CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เรื่องของ(นม)หนู

    เรื่องของ(นม)หนู


    ในที่ทำงานของผม  ซึ่งมีลูกน้องหญิงตั้งมากมายหลายคนนั้น  สุพิดา นับว่าเป็นเสมียนที่มีความขยัน เอาใจใส่การงานเป็นที่สุด แต่งตัวก็เรียบร้อย และมีมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานดีมาก

    อยู่มาวันหนึ่งเผอิญผมออกจากที่ทำงาน จะหารถแท็กซี่ไปประชุมที่กระทรวง เพราะรถหลวงไม่ว่าง  และเวลาก็สายเกือบสี่โมงเช้าตามเวลานัดประชุมแล้ว  เกิดสวนทางกับ      สุพิดาอย่างกระชั้นชิด  เธอรีบเปลี่ยนกระเช้าถักที่โปร่งและรกรุงรังไปด้วยหมูเห็ดเป็ดไก่และผักหญ้าประดามี  ที่จับจ่ายมาจากตลาด ไปไว้ทางมือซ้าย แล้วยกมือไหว้ทำความเคารพ อย่างว่องไวและสวยงาม

    “ สวัสดี  ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้ล่ะ…หนู “  

    ผมทักทายอย่างอารมณ์ดี

    “ หวัดดีฮ่ะ…ฟามจิงหนูมาตั้งนานแล้วละฮ่ะ หัวหน้า นี่หนูออกไปจ่ายตลาดมาน่ะฮ่ะ “

    “ อ้าว…ทำไมไม่ไปตอนเย็นล่ะ  จะได้กลับบ้านไปเลย “

    “ แหม…หัวหน้าเก๊าะ  ตอนเย็นฝ่าจะเลิกงานตลาดก็วายหมดแล้ว  จะหาซื้ออะไลได้ล่ะฮะ  มีแต่ของจะเน่าทั้งนั้น “

    ผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นอกเห็นใจลูกน้องคนโปรด  แล้วก็ผ่านเลยไป  

    เผอิญอีกเหมือนกันที่วันนั้น  ต้องประชุมทั้งรอบเช้ารอบบ่าย  กว่าจะเลิกเวลาก็ล่วงไปเกือบบ่ายสามโมง  จึงแวะกลับมาที่สำนักงาน  เผื่อจะได้เซ็นหนังสือที่ค้างในแฟ้มเสียหน่อย  พอลงจากรถประจำทาง ก็เจอสุพิดาลูกน้องคนสวย กำลังยืนรอรถอยู่ที่ป้ายพอดี  

    “แฮ่ะ..แฮ่ะ..หวัดดีฮ่ะ หัวหน้ากับมาอีกทำไมล่ะฮะ  เย็นป่านนี้แล้ว “

    “ เย็นอะไรกัน  เพิ่งสามโมงกว่าเท่านั้น  วันนี้ยังไม่ได้ทำงานเลย  มัวแต่ประชุม  แล้วหนูทำไมรีบกลับนักล่ะ “  

    ผมถามพร้อมกับมองไปที่ถุงรุงรังในมือ

    “ ก้อ…เอ้อ…ก้อ…หัวหน้าฮะ แหมหนูจ่ายกับข้าวตั้งก๊ะเช้า  ขืนกับเย็นเดี๋ยวของสดมันก็จะเน่าหมดน่ะซีฮะ…ลถมาแล้ว หนูไปละฮ่ะ  “

