ช่วงนี้ข่าวญี่ปุ่นสลดหดหู่ ขอส่งกำลังใจให้พวกเขาผ่านพ้นเรื่องร้ายๆเหล่านี้ไปได้ด้วยเถอะ
ไปขุดงานเก่ามาแปล เห็นน้องบีแปล part 3 เอาไว้ ใน Arena 37 ตั้งแต่สมัย CUW อ่านไปพลางๆก่อนละกัน
พยายามคิดถึงเพลงเอาไว้เผื่อจะนึกออก ถ้านึกไม่ีออกกลับไปหยิบ มาฟังอีกรอบ
---------------------------------------
Part 1. บทสัมภาษณ์ซิงเกิ้ลใหม่ CHANGE UR WORLD
Credit iside89 : http://iside89.livejournal.com/41813.html#cutid1
บทสัมภาษณ์ความรู้สึกภายในกับเพลงที่รอคอยมานาน!
ผมคิดว่ามันคงดีถ้าเพลงนี้จะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
นี่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เป็นเวลาของการจู่โจม
Arena: ซิงเกิ้ล CHANGE UR WORLD มีจังหวะดนตรีที่เป็นร็อคหนัก (hard rock) มันเจ๋งมากเลย
KAME: ขอบคุณมากครับ พวกเราเพิ่งเสร็จสิ้นจากทัวร์คอนเสิร์ต Arena Tourที่เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค - มิ.ย
และ WBT จากเดือนก.ค - ส.ค หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก็เริ่มงานกันอีก
ผมคิดว่าด้วยอารมณ์นี้ ความจริงที่ได้รับผลมันยิ่งใหญ่ พวกเราเริ่มทำงานด้วยการรักษาความรู้สึกจากทัวร์ไว้
Arena: มีบางสิ่งที่ อย่างเช่น พวกเราอยากจะทำเพลงแบบนี้หรือเกี่ยวกับอิมเมจที่พวกคุณมี?
Koki: .มันเป็นความรู้สึกที่เกิดอย่างกะทันหันครับ เป็นเวลาที่ต้องจู่โจม
พวกเราทั้งหมดก็คิดว่าแม้กระทั่งแฟนๆก็อยากเห็นมันในท้ายที่สุด มันถึงเวลาที่ต้องจู่โจม ในแบบของคัตตุน
ผมคิดว่าเพลงนี้ดูจะเป็นคัตตุน เพลงหนึ่ง ง่ายที่จะเข้าใจด้านโจมตีของพวกเรา
Ueda: เรากลับมาที่อิมเมจเริ่มต้นของคัตตุน อีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเพลงก่อนหน้านี่คือ Going!
Arena: มีบางอย่างที่คุณคิดอยู่เสมอช่วงที่อัดเพลง
KAME: ท่อนฮุค (ระหว่างข้าม/ประสานเสียง) มันเสียงสูงและยาก แต่ในด้านตรงกันข้าม A-melody จะค่อนข้างต่ำ
นั่นคือ พวกเราเต้นระหว่างช่วงต้นและหลังจากนั้นก็จะมี A-melody และก็จะเปลี่ยนเป็นส่วนท่อนเสียง*สูงในทันที
เพราะอย่างนี้พวกเราเลยต้องคิดถึงส่วนนี้อยู่เสมอและที่พวกเราร้องมันอาจจะให้ความแตกต่างกันเล็กน้อย
Arena: แปลว่าพวกคุณให้ความสนใจกับประเด็นเหล่านั้นแม้กระทั่งระหว่างอัดเสียง
จนกระทั่งช่วงไลฟ์ก็จะมีการเต้นและการออกแบบท่าทาง
Koki: เพราะจากจุดเริ่มต้น พวกเราเป็นกลุ่มที่เริ่มจากการแสดง (lives) ก่อนที่จะมีซีดี
แม้กระทั่งตอนที่พวกเราอัดอัลบั้ม พวกเราก็จะเลือกเพลงที่สะกดสายตาให้อยู่กับการแสดงlives
ด้วยเหตุผลนี้แม้แต่ตอนที่ผมร้องแร็พ ผมก็ต้องการที่จะใส่ความรู้สึกของlives ลงไปด้วย
ตอนที่อัดเสียงผมก็จะเคลื่อนไหวร่างกายไปด้วย
Ueda: สำหรับผมเอง ไม่ค่อยให้ความสนใจเกี่ยวกับแผงไมค์ ผมใส่ขาตั้งไมค์และก็พิงตัวร้องไปบนนั้น
KAME: ตามเพลงนี้ ตอนที่มีช่วงอารมณ์เพลงที่แสงเปลี่ยนเป็นมืดมากขึ้นหรือตอนที่ผมใส่แว่นกันแดดร้อนเพลง
อย่างกรณีผม ก็ค่อนข้างที่จะเข้าถึงเพลงมากและบางทีมันมักจะเกิดบ่อยๆเช่นผมคิดว่า เสื้อผ้ามันดูแตกต่างไปนะ (หัวเราะ)
ดังนั้นในตอนสุดท้ายตั้งแต่เริ่มอัดเสียงผมก็มักจะเริ่มอ่อนไหว ในท้ายที่สุดผมต้องทุ่มความตั้งใจไปกับเรื่องเล็กๆน้อยแบบนี้
(คนแปล: คาเมะหมายถึงความแตกต่างระกว่างท่อนฮุคกับ A-Melody ตามที่ได้บอก)
ขณะที่อัดเพลงที่ยาวเกินกว่า 4 นาที จริงๆนะครับคือมันก็จะเต็มไปได้ด้วยอารมณ์ขึ้นๆลงๆ
Arena: ขณะที่ติดอยู่ในใจเกี่ยวกับเรื่องการแสดงสด (live performance) มันมีรายละเอียดแค่เล็กน้อย
เสน่ห์ของเพลงคัตตุนคือมันมี 2ด้าน อย่างเช่นด้านที่เป็นความบ้าบิ่นและความถูกต้อง
KAME: นั่นเพราะพวกเราไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆไว้ก่อน แต่พวกเราพยายามทำอย่างเต็มที่หลังจากที่พวกเรามาถึงเวที
ในส่วนของผม ผมตัดสินใจที่กลมกลืนไปกับเรื่องกีฬา หรือตอนที่ร้องก็พยายามสร้างคำที่แตกต่าง
ในส่วนของกีฬาผมมักจะฟังความต้องการของสตาฟและก็จะเริ่มใส่มุมมองของตัวเองเสริมไป ด้วยหลายๆเหตุผล
ก็เหมือนกับว่าในขณะที่ยืนยันที่จะดำเนินต่อไป
บนภาพพวกเราก็จะดูเป็นเอกลักษณ์ฉพาะกันไปและก็คิดการแสดงขึ้นมา
Arena: เข้าใจแล้ว เอาละเราเปลี่ยนหัวข้อไปที่เพลง ซึ่งมีข้อความที่ค่อนข้างเข้มแข็งในตัว
KAME: ผมคิดว่าอาจะเป็นเพราะข้อความสะสมรวมกันกับเพลงที่จะปล่อยออกมา เวลานี้ที่สำคัญคือความหมายของเนื้อเพลงนั้นเป็นที่เข้าใจ
Koki: นี่เป็นสิ่งที่เราต้องการมาก หรือจะให้ดีกว่านี้
จนถึงตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรู้สึกดีอย่างไรที่ได้ฟังหรือได้ยินเสียงของตัวเพลงแทนที่ความหมายของคำ
แต่ถ้ามีใครสักคนที่จะเกิดแรงบันดาลใจหลังจากที่ได้ยินเนื้อเพลง มันแปลว่ามีคนที่อยากได้ความช่วยเหลือ/สนับสนุนจากทางพวเราด้วย
Junno: แม้เกี่ยวกับ PV, ขณะนี้เนื้อหาเป็นไปตามข้อความของเนื้อเพลง
ดังนั้นผมจึงคิดว่า [เพลงนี้] กลายเป็นสินค้าที่มีสิ่งที่จะต้องการสื่อออกไปเป็น การสื่อออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ
Ueda: ผมคิดว่าในส่วนท่อนประสานเสียง "เรามาลองที่จะเปลี่ยนโลกนี้กันเถอะ" (Kono Sekai wo kaete miyo ka), มันเป็นสิ่งที่ดี
ผมคิดว่าในช่วงเวลานี้ จริงๆแล้วมีคนมากมายที่มีความไม่พอใจ เราอยู่กับคนเหล่านั้น
ผมคิดว่ามันคงจะดีถ้าเพลงนี้จะมีส่วนช่วยให้พวกเขาได้มีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
พวกเรารวมมุมมองที่แตกต่างกันเป็นหนึ่งเดียว มันใช้เวลาและผมก็คิดว่า นี่ คัตตุนสไตล์ได้เกิดขึ้นแล้ว
Arena: เราคิดเกี่ยวกับประโยค เราจะไม่ให้ใครมาตัดสินว่าเราจะสามารถไปได้ไกลแค่ไหน (doko made ikeru ka nante dare ni mo kimesasenai)
เป็นเพลงคัตตุนสไตล์มากๆ มีช่วงเวลาไหนหรือส่วนไหนที่คุณร้องเพื่อตัวเองบ้าง
KAME: มันมีเพลงหลากหลายมากมาย หรือดีกว่าถ้ามันเหมาะกับสถานการณ์หรือช่วงเวลานั้นๆ
แน่นอนที่สุดพวกเราได้เพิ่มความคิดของพวกเราเข้าไปด้วย
ในตอนท้ายแต่คนแต่งเพลงก็มองพวกเราตอนที่เขียนเนื้อเพลง
พวกเราได้อ่านเนื้อและหลายๆครั้งที่เราคิดว่า นี่มันใช่เลยนะ
ยกตัวอย่างเช่น เพลง Real Face ที่ Suga Shigao ซังเขียนให้พวกเรา มันมีภาพลักษณ์ของ มุ่งไปยังจุดที่เสี่ยงเสมอในขีดจำกัด
ซึ่งภาพลักษณ์นี้มันจะหมายถึงพวกเรา รวมความแตกต่างที่หลากหลายเป็นหนึ่งเดียว มันใช้เวลา ผมคิดว่าว่า นี่คือ คัตตุนสไตล์ได้เกิดขึ้น
Maru: นี่เป็นเพลงที่ทำให้ความรู้สึกของเราพุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ตอนที่พวกเราได้อ่านเนื้อ