บทที่ 9 ปฏิบัติการตามหาบินอส
รถแท็กซี่สีเหลืองสดใสหยุดลง ณ สถาบันวิจัยแห่งชาติ โอโทรเนียร์ซิ้ตี้ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของการเดินทางครั้งนี้ ผู้โดยสารสี่คนที่นั่งอยู่เบาะหลังค่อยๆทยอยกันออกมาจากตัวรถ ขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาคู่สีฟ้าใสที่นั่งอยู่ข้างคนขับ หยิบการ์ดใบหนึ่งให้กับสารถีวัยกลางคน คนสูงวัยมองหน้าหนุ่มน้อยอย่างหน่ายๆก่อนจะเอ่ยถาม
ไม่มีเงินสดเหรอพ่อหนุ่ม รูดบัตรมันใช้เวลานานนะ เงินก็ไม่ได้มากมายอะไรนี่
ขอโทษจริงๆครับ คือพวกเราไม่มีเงินสดติดตัวเลย
แชลวาร์ดกล่าวตอบอย่างสุภาพ แต่สีหน้าของคนขับนั้นบ่งชัดถึงความหงุดหงิด
ชายสูงวัยรับเครดิตการ์ดมาจากมือชายหนุ่ม ก่อนจะยัดมันใส่เข้าไปยังช่องเล็กๆด้านหน้ารถข้างๆกับมิเตอร์ราคา ผ่านไปราวห้านาที บัตรก็เด้งกลับออกมาจากช่องเดิม พร้อมใบกำกับภาษีที่โผล่ออกมาจากช่องด้านล่างช่องใส่บัตร คนขับรถดึงมันออกมาแล้วยื่นให้กับแชลวาร์ดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เมื่อแชลวาร์ดลงจากรถปุ๊บ แท็กซี่คันสวยที่ดูไปดูมาแล้วไม่ได้ต่างไปจากแท็กซี่คันอื่นๆแม้แต่น้อยก็เร่งเครื่องยนต์จากไปปั๊บ เหลือทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันรถให้เหล่าบุคคลที่เคยเป็นผู้โดยสำลักแค่กๆ
ไอ้ลุงคนขับนั่น มันน่าลากลงมาชกสักหมัดสองหมัดเซย่าโพล่งขึ้นหลังจากหายจากอาการสำลักควันรถ
เห็นด้วยเซย่าคำตอบลอยๆดังจากปากของคนที่ไม่น่าจะเห็นด้วยกับเธออย่างยิ่ง...นั่นก็คือชายหนุ่มเจ้าของฉายาคู่ปรับตลอดกาลที่เธอตั้งให้ ไคน์ ฟิลด์ลอส
เซย่าหันไปจ้องดวงหน้าของไคน์เขม็ง เป็นผลให้ชายหนุ่มหันหน้าหนีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สาวเท้านำลิ่วๆไปยังประตูทางเข้าสถาบันวิจัยที่มีป้อมยามตั้งอยู่เด่นชัด ภาพสถาบันวิจัยที่เห็นอยู่ตอนนี้ช่างแตกต่างกับที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้มากมายนัก ช่วงเวลาสี่สิบปีสถานที่หนึ่งเปลี่ยนไปมากมายได้ขนาดนี้เชียวหรือ...
ทั้งห้าเดินตรงลิ่วหมายจะก้าวผ่านประตูสถาบันไปโดยง่ายดาย แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อยามเฝ้าประตูเดินมาขวางทางเอาไว้
พวกเธอมีธุระอะไรยามคนนั้นเอ่ยปากถาม
พวกเราจะมาขอพบคุณบินอส เวย์เมียสครับแชลวาร์ดเอ่ยตอบด้วยสีหน้าจริงจัง รอยยิ้มบางเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าอ่อนโยนอย่างเคยชิน
พวกเธอเป็นอะไรกลับคุณบินอสยามยังซักต่อ
จะเป็นอะไรก็ช่างเถอะน่า เอาเป็นว่ามีธุระสำคัญมากที่จะต้องคุยกับคุณบินอสก็แล้วกัน เซย่าแทรกขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด
ได้ผล...พอเซย่าพูดจบเท่านั้น ยามหน้าประตูก็ไล่ตะเพิดทั้งห้าคนออกจากบริเวณนั้นทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า..
