บทที่ 4 มาสเตอร์คนที่ 10
ริซไม่กลับมากินข้าวกลางวันนะคะ...พี่เดฟไปกันเร็ว...บายค่ะแม่ เด็กสาวกล่าวลาแล้วไปที่รถกับพี่ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วเธอ ไบรท์ และมาย จึงนัดติวหนังสือกัน โดยมีพี่ชายที่อ้างว่าจะไปช่วยติวตามไปด้วยเช่นเคย
รถสีดำคันหรูป้ายแดงแล่นออกจากคฤหาสน์เซฟเตอร์ไปยังคฤหาสน์เซรินการ์ดโดยใช้เวลาไปไม่กี่อึดใจก็ถึง เมื่อลงจากรถแล้วทั้งคู่ก็ไปทักทายคุณและคุณนายเซรินการ์ดก่อนจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปห้องสมุดของคฤหาสน์นี้
สวัสดีจ้ะมาย แล้วไบรท์ล่ะ ริซกวาดตามองหาเจ้าบ้านไปทั่วแต่ก็ไม่เห็น ตอนคุยกันกับพ่อและแม่ของไบรท์ก็ไม่เห็นพวกท่านจะพูดอะไรถึงลูกชายคนโปรด
ยังไม่ตื่นมั้ง ...ไม่เห็นเลยนี่
แย่จริงๆ...เป็นเจ้าของบ้านแท้ๆแต่ให้แขกมานั่งรอ...ดีล่ะ งั้นฉันรับหน้าที่ไปปลุกเอง...คัมภีร์ออกมา! แสงสีทองสว่างวาบ ล็อกเกตเปิดออกแล้วคัมภีร์ก็ออกมาอย่างรู้หน้าที่ แถมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กันกับผู้เป็นนาย
ไม่ต้องไปปลุกเลย ฉันมาแล้ว... ไบรท์เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างโต๊ะแล้วส่งสายตารู้ทันมาให้คัมภีร์และริซที่กำลังทำหน้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง...คงไม่มีใครอยากถูกปลุกโดยสองคนนี้ โดยเฉพาะเขาที่เจอวิธีปลุกแปลกใหม่ไม่ซ้ำกันเลยซักครั้ง และมันก็ไม่เหมือนชาวบ้านซะด้วยสิ
อืม...เป็นอันว่าครบ...แล้วเราจะต้องสอบวิชาอะไรกันบ้างล่ะเนี่ย
ริซ...เธอไม่ได้ดูหรอว่าสอบวิชาอะไรบ้าง พออีกฝ่ายพยักหน้ามายก็ตอบให้อย่างอ่อนใจ ก็มี...ภาษาเวทย์...ประวัติฯ...ทฤษฎีธาตุ...ความรู้พื้นฐานทั่วไป...แล้วก็การใช้ธาตุ
ไปซื้อหนังสือเตรียมสอบกันไม่ง่ายกว่าหรอ...ฉันว่ามาหาในนี้อ่านคงไม่ไหวมั้ง ริซเสนอ เพราะหนังสือในนี้มีความละเอียดมากซึ่งมันก็ดีอยู่หรอกถ้าไม่ใช่ว่าแต่ละเล่มนั้นหนาจนน่ากลัว
อืม...ตอนสอบพี่ก็ซื้อหนังสือเตรียมเหมือนกัน...แต่ทำไมเราไม่นัดกันที่ร้านหนังสือล่ะ
ก็เผื่อมาปลุกคนบางคนล่ะมั้ง ริซว่าพลางส่งสายตาไปให้คนที่พูดถึงแล้วส่งยิ้มหวาน
