ยัยซุ่มซ่าม กับ นายจอมเฮี้ยบ ตอน 5

    เฮ้อ  กว่าจะแต่งจบตอนได้  แทบตาย  นึกไม่ออกว่าจะดำเนินเรื่องยังไงดีแต่งได้แต่พระเอกง้อนางเอก
    แต่แต่งให้นางเอกง้อพระเอกนี่สิยาก  

    ขอบคุณทุกคนเลยนะคะที่ติดตามผลงานของข้าว  
    ต้องรีบไปแล้วล่ะค่ะ  เน็ทจะหมดแล้ว  บ้าย  บาย  

    ตอนที่  5  
    หลังจากที่ทิศวรรษแอบมองตอนแอ๊นท์หลับ  เขาก็ขับรถไปเรื่อยๆ  
    แล้วก็เพิ่งนึกออกว่ายังไม่ได้ถามทางไปบ้านแอ๊นท์เลย  จะปลุกหญิงสาวขึ้นมาถามก็เกรงใจ
    เห็นหลับสนิทขนาดนั้น  คงจะเหนื่อย  เพราะบู๊ไปเยอะ  ชายหนุ่มก็เลยตัดสินใจเบนรถเข้าข้างทาง
    ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาคมกริชอีกครั้งหนึ่ง  

    ตื้อ  ตื้อ  ตื้อ  ตือ  ตือ  ………..เสียงโทรศัพท์ของคมกริชดังขึ้นเป็นเพลงปลายทาง  ของบอดี้สแลม  
    คมกริชจำเสียงโทรศัพท์ได้ว่าเป็นเบอร์ของทิศวรรษเขาก็เลยกดปุ่มรับที่  small  talk  
    ก่อนจะรับสายและแกล้งแซวทิศวรรษ  

    “ว่าไงนายวรรษมีอะไรกับชั้นเหรอหรือว่าไปบ้านคุณแอ๊นท์ไม่ถูก”
    ทิศวรรษงงมากที่คมกริชรู้ว่าเขาโทรหาเรื่องอะไร  ก็เลยถามชายหนุ่ม  

    “ทำไมคุณกริชรู้ล่ะครับว่าผมไปบ้านคุณแอ๊นท์ไม่ถูกน่ะ  “  คมกริชหัวเราะก่อนจะพูดกับเขา  

    “อ้าว  นี่จริงเหรอเนี่ย  ที่นายไปบ้านคุณแอ๊นท์ไม่ถูก  ชั้นแค่เดาเล่นๆแค่นั้นเองนะ  
    แล้วทำไมนายไม่ถามคุณแอ๊นท์ล่ะว่าบ้านของเธอไปทางไหน  หรือว่านายไม่กล้าถามหานายวรรษ”  
    ทิศวรรษก็เลยหันไปมองทางแอ๊นท์ก่อนจะพูดกับคมกริช  

    “คุณแอ๊นท์หลับน่ะครับ  ผมไม่กล้าปลุกเธอ  สงสารเธอครับ”  คมกริชก็หัวเราะและก็แซวเขากลับมาว่า  

    “อะไรกัน  นี่นายสงสารคุณแอ๊นท์เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  ก็ไหนบอกว่าไม่ชอบและไม่อยากเจอไงล่ะ
    ทำไมจากความเกลียดกลายเป็นความสงสารได้ล่ะ  นายวรรษ”  ทิศวรรษกลัวคมกริชเข้าใจผิดก็รีบแก้ตัวออกไป  

    “เปล่านะครับ  ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณแอ๊นท์เลย  จริงๆนะครับ”  คมกริชได้ยินก็พูดแซวชายหนุ่มกลับมาอีก  

    “ชั้นยังไม่ได้ว่าอะไรนายเลย  ทำไมต้องตีตนไปก่อนไข้ด้วยล่ะ  หรือว่า  นั่นแน่
    นายชอบคุณแอ๊นท์เข้าแล้วใช่มั้ยล่ะ  
    ถึงเธอจะดูแก่นๆ  เซี้ยวๆ  แต่เธอก็น่ารักดีนะ  ทำให้ชีวิตนายมีรสชาติไปอีกแบบนึง
    ไม่จืดชืดเหมือนยัยนิ้มแฟนนายน่ะ”  ชายหนุ่มได้ยินคมกริชพูดเรื่องคุณนิ้มก็รีบปฏิเสธกับคมกริชอีก  

    “  คุณนิ้มไม่ได้เป็นอะไรกับผมนะครับ  ผมแค่คิดว่าเธอเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้นครับ
    นอกนั้นไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยครับ  คุณกริช”  
    คมกริชได้ยินคำปฏิเสธของทิศวรรษก็ยิ้มแล้วเอ่ยกับชายหนุ่ม  

    “โอเค  ไม่คิดก็ไม่คิด”  พอดีพิมอยากคุยกับทิศวรรษบ้างอยากถามเรื่องอาการของแอ๊นท์ก็เลยบอกกับคมกริช  

