Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มาดูกันว่าทำไม การลดน้ำหนัก หลังจากโดน "โยโย่" เล่นงาน มันถึงยากเย็นนัก? ติดต่อทีมงาน

อันดับแรก คือ เมื่อคุณลดน้ำหนักด้วยวิธีการผิด ๆ เช่น อดอาหาร กินยาลดความอ้วน สิ่งที่ตามมาจะเกิดขึ้น 2 อย่าง

1.ร่างกายปรับการเผาผลาญของคุณไปอยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน (Starvation Mode)

ในกรณีนี้ร่างกายรับทราบว่ามีพลังงานเข้ามาไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงปรับการเผาผลาญให้ลดต่ำกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับพลังงานอันน้อยนิดที่คุณรับเข้ามา ผลที่ตามมาก็คือ อวัยวะต่าง ๆ ทำงานด้อยประสิทธิภาพลง เช่น เมื่อหัวใจทำงานด้อยประสิทธิภาพลง การแลกเปลี่ยนออกซิเจนก็จะด้อยตามลงไป การเผาผลาญก็จะแย่ลง เพราะว่าร่างกายต้องใช้ออกซิเจนมาช่วยการเผาผลาญ

นอกจากนี้แล้วการที่ไขมันลดต่ำลงอย่างรวดเร็วในช่วง ที่ อดอาหาร ยังทำให้ ฮอร์โมน Leptin ลดลดต่ำลงใน “อัตรา” ที่มากกว่า “อัตรา”ที่ ไขมัน ลดต่ำลงอีกด้วย เมื่อ ฮอร์โมน Leptin ลดต่ำลง จึงไม่มีคำสั่งไปยังสมองส่วนกลางให้ร่างกาย เผาผลาญพลังงาน และสมองก็สั่งงานให้คุณมีความรู้สึกหิว

ดังนั้นเมื่อคุณเลิก อดอาหารในช่วงแรก ๆ และหันมากินตามปกติ ระบบ Metabolism ของคุณยังไม่ปรับไปอยู่ในระดับปกติ การเผาผลาญต่าง ๆ จึงน้อยกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้แล้วระดับ Leptin ก็ยังต่ำอยู่ ดังนั้นคุณจึงมีความรู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าคุณจะทานอาหารไปมากเพียงใด (เพราะไม่มีคำสั่งจาก Leptin ไปยังสมอง) ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เองทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

2. ร่างกายละลายกล้ามเนื้อออกมาเป็นพลังงานเสริม

สำหรับกรณีนี้ ต้องเกริ่นก่อนว่า โดยทั่ว ๆ ไป ร่างกายจะใช้พลังงานจากสองแหล่ง คือ จาก กลูโคส และ ไขมัน  (มีบางกรณี เช่นกันที่ร่างกายจะใช้พลังงานจาก กลูโคสเพียงอย่างเดียว แต่จะไม่ขอกล่าวถึง เพราะจะทำให้งง)  กล่าวคือ โดยส่วนใหญ่ร่างกายไม่สามารถที่จะใช้พลังงานจากไขมันเพียงอย่างเดียวได้

ดังนั้น เมื่อคุณอดอาหาร ร่างกายของคุณก็จะไม่มีพลังงานในรูปแบบของกลูโคส สิ่งที่ร่างกายทำก็คือต้องหาพลังงานสำรองมาทดแทน โดยการเปลี่ยน โปรตีน ให้เป็นกลูโคส หากคุณมีโปรตีนส่วนเกินจากการรับประทานร่างกายก็จะดึงมาใช้เป็นพลังงานเสริม  หากโปรตีนส่วนเกินไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะละลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานเสริม

ดังนั้นหากคุณ อดอาหาร ผลที่ตามมาก็คือ ร่างกายคุณต้องละลายกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานเสริมอย่างแน่นอน ไม่มาก ก็น้อย

เมื่อกล้ามเนื้อหายไป ก็ย่อมหมายความว่าระบบ Metabolism ต่ำลง เพราะส่วนใหญ่ร่างกายใช้กล้ามเนื้อในการเผาผลาญ

ดังนั้นเมื่อคุณเลิกอดอาหาร และหันไปทานตามปกติ ผลที่ตามมา ก็คือ น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะคุณไม่มีกล้ามเนื้อเพื่อช่วยการเผาผลาญ

