ซากุระในสายลมร้อน
พ.ไทยยืนวงษ์
ตอนที่ 24
มองฝ่ากระจกรถด้านซ้าย ผู้คนบางตาด้วยยังเป็นช่วงเวลาบ่ายกว่า แต่จะหนาแน่นกว่านี้นับสิบเท่าหากเวลาล่วงเลยถึงสี่โมงเย็น รถติดเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านกลางใจเมือง รถเมล์นับร้อยสายวิ่งขวักไขว่เบียดแซงกันทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ไปก่อน ฝูงมอเตอร์ไซค์ยั้วเยี้ยราวมดแมลงที่เมื่อสัญญาณไฟเขียวเริ่มปรากฏก็จะบึ่งออกจากเส้นสีขาวพร้อมกับเสียงดังสนั่นเมือง
ในรถแท็กซี่เย็นฉ่ำด้วยแอร์คอนดิชั่น กลิ่นหอมเอียนของสเปรย์ปรับอากาศทำเอาผมไม่สบายท้องเท่าใดนัก กดปุ่มเลื่อนกระจกลงเล็กน้อย เพื่อให้อากาศภายนอกเข้ามาไล่เอากลิ่นที่คนโหนรถเมล์เป็นนิจอย่างผมไม่เคยชินออกไปบ้าง ภาพข้างนอกดูเนือยนายไร้ชีวิต หรือเป็นเพราะผู้มองคือผมกำลังอยู่ในอาการตีบตันทางความคิด เปลือกตาร้อนระอุ ลมหายใจติดขัด มันเหมือนจะออกแต่ก็ไม่ออก เหมือนจะเข้าแต่ก็เข้าไม่เต็มปอด
นานหลายอึดใจที่ลืมคิดถึงการหายใจ ลืมกลืนน้ำลาย ภาพที่หมุนติ้วสลับไปมาในสมองมีแต่ใบหน้าซ้ำๆกันของนายคิโยชิกับโนริโกะ หรือ ฮานะจังของเขา ภาพของดวงตาสองคู่ที่เฝ้าแอบมองซึ่งกันและกัน ภาพริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูเผยอน้อยๆอย่างลืมตัวของโนริโกะยามเคลิ้มฟังถ้อยคำอบอุ่นจากปากคิโยชิ ชักไม่แน่ใจเสียแล้ว เธอรักผมจริงหรือเปล่า ผมควรจะเชื่ออะไรดีระหว่างคำพูดอ่อนหวานฟังแล้วชวนให้เห็นอนาคตที่มีสาวงามเคียงคู่ กับดวงตาดำขลับที่ประกายวิบวับของมันโลดแล่นเริงระบำยามได้จ้องมองหนุ่มหล่อร่างสูงใหญ่คนที่เธอบอกว่าเป็น ลูกพี่ลูกน้อง และเขาก็จ้องตอบกลับมาด้วยแววตาชนิดเดียวกัน เขาและเธอยังมีโลกส่วนตัวเป็นของกันและกันเสียด้วย..ฮานะจังหรือ..ผมไม่บังอาจเรียกเธอด้วยชื่อนี้แน่ เพราะนั่นคือภาษาของพวกเขาที่กลั่นออกมาจากความสนิทชิดเชื้อและหมักบ่มมาเป็นเวลานานนับสิบปีจนส่งกลิ่นหอมรัญจวนฟุ้งในนาสิก และเมื่อเลยเข้าสู่หัวใจ มันอาจแปรสัมพันธภาพจากรูปแบบหนึ่งไปสู่อีกรูปแบบหนึ่งไปแล้วก็ได้
เล็กคะ.. เสียงเรียกของโนริโกะแผ่วเบา เธอจับมือข้างขวาของผมเขย่า ..เล็กเป็นอะไร ทำไมไม่พูดกับโนริโกะ
ผมมองเธอแวบหนึ่งแล้วหันออกไปดูภายนอกหน้าต่างรถอย่างเดิม ..เป็นอะไรนะหรือ..รู้อยู่แก่ใจยังมีหน้ามาถาม ทำไมไม่อยู่คุยกันเสียให้หนำใจเลยล่ะ มาทำเอาผมเป็นข้ออ้างว่าจะต้องไปส่งที่โรงแรม เจ้าคิโยชิอะไรนั่นก็เหมือนนกรู้ ทำตัวสุภาพบุรุษแต่ขอหมายเลขโทรศัพท์เธอเพื่อจะได้โทรไปคุยทีหลัง
มืออุ่นๆสัมผัสที่แก้มข้างซ้าย ขืนให้หันไปมองวงหน้าที่งดงามหมดจด ทว่าในความน่ารักนั้น คงมีความร้ายกาจแอบซ่อนไว้ไม่น้อยเลย
เล็ก..ถ้าเล็กไม่คุยกับโนริโกะตอนนี้ เราก็ไม่ต้องมาพูดกันอีกเลยดีมั๊ยคะ เสียงเธอเบาหวิวแต่เด็ดขาด ทำเอาผมใจหาย หน้าที่ถูกขืนบังคับให้หันกลายเป็นโอนอ่อนตามแต่โดยดีแม้ไม่เต็มใจนัก คนขับรถเหลือบมองทางกระจกมองหลังบ่อยๆ แม้ไม่เข้าใจภาษา แต่เขาคงเดาออกไม่ยากว่าหนุ่มสาวสองคนที่พูดภาษาแปลกๆอยู่นี้กำลังทะเลาะกัน
..เล็กมีอะไรทำไมไม่ถามโนริโกะตรงๆ โกรธโนริโกะใช่มั๊ย ตากลมแป๋วแต่คิ้วขมวดย่นมองหน้าผมราวกับนักโทษ น้ำเสียงห้วนสั้นอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ผมสั่นหน้าแต่พูดอะไรไม่ออก คล้ายมีอะไรมาจุกที่ลำคอทำให้ดูเหมือนไม่อยากพูดกับเธอทั้งที่มีเรื่องสารพัดอยากถาม โนริโกะจ้องตาผมไม่ลดละ แววตาเริ่มสั่นระริกและแดงช้ำ เธอคลายมือออกไปเหมือนหมดความอดทน มันทำให้ผมกลัวขึ้นมาจับจิตจนต้องรีบบีบมือกลับแล้วดึงเอาตัวเธอมากอด..กอดให้แน่นเสียเลย แม่ตัวดี..จะได้ไม่หนีไปหาหัวใจคนอื่น
นานเท่าใดไม่รู้ที่ผมกอดโนริโกะ รู้ตัวก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงหายใจติดขัดของเธอ ผมตกใจรีบคลายวงแขน สาวน้อยหายใจโล่งอก เกือบหายใจไม่ออกแน่ะ เล็กใจร้าย.. เธอต่อว่าผม แต่กลับยิ้มเอียงอายใบหน้าแดงซ่าน
จากคุณ :
อันโตนิโอ
- [
5 ม.ค. 47 01:56:23
]