    “ขอพิมคุยกับคุณวรรษหน่อยสิคะ  พิมอยากทราบอาการของแอ๊นท์น่ะค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง”
    ชายหนุ่มก็เลยบอกกับทิศวรรษว่าพิมอยากคุยด้วย  

    “เอ้อ  นายวรรษ  พิมเขาอยากคุยกับนายน่ะเดี๋ยวนายก็ถามทางไปบ้านแอ๊นท์กับคุณพิมเลยละกันนะ
    แล้วเขาก็ส่งมือถือให้กับหญิงสาว”  พอหญิงสาวรับมาก็รีบถามอาการของแอ๊นท์  

    “คุณวรรษเหรอคะ  ยัยแอ๊นท์เป็นยังไงบ้างคะ  ขอพิมคุยกับแอ๊นท์หน่อยได้มั้ยคะ”
    ชายหนุ่มก็ตอบอย่างที่ตอบกับคมกริช  

    “คุณแอ๊นท์หลับน่ะครับท่าทางจะเพลีย  ไว้เราค่อยไปคุยกันที่บ้านละกันนะครับ
    ตอนนี้คุณพิมบอกทางไปบ้านคุณแอ๊นท์ให้ผมก่อนก็ละกัน  คุณแอ๊นท์จะได้กลับไปนอนที่บ้านสบายๆน่ะครับ
    นอนในรถมันอึดอัดน่ะครับ”  ชายหนุ่มก็ไม่วายอดเป็นห่วงแอ๊นท์จนได้
    พิมก็เลยรีบบอกทางที่จะบ้านแอ๊นท์ให้ชายหนุ่มรู้  

    “บ้านแอ๊นท์นะคะไปทางซอยถนนวิภาวดี  18  น่ะค่ะ  เข้าไปประมาณ  50
    เมตรก็จะเจอรั้วประตูอัลลอยด์สีขาวกับตึกสีขาวน่ะค่ะ  หาไม่ยากหรอกค่ะ
    เพราะแถวนั้นน่ะมีบ้านยายแอ๊นท์ทาสีขาวหลังเดียวค่ะ”
    ทิศวรรษก็เลยบอกขอบคุณหญิงสาวที่บอกทางไปบ้านแอ๊นท์ให้เขารู้  

    “ขอบคุณมากนะครับ  คุณพิม  งั้นแค่นี้ก่อนนะครับผมจะได้รีบพาคุณแอ๊นท์ไปส่งบ้าน
    แล้วชายหนุ่มก็ออกรถขับเข้าถนนใหญ่  เพื่อจะไปบ้านหญิงสาว  

    “ชายหนุ่มก็ขับไปตามทางที่พิมบอกทางไปบ้านแอ๊นท์  และเขาก็เห็นประตูรั้วอัลลอยด์กับตึกสีขาวตามที่พิมบอก
    ก็เลยเลี้ยวรถไปจอดในบ้านของหญิงสาวพบกับพิมที่ยืนรอเพื่อนด้วยใจจดจ่อหลังจากที่คมกริชกลับไปแล้วส่วนเฮน
    รี่ก็ขอตัวขึ้นข้างบนไปก่อน  หลังจากชายหนุ่มดับรถเขาก็ปลุกแอ๊นท์ให้ตื่น  

    “แอ๊นท์ครับ  แอ๊นท์  ตื่นได้แล้วครับถึงบ้านแล้วครับ”
    ชายหนุ่มใช้มือตีเบาๆที่แขนหญิงสาวเพื่อให้เธอตื่นแต่ท่าทางยายแอ๊นท์จะเพลียมากขนาดชายหนุ่มเรียกยังไม่ต
    ื่นเลย  เขาก็เลยเปิดประตูลงไปบอกกับพิมว่าแอ๊นท์ยังไม่ตื่น  

    “คุณพิมครับ  คุณแอ๊นท์ยังไม่ยอมตื่นเลยครับ  ท่าทางจะเพลียมากผมว่าพาคุณแอ๊นท์ขึ้นไปนอนเลยเถอะครับ”
    แต่พิมบอกว่าจะเป็นคนปลุกเอง  

    “ไม่เป็นไรค่ะคุณวรรษ  เดี๋ยวพิมปลุกให้ก็ได้ค่ะ  เป็นอย่างเนี้ยแหละค่ะ  ขี้เซา”
    ชายหนุ่มเห็นว่าจะรบกวนเธอก็เลยยกมือห้ามบอกว่าไม่ต้องและบอกกับพิมว่า  

    “ผมว่าอย่าปลุกเธอเลยครับ  เดี๋ยวผมอุ้มเธอขึ้นไปส่งข้างบนก็ได้ครับ”  พิมก็เลยตาโตพูดกับชายหนุ่ม  

