ความคิดเห็นที่ 1 สีชังฟังไม่แคล้ว...............อาดูร รักพี่จากพรากสูญ.............ที่นี้ ใจต้องพ่ายอาดูร...............ลาจาก  แม่เฮย เพราะไม่ใฝ่จึ่งลี้................พี่เศร้าเดียวดาย นวลนางห่างอกแล้ว............เรียมเฮย ปวดยิ่งในใจเปรย...............เล่าอ้าง เคยอยู่คู่เคียงเชย...............รักพี่ บัดนี้ทิ้งห่างร้าง..................อยู่เหย้าลำพัง จากคุณ : กรวี - [ 9 พ.ค. 47 21:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ๏ ตามถนัดนัดวันดีปีละครั้ง เที่ยว "สีชัง" เยี่ยมปู่ออฯ ล้อลมคลื่น ชวนเพื่อนพี่แบกกระเป๋าเข้าค้างคืน ต้องรีบตื่นนัดเช้าตรู่รู้เวลา... เพิ่งกลับจาก "เกาะสีชัง" มาค่ะ  คราวนี้นับได้ ๙ คน  กล้อง ๖ ตัว โน้ตบุ๊ค ๒ เครื่อง รอคนอื่น ๆ ในคณะมาช่วยกันเล่า  และโพสต์รูปที่เก็บมาฝากชาวถนนฯ นะคะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 9 พ.ค. 47 21:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วังเวงแว่วดั่งเพี้ยง.................ใจครวญ ตรมโศกโลกกำสรวล.............จากเจ้า ระบมบ่มรักรวน.....................ในจิต เสียแรงที่บ่มเร้า....................ดุจแคล้วคนึงหา รักจางจากเล่าแล้ว.................สีชัง เจ็บปวดใจประดัง..................เหน็บลึก น้ำตาพ่ายพินพัง....................พรูพร่าง ด้วยรักดิ่งเมื่อนึก...................ยิ่งให้โศกตรม แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 47 22:20:22 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 47 22:15:27 จากคุณ : กรวี - [ 9 พ.ค. 47 22:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ใช่เกาะที่มีวังเก่ามีต้นลั่นทมหรือเปล่าครับท่านศาลาไทย จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 9 พ.ค. 47 23:21:13 A:128.82.216.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ๏ สีชังชังชื่อแล้ว             อย่าชัง อย่าโกรธพี่จริงจัง            จิตต์ข้อง ตัวไกลจิตต์ก็ยัง              เนาแนบ เสน่ห์สนิทน้อง                นิจโอ้อาดูร ๚ จากเห่ชมชายทะเล : บทพระราชนิพนธ์ของ รัชกาลที่ ๖ • เพลงสีชัง ๏ สีชังชังแต่ชื่อ               จิตน้องฤๅจะชังใคร ขอแต่แม่ทรามวัย             อย่าชังชิงพี่จริงจัง ตัวไกลใจพี่อยู่                 เป็นคู่น้องต้องยืนยัง ห่างเจ้าเฝ้าแลหลัง            ตั้งใจติดมิตรสมาน ๚ ขออนุญาตตอบคุณรมย์ บุริน แทนน้องศาลาไทยว่า “ใช่ครับ” แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 00:21:16 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 00:01:49 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 47 23:56:12 จากคุณ : lek Isara - [ 9 พ.ค. 47 23:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นใครกันม่ายรู้...............มาเยือน ทู้เฮย คงแค่แอบมองเตือน..........คู่ค้ำ หรือไม่ก่อแชเชือน............รักอยู่ เลยไม่มาร่วมย้ำ...............ถิ่นนี้เพื่อนเรา ***ถึงครายก้อม่ายรู้ที่อยู่ข้างบน  คคห  นี้*** ครูเล็กมาเมื่อไหร่เนี่ย..???ตัดหน้าอ่ะตัดหน้า... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 13:29:23 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 13:16:03 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 00:07:42 จากคุณ : กรวี - [ 10 พ.ค. 47 00:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถึงท่าน lek isara ครับ เมื่อใช่ก็นึกออกแล้วว่าเคยไปครับ คือมันหลายปีผ่านไปเลยไม่ค่อย แน่ใจ เท่าที่จำได้เกาะสีชังนี่มีสองด้าน คือด้านรับลมกับด้านไม่รับลม บ้านคนอยู่ด้านไม่รับลม ส่วนด้านรับลมนั้นมีหาดทรายเล็ก ๆ อยู่ที่นึง ตรงใกล้ ๆ กะวัง หน้าปลอดมรสุมน่าผึ่งพุงชมพระอาทิตย์ ตกดินจริง ๆ ครับ ขอบคุณท่าน lek isara มากครับ รูปดอกลั่นทม ชัดเจนสวยงามมากทั้งเก้าดอกเลยครับ ถึงท่านผู้ชอบแซวข้าพเจ้าขอรับ โคลงอะไรก็มะรู้..........................ถึงใคร ก็มะรู้ชื่อจะได.............................จึ่งต้อง สมมติชื่อสายไหม.......................หวานอร่อย จังเยย ขอท่านหวานน้องน้อง................อร่อยเส้นสายไหม เป็นหนึ่งในขนมที่กินได้ไม่เบื่อ... จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 10 พ.ค. 47 05:26:17 A:128.82.216.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 แวะมาสวัสดีเจ้า... ไปสีชังคราวนี้ รู้สึกดีเหลือหลาย พบหน้าเพื่อนมากมาย มิตรสหายยังเหมือนเดิม ..ม่วนแต๊ ๆ เจ้า... ขอบคุณน้องหนูที่ชวนพี่ลีไปตวยเน้อเจ้า ขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ ที่มอบไมตรีเจ้า... จากคุณ : pee_lee - [ 10 พ.ค. 47 08:16:04 A:192.168.99.37 X:203.121.155.4, 203.152.41.4 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอาบทเต็มของพระราชนิพนธ์ จากความเห็น #๖ ที่พี่เล็ก ยกมา มาให้อ่านแล้วกันครับ ๏ สีชังชังชื่อแล้ว..................อย่าชัง อย่าโกรธพี่จริงจัง...............จิตต์ข้อง ตัวไกลจิตต์ก็ยัง..................เนาแนบ เสน่ห์สนิทน้อง.....................นิจโอ้อาดูร ๚ ๏ สีชังชังแต่ชื่อ....................เกาะนั้นฤๅจะชังใคร ขอแต่แม่ดวงใจ...................อย่าชังชิงพี่จริงจัง ตัวไกลใจพี่อยู่....................เป็นคู่น้องครองยืนยัง ห่างเจ้าเฝ้าแลหลัง................ตั้งใจคิดมิตร์สมาน บางพระนึกถึงพระ................ปูชนีย์ที่สักการ แต่งตั้งยังสถาน...................แทบหัวนอนขอพรครอง ผ่านทางบางปลาสร้อย...........จิตต์ละห้อยละเหี่ยหมอง นึกสร้อยสายเพ็ชรทอง...........คล้องสอเจ้าเย้ากระมล บางนี้บุรีงาม.........................อันออกนามว่าเมืองชล แลท้องทะเลวน......................ชลนัยน์ไหลลงธาร อ่างหินนึกอ่างหิน...................ที่ยุพินเคยสนาน โอ้ว่ายุพาพาล........................จะอ้างว้างริมอ่างหิน เรือผ่านเกาะกระดาษ...............แม้สามารถจะพังภิน จะเขียนสาราจิน-....................ตนาส่งถึงนงเยาว์ ถึงอ่าวพุดซาวัน.....................ริกริกสั่นสิอกเรา คิดถึงพุดซาเจ้า.....................เคยเก็บไว้ให้พี่ยา คลุกพริกกับเกลือดี................ไว้ให้พี่จิ้มพุดซา เสร็จงานกลับบ้านมา...............พอได้ลิ้มชิมชอบใจ ครั้นถึงทุ่งไก่เตี้ย...................ยิ่งละเหี่ยละห้อยใจ นึกยามเจ้าทรามวัย.................ปรุงแกงไก่ให้พี่กิน เดินผ่านร้านดอกไม้...............ก็ยิ่งใฝ่ใจถวิล เคยชวนโฉมยุพิน...................ชมดอกไม้ที่ในสวน เกาะยอเหมือนยอเจ้า..............ยุพเยาว์อนงค์นวล แสร้งยอบ่มิควร....................เพราะนิ่มเนื้อเลิศเหลือชม เข้าถึงสัตหีบ........................รีบหลบลี้หนีคลื่นลม นึกยามเจ้าทรามชม................จัดผ้าจีบลงหีบน้อย ขบวนเรือประพาส.................ดูดาดาษกลาดเกลื่อนลอย ขึงขังดังหนึ่งคอย.................จะต่อสูศัตรูผลา จอดห้อมล้อมเป็นวง..............เรือรอบองค์พระราชา ดูเหมือนเดือนสง่า.................อยู่ท่ามกลางหว่างหมู่ดาว ดูพลางทางรำพึง..................นิ่งคำนึงถึงเนื้อขาว นึกนึกรู้สึกราว......................ไปงานศึกพิลึกใจ แม้มีศึกสงคราม....................ถึงสยามในวันใด จำพรากจากทรามวัย..............ไปต่อสู้ศัตรูพาล เกิดมาเป็นชาวไทย.................ต้องจำใจเป็นทหาร รักเจ้าเยาวมาลย์...................ก็จำหักรักรีบไป จะยอมให้ไพรี.......................เหยียบย่ำยีแผ่นดินไทย เช่นนั้นสิ junไร......................ไม่รักชาติศาสนา เพราะรักประจักษ์จริง.............จึงต้องทิ้งเจ้าแก้วตา จงรักภักดีมา.........................อาสาต้านราญริปู ๚ จาก บทเห่ชมชายทะเล พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ตามด้วยภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 08:50:31 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 10 พ.ค. 47 08:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ๏ ตามถนัดนัดวันดีปีละครั้ง เที่ยว "สีชัง" เยี่ยมปู่ออฯ ล้อลมคลื่น ชวนเพื่อนพี่แบกกระเป๋าเข้าค้างคืน ต้องรีบตื่นนัดเช้าตรู่รู้เวลา... ๏ ประทินแก้มแต้มแต่งแปรงแลผัด กระวัดหมัดหมุนมวยกรวยเกศา อาชาเชิดเลิศล้วนมวลอาชา แดง เทา ฟ้า ศาลาฯชี้ ศรีราชา จากคุณ : หญ้า.. - [ 10 พ.ค. 47 09:49:14 A:202.133.132.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ๐๑ ๏ ฝนโปรยฝอยฟ่องฟ้อง.........ฟูมฟาย พรำพร่ำคำระบาย..................บ่นเศร้า สีชังช่างชังหมาย...................แม้นชื่อ........ศรีนอ ชังเบื่อเผือฤๅเจ้า.....................จึ่งแสร้งแหนงหนี ฯ ๐๒ ๏ จรลีจรากร้าง....................แรมสมร นิราศสีชังจร.......................จดไว้ ว่าร้างห่างเจ้าตอน................ตรมหม่น กมลป่นทุรนไข้.....................ขื่นร้อนแรงถวิล ฯ ============================================ กระทู้นี้ต้อง load ช้าแน่นอนครับ เพราะชาวอาศรมฯ ที่ไปเยือนเกาะสีชัง มีกล้องถ่ายรูปไปถึง ๖ ตัว จึงมีภาพสวย ๆ มากมาย หลังกลับมาจากสีชัง คาดว่าสหายอาศรมฯ ต่างก็จะมาบันทึกความประทับใจ ที่ได้รับในการเดินทางครั้งนี้ วฤกก็อยากบันทึกไว้เช่นกันครับ ... ขอบันทึกเป็นนิราศ ส่วนในแง่มุมอื่น ๆ สมาชิกท่านอื่นคงนำมาลงไว้ จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 10:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ๐๓ ๏ สิ้นหวานสวาทแล้ว...........เสวยรส ขมขื่นเคล้ากลืนหมด............แม่นแท้ ฝนปรายสุหร่ายบด-............บังเกาะ- .........ลอยฤๅ หรือเนตรเรียมหนักแอ้........เอ่อล้นชลนัยน์ ฯ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 47 08:00:53 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 15:27:18 จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 10:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ๐๔ ๏ ครรไลเรือล่องคล้อย...........ข้ามนที ยิ่งห่างฝั่งทวี.........................เทวษร้อน ถึงเกาะกล่าวนามสี-...............ชังชื่อ เฉกอย่างนางชังข้อน.............