ความคิดเห็นที่ 1 กลอนสุภาพ        ๏   ขึ้นปีเถาะ ในศักราชแห่งพุทธวงศ์ มหาปราชญ์แห่งเผ่าพงศ์สุขสมัย พระมหาธรรมราชาธิราช..ราชวงศ์สุโขทัย ก่อเชื้อฉกาจ.เกิดในแผ่นดินธรรม... ๚ ................๑     ๏   พระวิสุทธิกษัตริย์ แห่งกรุงศรี  ฯ. พระมารดาคือบุตรีผู้สูงล้ำ แห่งพระสุริโยทัย. ฝ่าคชนำ เทพฯประทาน*พระองค์ดำ*.พระหน่อชาย..๚ ................๒       ๏  ณ เมืองพิษณุโลก ในวันนั้น พระนเรศ ลอยสวรรค์หลั่นผินผาย สองพันเก้าสิบแปด (พ.ศ ๒๐๙๘) ประสูติกาย สืบสายองอาจผงาดมา... ๚ ...................๓ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 ม.ค. 48 21:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ๏  ครั้นพุทธศักราชสองพันหนึ่งร้อยสิบสอง(พ.ศ ๒๑๑๒) กรุงศรีฯ หมองเสียอิสระแก่พม่า *พระองค์ดำ*.ถูกจำนำมีราคา เงื้อมหัตถา หงสาวดีบุเรงนอง.... ๚ ...........๔    ๏   ต้องเป็นตัวประกันแทนกรุงศรี ฯ จรลีสู่พม่าทรงหน้าหมอง ธ  วัยเยาว์ เจ็บจำทุกคำจอง ประหวัดจิต..คิดปองกลับคืนไทย... ๚ ............๕ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 ม.ค. 48 21:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ๏  วันหนึ่งราชบุตรมังสามเกลียด. ท้าพนัน ทั้งหยามเหยียด  เมื่อชนไก่ * ไก่เชลยนี้เก่งหนอ*. พ้อโอษฐ์ไว พระนเรศ..  เจ็บไซร้ โต้วาจา.. ๚ ...............๖  ๏  ไก่ตัวนี้อย่าแค่พนันเดิมพันเลย ถึงจะเอ่ยชนเอาบ้านเอาเมืองข้าฯ ก็เชิญเลยจะท้าชนเมื่อใดก็มา ได้เสมอทุกเมื่อหนา..ข้าฯจะคอย.. ๚ ...........๗   ๏  พระวาจาฝากไว้ในวันนั้น พม่าพลันหวาดระแวงแหนงองค์จ้อย. ดูทีหรือวันข้างหน้าจะผ่ารอย เป็นเสี้ยนหนาม กำเบี้ยทอยพนันเมือง.. ๚ .........๘ จบตอน ๑ . .โคลงสี่สุภาพ และ กลอนสุภาพ โดย ทิกิ_tiki ภาพ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน ๑ . ชนไก่กับมังสามเกลียด ( พระมหาอุปราชา ) ภาพ จากหนังสือ: จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) *** ภาพวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดสุวรรณดาราราม จ.อยุธยา http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9425/kns001.html แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 18:48:07 แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 48 21:42:14 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 ม.ค. 48 21:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวีรกษัตริย์ของชาติไทย   ผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่แก่ชาวไทยทั่วหล้า พระองค์เป็นพระบรมราชโอรสแห่งสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช และพระวิสุทธิกษัตริย์ ทรงพระบรมราชสมภพ ณ เมืองพิษณุโลก เมื่อปีเถาะ พระพุทธศักราช 2098   • สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชา กับพระวิสุทธิ์กษัตริย์ตรี ราชธิดาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ พระองค์ประสูติเมื่อ พ.ศ. ๒๐๙๘ ที่เมืองพิษณุโลก เมื่อ พ.ศ. ๒๑๑๒ กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า พระองค์ทรงถูกนำไปเป็นตัวจำนำ ไว้กับพระจ้าหงสาวดีบุเรงนอง วันหนึ่งพระองค์ทรงนำไก่มาชนกับไก่ชน ของมังสามเกลียด ( พระมหาอุปราชา ) ได้ตรัสกับพระองค์ว่า “ไก่เชลยตัวนี้เก่งจริงหนอ” พระองค์จึงตรัสสวนออกไปว่า “ไก่ตัวนี้อย่าว่าแต่จะพนันเอาเดิมพันเลย ถึงจะชนเอาบ้านเอาเมืองกันก็ยังได้” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พม่าก็ระแวงสมเด็จพระนเรศวร ฯ และเห็นว่านานไปจะเป็น ผู้นำไทยที่สำคัญ และเป็นเสี้ยนหนามแก่พม่าเป็นอย่างมาก ( คำบรรยายภาพ จากหนังสือ : จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒ เเห่งราชวงศ์สุโขทัย พ.ศ. ๒๑๓๓ - ๒๑๔๘ ยุคกรุงศรีอยุธยา thailandcentral.com ภาพนี้ ฝีมือถ่ายของคุณ ดาหลา&ปะการัง สมาชิกเว็บไทยโพมดอทคอม ขออนุญาตนำลงประกอบความอลังการ ด้วยภาพงามดี...ทิกิ_tiki แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 48 00:55:39 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 18:50:38 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 ม.ค. 48 21:23:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องนี้มาใกล้กับวันที่ ๒๕ มกราคม ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา พอดี คาดว่าจะเป็นเรื่องยาว จึงรออ่านตอนต่อไป อย่างจดจ่อ. จากคุณ : เด็กหัวกะได - [ 22 ม.ค. 48 22:28:17 A:61.90.14.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ เด็กหัวกะได เขียนโคลง ไว้แล้ว แต่ กลอน ยังต้องขอ แก้ไขอีกนิดค่ะ ขอบคุณที่แวะมาด้วยใจจดจ่อนะคะ     ตั้งใจเขียน แต่รอใกล้ ๒๕ ค่ะ ถึงได้นำลง ** จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 ม.ค. 48 23:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอน ๒ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง พ.ศ. ๒๑๒๗. โคลงสี่สุภาพ      ๏  สิ_โณทกหลั่งน้ำ............ชโลมดิน หยาด_เหงื่อกูหลั่งริน................ฝากไว้ เลือด_กูฝากกสินธุ์.....................ซึมผ่าน...ดินแล ฝาก_แม่ธรณินทร์ไท้.................แผ่นนี้กูครอง ๚ กลอนสุภาพ กลอน ๙    ๏  เกิดเป็นไทย มิเป็น ไท ได้ดั่งชื่อ ตัวกูหรือ  ยังเป็นข้า หาควรไม่ สักวันหนึ่ง  จะฟันฝ่า  เดินหน้าไป ให้ถึงชัย  เพื่อเสรี  ที่ประชา ๚ กลอน ๘   ๏  เมื่ออยู่ใต้ บุญค้ำ อำนาจเขา จะรุกเอา อย่างไร ไม่เกรงหน้า ถึงจงรัก ภักดี ชั่วชีวา กลับตลบ หลังมา เพื่อฆ่ากู   ๚ ภาพ จากหนังสือ: จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) *** ภาพวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดสุวรรณดาราราม จ.อยุธยา http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9425/kns001.html แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 18:51:46 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 ม.ค. 48 09:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โคลงสี่สุภาพ    ๏  อดทนถูกข่มคั้น........มานาน ชีพหนึ่งปลุกวิญญาณ.........ต่อสู้ จะปะทะสามาณย์...............ตีต่อ..พม่าเฮย เสียนลุกมาเถิดกู้..............ทั่วทั้งธาตรี  ๚ ( *๑)   ๏  ธรณี ณ แห่งนี้...........ฟังข้า ฯ ชลหลั่งตราบชีวา...............หม่นไหม้ ฝากพระแม่ธารา...............แทรกสิ้น..ดินเฮย ชีพอยู่กูจะใช้....................สละแท้เทิดธรรม.๚     ๏ ขับอธรรมจากพื้น......ขับไกล นับแต่นี้เสียมไต...............จักฟื้น (*๒) เลือดนองแผ่นดินไทย.......ตกทั่ว...เกรงฤา สดับคำตัดพื้น....................แผ่นนี้กูครอง.๚ะ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 ม.ค. 48 09:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ๏ เมื่อ พ.ศ. ๒๑๒๖ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ยกทัพไป ตีเมืองอังวะ และเกณฑ์ทัพไทยขึ้นไปด้วย สมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดเกล้าให้สมเด็จพระนเรศวร คุมทัพขึ้นไปช่วย แต่ยกไปไม่ทันตามกำหนด เป็นเหตุให้พระเจ้านันทบุเรงเกิดความระแวง จึงรับสั่งให้พระมหาอุปราชา หาทางกำจัดสมเด็จพระนเรศวร เมื่อสมเด็จพระนเรศวรเสด็จถึงเมืองแครง ทรงพักทัพอยู่ ใกล้วัดของพระมหาเถรคันฉ่อง สมเด็จพระนเรศวรได้เสด็จไปนมัสการพระมหาเถรคันฉ่อง พระมหาเถรคันฉ่องจึงได้ทูลเรื่องความลับ ที่พระมหาอุปราชาให้พระยาเกียรติ พระยาราม หาทาง กำจัดพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้ แม่ทัพนายกองมาประชุม และให้นิมนต์พระมหาเถรคันฉ่อง พร้อมคณะสงฆ์ มานั่งเป็นสักขีพยานที่พลับพลา แล้วพระองค์ก็ทรงหลั่งน้ำลงเหนือแผ่นดินประกาศอิสรภาพ ไม่ยอมขึ้นกับหงสาวดีอีกต่อไป ( คำบรรยายภาพ จากหนังสือ : จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) *** ภาพวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดสุวรรณดาราราม จ.อยุธยา  ภาพ คห ๗ http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9425/kns001.html จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 ม.ค. 48 09:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเมือง ในบริเวณโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ภายในประดิษฐาน พระบรมรูปหล่อ สมเด็จ พระนเรศวรมหาราช ในท่าประทับนั่ง พระหัตถ์ขวา ทรงสุวรรณภิงคารหลั่งน้ำทักษิโณทก ประกาศอิสรภาพ กรุงศรีอยุธยา บริเวณที่ตั้งศาลนี้ แต่เดิมคือ บริเวณพระราชวังจันทร์ ซึ่งพระองค์ทรงพระราชสมภพที่นี่ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๐๙๘ ศาลปัจจุบันนี้ สร้างเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๔ http://prawute.tripod.com/ture.htm *๑ คำว่า เสียน หรือ สยาม  จาก บทความประวัติศาสตร์ไทย จีน โดย สืบแสง พรหมบุญ *๒ คำว่า เสียมกุก หรือ เสียมกุก หรือ เผ่าไต มาจากประวัติชนเผ่าไตในแหลมทอง จากนานาหนังสือประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ทิกิ_tiki ผู้รจนา คำโคลง และ บทกลอน ชุดพระนเรศวรมหาราช ตอนนี้เป็นตอนที่ ๒ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง พ.