หนอยแน่ะ ทำมาเป็นอ้างว่าจะมาคุยธุระกับคุณบินอส ที่แท้พวกแกจะมาขโมยของกันล่ะสิ แต่งตัวดีๆเวอร์ๆไม่เหมือนชาวบ้านอย่างเนี้ยมันก็มีแต่พวกสิบแปดมงกุฎล่ะว้า สายตาเหยียดหยันมองมาทางเซย่า และเฮเรียสไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะหันไปทำเช่นเดียวกันกับบุคคลที่เหลือ คิดจะมาหลอกสายตายามที่อยู่ที่นี่มาค่อนชีวิตอย่างฉันเรอะ ไม่มีทาง
เฮ้ย ไม่ใช่นะ พวกเราไม่ใช่ขโมย ฟังก่อนสิ นี่
เซย่าพยายามแหกปากอธิบายอย่างสุดควาสามารถ แต่มันไม่เป็นผลเมื่อร่างของยามที่อายุราวครึ่งร้อยเดินหายลับเข้าไปภายในตู้ยาม
เพราะเธอคนเดียวไคน์หันมาต่อว่าใส่เซย่าเสียงขรึม
หมายความว่ายังไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเฟ้ย สาวน้อยเถียงกลับทันควัน สายตาโหดมหากาฬจ้องชายหนุ่มอย่างเอาเลือดเอาเนื้อ
ก็ถ้าเธอไม่ไปขึ้นเสียงใส่ไอ้ตาแก่นั่น มันจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้เรอะไคน์ยังคงต่อว่าอย่างไม่เกรงต่อดวงตาคู่สีน้ำตาลที่ถลึงจ้องมองมา
เหอะ...มันไม่เกี่ยวกับกันสักหน่อย จริงๆแล้วเค้าเห็นหน้าตานายไม่น่าไว้ใจต่างหากล่ะ ไอ้หัวไม้กวาดเซย่าเริ่มแถไปเรื่อยตามฉบับคนไม่ยอมใคร
เธอ...ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เฮเรียสก็ขัดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
หยุด!! ทั้งคู่เลย หยุดได้แล้วสายตาขวางๆจับจ้องไปยังบุคคลที่กำลังฝึกวิชาลับฝีปาก ส่งผลให้สรรพเสียงทั้งมวลจมดิ่งลงสู่ดวามเงียบ....เงียบเพราะหัวใจของแต่ละคนมันลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มกันเสียหมด
เป็นที่รู้กันว่าอย่าทำให้เฮเรียส วีโอลเซ่โกรธ เพราะมันจะหน้ากลัวกว่าเวลาไอ้เจ้าคนบรรยากาศรอบตัวมาคุตลอดเวลาอย่างไคน์โกรธหลายเท่านัก แม้ยามปกติจะติดมุขหวานเลี่ยน เก๊กหล่อ ป้อหญิงไปวันๆ แต่ยามโมโหโทสะเข้าครอบงำเมื่อใด ท่าทางนั้นจะคล้ายกับถูกวิญญาณปีศาจร้ายเข้าสิง พร้อมจะกัดกินสิ่งมีชีวิตที่กระตุ้นต่อมอารมณ์เดือดได้ทุกเมื่อ
เมื่อหัวใจของสาวน้อยกระเด้งกลับมายังจุดเดิมเรียบร้อย เจ้าหล่อนก็ลอยหน้าลอยตาเดินข้ามถนนไปนั่งรอเพื่อนๆอยู่ริมฟุตบาท ด้วยหวังจะรีบๆหลุดจากสถานการณ์เลวร้ายนี่เสียที จากนั้นวอลเลนซ์ก็เดินตามไปนั่งข้างๆแล้วเริ่มพล่ามน้ำลายแตกฟองอย่างเคย สภาวะตึงเครียดจึงเริ่มกลับมาเป็นปกติ
แล้วนี่จะทำยังไงกันต่อ หรือว่าจะไปรอปู่บินอสอยู่ที่บ้านวอลเลนซ์เอ่ยถามเมื่อสามหนุ่มที่เหลือเดินเข้ามาสบทบ
ก็อย่างที่เฮเรียสบอก...ถ้าไปนั่งรออยู่หน้าบ้านมีหวังถูกตำรวจซิวแหงแซะ ยิ่งตอนนี้พวกเราเป็นคนเถื่อนด้วยแล้ว หึหึ..ติดคุกยาวก็คราวนี้แหละเซย่าเอ่ยเป็นเชิงตอบ พร้อมกับทำหน้าแหยๆกับสิ่งที่พูด