เข่นกระท้อนกระเทือนทรวง ฯ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 11:06:40 จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 10:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ๏ สีชังพาพี่ช้ำ                       นวลชัง แลลั่นทมฤๅบัง                       อาจเอื้อม อาทิตย์อัสดงยัง                     รอเก็บ ภาพนา เมฆสถิตดังห้วงเงื้อม               หัตถ์น้องบังไฉน ๚ ยินดีครับคุณรมย์ บุริน ตอนถ่ายผมเห็นแค่ ๓ ดอกเท่านั้น อิอิ ด้านที่บ้านคนหนาแน่นนั้นคงเป็นเพราะอยู่ตรงข้ามกับศรีราชา(หันหน้าไปทางตะวันออก) ส่วนด้านที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์หรือด้านช่องเขาขาดนั้นหันหน้าไปทางทิศตะวันตก พวกเราไปรอถ่ายภาพตะวันตกน้ำกันอยู่เกือบชั่วโมง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะอะไรหรือ? ก็เพราะหนุ่มสาวอาศรมชมรมโฟโต้ เอ๊ย ชมรมชาวโคลงแห่ขนกล้องไปเป็นกองทัพน่ะครับ น้องตะวันเธอเลยเหนียมอายรูดม่านเมฆมาบังซะอย่างนั้นแหละ ..... เจื่อนกันทั้งคณะ ฮิฮิฮิ ขอบคุณจอมยุทธนะครับที่อัญเชิญ บทเห่ชมชายทะเล ฉบับสมบูรณ์ พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ มาให้ได้อ่านกัน ปล. ถ้าคุณรมย์ บุริน อายุไม่เกิน ๒๙ ปีก็เรียกผมว่าพี่หรือคุณเล็กก็ได้นะครับอย่าใช้ "ท่าน" เลย อิอิ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 13:59:06 จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 11:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แต่งกลอนก็เก่ง เขียนเล่าก็สนุก ถ่ายรูปยังเยี่ยมอีก น้องหนูของป้าน่ารักจริงๆ จากคุณ : ป้าเอม - [ 10 พ.ค. 47 12:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ๏ สีชังยังชอกช้ำ                 ยามชัง สูงส่งปานหอระฆัง               สุดเอื้อม หลงใหลไป่ระมัดระวัง           คอย่น เลยแม่ แมลงเม่าปลิวเข้าเงื้อม          หัตถ์เจ้าจงขยำ ๚ จากวลีของหญ้า # ๑๐ มาเป็นกลอนดังนี้ ๏ ศาลาฯ ชี้ศรีราชา จึงมาถูก ทานกระดูกถูกกระดานที่ชานเขื่อน ยามผองเพื่อนมาตีพี่มาเตือน ว่ากำไลหายเปื้อนเลือนหายไป ๚ ปล. pee_lee ม่วนแต๊ๆ เช่นกันที่ยินเสียงสาวเจียงฮายและสาวลำพูนอู้คำเมืองกันในทริปนี้ :o) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 14:19:30 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 14:08:24 จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 12:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ๐๕ ๏ ดวงตะวันตรมหม่นเร้น......แรงแสง ซบหลบหลังเมฆแฝง..........ฟกช้ำ เฉกฤดีพี่แสดง..................ดลดั่ง.........นั้นเนอ กมลหม่นระคนคล้ำ............ขุ่นร้าวคราวราน ฯ จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 12:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ๐๖ ๏ ริมธารซากเสื่อมร้าง............เรือผุ ฤๅเพราะเหลือทำนุ.................นั่งใช้ รักเราเหล่าวสุ.......................ว่าเสื่อม..........แล้วอา ถึงปล่อยลอยร้างไร้...............ละให้หายสูญ ฯ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 07:59:59 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 13:46:54 จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 12:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่มีโคลงมาแปะ ภาพก็ไม่ได้โหลดมา แต่...  มีเพลงมาฝากครับ (เห็นรีเควสกันเข้ามามาก เลยจัดให้ครับ) อย่าขอหมอลำ ต้อย หมวกแดง (หญิง) อ้ายๆ ขอหมอลำแหนค่า (ชาย) อ่า คือแบบว่าพี่อ่ะ ร๊อคนะน้อง ร๊อค เอาเป็นร๊อค (หญิง) เอาลำเต้ยเด้อค่าเด้อ บอกว่าอย่าขอหมอลำ บอกว่าอย่าขอหมอลำ ไม่รู้หมอหมอลำเค้าลำแบบไหน ผมเองยังไม่เข้าใจ ผมเองยังไม่เข้าใจ เค้าลำแบบไหนไม่รู้เรื่องเลย เกิดมาไม่เคยได้ร้องหมอลำ เคยร้องแต่ร๊อคแอนด์โรล์ (ว๊าวว) ก็เล่นแต่ร๊อคแอนด์โรล์ เทคนง เทคโน เอ้าโยกมันแท้หนอ หรือเอาแบบหัวพาดคอ หรือเอาแบบหัวพาดคอ หัดร๊อคกันหนอ สดับเหลือเกิน ฟังแล้วเพลิดเพลินกระตุ้นอารมณ์ ฮิพฮอพ ร๊อค อาร์แอนด์บี (โย่วๆ) ฮิพฮอพ ร๊อค อาร์แอนด์บี (โย่วๆ) ก็ฟังดูดีทำไมไม่ขอ น้องนางก็งามละออ น้องนางก็งามละออ ทำไมกันหนอมาขอฟังลำ แล้วผมจะทำยังไงกันดี * ก่ะจังมาพ๊อซำนี้เน๊าะ ซำนี้พอไว้ซาก่อน ลำบ่เป็นมันซิเดือดร้อน เดือนร้อน ซิ เดือดร้อนๆ ย่านน้องฮากทั่งออกมา วอนแม่กานดาอย่าขอหมอลำ พ่อคมขำขอจงอภัย โปรดได้เข้าใจขาร๊อคบ้าง.. ขาร๊อคบ้าง **ไว้วันหน้า หากมาอีกครั้ง รับรองได้ฟัง กลอนลำเสนาะหู ผมจะไปฝึกหัดร้องกับคุณครู จะมาเต้นมาฟ้อนให้ได้ดู แต่ตอนนี้ไม่รู้ ไม่รู้เลย หมอลำ.. (*) (แรพ) เป็นหยังจั่งมาขอหมอล๊ำ (โย่วๆ) หมอล๊าหน๊ะเค้าล๊ำจั่งได๋ (โย่วๆ) เคยฟั่งข้อยก่ะยั้งบ่เข้าใจ (แม่นแล้ว) แล้วข้อยสิลำได้บ่เนี๊ยะ (ลำบ่ได้ๆ) (โย่วๆ) ฮิพฮอพเพลงป๊อปก็ดี (โย่วๆ) เพลงร๊อค เพลงแรพ ก๊ามี๊ (โย่วๆ) จั่งซี้เป็นหยังบ่ขอ (แม่นหยังละเนี๊ยะๆ) หน้าตาก็ผู้งามละออ (แม่นหยังละเนี๊ยะ) แม่นหยังมาขอหมอลำกันด้วย .. วู๊!! (โอ๊ะโอ) (**) ก่ะจังมาพอซำนี้เน๊าะ ซำนี้พอไว้ซาก่อน ลำบ่เป็นมันซิเดือดร้อน เดือนร้อน ซิ เดือดร้อนๆ ย่านน้องฮากทั่งออกมา วอนแม่กานดาอย่าขอหมอลำ พ่อคมขำขอจงอภัย ขืนร้องออกไปซิตายแนบแล้ว จึงขอลาแจวไปก่อนเด้อ ขอลาจรไปก่อนเด้อออ... http://music.kapook.com/newmusicstation/play.php?id=2348   <<<---- ฟังสดครับ กัก ๆๆๆ จากคุณ : น้องเจ ({``-_-}{-``-}{-_-``}) - [ 10 พ.ค. 47 12:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ๐๗ ๏ กองkuณฑ์เผาร่างแล้ว........เหลือธาตุ ความรักยามประลาต.............ประหลาดล้น สูญเสี้ยวเศษสวาท...............วายดับ เหลือแต่ตะกอนข้น...............ขื่นร้าวระทมขม ฯ ===================================== ขอบคุณสำหรับเนื้อเพลงสุดฮิต ในทริปนี้ครับน้องเจ จอมยุทธฯ .... ฝึกร้องด่วนเลยครับ ปล. ติดเซนเซอร์คำว่า kuณฑ์ .... แปลว่าไฟ นะครับ จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 13:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รูปไม่มา.....เลยโพสท์ใหม่ ใครพอรู้วิธีโพสท์รูปมากกว่า ๑ รูปใน คคห. บ้างครับ ไม่อยากปั่นกระทู้น่ะครับ จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 13:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ๐๘ ๏ ทุกข์ตรมฤๅแต่งอ้าง..........อนุสรณ์ สลักอยู่กับใจรอน................รวดร้าว เผยสารผ่านคำกลอน...........แค่กล่าว ความเจ็บความร้อนน้าว.........เหนี่ยวรู้ชูไฉน ฯ ๐๙ ๏ ฉะนั้นใจที่ชอกช้ำ.............ชาชิน ถึงห่มไห้ใครยิน...................อยากรู้ ร้อนร้าวกล่าวแก่ดิน..............ใดสดับ แสนศัพท์เสียงโศกคู้.............เข่าไห้ใครเหลียว ฯ ๑๐ ๏ จึงเปลี่ยวใจเปล่าว้าง.........วางปลง วันปลิดชีวิตคง...................ขาดน้อง ไหนผู้อยู่พะวง...................ว่าโศก เศร้าเปล่าคราวร้างห้อง.........ห่างชู้สู่สวรรค์ ฯ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 47 08:01:55 จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 47 13:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เสียดายไม่ได้ไป เลยอดเจอปู่ออ พี่มาลี ท่านจอมยุทธฯ และอีกหลาย ๆ ท่าน แต่ที่แน่ ๆ กระเฉดน้อยกับเอ็นจังก็ไม่ได้ไปชัวร์ (อดเหมือนเราเลย) จากคุณ : ดอกงิ้ว - [ 10 พ.ค. 47 14:43:01 A:203.155.236.182 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 แวะมาสวัสดี ขอรับ ทุกท่าน จากศรีราชา ถึงสีชัง แม้ชังพี่ พี่ก็ไม่ชังเจ้า... ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ ข้าพเจ้าเขียนเพลงไว้ ๑ บท ค้างไว้ชาติหนึ่ง ถึงบัดนี้ ก็ยังค้างคาอยู่ “สีชัง เจ้าชัง ใจพี่ คนดี ศรีเอย ร้างลา หมองศรี ร้าวเอยใจข้า ชังปรารถนา ศรีเอย สีชัง” ขออนุญาต ยืมดอก “ลั่นทม” ของพี่เล็ก เพื่อเอาตัวอักษรจาง ๆ ประกอบภาพ ขอรับ (ชื่อ “ลั่นทม” งดงามกว่า ชื่อ “ลีลาวดี” แลตรงกับรูปลักษณ์ของดอก ที่หม่นเศร้าอย่างงดงาม สำหรับความรู้สึกข้าพเจ้า ขอรับ) เก็บลั่นทมดอกนั้น................คืนต้น แม่เอย ใจเจ็บยอมจำนน........................แม่แล้ว ระทมหม่นใจตน.......................ตรมอยู่ ร้างคู่ใจ ฤ แผ้ว..........................พิศรู้ลั่นทมฯ สวัสดี “สีชัง” ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 10 พ.ค. 47 14:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 • บันทึกการเดินทาง ๏ ถึงวันนัดวันนี้ที่คอยหา ณ วันเสาร์ที่แปดพฤษภา ได้เวลาเดินทางไปกลางทะเล ศรีราชาพาให้ลำไส้หัวร่อ เพราะปู่ออควงป้าเล็กแนวเร็กเก้ พาไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวสักประเดี๋ยวก็ฮาเฮ ทั้งน้องเจน้องกี้น้องศาลา อีกจอมยุทธเมรัยหนุ่มวัยดึก ทั้งพี่เล็กวัยสะอึกเพราะดึกกว่า อีกทั้งท่านคุณชายนายทิวา หมอวฤกก็มาร่วมล้อมวง พออิ่มหนำสำราญพุงบานเบอะ รีบไปเถอะสีชังดังประสงค์ ที่ท่าเรือข้ามฟากมีฝนลง อานิสงส์ปู่ออฝนห้อไป ๚ ครับ! ระหว่างรอคุณหมอวฤกและมิตรสหายร่วมทางเขียนโคลงนิราศสีชังประกอบภาพ พี่เล็กก็ขอเล่าเรื่องราวเป็นคำกลอนไปพลางๆ นะครับ วันนี้วันจันทร์คงจะงานยุ่งกันอยู่ สวัสดีดอกงิ้วและนายทิวา คิดว่าทริปที่ผ่านมาได้จุดประกายเที่ยวทั่วไทยให้เตลิดกันทุกดวงแด เพราะทั้งคนและเครื่องมือค่อนข้างจะพร้อม จะติดขัดก็แต่เวลาและหน้าที่การงานเท่านั้น แต่จะทยอยทริปเล็กเช่นล่องเรือท่องเจ้าพระยา ไปจนถึงแอ่วล้านนาในปลายปี ซึ่งเน้นประหยัดและกระชับมิตร จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 15:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ๏ อึดใจเดียวเท่านั้นหนาก็มาถึง เกาะสีชังสถานที่ซึ่งเคยสงสัย ว่าความชังนั้นมีสีอะไร เพื่อจะได้หลีกหนีสีที่ชัง ๚ จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 15:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สอบถามถึงฝั่งแล้ว                 หรือยัง ป้า-ปู่อยู่แนวหลัง                   ห่วงเจ้า ข่าวเรีอเทียบสีชัง                   สบายจิต ยินผ่านเสียงคลื่นเคล้า           คลื่นคล้องเพลงประสม เสียดายจัง....ปู่กะป้ามิได้ไปด้วย   แต่เอาใจช่วยอยู่ข้างหลัง....