*** T *** L *** O *** S *** A *** H ***
เล่มนี้ดีมั๊ย...เตรียมสอบเข้าเอสเอสโดยเฉพาะเลย แล้วก้เอาเสริมๆไปอีก หลายๆเล่ม หลายๆสำนักพิมพ์ ริซเสนอ เมื่อพี่ชายและเพื่อนๆพยักหน้าเธอก็แทบจะคว้าบนชั้นนั้นมาหมดทุกเล่ม เพราะหนังสือทั้งแถบเป็นหนังสือเตรียมสอบของโรงเรียนชื่อดังแห่งนี้ทั้งนั้น
ซันไชน์ สคูล ( Sunshine School ) หรือ เอสเอส ตามที่เรียกกันเป็นโรงเรียนชื่อดังที่สุดจึงไม่แปลกที่จะมีหนังสือเตรียมสอบออกวางขายเกลื่อนกลาดขนาดนี้ ริซเลือกหนังสือเล่มที่สำนักพิมพ์น่าเชื่อถือ เนื้อหาด้านในดี ถึงแม้แต่ละเล่มก็ไม่ใช่บางๆแต่ถ้าเทียบกับหนังสือในคฤหาสน์เซรินการ์ดแล้วมันก็ถือว่าบางน่าอ่านกว่า แล้วก็เจาะลึกตรงจุดกว่าด้วย...ตอนนี้หนังสือในอ้อมแขนรอซมีมากจนต้องแบ่งแจกจ่ายไปให้เพื่อนๆและพี่ชายช่วยกันถือ...ไม่รู้ว่าจะอ่านหมดรึเปล่า
ได้หนังสือแล้ว...ไปดูหนังสืออย่างอื่นกันก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวค่อยกลับ พี่ชายผู้รู้ใจน้องสาวกล่าวเพราะเห็นน้องตาเป็นประกายเมื่อเห็นหนังสือที่ตนเองสนใจ ซึ่งเพื่อนๆของเธอที่เป็นผู้สังเกตการณ์ก็เหมือนจะเห้นเช่นเดียวกันจึงแยกย้ายกันไปโดยมีจุดนัดหมายคือตรงบริเวณขายน้ำในร้านหนังสือชื่อดังแห่งนี้
ริซฝากคัมภีร์ไว้ที่มายแล้วเดินไปแผนกเวทย์ ซึ่งมีหนังสือภาษาเวทย์ที่เธอต้องเรียนที่หยิบติดมือมาเรียบร้อย และหนังสือเวทย์ที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย ทั้งที่ไม่ค่อยจะชอบอ่านหนังสือเล่มหนา แต่ถ้าเป็นหนังสือพวกนี้ล่ะก็ ต่อให้หนาเป็นหมื่นหน้าก็ไม่เกี่ยง
ขณะที่เดินผ่านคนคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนอ่านหนังสือภาษาเวทย์เล่มเดียวกับที่เธอซื้อมาอย่างคร่าวๆนั้น เธอก็เกิดความรู้สึกประหลาด รู้สึกถึงเส้นทาง...ความร้อน...แสงสว่าง...ความแข็งแกร่ง...ความจริงใจ...พลัง และอำนาจ มันเป็นความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด และมันก็ทำให้เธอยิ้มออกมา...
เธอหันไปมองเด็กหนุ่มผู้มีสีหน้าเรียบเฉยและอายุคงจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่กำลังอ่านหนังสือ แต่ถึงจะสีหน้าเรียบเฉยเพียงใดริซก็ยังมั่นใจว่านอกจากความรู้สึกพวกนั้นแล้ว ยังมีความรู้สึกกังวลแฝงมาด้วย และมั่นใจอีกว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องสอบเรื่องเดียว...
