CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ว่าด้วยเรื่องของ 18 มงกุฎ

    ว่าด้วยเรื่องของ 18 มงกุฎ

    ผมอ่านบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ของรัชกาลที่ 2 และบ่อเกิดรามเกียรติ์ของรัชกาลที่ 6 จบเมื่อประมาณปลายปี 46 หลังจากอ่านจบแล้วก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่า จะต้องเสาะหาฉบับของรัชกาลที่ 1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นรามเกียรติ์ฉบับสมบูรณ์ที่สุดของไทยมาอ่านให้จงได้

    ผมเก็บความคิดนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว และก็ทอดระยะเวลาระเรื่อยมาจบถึงเดือนกันยายน 47 อยู่มาวันหนึ่ง ความคิดอะไรก็ไม่ทราบได้เข้ามาสะกิดผมเกี่ยวกับเรื่องของทหารของพระรามคณะหนึ่ง ที่พวกเรารู้จักกันดีในนามของ “18 มงกุฎ”

    ความคิดที่ว่านั้นคอยย้ำเตือนผมว่า 18 มงกุฎนั้นจะมีเพียง 18 ตัวจริง เพราะจำได้เลา ๆ ว่าสมัยที่อยู่มัธยมปลาย ผมเคยอ่านสารานุกรมไทยฉบับของ “อุทัย สินธุสาร” (ความจำกว่า 80 % ของผมบอกว่าเป็นหนังสือชุดนี้) เขาบอกว่า 18 มงกุฎมีประมาณยี่สิบกว่าตัว (ผมจำจำนวนแน่นอนไม่ได้ แต่จำได้ว่าเคยคัดไว้ในสมุดบันทึก แต่ก็จนด้วยเกล้าที่จะเอามาเป็นหลักฐาน เพราะว่าสมุดเล่มนั้นหายไปเกือบ 10 ปีแล้ว) และผมก็ค่อนข้างที่จะเชื่อว่ามีมากกว่า 18 ตัวแน่นอน ก็เลยไหว้วานเพื่อนร่วมงานช่วยไปหารายชื่อ 18 มงกุฎมาให้หน่อย ซึ่งก็ตรงตามที่ผมคิดไว้ เขาหามาให้ 18 รายชื่อจริง ๆ

    ด้วยความที่เป็นคนหัวแข็ง ไม่ยอมเชื่ออะไรง่าย ๆ ผมเลยไปพลิกตำราวรรณคดีวรรณกรรมเก่า ๆ ของอาจารย์ภาษาไทยที่มีชื่อเสียง เขาก็เขียนว่าเป็นคณะทหารของพระราม มี 18 ตัว แต่ไม่ได้บอกชื่อเอาไว้ ดังนั้น 18 มงกุฎสำหรับผมก็เลยเป็นปริศนาค้างคาใจเรื่อยมา ว่าตกลงจริง ๆ แล้วมีกี่ตัวกันแน่ และแต่ละตัวมีชื่อเรียกว่าอะไร ดังนั้นผมจึงต้องลงทุนอ่านรามเกียรติ์ฉบับของรัชกาลที่ 1 ที่มีอยู่ในห้องสมุด โดยตั้งใจว่าจะต้องหารายชื่อพวก 18 มงกุฎมาจนครบให้ได้

    ไม่ว่ามันจะขาดหรือเกินก็ตาม !?!?

    ทีนี้ลองย้อนกลับมาดูรายชื่อที่เพื่อนร่วมงานผมหามาให้ก่อน เขาไปเอามาจากอินเตอร์เนต (เวปวัดหัวลำโพง) มีรายชื่อดังนี้

    1. เกยูร
    2. โกมุท
    3. ไชยามพวาน
    4. มาลุนทเกสร
    5. วิมล
    6. ไวยบุตร
    7. สัตพลี
    8. สุรกานต์
    9. สุรเสน
    10. นิลขัน
    11. นิลปานัน
    12. นิลปาสัน
    13. นิลราช
    14. นิลเอก
    15. วิสันตราวี
    16. มายูร
    17. กุมิตัน
    18. เกสรมาลา
    (สะกดตามที่ได้มา)