    “เอางั้นเลยเหรอค่ะ  ค่ะ  ก็ได้งั้นเดี๋ยวพิมไปเปิดประตูให้ก็แล้วกันนะคะ  
    พิมพูดพร้อมกับมองไปที่ชายหนุ่มและก็รีบวิ่งไปเปิดประตูกระจกหน้าบ้านให้  

    แล้วเขาก็เดินมาเปิดประตูรถทางด้านแอ๊นท์แล้วก็โน้มตัวกำลังจะอุ้มแอ๊นท์ขึ้นมา  แต่ชายหนุ่มโชคไม่ดี
    ที่เผอิญยัยแอ๊นท์ตื่นขึ้นมาเสียก่อน  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  
    พอยัยแอ๊นท์ลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าของชายหนุ่มอยู่ใกล้กับหน้าเธอก็รีบโวยวายพร้อมกับทุบตีชายหนุ่มก่อนโดยไม
    ่ยอมฟังเหตุผลของชายหนุ่ม  

    “นี่คิดจะทำอะไรน่ะ  ฉวยโอกาสตอนชั้นหลับใช่มั้ย  นี่แน่ะ  นี่แน่ะ  นี่
    นายนี่ไว้ใจไม่ได้เลยพอเห็นผู้หญิงไม่มีทางสู้ก็คิดจะรังแก
    ชายหนุ่มพอถูกแอ๊นท์เล่นงานก็เอามือปัดป้องกันตลอดและก็โวยวายออกมาเหมือนกัน  

    “โอ๊ย  อะไรกันคุณผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย  อยู่ๆก็มาใส่ร้าย”
    แต่แอ๊นท์ไม่ยอมฟังเหตุผลกลับยิ่งทุบชายหนุ่มแรงขึ้น  

    “ไม่ต้องมาพูดแก้ตัวอะไรทั้งนั้น  ชั้นไม่เชื่อหรอก  ว่าคนอย่างนายจะเป็นคนดี  
    คนฉวยโอกาส”เธอยังทุบเขาไม่เลิกจนชายหนุ่มสุดจะทนไหวต้องปกป้องตัวเองก่อนด้วยการกดหญิงสาวให้เอนลงไปนอนที่ี่เก้าอี้อีกรอบและแกล้งทำเสียงดุขู่หญิงสาว  

    “ถ้าไม่หยุดทุบจะจูบจริงๆด้วย”
    แอ๊นท์ได้ยินคำขู่ของชายหนุ่มครั้งแรกก็ยังไม่เชื่อกลับดื้อแพ่งกับชายหนุ่มอีก  

    “นายไม่กล้าทำหรอก  ชั้นรู้”
    ชายหนุ่มก็เลยขู่หญิงสาวกลับไปอีกและแกล้งทำหน้าดุใส่หญิงสาวก่อนจะพูดกับเธอว่า  

    “ลองดูมั้ยละ  ลองทุบอีกสิ  จะได้รู้ว่ากล้าหรือไม่กล้า”  และเขาก็แกล้งก้มหน้าลงมาหาแอ๊นท์
    ทำให้หญิงสาวรีบหลับตาปี๋หันหน้าไปทางอื่นทันทีเพราะคิดว่าเขาจะจูบเธอ  
    แอ๊นท์หลับตาปี๋อยู่สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหัวเราะของชายหนุ่มดังขึ้นมา  
    เธอก็เลยหันหน้ากลับมาลืมตาขึ้นก็เห็นชายหนุ่มนั่งหัวเราะเธออยู่พร้อมกับพูดจาที่ทำให้เธอหน้าแตก  

    “ฮะ  ฮะ  ฮะ  นี่คุณคิดว่าผมจะทำอะไรคุณ  หา  คุณแอ๊นท์  คุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า  
    คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวโมโหผลักชายหนุ่มออกอย่างแรงและพูดใส่หน้าชายหนุ่มแก้เขิน  

    “เอ้า  ลุกซะทีสิ  ทับอยู่อย่างนี้แล้วชั้นจะลุกได้ยังไงล่ะ  ลุกสิ”
    เธอสั่งชายหนุ่มทำให้เขาต้องเขยิบตัวออกมาและเปิดประตูรถออกมายืนข้างนอกเขารู้ว่าแอ๊นท์พูดออกมาเพราะควา
    มเขิน  ฝ่ายหญิงสาวหลังจากชายหนุ่มลุกขึ้นเธอก็ลุกขึ้นเปิดประตูรถลงมาแล้วก็รีบเดินเข้าบ้าน
    โดยไม่ยอมหันมาขอบคุณชายหนุ่มที่มาส่งเธอที่บ้าน
    ฝ่ายชายหนุ่มก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างสนามบ้านแอ๊นท์  

    มีต่อ

    จากคุณ : ต้นข้าว - [ 5 ก.พ. 47 10:36:06 A:203.113.81.168 X: ]