ศ. ๒๑๒๗. จารเมื่อ ๙:๒๕ นาฬิกา เช้าพระอาทิตย์ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘   (ภาพ  คห ๘) จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 ม.ค. 48 09:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คอยติดตามตอนต่อไปในเร็ว ๆ นี้ จากคุณ : เจียวต้าย - [ 23 ม.ค. 48 12:10:53 A:61.91.79.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณเจียวต้าย ขอบคุณที่มาเขียนโฆษณาให้ แต่วันนี้ มีเรื่องวิเคราะห์ข้อมูล เขียนไว้ที่นี่ ค่ะ เผื่อท่านจะสนใจไปอ่านดูได้ เรื่อง ว่า น่าจะมี วัน อิสระภาพพระนเรศวรมหาราชบ้าง คิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจ นำข้อมูลไว้ที่นี่ค่ะ แต่ลบออกไปแล้วค่ะ ด้วยลิงค์ที่นำมาเป็นข้อมูลส่วนตัว มิเหมาะสมจะปรากฏในที่สาธารณะ ขออภัยไว้ด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 18:54:14 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 ม.ค. 48 17:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมไปเปิดอ่านแล้ว และเชื่อตามนั้น เหมือนอย่างที่เคยเชื่อ ท่านผ้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ได้สรุป และประกาศไว้ในอดีต แต่สำหรับเรื่องที่จะกำหนดให้วันประกาศอิสภาพ ฯ เป็นวันชาตินั้น อาจทำให้ไปเหมือนกับหลายประเทศในเอเซีย ที่เอาวันประกาศเอกราชเป็นวันชาติ เพราะไทยเราเคยย้ำไว้ว่า ไทยเป็นประเทศเดียวที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร สำหรับวันสมเด็จพระนเรศวรนั้น เมื่อมีวันที่ ๒๕ มกราคม แล้ว ก็คงจะไม่อยากให้มีอีกวันซ้ำซ้อนกระมัง (ขออภัย เป็นความเห็นส่วนตัวของเจียวต้ายเอง) จากคุณ : เจียวต้าย - [ 23 ม.ค. 48 17:31:26 A:61.90.14.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ติดตาม ติดตาม อืมม์ น่าคิดน่าสนใจ จากคุณ : GTW - [ 23 ม.ค. 48 19:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ เจียวต้าย ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้กำลังมึนข้อมูล แต่สำหรับการเช็คเรื่อง จันทรคติ นั้นเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจาก เมื่อย้อนกลับมากับวันปัจจุบัน มักไม่ตรง วันกัน  แต่ส่วนใหญ่ ถ้าถือตามการนับเดือนวันจันทรคติ มักจะ ถูกต้องเสมอค่ะ            เรื่องที่เขาเสนอมาก็น่าสนใจนะคะ แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 48 20:11:25 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 ม.ค. 48 20:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ : GTW ขอบคุณ น่าติดตามค่ะ วันนี้ ก็มี เรื่องใน บันทึกจีนเยอะแยะ ที่อ่านแล้ว ทานสอบ กับบันทึกไทย กับ บันทึกพม่า มีอะไรน่า สนใจหลายอย่าง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 ม.ค. 48 20:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาติดตามงานคุณทิกิเช่นเคยค่ะ จากคุณ : ปาย (วศะมนต์) - [ 24 ม.ค. 48 00:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณปาย วศะมนต์ อีกสักพักคงจะได้ลงตอนใหม่ค่ะ จากคุณ : ทิกิ_tiki - [ 24 ม.ค. 48 11:56:59 A:203.150.108.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ........โฮ ทิกิ กำลังเข้าหน้าส่วนตัวไม่ได้ที่นี่ มันบอกหน้าจอว่าอย่างนี้ค่ะ Fatal error: Call to undefined function: mcrypt_create_iv() in /usr3/โฮม/www/members.pantip.com/webdoc/members.inc.php on line 231 ตรงคำว่า โฮม น่ะมันภาษาอังกฤษนะคะ แต่เขียนไปมันทำลิงค์ ไป เว็บอะไรพิศดารไรเลย เซ็งซะจริง นั่งกอดอก อย่างอัดอั้นตันใจ จะตามเราไปได้ทุกเว็บอะไรอย่างนี้นะแล้วอิฉันจะ เขียนเรื่องตอนใหม่ได้อย่างไร งั้นขอส่งลิงค์ ไปก่อนแล้วกัน พีเว็บมาสเตอร์ อย่าฉุนนะคะ สมเด็จพระนเรศวรตอน ๓ พระแสงดาบคาบค่าย http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_69861.php จากคุณ : ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 13:45:41 A:203.150.108.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 สมเด็จพระนเรศวรตอน ๓ พระแสงดาบคาบค่าย โคลงสี่สุภาพ      ๏ ปาก_ กูคาบดาบนี้............วาบไว คาบ_ค่ายปีนดังใจ.....................แกร่งกล้า๚ ดาบ_ดั่งคู่หทัย.........................จ่อจด กู_บ่เคยจักล้า...........................กอบกู้ไทยคืน ๚ ภาพ จากหนังสือ: จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) *** ภาพวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดสุวรรณดาราราม จ.อยุธยา http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9425/kns001.html แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 18:45:35 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 15:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กลอนสุภาพ       ๏ จากประจิมบ่ายหน้าขึ้นพายัพ รวมอุดรสามทัพกว่าสองแสน จากนครสวรรค์เดินมาฝ่าดินแดน พม่าแม้นหมายขวัญเข้ารันตู ๚      ๏ เดือนสิบสองน้ำหลากลากทางเรือ ปล้นสดมภ์ไม่มีเหลือน่าอดสู มุ่งหมายตีอยุธยาท่าราชครู แต่หารู้พระนเรศเจตน์เจนการ ๚     ๏ ข้าวตกเขียวรีบเกี่ยวขึ้นอย่าเสี่ยง อย่าให้เสบียงเป็นอื่นเชียวทหาร เก็บเสบียงเกลี้ยงเกณฑ์ตัดเส้นธาร เตรียมพร้อมเพื่อประจัญบาน.จะสู้ตาย ๚   ภาพจากกรุณาท่านลำน้ำน่านนานมาแล้ว จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 15:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โคลงสี่สุภาพ    ๏ พระ_จันทร์ทรงส่องฟ้า................พอแล แสง_สิบค่ำเย็นแข.................................ส่องหล้า ดาบ_กัดอยู่ปากแล................................วะวับ..วาบเฮย คาบค่าย_ปีนทัพหน้า.............................ง่าง้าวม่านฟัน...ล่มแฮ๚ ภาพจากเว็บไซท์ http://www.phitsanulok.org แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 48 15:22:42 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 15:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กลอนสุภาพ      ๏    ใต้ผืนลมห่มฟ้าดาราเดือน ล้อมอยู่นานมิเขยื้อนเหมือนมาดหมาย หวังให้หมดเสบียงกรังกระทั่งตาย จะแห้งแล้งร้อนร้ายเข้าโจมตี ๚      ๏   พระนเรศ ตัดสินใจ ขึ้นนำหน้า ปีนกำแพงขึ้นไปหาอย่างเร็วรี่ เม้มพระโอษฐ์คาบแสงดาบปราบราวี พม่ารอได้ทีเข้าจ้วงแทง ๚       ๏  พระกายหล่นก็ทานทนเข้าปล้นค่าย ให้ได้รู้ไว้ลายอย่ากำแหง จนข้าศึกล้อมหน้าหลังพลั่งสำแดง จึงสั่งถอยพร้อมยื้อแย่งเสบียงมา  ๚         สมเด็จพระนเรศวร ทรงคาบพระแสงดาบปีนค่ายพม่า พ.ศ. ๒๑๒๙ ๏ ในเดือน ๑๒ พ.ศ. ๒๑๒๙ พระเจ้าหงสาวดี ยกกองทัพหลวงมา มีพระเจ้าเชียงใหม่ พระมหาอุปราชา และพระเจ้าตองอู ยกทัพมาด้วย มีทหารทั้งหมดประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ คน เคลื่อนพลมารวมกันที่นครสวรรค์ แล้วแยกกันเข้ามาคีกรุงศรีอยุธยา พม่าตั้งค่ายล้อมกรุงไว้จนถึง เดือน ๔ ขึ้น ๑๐ ค่ำ ครั้นถึงยามกลางคืน สมเด็จพระนเรศวรทรงนำทหารออกปล้นค่ายทัพหน้าของพม่า พระองค์ทรงคาบพระแสงดาบปีนค่ายพม่าจนถูกข้าศึกแทงตกลงมา ครั้นข้าศึกล้อมเข้ามามาก จึงได้เสด็จลงมากลับคืนพระนคร พระแสงดาบที่สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้ในวันนั้นจึงได้ชื่อว่า “พระแสงดาบคาบค่าย” มาจนทุกวันนี้ ภาพจากเว็บไซท์ http://www.phitsanulok.org จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 15:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กลอนสุภาพ   ๏  ความทราบพระนเรศตกค่ายนั้น พระเจ้าหงสาวดีพลันออกโอษฐ์ว่า *.ดั่งพิมเสนแลกกับเกลือไม่เหลือราคา มาคราวหน้าจะจับเป็นให้เห็นดี  *  ๚ ภาพ จากหนังสือ: จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) *** ภาพวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดสุวรรณดาราราม จ.อยุธยา http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9425/kns001.html แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 18:55:51 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 15:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๏   เมื่อเหตุการณ์เป็นดังว่าพม่าหยุด มิคิดรุดคืบต้อนระดมปรี่ เสบียงร่อยทัพใหญ่ถอยคนละที ธ ทรงตีพม่าคราละกอง      ๚ ๏   ธ ประสงค์อย่างเดียวเชียวที่หมาย จะฝ่าค่ายฟันพม่าผู้ท้าจ้อง ถ้าตีได้หงสาวดีบุเรงนอง   พม่าต้องแพ้ราบตราบระบือ ๚ ภาพ จากหนังสือ: จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) *** ภาพวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดสุวรรณดาราราม จ.