ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่งนะครับ...
ไม่มีแอบ ไม่มีอิบ...ต้องขอบอกไว้ซะก่อน แถมยังแข็งแรงสมบูรณ์เต็มส่วนสัด ก็ผมมันนักกีฬาตัวฉกาจ
เรื่องสาวๆ ผมชอบอยู่แล้วล่ะ ก็มันธรรมดาของผู้ชายนี่นา โดยเฉพาะผู้ชายอย่างผม สาวๆสวยๆใครบ้างจะไม่สนใจ แม้เธอจะไม่ได้มองมา แต่ผู้ชายอย่างเราๆ ก็อดที่จะสอดส่ายสายตามองหาอยู่ไม่ได้
ผมเอง แม้จะมีสาวๆ คอยเหลียวตามอง ทอดสะพานให้อยู่บ่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้คิดจริงจังหรือจาบจ้วงอะไรกับเธอ เพราะยังไงเธอก็เป็นเพศแม่ ผมน่ะ...เป็นคนให้เกียรติผู้หญิงนะครับ แม้ว่าเพื่อนๆ ผมจะคอยกระแนะกระแหนว่าผมเป็นแอบอยู่บ่อยๆ ก็ตาม
แต่มันก็เป็นแค่การแซวเล่นๆเท่านั้นล่ะ เพราะพวกมันรู้ ว่าผมน่ะ...ผู้ชายร้อยเอ็ดเปอร์เซ็นต์
เย็นวันหนึ่ง...
เฮ้ย ไอ้ดล วันนี้มีโปรแกรมพิเศษว่ะ
นั่นไง...มาแล้ว ไอ้ชัยเพื่อนผม ผู้ที่ชอบเสนอเรื่องแปลกๆ (ในความคิดของผม แต่ไม่ใช่ของมัน) มา(ยัดเยียด)ให้ลองอยู่เสมอ ผมรักมันนะไอ้เพื่อนคนนี้...ถ้ามันจะลดความบ้าบอคอแตกของมันลงบ้าง (เดี๋ยวก่อนๆ รักแบบเพื่อนฝูงนะครับ ไม่ใช่แบบนั้น-_-)
โปรแกรมอะไรวะ ผมถาม เพิ่งเซ็นต์เอกสารแผ่นสุดท้ายเสร็จพอดี
ไอ้ชัยนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผม แล้วหมุนตัวเองเล่นไปมาเหมือนเด็กตื่นของ...มันชอบเก้าอี้ในบริษัทของผม ผมรู้ เพราะมันมักจะนั่งกวนประสาทผมอยู่บนนั้นทุกครั้งที่มันว่าง ข้าจะพาเอ็งไปลิ้มลองของใหม่ว่ะ คราวนี้รับรอง มันสะเด็ด! มันอุตส่าห์ดีดนิ้วดังเป๊าะเมื่อจบประโยคสุดท้าย
หัวใจน้อยๆ ที่เรียบร้อยของผมเริ่มสั่นคลอน
ผมบอกคุณหรือยัง ว่าผมเป็นคนเรียบร้อย...ก็ไม่เชิงว่าเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้หรอก คำแบบนั้นเขาใช้กับผู้หญิงนี่นา...เอาเป็นว่า...ผมเป็นคนขรึมๆ ละกัน อืม นี่แหละ คำนี้เข้าท่าที่สุด
แต่ไอ้เพื่อนรักหักสวาทคนอย่างไอ้ชัยนี่แหละที่ทำให้ผมตบะแตกได้ทุกครั้งที่มันมา...ตบะแตกจนอยากจะใช้เท้าของผมยันหน้ามันลงไปซบซึ้งกับพื้นพรมเลยทีเดียว
เอ็งเสร็จงานหรือยังล่ะ ไปกันเหอะ เดี๋ยวรถจะติดหนักซะก่อน ข้ายังไม่อยากหมดอารมณ์ตอนพลบค่ำ
ดูมันพูด...