- - ในที่สุดฉันก็เจอแล้ว...เดอะคราวน์มาสเตอร์ มาสเตอร์คนที่10 - - คิดแล้วยิ้มเพราะรู้ว่าเรื่องที่มาสเตอร์กังวลก็คงไม่พ้นเรื่องของวิเศษที่ต้องให้เดอะคีย์เป็นผู้ช่วยแนะนแวทางการแก้ไขให้พวกของวิเศษนั้นยอมรับ เพราะส่วนมากของวิเศษนั้นมักไม่ยอมรับเจ้าของง่ายๆ แต่ละชิ้นมีจุดไขของตัวเอง มีแต่เดอะคีย์ที่พอจะรู้จุดของมัน
*** T *** L *** O *** S *** A *** H ***
เมื่อริซเดินมาเดฟ ไบรท์ และมายจึงหันไปมองคิดว่าจะมานั่ง แต่ผิดคาด...เอกลับเดินไปนั่งที่โต๊ะข้างๆแทน
สวัสดีจ้ะ...ขอนั่งด้วยคนนะ
อยากนั่งก็นั่งไปสิ โต๊ะอื่นไม่มีให้นั่งหรือไงล่ะ ปากบอกอย่างนั้นแต่มือกลับขยับตั้งหนังสือออกให้ทำให้อีกฝ่ายส่งยิ้มให้แล้วแอบคิดในใจ
- - หมอนี่นี่ยังไงนะ ท่าทางปากเสีย แต่ปากอย่างใจอย่าง...เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจอย่างนี้นี่เอง มิน่า...มงกุฎมันถึงไม่ยอมรับ - -
ขอบใจจ้ะ ใบหน้ายังคงยิ้มระรื่นแล้วพุดอย่างสุภาพ
คือ...ฉันชื่อ ริซ ริเซย่า เซฟ- ยังไม่ทันจะพูดจบอีกฝ่ายก็ขัดขึ้นก่อน
ไม่ได้ถามซักนิด ริซอดทนนับหนึ่งถึงห้าในใจยิ้มแล้วกล่าวอย่างสุภาพ
ฉันก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับในฐานะมาสเตอร์ด้วยกันเท่านั้นล่ะ แล้วก็ได้ผลอย่างที่เจ้าตัวคิด เพราะเพียงได้ยินคำว่ามาสเตอร์ ชายหนุ่มผู้มีผมสีดำและนัยน์ตาสีนิลก็หันมาสบตาเธอเต็มๆ และเด็กสาวก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
มาสเตอร์...ฉันว่า...อย่างเธอน่ะไปนั่งจัดดอกไม้ที่บ้านยังจะเหมาะกว่า เด็กสาวยังคงยิ้มรับและ ( พยายาม ) มองโลกในแง่ดีว่าเขาชมเธอว่าเรียบร้อย การที่เธอมีความอดทนดีและยิ้มรับอย่างนี้ทำให้คัมภีร์ในมือมายที่มองจากโต๊ะข้างๆแปลกใจ
แต่ฉันว่าหน้าที่มาสเตอร์อาจจะเหมาะกับฉันก็ได้...เอาล่ะ ฉันขอแนะนำอย่างเป็นทางการในฐานะมาสเตอร์ละกันนะ ฉัน-
ริเซย่า เซฟเตอร์...คุณหนูตระกูลเซฟเตอร์ทำไมฉันจะไม่รู้จัก ถึงฉันจะเป็นชาวโฟรอลแต่ก็ย่อมได้ยินความโด่งดังของตระกูลผู้ค้าอัญมณีที่มีชื่อเสียงของเรคาลเป็นธรรมดา ...ฉัน แควเรียส โซน หลังจากพูดจบก็ยื่นมามาจับก่อนจะอ่านหนังสือต่อตามเดิม
แล้วมีอะไรให้ฉันช่วยรึเปล่า แควเรียส เสียงหวานเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร แต่คนตอบกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ช่วยเงียบๆหน่อยก็ดี ฉันจะอ่านหนังสือ