อยุธยา จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 15:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ๏   แต่นานไปรบพุ่งยุ่งเดือน  หก หน้าฝนตกรบไปก็ไร้ชื่อ พม่าจึงถอยทัพไม่รับมือ จึงเลื่องลือพระแสงดาบคาบค่ายมา ๚ การปฏิบัติการของสมเด็จพระนเรศวรครั้งนี้  เมื่อพระเจ้าหงสาวดีทรงทราบเรื่อง ถึงกับออกพระโอษฐแก่เสนาบดีว่า  พระนเรศวรออกมาทำการเป็นอย่างพลทหารดังนี้  เหมือนกับเอาพิมเสนมาแลกกับเกลือ.....  พระนเรศวรนี้ทำศึกอาจหาญนัก  ถ้าออกมาอีกถึงจะเสียทหารสักเท่าใดก็ตาม  จะแลกเอาตัวพระนเรศวรให้จงได้  จากนั้นพระเจ้าหงสาวดีจึงให้ลักไวทำมู  ซึ่งเป็นนายทหารมีฝีมือ  คัดเลือกทหาร 10,000 คน  ไปรักษาค่ายกองหน้าและทรงกำชับไปว่า  ถ้าพระนเรศวรออกมาอีกให้คิดอ่านจับเป็นให้จงได้            ครั้นถึงวัน แรม 10 ค่ำ เดือน 4  สมเด็จพระนเรศวรทรงนำทัพไปซุ่มอยู่ที่ทุ่งลุมพลี  หมายจะเข้าปล้นค่ายพระเจ้าหงสาวดีอีก  ลักไวทำมูรู้ดังนั้น จึงให้ทหารทศคุมกำลังหน่วยหนึ่งรุกมารบ  สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกำลังเข้ารบด้วยลำพังกระบวนม้า  พวกพม่ารบพลางถอยพลาง ไปจนถึงจุดที่ลักไวทำมูคุมกำลังซุ่มไว้  ข้าศึกก็กรูกันออกมาล้อมไว้  ลักไวทำมูขับม้าเข้ามาต่อสู้กับพระองค์  พระองค์ทรงแทงด้วยพระแสงทวนถูกลักไวทำมูตาย  การต่อสู้ดำเนินไปกว่าชั่วโมง  กองทัพไทยจึงตามไปทันตีฝ่าวงล้อมข้าศึก แก้ไขสถานการณ์ได้แล้วจึงกลับเข้าสู่พระนคร            ครั้นถึงวันแรม 4 ค่ำ เดือน 4  สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกำลังทางเรือ ยกไปตีทัพพระมหาอุปราชา  ซึ่งอยู่ที่ขนอนบางตะนาวแตกพ่าย  ต้องถอยทัพออกไปตั้งอยู่ที่บางกระดาน            กองทัพพม่าล้อมกรุงอยู่ได้ 5 เดือน  ตั้งแต่เดือนยี่ ปีจอ  จนถึงเดือนหก ปีกุน  ก็ไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาได้  ไพร่พลก็เจ็บป่วยล้มตายร่อยหลอลงทุกที  เห็นว่าเข้าฤดูฝนไพร่พลจะลำบากยิ่งขึ้น  เสบียงอาหารก็ขาดแคลน  จึงยกทัพถอยกลับไปในวันแรม 10 ค่ำ เดือน 6  โดยให้กองทัพพระมหาอุปราชาถอยกลับไปก่อน  ให้กองทัพพระเจ้าตองอูเป็นกองหลัง สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกำลังทางเรือ ลงไปที่บางกระดาน  หมายจะตีกองทัพพระมหาอุปราชาอีก  เห็นพระมหาอุปราชากำลังถอยทัพกลับ และทรงทราบว่าพระเจ้าหงสาวดีจะถอยทัพ  จึงเสด็จกลับเข้าพระนคร  แลัวรีบทรงกองทัพยกไปตั้งที่วัดเดช  อยู่ริมน้ำตรงภูเขาทอง  เมื่อวัน ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 7  ทรงให้เอาปืนขนาดใหญ่ลงเรือสำเภาหลายลำ  แล้วนำขึ้นไปยิงค่ายหลวงพระเจ้าหงสาวดี  ถูกผู้คนช้างม้าลมตายเป็นอันมาก พระเจ้าหงสาวดีต้องถอยทัพหลวงไปตั้งอยู่ที่ป่าโมก  สมเด็จพระนเรศวรทรงให้กำลังทางบกยกตามตีข้าศึกจนถึงทะเลมหาราชทางหนึ่ง  ส่วนพระองค์กับสมเด็จพระเอกาทศรถ  เสด็จโดยทางเรือ ตามตีกองทัพหลวงของพระเจ้าหงสาวดีขึ้นไปจนถึงป่าโมกอีกทางหนึ่ง  แต่ข้าศึกมีกำลังมากกว่ามาก  ไม่ทำให้แตกฉานไปได้  พระองค์จึงเสด็จคืนสู่พระนคร  พระเจ้าหงสาวดีก็ให้เลิกทัพกลับไป โคลงและกลอน รจนาโดย ทิกิ_tiki เมื่อเวลา ๓:๓๕ นาฬิกา คืนวันอาทิตย์ที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘ คำบรรยายร้อยแก้วที่มาจากแหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์ไทย thaiheritage ทางอินเตอร์เน็ต -- www.heritage.thaigov.net -- -- www.thaiheritage.org -- -ขอบพระคุณในข้อมูลจากหน่วยราชการ ภาพจากเว็บไซท์ http://www.phitsanulok.org จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 24 ม.ค. 48 15:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถึงวันที่ ๒๕ มกราคมแล้ว เข้ามาดูว่าถึงตอนยุทธหัตถีหรือยัง จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 ม.ค. 48 07:41:05 A:61.90.14.242 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ๏ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ..สงครามยุทธหัตถี๏   ระหว่าง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ พระมหาอุปราชา ๒๕ มกราคม วันกองทัพไทย   โคลงสี่สุภาพ           ๑       ๏ กราบพระบาทเสด็จเจ้า......นเรศวร พระเอกทศรถควร.......................หนึ่งไท้ ยุทธหัตถีดวล...............................พม่า...มอญเฮย ถึงสี่ร้อยปีไซร้..............................แซ่ซ้องพระคุณ.ไทยแล.๚        ๒        ๏ พระการุณย์เทิดท้น.............มหานพ นามพระชาติขจรจบ......................ฝากหล้า ตีฝ่าตะเลงรบ..............................รอนฆ่า...ศึกเฮย เกริกแกร่งพระเกียรติกล้า..............ทั่วทั้งไตรภูมิ.๚ะ พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ ฯ  มีความในเรื่องสงครามยุทธหัตถีว่า            พระมหาอุปราชามาตั้งประชุมทัพอยู่ที่ตำบลตระพังกรุ แล้วมาชนช้างกับสมเด็จพระนเรศวร ฯ  ที่ตำบลหนองสาหร่าย เมื่อวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช 955  (พ.ศ. 2135) แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 48 20:01:54 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กลอนสุภาพ  ๏   ณ วันจันทร์แรม สอง ค่ำ เดือนยี่ นับเป็นปีมะโรงเจ้างูใหญ่ สองพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าไทย ย้อนหลังไปสี่ร้อยสิบสามปี ๚ *  (๑ )..........๑    ๏    เป็นวันประวัติศาสตร์แห่งชาติไทย มหาบุรุษช่วงชัยยุทธหัตถี ลือเลื่องกระเดื่องพระนามสี่ร้อยปี พระนเรศวรมากมีพระบุญญา  ๚  ..........๒     ๏   ที่หว้ากอ ตำบลหนองสาหร่าย สุพรรณบุรีเขตชายทหารกล้า ถิ่นรบชาญฉกาจก้องโลกา ส่งสมญาพระนเรศทุกเขตคาม  ๚ ..........๓ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 48 20:03:13 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30      ๏  ณ วันจันทร์วันนั้นมหาราช คืนผ่านมาฝันประหลาดเหมือนถูกหยาม ว่ากุมภิลมันดาหน้ามาลุกลาม จึงปราบปรามฆ่าฟันมันบัลลัย  ๚ ..........๔      ๏   ณ เช้านั้นจึงระมัดระวังองค์ เตรียมขึ้นกูบช้างทรงเสด็จใกล้ เจรจาว่าพ่อพลายจงเดินไป พ่อไชยานุภาพ*(๒)ไซร้ไปปราบมาร  ๚ ..........๕       ๏   ฝ่ายพระเอกาทศรถพระน้องกล้า ทรงพระยาปราบไตรจักรช่างหักหาญ สองพุ่งสู่กองทัพพม่ามิช้านาน ช้างทรงพาลตกมันถลันพา  ๚ ..........๖     ๏   สองช้างทรงวิ่งตรงเข้าข้าศึก ขับจนลึกวิ่งเกินพระน้องกล้า พระเอกาทศรถรุดตามมา ควาญสี่ขาวิ่งสะบัดชัดประจัญ  ๚ ..........๗ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 48 20:04:36 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31     ๏    เมื่อมืดมัวฝุ่นตรลบมิเล็งเห็น ครั้นสาดจ้าส่องประเด็นแสงเฉิดฉัน รู้ตกวงล้อมมอญพม่าพลัน เห็นฉัตรกั้นมหาอุปราชา  ๚ ..........๘       ๏    พระนเรศสติมั่นหันเข้าสู้ เอ่ยปากกู่ * ให้ประจักษ์พยัคฆ์ค่า เราต่างเป็นนักรบกษัตรา กาลภายหน้าประวัติการณ์สะท้านไกล  ๚ ..........๙       ๏   ขอเชิญพระหน่อเจ้าหงสาวดี ประลองยุทธหัตถีกันชิดใกล้ ให้เลื่องชื่อลือชาติอาชาไนย ขอเชิญต่อกรไซร้ ณ บัดนี้  *  ๚ ..........๑๐ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 48 20:06:09 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 32         ๏   พระมหาอุปราชาไสช้างทรง พลายพัทธกอดิ่งตรงเข้าเร็วรี่ เจ้าพระยาไชยานุภาพจึงเสียที พระแสงง้าวพม่านี้จึงสับมา  ๚ ..........๑๑       ๏   พระนเรศวรเบี่ยงกายหลบได้ทัน พระแสงนั้นฟันฉกาจปาดเฉียดหน้า ตัดแหว่งหมวกขาดปลายพระมาลา แต่ทรงกล้าหาญมุ่งพุ่งจ้วงฟัน  ๚ ..........๑๒       ๏    ตวัดกลับสับพระแสงของ้าว พาดไหล่ร้าวขาดอุระพระหน่อนั่น พระพาหาขาดแร่งดับชีวัน ฟุบสิ้นพลันเหนือพลายพัทธกอ  ๚ ..........๑๓ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 48 20:07:25 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ๏   พระเอกาทศรถก็ติดพัน ทรงฟันจาปะโรตายไม่ระย่อ ข้าศึกแห่มายิงกันรุมออ กองทัพไทยเพิ่งห้อตามช่วยมา  ๚ ..........๑๔          ๏   เป็นวาระชนะขาดแห่งชาติไทย ได้เสือกไสไล่ทัพดับพม่า ยุทธหัตถีครั้งนี้ที่ราชา ประดิษฐานเจดีย์ตราไว้สามองค์  ๚ ..........๑๕ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ๏   เสด็จกลับพระนครศรีอยุธยา ลำดับความคาดหน้ามุ่งประสงค์ แม่ทัพนายกองวิ่งไม่ทันไม่มั่นคง จักต้องปลงชีพโหดด้วยโทษภัย  ๚ ..........๑๖       ๏   ครานั้น สมเด็จพระพนรัตน์*(๓) เมื่อทราบชัดขอเสด็จมาเยือนใกล้ ขอบิณฑบาตลดโทษโปรดพระทัย ขอชีวิตเหล่านั้นไซร้แก่อาตมา  ๚ ..........๑๗        ๏   ด้วยทั้งนี้เหมือนเทพส่งพงศ์บรรลือ อย่าได้ถือเคืองโทษทหารกล้า เสมือนมารเข้าพิชิตพระศาสดา ให้รบฆ่าศัตรูด้วยเอกองค์  ๚ ..........๑๘ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ๏  พระนเรศฟังเหตุก็สร่างพิโรธ ให้ลดโทษไปตีทวายเป็นผุยผง แล้วจึงโปรดพระราชทานอภัยปลง เหล่าทหารชาญจึงคงศักดินา  ๚ ..........๑๙      ๏   ถึงวันนี้เป็นศรีแก่ประเทศ พระปกเกศ ข้าฯไทย ไปทั่วหล้า เนิ่นนานเกินสี่ร้อยปีที่ผ่านมา พระเดชพระคุณยังล้นฟ้าค่างดงาม  ๚ ..........๒๐      ๏    สักการะคารวะพระองค์ท่าน ช่วยคุ้มครองป้องกันประเทศสยาม เมื่อสงบเราพร้อมรบอยู่ทุกยาม เทิดพระนเรศทุกเขตคามนักรบไทย..  ๚ะ๛ ..........๒๑ ทิกิ_tikiจารลงหน้าจอคอมพิวเตอร์ ณ เวลา ๑๒:๑๐ นาฬิกา วันอังคาร ที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘ ประเทศไทยถือเป็นวัน กองทัพไทย ตรงกับ วัน แรม ๑ ค่ำ เดือน ยี่ (๒) ปีวอก * (๑)   (นับถอยจากปี 2548 ปัจจุบัน)   *(๒) เจ้าพระยาไชยานุภาพ ช้างทรงพระนเรศวร ภายหลังเป็น เจ้าพระยาปราบหงสาวดี *(๓)  สมเด็จพระ พนรัตน์ วัดป่าแก้ว รายละเอียดการรบครั้งนี้ เชิญอ่านได้ที่ http://203.144.136.10/service/mod/heritage/king/naresuan/naresuan.htm หรือ ท่านสามารถเข้าชม หอมรดกไทย ได้ทั้งสองแห่ง คือ ---> www.heritage.thaigov.net ---> www.thaiheritage.org จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 12:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ใครก็พลาดได้ จำได้ว่าเมื่อเช้าเขียนหน้าจอไปหลับไป ตรวจแล้ว ยังพลาดจนได้ หลายบท เลยต้องโพสท์มาแก้ใหม่หลายบท เขียนแบบนี้ มันเครียดสุด บางทีก็ต้องไปปล่อย กลอนรักหวือหวาอะไรกับเด็กๆเสียมั่งจะได้หายเครียด กว่าจะ ย่อยเนื้อหา ทั้ง ลิลิตตะเลงพ่าย ตลอดจน บทความประวัติศาสตร์ทั้งหลายได้ ก็ขอยอมรับว่า งานนี้หินมาก ทำเอาคิดว่าตนเอง เพิ่งอยู่ชั้นอนุบาล หัดเขียนโคลงกลอนอยู่เลย เฮ้อ ....เทียบกับมหากวีโลก อย่าง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส แล้ว...ท่านหลายปริญญาด๊อคเตอร์ เรายังแค่ เรียนอนุบาลสามอยู่เลย เอาเป็นว่าจบทันวันกองทัพไทยวันนี้ ก็บุญแล้วเจ้าค่ะ สาธุ กราบสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านด้วยใจ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 48 22:02:25 แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 48 20:27:26 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 20:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แล้วก็เสร็จสมบูรณ์ลงได้อย่างสวยและสง่างาม ขอยกย่องในความพยายามอย่างยิ่งในครั้งนี้ และขอแสดงความยินดี ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 ม.ค. 48 21:09:23 A:61.91.205.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 โอ..คุณเจียวต้ายแวะมาตอนไหน มัวแต่ไป ยุ่งกับกระทู้กลอนนี้เว็บอื่น กลับมาแวะ ดู เอ ไม่แน่ใจตัวเลขเดิมเราหรือเปล่า.. แวะเข้ามาดู ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ ดีใจ โอย ไม่เยี่ยมเลยค่ะ เวลามีจำกัด จากวันที่ 22 มาถึงวันนี้.. เขียนเหมือนร่างไปก่อนยังไงยังงั้นเลยค่ะ ไว้ค่อยๆมาดู ทีหลัง อาจจะแก้อีกก็ได้ เฮ้อ... จะเป็นกวี E Anthology ก็ยังงี้แหละค่ะ ไม่สมบูรณ์แบบ หรอกค่ะ ขอบคุณมากนะค้ะ   จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 ม.ค. 48 22:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ๏ งานเขียนเวียรค่าเนื้อ . . . . . . . . ในงาม หากขาดรักอ่านตาม . . . . . . . . . . โตรดแล้ง อ่านผันผ่านโดยความ . . . . . . . . . เงียบยิ่ง.. งึมนา ขอรักชมชอบแจ้ง . . . . . . . . . . .. จุ่งยิ้มภูมิใจ ๚ จากคุณ : ๑ - [ 26 ม.ค. 48 12:09:31 A:61.90.55.151 X: TicketID:005022 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอขอบคุณท่านหนึ่ง...............เยือนมอง มาอ่านเหมือนประคอง................เยี่ยมเค้า เงียบเชียบจู่จิตกรอง...................จมจ่อม....แม่นา อีกหนึ่งพึงร่ายเว้า......................วากย์น้อยเริงใจ ขอบคุณแวะเยี่ยมให้กำลังใจนะคะ ภาพ จากหนังสือ: จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดาราราม โดย สุเทพ ชูมาลัยวงศ์ องค์การค้าคุรุสภา พ.ศ. ๒๕๒๘ ) *** ภาพวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดสุวรรณดาราราม จ.อยุธยา http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9425/kns001.html แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 18:57:52 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 26 ม.ค. 48 16:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โหหห ยาวจัง เดี๋ยวว่างแล้วจะมาอ่านต่อนะ จากคุณ : ย้งยี้ - [ 26 ม.ค. 48 22:14:04 A:10.22.2.145 X:202.44.14.194 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาชื่นชมผลงานขอรับ สุดยอดเลยเจ๊ เขียนไปได้เนอะ เยี่ยมจริงๆ ปล. ผมยังอ่านไม่จบเรื่อง แล้วจะมาอ่านต่อครับ จากคุณ : เมจิคเชี่ยน - [ 26 ม.ค. 48 22:15:21 A:202.47.247.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 อนุบาลสาม     เปิดตำราหาลิลิตตะเลงพ่าย นอนอ่านจนตาลายหลายสิบหน้า เปิดอ่านงานประวัติศาสตร์สืบชาติมา อ่านดาษดาหลายคราครั้งเพื่อตั้งกลอน          ก็ถอนใจใครเล่าเลือกเรื่องมาเขียน ใช่จะง่ายดังว่าเพียรเช่นกาลก่อน อ่านทุกบท ทุกพจน์บาท  คาดทุกตอน ขอให้ย้อนเข้าหทัยให้เกิดงาน     ส่องรบสนามสามวันมันละเหี่ย แสนเพลียเขียนมิออกดอกเจ้าหวาน เหมือนหนึ่งน้ำลอยน้ำมันอย่างกันดาร สุดจะจารจากใจไร้เรี่ยวแรง    กอดหนังสือไว้กับหมอนแล้วนอนหลับ บาลีศัพท์ป่วนจิตคิดกำแหง ลุกมาดูตอนเช้าเฝ้าดัดแปลง ใจมิแจ้งเขียนมิได้ลาไปนอน      ครั้นตื่นมารู้หน้าที่วันนี้แน่ จึงตามแลจรดคำกล้ำอักษร วางเขียนเพียรสักสามชั่วโมงวอน จบกลอนป้อนหน้าจอเกินล้อกัน       ทำไปได้อย่างไร ใครช่วยลาก เป็นโจทก์ยากกว่าทุกหมู่เคยขีดฝัน เทียบพระมหากวีทรงจำนรรจ์ ลำดับฉัน..อนุบาลสาม..เศร้าข้ามคืน ทิกิ_tiki รำพึงมาตอน ตีสี่ เช้าวันพุธ ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘  Poem ID :   70006 - ผู้ชม 147   ผู้ตอบ 38   Source :   เขียนเดี๋ยวนี้หน้าคอมพ์   Date - Time:   26 ม.ค. 48 - 04:24   Note :   อนุบาลสาม แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 48 11:36:47 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 48 11:33:36 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 48 11:18:38 แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 48 23:02:18 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 26 ม.ค. 48 22:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 41   โหหห ยาวจัง เดี๋ยวว่างแล้วจะมาอ่านต่อนะ จากคุณ : ย้งยี้ - [ 26 ม.ค. 48 22:14:04 A:10.22.2.145 X:202.44.14.194 ]     ย้งยี้ขอบใจมากจ้า   แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 48 09:39:51 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 26 ม.ค. 48 23:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45 # 42   มาชื่นชมผลงานขอรับ ปล. ผมยังอ่านไม่จบเรื่อง แล้วจะมาอ่านต่อครับ : เมจิคเชี่ยน - [ 26 ม.ค. 48 22) ขอบคุณ ค่ะ ที่แวะมานะคะ คุณ เมจิคเชี่ยน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 27 ม.ค. 48 20:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อุรารานร้าวแยก ............ยลสยบ เอนพระองค์ลงทบ..................ท่าวดิ้น เหนือคอคชซอนซบ................สังเวช วายชีวาตม์สุดสิ้น...................สู่ฟ้าเสวยสวรรค์...... ลิลิตตะเลงพ่าย  พระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส มหากวีเอกแห่งโลก..     ยังงอยู่ในหัวใจให้ท่องเมื่อไหร่ก็ได้      ก็จำโคลงครูมาอย่างนี้      แล้วเราจะแต่งอย่างไรก็มีมี เกินหน้าครูไปได้เลยเด็ดขาดค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 ม.ค. 48 10:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอยกถวายพระเกียรติ ของพระองค์ท่าน สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุขิตชิโนรส พระผู้ทรงนิพนธ์ ลิลิตตะเลงพ่าย อันนับเป็น บรมครูแห่งเรื่องสมเด็จพระนเรศวรที่ข้าพเจ้า ได้อ่านมานานเนิ่น นับว่า งดงามยิ่งนักในภาษา และสาระอันเข้มข้น ( แม้จะยากยิ่งใน ภาษาบาลีสันสกฤต อันต้อง คอยเปิดพจนานุกรม ตามไปด้วยเสมอ) ภาพจากเว็บไซท์ ไทยเฮอริเทจดอทคอม แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 48 11:09:21 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 ม.ค. 48 11:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับคุณทิกิ และทุกท่าน / เข้ามาอ่านนะครับ แต่ต้องค่อยๆ อ่าน ต้องใช้เวลาค่อยๆ ซึมซับ ขอชื่นชมในความสามารถ และขอให้กำลังใจในการสร้างงานครับ จากคุณ : message - [ 28 ม.ค. 48 13:13:07 A:203.209.122.80 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 #๒๔ ภาพจากเว็บไหนก็มิทราบค่ะ ลืมชื่อแล้วขออภัย ขอเป็นวิทยาทานทางสายตาสักวันนะเจ้าคะ เว็บนี้ครับ http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9425/kns001.html จากคุณ : นายกระซิบ - [ 28 ม.ค. 48 14:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #48 คุณ Message ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมงานที่เว็บนี้..