คนเถื่อน?..เฮเรียสทวนคำด้วยใบหน้าสงสัย
ใช่... ก็พวกเราเป็นคนจากโลกอนาคต รัฐบาลที่นี่ไม่มีประวัติของพวกเรา ถ้าจะอ้างว่าเป็นนักท่องเที่ยวก็ไม่มีหนังสือเดินทาง เค้าก็จะหาว่าลักลอบเข้าเมือง แถมถ้าจะส่งกลับประเทศก็ไม่มีที่ให้กลับเพราะประเทศอื่นก็ไม่มีประวัติเหมือนกันจะไปอยู่ไหนก็ไม่ได้ แล้วยังงี้ไม่เรียกคนเถื่อนแล้วเรียกอะไร...เซย่าตอบแบบวางมาดเหนือกว่า
ใช่สิลืมเรื่องนี้ซะสนิทเฮเรียสพึมพำเบาๆ
เรื่องนั้นทุกคนไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการเองแชลวาร์ดกล่าวพร้อมขยับรอยยิ้มบางแสดงถึงความมั่นใจ ผมว่าเราน่าจะมาคิดเรื่องวิธีที่จะเข้าไปหาปู่บินอสกันมากกว่า
อืม...ฉันว่างานนี้คงจะมีอยู่ทางเดียวเฮเรียสเกริ่นเบาๆอย่างว่างท่า
นายมีแผนอะไรเซย่าถามขึ้นอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญไอ้มาดของคนพูดเต็มทน
เฮเรียสกระตุกรอยยิ้มมุมปากอย่างมีชั้นเชิง ราวกับว่ามีแผนการดีๆอยู่ในใจ
ก็ในเมื่อมันเข้าไปดีๆไม่ได้ พวกเราก็คงต้องแอบเข้าไป
++++++++++++
เนี่ยนะแผนมัน อยากจะบ้าตาย.....
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ก็เพราะไอ้แผนบ้าๆนี้เธอถึงต้องมายืนหว่านสเน่ห์ให้กับเจ้าของรถสปอร์ตคันหรู ที่เป็นใครมาจากไหนไม่รู้ รู้แค่ว่ามันกำลังจะมุ่งหน้าตรงไปแถวสถาบัน แล้วที่เธอกับหนุ่มเจ้าของรถมายืนคุยกันอยู่ตรงนี้ได้ ก็เพราะเจ้าเพื่อนแผนสูงมันผลักร่างบอบบางออกมาขวางทางรถหลังจากอธิบายวิธีการเสร็จ
เป็นอะไรมากรึเปล่าครับคุณชายหนุ่มวัยราวๆสามสิบปีเอ่ยด้วยความตกใจ พร้อมกับร่างสมส่วนที่รีบพุ่งพรวดออกมาจากรถ
ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แค่เจ็บขานิดหน่อย ฉันซุ่มซ่ามเองที่พรวดพราดออกมาเซย่าตอบพร้อมแย้มรอยยิ้มมัดใจชาย
เพราะผมไม่ดูให้ดีต่างหากครับ แล้วนี่คุณกำลังจะไปไหนครับชายหนุ่มพูดเสียงหวาน พร้อมเอ่ยคำถามที่เซย่ารอคอย
สถาบันวิจัยโอโทรเนียร์ค่ะสาวน้อยตอบพร้อมกระตุกรอยยิ้มหวาน เล่นเอาชายหนุ่มเริ่มเคลิ้ม
หืม...งั้นขึ้นรถไปกับผมนะครับ ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ทำให้คุณบาดเจ็บก็แล้วกันเข้าแผนเป้ะ แต่เซย่ายังไม่วายเล่นตัวนิดๆให้ดูดี
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ใกล้ๆแค่นี้เองรบกวนคุณเปล่าๆ
ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็กำลังจะไปที่นั่นพอดีชายหนุ่มตอบพร้อมเดินไปเปิดประตูรถให้กับหญิงสาว เซย่าเดินตามชายหนุ่มแล้วขึ้นไปบนรถอย่างว่าง่าย ไม่นานนักนักรถยนต์คันสวยก็ออกตัวแล่นไปตามถนนอย่างรวดเร็ว
++++++++++++++++++
จากคุณ :
Underhand
- [
28 พ.ค. 48 20:05:04
A:202.133.143.148 X:
]