บอยเฟรนด์ของผม....ยูจะรู้ไหมเนี่ยว่า... ตอนที่ 1

    ตอนเจอกันครั้งแรก  ผมไม่รู้สึกอะไรเลย กับยู แบบว่าว่างเปล่า เพราะผมเจอยูด้วยความเกรงใจ ไม่ได้สนใจอะไร
    จูนเพื่อนสาวซี้ผม คนที่ทำให้เราได้เจอกัน บอกผมว่า ยูมีภรรยาแล้ว
    อืมม์  “เค้าเนี้ยบเฉยๆว่ะแก เค้าไม่ใช่หรอก เทคแคร์ให้หน่อย ชั้นทำงานให้เค้าอยู่” เพื่อนผมบอกมาทางอีเมล์ จากอีกฟากหนึ่งของโลก
    ถ้าอย่างนั้นก็ เฮ้อ ช่วยเพื่อนหน่อยวะ “เค้าแค่ชอบคุย ไปทั่ว” เพื่อนสำทับเชิงว่าสบายใจได้

    “เอ่อ ผมโทรจากสายภายในนะครับ ผมมาถึงแล้ว ผมรออยู่ที่ล็อบบี้นะครับ” ถูกห้องไม๊วะเนี่ย
    “เอ่อ คุณอยากขึ้นมาบนห้องก่อนใหม ผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะเร็วไปสำหรับดินเนอร์”  เสียงภาษาอังกฤษชัดเจน ฟังง่าย  แปลกแฮะ เคยเห็นแต่ฝรั่งหวงความเป็นส่วนตัว

    ไม่รู้จะเถียงยื้อ ไปทำไมว่าจะไม่ขึ้น  จริงๆ เร็วหน่อยก็ดี  พาไปกินอาหารไทย คุยเรื่องวัด ธรรมชาติ ภูเขาอยู่ทางเหนือ ทะเลอยู่ทางใต้
    แล้วแยกย้าย วันต่อไปก็ไม่ว่าง

    ในวันนี้ ที่นึกย้อนกลับไป อยากรู้เหมือนกันว่า ยูจะนั่งคำณวนเหมือนผมไหมเนี่ยว่า จากความรู้สึกของผมในวันแรก ที่อยากอยู่กับยูไม่เกินชั่วโมง จะได้รีบไปเที่ยวต่อกับเพื่อน
    กลายเป็น เมื่อเราฉลองครบรอบสามปีที่รู้จักกัน เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แปลว่าเรารู้จักกันมาเป็นพันกว่าวันแลัว


    “คุณสั่งอาหารละกัน ผมแค่ทานเผ็ดไม่ค่อยได้” ยูรีบบอกผมที่ร้านอาหาร ร้านแต่งสไตล์สีเหลืองครีมสว่างไสว ร้านที่มีเพลงแฮบปี้เบริท์เดย์เป็นระยะๆ
    “อืมม์ ยูจะทานแบบไทยคือสั่งอาหารมารวมกลางโต๊ะ แล้วทานด้วยกัน
    หรือทานแบบฝรั่ง ที่ยูทานซุป แล้วไทยสลัด แล้วจานหลักละครับ”
    “เอาแบบไทยละกัน จะได้ทานได้หลากหลาย ผมชอบธรรมเนียมนี้ของคุณเหมือนกัน”
    “ถ้าอย่างนั้น ปกติเราจะพยายามสมดุลรสอาหารบนโต๊ะ ยูชอบวุ้นเส้นเคลียร์ซุป
    งั้นทานปลาทอดฉู่ฉี่ให้เป็นครีมข้นมีรสหน่อยละกัน ผัดผักก็คงไม่กรีสซี่มาก ใส่หมูกรอบหรือกุ้ง”
    “อืมม์ ฟังดูดีมีหลักการดี ผมว่าต้องดีแน่ สั่งเลย”
    หลักมั่วของผมนะซิ ไม่พูดอย่างนี้จะดูดีมีสมองเรอะ ยูจะได้รีบเห็นด้วยจะได้รีบกิน กินกันซะให้เสร็จๆ

    เฮ้อ ราตรีนี้ยังเยาว์ โทรไปนัดเพื่อนไปกินเหล้าหลังสวนดีกว่า ไม่จำเป็นต้องซอย สอง หรอก ถึงแม้ ว่าจะอยู่ตรงข้ามซอยศาลาแดงที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ก็ตาม คุยกับเพื่อนหลายหลากทั้งกลุ่มมันส์กว่า แต่ต้องคอยกันเพื่อนผู้หญิง ไม่ให้คอยคุ้ยแคะเพื่อนที่ยังไม่เผยตัว ไว้หน่อย

    “อาหารโอเคไหมครับ โทษทีทีขัดจังหวะ ยูกำลังเล่าเรื่องภรรยา กับลูกๆยูอยู่”
    “ไม่เป็นไร ก็พอลูกๆไปอยู่กับแม่เค้า ผมก็แต่งงานใหม่อีกก็มีความสุขกับภรรยาดี ตอนนั้น”

    เราคุยกันเรื่อยเปื่อย ยูถามผมเรื่องงาน ครอบครัว เข้าทางพอดี ผมตอบฝรั่งมาหลายครั้งแล้ว พาแขกดูงานของบริษัท ไปทานข้าวทีไร
    เจอแพทเทริน์ “ถามชีวิตของคนไทย” นี้ประจำ
    ก็ตอบไปตามที่เตรียมไว้เป็นเซ็ท ก็พี่น้องเยอะ ครอบครัวใหญ่แบบครึ่งจีนครึ่งไทย หน้าไม่จีน เพราะตาไม่ตี่จากทางแม่ แต่ผิวขาวเพราะป๊ากับม๊าขาวทั้งคู่  เอ๊ะทำไมถามเรื่องรูปลักษณ์เยอะจัง น่าจะเอาไปถามผู้หญิงเนอะ หรือว่าติดมาจากถามผู้หญิงบ่อยๆ
    แล้วมาถามผมทำไมเนี่ย เรื่องดูไม่ผอมไม่อ้วน กำลังพอดี เหมือนจะออกกำลังบ่อย ถามแล้วไม่งาบ ถามไปทำไมว่ะเนี่ย อิอิ
     
    บางครั้งผมก็แอบพิจารณายู  ก็ดูรักษาหุ่นกำลังดี ไม่ปล่อยตัว ท่าทางซีเรียส พอไม่ยิ้มก็เผลอขมวดคิ้ว
    ออกไปทางเรียบร้อยฟอร์มจัดเหมือนนักแสดงในภาพยนต์ขาวดำ ดีที่พูดชัด ฟังง่าย ผมตัดสั้นสมกับเป็นผู้ใหญ่ ลูกๆก็โตแล้ว แต่ยูดูไม่เหมือนอเมริกัน ตัวเบิ้ม พุงถังเบียร์ ยูบอกว่าหุ่นคนยุโรปแถบบ้านเกิดของยูไม่เหมือนอเมริกัน และยูก็เข้ายิมบ้าง แถมยังแอนตี้จังค์ฟูด  

    “ขอบคุณนะครับสำหรับดินเนอร์ ผมเดินกลับไปส่งยูที่โรงแรมละกัน”
    “ก็ดีครับ ผมสนุกคุยกับคุณ คนไทยมีสเน่ห์” ชักแปลกๆแล้วนะเนี่ย
    “คนตรงนั้นหน้าตาดีนะครับ” ยูพูดขึ้น ตอนเราเดินผ่านป้ายรถเมล์ คนไหนวะ มีทั้งหมวยสาวหน้าใสผมยาว กับเด็กหนุ่มคิ้วเข้ม ผิวสองสี
    “อืมม์..เหรอครับ .....................หล่อ เหมือนวินัย ไกรบุตรดี”(อันนี้ผมพึมพำกับตัวเอง)


    “แถวนี้คนเยอะนะ เค้ามีที่เที่ยวหรือครับแถวนี้” ยูถาม
    “ก็มีซอยสี่ครับ แต่อย่างยูไม่เที่ยวสปีด หรอก แล้วก็มีร้านนั่ง แต่เปิดเพลงดังไม่รู้ยูจะชอบหรือเปล่า ยูเคยนั่งร้านไหนหรือเปล่า แถวนี้” นึกในใจ บาร์ญี่ปุ่นซอยธนิยะอะป่าว
    “ก็เพื่อนเคยพาไปเดินดูซอยสอง  แล้วเคยไปนั่งที่ เทเลโฟนกับเพื่อน แต่เพื่อนเป็นสามี ภรรยานะครับ พอไปนั่ง ก็แปลกๆดี” ยูพูดไปหัวเราะไป

    เอาไงอ่ะ เริ่มหมดมุขคุย พอเดินผ่านซอยสี่ อะไรบางอย่างก็ทำให้ถามยูไปว่า
    “ รีบกลับไปนอนไหมครับ ผมเลี้ยงดริงค์ยูที่เทเลโฟนได้นะ ถ้ายูยังไม่ง่วง เมื่อกี้ยูเลี้ยงข้าวผมแล้ว”
    “ดีครับ” ยูทำท่ากระตือ(รือล้น) “ผมไม่ง่วง ตอนนี้ที่โน่นเป็นตอนกลางวัน ผมยังเจ็ทแลกอยู่เลย กลางวันนอนไปเยอะ”
    “แต่เออ ยูรู้จักร้านใช่ไหมครับ ถ้าไม่สบายใจ นั่งร้านอื่นแบบธรรมดาชายหญิงในซอยก็ได้นะครับ”
    “ผมรู้ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ผมไปกับคุณนี่นา” ยิ้มทะเล้นเชียว
    ไหนจูน(เพื่อนผม)บอกว่าไม่ใช่ไง แล้วที่พูดแปลว่าอะไรวะ แปลว่าดูไม่แปลก หรือแปลว่าเพราะไม่ได้ไปคนเดียว แต่ช่างมันเหอะ ดีเหมือนกัน อยู่สำนักงานสาขาไม่ค่อยได้กินเหล้า