ขอบคุณมากค่ะ #49  คุณ นายกระซิบ คะ คงง่วงมากตอนลง สับสนเรื่องภาพไปหมด เพราะดูข้อมูลหลายเว็บเหลือเกิน ยังไม่แน่ใจว่า รูปเล็ก หรือรูปใหญ่ รูปใดรูปหนึ่งเป็นของ ไทยเฮอริเทจดอทคอม นะคะ แต่หลายภาพไม่ขึ้นก็ดีแล้ว เพราะ คงต้องตามไปแปะทุกกระทู้ว่า รูปมาจากไหน        ขอบคุณในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 ม.ค. 48 19:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โอ้โห อ่านแล้วซึมซับประวัติศาสตร์ของพระองค์ดำได้ดีมากครับ ขอยกย่องให้เป็นกระทู้ที่ดีที่สุดกระทู้หนึ่งที่เคยอ่านมา ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณทิกินะครับ  นี่ตอนเขียนยังนั่งหน้าคอมพ์อยู่เลยหรือครับ......เหลือเชื่อว่าจะแต่งกลอนได้ขนาดนี้ ซูฮกครับ จากคุณ : sompongy (sompongy) - [ 29 ม.ค. 48 07:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีค่ะคุณ สมพงษ์กี้ ขอบคุณที่แวะอ่านแล้วมาซึมซับประวัติศาสตร์ ที่จริงแล้ว ในสมัย พระนเรศวร ท่านมีการติดต่อ ขอเชื่อมสัมพันธไมตรีกับจืนด้วยเหมือนกันเข้าไป อ่านประวัติศาสตร์จีนแปลไทยมา ..แต่ พออ่านไป แล้ว ต้องหยุดอ่านค่ะ ไม่งั้น แค่นี้ ก็เขียนไม่ครอบคลุม เนื้อหาเลย เนื่องจาก ข้อมูลท่านเยอะมากนะคะ แต่ เจาะมาเฉพาะประเด็นเด่น ที่เว็บอื่นเขาวางไว้ให้แล้ว ก็เดินตามกันไปค่ะ ...อย่าชมมากค่ะ ทิกิ ยังไม่ดีเด่น อะไรขนาดนั้นนะคะ  แค่พอเขียนได้ค่ะ  ขอขอบคุณในกำลังใจนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 29 ม.ค. 48 13:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ชมก็ได้ครับ แต่ชอบน่ะ เห็นใจในความพยายาม หาคนเขียนได้อย่างนี้ ยาก................. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 29 ม.ค. 48 16:34:09 A:61.91.205.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ เจียวต้าย ขอบคุณที่มาช่วยเอาใจเหลือเกิน.. จนเกรงใจเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 29 ม.ค. 48 19:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านแล้วครับ............มีเสี้ยวหนึ่งที่เล่ากันว่าเคยเดินทัพไปทางเหนือ จริงหรือไม่.........ลองสืบค้นนะ...^_^ จากคุณ : plaing_piu - [ 29 ม.ค. 48 20:44:42 A:203.118.93.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 เชิญคุณ plaing_piu  เข้าอ่านพระราชประวัติการรบของท่าน ยี่สิบครั้งนั้น  ท่านไปรบทั่วนะคะ เชิญอ่านใน thaiheritage.com นะคะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ** จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 29 ม.ค. 48 21:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คุณทิกิครับ ผมเคยฝันว่าผมเป็นหนึ่งในชาวมอญที่กลับใจมาบอกพระนเรศวรครับ ในฝันผมได้เห็นพระมอญรูปหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์ที่เคารพของกระผมมาก ท่านเป็นผู้ทำพิธีให้พระองค์ดำ พวกเราอยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ตอนที่พระองค์ดำประกาศอิสรภาพโดยการหลั่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ประกาศว่าไทยจะไม่ขึ้นตรงต่อหงสาวดีอีกต่อไปครับ ผมฝันว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงข้าง ๆ แคร่พระที่นั่งเยื้องไปทางด้านหลังพระองค์ท่านครับ บอกแค่นี้ก็ขนลุกแล้วครับ ผมเชื่อถือในบุญญาธิการของพระองค์ท่านครับ คุณเคยฝันเรื่องอะไรทำนองนี้มั๊ยครับ ระหว่างแต่งเรื่องของพระองค์ท่าน  อ้อตอนที่ฝันนี่ผมอายุแค่ 12 ขวบเองหรือเมื่อ 24 ปีที่แล้วครับ จากคุณ : sompongy (sompongy) - [ 30 ม.ค. 48 23:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านแล้วยิ่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ท่าทางคุณ tiki_ทิกิ จะชื่นชอบและนิยมในพระองค์เหมือนกัน นอกจากตนเองแล้ว ยังมีสมาชิกอีกท่านหนึ่งในพันธุ์ทิพย์นี้ นามว่า คุณ numkung ที่เป็นผู้ที่สนใจพระราชประวัติของ สมเด็จพระนเรศวรฯ มาตั้งแต่ครั้งที่กันตนาทำละคร 'กษัตริยา' และ 'มหาราชกู้แผ่นดิน' ออกอากาศทาง ททบ.๕ นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์อีกมากมาย ใน Webboard ของทางกันตนาด้วย สนใจลองเข้าไปเยี่ยมได้ที่ http://www.kantana.co.th/entertainment/board/index.php ในนั้นจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติที่น่าสนใจของพระองค์ หลายหัวข้อพอสมควร เป็นต้นว่า; - วันยุทธหัตถี จริงๆ แล้ว ตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม ไม่ใช่ ๒๕ มกราคม - เจดีย์ยุทธหัตถี มีจริงหรือ? - ประสบการณ์ทางวิญญาณ กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช - พระนเรศวรฯ สวรรคตที่เมืองเวียงแหง ในเขตประเทศไทย ไม่ใช่เมืองหาง ในพม่า แล้วจะเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กับพระองค์อีกเรื่อยๆ ครับ จากคุณ : นันท์นพคุณ - [ 30 ม.ค. 48 23:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ สมพงษ์กี้คะ...ความฝันเมื่ออายุน้อยๆ นั้น มักจะเป็น เรื่องติดมาจากอดีตจริงๆ ส่วนใหญ่ค่ะ...เพราะ สัญญาเดิม คือ ความจำได้หมายรู้เดิมจากอดีตชาติมักติดพันมา           จึงค่อนข้างน่าเชื่อว่าเป็นความจริงเสียส่วนใหญ่ สำหรับตัวเอง ก็ฝันพิสดารอะไรมากมายบ่อยครั้ง          และ ที่อยุ่ๆ ลุกมาเอะอะไล่พวกนุ่งผ้าแดงยืน กอดอกมองเรานอกบ้าน ก็บ่อย...เมื่อเด็กๆนะคะ.. คงคุยยาวเชียวแบบนี้ แล้วจะคุยกันวันหน้าซะเลยเป็น กลอนดีไหม    รักพระองค์ท่าน แบบ สงสารสุดหัวใจ เหมือนยาม ท่านเหนื่อยประมาณนั้น...รบไม่หยุดอย่างนั้น...เครียดมั้ย อะไรแบบเด็กๆ คิดอย่างนั้น..โตแล้วก็รู้สึกผูกพันกับ ท่านบ่อยๆเหมือนกัน อย่างพระที่ท่านเคารพ นี้ ก็เคยฝัน แบบมีคนมาบอกให้ไปร่วมเททองสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว อย่างนั้นเลย นี่ฝันตอนสักหกเจ็ดปีที่แล้วนะคะ        ขอบคุณที่แวะมาคุยอีกนะคะ คุณ สมพงษ์กี้ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 31 ม.ค. 48 02:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ นันท์นพคุณ คะ เป็นพระคุณมากที่แวะมาเขียน กระทู้พร้อมทั้ง ส่งลิงค์ให้ ด้วย ชื่นชมเหลือเกิน     -  บางเรื่อง ทิกิ ก็ทราบค่ะ เช่น วันยุทธหัตถี ดูจาก กระทู้ท่าน พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ นะคะ ขออนุญาต เปลี่ยนล่าสุด เข้า กระทู้เว็บพระดาบส ของท่าน http://www.dabos.or.th/pr22.html *- เจดีย์ยุทธหัตถี  ก็ในกระทู้ท่านหนึ่งและ ดูตามประวัติเก่าๆที่เขาค้นมาจากหลายเว็บ ก็ ตรงกันกับวันเดือนปี ทางจันทรคติ และ การวัดกี่วากี่ศอก จากตรงไหนไปไหน อะไรนั่นแหละค่ะ     ส่วนเรื่องอื่นยังไม่ทราบนักคะ...ขอเวลาติดตามงานไปเรื่อยๆตามข้อมูลที่ให้มานะคะ คุณ นันท์นพคุณคะ ขอบพระคุณมากค่ะ (ภาพ จาก http://www.phitsanulok.com) แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 48 09:13:15 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 31 ม.ค. 48 03:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านจนจบ ซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนเรศวรอย่างล้นพ้น พระบารมีปกเกล้าเหนือแผ่นดินไทย บรรพชนแต่ละพระองค์ แต่ละท่านได้กอบกู้เอกราช เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินกันเป็นที่รักและหวงแหนยิ่ง นับเป็นความเสียสละที่เหล่าอนุชนรุ่นหลังๆต้องจารึกและจดจำ และควรจะสำนึกในความยากลำบากในการปกป้องผืนแผ่นดินไว้ให้พวกเราได้อยู่อาศัยอย่างเป็นสุข สงบร่มเย็น โดยส่วนตัวนั้น ตนเองชอบไปที่อยุธยาเป็นที่สุด เมื่อครั้งก่อนตอนยังเด็ก รู้แต่ว่าเรามีความผูกพันกับสถานที่ต่างๆมากมาย จากวัยเด็กมาจนถึงปัจจุบันความผูกพันเหล่านั้นไม่เคยลดหรือจางหาย หากแต่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีโอกาสได้เรียนรู้ถึงความเป็นมาของเหล่าบรรพชนในครั้งโบราณกาลที่ผ่านมา ยิ่งทำให้รู้สึกว่า แค่ความผูกพัน ความรัก ความเคารพ ความสำนึกยังไม่เพียงพอต่อความเสียสละที่พวกท่านได้ทำไว้ให้กับพวกเรา และในกรณีสมเด็จพระนเรศวร ชีวิตของพระองค์มีแต่ความทุกข์ ต้องทรงพลัดพรากและทรงพบเจอแค่ความสูญเสีย ทรงถูกดูแคลนนานาสารพัน แต่พระองค์ท่านก็ทรงมีขัตติยะมานะที่ดีเลิศ กว่าพระองค์จะทรงฟันฝ่ากับอุปสรรคต่างๆที่รุมล้อมพระองค์มาเกือบทั้งพระชนม์ชีพ จนกระทั่งทรงกอบกู้เอกราช ภาพหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่จะยังคงกระจ่างชัดเจนอยู่ในหัวใจ คือภาพที่ทรงหลังทักษิโนทก ประกาศอิสรภาพเหนือแดนดินที่พวกเรายืนเหยียบย้ำกันอยู่ทุกวันนี้ วันๆนั้นมีค่าเพียงไหน อยากให้อนุชนรุ่นหลังๆที่ลืมความทุกข์ยากของพระองค์ท่านได้หวลระลึกและจดจำ เพราะถ้าไม่มีวันนั้น พวกเราจะมีวันนี้กันได้อย่างไร สำนึกในความเป็นมาของแผ่นดิน และกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน คือมโนธรรมที่ควรได้รับการปลูกฝังในจิตใจ เพื่อให้เยาวชนทั้งหลายมีความรักและหวงแหนแผ่นดินอันเป็นที่รรักจะคงอยู่ยั่งยืนสถาพรต่อไป ไม่ว่าจะตัดสินใจกระทำสิ่งใดที่จะเป็นการทำร้ายต่อชาติและแผ่นดินทั้งทางตรงและทางอ้อม จะได้มีจิตสำนึกที่มีมโนธรรมทีดีคอยชี้ทาง การขัดเกลาจิตใจ..