่มผงกหัวแข็งหยักหงึก ๆ อารมณ์รัญจวนผสมความดื่มด่ำกับบรรยากาศ ใจนึงพาลให้ฮงรู้สึกรักเธอจนหมดหัวใจ..




    ((... กุเหลือเงินแค่60บาท.... ))




    เออ กุรู้แล้ว ไอ้เย๊ดแม่ ฮงสบถตอบคำถามที่ตอกย้ำตัวเองในใจ ..



    ...


    เวลาผ่านไปเร็วเกินคาด เพียงแค่ชั่วครู่เดียวเวลาแห่งความสุขก็ผ่านพ้นไป ดั่งที่ผู้คนว่าไว้ เวลาที่ลำบากหรือเวลาที่ไม่อยากจดจำมันมักผ่านไปอย่างเชื่องช้านัก แต่กลับเวลาที่มีความสุขมันกลับผ่านไปรวดเร็วเหลือเชื่อ.. แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อย ค่ำคืนนี้ มันก็จะอยู่ในความทรงจำของฮงตลอดไป..


    หลังจากที่เรียกเด็กเก็บเงินเช็คบิล ฮงเปิดกระเป๋าตังค์ขึ้นหยิบบัตรเอทีเอ็มใบเก่ามายื่นให้เด็กเสริฟ ..


    “หวังว่าที่นี่เขาคงรับบัตรเครดิตนะ”



    ฮงกล่าวพร้อมยิ้มเล็กน้อย ๆ ซึ่งเด็กเสริฟก็ก้มหัวให้เขาอย่างสวยงามก่อนถือถาดเดินเข้าไปในเคาท์เตอร์(ความจริงต่อให้ร้านหรูแค่ไหนเด็กเสริฟก็แม่งลาวทั้งนั้นนะแหละ)



    “ผมขอตัวไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ”



    ฮงกล่าวยิ้มกับเธอ ก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำทางหลังร้าน ความจริงฮงบังเอิญสังเกตเห็นแล้วว่าห้องน้ำหลังร้านติดกับถนนอีกด้านนึงพอดี เมื่อครั้นตอนเข้าห้องน้ำครั้งแรก และนี่ก็อาจเป็นอีกหน่ึงประเด็นหลักที่ทำให้ฮงหมดห่วงไปโดยปริยาย..


    ฮงโบกแท๊กซี่ที่หลังร้าน ก่อนผิวปากฮัมเพลงขึ้นแท๊กซี่อย่างอารมณ์ดี เขาเหลียวมองเห็นเด็กเสริพคนนึงออกมาเหลียวมองหาเขาหลังจากที่เขาขึ้นแท๊กซี่มาได้ระยะนึงแล้ว นึกขำนิด ๆ อยู่ในใจ “เฮอะ กุ้งมังกรซาซิมิ”


    ฮงกลับถึงหน้าที่พักพอดีกับค่าแท๊กซี่โดดไปที่59บาท เขาควักแบงค์20สามใบสุดท้ายจ่ายแท๊กซี่ โดนไม่ลืมทวงเงินทอนหนึ่งบาทติดมือมาด้วย..


    ฮงนึุกคิดทบทวนสิ่งที่เขาทำไปเมื่อครู่ นึกสงสารเธออยู่นิด ๆ เหมือนกัน แต่ก็ช่างเถอะ ในเมื่อผลลัพธ์ของสมการมันต้องออกมาแบบนี้..





    [ในห้วงความคิดสมการของฮง]


    เพียรเฝ้าจีบน้องอ้อม = เพื่อ:-)

    ทุ่มเทเงินทองให้น้องอ้อม = เพื่อ:-)



    และเมื่อกลับสมการแล้วก็จะได้...



    ไม่มีเงินให้น้องอ้อม = ไม่ได้:-)



    เพราะฮงมัวเสียเวลากับสมการตัวหลังนี่อยู่นานทีเดียว โดยไม่ทันคำนึงนึกคิดถึงการสร้างสมการขึ้นใหม่ ซึ่งฮงเพิ่งคิดได้ในนาทีสุดท้าย..


    เก็บมโนภาพไว้ไปชักเว่า = คล้ายกับได้:-)


    และเมื่อแทนค่ายกกำลังสองเข้าไป ถึงแม้ไม่ได้:-) แต่ก็เข้าใกล้การ:-)มากขึ้น ซึ่งอย่างน้อยก็ถือว่าแก้สมการแรกได้ ซึ่งไม่มีหวังได้:-)เลย..


    ฉะนั้น ฮงจึงมาลงตัวในสมการสุดท้าย..



    เหมือนกับได้:-) = ชักเว่ายกกำลังสอง



    อย่างน้อยเหมือนก็ดีกว่าคล้ายละน่า กุชักเว่าสองทีแทนก็ได้วะ55555 ฮงนึกพลางคิดต่อไปว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไงช่างหัวแม่มัน แต่ฮงขอจัดการให้สมอยากจากที่มองอ้อมเก็บไว้ในความทรงจำในค่ำคืนนี้ซะที..






    เหมือนกับได้:-) ..  วะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ







    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ








    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ..





    …





    เสียงพลุรับศักราชใหม่ปี2004 ถูกจุดขึ้นสว่างไสวทั่วฟ้าเมืองกรุง แต่ ณ.มุมหนึ่งใต้นั้น ฮงกำเหรียญบาทถอกกาเจี๊ยวตัวเองสาวว่าวสุดแรง..

    จากคุณ : เหว่ยฮะ - [ 27 ธ.ค. 46 09:53:14 A:203.209.117.27 X: ]