อิอิ       จากคุณ : Augustman - [ 10 พ.ค. 47 15:38:22 A:203.113.80.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ๏ เมื่อถึงแล้วรถราก็มารับ พร้อมคนขับเคลื่อนไปดังใจหวัง บรรยากาศแสนดีมิมีชัง ถึงที่พักดีจังไม่ต้องเดิน ๚ จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 15:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาล้านนาอย่าลืมแวะมาแอ่ว คอยพ่อแก้วแม่แก้วอยู่แถวนี้ จะปูเสื่ออยู่กลางทุ่งรับคนดี หวังน้องพี่ได้ป๊ะกั๋นดังฝันเทอญ... ^__^ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 10 พ.ค. 47 15:56:15 A:202.129.2.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบปู่ออฯ # ๒๗ ๏ ปู่ถามถึงฝั่งแล้ว                 หรือยัง อบอุ่นคำถามจัง                    อกน้อง ปู่จ๋าปู่สีชัง                           หาใช่ ชังแฮ สีอื่นทารอบห้อง                   ห่อนสู้สีชัง ๚ ขอบคุณมากครับทั้งเรื่องก๋วยเตี๋ยวและที่พัก-ที่รับฝากรถที่ปู่แนะนำให้ :o) จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 15:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ๏ มาถึงแล้วเจื้อยแจ้วกันนิดหน่อย เก็บเครื่องใช้ไม้สอยก่อนระเหินฯ ไปไหว้พระไหว้เจ้าพ่อฯพอเพลิดเพลิน เพื่อเจริญสมาธิสติดำรง ๏ เมื่อมาถึงที่วัดจุฑาทิศฯ เฝ้าพินิจพิศไปในรูปหงส์ คติมอญบอกไว้เพื่อให้ปลง นึกถึงหงสาวดีที่เคยเรือง ๚ *** ซอมพอฯ ถ้าจะให้ไปแอ่วเหนือก็คงต้องมารับน้องใหม่กันก่อนนะเจ๊า อิอิ สมาชิกชาวอาศรมฯ ก็มี pee_lee อยู่เจียงฮาย และน้องกี้อยู่ลำพูน เพื่อนพี่เล็กก็อยู่ด่าน กศก. ที่แม่สาย และยังมีเพื่อนสนิทที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรที่ เชียงราย อยู่ริมแม่น้ำกกอีกด้วย ฮ่าๆๆ โครงการระยะยาว :oP จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 16:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เกษตรน้อยมารายงานตัว ด้วยความอยากไปอย่างสุดซึ้ง หากแต่ภาระกิจติดพัน โอกาสหน้ามิพลาดแน่นอน จากคุณ : กระเฉดน้อย - [ 10 พ.ค. 47 17:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตามมาอ่านค่ะ @^____^@ จากคุณ : p_jung - [ 10 พ.ค. 47 18:30:44 A:202.133.163.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นนิราศข้างบนแล้วทำให้นึกถึงเพลงสีชังขึ้นมา  ได้ยินมาตั้งแต่สมัยยังหนุ่มๆ  มรว.ถนัดศรี เป็นผู้ร้อง  ไพเราะจับใจทีเดียว เพลงสีชัง http://music.kapook.com/newmusicstation/play.php?id=2359 จากคุณ : ลุงแก่ๆ - [ 10 พ.ค. 47 22:32:07 A:61.19.201.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ๏ ออกจากวัดแวะไปช่องเขาขาด เห็นสะพานยาวพาดงามฟุ้งเฟื่อง ด้วยหงส์ทองคล้องใจให้เมลือง ยืนยักเยื้องตามแถวแนวสะพาน ๚ ขอบคุณคุณลุงแก่ๆ ที่ส่งลิ้งค์เพลง สีชัง มาให้นะครับ http://music.kapook.com/newmusicstation/play.php?id=2359 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 47 00:42:24 จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 23:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ๏ แล้วไปชมศิลาที่จารึก อ่านบันทึกเรื่องราวที่กล่าวขาน เกาะสีชังวังเวียงจากวันวาร กลายมาเป็นตำนานคู่อำเภอ ๚ *** ศิลาจารึกนี้อยู่บริเวณหน้าโรงเรียนเกาะสีชังครับ จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 23:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ๏ ไปรับลมชมทะเลที่ชายฝั่ง ตรงชายหาดถ้ำพังจึงนั่งเหม่อ สั่งส้มตำยำปลาหมึกนึกถึงเกลอ อย่าได้เจอยำปลาตีนโบยบินมา ๚ *** หาดถ้ำพังนี่อยู่ทางซีกตะวันตกเช่นเดียวกับช่องเขาขาด ภาพนี้ขอยืมมาจากกล้องคุณจอมยุทธเมรัย (ยังไม่ได้บอกเจ้าของเลย อิอิ) จากคุณ : lek Isara - [ 10 พ.ค. 47 23:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ๏ ย้อนกลับไปค้นหาภาพในฝัน ช่องเขาขาดรอตะวันลับขอบฟ้า หลังจากแห้วหวนกลับเพียงหลับตา ย้ายมาเล่นกีต้าร์ริมทะเล ๚ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 47 00:08:57 จากคุณ : lek Isara - [ 11 พ.ค. 47 00:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ๏ เช้าขึ้นมาพากันกินข้าวต้ม แล้วเดินชมเวียงวังดังกาพย์เห่ บรรยากาศรื่นรมย์สมคะเน ก่อนเตรียมตัวหันเหบินกลับรัง ๚ จากคุณ : lek Isara - [ 11 พ.ค. 47 00:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ๏ ถึงท่าเรือเรือมาเทียบท่าแล้ว ขอเรือจอดอย่าเพิ่งแจวที่ริมฝั่ง ความสุขสันต์หรรษาพาภวังค์ จักไม่ลืมเกาะสีชังครั้งนี้เลย ๚ *** ภาพสุดท้ายนี้จากกล้องของศาลาไทย แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 47 00:34:18 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 47 00:29:36 จากคุณ : lek Isara - [ 11 พ.ค. 47 00:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขออภัยหายไปหนึ่งคน ขอเป็นภาพนี้ครับ *** ฝันดีถึงสีชังทุกท่านนะครับ .. ราตรีสวัสดิ์ :o) จากคุณ : lek Isara - [ 11 พ.ค. 47 00:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นรูปหาดถ้ำพัง 37 แล้วตกใจจริงๆครับ เคยไปเกาะสีชังเมื่อสิบปีเศษๆ ตอนนั้นเวลาจะลงหาดนี่จากสุดทางรถต้องไต่ผาดินสูงประมาณ3-4เมตรลงไป และชายหาดไม่มีอะไรเลย ตอนที่ไปนี่ทั้งหาดมีแต่เต๊นท์ของฝรั่งอยู่ 1 เต๊นท์ ตอนนี้กลายเป็นบางแสนไปซะแล้ว จากคุณ : สอมอ - [ 11 พ.ค. 47 00:57:44 A:202.133.164.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 แวะไปเที่ยวด้วยคนค่ะ มีรูปอีกไหมคะ จากคุณ : รสา รสา - [ 11 พ.ค. 47 02:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สีชัง-นึกชอกช้ำ............ชังศรี เผด็จประดาไมตรี..........ตลบล้ม ระรื่นละร้างฤดี..............ดาลโศก ทุกนึกทุกหน้าก้ม..........กร่อนห้วงใจหาย จากคุณ : สดายุ - [ 11 พ.ค. 47 07:21:38 A:203.156.86.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 แรม ๕ ค่ำ เดือน ๖  ตกวันเสาร์ โอ้เช้านี้ฟ้าครึ้มใจซึมเซา นึกถึงเขาทุกครั้งว้างทุกครา ทนหม่นหมองร้าวรานมานานนัก ขมเพราะรัก รักเขาจริงยิ่งโหยหา หรือศรีชังพี่แล้วหนอแก้วตา เฝ้าถามฟ้ายามที่มุ่งสีชัง จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 09:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สีชังยังชื่อพ้น................คืนวัน สีรักอยู่ไหนกัน..............ไม่รู้ หรือรักสุดใจหัน..............ฝักใฝ่ จึงพบแต่เพียงผู้..............ซึ่งซึ้งชิงชัง แหะ แหะ สวัสดีทุกท่านครับ มาอ่านแล้วรับรู้ความสนุกสนานด้วยคนครับ จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 11 พ.ค. 47 10:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีครับ ทุกท่าน.. มาต่อ # 45 ... นะครับ อ้อนจริงๆ จอมยุทธฯ .. ... ๑) แรม ๕ ค่ำ เดือน ๖  ตกวันเสาร์ โอ้เช้านี้ฟ้าครึ้มใจซึมเซา นึกถึงเขาทุกครั้งว้างทุกครา ๒) ทนหม่นหมองร้าวรานมานานนัก ขมเพราะรัก รักเขาจริงยิ่งโหยหา หรือศรีชังพี่แล้วหนอแก้วตา เฝ้าถามฟ้ายามที่มุ่งสีชัง ... ๓) ทางที่ทอดตลอดทางช่างไกลนัก ทั้งคึกคักทั้งระย่อต่อหนหลัง ผ่าน บางบ่อ ท้อบางบางช่างแย่จัง สักกี่ครั้งยังหวังนวลล้วนเข้าใจ ๔) พลขับหลับตาพาวิตก แท้เพราะสกปรกหน้าตาไม่ใส บางเสาธง ธงทิวปลิวยอดปลาย แต่หัวใจข้าฯละลิ่วกว่าทิวธง ๕) นวลเจ้าเอ๋ย .. นวลเอย นวลเจ้านาง   นวลสล้างนางเสลาในเหล่าหงส์ คราข้ามผ่าน สะพานบางประกง ใจมุ่งตรงสีชังด้วยนางคอย ๖) ทางที่ทอดตลอดทางไม่ห่างแล้ว ใกล้โค้งคุ้งทุ่งแถว บางปลาสร้อย ใจมันคึกนึก ท่าเทห์เลห์สำออย หวังเพียงน้อยพบรอยยิ้มก็อิ่มเอม ... เชิญ ท่านต่อไปเลย ครับ .. จากคุณ : วลี.. - [ 11 พ.ค. 47 11:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ช่วงบ่าย จอมยุทธฯ ต้องเดินทางไปสุราษฎร์ฯ กัลมาอีกทีวันศุกร์ ค่อยมาเขียนนิราศสีชัง ต่อ ยังไงก่อนเดินทาง ขอฝากภาพเบื้องหลังการถ่ายทำไว้อีกรูป ขอรับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 11:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตาวลี มาแต่งต่อซะได้ ฝากไว้ก่อนเหอะ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 11:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไปที่ไหนจะขาดของกินได้อย่างไร จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 11:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เหลือเวลาอีกนิดหน่อย มาดูรูปตากล้องมือโปรกันดีกว่า จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 11:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ตากล้องสาวของเรา จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 11:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ก่อนจะไปขึ้นรถ ฝากไว้อีกหนึ่งรูป จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 11:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ค. 47 11:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ๑๑ ๏ ลั่นทมรันทดไห้..................หันขนอง ซ่อนพักตร์เศร้าโศกหมอง........หม่นช้ำ หันไยใคร่ร่วมผอง..................ผู้โศก.........ระทมเนอ ขอร่วมรันทดน้ำ-....................เนตรท้นกมลเหงา ฯ ================================= มาต่อด้วยดอกลั่นทมครับ จากคุณ : วฤก - [ 11 พ.ค. 47 13:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ๑๒ ๏ เอารงค์แรขอบล้อม.............รอบระบาย บนดอกลั่นทมฉาย..................ฉาบเนื้อ ชมพูชื่นชู้หมาย......................เหมือนเหยียด- หยันอกร้างรักเกื้อ...................เกลือกช้ำชาดสี ฯ จากคุณ : วฤก - [ 11 พ.ค. 47 13:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ๑๓ ๏ มาลีมีหลากพ้อง.................หลายพันธุ์ ร่วมผลิดอกสีสัน....................สดย้อม หยาดแต้มแต่งไพรวัน.............เพียงวาด วางดอกคละดอกพร้อม...........ภาพล้ำเลิศสรรค์ ฯ ๑๔ ๏ ลั่นทม-รันทดคล้าย...............ที่คำ ใครใคร่ไข้ใจจำ......................เจ็บร้อน ลีลาวดีนำ..............................นามใหม่ หมายเปลี่ยนเพี้ยนนามสะท้อน....