ยังเป็นสิ่งที่ยังพอจะกระทำได้ การศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติอย่างถ่องแท้ เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการร่วมส่งเสริมคุณธรรมและสำนึกรักหวงแหนแผ่นดิน และกตัญญูรู้คุณต่อแผ่นดิน การที่ตนเองนั้นได้มีโอกาสไปเดินเหยียบลงบนพื้นดินของกรุงศรีอยุธยาและโบราณสถานกรุงเก่ามากมายนั้น มีคนพร่ำสอนเสมอ ในเรื่องของการสำนึกในบุญคุณของพระผู้กอบกู้แผ่นดิน หยิบเม็ดกรวดหินดินทรายขึ้นมาดู เราจะเคยรู้กันบ้างมั๊ยนะว่า ก้อนกรวดหินดินทรายในที่เหล่านี้ เคยคลุกเคล้าไปด้วยหยาดเลือด และชีวิตของเหล่าบรรพชนที่เสียสละชีวิตเป็นราชพลีมาไม่รู้จักเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ หรือเดี๋ยวนี้ไม่มีคราบเลือดหรือหยาดน้ำตาหลงเหลือไว้ให้พวกเราเห็น ถึงจะเรียกความสำนึกกลับคืนมาได้ แต่ถ้าจะต้องรอจนถึงวันนั้น เราก็คงจะไม่มีแผ่นดินให้ได้ซุกหัวนอนอย่างเป็นสุข บางที...การที่คนเรายังไม่เคยตกเป็นข้าเขา ทาสเขา ก็ยังไม่สำนึกว่า "อิสรภาพ" มีค่าเพียงไหน หรือจะไปเรียกร้องหาอิสรภาพในวันนี้เราไม่มีสิทธิ์แม้กระทั้งเป็นเจ้าของชีวิตและจิตวิญญาณของตนเอง ..................... ข้าพระพุทธเจ้าขอเทิดทูนสดุดีในพระนามพระผู้ทรงกอบกู้ ให้ได้มาซึ่งอิสรภาพ .... เหนือแดนดินแผ่นดินไทย สยามประเทศได้มีโอกาสเป็นประเทศไทยและยังดำรงอยู่ได้ด้วยพระบารมีปกป้องคุ้มครองอย่างแท้จริง ขอพระบารมีปกป้องแผ่ไพศาลไปในดวงใจของไทยทุกดวงให้มีความสำนึกรักและหวงแหนประเทศ เพื่อเขาทั้งหลายเหล่านั้นจะได้เป็นกำลังสำคัญในการรักษาและธำรงไว้..."ซึ่งความเป็นไท...." สิบนิ้วมือพนม ร่วมขอตั้งจิตอธิษฐาน...ระลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ในพระราชภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงกระทำ เหล่าอนุชนรุ่นหลังมิเคยลืมเลือน ความเจ็บปวดที่ทรงได้รับ หยาดพระเนตรที่หลั่งริน หยาดพระเสโทที่รินไหล ล้านแต่ยังอยู่ในหัวใขของเหล่าข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบลงบนแผ่นดินที่รักและหวงแหนยิ่งชีวิต แทนการกราบแทบเบื้องพระบาท ด้วยความจงรักและภักดีต่อแผ่นดินและราชบัลลังค์ ขอพระบารมีปกเกล้าด้วยเทิดพระพุทธเจ้าขา จากคุณ : คุณน้ำอบ - [ 31 ม.ค. 48 21:14:10 A:202.182.8.33 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณน้ำอบ...ที่น่าเคารพคะ         สุดสิ้น ตัวอักษรสุดท้ายของคุณ...นัยน์ตาข้าพเจ้า ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตา...ความรู้สึกที่คุณถ่ายทอดมา...ข้าพเจ้า สุดจะบรรยาย...    คุณ เขียนได้ตรงแจ่มชัด...        เสียงเพลงนางนาค ที่เคยร้องเมื่อยามเด็กแว่วเข้ามา ***ใครมา...เป็นเจ้า.......(เออ เอ้อ เอ่อ )......เข้าครอง คงจะต้อง...บังคับ.....(เออ เอ้อ เอ่อ )...ขับไส เคี่ยวเข็ญ...เย็นค่ำ.....(เออ เอ้อ เอ่อ )....กร่ำไป... ตามวิสัย...เชิงเช่น.....(เออ เอ้อ เอ่อ )....ผู้เป็นนาย          เขาจะเห็นแก่หน้า...(เออ เอ้อ เอ่อ )..ค่า..ชื่อ จะนับ..ถือ  พงศ์พันธุ์...(เออ เอ้อ เอ่อ )..นั้นอย่าหมาย ไหนจะต้อง..เหนื่อยยาก...(เออ เอ้อ เอ่อ )..ลำบากกาย ไหนจะอาย...ทั่วทั้ง......(เออ เอ้อ เอ่อ )...โลกา            ขออนุโมทนาในบุญแห่งกตัญญูต่อแผ่นดิน ซึ่งคุณน้ำอบได้มาเขียนฝากไว้ ณ ที่นี้ ช่วยเป็นบารมี สืบต่อให้ ยุวชน คนไทย ได้ตระหนัก คุณค่าแห่งแผ่นดิน ความอิสระเสรี   ที่เรามี  เสรีภาพ ที่มีเปี่ยมล้น จนไม่รู้จัก คุณค่า ของความดีที่ควรกระทำ  กตเวทิตาคุณ ตอบแทน ต่อแผ่นดิน.....ที่เราได้เหยียบ ย่ำ ยืน อย่างทรนงองอาจ นี้ เพราะ เหล่า บรรพบุรุษ บูรพกษัตริย์ และ นักรบไทย ชาติทุกท่านได้ กล้าหาญ เสียสละมาให้เรา อย่างแท้จริง ทิกิ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 31 ม.ค. 48 22:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอสารภาพว่า ตอนที่เขียนก็มีน้ำตาเช่นกันค่ะ มักจะชอบหวลระลึกไปถึงเมื่อครั้งที่แผ่นดินเคยร้อนและลุกเป็นไฟ บ้านเมืองโดนเผาพินาศ ทิ้งไว้แต่ซากปรักหักพังให้เห็นว่า ณ.ที่ตรงนี้เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อนเช่นไร ซึ่งถ้าบ้านเมืองในทุกวันนี้เป็นปรกติสุข ก็อาจะทำให้หวลย้อนคิดว่า ความเจ็บปวดที่ผ่านมาคือเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเรื่องหนึ่งในหน้าประวัติศาตร์ แต่**กับสถานการณ์บ้านเมืองในยามนี้ก็กำลังเข้าสู่ภาวะคับขันเช่นกัน ดังนั้นความหวาดกลัวที่แผ่นดินจะร้อนเป็นไฟจึงไม่ใช่ความคิดวิตกจริต หากแต่หันไปทางไหน มองหาความร่วมพรรคสามัคคีไม่เจอ จนตอนที่สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ลุกขึ้นเป็นไฟ วันที่ระเบิดร้านข้าวต้มที่นราธิวาส มีคนเจ็บคนตายนั้นก้คือความทุกข์ที่ชาติสูญเสียพอทนแล้ว แต่นี่ยังเจ็บเข้าไปถึงหัวใจ แรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดไม่ได้ทำร้ายข้าพเจ้าเลย หากแต่ทำลายหัวใจจนแทบแหลกตามไปด้วย รู้สึกเจ็บปวดและคับแค้นใจอย่างที่สุด เนื่องจากวันนั้น..ที่เกิดเหตุระเบิดนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จฯแปรพระฐานเพื่อเยี่ยมพสกนิกรของพระองค์ เขียนมาถึงตรงนี้ก็ร้องไห้อีกแล้ว เราก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้น จะมีอะไรไปต่อสู้กับเจา อะไรที่พอจะทำได้ ให้ทำอะไรก็จะทำ แต่ความรุนแรงทวีคูณเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ก็ไม่ทรงเสด็จฯกลับกรุงเทพแต่อย่างไร ทราบจากผู้ใหญ่ใกล้ชิดว่า...ท่านตรัสว่า" จะให้ท่านทิ้งประชาชนของท่านไปได้อย่างไร ท่านจะอยู่เป็นเพื่อนพสกนิกรของท่าน" เหตุการณืนั้นทำให้ข้าพจ้าเข่าอ่อน ทรุดตัวก้มลงกราบแผ่นดิน ขอให้ดวงพระวิญญาณของพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ทรงอภิบาลปกป้องสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและพระพรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่เสด็จฯแปรพระราชฐานทรงงานอยู่ในพื้นที่ และกราบทูลขอต่อดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรให้ทรงคุ้มครองทูลพระหม่อมแก้วของพระองค์ด้วย กราบทูลถามท่านในใจว่า เราจะยังคงรักษาอำนาจอธิปไตยของเราได้นะเพคะ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ท่ามกลางความสูญเสียของเหล่ามวลมนุษยชาติอันน่าสะพึงกลัว ประเทศชาติต้องถูกโจมตีด้วยภันธรรมชาติระรอกใหญ่ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสลงไปในพื้นที่หลังจากนนั้น กวาดสายตามองไปจนทั่ว รอบตัวๆสิ่งที่เคนคุ้นเคนทั้งหลายพินาศย่อยยับไม่มีชิ้นดี คราบเลือดและหยาดน้ำตามีให้เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่ง เสียงร้องไห้คร่ำครวญถึงคนที่ต้องพรัดพราก สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ข้าพเจ้าบอกกับตัวเองในใจว่า มันไม่ต่างอะไรกับเกิดสงครามเลย แมยังเป็นสงครามที่ไม่เคยปราณีใครเลยเสียด้วยซ้ำ ความโหดร้ายทารุณที่เกิดขึ้น ไม่ต่างอะไรไปกับความย่อยยับจากผลของสงคราม หากแต่...สงครามครั้งนี้ ไม่เคนปราณีใคร แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจ หันเหความสนใจข้าพเจ้าให้ออกจากความเจ็บปวดนั้น ก็คือภาพของคลื่นพลังของพี่น้องร่วมประเทสและเพื่อนร่วมโลก คลื่นพลังนี้ เป็นคลื่นที่ยิ่งใหญ่ ทรงพลัง ค่อยๆหลั่งรินมาจากทุกผู้ทุกคนอย่างไม่ขาดสาย เป็นคลื่นพลังแห่งความโอบอุ้ม คลื่นพลังแห่งความอาทร ร้อนใจที่เห็นเพื่อนร่วมชาติด้วยกันต้องประสบเคราะห์กรรม คลื่นพลังแห่งความศรัทธาในความเป็นไทย ความรู้รักสามัคคีก่อเกิดพลังที่ยิ่งใหญ่น่าปลื้มปิติยิ่งนัก เป็นพลังที่เหมือนหยาดน้ำทิพย์ที่ไหลลงมาจากฟากฟ้า เพื่อปลอบขวัญและโอบกอดพี่น้องด้วยกัน ใช่ค่ะ...พี่น้อง...ด้วยกัน ข้าพเจ้าเขียนไม่ผิด เพราะพวกเราคือพี่น้องไทยร่วมชาติเดียวกัน มีทีเคารพรักและศรัทธาเหมือนกันคือ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และในที่สุด เหตุการณ์ต่างๆก็คลี่คลายลงได้ด้วยความรัก สามัคคี หวงหา อาทร พวกเขาไม่ใช่คนอื่นหากแต่เป็นพี่น้องของเรา ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่า ..ข้าพเจ้าเชื่อว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่ส่วนไหน ตรงไหนของแผ่นดิน พวกเราก็พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน อยู่เป็นเพื่อนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ทุกเมื่อ ------------------------------------- ฮายพูดถูกมั๊ยคะ คุณทิกิ จากคุณ : คุณน้ำอบ - [ 31 ม.ค. 48 23:57:50 A:202.182.8.33 X: TicketID:085893 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ น้ำอบคะ เห็นด้วยกับคุณน้ำอบทุกประการเลย วันนั้น ก็พูดไม่ออกเหมือนคุณ...       และ เมื่อถึงวันนี้..ภาพน้ำใจที่หลั่งไหลไปช่วยชาวใต้ ทำให้เราดีใจว่า คนไทยเรารักกันทุกหนแห่งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 1 ก.พ. 48 01:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 65 jkj จากคุณ : kljh - [ 1 ก.