CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ในไร่ฝ้าย (ขุนช้างขุนแผน)

    ขุนช้างขุนแผนฉบับนิทานข้างกองฟาง

    ในไร่ฝ้าย


    พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักครับ อันกระบวนสำนวนความของขุนช้างขุนแผน ฉบับหลวง ที่กระผมกำลังยึดไว้เป็นครูในการที่ได้มาเล่านิทานข้างกองฟาง ให้ท่านฟังอยู่ในขณะนี้นั้น ฉากการนัดพบครั้งแรก ของ แม่พิม พิลาไลย กับ พลายแก้ว ในไร่ฝ้าย นับว่าเป็นที่เลื่องลือมาแต่นาน ว่ามีสำเนียงและสำนวนที่อ่อนหวานละเมียดละไม ตรึงใจผู้อ่าน จนกระทั่งบางท่านต้องอ่านหลาย ๆ รอบ และจนกระทั่งทำให้กระผม ผู้เล่านิทานต่อหน้าท่าน ออกเขิน ๆ ที่จะต้องเอามะพร้าวมาขายสวนอีกครั้งหนึ่ง แต่กระผมก็สู้ข่มใจเล่าให้ท่านฟังต่อไป เพราะจริง ๆ แล้ว ทั้งท่านและกระผม ก็ชื่นชมความงามในไร่ฝ้ายครั้งนั้น ด้วยกันทั้งสองฝ่ายมิใช่หรือครับ

    เออหนอ.....อานุภาพของความรักนี้ช่างใหญ่หลวงนัก ความรักเคยบันดาลให้เกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ในโลกมาแล้วหลายอย่าง และในครั้งนี้ความรักก็บันดาลให้กุลสตรีเสงี่ยมอย่างแม่พิมพิลาไลย ลงมาตักบาตรเณรแก้ว แทนที่จะเฟี้ยมฝาเฝ้ามองพี่สายทองตักบาตรอย่างเช่นเคย

    และก็เจ้าความรักตัวเดิมนี้แหละ ที่ทำให้แม่พิมพิลาไลยตักบาตรด้วยวิธีแปลก ๆ ดังเช่นที่ในฉบับหลวงท่านขับเสภากลั้วหัวเราะไว้ดังนี้

    ทรุดนั่งตั้งขันลงวันทา
    ไม่อาจแลดูหน้าเจ้าเณรได้
    เทปรำคว่ำขันประหวั่นใจ
    บุหรี่ใส่ปนปลาทั้งหมากพลู ฯ

    เพราะฉะนั้นในเช้าวันดังกล่าว พ่อเณรแก้วก็คงจะต้องฉันข้าวกับหมากพลูและบุหรี่เสียละกระมัง?

    แต่ก็คงไม่เป็นไรมากนักหรอก เพราะถ้าพ่อแม่พี่น้องหลับตานึกภาพ ไปพร้อม ๆ กับกระผมแล้ว ก็คงจะเห็นพ่อเณรแกฉันไป...ยิ้มไป...?

    ตัดภาพเปลี่ยนฉากมาที่ไร่ฝ้ายตอนบ่ายวันนั้นเสียเลย พี่สายทองเธอก็เจ้ากี้เจ้าการจูงมือแม่พิม ให้มานั่งอยู่ในจุดนัดพบที่ตนกะการไว้ แล้วก็เดินไปรอพลายแก้ว ซึ่งไม่ใช่เณรไปชั่วขณะหนึ่ง ด้วยวิธีการอันลึกลับบางประการ ซึ่งแม้แต่กระผมผู้เล่านิทาน เรื่องนี้ก็ยังค้นไม่พบ

    พอพี่สายทองเจอหน้าพ่อแก้วเข้า ก็รีบนำทางลัดเลาะไร่ฝ้ายมาหาแม่พิม ในทันใด แต่กระนั้นก็ยังอดเบือนหน้าไปเย้าแหย่พ่อพลายแก้วมิได้ ท่านว่าไว้สั้น ๆ แต่คมคายดังนี้

    ยิ้มเยื้อนเบือนบอกเจ้าพลายพลาง
    มาคอยค้างอยู่แต่กินข้าวเช้าแล้ว ฯ

    พอถึงจุดนัดหมายที่ใต้ต้นกระทุ่ม กระผมก็ต้องมอบหน้าที่พรรณาความงามนี้ให้กับฉบับหลวงตามเคย ขอรับกระผม

    แทบต้นกระทุ่มพุ่มชัฏ
    หลีกลัดเริงรามหนามไหน่
    ค่อยย่างตามช่องพนมไม้
    เข้าใกล้เห็นพิมผู้ดวงตา
    นั่งร้อยบุปชาติสะอาดโฉม
    งามประโลมน่ารักเป็นหนักหนา
    จะดูไหนเปล่งปลั่งทั้งกายา
    ดังนางฟ้าลอยฟ้อนฉะอ้อนงาม
    จะใคร่ทักด้วยรักกำเริบทรวง
    ยังหนักหน่วงไม่เคยก็คิดขาม
    ปากสั่นหวั่นจิตแต่คิดความ
    ขยับปากแล้วก็คร้ามประหม่าใจ
    เอาความรักหักจิตที่คิดกลัว
    กระถดตัวย่องเยื้องมานั่งใกล้
    เยื้อนยิ้มทักเจ้าพิมพิลาไลย
    สะดุ้งในตัวแข็งด้วยความอาย ฯ