ทุกข์ร้อนเรียกขาน ฯ ๑๕ ๏ โองการนามใหม่อ้าง.............อิทธิฤทธิ์ จงส่งเสริมประสิทธิ.................ประสาทให้ ลีลารดีมิตร...........................มาชื่น ฟื้นตื่นคืนรักได้......................ดั่งแม้นมโนหวัง ฯ ๑๖ ๏ สีชังเทพท่านรู้....................รังสรรค์ หลายเหล่าลั่นทมพันธุ์.............พรั่งพร้อม ลีลาวดีสวรรค์.......................เวทสวัสดิ์ วันสว่างสร่างชังล้อม..............รักนั้นพลันเผย ฯ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 08:03:02 จากคุณ : วฤก - [ 11 พ.ค. 47 14:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ต้องขออภัยที่ตั้งกระทู้ทิ้งไว้แล้วหายหน้าหายตา  เพราะวันไปสีชังเป็นวันทำงาน กลับมาเลยต้องจัดการสะสางภูเขาเอกสารบนโต๊ะ  จนไม่ได้เข้ามาทักทายกันเลย จริงแล้วกระทู้นี้ศาลาไทยเป็นแค่คนตั้ง  คนดูแลต้องยกให้ชาวคณะที่ไปด้วยกัน อันได้แก่  ลุงเล็ก (Lek Isara)  พี่ทิวา  พี่หมอวฤก  พี่จอมยุทธเมรัย  คุณอาวลี พี่ลี (Pee_lee)  เจ้าเจสามหน้า ({``-_-}{-``-}{-_-``}) + หวานใจ และเจ้าบ้านคือ ปู่ออฯ (Augustman) & ย่าเล็ก  ที่คอยดูแลพวกเราเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นจนกลับบ้าน ศาลาไทยยังติดใจ "เกี๊ยวปลา"  มื้อเที่ยงของวันเดินทางที่ปู่ออฯ เป็นเจ้ามืออยู่เลยค่ะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ค. 47 19:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เจ้าของร้านอัธยาศัยดี  เกี๊ยวอร่อย  ต้องช่วยโปรโมตอีกแรง ใครแวะไปศรีราชาเชิญไปชิมได้  อยู่ใกล้ ๆ กับโรบินสัน ศรีราชาค่ะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ค. 47 19:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อันได้แก่โคลง #๒๔ "เก็บลั่นทมดอกนั้น................คืนต้น แม่เอย" ศาลาไทยแอบเก็บภาพบางภาพไว้  เอามากำนัล (เจ้าของมือไม่ประสงค์ออกนาม) จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ค. 47 19:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ๏ น้ำตารินไหลในความเงียบ ใดเทียบเท่าคืนอันขื่นขม เคว้งคว้างห่างหายราวสายลม ทุกข์ระทมต่อคำที่ย้ำมา... ***ดอกลั่นทมบริเวณช่องอิศริยาภรณ์ (เขาขาด) จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ค. 47 20:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ๏ แสงฉานเคยฉายมาวายวับ ย้อนกลับทางเดิมใช่เพิ่มค่า รู้เห็นเป็นไปในเวลา ดวงตาย่อมบอกถึงซอกใจ... ***พระอาทิตย์ตก - ช่องเขาขาด จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ค. 47 20:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ๏ รอเพียงแสงรุ่งของพรุ่งเช้า เชื่อมเราอีกครั้งหวังเริ่มใหม่ ลบรอยคำถามทุกความใน ผ่านไปปล่อยวางลงบางคราว... ***พระอาทิตย์ขึ้นใกล้วัง - พระจุฑาธุชราชฐาน จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ค. 47 20:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ๏ แสนห่วงยามห่างอย่างวันนี้ ท่าทีหมางเมินเกินคำกล่าว ถามใครสักหนึ่งถึงเรื่องราว ร้อนร้าวเกินประจักษ์รักฤๅชัง... ***ดอกรัก - หน้าวัดจุฑาทิศธรรมสภาฯ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ค. 47 20:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เฮ้อ .. เสียดายจัง อยากไปนะ แต่ติดที่ว่า เพิ่งกลับจากเร่ร่อนที่เมืองกาญจน์มา ไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยยังงัยกับผู้ปกครอง .. กระมิดกระเมี้ยนมาตั้งแต่วันแรกที่อาทิวาส่งข่าวให้รู้แล้ว .. ก็ยังไม่ค่อยกล้าขออนุญาตเลย เสียดาย เสียดาย ... ไม่มีลิงไปกวน ปู่ลิง คงกินเหล้าสบายใจเฉิบ ... ( ไม่มีตัว ก ข ค .. กองขี้ควาย อีกต่างหาก ..) จากคุณ : จังงัง - [ 11 พ.ค. 47 23:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ๏ ครืนครืนราวฟ้าลั่น                   ระงมขรม อึงมี่กราวเกรียมกรม                    หม่นไหม้ ดึงดอกลั่นทมดม                        ดอมกลิ่น หอมอ่อนโยนโหยไห้                   แห่ห้อมโหยหวน ๚ ๏ รัญจวนจำจากเจ้า                    กนิษฐา เกลียวคลื่นซัดสาดมา                  ซับซ้อน กลอยเกลียวรักโรยรา                  ซ้ำซาก กรอมเกาะสีชังร้อน                      รุ่มเร้าใจสลาย ๚ *** สวัสดีจังงัง, เกษตรน้อยและมิตรสหายทุกท่าน ตอนนี้อารมณ์โคลงกำลังเศร้านะ ขอทักทายแค่นี้ก่อน ปล. ดอกลั่นทมได้ดมแล้วแหละ หอมอ่อนๆ ชื่นใจจริง หมายเหตุ : ขออภัยที่โคลงสองบทนี้ถูกแก้ไขบ่อยนัก เพราะยิ่งอ่านยิ่งพบเจอ โดยเฉพาะเมื่ออ่านออกเสียงน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 13:32:44 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 13:14:45 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 10:48:01 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 10:22:44 จากคุณ : lek Isara - [ 11 พ.ค. 47 23:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีท่านศาลาไทย ท่าน lek isala และอีกหกคนกะหนึ่งหวานใจครับ น่าเสียดายจังเลยที่ท่านเล็ก (ยังคงเป็นท่านอยู่เพราะไม่เข้าเงื่อนไข ^__^) ไม่ได้รูปถ่ายสูรย์ลาฟ้าที่ด้านหลังเกาะ พูดถึงตะวันชิงพลบสร้างแสงแห่งฟ้าแล้ว สถานที่แห่งหนึ่งที่ประทับใจคือที่พัทยาพาร์ค ถ้าคิดจะไปก็ลองทำตัวหิว ๆ เพราะที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์ ไปแต่ไก่โห่ตั้งแต่เค้าเปิดเลยยิ่งดี เพราะจะเลือก ที่นั่งได้ เวลาเลือกต้องคำนวณอัตราการหมุนของหอคอยดี ๆ กะให้ พอดีมองเห็นอ่าวพัทยาตอนพระอาทิตย์ตกครับ ถ้าคิดจะถ่ายรูปก็หา แจ๊กเก็ตหรือผ้าดำไว้คลุมหัวด้วยครับ ช่วยกันแสงสะท้อนจากกระจกได้ แต่ถ้าเป็นกล้องดิจิตอลก็น่าจะง่ายขึ้นเยอะ แค่คลุมตรงกระบอกเลนส์ก็พอ อ้อ ต้องเอากล้องชิด ๆ กระจกเข้าไว้นะครับ ถ้าไม่มีผ้าก็ไม่เป็นไร พยายาม ให้เลนส์อยู่ใกล้กับกระจกมากที่สุดก็พอ แล้วใช้มือทำเป็น hood ไว้ ทิวทัศน์นี่ยกให้ห้าดาว อาหารพอใช้ได้ ราคาให้ลองเช็คดูเอาครับ เพราะผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ วันที่ผมไปตอนหัวค่ำมีเปียโน กับนักร้องมาเล่นด้วย ส่วนใหญ่เป็นเพลงสากลฟังง่ายครับ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 12 พ.ค. 47 03:45:28 A:128.82.216.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 ๑๗ ๏ รำเพยลมพัดพลิ้ว..............พาฝน ชโลมชุ่มชื่นชื้นชล...............ชะร้อน ดอกรักเบ่งบานยล...............ย้อมหยาด..........ฝนแม่ ล้างฝุ่นเรียมฝันฉะอ้อน...........ออดเว้าวอนนาง ฯ ๑๘ ๏ ใดหมางวางว่างไว้..............เว้นวาง ใดขุ่นเคืองระคาง..................ขัดแค้น ความรักช่วยชะจาง...............จนสร่าง ดังอย่างฝนชะแม้น................หม่นเปื้อนเลือนรอย ฯ ====================================== มัวแต่หลับหูหลับตาโพสท์ ยังไม่ได้ทักทายผู้ใดเลย สวัสดีครับ ลุงออ ขอบพระคุณมากครับที่พาไปกินอาหารอร่อย แถมให้หนังสือที่ระลึก งวดหน้าถ้ามีโอกาส คงได้พบกันอีกครับ หลานลิง ... เสียใจเหมือนกันที่ไม่ได้ไปด้วยกัน เกาะสีชัง ต้นไม้เยอะ หลานลิงคงชอบ ทั่น รบร.เคยไปพัทยาปาร์ค ... ไม่ได้ขึ้นหอคอย งวดหน้าต้องลองดูซะแล้วครับ จากคุณ : วฤก - [ 12 พ.ค. 47 08:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ๑๙ ๏ ต่อยหอยค่อยเคาะค้อน..........ข้อนหอย เปลือกเปราะกะเทาะรอย...........ร่อนเนื้อ ความระแวงหวั่นหวาดคอย..........เคาะบั่น นั้นหากใจเปราะเอื้อ...................อาจร้างรักสลาย ฯ ๒๐ ๏ จงหมายจิตมั่นไว้...................ว่ารัก หลายต่อหลายทีประจักษ์...........เจตแท้ ว่าใจที่แน่นหนัก.......................นั้นช่วย อวยสมัครสมานแม้...................มุ่งร้ายไร้ผล ฯ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 22:32:57 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 10:05:54 จากคุณ : วฤก - [ 12 พ.ค. 47 08:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เหมือนได้ไปเที่ยวด้วย         สีชัง เกาะขอบจอยังขลัง             ขนาดนี้ เสียดายอยู่ไกลจัง              สุดกู่     คราวต่อไปช่วยชี้                ลากน้องล่องตาม ฯ ไปไหนไปด้วย ช่วยสองบาท  แหะ ๆ  ^_^             จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 12 พ.ค. 47 09:36:25 A:202.129.2.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 • บทจำนรรจา สอมอ : คงเป็นความรู้สึกเดียวกับผมตอนไปพบว่าเกาะเสม็ดวันนี้มีถนนตัดผ่ากลางและมีร้าน 7-11 กับอินเตอร์เน็ตค่าเฟ่เปิดอยู่ สองฝั่งถนนก็มีตึกรามบ้านช่องเหมือนหมูบ้านชานพระนครเลย มีร้านอาหารตามสั่งด้วย ผิดกับเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วที่ผมไปเที่ยวมา ที่ต้องเดินผ่านป่าโปร่งข้ามเกาะเพื่อไปยังหาดทรายแก้ว ตอนนั้นไปกางเต๊นท์เล่นกันครับ พอตกดึกเสบียงหมด มีแต่เหล้า (ตอนนั้นยังกินเหล้าอยู่) หิวกันแทบตาย จอมยุทธฯ : ขอให้เดินทางด้วยความสวัสดิภาพนะครับ เกษตรน้อย + จังงัง : คราวหน้าคงบอกกล่าวกันล่วงหน้านานกว่านี้ ท่านรมย์ บุริน : ฮ่าๆ ... สูรย์ลาฟ้าที่ด้านหลังเกาะนั้นคืออะไรครับ ไม่รู้จักจริงๆ ส่วนจุดชมวิวที่พัทยาปาร์กนั้นคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยไปนานแล้วที่เป็นกระจกกลมๆ รอบๆ มีพื้นหมุนได้ใช่ไหมครับ พอดีผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการถ่ายภาพนัก (กดชัตเตอร์ลูกเดียว) ยังไม่รู้จัก hood แต่เคยเป็นหูด ไม่ว่าจะใช้แทนกันได้หรือเปล่า อิอิ อ้อ! ผมเคยไปแน่ๆ นึกออกแล้ว เพราะเปียโนที่ว่านั่นผมเคยไปเล่นตอนดึกๆ ด้วยแหละ ตอนนั้นไปกับคณะสัมมนาไปกันเป็นร้อยครับ เมื่อสิบปีก่อนมั้งครับ (แหะๆ ถ้าจำผิดที่ล่ะหน้ายับแน่ๆ ) ... อิอิ ซอมพอฯ : พวกเราเน้นท่องเที่ยวแบบประหยัด แต่สะดวกสบายและปลอดภัย มีแค่สองบาทก็ไม่เป็นไรถ้าอยากไป แต่ต้องนั่งตักนะครับ ฮิฮิฮิ ปล. พูดเหล้นๆ นะซอมพอฯ ยังไม่อยากเข้าปิ้ง! ๏ สีชังยังยั่วเย้า                      ยวนศรี สีอื่นถึงมากมี                         ห่อนเย้า สีลมลู่ลมดี                             ศีรษะ เย็นแฮ สีอะไรค่ำเช้า                          แม่นแล้สีฟัน ๚   จากคุณ : lek Isara - [ 12 พ.ค. 47 11:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ต่อจาก #๖๖ ๏ มิตายยังอยู่ด้วย               ความหวัง ชังพี่พี่ฤๅชัง                        ตอบเจ้า คนดีโปรดจงฟัง                   พี่ก่อน เคยหยอกเคยกระเซ้า           กลับม้วนตัวหนี ๚ *** สังเกตเงาแล้วทายกันซิว่าใครเป็นนายแบบโชว์มือนี้ ? จากคุณ : lek Isara - [ 12 พ.ค. 47 13:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ๏ มีรถรอรับเข้า              อาศรม ฝึกวิชาอาคม                  เผื่อไว้ คันเหลืองอร่ามชวนชม      ปอร์เช่ ฤๅพ่อ หากพี่ปลุกเสกได้            จักให้จอมขวัญ ๚ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 14:51:14 จากคุณ : lek Isara - [ 12 พ.ค. 47 14:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ๏ ใครกันมาเปิดโน้ต          บุ๊กโชว์ ภาพถ่ายเป็นกิโล              เพียบแปล้ บางคนอาจพุงโร               ไปหน่อย การออกกำลังแก้               หุ่นให้ขึงขัง ๚ จากคุณ : lek Isara - [ 12 พ.ค. 47 14:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ๏ สีชังชังพี่แล้ว                โบยบิน โฉบเฉี่ยวเกี่ยวเมฆินทร์       ไขว่คว้า ดาราเกิดบนดิน                 มีมาก นาแม่ กางปีกนานอาจล้า             รักแร้ฤๅหอม ๚ จากคุณ : lek Isara - [ 12 พ.ค. 47 14:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 77 แวะมาชื่นชมรูปสวย ๆ และกลอน โคลงเพราะ ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ขอถ่าย เอ๊ย ทายว่าหัตถ์นั้น น่าจะเป็นของเจ้าเจสามหน้า เพราะดูที่เงาปรากฏมีสามเศียร หรือเปล่าคะ พี่โคฯ ศิษย์น้องรมย์ พี่เล็กไม่ให้เรียกท่าน ก็เรียกลุงหรือตาก็ได้ค่ะ ไม่เชื่อไปดูกระทู้นี้ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2796572/W2796572.html   ไปแหล่ว ก่อนพี่เล็กจะคว้าอาวุธได้ จากคุณ : รสา รสา - [ 12 พ.ค. 47 17:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เข้ามาอีกที ขอรับ แหะ แหะ มาชมภาพ อ่านคำ อบอุ่นใจดีเหลือเกิน ขอรับ ขอบคุณ ขอรับ สำหรับบรรยากาศ มิตรภาพ กำลังใจ งดงามโดยมิต้องบรรยาย ขอรับ เก็บตกเรื่องราวดี ๆ ที่มีอยู่มากมาย เช่นว่า ความห่วงใย ของ พี่(ลุง)ออฯ กับ พี่(ป้า)เล็ก เช่นว่า สีสันเสื้อลายดอกทั้งขาไปและขากลับ ของพี่(ลุง)ออฯ เช่นว่า รถมอเตอร์ไซค์คันเก่ง ที่หนุ่มหล่อ(พี่(ลุง)ออฯ) ขับ โดยมีสาวมอเตอร์ไซค์แสนงาม(พี่(ป้า)เล็ก) ซ้อนท้าย แถมยังเปิดไฟ ใส่หมวก(แก๊ป) ตามกม.เสียด้วย (แหะ แหะ) เช่นว่า ก๋วยเตี๋ยวเสวย เส้นปลา กับ เกี๊ยวปลา ความอร่อยในร้านเล็ก ๆ เช่นว่า ที่จอดรถ ที่ได้ส่วนลดพิเศษ จากลูกศิษย์ของพี่(ลุง)ออฯ หลังจากที่พี่(ลุง)ออฯ ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่ง เทียวไปเทียวมา เพื่อหาที่จอดให้ เช่นว่า ที่พัก ที่ได้ส่วนลดพิเศษ โดยการจัดการของพี่(ลุง)ออฯ ทำให้การดูแลเป็นไปอย่างถูกคอถูกใจ เช่นว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวขลุกขลิก ที่เหล่าสมาชิกพากันเบิ้ลโดยพร้อมหน้า เช่นว่า หนังสือเล่มเล็ก พร้อมลายมือสวยงาม ที่พี่(ลุง)ออฯ มอบให้ด้วยน้ำใจกับทุก ๆ คน แม้กระทั่ง อาทิตย์อัสดง ที่มัวแต่หลงทางอยู่ในกลีบเมฆ แม้กระทั่งสายฝน ที่หยอกเย้าผู้ผ่านทาง หลายช่วงเวลาเพื่อเปียกปอน แม้กระทั่งค่ำคืนเงียบ จันทรากระจ่าง ดวงดาวหลับไหล ก็ถูกปลุกตื่นให้ร่าเริง โดยเสียงสูงต่ำของดนตรี และเหล่าผู้ผ่านทาง กระทั่งสุราตราคนเดิน ก็ยินยอมต่อปีศาจสุรา ที่ยินยอมนั่ง โดยมิยอมนอน และกระทั่ง “ลั่นทม” ที่ซ่อนตรมเพื่อยิ้มเหงา ๆ บาง ๆ กับหัวใจบางใครที่เหว่ว้า และ ฯลฯ การเดินทางงดงามเสมอ ระหว่างหัวเรือแหวกฝ่าละอองน้ำแตกกระจายสองข้าง สายฝนบางเบา ก็ฝ่าเมฆสีหม่น กระทบร่างผู้ผ่านทาง เรือลำเล็ก กลางเวิ้งว้างท้องทะเลกว้างไกล รายรอบด้วยเรือใหญ่หลายลำ สุดสายตาคือเกาะเล็ก เกาะน้อย หลั่นลดเรียงกัน เรือน้อย ทว่า เสียงเครื่องยนต์คำรามเกินตัว และสงบนิ่งในชั่วอึดใจ ตูม.... เสียงน้ำแหวกกระจาย และค่อย ๆ หายไปกับระลอกคลื่น “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเรือดับ” สรรพเสียงจอแจ ดูวุ่นวาย ท่ามความสงบนิ่งของลำเรือ ที่หันหัวเอียงไปมาตามกระแสน้ำและคลื่นทะเล “มีอะไรสักอย่างติดใบพัดเรือ คนเรือโดดลงน้ำ ลงไปใต้ท้องเรือ เพื่อแกะเอาออกแล้ว” เสียงบอกเล่าสาเหตุ ดังมาเบา ๆ จากชั้นบนของลำเรือ สรรพเสียงจอแจของผู้ผ่านทางยังระงมอยู่ “พวกเราคงไม่ต้องลงไปช่วยกันเข็นเรือนะ” แล้วเสียงหัวเราะครื้นเครงประสานขึ้นแทบจะพร้อมเพรียง ใต้ท้องเรือ ผู้ผ่านทางที่โดยสารข้ามเกาะ ฉวยสิ่งที่โบกพัดให้ความเย็นกันจ้าละหวั่น เมื่อเรือน้อยจอดนิ่งสนิท ลมทะเลก็ไม่ผ่านพัดคลายความร้อนรุ่ม บางใครจากเมืองใหญ่ นึกถึงห้องอบซาวน่า บางใครเดินไปมาประหนึ่งเสือติดจั่น คล้าย ๆ กับหลังการเข้าห้องอบซาวน่า ก็ต้องตะกายไขว่คว้า หาบ่อน้ำเย็น เพื่อโดดตูมกระชับร่างกายโดยพลัน ชั่วเวลาที่เรือน้อยหยุดนิ่ง หลายสรรพสิ่งกลับเคลื่อนไหว กระทั่งสิ่งแปลกปลอมที่พันเกี่ยวใบพัดใต้ท้องเรือ ถูกกำจัด โดยฝีมือของหนุ่มเรือลูกน้ำเค็มเปลือยร่างกำยำท่อนบน เสียงเครื่องยนต์ก็คำรามเกินตัวอีกครั้ง ละอองน้ำเค็ม แหวกกระจายสองข้างเรือ สายฝนบางเบา กระทบผิวกาย และสรรพสิ่งก็ดำเนินไปตามครรลอง เพื่อสู่จุดหมาย............... “สีชัง” ด้านตรงข้าม ที่อยู่คู่ขนาน กลมกลืนและแปลกแยกอยู่ร่วมกัน เหมือนเช่นวัด กับศาลเจ้าพ่อ แตกต่างแต่อยู่ร่วมกัน อยู่ร่วมกัน กระทั่งกลายเป็นแปลกแยก ทว่า ! เมื่อผลประโยชน์ไม่ร่วมกันก็ต้องยื้อแย่ง เพื่อชิงคืนผลประโยชน์ ผลของประโยชน์ ขึ้นอยู่กับการตกลง ทั้งหมด คือข้อตกลง เด็กเล็ก ๆ หญิงชาย ในอาณาบริเวณศาลเจ้าพ่อ ก็เช่นเดียวกัน ทั้งหมดแตกต่าง แต่อยู่ร่วมกันได้ ด้วยข้อตกลง มีพื้นที่ของตัวเอง ใน “งาน” ที่เหมือนกัน “ถอดรองเท้าตรงนี้ก็ได้นะคะ เดี๋ยวหนูดูแลให้ค่ะ” “ถอดรองเท้าตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมดูให้ครับ” เพื่อแลกกับประโยชน์เล็ก ๆ อันเป็นเศษเงินของคนผ่านทาง บางใคร คิดว่า นั่นเป็นการเอาเปรียบ และไม่น่าปล่อยให้เกิดขึ้น ทว่า ! บางใคร ก็คิดได้เช่นกันว่า นั่นไม่ต่างกับการประกอบวิชาชีพอย่างหนึ่ง ก็เช่นเดียวกับด้านตรงข้าม ที่อยู่คู่ขนาน กลมกลืนและแปลกแยกอยู่ร่วมกัน เรื่องราวมากมาย มีให้ผู้ผ่านทาง บันทึกความทรงจำ ข้าพเจ้า “เก็บตก” บางเศษเสี้ยว จากสายตาสู่หัวใจแหว่งวิ่น ทว่า ! งดงามในความรู้สึกตลอดเวลา ขอบคุณพี่(ลุง)ออฯ และ พี่(ป้า)เล็ก เจ้าบ้านเปี่ยมน้ำใจ ขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ผู้ร่วมเดินทาง ด้วยความอบอุ่น งดงามด้วยมิตรภาพและน้ำใจ ขอบคุณเพื่อนบ้าน ที่ส่งวิญญาณความเป็นชนเผ่า มาอยู่กับข้าพเจ้า ขอบคุณบางใครกับชีวิตในความทรงจำ ขอบคุณ “ลั่นทม” แห่ง “สีชัง” และขอบคุณผู้ผ่านทาง..... แหะ แหะ ขอรับ ขอบคุณอีกครั้งครา สวัสดี ขอรับ ปล.๑ ถึงพี่เล็ก และผองเพื่อน เวลาของการเดินทางครั้งหน้า ถามไถ่ด้วยความห่วงใย ปล.๒ ภาพเดือนแจ่มในคืนมืด มีเงาเมฆบางเบาทาบผ่าน โดยความเอื้อเฟื้อของ หนูศ. โซดาซ่า ขอรับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 17:56:13 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 17:53:40 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 17:51:55 จากคุณ : นายทิวา - [ 12 พ.ค. 47 17:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ๒๑ ๏ ยลช่องเขาขาดให้.................เห็นฉงน ไฉนอิทธิฤทธิ์ดล......................ดั่งนั้น ศิลาบ่ท้าทน............................ถึงขาด สิขรบากแบ่งสะบั้น....................บ่งแจ้งแรงผลาญ ฯ ๒๒ ๏ ลาญสวาทวินาศสิ้น................สัมพันธ์ เพียงผิดคิดแหนงกัน.................ก่อร้าย ใจเขลาบ่เท่าทัน.......................ถึงขาด จึงจากพรากกันคล้าย.................โขดก้อนศิลาผา ฯ จากคุณ : วฤก - [ 12 พ.ค. 47 22:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ๒๓ ๏ คราตะวันผันลับโพล้-..............เพล้แสง โรยอ่อนรอนแดดแรง.................ละหล้า ครรไลใช่สูรย์แหนง...................หนีหน่าย วายดับกับขอบฟ้า......................ฟ่องฟื้นคืนหน ฯ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 22:38:37 จากคุณ : วฤก - [ 12 พ.ค. 47 22:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ๒๔ ๏ นภดลอร่ามแล้ว..................อุไรไข แดดอุ่นละมุนไอ....................ออกฟื้น สูรย์กลับจับฟ้าใส...................แสงส่อง ลอยท่องนภาพื้น....................ผ่านข้ามตามวัน ฯ ๒๕ ๏ ผันผายหายห่างน้อง............แหนงไฉน หนาวเหน็บในฤทัย.................ระทดร้าว นางพรากจากพี่ไป..................ปานอย่าง............ตะวันฤๅ แลห่างโอ้นางก้าว...................เกลือกคล้ายหายสูญ ฯ ๒๖ ๏ อาดูรโอ้อกร้อน..................แรงถวิล ตะวันลับยังกลับดิน................ประดับหล้า นวลสงวนพี่ชวนยิน................ยากสดับ ราวกับเรียมจับคว้า.................แค่คว้างกลางหาว ฯ จากคุณ : วฤก - [ 12 พ.ค. 47 22:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 82 รสา : ดูยังไงว่านายเจมีสามเศียร แหม! ช่างตาเหลือก เอ๊ย ตาแหลมจริงๆ นะ ..  อิอิ เอ๊! .... มาเปิดหน้าต่างสู่เกาะแก้วพิสดารได้ไงนี่  ไม่มีค่าโคชรา เอ๊ย โฆษณา ให้นะ .. ขอบใจจ้ะ ! *** ไม่ต้องรีบหนีหรอกรสาเอ๋ย พี่เล็กไม่ต้องคว้าอาวุธที่ไหน เพราะมือถือสากอยู่แล้ว อิอิอิ ทิวา : พี่เล็กก็มีความประทับใจ(ที่เกือบลืม) นับเป็นความประทับใจอย่างยิ่ง คงจำได้ว่าระหว่างรอรถมารับเมื่อตอนที่กลับลงมาจากการไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว พี่เล็ก คุณหมอวฤก จอมยุทธฯ และศาลาไทย ได้ลงไปไหว้พระและถ่ายรูปที่วัดจุฑาทิศฯ ซึ่งอยู่เชิงเขา พอกลับขึ้นมาสักสิบกว่านาทีแล้ว แม่ศาลาไทยก็นึกได้ว่าลืมกระเป๋าใส่เงิน(กองกลาง) ไว้หน้าโบสถ์ พี่เล็กก็ตกใจวิ่งตามแม่ศาลาไทยไปที่โบสถ์ ก็พบว่ากระเป๋าเงินยังอยู่ที่หน้าระเบียงโบสถ์ตามเดิม เมื่อเปิดดูข้างในก็มีเงินอยู่ครบ ก็นับว่ารอดไปเพราะไม่ต้องย้ายที่พักมานอนวัด จึงประทับใจมาก ที่ประทับใจอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับทิวาด้วย ก็คือการที่ทิวามอบเสื้อยืดที่ประทับตราอาศรมฯ ให้พี่เล็ก ชอบมากเลยนะ ใส่แล้วก็ดูดี (แม้จะยังไม่ได้ซัก/ไม่มีคนส่งแฟ็บ) ก็ขอขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะตัวเอง ปกติเสื้อใหม่ๆ ถ้ายังไม่ซักจะไม่ใส่เด็ดขาดเพราะเพื่อนเคยใส่แล้วเป็นงูสวัสดิ์ แต่ตัวนี้ใส่แล้วโอเค ส่วนความประทับใจเรื่องปู่ออฯ กับป้าเล็กนั้นก็แหลมเปี๊ยบ เอ๊ย เหมือนเปี๊ยบกับที่ทิวากล่าวไว้เลย และเชื่อว่าน้องๆ ทุกคนก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเมตตาจิตและมิตรภาพที่ได้รับจากพี่ผู้อาวุโสทั้งสอง ส่วนมิตรสหายท่านอื่นก็ประทับใจในไมตรีจิตและมิตรภาพที่มีให้กัน คงจะกล่าวไม่ครบทุกท่านหรอกนะ เดี๋ยวมดคันไฟจะขึ้นกระทู้ แต่จะกล่าวถึงเพื่อนใหม่คือคุณวลี อยู่หลักสี่เหมือนกัน จึงเข้ากันได้ดีกับพี่เล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขุดค้นเพลงเก่ามาร้องกัน เรียกว่าเกิดทันกัน ขึ้นมาก็ร้องอ๋อ! กันแทบทุกเพลงเลย คุณวลีนี้ค่อนข้างจะมีประสบการณ์ในการเที่ยวทั่วไทยมากจริง มีคำแนะนำดีๆ มากมายและหลายแห่ง คงจะต้องเป็นที่ปรึกษาหรือ ททท. ประจำคณะอาศรมฯ ซะแล้วนะครับ เพราะเอ่ยที่ไหนก็ไปมาแล้วทั้งนั้น • อินทรวิเชียร์ฉันท์ ๑๑ ๏ ถึงวัดจุฑาทิศ                  นิรมิต ณ เชิงเขา น้อมไหว้พระบรรเทา            จะสงบมิฟุ้งซ่าน ๏ การเยือนเกาะสีชัง            ดุจหวังประวัติการณ์ ข้าวปลาและอาหาร              ก็เอร็ดอร่อยดี ๚ *** คำว่า “ประวัติการณ์” ในที่นี้ก็หมายถึงทุกคนมากันครั้งแรก ก็คงจะจดจำกันไว้มิลืมเลือนน่ะครับ ปล. คำถามของทิวาเกี่ยวกับทริปหน้านั้น คงต้องรอจอมยุทธฯ กลับมาก่อน เพราะคนนี้เค้าถือ (เหล้า) อิอิ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 47 23:07:41 จากคุณ : lek Isara - [ 12 พ.ค. 47 23:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 83 สีชังชังข้าแน่                 หรือไร เจ้าเอย หนแรกได้เพียงไป          แค่นั้น อดค้างดั่งใครใคร         ให้หด หู่แฮ หนใหม่ธุระกระชั้น        อดแม้เยี่ยมเยือน คงจะมีสักวัน คงมีวันได้ชื่นใจ จากคุณ : Little Red - [ 12 พ.ค. 47 23:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ถ้าตักพี่เล็กนั้นมีที่ว่าง ให้น้องนางนั่งได้ไม่สึกหรอ นั่งไปแล้วฟ้าไม่ผ่าหัวซอมพอ ก็จะขอนั่งไปให้สำราญ... ฮี่ ๆๆ....  ยังยืนยันว่ามีแค่สองบาทจริง ๆ ! จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 13 พ.ค. 47 09:11:15 A:202.129.2.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 • แดงน้อย ๏ สีชังยังอยากให้           เธอไป เยือนนา ดูสิมิทันไร                     หดแล้ว ฮึดฮัดหน่อยกระไร          มัวหู่ ได้ฤๅ     ไปบ่อยคงไม่แคล้ว          เกาะน้องแทนศรี ๚ *** มัวแต่หาเงินอยู่นั่นแหละ ไม่มาช่วยกันใช้เงินเลย หาเงินเยอะๆ แล้วมาช่วยใช้หนี้ (ประชาชาติ) ด้วยนะ .... อิอิอิ • ซอมพอฯ ถ้าตักพี่เล็กนั้นมีที่ว่าง ให้น้องนางนั่งได้ไม่สึกหรอ นั่งไปแล้วฟ้าไม่ผ่าหัวซอมพอ ก็จะขอนั่งไปให้สำราญ... ๏ แม้ยืนยันมั่นหมายคงไม่พลาด แม่น้องน้อยกลอยสวาทใจอาจหาญ น้องนั่งตักพี่ชายให้ชื่นบาน จะขอตามไปบ้านเป็นโซฟาร์ ๚ กติกา : ถ้าจะนั่งตักต้องนั่งแบบหนูคนนี้ คือหันข้างๆ และนั่งตักข้างเดียว ปล. ห้ามนั่งเต็มๆ ไม่ว่าจะขึ้นรถหรือลงเรือ เพราะ อั น ตู ร า ย ..... ฮิฮิฮิ! จากคุณ : lek Isara - [ 13 พ.ค. 47 10:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เด็กน้อยนั่งเอนซบไหล่ ซอมฯซบได้มั่งไหมนี่ ตักข้างเดียวศูนย์มันไม่ค่อยดี ต้องหาที่ยึดอกกันตกนะ ! ขออนุญาต หนู ศ. เจ้ากระทู้ และผู้ร่วมนิราศทุกท่าน ด้วยความเกรงใจค่ะ... แบบว่า...ไม่ค่อยได้นั่งตักใคร  ฮี่ ๆ ๆ...ไปดีกว่าเดี๋ยวทำ ทู้งาม ๆ ล่ม  ^__^ จากคุณ : ซอมฯ - [ 13 พ.ค. 47 15:26:46 A:202.129.2.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 ๏ ตกตักยึกยักพอไหว ตกใจปลอบได้จ๋าจ้ะ รถเรือซิ่งเหลือนะยะ ปะทะเดี๋ยวตักบี้แบน ๚ *** ปลอดภัยไว้ก่อน Safety First! ... อิอิ ปล. หนู ศ. มาช่วยลุงหน่อย .. งานนี้จะรอดมั้ยนี่ (มุ้งสายบัวน่ะ) :oP   แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 47 16:27:29 จากคุณ : lek Isara - [ 13 พ.ค. 47 16:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 88 I am still alive in Frace ei ei จากคุณ : En jung - [ 13 พ.ค. 47 17:04:15 A:83.144.15.35 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 แวะมาเก็บค่าโฆษณา อ้าว ไม่ใช่ค่ะ แวะมาถามว่า นอกจากมือถือสากแล้ว ปากยังคาบครกด้วยหรือเปล่าคะ พี่เล็ก ที่จริงดูจากมือค่ะ มือใหญ่แบบนี้น่าจะเป็นของเจ้าเจเขาค่ะ และตัวที่อยู่ในมือ นั่นแหล่ะเพื่อนเขาค่ะ พรุ่งนี้ชิ่งหนีไปเที่ยวกับเขามั่ง สุขสันต์วันหยุดค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 47 19:34:10 จากคุณ : รสา รสา - [ 13 พ.ค. 47 19:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สวัสดีท่านวฤก ท่านเล็ก และทุกท่านครับ กระผมว่าโคลงท่านวฤกไม่ใช่ขาลงอย่างที่ท่านเคยเปรยไว้หรอกครับ อ่านแล้วน่าจะเป็นโคลงขาขึ้นมากกว่าครับ..ฮิฮิ สงสัยเอาขาพาดโต๊ะตอนแต่ง ไม่ก็เล่นวิชาโยคะท่าหกสูงหกสามเส้า ^__^ ขอหลบก่อนครับ แซวมากเดี๋ยวท่านยกขาก้านคอข้าน้อยเพราะเป็น นักมวยไทยเก่ามาก่อน (หรือเปล่า) อ้อท่านเล็ก ไม่ได้ภาพสูรย์ลาฟ้า หมายถึงไม่ได้ภาพอาทิตย์ตกน้ำเนื่องจาก เมฆบังขอรับ แต่ทำไมมีภาพวังชื่อเรียกยากน้อยจัง วังนี้เหมือนกับว่า เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีในรัชกาลที่ ๕ ตอน พระวรกายไม่แข็งแรงกระมั้งครับ ผมไม่รู้หรอกเป็นพระโรคอะไร แต่เคยอ่านเจอว่าหมอหลวงแนะนำให้ไปอยู่ในที่อากาศดี ๆ คล้าย ๆ กับโชแปงยอดนักเปียโนเลย สุขภาพไม่แข็งแรง ก็แนะนำให้ไปอยู่ที่ อากาศดี ๆ ... จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 13 พ.ค. 47 23:57:58 A:128.82.216.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 แต่เดิม คิดจะครวญ เป็น "กาพย์เห่ทะเลครวญ" เสียครั้งในการออกทะเล ระยะสั้นครั้งนี้ แต่ก็เกรงจะโดนขโมยซีน เสียดั่ง "ฟูมฟาย" เอาเป็นครั้งหน้าเสียดีกว่า เกรงจะยื้อเยื้อ ด้วยนี้ความเห็นก็มากโขอยู่ จวบด้วย ข่มตาหลับ มิได้ หวนถึงแต่ สีชังชังพี่แล้ว     ฤษี เอ๊ยย ฤ ศรี แหะๆ จึงหาหนังสืออ่าน ได้ความมาเล่าให้ เชิญทรรศนา ตาม อัชฌาศัย ... ๏ ถิ่นกายสุขด้วย        ถิ่นดี จิตโปร่งปราศราคี       ชุ่มชื้น สองสุขแห่งชาวสี-      ชังเกาะนี้แฮ อายุย่อมยืนพื้น         แต่ร้อยเรือนริม ๚ะ พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ... พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงการพัฒนาเกาะสีชังให้เป็นท่าเรือน้ำลึกด้วยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ การค้าระหว่างไทยกับต่างประเทศเจริญมากขึ้น  มีเรือบรรทุกสินค้าไปมาค้าขายกับกรุงเทพฯจำนวนมาก และเนื่องในยามที่มีคลื่นลมจัดเรือไม่สามารถจอดลำเรียงสินค้าที่นอกสันดอนปากแม่น้ำได้สะดวกจึงนิยมมาทอดสมอถ่ายสินค้าที่เกาะสีชังเพราะมีที่กำบังคลื่นลมเกาะสีชัง  จึงเป็นท่าเรือที่เรือต่างประเทศไปมามากขึ้น จึงพระทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรวจทำแผนที่หยั่งน้ำ และตรวจหินในน้ำตามเส้นทางที่เรือเดินไปมาโดยละเอียด และสั่งให้นำทุ่นเหล็กมาทอดไว้ในที่ที่พบว่ามีหินใต้น้ำที่จะเป็นอันตรายแก่เรือ การวางทุ้นนี้ได้วางไปจนถึงเกาะล้าน ... ในปี พ.ศ.2431 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ( พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ) ทรงพระประชวรแพทย์ประจำพระองค์แนะนำให้ประทับ ในบริเวณที่มีอากาศชายทะเล จึงโปรดเกล้าให้ พระยาภาสกรวงษ์ เชิญเสด็จพระราชดำเนินมาประทับที่เกาะสีชัง โดยประทับที่เรือนหลวงที่ปลูกไว้ให้ชาวต่างประเทศได้เช่าตากอากาศ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวีทรงพระประชวรจึงเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับรักษาพระองค์ที่เกาะสีชัง และเนื่องจากการเสด็จพระราชดำเนินมากระทันหัน ไม่อาจเตรียมปลูกที่ประทับได้ทัน จึงต้องประทับในเรือพระที่นั่งที่จอดทอดสมออยู่ริมฝั่งทะเลใกล้เกาะสีชัง ในระยะนั้นมีคลื่นลมจัดเรือพระที่นั่งถูกคลื่นรบกวน ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีทรงพระประชวรมากขึ้นจึงต้องเสด็จมาพักแรมบนเกาสีชัง    โดยตั้งกระโจมพักอยู่ใต้ต้นมะขามใกล้เรือนที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าลุกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับที่เกาะสีชังด้วยเป็นเวลา 16 วัน  จึงทรงพระราชดำริให้สร้างพระอารามขึ้นใหม่ ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งพระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร ... ในปี พ.ศ.2432 ในวโรกาศเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างตึกที่เกาะสีชังจำนวน 3 หลัง เพื่อใช้เป็นที่พักของผู้ป่วย  และได้พระราชทานนามตึกทั้ง 3 หลังดังนี้ตึกที่อยู่ริมหาด " ตึกวัฒนา " "ตึกหลังกลม " "ตึกผ่องศรี " " และตึกหลังยาว " "ตึกอภิรมณ์ " ... ในปี พ.