    นี่คือรายชื่อพวก 18 มงกุฎจากอิเตอร์เนต พอได้รายชื่อมาแล้ว ผมก็ลองสอบทานกับรามเกียรติ์ฉบับของรัชกาลที่ 1 ตอนที่พระนารายณ์ พระลักษมีและเทพอาวุธประจำพระองค์จะอวตาร/แบ่งภาคมาเกิด พร้อม ๆ กับเทวดาทั้งหลายที่ร่วมใจกันแบ่งภาคลงมาด้วย โดยมีพระอิศวรเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับกำเนิดของแต่ละองค์ ดังคำกลอนต่อไปนี้

    เจ้าจงไปเกิดเถิดเป็นกษัตริย์ สุริยวงค์จักรพรรดิ์มหาศาล
    ทรงนามนารายณ์อวตาร ในสถานกรุงศรีอยุธยา
    จักรเป็นพระภรตยศยง ถัดองค์นารายณ์เชษฐา
    ฝ่ายสังข์บัลลังก์นาคา เป็นพระลักษมณ์อนุชาฤทธิรอน
    อันซึ่งคธาวราวุธ เป็นพระสัตรุดชาญสมร
    องค์พระลักษมีบังอร ไปเกิดนครลงกา
    ชื่อว่าสีดานงลักษณ์ เป็นบุตรทศพักตร์ยักษา
    จงไปศรีสวัสดิ์วัฒนา อย่ามีโรคาเภทภัย

    เมื่อนั้น ฝูงเทพเทวาน้อยใหญ่
    ต่างทูลอาสาพระภูวไนย จะขอไปเป็นพลพระอวตาร
    มาล้างเหล่าอสูรพาลา ที่หยาบช้าเบียนโลกทุกสถาน
    พระราหูฤทธิไกรชัยชาญ เป็นทหารชื่อนิลปานัน
    พระพินายนั้นเป็นนิลเอก พระพิเนกนั้นเป็นนิลขัน
    พระเกตุเป็นเสนีกุมิตัน พระอังคารเป็นวิสันตราวี
    พระหิมพานต์จะเป็นโกมุท พระสมุทรนิลราชกระบี่ศรี
    พระเพลิงเป็นนิลนนท์มนตรี พระเสารีเป็นนิลพานร
    พระศุกร์เป็นนิลปาสัน พระหัสนั้นเป็นมาลุนทเกสร
    พระพุธเป็นสุรเสนฤทธิรอน พระจันทรเป็นสัตพลี
    วิรุฬหกวิรุฬปักษ์สองตระกูล เป็นเกยูรมายูรกระบี่ศรี
    เทวัญวานรนอกนี้ บาญชีเจ็ดสิบเจ็ดสมุทรตราถ้าจะลอง

    เทียบกันระหว่า 18 มงกุฎในอินเตอร์เนต กับรายชื่อตอนที่ทวยเทพต่างแบ่งภาคลงมาเกิด เราจะพบว่ามีชื่อตรงกัน 13 ตัว คือ เกยูร โกมุท มาลุนทเกสร สัตพลี สุรเสน นิลขัน นิลปานัน นิลปาสัน นิลราช นิลเอก วิสันตราวี มายูรและกุมิตัน ส่วนที่เหลือคือ (เปรียบเทียบทั้ง 2 ข้อมูล) ไชยามพวาน วิมล ไวยบุตร เกสรมาลา (ในอินเตอร์เนต) กับ นิลนนท์และนิลพานร

    ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ส่วนที่เหลือคืออะไร เพราะถ้าเรานับรวมกันโดยไม่ให้ชื่อซ้ำ จำนวนที่ได้ก็คือ 19 ตัว

    ส่วนพระราชอรรถาธิบายของรัชกาลที่ 6 เกี่ยวกับการแบ่งภาคมาเกิดของเทวดาใน “บ่อเกิดรามเกียรติ์” หน้า 875-876 ทรงกล่าวไว้ว่า

