ความคิดเห็นที่ 1 "เจสัน แพทริค" และ "เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์" นักแสดงหนุ่มสาวฝีมือดีได้บทที่โดดเด่นทั้งคู่ในหนังเกี่ยวกับตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติดที่กลับติดยาเสียเองเรื่องนี้   เจสัน แพทริคเล่นเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบผู้ชักนำตำรวจสาวหน้าใหม่ (เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์) สู่โลกอันเย้ายวนและยากจะสลัดทิ้งเสียได้  ทั้ง ๆ ที่สัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างมหันต์   และยิ่งถลำลึกก็ดูเหมือนว่าจะมีกันและกันเท่านั้น  ไม่อาจหันหน้าไปหาใครอื่น   หนังแสดงให้เห็นโลกด้านมืดอันมีแรงดึงดูดที่ชวนพิศวง   และการลุ่มหลงในกันและกันบนพื้นฐานทางศีลธรรมที่คลอนแคลน   จากการที่มีผู้กำกับเป็นผู้หญิง (ลีลี่ ฟีนี่ ซานุค) และทำมาจากหนังสือที่ "คิม โวเซนคราฟท์" อดีตตำรวจหญิงแห่งหน่วยปราบปรามยาเสพติดเขียนขึ้นจากประสบการณ์ของตัวเอง   หนังเรื่อง Rush จึงแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ในความเป็นหญิง  และความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ในความเป็นชาย   ซึ่งก็ทำให้หนังมีแง่คิด / มุมมองเด่นกว่าหนังตำรวจจับผู้ร้ายทั่ว ๆ ไปหลายเท่า จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:45:47

ความคิดเห็นที่ 2 หนังตัวอย่างเรื่อง Rush จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:48:40

ความคิดเห็นที่ 3 เมโลดราม่าในเมืองเล็ก ๆ    จากวรรณกรรมคลาสสิกของ "กุสตาฟ โฟลแบรต์"  เรื่องของลูกสาวชาวไร่ที่ขยับฐานะด้วยการแต่งงานกับหมอ  แล้วหาทางออกจากชีวิตคู่ที่น่าเบื่อหน่ายกับสามีแสนดีที่ไร้ชีวิตชีวา  ด้วยการคบชู้สู่ชาย   จนกระทั่งความสัมพันธ์กับศิลปินถังแตกรูปงามทำให้เธอกลายเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นแล้วชีวิตก็ดำดิ่ง   แถมดึงเอาสามีผู้มึนงงตกต่ำตามไปด้วย   จนทำให้บั้นปลายของเรื่องนี้เป็นความหายนะอย่างแท้จริง        นับเป็นหนังเรื่องที่ 3 ที่ "อิซาแบลล์ อูแปรต์" แสดงให้กับ "โคล้ด ชาโบรล" (ผู้กำกับจากกลุ่มนิวเวฟยุค 50 ของฝรั่งเศส)   และบทมาดามโบวารี่ก็เป็นบทที่ส่งตัวเธออย่างเต็มที่อีกบทหนึ่ง    ชาโบรลทำงานชิ้นนี้ในลีลาที่ประณีตและเคร่งขรึม  ปูรายละเอียดที่มาที่ไปของตัวละครก่อนจะนำไปสู่จุดจบอย่างเนิบ ๆ   โดยการแสดงทั้งในบทนำและบทสมทบเป็นพลังผลักดันที่ทรงประสิทธิภาพ        Madame Bovary เคยถูกนำมาทำเป็นหนังแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง  คือในปี 1933 กำกับโดย "ฌอง เรอนัวร์"  และในปี 1949 กำกับโดย "วินเซนต์ มินเนลลี่" เรื่องหลังนี้แสดงโดย "เจนนิเฟอร์ โจนส์, แวน เฮฟลิน, หลุยส์ จูร์ดอง" และ "เจมส์ เมสัน" รับบทเป็นกุสตาฟ โฟลแบรด์ จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:50:29

ความคิดเห็นที่ 4 หนังตัวอย่าง Madame Bovary จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:52:18