ผมเก็บของบนโต๊ะ โทรสั่งเลขาหน้าห้องให้จัดการงานบางอย่าง แล้วออกไปกับมัน
อย่าถาม ว่าทำไมผมไม่ปฏิเสธ...ไม่ใช่ว่าผมกระหายอยากจะไปหรอกนะ (ไม่เคยมีเรื่องไหนที่มันเสนอแล้วผมจะอยาก) แต่เพราะผมขี้เกียจฟังคำค่อนขอดสารพัดน้ำไหลไฟกระพือจากปากมันน่ะสิ ถ้าผมไม่ไป มันจะหยิบยกเอาเรื่องต่างๆ ของผมมาโขก สับ บี้ จนจิตใจผมชอกช้ำไปด้วยน้ำคำของมัน...ผมเคยโดนแล้ว แต่ผมก็ไม่กล้าจะโกรธมันนะ เพราะสิ่งที่ตามมาคืออาการกระเง้ากระงอดหาว่าผมใจร้าย ทอดทิ้ง ไม่สนใจมัน...ซึ่งแบบนั้นยิ่งทำให้ผมดูเป็นผู้ชายไม่เต็มร้อยที่กำลังจะทอดทิ้งไม้ป่าเดียวกันในสายตาผู้อื่น
ผมล่ะสยองจริงๆ เลย
วันนี้รถไม่ค่อยติด ไอ้ชัยเลยอารมณ์ดี แถมยังคึกคักเป็นพิเศษ ผมถามมันว่าจะพาผมไปไหน มันก็ได้แต่บอกให้เฉยๆ ไว้ เดี๋ยวถึงก็รู้เอง
ผมไม่เรื่องมาก มันก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบอุบไว้ให้ผมเดาเล่น
แล้วจู่ๆ มันก็พูดขึ้นมา คราวนี้ ข้าจะพาเอ็งไปโลดแล่นในยุทธจักร ลองซะบ้างจะได้รู้ ข้ารู้ว่าเอ็งยังไม่เคย หึๆๆ มัวแต่จำศีลอยู่แต่ในถ้ำ เดี๋ยวคนอื่นก็เอาไปนินทาหมดว่าเอ็งมันไม่มีน้ำยา มันพูดไปหัวเราะไปราวกับขำเสียเต็มประดา
อะไรของเอ็ง ไอ้ชัย
เอาน่าๆ เดี๋ยวก็รู้...ดีไม่ดี เอ็งจะติดใจ...เหมือนข้าไง ได้ลองแล้วต้องย้อนกลับไปอยู่เรื่อยๆ ของแบบนี้มันได้แล้วก็อยากขึ้นเรื่อยๆว่ะ มันจบคำพูดด้วยเสียงหัวเราะร่วน ขณะที่ผมได้แต่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆมัน
เอาเถอะ มันจะพาไปนรกขุมในผมก็จะไปกับมัน ไปๆซะ มันจะได้เลิกหลอกหลอนผมเสียที...
บางที คงถึงเวลาแล้วกระมัง ที่จะทำให้ไอ้เพื่อนบ้าของผมมันรู้ว่าผมน่ะ...ไม่ใช่ผู้ชายบ่มีไก๊ (นะโว้ย!)
...............................................................................................
มันพาผมมาที่ห้างแห่งหนึ่ง เดินลัดเลาะลดเลี้ยวไปที่ชั้นใต้ดิน เลี้ยวขวาผ่านร้านเบียร์แล้วเข้าไปในหลืบที่นั่นมีร้านเล็กๆ ซ่อนอยู่
หน้าร้านเป็นลานเล็กๆ ประดับด้วยต้นไม้ใบน้อย แสงไฟสีส้มนวลส่องให้มันดูน่ารักยิ่งขึ้น ความร้อนของตอนกลางวันหมดไปและผมสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายในตัวเอง
โทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมกดรับสายจากเลขาของผม และคุยเรื่องงานอะไรนิดหน่อยขณะที่เดินตามไอ้ชัยเข้าไปในนั้น ผู้หญิงสองคนยกมือไหว้ต้อนรับไอ้ชัยทำท่าสนิทชิดเชื้อเป็นอย่างดี ส่วนผม...มัวแต่คุยโทรศัพท์
ผมสั่งงานกับเลขา (เผื่อว่าผมจะไม่มีชีวิตรอดไปจากที่นี่) ผมเห็นไอ้ชัยมันคุยอะไรกับผู้หญิงสองคนนั้นก็ไม่รู้ดูเป็นงานเป็นการเชียว...คงตกลงเรื่องราคากับค่าชั่วโมงกระมัง
ไอ้ผมก็เดินตามมันไปติดๆ จนผู้หญิงคนหนึ่งดึงผมไว้
ห้องนี้ค่ะ เสียงเธอฟังแล้วเย็นสบายชอบกล
ผมเงอะงะนิดหน่อย แต่พยายามระงับไว้ ก็ผมมันนักธุรกิจนะ จะทำอะไรเสียท่าก็คงไม่ดีนัก ภาพพจน์มันจะเสีย
หูผมยังคงแนบกับโทรศัพท์ขณะเดินเข้าไปในห้องเล็กๆที่มีม่านกั้นจากภายนอก ก็ติดกับห้องที่ไอ้ชัยเดินเข้าไปน่ะแหละ แอร์เย็นสบายดี และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่ตลอดเวลา มันทำให้ผมสดชื่น
ได้ชัยเปิดม่านตรงกลางระหว่างห้อง (ที่จริงเป็นห้องเดียวที่เอาม่านมากั้นแยกเป็น 2 ห้องเล็ก)
2 ชั่วโมงนะโว้ย กำลังดี...เปิดไว้แบบนี้แหละจะได้เห็นกัน
มันทำอะไรของมัน(วะ)...ผมเริ่มตะขิดตะขวงใจ ผมไม่ชอบความไม่เป็นส่วนตัวเลย...ให้ตายสิ
ผมเสร็จเรื่องกับเลขา ปิดโทรศัพท์ก็พอดีผู้หญิงที่เข้ามาอยู่ข้างๆผมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดขึ้น
ถอดเสื้อผ้าเลยค่ะ
อะไรนะ!
แขวนไว้ตรงนี้นะคะ แล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดนั้น เธอชี้ไปที่ไม้แขวนข้างผนังห้อง และชี้ไปที่ชัดที่อยู่ในถุงพลาสติกบนเบาะนุ่มๆ บนพื้น แล้วเธอก็ออกไป
ผมหันไปมองเพื่อนผู้แสนดีของผม มันเปลี่ยนชุดเสร็จและนอนยิ้มแฉ่งรออยู่แล้ว (ที่เบาะของมัน)
ผมเลยเปลี่ยนบ้าง ถอดหมดทุกชิ้นยกเว้นชั้นในตัวเดียว (ไม่รู้ว่าไอ้ชัยมันลอกคราบตัวเองหมดหรือเปล่า)
เสื้อที่อยู่ในถุงเป็นเสื้อลายดอกไม้สีแป๋นๆ (ถ้าคุณนึกไม่ออก ให้นึกถึงเสิ้อที่เขาชอบใส่ตอนช่วงวันสงกรานต์น่ะ) แล้วก็กางเกง เอ่อ...ที่มันกว้างมากๆ ขอบกางเกงกว้างเป็นเมตรเลยแล้วก็มีสายหนาๆ 2 เส้น
เอ่อ...ผมไม่เคยใส่กางเกงแบบนี้มาก่อน
แต่จะให้ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากไอ้คนข้างห้องที่นอนเอกเขนกรอนั่นน่ะเรอะ...ชาติหน้าเหอะ!
จนแล้วจนรอดผมก็ทำให้กางเกงแปลกๆนั่นเกาะติดกับเอวผมไม่ได้สักที ลำพังแค่จับให้มันขึ้นมาอยู่เหนือส่วนล่างของร่างกายก็ยากเต็มทนแล้ว
แล้วผู้หญิงทั้งสองคนก็เข้ามาอย่างเงียบๆ เธอคงคิดว่าแขกที่เข้ามาน่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้วน่ะสิ แต่ไม่ใช่แขกอย่างผม...
เธอไม่ได้ว่าอะไร หรือมองผมเป็นตัวตลกเมื่อเธอพูดว่า คุณใส่ผิดด้านค่ะ สายนี่ต้องอยู่ข้างหลัง แล้วอ้อมมามัดด้านหน้า
ผมรีบกลับด้าน พยายามทำหน้าทนๆ นิดๆ แล้วเธอก็หันมาผูกเชือกให้ผม...นางฟ้าจริงๆ
ผมเริ่มรู้สึกดีกับที่นี่แล้ว ก็ความใจดีอ่อนหวานของผู้หญิงไม่ใช่เหรอที่มักทำให้อารมณ์ของผู้ชายอ่อนลง หรือร้อนแรงขึ้น...
แล้วเธอก็บอกให้ผมนอนลง...บนเบาะนุ่มๆ นั้น เอาหัวหนุนหมอนที่ก็นุ่มอีกเหมือนกัน ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมอก
มันกำลังจะเริ่มแล้ว...
...........................................................................................................
จากคุณ :
ผู้ชายหัวใจอาภัพ
- [
8 พ.ค. 48 15:40:18
A:58.8.249.224 X:
]