พอจะมองภาพออกหรือยังครับว่า การลดน้ำหนักครั้งถัด ๆ ไป หลังจากที่ โดน โยโย่ เล่นงาน ทำไมมันถึงยากเย็นนัก  ก็เพราะร่างกายต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะปรับระบบ Metabolism ขึ้นมาอยู่จุดเดิม นอกจากนี้กล้ามเนื้อที่หายไปก็จะทำให้การเผาผลาญลดต่ำลง ผลที่ตามมาก็คือ ทำให้การลดน้ำหนักยิ่งยากขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณ อด อาหารหลาย ๆ ครั้ง คุณก็ย่อมสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปทุกครั้ง การลดน้ำหนักก็ยิ่งยากขึ้นกว่าเดิมไปเรื่อย ๆ

หากพิจรณากันดี ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพูดไปขั้นต้นนั้น สามารถแก้ไขได้โดยอาศัย  เวลา และ การออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่

สำหรับที่ผมกล่าวว่า การทำลดน้ำหนักโดยการอดอาหารอาจจะทำให้ คุณไม่สามารถเห็นน้ำหนักต่ำได้กว่าปัจจุปัน ก็เพราะด้วยเหตุผล 2 ประการครับ

1.อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ Metabolism ต่ำลง

ตรงนี้เราไม่สามารถแก้ไขได้   ดังนั้นเมื่อรวมกับเหตุผลต่าง ๆ ขั้นต้น ก็ “อาจจะ” ทำให้ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารไม่สามารถลดน้ำหนักได้ลงกว่าปัจจุปัน เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น

(จากประสบการณ์ในการลดน้ำหนักของผม ซึ่งมากกว่า 10 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ขอบอกว่า สมัยเป็นวัยรุ่น นั้นน้ำหนักลดง่ายกว่าปัจจุปันมากครับ)

2.กล้ามเนื้อหัวใจที่หายไป

ตรงนี้ผมอ่านเจอจากการทดลอง เรื่อง ภาวะการอดอยาก (Starvation Experiment) ในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยการทดลองดังกล่าวเขาจับคนกลุ่มหนึ่งมา อดอาหาร โดยให้อาหารเพียงแค่ 50 % ของ  BMR เป็นเวลา 6 เดือน

ผลการทดลองพบว่า ร่างกายมีการละลายกล้ามเนื้อหัวใจออกมาเป็นพลังงานเสริมด้วย ในหนังสือ ใช้คำว่า “ Their hearts shrank because their bodies used heart-muscle protein as a source of energy”. (Brown, 1990, p.122 )

ดังนั้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจหายไป การทำงานของหัวใจก็ด้อยลง การเผาผลาญก็จะแย่ลงตามที่อธิบายไปแล้วขั้นต้น

ตรงนี้เองมองว่าเป็นการทำลายระบบ Metabolism อย่างถาวรเช่นกัน  และไม่สามารถแก้ได้ กล้ามเนื้อส่วนอื่นของร่างกายอาจจะสร้างเสริมได้ในภายหลัง  แต่กล้ามเนื้อหัวใจนั้นผมไม่รู้จริง ๆ ครับว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้อย่างไร (ถึงแม้ว่าร่างกายจะสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ แต่ก็คงใช้เวลานานมากๆๆๆๆๆๆ)

อ้างอิง
Brown, J.D., 1990, The Science of Human Nutrition, HBJ Publisher, USA.
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 18:22:28

จากคุณ : Jackson5  - [ 9 ส.ค. 50 18:16:15 ]


ที่มา จัดตารางการกินแบบนี้ จะลดน้ำหนักได้มั้ยคะเนี่ย http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2007/08/L5695865/L5695865.html

พอดีเพิ่งไปเจอกระทู้นี้มา กระทู้ถามทั่วๆไป บางทีเพื่อนๆ อาจจะไม่ได้คลิ๊กเข้าไปอ่าน วันนี้พอดีเราว่างๆ เลยลองจิ้มเข้าไปดูก็ถูกใจจริงๆ

เป็นข้อมูลดีๆ เอาไว้เตือนสำหรับคนลดความอ้วนมือใหม่ค่ะ

แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 09:17:37

จากคุณ : Love in the mist
เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 09:07:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com