ความคิดเห็นที่ 5 Ted & Venus  คือเรื่องของการเกี้ยวพาราสี  ที่แปรเปลี่ยนจากลักษณะไม่มีพิษมีภัยของคนที่ติดจะบ๊อง ๆ ไปเป็นลักษณะคุกคามสิทธิส่วนบุคคลโดยคนที่น่าจะเป็นโรคจิต   "บั๊ด คอร์ท" นักแสดงผู้ซึ่งมีบทวัยรุ่นที่รักกับคนแก่ใน Harold and Naude (1972) เป็นภาพติดตัว   กำกับเป็นครั้งแรกและนำ แสดงเองในบทกวีขี้เมาที่เร่ร่อนอยู่ในย่านเวนิชของแคลิฟอร์เนีย (ย่านของ "ผู้แสวงหา" ในยุคหนึ่ง)   เขาหลงรักสาวน้อยคนหนึ่ง (คิม อดัมส์) และทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้อง "การตอบสนอง" จากเธอ   ซึ่งเธอก็ตอบสนองให้ในที่สุดด้วยการจัดการตามกฏหมาย   แม้ว่าความมีน้ำใจไมตรีจะทำให้เธอไม่อยากทำเช่นนั้นก็ตาม        จะโดยจงใจหรือไม่ก็ตาม  หนังพูดถึงอาการ "ล้มเหลวและเลื่อนลอย" ของคนที่ถือตัวเองเป็นกวีและนักแสวงหา   โดยจำลองภาพชีวิตชายหาดแคลิฟอร์เนียในยุคปี 1974 ออกมา (ซึ่งทำได้ดีจนเป็นจุดเด่นของหนัง)   หนังเป็นเพียงงานเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยดาราซึ่งเป็นเพื่อนฝูงของคอร์ท อาทิ "เจมส์ โบรลิน, คารอล เคน, มาร์ติน มัลล์, รีอา เพิร์ลแมน, วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน, จีน่า โรว์แลนด์ส" จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:54:01

ความคิดเห็นที่ 6 ฉากร่ายบทกวีของ "เท็ด" จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:56:07

ความคิดเห็นที่ 7 Father of the Bride หนังปี 1950 ของ "วินเซนต์ มินเนลลี่" ที่นำแสดงโดย "สเปนเซอร์ เทรซี่ และ อลิซาเบธ เทย์เลอร์"  เป็นหนังสะท้อนยุคสมัยหนึ่ง  ซึ่งลูกยังต้องเชื่อฟังพ่อแม่  แม้แต่การออกเที่ยวงานปาร์ตี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องขออนุญาต   เมื่อเอามาสร้างใหม่ในอีก 40 ปีให้หลัง ยุคที่แม่ออกทำงานนอกบ้าน และลูกสาวเล่นบาสเกตบอล  การเป็นคุณพ่อของเจ้าสาวก็ยังเป็นเรื่องทำใจลำบาก   "สตีฟ มาร์ติน" รับบทเดิมของเทรซี่ เป็นคุณพ่อที่ลูกสาว (คิมเบอร์ลี่ วิลเลียมส์) กำลังจะแต่งงานกับเจ้าหนุ่มลูกเศรษฐี  และแต่ละขั้นตอนสู่พิธีวิวาห์ก็คือแต่ละขั้นตอนที่เขารู้สึกว่าถูกเหยียบย่ำน้ำใจหนักข้อขึ้นทุกที   เมื่อเทียบเคียงกับหนังเก่า  หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นสถานะที่แปรเปลี่ยนไปของพ่อ   สำหรับสตีฟ มาร์ติน  บทนี้แทบจะเป็นบทต่อจากที่เขาแสดงในหนังเรื่อง Parenthood   หนังส่งตัวเขามาก  เปิดโอกาสให้เล่นบทตลกตามแบบที่เขาถนัด   และ "ไดแอน คีตัน" ในบทเมียก็มาเป็นลูกคู่รับส่งบทกับเขาที่ทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:57:03

ความคิดเห็นที่ 8 หนังตัวอย่าง Father of the Bride จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:58:25

ความคิดเห็นที่ 9 หนังตลกเสปนจากฝีมือผู้กำกับที่ดังที่สุดของเสปนคือ "เปรโด อัลโดโมวาร์" (Women on the Verge of a Nervous Breakdown, Tie Me Up! Tie Me Down!)   "วิคตอเรีย เอบริล" (นางเอก Tie Me Up! Tie Me Down!)  รับบทผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ในแมดริดที่ไม่ลงรอยกันเลยกับแม่ (มาริซ่า ปาเนเดซ) ซึ่งเป็นนักร้องชื่อดัง   ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกยิ่งตึงเครียด  เมื่อลูกแต่งงานกับคนรักเก่าของแม่   และเมื่อชายคนนี้ถูกฆ่าตาย  แม่ลูกก็ต้องมาพัวพันกันอีกจนได้        อัลโดโมวาร์ยังคงรักษาสไตล์ของเขาเอาไว้  นั่นคือเสนอเรื่องด้วยลีลาเรื่อย ๆ ไม่จริงจัง    สอดแทรกเหตุการณ์ข้างเคียงที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวกับพล็อตหลักลงไปเป็นสีสันเป็นระยะ ๆ    เขาเรียกหนังเรื่องนี้ว่า tough melodrama   นั่นคงหมายถึงเงื่อนไขหนัก ๆ ในเรื่อง แต่ตัวหนังหาได้หนักไปด้วยไม่     หนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมประจำปี 1991 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 15:00:09 จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 14:59:30

ความคิดเห็นที่ 10 OST.เพราะ ๆ จาก High Heels จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:03:34

ความคิดเห็นที่ 11 สร้างจากชีวิตจริงของ "บักซี่ ซีเกล" แก๊งสเตอร์หนุ่มใหญ่จากนิวยอร์กผู้ริเริ่มความฝันที่จะสร้าง "เมกกะสำหรับนักพนัน" หรือที่รู้จักกันดีในทุกวันนี้ว่า ลาส เวกัส    "วอร์เรน เบ็ตตี้" รับบทตัวเอกของเรื่องที่ถูกส่งมายัง แอล.เอ. เพื่อดูแลกิจการทางฝั่งตะวันตก   ณ ที่แห่งนี้ เขาจัดการให้ตัวเองกลายเป็นบุคคลสำคัญของฮอลลีวู้ดที่ร่ำรวยทั้งเสน่ห์และความโหดเหี้ยมไปโดยปริยาย   เพราะนอกจากจะกลายได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเจ้าสำอางที่ถูกจับจ้องจากหญิงสาว  หนังยังเผยให้เห็นด้านที่บ้าคลั่งควบคู่กันไปตลอด   เมื่อใดก็ตามที่บักซี่ทำท่าจะกลายเป็นคนยึดถือในเหตุผล  ด้านที่ป่าเถื่อนของเขาก็จะเผยโฉมเข้าครอบงำจิตใจ   โฟกัสสำคัญของหนังอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเวอร์จิเนีย ฮิลล์ (แอนเน็ทท์ เบนิ่ง)  นักแสดงสาวที่ไม่เคยได้บทบาทอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากการเป็นคู่นอนของแก๊งสเตอร์หลายราย   เธอเป็นหญิงสาวในแบบที่ไม่เคยนำอะไรมาให้ชายหนุ่มที่เข้ามาในชีวิตนอกจากความยุ่งยาก   แต่ความที่เธอ "ร้าย" ไม่แพ้บักซี่เป็นเหตุให้คนทั้งสองเข้าคู่กันได้ดี   ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองดำเนินไปทั้งในรูปลักษณ์ของชู้สาวและคู่หูทางธุรกิจ        ผู้กำกับ "แบร์รี่ เลวินสัน"  ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดออกมาได้ลื่นไหลเกือบจะมีลักษณะคล้ายกับเทพนิยาย   ขณะที่ดนตรีของ "เอนนิโอ มอร์ริโคเน่" งานกำกับภาพของ "อัลเลน ดาเวีย" และงานสร้างของ "เดนนิส แกสเนอร์" ต่างก็สนับสนุนอารมณ์กึ่งเพ้อฝันที่ถูกใช้เป็นโทนหลักของตัวหนังได้ดี   ในส่วนของงานแสดง แอนเน็ทท์ เบนิ่ง กลายเป็นคนเดียวที่ถูกวิจารณ์ว่าแสดงได้น่าผิดหวัง จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:04:23

ความคิดเห็นที่ 12 หนังตัวอย่าง Bugsy จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:05:54

ความคิดเห็นที่ 13 หนังฟอร์มใหญ่ที่สุดของช่วงปลายปีที่แล้ว  ที่เปิดตัวได้ไม่สวยเท่าไหร่นักในสัปดาห์แรกของการออกฉาย   ดัดแปลงจากนิยายคลาสสิกของ "เจ. เอ็ม. แบร์รี่"   นี่คืองานที่ "สตีเว่น สปีลเบิร์ก" คิดอยากจะเอามาทำหนังมาเป็นเวลานาน   "โรบิน วิลเลี่ยมส์" รับบทนักกฏหมายหนุ่ม ปีเตอร์ แบนนิ่ง ผู้ไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร   เขาพาครอบครัวอันประกอบไปด้วยภรรยา (คาโรไลน์ กูดัล) และเด็ก ๆ (ชาร์ลี คอร์สโม กับ แอมเบอร์ สก็อตต์) ไปลอนดอนเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่า เวนดี้ (แม็กกี้ สมิธ)   ระหว่างนั้นเอง กัปตันเจมส์ ฮุค (ดัสติน ฮอฟฟ์แมน) ก็ลักพาตัวหนูน้อยทั้งสองไปอันเนื่องมาจากความเจ็บแค้นที่ตัวเองต้องเสียแขนซ้ายไปเพราะฝีมือของ ปีเตอร์แพน ตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน   ภูตตัวจิ๋ว ทิงเคอร์เบล (จูเลีย โรเบิร์ตส) เป็นคนพาปีเตอร์ให้มาที่เนเวอร์แลนด์อีกครั้ง  ซึ่งทำให้ปีเตอร์โคจรมาเจอกัปตันฮุคอีกครั้ง  และที่สุดแล้วก็ทำให้ปีเตอร์ได้รับรู้ว่า  แท้ที่จริงแล้วเขาเป็นใคร        งานสร้างของหนังเป็นส่วนที่โดดเด่นทั้งในส่วนของฉาก (โดยเฉพาะช่วงที่อยู่ในเมืองเนเวอร์แลนด์)  การถ่ายทำ  เครื่องแต่งกาย  สเปเชียล เอฟเฟ็คท์  ฯลฯ   สปีลเบิร์กพยายามดึงเอาความเป็นเด็กออกมาจากคนดู   แต่หนังยังขาดความหนักแน่นในเนื้อหา (แบบ E.T.) ที่จะดึงคนดูให้เกิดอารมณ์ร่วม   หนังมัวแต่เน้นฉากแอ็คชั่นซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเยิ่นเย้อ และไร้จุดหมาย   เป็นหนังที่ถูกคาดเดาว่าจะทำเงินแต่ไม่กินใจผู้ชม จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:06:44

ความคิดเห็นที่ 14 หนังตัวอย่าง Hook จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:08:12

ความคิดเห็นที่ 15 หายหน้าหายตาไปจากวงการหนังเป็นเวลานาน   แต่การกลับมาทำหนังครั้งใหม่ของ "บาร์บรา สตรัยแซนด์" คราวนี้ก็ยังไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่   เธอยังคงอำนวยการสร้างเอง  กำกับเอง  และแสดงนำเองต่อไป   หนังสร้างจากนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ "แพ็ท คอนรอย" (คนร่วมเขียนบท)   "นิค โนลเต้" รับบทอดีตครูและโค้ชตกงานที่กำลังเผชิญกับช่วงตกต่ำของชีวิตในหลาย ๆ ด้าน   ระหว่างนั้นน้องสาวของเขา (เมลินด้า ดิลลอน) กวีมีชื่อของนิวยอร์ก ผู้เป็นเจ้าของผลงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กน้อยที่กลายเป็นเหยื่อของการสังหารหมู่  พยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ   เธอกลายสภาพเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวไม่รับรู้เรื่องราวจากโลกภายนอก   โนลเต้ถูกส่งตัวให้ไปช่วยจิตแพทย์ (สตรัยแซนด์) ปะติดปะต่อเรื่องราวในอดีตเพื่อช่วยให้น้องสาวกลับคืนสู่สภาพปกติ   ในระหว่างที่สตรัยแซนด์ก้าวลึกเข้าไปในชีวิตครอบครัวของโนลเต้ที่เผยให้เห็นความคับแค้นในจิตใจของตัวละคร   ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็พัฒนาไปจนเลยเถิดเกินกว่าหน้าที่        นอกจากบทหนังที่ถูกวิจารณ์ว่าขาดความต่อเนื่อง   งานสร้างในส่วนอื่นล้วนได้รับคำชมว่ามีส่วนช่วยสร้างความปราณีตและความละเมียดละไมให้กับหนัง   สตรัยแซนด์เดินเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครอย่างช้า ๆ  และไม่ลืมที่จะเน้นตัวเธอเองเป็นพิเศษทั้งในเนื้อหาและภาพ  ซึ่งในส่วนหลังผู้กำกับภาพ "สตีเฟ่น โกลด์แบล็ทท์" สามารถตอบสนองความต้องการของเธอด้านนี้ได้อย่างดี จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:09:15

ความคิดเห็นที่ 16 หนังตัวอย่าง The Prince of Tides จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:10:33