งั้นก็มาอ่าน มาติวกับพวกฉันสิ รับลองเข้าได้แน่...มีรุ่นพี่ผู้มีประสบการณ์เป้นวิทยากรพิเศษให้เชียวนะ เธอไม่รอคำตอบแต่จัดการใช้ธาตุลมย้ายที่ตัวเองและแควเรียสไปนั่งอีกโต๊ะอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับนำหนังสือกองโตของเขาย้ายไปด้วย
ใคร คำถามจากพี่ชายทั้งที่เมื่อครู่ตั้งใจฟังบทสนทนาทุกถ้อยคำไม่ให้มีเล็ดลอด
รู้กันอยู่แล้วนี่ ไม่ต้องถามหรอก...ในที่สุดเราก็เจอมาสเตอร์คนที่ 10 ซะที...แควเรียส นี่พี่เดฟพี่ชายของฉัน แล้วก็นี่มายแล้วก็ไบรท์ เพื่อนฉัน ทั้งสามคนก็เป็นมาสเตอร์เหมือนกัน ริซจัดการแนะนำในขณะที่แควเรียสหรี่ตาลงมองแล้วใช้ความคิดก่อนจะเอ่ย
ซอร์ด มาสเตอร์...มิลเลอร์ มาสเตอร์...ชีลด์ มาสเตอร์ ทั้งโต๊ะหันมามองอย่างพิจารณา ขนาดคนที่ดูจะไม่ค่อยสนใจอย่างไบรท์ยังหันมาสบตาเขาเต็มๆ
สมเป็นคราวน์ มาสเตอร์...แต่ทำไมถึงไม่รู้ว่าริซเป็นมาสเตอร์ คำถามของมายทำให้รู้ได้ชัดเลยว่าฟังบทสนทนาก่อนหน้านี้ทั้งหมด
มาสเตอร์แต่ละคนจะมีลักษณะของตัวเอง ฉันเคยอ่านเจอในหนังสือตำนาน แล้วก็เคยไปดูภาพรุ่นก่อนๆในโบสถ์ในตัวเมืองของที่นี่ และฉันก็เป็นเดอะคราวน์ มาสเตอร์ เรื่องรัศมีเวทย์ หรือสิ่งต่างๆก็พอรู้ แต่ของริเซย่า...ฉันดูไม่ออก เป็นคำตอบที่ทำให้ไม่มั่นใจว่า คนตรงหน้ายังอ่อน...ริซสามารถพลางเวทย์ได้ดี หรือริซมีรัศมีของโฮลีเซนต์อ่อนกันแน่
โบสถ์ที่แควเรียสพูดถึงคือโบสถ์ที่อยู่ในเรคาล ซึ่งของโฮลีเซนต์ ภายในโบสถ์จะมีภาพโฮลีเซนต์รุ่นแรกทั้ง 19 คนอยู่ที่ผนังถ้ำซึ่งวาดคู่กับของวิเศษประจำตัว และมีหนังสือบางเล่มได้กล่าวถึง เพราะเป็นตำนานดังที่เชื่อกันว่าเป็นจริงของชาวเซนต์เทรีย
ฉัน เป็น เดอะคีย์ มาสเตอร์ ย้ำคำพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ แควเรียสหันมาสบนัยน์ตาคู่หวานสวยตรงหน้า ก่อนจะส่ายหัว
โกหก...เดอะคีย์มาสเตอร์ทุกรุ่นดูก็รู้แล้วว่าฉลาด
แต่เธอดูใสซื่อไม่เหมาะ พูดตามที่คิดทำให้ผู้ที่ถูกชมว่าใสซื่อนั้นยิ้ม ขณะที่พี่ชายและเพื่อนสาวนั้นต้อนกลั้นหัวเราะส่วนไบรทืนั้นหันหน้าไปอีกทางจึงไม่มีใครรู้ว่าอาการเป็นอย่างไรกับคำพูดของแควเรียส
ขอบใจ...ฉันถือว่าเป็นคำชม ว่าแต่...ฉันเคยเห็นนายที่ไหนมาก่อนรึเปล่า เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าจึงได้ถามต่อ ที่ไหน เมื่อไหร่
ในฝันมั้ง คำตอบกวนไปนั่นแต่จริงๆแล้วมันตรงแค่ครึ่งเดียว เขาเคยเจอเธอจริงๆ แต่ไม่คิดบอกตอนนี้...
จากคุณ :
^^กระต่ายสีชมพู^^
- [
9 ธ.ค. 47 20:00:51
A:202.129.43.109 X:
]