    เมื่อใจตรงกันเสียแล้ว จากบ่ายถึงเย็น แม่พิมก็ร้อยมาลัยต่อไปได้อีกไม่กี่ข้อหรอกครับ แถมเมื่อแม่สายทองมาเตือนให้กลับบ้าน เนื่องจากเย็นมากแล้ว และบ่าวไพร่ก็เสร็จงานในไร่แล้ว พอแม่พิมมองตามพลายแก้วที่ผละไปอย่างอาลัยอาวรณ์ จนสุดสายตาแล้ว หันกลับมาก็สบสายตาแม่สายทองที่กำลังพราวระยิบอยู่พอดี ด้วยสังเกตน้องเลี้ยงแล้วเห็นอะไรบางอย่าง พอตอนจูงมือกันกลับบ้าน จึงแอบถามแม่พิม

    สายทองเดินชิดสะกิดพิม
    หยอกยิ้มค่อยกระซิบปราศรัย
    แม่พิมพี่วันนี้เป็นไรไป
    หลั่งไหล่ล้วนต้องละอองดิน ฯ

    ถึงตอนนี้ก็นึกภาพเอาเองก็แล้วกันนะขอรับ ว่าแม่พิมพิลาไลยจะปั้นหน้าอย่างไร ในสมัยนั้น แต่ถ้าเป็นศตวรรษนี้ ก็คงไม่แคล้วที่จะซัดต้นแขนแม่พี่เลี้ยงตัวดีเข้าสักเผียะหนึ่ง
    แล้วก็อุทานออกมาอ่อย ๆ ว่า
    "...บ้าน่า...พี่" อะไรประมาณนั้น

    จินตนาการของกระผมผู้เล่านิทาน และพ่อแม่พี่น้องผู้ล้อมวงฟัง ในขณะนี้ ก็ล่อง ลอย รุดจากไร่ฝ้ายในตอนบ่าย มาชะงักลงตรงที่หน้าห้องแม่พิมพิลาไลย เมื่อตอนกลางดึกของคืนวันเดียวกันนั้นเสียแล้ว....

    ถ้าท่านจะหลับตานึกภาพต่อไป เราจะมองเห็นพระเอก พลายแก้วของเรากำลังยืนพนมมือ โอมอ่านคาถาอยู่หน้าเรือนแม่พิม

    มาถึงบ้านนางพิมหาช้าไม่
    เสกข้าวสารหว่านไปให้หลับสนิท
    สะเดาะกลอนถอนลั่นทุกชั้นชิด
    ที่บานปิดก็เปิดอยู่ทันใด ฯ

    และ............ ........................

    ประจงรูดม่านน้องย่องเยื้องมา
    เปิดมุ้งเห็นหน้าเจ้าพิมนอน
    สนิทหลับรับขวัญเจ้าทั้งหลับ
    ดังยิ้มรับให้พี่รีบมาร่วมหมอน
    โฉมแฉล้มแก้มยิ้มพริ้มเพรานอน
    งามเนตรเมื่อเจ้าค้อนพี่ยามชม ฯ

    และ...........

    นางพิมนิ่มนวลนอนสนิท
    กระทั่งนิดก็ฟื้นตื่นผวา
    พลิกกายชายเนตรชำเลืองมา
    เห็นหน้าพลายแก้วแววไว
    คิดพรั่นหวั่นใจชม้ายค้อน
    ดูดู๋กลอนขัดอยู่จู่มาได้
    นี่เนื้อว่าข่มเหงไม่เกรงใจ
    แต่กลางไร่ไม่สามาถึงเรือน ฯ

    และ...........

    เจ้างามปลอดยอดรักของพลายแก้ว
    ได้มาแล้วแม่อย่าขับให้กลับหนี
    พี่สู้ตายไม่เสียดายแก่ชีวี
    แก้วพี่อย่าได้พร่ำรำพันความ
    พี่ผิดพี่ก็มาลุแก่โทษ
    จงคลายโกรธแม่อย่าถือว่าหยาบหยาม
    พี่ชมโฉมโลมลูบด้วยใจงาม
    ทรามสวาทดิ้นไปไม่ไยดี ฯ

    และ............

    ไม่เมตตาก็ฆ่าเสียเถิดน้อง
    กระทุ้งห้องร้องไปให้แจ้วแจ้ว
    จงเอามีดมากรีดให้เป็นแนว
    อย่านึกเลยพลายแก้วจะกลัวตาย ฯ

    จนกระทั่ง.......... .....................

    เข้าชิดสะกิดพิมยิ้มละมัย
    อุ้มแอบอกไว้ด้วยปรีดา
    เอนอิงพิงประทับลงกับหมอน
    สะอื้นอ้อนอ่อนแอบลงแนบหน้า
    กระเดือกเสือกดิ้นอยู่ไปมา
    เกิดมหาเมฆมืดโพยมบน
    ฮือฮืออื้อเสียงพายุพัด
    กลิ้งกลัดเกลื่อนกลุ้มชอุ่มฝน
    เห็นห่าแรกแตกพยับโพยมบน
    ไม่ทานทนทั่วกระทั่งทั้งแดนไตร ฯ

    กระผมคงจะต้องขออนุญาต ย่องออกจากข้างกองฟางอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้ท่านผู้ฟังดื่มด่ำกับรสวรรณคดีไปโดยอิสระสักพักใหญ่ ๆ นะครับ แล้วค่อยพบกันในตอนต่อไป ขอรับกระผม.

    ##########

    จากคุณ : พจนารถ - [ 30 เม.ย. 48 18:51:07 A:61.91.205.80 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป