เนื่องจากว่างจัดค่ะ..คือพยายามหลอกตัวเองว่าว่างกัน ระหว่างรวยระรินกลิ่นชา กะ โอเลี้ยงแก่ๆ เลยอยากก่อเรื่องให้ขายหน้าตัวเองเล่นๆ โดยการร่วมกันแต่เรื่องสั้นค่ะ...
ยังไงก็ฝากพ่อแม่พี่น้องชาวถนนที่หลงเข้ามาด้วยนะคะ
...................................................................
ทันที่ที่เธอเปิดประตูเข้าไป เสียงเพลงแจส เดี่ยวแซกโซโฟนที่ดังคลอภายในร้านมันทำให้ความรู้สึกของเธอ อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
สวัสดีค่ะ บริกรสาวกล่าวทักทายแขกรายใหม่ที่ก้าวเข้ามาในร้าน
อื่ม วันนี้คนไม่เยอะแฮะ เธอรำพันกับตัวเองเบาๆ
วันนี้ รับอะไรดีคะ เสียงบริกรสาวถามเธออย่างคุ้นเคย
ขอเป็นมอคคาชิโน แล้วก็ อัลมอนต์เจนัวที่หนึ่งคะ
ค่ะ เป็นมอคคาชิโน กับ อัลมอนต์เจนัวทานที่นี่นะคะ
ค่ะ..
ทั้งหมด 135 บาทค่ะ เดี๋ยวเสริฟให้ที่โต๊ะนะคะ
เธอ เดินตรงไปที่ชั้นวางหนังสือในมุมที่คุ้นเคย ก่อนที่จะนั่งลงบนโต๊ะไม้เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก กลิ่นหอมของ
เมล็ดกาแฟและเสียงเครื่องบดกาแฟ ทำให้เธอหลงใหลในเสน่ห์ของร้านกาแฟยิ่งนัก เธอก้มมองนาฬิกาข้อมืออีก
ครั้ง เสียงประตูร้านเปิดพร้อมกับมาลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน เธอชะเง้อมองไปที่ประตูทางเข้าแล้วก็ผิดหวัง คนที่รอยังไม่มา เพลงแจสที่เปิด ก็คงยังทำหน้าที่ขับกล่อมผู้คนในร้านให้รู้สึกผ่อนคลายไปกับท่วงทำนองเพลงที่อ่อนหวาน
ท่าทางจะอีกนาน เธอนึกในใจพร้อมกับขมวดคิ้วและถอนหายใจเบาๆ
เธอพลิกดูนิตยสารตรงหน้าอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เวลาผ่านไปนานแค่ไหนนะ ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง และสบสายตาอย่างไม่ได้ตั้งใจกับหนุ่มมาดเท่ห์ที่นั่งอยู่โต๊ะตรงหน้า
ผู้ชายคนนี้ดูดีจัง ท่าทางจะเพิ่งมาเพราะฉันไม่เคยเห็นเขาเลย...แล้วเธอก็ยิ้มอย่างเอียงอายเป็นการทักทายผู้ที่มาใหม่ ซึ่งตอนนี้เขานั่งตรงหน้าเธอพอดี ผู้ชายคนนี้จะเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มในสเปคของเธอเลยก็ว่าได้ เขามีผิวขาว รูปร่างสูง แต่งตัวสบายๆ แต่ดูดีอย่างบอกไม่ถูก ที่สำคัญ ออกแนวตี๋ๆ อีกต่างหาก เธอแอบอมยิ้มกับตัวเองกับความคิดเพี้ยนๆของเธอ
ขอโทษนะครับ เราเคยรู้จักกันหรือเปล่าครับ
คะ..เอ่อ..ดิฉันว่าไม่นะคะ
เหรอครับ ไม่เป็นไรครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผม ชิว ครับ
เช่นกันค่ะ เธอยิ้มให้เขาอีกครั้ง รอยยิ้มที่มาจากสายตาและมุมปากได้รูปของเธอ ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้า หน้าแดงขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ แต่แล้วเธอก็ต้องอึ้งเมื่อเขาถือวิสาสะเลื่อนเก้าอี้ออก เพื่อที่จะนั่งร่วมโต๊ะ เดียวกันกับเธอ
ผมเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกครับ ขับรถผ่านมาหลายครั้งแล้ว เห็นบรรยากาศจากภายนอกแล้วอยากจะลองมานั่งปล่อยใจดูบ้าง เผื่อจะเจอใครบางคนใจดีช่วยเก็บใจผมไว้ไปดูเล่นบ้าง ก็พึ่งจะว่างนี่แหละครับ แต่แหม ไม่ผิดหวังจริงๆ ผู้ร่วมโต๊ะที่ไม่ได้รับเชิญพูดคุยอย่างเป็นกันเองราวกับคนที่รู้จักสนิทสนมกันมาก่อน
ค่ะ เธออมยิ้มกับท่าทางสบายๆ ไม่ถือตัวของเขา และนี่ก็อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอประทับใจในตัวเขาตั้งแต่แรกพบก็เป็นได้
...................................
เวลาที่เดินไปอย่างรวดเร็วในความรู้สึกของเธอ จากวันนั้นการเริ่มต้นที่โต๊ะเล็กๆในมุมอันอบอุ่นมุมหนึ่งของร้านกาแฟ ก็พัฒนาความสัมพันธ์ ของทั้งคู่ให้ก้าวหน้าไปมากอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาจะมารับเธอมาส่งเธอที่ทำงานทุกๆวันและหากวันไหนที่เขาไม่ติดธุระสำคัญจริงๆ เธอกับเขาก็จะทานอาหารเย็นด้วยกันเสมอ...ร้านกาแฟที่ประจำของเธอ บัดนี้ได้กลายเป็นร้านที่มีแต่ความทรงจำที่สวยงามระหว่างเธอกับเขา
เขารักเธอมาก และก็สามารถทนกับอารมณ์ที่แปรปรวน บวกกับอาการขี้หึงอย่างร้ายกาจของเธอได้ ในขณะเดียวกันเธอก็สามารถเปลี่ยนผู้ชายกระล่อน และเจ้าชู้อย่างเขาได้ราวกับเป็นคนใหม่ เพื่อนๆของทั้งเธอและเขา มีความเห็นตรงกันว่าคู่นี้น่าจะลงเอยกันได้แล้ว เพราะทั้งสองก็ใช้เวลาคบหาดูใจกันมานานพอสมควรแล้ว ความรักของพวกเขาทำให้หลายๆคนที่พบเห็นเกิดอาการอิจฉาไปตามๆกัน บางคนที่เป็นโสดถึงขนาดอยากจะมีใครสักคนไว้ข้างกายบ้างเลย
แต่แล้ววันหนึ่ง
เพี้ยะ !.....
มันจะเป็นเพราะอาการชาจากการถูกตบ หรือเพราะภาพที่เธอร้องไห้จนตัวโยน เสียงสะอื้นที่บ่งบอกถึงความผิดหวังและเจ็บปวดอย่างที่สุดของเธอกันนะ ที่ทำให้เขาไปแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
ทำไมคุณถึงทำกับฉันอย่างนี้ ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันไม่คิดนอกใจคุณเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วนี่อะไร ทำไม คุณถึงทำกับฉับแบบนี้ เธอใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบลงไปที่กลางอกเขาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
คุณฟังผมก่อน ใจเย็นสิ คุณกำลังเข้าใจผิด เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะรวบมือของเธอเอาไว้
ไม่ ! พอเถอะ ฉันไม่อยากจะฟังคำแก้ตัวของคุณอีกแล้ว คุณจะเคยรู้บ้างไหมว่าที่ผ่านมาฉันต้องพยายามปรับความคิดตัวเองขนาดไหน ที่จะยอมรับว่าคุณกับเพื่อนๆผู้หญิงของคุณเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย คุณจะเคยรู้บ้างไหมว่าฉันต้องอดทนแค่ไหน คุณจะเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างรึเปล่า
ไม่เลย คุณไม่เคยนึกถึงฉันเลย คุณเห็นแก่ตัวเกินไป คุณทำให้ฉันคิดไปว่า ฉันสามารถทำให้คุณเลิกเจ้าชู้ได้ แต่ไม่เลย ฉันโง่เองที่โดนคุณหลอกได้ พอกันที ฉันเหนื่อยเต็มทีแล้ว ขอเถอะนะ ขอฉันพักบ้าง ฉันเหนื่อยกับการไล่ตามความรักของคุณแล้ว พอกันที
คุณเข้าใจผมผิดจริงๆนะ ผมอธิบายได้ ให้ผมได้อธิบายสักหน่อยจะได้ไหม เขาพยายามร้องขอโอกาสแต่ยิ่งร้องขอ สิ่งที่ได้กลับเป็นอีกอย่างที่ตรงข้าม
ไม่ ! กรุณาปล่อยมือดิฉัน แล้วอย่าแตะต้องตัวดิฉันอีก ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในตัวคุณที่ชั้นมีมาตลอด มันเป็นเพียงแค่การโกหก หลอกลวงเท่านั้น ใช่ไหม
พูดจบเธอก็นิ่งไปสักพัก เหมือนพยายามที่จะใช้เวลารวบรวมถ้อยคำ
เราจบกันเท่านี้เถอะค่ะ แม้ตัวเธอจะสั่นสะท้านแต่น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นเย็นชา กิริยาอาการห่างเหิน แข็งกระด้าง มันมาแทนที่ อาการเสียใจฟูมฟายควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อสักครู่นี้จนหมดสิ้น
เหตุการณ์ในวันนี้ ฉันคงไม่โทษว่าคุณไม่ดี แต่คงเป็นเพราะฉันคงจะดีเกินไปไม่เหมาะกับคุณ เลยไม่อยากทำให้คุณลำบากใจที่เราจะต้องฝืนที่จะคบกัน เราจบกันแค่นี้เถอะคะ
ผมขอโทษ แต่... ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรออกไป เธอก็วิ่งหนีไปเสียแล้ว
เดี๋ยว ! คุณอย่าเพิ่งไป เขาพยายามที่จะรั้งเธอไว้ แต่ก็ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้ เธอสตาท์รถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขากุมศรีษะตัวเองและทรุดนั่งลงบนฟุตบาทอย่างไม่เหลือมาด นี่เป็นครั้งแรกที่เขากับเธอทะเลาะกันแรงที่สุด เขาส่ายหน้าอย่างไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี น้ำใสๆ ไหลออกมาจากตาทั้งสองของเขาอย่างไม่รู้ตัว หรือว่าคราวนี้เขาจะต้องเสียเธอไปจริงๆ
1 อาทิตย์ที่เธอไม่ยอมให้เขาติดต่อ และ1 อาทิตย์ที่เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้เลยประกอบกับเขาต้องเดินทางไปจากต่างจังหวัด ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่เขาอยากจะทำ....
ป่านนี้คุณจะอยู่ที่ไหนนะ ผมอยากเจอคุณจัง เขาก้มมองแหวนเพชรในมืออย่างใจลอย
......................................
ทันทีที่รถจอดเข้าที่ เขาก็รีบเดินเข้ามาในร้านกาแฟที่คุ้นเคยอย่างไม่รีรอ เหมือนกับมีบ้างคนที่เขาต้องการจะเจอมากที่สุดรออยู่ในนั้น เขาคิดไม่ผิดจริงๆ เธอนั่งหันหลังให้ประตูทางเข้า ผมยาวตรง กับเสี้อแขนกุดสีฟ้าอ่อนสีโปรดของเธอ เขามั่นใจว่านั่นคือเธอแน่นอน เขาเลื่อนมือลงมาขับที่ชายเสื้อสูทเบาๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้นำสิ่งๆนั้นติดตัวมาด้วย แล้วเขาก็เดินตรงเข้ามาหาเธอที่กำลังยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นดื่ม
ผมขอโทษนะ ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอนาน คุณยกโทษให้ผมนะ
เธอชะงักเหมือนถูกมนต์สะกดอย่างจัง แน่นอน เธอจำเสียงที่คุ้นเคยนั้นได้ดี เสียงที่พูดคุยกับเธอทุกๆวัน เสียงที่อบอุ่นนุ่มนวล เป็นเขาแน่แล้ว เขามาแล้ว เธอวางแก้วกาแฟลงอย่างช้าๆ แต่ก็ไม่ได้หันกลับมามองที่มาของเสียงนั้น
ผมรู้ และมั่นใจ ว่าคุณยังรักผมอยู่ ยกโทษให้ผมนะคนดี ผมสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก นะครับ คุณบอกผมสิ ว่า ผมยังมีโอกาส ใช่ไหม เขาขยับตัวเข้ามาใกล้เธออีก พร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของเธอขึ้นมาจูบเบาๆ เธอยังคงนั่งนิ่ง แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนการกระทำของเขา
แต่งงานกับผมนะ เขาล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อเพื่อจะหยิบแหวนมาสวมให้เธอ
ทันทีที่เห็นรูปทรงของกล่องที่เขาหยิบขึ้นมา ความรู้สึกที่หลากหลายก็พุงเข้ามาในห้วงความคิด ในขณะที่เขากำลังจะเปิดมันออก แล้วเธอก็กำลังจะให้คำตอบการขอแต่งงานของเขา
ตืด...........................ตืด............................ตืด.........................
เสียงอะไรนะมาทำลายบรรยากาศคนเค้าจะขอแต่งงานกันอยู่โอย เสียอารมณ์ เธอรำพึงในใจ
เสียงเรียกเข้ายังดังอยู่
ใครนะไม่รับสักที่ ไม่มีมารยาทเลย แต่เอ๊ะ เสียงมันคุ้นๆอยู่นะ ว้าย! ตายแล้วของเราเองนี่นา ใครโทรมาตอนนี้หว่า เธอบ่นในใจพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เจ้าปัญหา
จ้า จ้า เสร็จแล้วเหรอ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ อยู่หน้าร้านแล้วใช่ไหมจ๊ะ จ้าเดี่ยวเจอกันที่รัก เธอหยิบกระเป๋าสะพาย พร้อมเงยหน้ามองชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ตรงหน้า พร้อมกับยิ้มเชิดๆเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวออกจากร้าน
ขอโทษนะ ฉันมีตัวจริงที่ดีพร้อมอยู่แล้ว เธอก้มตัวลงแล้วพูดเบาๆ ที่ข้างๆหูเขา แล้วเดินออกร้านไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้ชายหนุ่มคนนั้น เกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทั้งๆเขานั่งอ่านหนังสืออยู่เฉยๆ ก็แค่โต๊ะมันว่าง เห็นน่ารักเลยขอนั่งด้วย
ขอโทษนะจ๊ะที่รัก ทิ้งให้รอนานเลย เบื่อไหมจ๊ะ ทันทีที่เธอเดินพ้นประตูร้าน เสียงห้าวๆของคนที่ยืนรออยู่ก็ร้องทักอย่างเอาใจ
ทีแรกก็เบื่ออยู่หรอกค่ะ แต่พอดีมีอะไรให้คิดฆ่าเวลาเล่นเพลินๆ ก็เลยไม่เบื่อเท่าไหร่
คุณคิดอะไรละ ท่าทางแบบนี้ เรื่องสนุกแน่ๆเลย บอกผมได้ไหมที่รัก
จุ๊ จุ๊ ........ความลับค่ะ เสียงเธอตอบกลับมา พร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ แล้วทั้งเดินหยอกล้อกันไปอย่างมีความสุข
จากคุณ :
รวยระรินกลิ่นโอเลี้ยง (รวยระรินกลิ่นชา)
- [
20 มี.ค. 47 00:28:01
]