    ว่าแล้วเธอก็ก้าวขึ้นรถประจำทางไป  ปล่อยให้ผมอ้าปากค้างอยู่คนเดียว

    ที่ทำงานของแผนกผมนั้น  เป็นห้องโล่ง ๆ ยาวร่วม ๑๐ เมตร  มีเสมียนพนักงานชายหญิงหลายคน แต่มีหัวหน้างานอยู่พียง ๓ คนเท่านั้น  เราจึงเอา ตู้มากั้นแทนฝาห้อง  แบ่งส่วนให้เขาทำงานกันอย่างสบายใจ โดยไม่มีนายมาขวางลูกตา  เราขอที่แคบ ๆ พอตั้งโต๊ะเก้าอี้ ๓ ชุดเท่านั้น  บังเอิญแผนกเราโชคดี ได้รับบริจาคตู้เย็นตู้เบ้อเริ่ม  จากผู้มีจิตศรัทธาแต่ไม่ประสงค์ออกนาม  ๑ ตู้ ก็เลยเอามาเรียงต่อจากตู้หนังสือที่กั้นห้องไว้  หันหน้าออกไปทางที่มีคนมาก  ผมก็เจ้ากรรมดันไปนั่งโต๊ะที่หันหลังติดกับตู้เย็นเสียด้วย  มันก็เลยมีกรรมต้องได้ยินเสียงอะไรที่มันพิลึกพิลั่น ชวนให้รำคาญใจอยู่เรื่อย  

    อย่างเช่นเมื่อ ๒ - ๓ วันก่อน  เวลาพักเที่ยงผมสั่งบะหมี่แห้งชามน้ำชาม มาจัดการที่โต๊ะทำงานเรียบร้อยแล้ว ก็เหยียดเท้าพักหนังตา  กำลังเพลินใกล้จะเคลิ้ม ก็มีเสียงกระซิบกระซาบดังผ่านโสตประสาทที่กำลังหรี่ พอได้ยิน

    “ นี่นมเธอเหลอ “  

    เสียงเหมือนเจ้า พัน ลูกน้องชายคนหนึ่งของผม

    “ ฮื่อนมเลาเองแหละ เย็นดีมั้ย “  

    เสียงนี้เป็นผู้หญิง หูผมชักจะผึ่งขึ้น แต่ยังไม่ลืมตา

    “ ฮื่อ แข็งบึ๋งเลย ให้เลานะ “

    “ เอาซี ดูดเลย “  

    เอท่าจะหลับไม่ลงเสียแล้ว  เสียงดูดดังจ๊วบ ๆ สองครั้ง  พลันอีกเสียงหนึ่งก็แทรกเข้ามา

    “ นี่ตาพัน  ของเจ๊ก็ดีนะ ลองดูมั้ย “

    “ อย่ามาขัดจังหวะน่ะเจ๊  กำลังหล่อยนมของดาเขาอยู่ “

    “ เซ่อ  ของฉันดีกว่านะ  ไม่เชื่อดูนี่ซี่ “

    “ ฮ้า…นมเหลอนั่นน่ะ “

    “ ใช่แล้ว “  

    เห็นท่าจะไม่ได้งีบแน่วันนี้

    “ เอาเฮอะ  อมเล่นก็ได้ง่ายดี  ทีละเม็ดนะ “

    “ ฮื่อ…ฮื่อ…ดีแฮะ  ขอบคุณนะเจ๊ “

    ผมอดรนทนไม่ได้  ต้องลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมไปทางหน้าตู้เย็น  เจอจำเลยทั้งสามคนเข้าพอดี

    “ เฮ้…พัน  อะไรกันวะ  ฉันจะงีบซักหน่อย  ส่งเสียงกวนประสาทจริง แกนี่ “

    เจ้าพันยิ้มแห้ง  หนูสุพิดายิ้มเจื่อน  แม่สุดสี  ยิ้มแหยไปตาม ๆ กัน

    “ ผม…อ้า…ผม…คือ  ดาเค้ายกนมหนองโพให้ผมน่ะคับ มันแช่เย็นจนแข็ง เขาเลยขี้เกียจกิน  พอดีเจ๊สีเขาก็เอานมของจิตรลดาที่ทำเป็นเม็ดมาให้อีก  ผมเห็นมันแปกดี ก็เลยลองเปี่ยนดู  หัวหน้าลองมั่ง  มั้ยฮะ “