    ยูกับผมรีแลกซ์มากกันมากขึ้น ตามจำนวนเบียร์กับยิน โทนิค เออดีว่ะ คุยอะไรก็ขำ ถึงตอนนี้ แข่งกันมองคนในร้านแล้ว
    “ จูนบอกว่าคุณมีแฟนแล้ว” ยูหันมาถามหลังจากหัวเราะโจ๊กขำๆกันเรื่องหนึ่งเสร็จไปแหม็บๆ
    “ เออ นั่นก่อนจูนไปอเมริกาครับ ตอนนี้เลิกกันมาสามเดือนแล้ว”
    “เหวลล์” Well เนี่ยแปลว่าดี หรือแปลว่า อ๋อเหรอฟะ เริ่มเมาแล้วตู
    “ ตอนนี้ก็ดูๆ บางคนอยู่ ก็ทำความรู้จักไปบ้าง” ผมพูดเสริมไป
    คือไม่อยากให้ยู รู้สึกว่าผมต้องเหงา เดียวดาย อะไรจะขนาดนั้น เหงาอะเหงา แต่จะไม่เที่ยวบอกใครว่าเหงา ไม่ใช่ฟิลนั้น  
    “ผมก็เลิกกับภรรยามาสามปี แล้ว บางทีก็ออกเที่ยวมีเดท บ้าง”
    อืมม์ เพิ่งรู้แฮะ ว่าเลิกกับภรร แล้ว นึกว่าเป็นแบบรักษาสถานภาพ
    “ผมก็เหงาไง ถึงมาเที่ยวเมืองไทยคนเดียว” ยูเสริม “แต่ตอนอยู่กับภรรยา ผมไม่เคยมีใคร ผมเชื่อเรื่องดูแลจิตใจคนใกล้ตัว”
    คุยกันแค่นั้น แล้วก็หันไปโจ๊กฮากลิ้งกันต่อ คุยสัพเพเหระ  


    “ตีสองแล้ว ผมเมาแล้ว ผมเดินไปส่งยูที่โรงแรม ละกัน ผมพักกับเพื่อนใกล้ๆนี่เอง” หน้าแดงก่ำกันทั้งคู่ คุยอะไรก็ขำ อารมณ์ดี

    “อืมม์ ขึ้นไปกินกาแฟบนห้องผม ไหมละครับ” ยูพูดแบบสบายๆ เมื่อถึงล็อบบี้
    “เฮ้ย ยูท่าทางง่วง ไม่กวนดีกว่า ผมมีประชุมเช้าด้วย โชคดีที่บ้านเพื่อนอยู่แถวนี้”
    “ ก็โอเค ก็กู้ดไนท์” อย่าทำท่านิ่งๆขรึมๆอย่างนั้นดิ ก็สนุกมาด้วยกัน
    แต่พรุ่งนี้มันวันทำงาน จะให้ไปนั่งคุยต่อที่แม็คถึงตีสามหรือไง
    “ เอาเป็นว่าผมขึ้นไปส่งยูละกัน ตอนนี้ยูไม่มีปากกาจดเบอร์มือถือผม อย่าพยายามท่องเลยครับ” เมื่อยูถามเบอร์ผม
    ก็ในเมื่อยูเที่ยวเทเลโฟนบาร์ ทำไมจะไม่ให้ล่ะ

    บนชั้นยี่สิบสอง วันนั้นวันที่ยี่สิบสองพอดี เดือนสองซะด้วย ดีนะที่เลขห้องไม่มีเลขสอง
    “กู้ดไนท์ครับ (กู๊ดไนท์ แบบอ้อแอ้)” ผมรีบพูด จริงๆตอนนั้นเมากับเบลอ
    คิดแค่ว่าเป็นฝรั่งที่คุยรู้เรื่องดีแฮะ แต่เป็นนายจ้างงานพิเศษเพื่อนอ่ะ
    ยูก็เงียบ ผมก็เลย “งั้นกู้ดไน้ท นะครับ ขอบคุณสำหรับเวลาที่สนุกสนาน”
    “เอ่อ” ยูตั้งท่าจะพูดอะไร “เอ่อ บางทีเราน่าจะคุยกันต่อ อีกนิด เอ่อหรือ เอ่อ กินกาแฟ.....” แล้วยูก็ยิ้ม
    “คุยกันต่อ ...หรือ” ผมพึมพำงงๆ  เริ่มเก็ต แล้วก็เห็นปากนุ่มๆของยู ขยับใกล้ เข้ามา ตอนยูก้มลงมา

    เฮ้ย ฝรั่งเอาจิงเว้ย.............ผมนึกในใจ


    จากคุณ : เรื่องสั้นชายล้วน - [ 7 มี.ค. 47 04:06:46 A:169.210.28.159 X: ]