พ. 48 19:19:49 A:61.90.96.123 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 "จอมคน ยอดนักรบ แห่งแผ่นดิน" พระมหากษัตริย์ผู้ทราฃงทุ่มเทชีวิตเป็นเดิมพัน ในการกอบกู้เอกราชให้แก้แผ่นดิน "สงครามยุทธหัตถี" เดิมพันอันยิ่งใหญ่ หมายถึงชีวิต หมายถึงแผ่นดิน ที่พระองค์ไม่อาจจะปราชัย พระราชประวัติของพระองค์ สมควรค่ายิ่งแก่การเทิดพระเกียรติ สูงคายิ่งแก่การ บันทึกและจารึกไว้ในรอยจำ หลวงวิจิตรวาทการ ได้สดุดีวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านไว้ดังนี้ "ทรงเป็นกษัตริย์ที่ออกหน้าและทำการทุกอย่างด้วยพระองค์เอง ในการสงครามทุกครั้งได้ทรงปฎิบัติทั้งหน้าที่แม่ทัพ และหน้าที่พลทหารครั้งใดที่ทรงรู้สึกว่าเป็นการสำคัญและเป็นการยาดแล้ว ก็ทรงลงมือทำด้วยพระองค์เองทันที ปล่อยงานที่ง่ายไว้ให้คนอื่นทำ ผลที่สมเด้จพระนเรศวรได้ทรงทำไว้กับประเทศไทยนั้น คือ "สันติสุข" เพราะตั้งแต่เสร็จสงครามยุทธหัตถีแล้ว ก็ไม่มีศัตรูต่างด้าวเข้ามาย่ำยีกรุงศรีอยุธยาอีก จนตลอดเวลาศตวรรษครึ่ง แปลว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงใช้เวลา ๒๐ ปีทำสงคราม เพื่อสร้างความร่มเย็นให้แก่ไทย เป็นเวลา ๑๕๐ ปี ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำเลิศที่พระองค์ทรงทำให้ไว้แก่ชาติ " จากคุณ : คุณน้ำอบ - [ 1 ก.พ. 48 20:16:42 A:61.91.227.2 X: TicketID:085893 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช แด่ ลูก หลาน เหลนไทย อันอังคารสังขาร ของกรูนี้ บัดนี้ผ่านสี่ร้อยกว่าปีหามีไม่ ถึงกายกรู ตัวกรู จะตายไป วิญญาณไซร์ ยังอยู่ คู้แผ่นดิน ก็แผ่นดินผืนนี้ หรือมิใช่ ที่กรูสู้ กู้ไว้ ให้ลูกหลาน บัดนี้หลานเหลนอยู่ สุขมานาน ถึงปราศปราณ ญาณยังอยู่ คู่พวก*ง กรู...สู้กู้แผ่นดิน ไว้ให้อิสระ นำคนทไย ศุ้ชนะ มิรู้สิ้น ถึงตัวตาย(ไป)รักษ์ไว้ ซึ่งแผ่นดิน ปณิธาน มิเลือน ถึงสิ้นปราณ แผ่นดินนี้มี ความศักดิ์สิทธิ์ แม้แม่นผู้ใดคิดมุ่งร้าย ต้องตายสิ้น เพราะเหตุกูร ผู้กอบกู้ กู้แผ่นดิน ยังดูแลตราบสิ้น ชั่งกาลนาน กรุงศรีฯ เคนคลุกคลี ด้วยสีเลือด แผ่นดินเคยเดือด เลือดโลมไหล แต่ไทยต้องคงนาม ความเป็นไทย ถึงไม่มีใคร วิญญาณกูร จะสู้เอง ****อ่านกลอนบทนี้แล้วไม่มีน้ำตา ก็ไม่มีหัวใจกันแล้วค่ะ หมายเหตุ พิมพ์ ตามต้นฉบับแล้วโพสไม่ได้นะคะ ต้องเปลี่ยนเป็น "กรู" จากคุณ : คุณน้ำอบ - [ 1 ก.พ. 48 20:29:13 A:61.91.227.2 X: TicketID:085893 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คห ที่ 65      หมายใจจะตอบ แต่พอเดาได้ว่า ..ตอบอีก ก็จะว่ามาเขียนอะไรอีกแล้วหรือ..ไม่เดาดีกว่านะคะ เดี๋ยวท่านก็คงโผล่หน้ามาเขียนเองใช่ไหมคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 1 ก.พ. 48 22:47:22 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คห 66 คุณ น้ำอบ การอ่านประวัติศาสตร์ ก็ควรอ่าน ทั้งเก่า และใหม่ แล้ว ประเมินความเป็นไปได้..ที่เหมาะสม แก่ การสานประวัติแก่ยุวชนรุ่นต่อไป..       ในตอนที่เป็นเด็ก และเป็นวัยรุ่น ก็อ่านงาน คุณหลวงวิจิตรวาทการบ่อยๆ โตขึ้น ก็อ่านประวัติศาสตร์ลุยหมดทุก ค่าย...แต่ ทุกวันนี้ ไม่ค่อยมีหนังสืออ่านเพราะ นำไปบริจาคที่ไหนๆ เสียหมด เลยต้องมาขุดหา ตามเว็บมาดู เป็น หลักให้ เขียนวันเดือนปี และ เหตุการณ์ถูกต้องเพื่อ บทกลอนของเราใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด            งานประวัติพระองค์ท่านนั้น ก็หาได้จากบันทึกกรุงเก่า ตลอดจนตามหนังสือเก่ามากมายนะคะ เพียงแต่ เราไม่ค่อยได้ไปค้นหาเท่าไหร่             อยากให้คนรุ่นใหม่ รักประวัติศาสตร์ สืบค้น คิดเขียนนำมาร่วมสมัย ขอบคุณในกระทู้นี้ที่คุณเขียนมาให้อ่าน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 1 ก.พ. 48 22:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ในตอนที่เป็นเด็ก และเป็นวัยรุ่น ก็อ่านงาน คุณหลวงวิจิตรวาทการบ่อยๆ โตขึ้น ก็อ่านประวัติศาสตร์ลุยหมดทุก ค่าย...แต่ ทุกวันนี้ ไม่ค่อยมีหนังสืออ่านเพราะ นำไปบริจาคที่ไหนๆ เสียหมด เลยต้องมาขุดหา ตามเว็บมาดู เป็น หลักให้ เขียนวันเดือนปี และ เหตุการณ์ถูกต้องเพื่อ บทกลอนของเราใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ******นั่งอ่านตีความอยู่ตั้งนานค่ะ ไม่เข้าใจความหมายที่พูด แต่พอมาอ่านเรื่องการตีความในเรื่องของวัน เดือน ปี เวลา เข้าใจถึงบางอ้อเลย... คุณทิกิตัดเรื่องประเก็นเรื่องวัน และเวลาออกไปเลยค่ะ เพราะตั้งใจชี้ให้เห็นแค่พระวีรกรรมเท่านั้น เพราะเท่าที่ทราบมา แม้แต่ในวงการทหารก็ยังเถียงกันเรื่องนี้อยู่เลย คุณทิกิดึงข้อความลงมา แล้วแก้ใหม่ตรงช่วงของจำนวนปี ก็จะดีคะ เพราะตอนนั้นอารามดีใจที่มีคนฝากกลอนไว้ เลยรีบอยากมาเขียนให้ เพราะเหตุผลที่คุรทิกิเขียนก็ตรงกับที่ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ได้เขียนไว้ คือวันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีก็คือ ดวงจันทร์ในวันแรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ จะต้องเป็นพระจันทร์ที่ยังคงสว่างจ้าอยู่ในท้องฟ้า เกือบเต็มดวงทีเดียว เพราะเพิ่งผ่านวันเพ็ญมาหมาดๆ และจากผลที่ท่านได้ตรวจสอบอย่างละเอียดนั้นผลก็ออกมาว่า ตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม ถูกต้องมั๊ยคะ ส่วนคำสดุดีของหลวงวิจิตรฯ ต้องขออภัยด้วยที่ลืมคิดในเรื่องของเวลา ตอนนั้นตั้งใจจริงแค่เรื่องของเรื่องหาส่วนอื่นค่ะ และอันที่อยากให้คุณทิกิดูที่สุดคือ โพส ที่ 67 ที่สุด เพราะอันนี้คือมีคนเขียนวางเอาไว้ให้เลยทีเดียว จากคุณ : คุณน้ำอบ - [ 1 ก.พ. 48 23:36:05 A:202.182.8.33 X: TicketID:085893 ]

ความคิดเห็นที่ 71 โพส ที่ 67 ดูเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาแล้วสักครั้ง แต่นึกยังไม่ออก ว่าเป็นหนังสือสำนักทรงอะไรสักอย่าง ส่วน เว็บที่ให้ลิงค์ไว้ เรื่องวัน ให้ดู กระทู้ ที่ 60 ค่ะ ขอบคุณ จากคุณ : ทิกิ_tiki - [ 2 ก.พ. 48 03:04:14 A:203.150.111.26 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 อ่านกระทู้ถามตอบของคุณทิกิ กับคุณน้ำอบ แล้ว เกิดความรู้สึกเหมือนเสือพบสิงห์แล้วสินะ...อิอิอิ ตามมาอ่านด้วยความชื่นชมทั้งคู่นะครับ ไม่ว่าเรื่อง "พระนเรศวรมหาราช" กับ เรื่อง "นางสนองพระโอษฐ์" กำลังรออยู่ไงว่ากระทู้ของใครจะยาวกว่ากัน (ไม่ต้องบอกเรื่องคุณภาพเพราะเชื่อถือทั้งคู่ว่า คุณภาพคับแก้ว เอี๊อก...) แต่เอ๊ะรู้สึกกระทู้ของคุณน้ำอบจะถูกตัดออกส่วนหนึ่งไม่ทราบหายไปไหนเหมือนกันนะ ยังอ่านช่วงหลัง ๆ ไม่หมดเลย เสียดายจัง คุณทิกิแต่งกลอนได้ไพเราะมาก แต่งได้สด ๆ เลยหรือเปล่าครับ ใช้เวลาเยอะมั๊ยครับ แล้วจะแวะมาใหม่นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : sompongy - [ 3 ก.พ. 48 22:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อ่า..ขอโทษ คุณสมพงษ์ จริงๆ ค่ะ เมื่อวานไม่ได้เข้า หรือ เข้ามาดูกลอนใหม่ เลยไม่ได้มาแวะดูเรื่องนี้ แล้วนึกว่า คงเป็นคำตอบตัวเอง ตอบคุณ น้ำอบไว้ น่ะคะ      ส่วนใหญ่ กลอน แต่งหน้าจอ คือพิมพ์ลงมาเลย ในกระทู้ หรือ อาจลงโน้ตแพ็ด แล้วยกมา แต่จะไม่ค่อยใช้มือเขียนค่ะ เพราะ ลายมือ ไม่ค่อยสวย อ่านไม่ออก แต่นานๆ ก็ แต่งด้วยมือเหมือนกัน แบบุถ้า เครื่องไม่ว่างก็ ต้องลงกระดาษ บ้างคะ        ส่วนเรื่องกระทู้ ต้องยก ให้ คุณ น้ำอบ ไปแน่นอนค่ะ เพราะ ทิกิ หยุดเรื่องพระนเรศวร ท่านไว้เพียงเท่านี้ก่อน แต่การคุยกันเรื่องประวัติศาสตร์ ไม่มีปัญหา ค่ะ เชิญคุยกันได้ตามสะดวก บางคน เคยติงว่า ทิกิ เขียนกลอน ประวัติศาสตร์ ควรเอาไปไว้ หน้าประวัติศาสตร์ ทิกิ ติดนิสัยเขียนที่นี่ ตรงไหน ก็ตรงนั้น ไม่ค่อยเปลี่ยนช่อง ค่ะ ขออภัย...         เวลา แล้วแต่ใช้ นะคะ คุณ ..       บางกลอน ก็เร็ว แป๊บหนึ่งไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ บาง กลอน สองสามนาที ก็ลุยแล้ว โคลงบางโคลง ก็เช่นกัน แต่ พวก กาพย์ ฉันท์ ทิกิ เขียนได้ แต่ขี่เกียจจำ ครุลหุ กับ ขี้เกียจเปิด ตำราตั้งค่า กันค่ะ .. เลย ชอบเขียนสองอย่างนี้เสมอค่ะ             ขอบคุณคุณ สมพงกี้ มากค่ะ ว่าแต่เขียนชื่อนี้ถูกไหมคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.พ. 48 20:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สวัสดีค่ะ คุณ น้ำอบ  ที่คุณมาโพส (แต่ทิกิลบออกเพราะคุณเขียน พาดพิงไปถึงผุ้อื่น โดยทิกิไม่ทราบเรื่องอันใด) ทิกิ ไม่ได้เข้าไปอ่านต่อ เลยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวจะเข้าไปอ่านนะคะ tiki_ทิกิ  - [ 6 ก.พ. 48 20:50:03     ไปอ่านมาแล้ว เห็นคุณน้ำอบไปเขียน เชียร์ชื่อทิกิ_tiki จนน่าตกใจ ขออภัย ..พยายามคิดในแง่ดี แต่ก็ยังไม่ค่อยจะ สบายใจเท่าไหร่ กรุณาช่วยปลดชื่อ ทิกิ_tiki ออกจากเว็บ ราชองครักษ์ ได้ ไหมคะ ขอร้อง ที่คุณน้ำอบโผล่มาตอบความกระทู้ ทิกิ ก็เป็นพระคุณ นะคะ ขอบคุณ...