ความคิดเห็นที่ 17 "แอล.เอ.สตอรี่ฉบับซีเรียส"  งานชิ้นใหม่ของ "ลอว์เรนซ์ คาสดาน" พูดถึง ลอส แอนเจลิส เมืองสวรรค์ที่ใกล้ความเป็นนรกเข้าไปทุกที  ด้วยลีลาหนักแน่นเอาจริงเอาจัง   "เควิน ไคลน์" เป็นนักกฏหมายหนุ่มที่เผอิญรถเสียในถิ่นของคนดำกลางคัน  เขาถูกอันธพาลข้างถนนสองคนรุมเล่นงาน  ก่อนที่คนขับรถผิวดำ (แดนนี่ โกลเวอร์) จะมาช่วยไว้  จากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองได้รับการพัฒนา  และเรื่องราวเกี่ยวกับความเสื่อมทรามของเมืองใหญ่แห่งนี้  ก็ได้รับการถ่ายทอดผ่านตัวละครทั้งสอง   ในขณะที่โกลเวอร์เป็นตัวแทนคนชั้นต่ำที่มองเห็นความเหลื่อมล้ำในระหว่างชนชั้นที่กว้างใหญ่ไพศาล   ไคลน์ก็เป็นตัวแทนคนผิวขาวผู้มีความคิดแบบเสรีนิยม  ที่พยายามหาทางอยู่รอดกับสังคมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการเหยียดผิว    หนังพยายามแจกแจงให้คนดูได้เห็นชีวิตที่ยืนอยู่บนปลายขอบของจริยธรรม   มีตัวละครที่ผสมผสานระหว่างความขาว-ดำในความคิดและการกระทำ   ซึ่งก็คือภาพสมจริงสำหรับคนในสังคมทุกวันนี้        บทหนังของลอว์เรนซ์และ "เม็ก คาสดาน" เป็นบทที่ชักจูงอารมณ์คนดูได้ดี  แม้จะเยิ่นเย้อในบางส่วน (โดยเฉพาะการมัวแต่พูดถึงความเสื่อมทรามของตัวเมือง)   ขณะที่งานในส่วนเทคนิค ทั้งภาพของ "โอเว่น รอยซ์แมน"  งานสร้างของ "โบ เวลช์"  รวมไปถึงดนตรีของ "เจมส์ นิวตัน ฮาวเวิร์ด"  ล้วนแล้วมีส่วนเสริมบรรยากาศน่าอึดอัดให้กับเมืองใหญ่แห่งนี้ได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:11:21

ความคิดเห็นที่ 18 หนังตัวอย่าง Grand Canyon จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:12:47

ความคิดเห็นที่ 19 ความน่าสนใจที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็คือการประชันบทบาทของนักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ผู้แสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมสองปีหลัง "เจสสิก้า แทนดี้"(1989)  กับ "แคธี่ เบทส์"(1990)   หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของผู้หญิงสองคู่ในสองยุคสมัย   แคธี่ เบทส์รับบทสาวใหญ่ชาวใต้หัวคร่ำครึที่กำลังพ่ายแพ้ตัวเองในการพยายามลดน้ำหนัก  และกำลังอยู่ในห้วงแห่งความหดหู่หมดอาลัยตายอยากในชีวิต   จนกระทั่งเธอได้รับแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้งจากเรื่องเล่าของหญิงชรา (เจสสิก้า แทนดี้) ที่เกี่ยวกับหญิงสาวสองคนในทศวรรษ 30  ที่ต้องต่อสู้อยู่ในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่        หนังต้องการพูดถึงการพยายามเอาชนะอุปสรรคที่ดูยิ่งใหญ่เกินความสามารถ   ขณะเดียวกันก็แซมเรื่องสิทธิสตรีและความเสมอภาคทางสีผิวเข้ามาประกอบบาง ๆ   บทบาทการแสดงของนักแสดงรางวัลออสการ์ทั้งสองยังคงได้รับการกล่าวถึงในเชิงบวก  แม้ตัวเนื้อหาจะค่อนข้างล้าสมัย   อย่างไรก็ตาม  งานกำกับชิ้นแรกของ "จอน เอฟเน็ท" ก็ให้บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาทั้งทางด้านภาพและการแสดง จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:13:40

ความคิดเห็นที่ 20 หนังตัวอย่าง Fried Green Tomatoes จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:15:29

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้ "อเมริกันเธียเตอร์" คราวที่แล้วครับ http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2012/08/A12545347/A12545347.html จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:18:29

ความคิดเห็นที่ 22 Father of the Bride เป็นหนังที่น่ารักมากๆครับ จากคุณ : เกาเหลาใส่เส้น เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 15:38:12

ความคิดเห็นที่ 23 ^ ^ คห.22 ผมแอบเศร้าไปกับสตีฟ มาร์ตินเหมือนกันนะ...แต่นางเอกน่ารักมากก...เสียดายที่กราฟชีวิตนักแสดงของเธอไม่พุ่งสูงนัก จากคุณ : kaizank เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 16:34:04