ศ.2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯได้เสด็จมาแปรพระราชฐานที่เกาะสีชังหลายครั้ง ครั้งละนานๆเนื่องจากสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ  ( กรมหลวงนครนครราชสีมา ) ซึ่งยังทรงพระเยาว์ทรงพระประชวรไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในระยะเวลาสั้นๆ จำเป็นต้องประทับที่เกาะสีชังเป็นเวลาแรมปี   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯจึงทรงพระโปรดเกล้าฯ  ให้สร้างค่ายหลวงที่ประทับ และขุดบ่อใหญ่สำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้สอยพระราชทานนามว่า "บ่ออัษฎางค์" ... ในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯต้องเสด็จพระราชดำเนินมาประทับที่เกาะสีชังอีก   เนื่องจากพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ ทรงพระประชวรพระอาการมาก ในการเสด็จคราวนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินสำรวจพื้นที่เกาะสีชังอย่างละเอียด ทรงพระราชดำริที่จะทำนุบำรุงเกาะนี้ให้เจริญขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างถาวรวัตถุที่จะอำนวยความสะดวก ให้แก่ ราษฎรชาวเกาะสีชัง และผู้ที่มาพักผ่อน  และพักรักษาตัวที่เกาะสีชังตลอดจนพ่อค้า ดังนี้ ๑ ) โปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานยาวตั้งแต่ชายหาดลงไปถึงที่น้ำลึก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เรือที่จะเข้ามาจอด ในเวลาที่น้ำลงสะพานดังกล่าวกว้าง 2 วา ยาว 3 เส้น 1 วา 2 ศอก พระราชทานนามว่า "สะพานอัษฎางค์" ๒ ) โปรดเกล้าฯให้ย้ายศาลเจ้าที่เป็นที่นับถือของชาวเกาะสีชังขึ้นไปสร้างใหม่บนไหล่เขา เมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระราชทานนามว่า "ศาลศรีชโลธรเทพ" ๓ ) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างประภาคาร ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีศิลาอยู่ใต้น้ำอยู่ตรงปากช่องทางเรือ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นที่สังเกตแก่เรือที่จะเดินเข้าออก เมื่อสร้างเสร็จพระราชทานนามว่า "อัษฎางค์ประภาคาร" ๔ ) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเสาธงขึ้นบนยอดเขาสูงที่มีนามพระราชทานว่า  " ยอดพระจุลจอมเกล้า " และจัดเจ้าพนักงานไว้คอยชักสัญญาณให้เรือเข้าออกที่ท่าเรือของเกาะสีชัง เสาธงดังกล่าวได้พระราชทานนามว่า "เสาธงอัษฎางค์" ๕ ) โปรดเกล้าฯให้ตัดถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรบนเกาะนี้จำนวนหลายสาย เช่น ถนนอัษฎางค์ ถนนวัฒนา ถนนวชิราวุธ ถนนจักรพงษ์ และถนนสายวลี เป็นต้น ๖ ) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสวนป่า (วะนะ) ขึ้นที่ไร่บนเพื่อเป็นที่พักผ่อนประกอบด้วย สวน"จุลวัน"และ"มหาวัน" มียอดเขาเนินผาและถ้ำ น้ำตกธารน้ำตกแต่งสถานที่ต่างๆ ไม้นานาพันธุ์ประดับด้วยน้ำพุและตุ๊กตาหินอ่อน และพระราชทานนามว่า " อัษฎางคะวัน " ... ในปี พ.ศ.2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ พระราชดำเนินมาประทับที่เกาะสีชังอีก ในครั้งนี้พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างถาวรวัตถุเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง  ดังนี้ ๑ ) ขยายรั้วค่ายหลวงไปจนถึงคลองเทียนบน และสร้างสวนขึ้นในพระราชฐานตกแต่งเนินเขาวังให้ เป็นขั้น ปลูกต้นไม้ต่างๆ ๒ ) สร้างพระตำนักใหญ่น้อยอีกหลายหลัง ๓ ) ขุดบ่อจำนวนหลายบ่อ สำหรับเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้อาบกินและใช้รดต้นไม้ ๔ ) ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองที่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ (สมเด็จพระบรมวงค์เธอ กรมพระยาดำรงค์ราชานุภาพ) ทรงอัญเชิญมาจากพุทธคยาในประเทศอินเดียไว้บน "ไหล่เขาคยาสิระ" แห่ง "ยอดพระจุลจอมเกล้า" เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพสกนิกรโดยทั่วไป ๕ ) ย้ายวัดอัษฏางคนิมิตรไปสร้างที่เนินเขา "ยอดพระจุลจอมเกล้า" ด้านทะเล เพราะใกล้หมู่บ้าน สะดวกแก่พระภิกษุที่จะออกบิณฑบาต ๖ ) สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ทรงศรัทธาบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์ สร้างโรงเรียนขึ้น บนที่ข้างถนนอัษฎางค์ เพื่อเป็น สถานที่เรียนหนังสือ สำหรับเด็กชาวเกาะสีชัง โรงเรียนนี้ได้พระราชทานนามว่า "โรงเรียนเสาวภา" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ  ได้ดำริว่าเกาะสีชังเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ชายทะเลที่มีอากาศดี ควรตั้งพระราชฐานให้มั่นคงเพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน และเนื่องจากเห็นว่าเกาะสีชังจะเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศในโอกาสต่อไปเพราะมีท่าเรือใหญ่มีเรือสินค้าต่างประเทศมาแวะจอดรับส่งสินค้าเป็นจำนวนมาก การสร้างพระราชฐานที่เกาะนี้ จะเป็นพระราชฐานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งประกอบกับในคราวนั้น   ... ในวันที่ 5 กรกฎาคม  พ.ศ.2435   สมเด็จพระนางเจ้าเสาสภาผ่องศรีฯ   ซึ่งเสด็จตามมาที่เกาะสีชังด้วย ทรงครรภ์ใกล้จะมีพระประสูติกาล พระบาสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ  จึงดำริให้พระราชฐานแห่งนี้เป็นที่สำหรับการประสูติพระเจ้าลูกยาเธอด้วยสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี  พระวรราชเทวีทรงประสูติพระราชกุมาร   ซึ่งได้รับพระราชทานนามว่า " สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิรกฯ " ณ. ตำหนักมรกตสุทธิ์ในพระราชฐานที่กำลังสร้างขึ้น ... ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2435 ซึ่งเป็นวันสมโภชเดือนสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกฯ สมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้มีพระบรมราชองค์การประกาศสร้างพระที่นั่งและพระราชฐานที่เกาะ สีชัง โดยพระราชทานนามว่า" พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ " พระราชฐานส่วนใหญ่ที่โปรดเกล้าฯ  ให้สร้างส่วนใหญ่เป็นพระที่นั่ง พระตำหนักและตำหนักที่ทำด้วยไม้ โดยพระที่นั่ง 4 พระองค์ มีนามพระราชทาน ดังนี้ ๑ พระที่นั่งโกสีย์วสุภัณฑ์   ๒ พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ ๓ พระทีนั่งเมขลามณี ส่วนพระตำหนัก 1 พระองค์และตำหนัก 13 พระองค์ พระราชทานนามตามชื่ออัญมณี ดังนี้   ๑ พระตำหนักวาสุกีก่องเก็จ        ๒ ตำหนักเพชรระยับ ๓ ตำหนักทับทิมสด                  ๔ ตำหนักมรกตสุทธิ์ ๕ ตำหนักบุศราคำ                    ๖ ตำหนักกล่ำโกมิน ๗ ตำหนักนิลแสงสุก                 ๘ ตำหนักมุกดาพราย ๙ ตำหนักเพทายใส                 ๑๐ ตำหนักไพฑูรกลอก ๑๑ ตำหนักดอกตะแบกละออ     ๑๒ ตำหนักโอปอล์จรูญ ๑๓ ตำหนักมูลการเวก        และ๑๔ ตำหนักเอกฟองมุกด์ นอกจากนี้ยังโปรดเกล้าให้สร้างประตูพระราชฐานขึ้นอีกแปดแห่ง ... เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2436 เป็นช่วงระหว่างก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่างๆนั้น ได้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองระหว่างไทยกับฝรั่งเศสขึ้นภายในฝรั่งเศสได้ใช้เรือปืนปิดล้อมไทย และเกิดปะทะกันขึ้นที่ปากอ่าวไทยทำให้เกาะสีชังเป็นสถานที่ไม่ปลอดภัย ประกอบกับหลังเกิดวิกฤตการณ์ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าฯ   พระบรมวงศานุวงค์และขุนนางที่ร่วมบริหารประเทศต่างมีพระราชภารกิจ และภารกิจที่ต้องเร่งรัดทำจำนวนมาก ทำให้การก่อสร้างตำหนักและ   พระที่นั่งเกาะสีชังต้องระงับไป ... ในปี พ.ศ.2442 มีการก่อสร้างพระราชวังดุสิตขึ้นที่กรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้รื้อถอนไม้จากพระที่นั่งมันตธาตุรัตนโรจน์ ที่สร้างค้างอยู่ที่เกาะสีชังไปสร้างพระที่นั่งในพระราชวังดุสิต พระราชทานนามว่า "พระที่นั่งวิมารเมฆ" ... ที่มา : ประวัติศาสตร์ชลบุรี หมวด ข้อมูลจังหวัด เกร็ด เพิ่มเติม .. เกาะสีชัง .. มีความสำคัญ ด้านพาณิชย์นาวี ตั้งแต่ใน สมัย อยุธยา เดิมเรียกว่า "สระชงง" บท สุดท้าย :  คิดถึงจริง   แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 47 04:07:45 จากคุณ : วลี.. - [ 14 พ.ค. 47 04:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ข้อมูลแน่น รูปหลายหลาก แต่ขาดรูปซอมพอแดงสดไปค่ะ ใบเตยขอเสนอเพิ่มเติมนะ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : ใบเตยหอม - [ 14 พ.ค. 47 10:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 93 รสา : เจ้าเจเค้าเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ฝ่ามือเหมือนคนโบราณจริงๆด้วย ขาดกิ้งกือยังงอก่องอขิงเลย ถ้าเป็นลูกไก่ในกำมือนายเจคงแย่แน่ๆเลย อ้อ! ปากมีรับประทานอาหารจ้ะ ใครจะไปคาบครกได้ แค่ทำเป็นตุ้มหูก็หนักจะแย่อยู่แล้ว อิอิอิ! ปล. หนีเที่ยวหรือ ? ........... หนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นหรอก .... เรื่องเที่ยวนี่น่ะ ฮ่าๆๆ รมย์ บุริน : คือพี่เล็ก เอ๊ย ท่านเล็ก (กึ๋ยส์ ... กระแดะ เอ๊ย กระดากใจจริงๆ) ต้องขอบคุณมาก ที่มาติวภาษาไทยให้ “สูรย์ลาฟ้า” ตอนแรกไปนึกว่าอสูรกระโดดน้ำซะอีก อิอิ ปุจฉา : ทำไมมีภาพวังชื่อเรียกยากน้อยจัง ? วิสัชนา : ครือว่าคณะของเรามีเวลาเดินชมพระราชวังเพียง ๑ ชั่วโมงเท่านั้น จึงพยายามเดินไปที่วัดและจุดชมวิวที่อยู่สูงสุด จึงไม่ได้เก็บรายละเอียดมากนัก ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย และทั้งนี้เพราะไม่ค่อยได้ทำการบ้านก่อนออกเดินทาง ส่วนคำถามอื่นๆ นั้นคุณวลี (ตำนานเพลงเก่า) ได้ตอบไว้ชัดเจนพอสมควร เหลือแต่เพียงว่า .. สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีทรงพระประชวรด้วยโรคอะไรนั้นคงต้องรอให้ท่านผู้รู้มาตอบนะครับ ปล. เห็นใบเตยหอมนำรูปซอมพอแดงมาให้ชม พี่เล็กก็มีภาพซอมพออย่างชัดแจ้งแดงแจ๋ แต่เป็นดอกฟ้าที่ยังไม่โน้มมานั่งตัก ฮี่ๆๆ :oP จากคุณ : lek Isara - [ 14 พ.ค. 47 12:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ใครนินทา โอ้พี่เล็ก อิสรา หน้าหล่อเหลา มีรูปถ่าย ซอมพอ พ้อนงเยาว์ จักไปเข้า ฝันดีไหม ให้ใจครวญ !! จำเพลงดอกนกยูงได้นิดนึงค่ะ... ..ดูสิงามน้อยหรือไร  ถูกใจแต่ว่าอยู่สูง งามแท้หนอดอกนกยูง แม้ว่าอยู่สูง ก็ยังได้ชม ฉันพอใจ ในสีแสนสวย แม้นบุญช่วยคงได้สุขสม ขอให้ร่วงมากับลม ให้ฉันได้ชม..นะดอกนกยูง ... ขอบคุณภาพ ต้นซอมพอ ของคุณใบเตยหอมด้วยค่ะ งามแต๊ ๆ สวัสดีทุกท่านด้วยค่ะ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 14 พ.ค. 47 13:42:32 A:202.129.2.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอตอบผู้ที่เอ่ยพาดพิงถึงพี่(ลุง,ปู่)ออฯและพี่(ป้า,ย่า)เล็ก  นะครับ ขอบคุณน้องและหลาน ๆ ทุกท่านที่ระลึกถึงและแวะมาเยี่ยมเยียน ครับ ปู่กะป้ายินดีและมีความสุขมากที่มีส่วนได้ช่วยบริการเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้นว่าไม่ได้ข้ามฝั่งไปสีชังด้วย     เมื่อเปิดดูแผ่นซีดีที่มอบไว้ให้ปู่แล้ว เสมือนได้ร่วมไปกับคณะอย่างนั้นแหละ    ปู่อยู่ศรีราชามองเห็นสีชังทุกวันแต่ ไม่ได้พบเห็นภาพสวย ๆ งาม ๆ ที่เก็บมาฝากเลยนะ  รู้ไหม (ตัวเอง) เข้าทำนอง "ใกล้เกลือตีนด่าง"  ...