ในฐานะผู้อ่านท่านหนึ่ง     แต่ ทิกิ ไม่ทราบเรื่องอะไรของใครทั้งนั้น และ มิค่อยจะอยากรับทราบ ด้วยค่ะ เพราะ มาเขียนที่ กระทู้พันทิปนี้ ก็ รู้จักแค่คน สองคน ที่เขา บังเอิญ แนะนำ ทิกิ_tikiที่ชอบ เขียนโคลงให้มาเขียนที่นี่ร่วมกับรุ่นพี่เก่าๆของเว็บ ก็มาค่ะ       สำหรับ ความรักบูชาที่มีต่อพระนเรศวรนั้น      บอกได้ว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ...ท่านเป็นมหาราชนักรบสุดหัวใจข้าน้อยนัก       เรื่องอื่นมิซับทราบค่ะ ขอผ่านนะคะ ไม่เกี่ยวค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 48 16:45:50 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 9 ก.พ. 48 09:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คุณ tiki_ทิกิ ท่าทางจะถนัดแนวการประพันธ์ มากกว่า โบราณคดี นะครับเนี่ย... 'ทมยันตี' ได้แต่ง 'อธิราชา' ซึ่งนวนิยายเกี่ยวกับพระองค์ไว้ อ่านเจอประโยคหนึ่ง ทำให้รู้สึก 'สงสาร' พระองค์มากขึ้น; พระวิสุทธิกษัตรีย์ ตรัสว่า "ลูกรัก...พ่อวางงานไว้ให้เจ้ามากมาย ลูกสามคนเกิดมาเพื่อให้แก่แผ่นดิน พ่อเจ้าใจแข็งราวหิน ส่งลูกสาวไปทำงานท่ามกลางศัตรู ลูกชายสองคนสาละวน แต่กู้บ้านกู้เมือง มีแต่เรื่องรบราฆ่าฟัน ลูกรัก...ครอบครัวเรา มีบุญญาฤามีกรรม..." ความตรงนั้นแถลงได้...แผ่นดินไทยมีบุญญา หาก 'ครอบครัว' พระนางเธอประสูติมาเพื่อใช้กรรมให้แผ่นดิน! จากคุณ : นันท์นพคุณ - [ 13 ก.พ. 48 01:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 78 คุณ นันท์นพคุณคะ     บางสิ่ง ใครผู้ใดจัดวางไว้เราไม่ล่วงรู้เลย ประเทศชาติเรา โดยเหตุแห่งบุรพกษัตริย์ไทยเราได้ น้อมเคารพพระพุทธศาสนาเป็นหลักชัย  ทุกพระองค์ มหาราชนักรบไทย จึงได้ เด็ดขาดห้าวหาญนัก     ขอบคุณที่แวะมาอ่านกระทู้ ทิกิ ไม่ค่อยมีเอกสาร ให้สืบค้นใดมากนัก ด้วย ติดขัดที่เอกสารเก่าที่เคยมี ปัจจุบันนี้ ก็ไม่ค่อยมี และ ก็ หาอ่านตามเว็บแบบงูๆปลาๆ ไปเท่านั้นเองค่ะ เท่าที่จะหาได้  ขอขอบพระคุณ คุณ นันท์นพคุณ เป็นที่ยิ่ง ที่มีกรุณานำลิงค์ หรือ ข้อมูลมาสอบเทียบให้ได้อ่านนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ ยินดีที่คุณกรุณา    -  บางเรื่อง ทิกิ ก็ทราบค่ะ เช่น วันยุทธหัตถี ดูจาก กระทู้ท่าน พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ นะคะ ขออนุญาต เปลี่ยนล่าสุด เข้า กระทู้เว็บพระดาบส ของท่าน http://www.dabos.or.th/pr22.html แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 48 09:14:48 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 48 09:09:51 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ก.พ. 48 09:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณมากนะครับสำหรับ Web Link แล้วจะแวะ เข้ามาเยี่ยมและอ่านกระทู้บ่อยๆ เพราะยังสำนึกถึง พระองค์ท่านอยู่เสมอ จากคุณ : นันท์นพคุณ - [ 13 ก.พ. 48 23:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คุณ นันท์นพคุณคะ      ขอบพระคุณมากค่ะ แต่ละช่วงสัปดาห์ ก็มีงานเขียน แตกต่างกันออกไป ตามสถานะการณ์และ สภาพชีวิต ด้วยเขียนกลอนแบบ เขียนบันทึกสังคมเสียมากกว่า และขอบพระคุณในกำลังใจจริงๆค่ะ ทิกิ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ก.พ. 48 06:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เห่เอย พระจอมจักร บรรทมหลับให้เนิ่นนาน พระราชสงคราม อันแสนหนักพักเถิดเอย เห่เอย ทูลกระหม่อมแก้ว ครรไลแล้วสู่นฤพาน อยุธยาเย็นสะท้าน ร่มฉัตรพับหักลงเอย เห่เอย มหาราช คนไทยมิอาจลืมได้เลย พระนามจักมิเคย ลบจากห้วงหัวใจไทย พระเสด็จ ณ หนใด คนไทยยังอาดูรเอย ('อธิราชา' / ทมยันตี) จากคุณ : นันท์นพคุณ - [ 20 ก.พ. 48 02:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แวะมาดูกระทู้กลอนล่าสุดตนเอง ด้านบน http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3301525/W3301525.html       ไล่มาดูด้านล่างตามความเคยชิน...เอ มีเขียนตอนตีสองวันที่ 20 นึกว่าอันเก่าที่ตอบคุณไว้ อ้าว กดมาเจอคุณ จริงๆ ค่ะ      ขอบคุณมากค่ะ ที่นำ บทกวียิ่งใหญ่ แห่งคุณ ทมยันตี มาให้อ่าน ชื่นชมท่านเสมอว่า เป็นนักเขียนในดวงใจท่านหนึ่ง...พอพอกับชื่นชอบ คุณ สีฟ้า  และ คุณ ว.วินิจฉัยกุล นะคะ  งานฝีมือระดับประเทศที่น่าชื่นชมยกย่องเสมอค่ะ ยินดีที่คุณ นันท์นพคุณ นำมาให้อ่านค่ะ ขอบคุณมากที่แวะเยี่ยมค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 20 ก.พ. 48 08:49:30 ]

ความคิดเห็นที่ 83 กราบเรียนท่านสมาชิก โพสท์บทกวีใหม่ แต่ไม่อยู่ในหน้า บทกวี ก็ไม่ทราบเป็นอะไรเหมือนกัน คงไม่ทันสังเกตมังคะ เลย บทกวี ไปอยู่ในหน้ารวม ถนนนักเขียน แต่ไม่ทราบ อยู่ตรงส่วนไหน ก็งง งง  นะคะ ฝาก link ไว้ให้เพื่อนๆ ด้วยที่นี่แล้วกันค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3310210/W3310210.html จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 ก.พ. 48 12:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 36   ขอมาลงชื่อว่าได้อ่านหลายกระทู้ที่คุณ monique และ สหายในเว็บนี้เขียนหลายหน แม้จะไม่ค่อยได้มีเวลามา อ่านนัก...แต่ต้องขอเรียนว่า เป็นความละเอียดละออที่ ทำให้เห็นภาพบางอย่างชัดเจนยิ่ง   ข้าพเจ้าขอเรียนให้ทราบว่า ไม่ได้รู้จักคุณ น้ำอบ เป็นการส่วนตัวอันใด แต่เห็นเธอค้อปี้งานข้าพเจ้าไปไว้ เว็บโน้น และ เว็บนั้น..ก็..อ่อนใจอยู่เหมือนกันค่ะ   จะปฏิเสธการขออนุญาตก็ใช่ที่ เคยขอให้ลบบางอย่างที่ไม่สมควรในบางเว็บ ก็ไม่ได้เห็นการตอบรับจากเธอคือไม่ได้ลบออกมังคะ ก็เลยไม่ได้ตามติดอะไรเท่าไหร่ แต่มาอ่านกระทู้หลายกระทู้คุณ โมนิค แล้ว ต้องเรียนว่า อ่อนใจจริงค่ะ ขอบคุณที่แวะมาลงให้ทราบรายละเอียดเด่นชัด ข้าพเจ้าในฐานะคนนอก จะได้ระมัดระวังตน เวลาเขียนงานมิให้พาดพิง ไปถึงถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ใครจะว่าเป็นการ จิก อย่างใด ข้าพเจ้าไม่คิดว่า เป็นการ จิก แต่ถือว่า นี่เป็นถ้อยคำ ของ *ครู* ที่ทุกคนที่เขียนงาน ในเว็บไซท์ ควรระมัดระวังตน ระมัดระวัง ถ้อยคำ เป็นอย่างยิ่งทีเดียวค่ะ ทิกิ จากคุณ : tiki_ทิกิ  - [ 10 เม.ย. 48 21:58:06 ] ข้อความนี้ ข้าพเจ้าไปเขียนไว้ในกระทู้ ที่คุณ monique http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K3401884/K3401884.html link ไปที่กระทู้ คุณ กัมม์ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K3397334/K3397334.html คิดว่า ถ้าคุณ น้ำอบได้อ่านคงจะพิจารณา ลบกระทู้ที่คุณ น้ำอบลากไปวางได้ ในกระทู้คุณ น้ำอบเอง และ กระทู้ ราชองครักษ์ ซึ่ง ข้าพเจ้าไปโพส ครั้งก่อนที่นี่ค่ะ ความคิดเห็นที่ 76   สวัสดีค่ะ คุณ น้ำอบ  ที่คุณมาโพส (แต่ทิกิลบออกเพราะคุณเขียน พาดพิงไปถึงผุ้อื่น โดยทิกิไม่ทราบเรื่องอันใด) ทิกิ ไม่ได้เข้าไปอ่านต่อ เลยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวจะเข้าไปอ่านนะคะ tiki_ทิกิ  - [ 6 ก.พ. 48 20:50:03    ไปอ่านมาแล้ว เห็นคุณน้ำอบไปเขียน เชียร์ชื่อทิกิ_tiki จนน่าตกใจ ขออภัย ..พยายามคิดในแง่ดี แต่ก็ยังไม่ค่อยจะ สบายใจเท่าไหร่ กรุณาช่วยปลดชื่อ ทิกิ_tiki ออกจากเว็บ ราชองครักษ์ ได้ ไหมคะ ขอร้อง ที่คุณน้ำอบโผล่มาตอบความกระทู้ ทิกิ ก็เป็นพระคุณ นะคะ ขอบคุณ...ในฐานะผู้อ่านท่านหนึ่ง    แต่ ทิกิ ไม่ทราบเรื่องอะไรของใครทั้งนั้น และ มิค่อยจะอยากรับทราบ ด้วยค่ะ เพราะ มาเขียนที่ กระทู้พันทิปนี้ ก็ รู้จักแค่คน สองคน ที่เขา บังเอิญ แนะนำ ทิกิ_tikiที่ชอบ เขียนโคลงให้มาเขียนที่นี่ร่วมกับรุ่นพี่เก่าๆของเว็บ ก็มาค่ะ      สำหรับ ความรักบูชาที่มีต่อพระนเรศวรนั้น     บอกได้ว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ...ท่านเป็นมหาราชนักรบสุดหัวใจข้าน้อยนัก      เรื่องอื่นมิซับทราบค่ะ ขอผ่านนะคะ ไม่เกี่ยวค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง 09 ก.พ. 48 16:45:50 คุณ : tiki_ทิกิ  - [ 9 ก.พ. 48 09:36:23 ] http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3249594/W3249594.html จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 เม.ย. 48 10:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 85 กลอนแต่ละบท กับ ข้อความแต่ละข้อความที่โพสมา นับว่าเป็นประโยชน์และควรค่ายิ่งสำหรับให้ยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไปได้นำมาศึกษาหาความรู้ และยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนรุ่นใหม่ซึ่งนับว่าจะเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้น้อยลงไปทุกทีได้เห็นถึงความยากลำบาก ความอดทนต่อสิ่งต่าง ๆ มากมายกว่าที่ไทยเราจะมีเอกราชมาจนทุกวันนี้ อยากให้เยาวชนทุกคนได้อ่าน และ ซึบซับสิ่งดี ๆ เหล่านี้ไว้ต่อ ๆ ไป จากคุณ : เฟิร์น - [ 13 พ.ค. 48 19:43:13 A:203.113.44.71 X:203.151.140.119 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอขอบคุณ คุณ เฟิร์นค่ะ สำหรับวันนี้เขียนตอนใหม่เพิ่มนิดหนึ่งที่หน้า http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3476557/W3476557.html ค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 15 พ.ค. 48 20:57:15 ]