    “ฝ่ายทวยเทพทราบว่า พระนารายณ์จะเสด็จอวตารไปมนุษยโลกก็ยินดีโดยทั่วกัน นัดกันแบ่งภาคของตน ๆ ไปให้กำเนิดเป็นบริวาร พระพรหมาตรัสว่า พระองค์ได้สร้างชมพูพานผู้เป็นราชาแห่งหมีแล้ว คือได้หาว ชมพูพานก็ออกจากพระโอษฐ์…พระพรหมาตรัสให้เทวดาอื่น ๆ แบ่งภาคสร้างวานรเป็นบริวารพระรามาวตารบ้าง เทวดาก็ทำตามพระบัญชา พระอินทร์สร้างพาลี พระอาทิตย์สร้างสุครีพ พระพายสร้างหนุมาน พระวิศวกรรมสร้างนล (ซึ่งเราเรียกว่านิลพัท และว่าเป็นลูกพระกาฬ) พระเพลิงสร้างนิล (ซึ่งเราเรียกว่านิลนนท์) นอกจากนั้นมีกล่าวแต่ว่า พระพฤ-หับดีสร้างตาระ (ของเราเรียกมาลุทเกสร) ท้าวกุเวรสร้างคันธมาทน์ พระพิรุณสร้างสุเนษ (ซึ่งตามสำเนียงน่าจะเป็นสุรเสร แต่ของเราว่าสุรเสรพระพุธสร้าง) พระปรรชัญสร้างสรรพะ พระอัศวินเทวดาฝาแฝดสร้างเมนทะกับทวิวิท”

    เมื่อเปรียบเทียบระหว่างในอินเตอร์เนตกับของทั้ง 2 รัชกาล เราจะพบว่า นอกจากชื่อที่ซ้ำกันแล้ว (ตัดพาลี สุครีพและหนุมานออก เพราะมีศักดิ์เหนือกว่าพวก 18 มงกุฎ) มีมาเพิ่มอีก 2 คือ เมนทะกับทวิวิท ที่พระอัศวินเป็นผู้สร้าง รวมเป็น 21 ตัว

    นอกจากนี้ยังมีตอนที่สุครีพและท้าวชมพูเกณฑ์ทัพเพื่อไปช่วยพระราม ซึ่งทั้งสองเมืองต่างก็เลือกทหารที่จัดเป็นยอดฝีมือมาทั้งนั้น และจะเป็นเหตุบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่ทราบที่ว่า รายชื่อนายทหารทั้ง 2 เมือง คือเมืองขีดขินของสุครีพ และเมืองชมพูของท้าวชมพูหลายตัวต่างไปสอดคล้องกับรายชื่อ 18 มงกุฎที่ได้จากอินเตอร์เนตและจากตอนเทวดาแบ่งภาค ดังคำกลอนต่อไปนี้


    จึงจัดนายกองคุมทหาร สุรเสน-สุรกานต์แกล้วกล้า
    อุศุภ-ศรราม-ปิงคลา มาลุน-วาหุโลมชาญยุทธ์
    เจ็ดนายให้คุมพลากร วานรร่วมสามสิบสมุทร
    เกยูร-รสคันธ์-โกมุท ไวยบุตร-มหัทวิกัน
    คุมพลสิบสมุทรไท ล้วนฤทธิไกรแข็งขัน
    ทวิพัท-มากันจวิกนั้น ได้บัญชาการวานร
    สิบสมุทรสามารถอาจอง รณรงค์ห้าวหาญชาญสมร
    ล้วนถืออาวุธครบกร ซับซ้อนโดยกระบวนยาตรา
    (ทัพเมืองขีดขิน)

    บัดนั้น มหาเสนาชาญสมร
    ก้มเกล้ารับสั่งพระภูธร บทจรออกจากพระโรงคัล
    จัดเอานิลเอก-นิลนนท์ คุมพลสิบสมุทรแข็งขัน
    ขุนนิลกับนิลปานัน สองนายนั้นมีปรีชา
    ให้คุมวานรเจ็ดสมุทร ล้วนมีฤทธิรุทรแกล้วกล้า
    นิลราช-นิลขันผู้ศักดา คุมวานรห้าสมุทรไท
    วิสันตราวี-ขุนนัน โชติมุกสามตนเป็นนายใหญ่
    ให้คุมพหลพลไกร ห้าสิบสมุทรไทห้าวฮึก…
    (ทัพเมืองชมพู)

    หลังจากจัดทัพเสร็จแล้ว ทั้งสองเมืองต่างก็เคลื่อนขบวนไปเฝ้าพระรามที่เขาคันธมาทน์แต่ได้เจอกับหนุมานก่อน หนุมานจึงพาทั้งหมดเข้าเฝ้า ซึ่งตอนนี้มีการเรียกชื่อเป็น 18 มงกุฎอย่างชัดเจน กล่าวคือ

    บัดนั้น วายุบุตรวุฒิไกรใจหาญ
    เห็นพญาสุครีพชมพูพาน ลูกพระกาฬองคตฤทธิรอน
    กับสิบแปดมงกุฎทหารใหญ่ มีใจชื่นชมสโมสร
    ก็พาท้าวพญาวานร บทจรไปเฝ้าพระจักรี

    ถ้าเราอ่านทั้ง 5 ข้อมูล (ในอินเตอร์เนต-รามเกียรติ์ตอนแบ่งภาคของรัชกาลที่ 1 ของรัช-กาลที่ 2 ตอน สุครีพและท้าวชมพูเกณฑ์ทัพและรัชกาลที่ 6) แล้วมาจัดระบบใหม่ ก็จะพบว่า มีตัวละครที่มีชื่อเพิ่มซึ่งอาจสงเคราะห์เข้าในพวก 18 มงกุฎได้อีก 10 ตัว คือ อุศุภ ศรราม วาหุโลม รสคันธ์ มหัทวิกัน ทวิพัท มากันจวิก ขุนนิล ขุนนันและโขติมุก

    หากจะนับรวมกันกับ 21 ที่เอ่ยนามมา ก็จะกลายเป็น 31 ตัว
    แต่ข้อมูลผมยังไม่หมดแค่นั้น เพราะผมอดเฉลียวใจว่า 18 มงกุฎนั้นเป็นสำนวนไทยสำนวนหนึ่ง จึงลองไปเปิดหนังสือ “สำนวนไทย” ของขุนวิจิตรมาตราดูก็พบคำอธิบายที่ทำให้ อึ้งอยู่เหมือนกัน ว่า “สิบแปดมงกุฎ หมายความว่า นักเลงการพนันใหญ่ คำสิบแปดมงกุฎมีปรา-กฎในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นคำเรียกทหารพระรามที่เป็นลิงชั้นนายมีมงกุฎสวม 18 ตัว เช่น นิลเสน นิลนนท์ นิลปาสัน ฯลฯ…”

    ที่ผมว่าอึ้งก็เพราะว่า กลับมีชื่อ “นิลเสน” ขึ้นมาอีก 1 ชื่อ และขุนวิจิตรฯก็ยังยืนยันว่า 18 มงกุฎมี 18 ตัว แต่ถ้าเราลองบวกนิลเสนเข้าไปอีก ก็จะเป็น 32

    ปัญหาจึงเกิดขึ้นว่า ตกลง 18 มงกุฎมีกี่ตัวกันแน่ และทั้ง 32 ชื่อซึ่งต่างก็มีความสำคัญ เพราะต่างมีนามเอ่ยอยู่ในตอนที่กล่าวถึง 18 มงกุฎทั้งสิ้น เสียดายที่ผมไม่มีรามเกียรติ์ฉบับของพระเจ้ากรุงธนฯ และฉบับสันสกฤต (เล่มหลังนี่น่าจะไขปริศนาของเราได้) ไม่เช่นนั้นเราคงจะได้รู้กันเสียทีว่า ตกลง 18 มงกุฎมีกี่ตัวกันแน่ และแต่ละตัวมีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร เพราะในหนังสือแต่ละเล่มก็ไม่ได้บอกแบบฟันธงซักเล่มเลย

    ใครรู้ช่วยบอกถี… (กรุณาอย่าอ่านเป็น "ที")


    หนังสืออ้างอิง
    1. กรมศิลปากร. (2512). บทละครเรื่องรามเกียรติและบ่อเกิดรามเกียรติ์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์บรรณาคาร.
    2. กรมศิลปากร. (2540). บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจะฬาโลกมหาราช. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศิลปาบรรนาคาร.
    2. ขุนวิจิตรมาตรา. (มปป.) สำนวนไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : บริษัทดวงกมลสมัย.

    จากคุณ : ปะหล่อง - [ 29 ก.ย. 47 12:57:38 A:202.29.78.9 X: ]