แหะ ๆ ..แบบว่าเหยียบเกลือมาก  เกลือเลยกัดเอา...ฮี่ ฮี่ ขอบคุณมาก...สำหรับแผ่นซีดีที่"หลานเจ"มอบให้   ก็เปิดดูซ้ำ ๆ อยู่เสมอแหละ ตอบ...."คุณเล็ก" # 30   "ยัยหนู" ศาลาไทย # 58, 59    "คุณหมอวฤก" # 68    "คุณนายทิวา" # 78 เรื่อง"ก๋วยเตี๋ยว"นั้นปู่ตั้งใจไว้ในตอนแรกจะพาไปเลี้ยงที่ร้าน"ขลุกขลิก" พี่(ป้า)เล็กนะซี่  มาเปลี่ยนโผตอนหลังว่าเป็นร้าน"เกี๊ยวปลาเสวย"ดีกว่า เหตุผล ครือว่า....อยู่ใกล้แค่นี้เอง  .....คนกรุงเทพฯชอบแห่มาทานกันจัง ....อีกทั้งจะได้ไปลงเรือเร็วหน่อยเพื่อคณะจะได้เที่ยวสีชังเยอะ ๆ ปู่ก็เลยพลอยเห็นดีเห็นงามไปตามป้า  ด้วยประการฉะนี้แล เห็นป้ายชื่อร้าน"กังทงเฮง"ที่"ยัยหนู"ถ่ายโปรโมตไว้ในความเห็นที่ # 59 ปู่เพิ่งเห็นชื่อร้านชัด ๆ ก็ตอนนี้เอง   ใคร ๆ ก็เรียกร้านก๋วยเตี๋ยว"เจ๊กเฮง" เป็นที่รู้กัน    ฤๅว่าแป๊ะแก่ผมขาวแกชื่อ "กังทงเฮง"กระมัง ร้านนี้ดั้งเดิมอยู่ถนนอีกสายหนึ่ง   ย้ายมาที่นี่ 20 กว่าปีเห็นจะได้  ก่อนนั้นปู่ เช่าบ้านอยู่ในละแวกเดียวกันจึงรู้จักมักคุ้นกะ"เจ๊กเฮง"มานาน หนอยมาบอกว่าเราเป็น"คนเก่า คนแก่"ได้...ฮี่ ฮี่     เกี๊ยวปลาและเส้นบะหมี่แต่ก่อนดูเหมือนทำกันเอง  อร่อยเอาได้ว่างั้นเหอะ แต่ก่อนฝีมือเจ๊กเฮงล้วน ๆ บอกได้เลยว่า "ฮ่อ ๆ"  ว่ากันว่า  เคยไปทำถวาย ในหลวงที่พัทยามาแล้ว    จึงได้ชื่อว่า "เกี๊ยวเสวย" ไง...พะย่ะค่ะ ระยะหลังเจ๊กเฮงวางมือปล่อยหมวยทำเอง  รสชาดจึง"เปลี๋ยนไป" ตามที่เราท่านทั้งหลายได้ลองลิ้มในวันนั้น   แหะ ๆ...ใครไม่รู้นั่งโต๊ะเดียวกะปู่ พอทานไป ๆชามที่สอง   ทำไมหน้าจึงแดงขึ้นเรื่อย ๆ  ที่แท้ไปเติมพริกคั่วน้ำมัน ตั้ง 2 - 3 ช้อนแน่ะ     จะไม่ให้เผ็ดได้ไงล่ะ ปกติปู่กะป้าห่างเหิน  ว่างเว้นมิค่อยได้ไปอุดหนุนร้านนี้มาหลายปีแล้ว ก็เพิ่งสบโอกาส ก็วันนี้เอง    แต่ถ้าใครไปศรีราชาอยากรู้ด้วยตัวเองแวะไปลองชิม"เกี๊ยวเสวย" ตามที่"ยัยหนู"แนะนำละก็อย่าลืมไปชวนปู่ออฯกะป้าเล็กด้วย   จะได้ไปเก็บเงิน ค่าที่"ยัยหนู"โปรโมตร้านให้ไงล่ะ ขอบคุณ "ยัยหนู"-ศาลาไทย มาก ที่มอบหนังสือที่ชวนอ่าน 2 เล่ม ไว้ให้ปู่ เรื่องที่พักนั้น   ตอนแรกไปติดต่อ"แขวงการทาง"ในนามสถาบันเก่าไว้ให้ แต่ยัยหนูบอกว่าเพื่อน ๆ อยากพักค้างที่เกาะสีชัง   ก็เลยโทรติดต่อไปที่ "ถ้ำพังบีชรีสอร์ต" เท่าที่ทราบราคาไม่ค่อยแพงแต่เป็นพัดลมแถมเป็นห้องรวมด้วย จึงเปลี่ยนโทรไปติดต่อ"เบนซ์บังกาโลว์" ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักซึ่งน้องชายของ อาจารย์ชูศรี  วรณาภรณ์( อดีต อจญ.ร.ร.เกาะสีชัง )ผู้คุ้นเคยกะปู่มาก่อน  เปิดกิจการอยู่ ทราบว่าเป็นห้องแอร์   คิดราคาลดพิเศษในนามเพื่อน อ.ชูศรี   ขอขอบคุณอ.ชูศรี ไว้ตรงนี้ด้วยอีกครั้งหนึ่ง เรื่องที่จอดรถที่ว่านั้น  เจ้าของคือ "คุณธวัชชัย  จักกะพาก"  ( เสี่ยอู๊ด ) เป็นเทศมนตรีฯ รู้จักคุ้นเคยกะปู่พอควร    วันนั้นโชคดีเจอคุณธวัชชัย  จึงคิดราคาลดพิเศษดังที่ทราบกัน ก็ขอขอบคุณ คุณธวัชชัย อีกครั้งหนึ่ง "คุณหมอวฤก"  เคยเห็นแต่ชื่อและเคยอ่านแต่บทโคลงที่ไพเราะมานาน  เพิ่งพบ ตัวจริงเสียงจริงวันนั้นเอง  ดูยังหนุ่มฟ้อเลย   ยินดีที่ได้รู้จักครับผม "คุณ(หลาน)ชายนายทิวา"   เอ่ยถึงพี่(ลุง)ออฯและพี่(ป้า)เล็ก มากมายละเอียดละออ เชียวนะ  อ่านแล้วชักจะเขินเสียแล้วซี่    อ่านให้พี่(ป้า)เล็กฟังแล้ว    ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย หน้าป้าที่บานอยู่แล้วยิ่งบานเพิ่มไปอีกโดยเฉพาะที่ว่า"สาวมอเตอร์ไซด์แสนงาม"นั่นแหละ หนังสือเล่มเล็กที่มอบให้นั้น  ป้าชอบเปิดดูที่สุดหน้าไหนรู้ไหม ? ขอบอกว่า ก็ภาพปกด้านในไงล่ะ    ภาพคู่บ่าวสาวนั่นแหละ  ดูสะโอดสะอง ผิดกับปัจจุบันนี้เยอะเลย.....ถ้าหมุนกาลเวลากลับไปได้   ป้าคงอยากกลับไปอีกครั้งเป็นแน่ ปู่ก็เปิดดูเหมือนกัน.....ดูเพื่อปลง ครับ ขอบคุณมาก สำหรับเสื้อ"อาศรมชาวโคลง"ที่มอบให้สวมใส่พอดีเลย ครับผม ปู่ขอจบด้วยคำกล่าวเดิม ๆ ที่ว่า "ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง" คิดว่ายังคงเป็นจริงเสมอไป   จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 14 พ.ค. 47 15:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 96 บอกว่าอย่าอย่าร้อง...............ร้องขอ หมออื่นอาจมีพอ....................ผ่อนได้ บอกว่าอย่าขอหมอ...........-ลำนะ แม่นะ หมออาจอุบแอบไซร้.................ซุ่มร้องหมอลำฯ แหะ แหะ ขอรับ ปล. ทำ "สด-ใหม่" เข้ามา เจอ พี่(ลุงออฯ) พอดี ขออนุญาตสวัสดีงาม ๆ ขอรับ แหะ แหะ แล้วก็ต้องฝากไปถึงพี่(ป้า)เล็ก สาวมอเตอร์ไซค์คนงาม ด้วย ขอรับ แหะ แหะ นึกถึงเพลง "มอเตอร์ไซค์ทำหล่น" ของ "ศรเพชร" พี่(ลุง)ออฯ ห้ามไปแอบทำหล่น นะขอรับ แหะ แหะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 47 15:28:46 จากคุณ : นายทิวา - [ 14 พ.ค. 47 15:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ซอมพอ : วาทะแห่งปี “โอ้พี่เล็ก อิสรา หน้าหล่อเหลา” .............. เจี๊ยกกกกกกกกกก!!!! แหะๆ ธาตุแท้พรวดออกมาอย่างลืมตัว ... สงสัยหมอนี่จะหลอกนั่งตักจริงๆซะแล้ว ... อืมมม์   เดี๋ยววันนี้คงต้องคอเอียงแล้ว เพราะระหว่างที่ออฟฟิศกับที่จอดรถต้องผ่านกระจกหลายสิบบาน *** จากเนื้อเพลง “ขอให้ร่วงมากับลม ให้ฉันได้ชม..นะดอกนกยูง” ก็ขอให้สมพรปากนะจ๊ะ พี่ปู่ออฯ & ป้าเล็ก : ขอตอบในส่วนที่พิณพาทย์ เอ๊ย พาดพิงดังนี้ครับ ปุจฉา : ใครไม่รู้นั่งโต๊ะเดียวกะปู่ พอทานไป ๆชามที่สอง   ทำไมหน้าจึงแดงขึ้นเรื่อย ๆ   ที่แท้ไปเติมพริกคั่วน้ำมัน ตั้ง 2 - 3 ช้อนแน่ะ     จะไม่ให้เผ็ดได้ไงล่ะ วิสัชนา : สงสัยหมอนั่นคือคนรูปหล่อที่แม่หนูซอมพอฯ กล่าวไว้ในความเห็น ๙๔ แน่ๆเยย :oP ปุจฉา : ปกติปู่กะป้าห่างเหิน ว่างเว้นมิค่อยได้ไปอุดหนุนร้านนี้มาหลายปีแล้ว ก็เพิ่งสบโอกาสก็วันนี้เอง     วิสัชนา : ฟังดูแปลกๆนะครับ ปกติการใช้คำว่า “สบโอกาส” น่าจะใช้ตอนที่ป้า(เล็ก)เผลอมากกว่า ... ฮี่ฮี่ มั่ง อิอิ สุดท้ายจากปู่ออฯ “ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง” ชอบจริงๆครับ ผมก็เคยได้อ่านคำกลอนของพระรูปหนึ่ง (จำชื่อท่านไม่ได้แล้ว) ความว่า ... “ถึงไม่ใช่ญาติไม่ใช่เชื้อ   ถ้ามีความเอื้อเฟื้อก็เหมือนหน่อเนื้อเชื้อไข ถึงเป็นญาติเป็นเชื้อ         ถ้าไม่มีความเอื้อเฟื้อหน่อเนื้อก็หายไป” ทิวา : บอกว่าอย่าขอหมอ(วฤก)ลำ ........  ไม่รู้หมอวฤกเค้าลำแบบไหน?  .. เป๊กพ่อ! ปล. ดูรูปแล้วช่วยวิจารณ์ด้วยว่าคุณหมอ .... เค้าลำแบบไหน? ฮิฮิ จากคุณ : lek Isara - [ 14 พ.ค. 47 16:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ท่านใบเตยหอมครับ โห ที่แท้ซอมพอแดงเวลาออกดอกเต็มต้นแล้วงามแต๊ ๆ อย่างงี้นี่เอง ลมแล้ง (คูน) ก็เหลืองเต็มต้น ใครทราบบ้างว่ามีต้นอะไรอีกที่ออกดอก เต็มต้นได้บ้าง จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ท่านวลีครับ ขอบคุณท่านวลีด้วยครับที่ให้ข้อมูลเรื่องวัง ๆ ขอรับ ดู ๆ แล้วสีชัง เหมือนเป็นสถานที่พักฟื้นของพระบรมวงศานุวงศ์เลยครับ โชแปงนักเปียโนชื่อดังของโลกนั้นเสียชีวิตด้วยวัณโรคปอดที่กรุงวอร์ซอว์ วันที่ ๑๗ ตุลาคม ค.ศ. ๑๘๔๙ ครับ (พ.ศ. ๒๓๙๒) อายุ ๓๘ ปีเศษครับ... อยู่ในที่อากาศโปร่ง ๆ .... ทำให้การติดต่อเป็นไปได้ยากขึ้นสำหรับโรคนี้กระมัง แต่ช่วยให้หายนั้น ... อันนี้ต้องถามหมอครับ ... ท่าน lek isara ครับ ติวภาษาไทยให้ท่านนี่มิกล้าขอรับ เหามันจะขึ้นหัวผมอะครับ กระทู้นี่เร็วมากเลย แป๊บเดียวจะร่วมร้อยแล้ว... จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 15 พ.ค. 47 09:24:15 A:128.82.216.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 สีชังชังพี่แล้ว.....................หรือสี จึงแยกส่วนปฐพี.................ห่างกั้น คนดีอย่าด่วนหนี.................พี่ห่าง คอยพี่อยู่ที่นั้น...................พี่หว้ายไปหา จากคุณ : วิชชา - [ 15 พ.ค. 47 11:50:24 A:202.29.32.154 X: ]

ความคิดเห็นที่ 100 ใบเตยเอามารูปมาฝากอีกค่ะ  พอดีเอาไปฝากไว้ในเวปมะนาว พยายามคัดรูปที่บอกบรรยากาศบนเกาะมาให้ดูกัน ลองเข้าไปดูนะค่ะ   อ่านเพลินเลยกระทู้นี้  น่ารักกันทุกคน จริง ๆ นะค่ะ  ไม่ได้ยกยอปอปั้น  น่ารักจริง ๆ http://photos.lemononline.com/gallery/frame.asp?alb=183099&g= จากคุณ : ใบเตยหอม - [ 15 พ.ค. 47 22:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ว้าว.............. เพิ่งกินข้าวอิ่มๆ มาอ่านโคลง กลอน เรื่องเล่า เคล้าภาพสวยๆ ยิ่งอิ่มอาบกำซาบเข้าไปใหญ่ 555 เรื่องหนุกมากๆ ค่ะ อ่านแล้วเหมือนติดสอยห้อยเกาะไปด้วยเลย ภาพก็สวย ชอบสุดๆ ก็ภาพดอกลั่นทม, ดอกรัก แล้วก็อาหาร..............ร น่ากินๆ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันอ่านจนอิ่มจ้า :D จากคุณ : Pen (จันทร์เพ็ญ จันทนา) - [ 16 พ.ค. 47 14:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เนื่องจากระทู้ยาว  และโหลดนาน  เนื่องจากมีภาพแยะ  แต่... ๏ ๏ ๏ นิราศสีชัง ๏ ๏ ๏  (ยังไม่จบ) ขออนุญาตรวบกระทู้ไปต่อกันที่อาศรมฯ ภาคใหม่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2818766/W2818766.html จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 16 พ.ค. 47 17:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 103 *** ขออภัยน้อง ศ. นะจ๊ะ ... ขอต่อกรอบเดียว เพราะอยากตอบบางความเห็นเพื่อความต่อเนื่องดังนี้ รมย์ บุริน : อืมม์ .. ไว้ผมแอบเรียนแบบครูพักลักจำก็ได้ครับ ใบเตยหอม : ไปด้วยเหมือนกันเหรอ  ... ภาพสวยดีจ้ะ ..  อิอิ Pen : ซื้อกล้องจุลทรรศน์มาถ่ายรูปเหรอจ๊ะ จ๋วยจัง สีสวยเหมือนสีน้ำเลย #๙๙ ๏ สีชังชังพี่แล้ว                 ละลายสี โลมลูบลีลาวดี                  แต่งแต้ม งามแงะดั่งดรุณี                 แรกรุ่น ลาก่อนมิอาจแง้ม              จิตเง้างามงอน ๚ ปล. ขอเชิญไปต่อกระทู้ใหม่กันได้เลยครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2818766/W2818766.html จากคุณ : lek Isara - [ 16 พ.ค. 47 20:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 104 แวะมาชื่นชอบ และ..ชื่นชมค่ะ ^_* จากคุณ : ..วาวา.. - [ 19 พ.ค. 47 10:02:39 ]