    ผมสบัดหน้าพรืด

    “ เฮ้ยไม่เอา  ขี้เกียจอม…เอ๊ยไม่เอา  จะนอนซะหน่อย “

    “ เชิญคับ แฮ่ะ…แฮ่ะ …ขอโทษ
    คับ “

    เรื่องทำนองนี้ ในที่ทำงานของผม มีอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปจนผมลืมเรื่องนั้นแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาของ เวทนา ลูกน้องสาวค่อนข้างสวยอีกคนหนึ่งของผม  ซึ่งเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ก็กระมิดกระเมี้ยนเข้ามานั่งร้องไห้ผะอืดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของผม  ด้วยอาการที่น่าสงสารชวนให้อยากจะปลอบโยนเสียเป็นที่ยิ่งนัก  แต่ด้วยความเจียมสังขาร จึงต้องนั่งรออยู่อย่างกระวนกระวายใจ  จนกระทั่งเช็ดน้ำตาและสั่งขี้มูกฟืดฟาดเรียบร้อยแล้ว  เพียงแต่ยังสะอื้นอยู่ฮัก ๆ  เรื่องราวที่เป็นสาเหตุจึงได้หลุดออกมาจากปากของเธอว่า

    “ หัวหน้าขา…อีตาพัน เขาแก้งหนูฮ่ะ หัวหน้าฮะ “

    เธอหมายถึงเจ้าพัน ตัวแสบของผมนั่นเอง

    “ ทำไมล่ะ  ไอ้พันมันทำอะไรหนู  บอกหัวหน้าเถอะ จะจัดการให้เอง “

    “ เขา…เขาแอบดูดนมหนูฮ่ะ “

    “ จิ…จริงหรือหนู “

    “ จิงซีฮะ  หนูจะมาโกหกหัวหน้าได้ยังไง  เรื่องน่าเกียดยังงี้ “

    “ มันทำ…เอ้อ…เมื่อไหร่  ที่ไหนบอกมา  จะได้จัดการเสียให้เข็ด “

    “ ที่ตู้เย็นน่ะซีฮะ “

    “ ตู้เย็น…แถวตู้เย็นน่ะเรอะ “

    “ ในตู้เย็นฮ่ะ  “  

    ลูกตาของผมคงจะมีเครื่องหมายคำถามอยู่หลายอัน  เธอจึงขยายความว่า

    “ หนูเอานมช็อคกาแล็ตก่องแช่ไว้ในตู้เย็นตั้งก๊ะเช้า  ตอนกางวันเขายังถามเลยว่านมใค  หนูก็บอกว่านมหนู  พอตอนบ่ายหนูเปิดตู้เย็นจะเอามากิน  เหลือแต่ก่องป่าว  แถมยังมีหลอดดูดคาอยู่อีก “

    เธอสั่งขี้มูกเสียอีกพรืดหนึ่ง แล้วจึงว่าต่อ

    “   หนูถามป้าสีว่าใคมายุ่งกะนมของหนู  อีตาหมู่พันลีบยื่นหน้ามา บอกว่าผมเอง  แล้วยังทำหน้าทะเล้นบอกว่าจะซื้อใช้ให้… …..หนูไม่ยอม…..หัวหน้าขา……….  หนูไม่ย้อม….ฮือ….”

    ผมถอนหายใจ เฮือกใหญ่  ค่อยโล่งอกไปหน่อย  เรื่องไม่ร้ายแรงอย่างที่นึก แต่  ผมกุ้ม …เอ๊ย..กลุ้มอยู่อย่างเดียว คือเด็กพวกนี้พูดไม่มีลอเลือ….ขอโทษ…รอเรือ กันเลยคับ...เฮ้อ.
       
    # * # * # *            .

    แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 48 05:50:59

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 17 เม.ย. 48 05:46:55 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป