Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล่าเรื่องการเมืองในอดีต : มาร์คไม่ใช่คนแรกที่ถูกด่าว่าเป็นงักปุ๊กคุ้ง , สนธิลิ้มคนไว้ใจไม่ได้ และย้อมอดีตเสธหนั่น ติดต่อทีมงาน

เร่เข้ามา ๆ วันนี้วณิพกเฒ่าจะเล่าเรื่องราวการเมืองในอดีต เผื่อบางท่านจะหลงลืมจะได้ทบทวนความจำหรือบางท่านที่ยังไม่ทราบก็จะได้รับรู้เพื่อความบันเทิง เชิญล้อมวงกันเข้า ถ้าถูกใจก็โยนสตางค์เอ้ยกิ๊ฟให้คนละกิ๊ฟสองกิ๊ฟ

เริ่มกันที่เรื่องแรก หลายวันก่อนได้ไปเลียบ ๆ เคียง ๆ อ่านความคิดเห็นหลากหลายจากป้อมค่ายพระอาทิตย์ ปรากฏว่า “หนุ่มหน้ามนคนหน่อมแป้งขวัญใจกระดังงาแห้งบ้านหลายเสา” หรืออีกฉายาคือ “ทารกอำมหิต” ถูกด่าว่าเป็น “งักปุ๊กคุ้ง วิญญูชนจอมปลอม” เสียแล้ว นี่แหละน๊ายามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่ยามผสมพันธุ์ เอ้ย !! ผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็หันมากัดกันซะหัวหูถลอก

ว่าแล้วก็ให้คิดถึงความหลัง เลยอยากเล่าให้มาร์คฟังเพื่อทำใจ มาร์คไม่ใช่คนแรกหรอกนะที่ถูกด่าเช่นนี้ แม้แต่ปี้จวนคนงามแม่นมของคุณหนูอภิสิทธิ์ ที่ 3-4 ปีมานี้ถูกยกย่องจนเลิศลอยจากค่ายพระอาทิตย์ก็ถูกด่าด้วยข้อหาเดียวกันนี้มาแล้ว สำนวนเดียวกันเปี๊ยบเลย วณิพกเฒ่ายังจำได้ติดหูติดตา

ตอนนั้นลิ้มโกเต๊ะ เอ้ย !! ลิ้มโกตั๊บ แกโกรธนายธารินทร์เป็นฟืนเป็นไฟเลยพาลอัดรัฐบาลชวนทั้งขณะ โดนกันอ่วมทั่วหน้าโดยเฉพาะปี้ชวนนั้นโดนหนัก โดนด่าสารพัด ไร้ศักยภาพบ้างล่ะ เป็นปลัดประเทศบ้างล่ะ และที่จำได้แน่ ๆ เลยคือ ถูกด่าว่าเป็น “งักปุ๊กคุ้ง วิญญูชนจอมปลอม”  ไปอ่านบทความของค่าย ผจก.ตอนนั้นบอกได้เลยไม่มีชมมีแต่ด่า  ... นอกจากค่ายนี้จะโปรทักษิณเต็มตัว ยังทำถึงขนาดขึ้นป้ายด่ากลางสี่แยกนานา ก็ทำมาแล้ว (และรู้สึกอีกหลายแยกนะถ้าจำไม่ผิด)

ก็เลยอยากจะให้มาร์คทำใจไว้ ว่าที่เขาชม ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ วันใดที่พี่ลิ้มแกไม่สบอารมณ์หรือไปขัดผลประโยชน์ เฮีย (กรุณาสะกดให้ถูก) ขึ้นมา เฮียลิ้มและสมุนเฮีย ๆ ก็พร้อมจะหันหอกกลับมาทิ่มแบบลืมสิ้นความหลังได้เสมอ แต่เอ้ ... เรื่องนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงประชาธิปัตย์กระมังเพราะเขาเขี้ยวเรื่องพรรค์นี้อยู่แล้ว ถ้า ปชป. ไม่ขนคนเข้าร่วม พันธมิตรก็คงไม่มีน้ำยาอะไรล่ะมั๊ง  ดูเลือกตั้ง สก. นั่นปะไร การเมืองใหม่ได้มาตั้งหลายแสนคะแนนนิ หุหุ  

งานนี้ผีเจอสาง ต่างคนต่างจ้องจะแทงกัน รอจังหวะใครสะดุดทีนตัวเองก่อน ไประวังกันเอาเองก็แล้วกันเน้อ

พูดเรื่องงักปุ๊กคุ้งแล้ว ก็อดแวะเข้าเรื่องสนธิลิ้มไม่ได้ ดูในเวป ผจก. เห็นลิ้มด่าอนุพงศ์สาดเสียเทเสีย ก็ได้แต่นึกขำในใจว่า ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นไอหมอนี่มันจริงใจกะใครเลยสักครั้งเดียว เคยต่อต้านทหารต่อต้านการสืบทอดอำนาจสมัยพฤษภาทมิฬแทบเป็นแทบตาย (ตอนนั้นเฮียนี่ถือหางบิ๊กจิ๋ว) ตอนนี้กลายเป็นหนุนการปฏิวิติ , ไม่มีใครที่หมอนี่เคยชมแล้วไม่เคยหันกลับมาด่า อาทิ เคยชมบิ๊กจิ๋วว่าเป็นผู้มีคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อประเทศ ตอนหลังไม่สมปรโยชน์ก็ด่า , ตอนสนธิบังมีอำนาจก็ยกย่องจนเลิศลอย แต่พอใกล้เกษียณก็ด่าจนเสียหะมา , สะพรั่งก็เหมือนกันพอชวดตำแหน่ง ผบทบ.เท่านั้นแหละ เห็นว่าไม่มีปรโยชน์อะไรแล้วก็ถีบหัวส่งหมือนหมูเหมือนหะมาน่าสลดใจ , อนุพงศ์ก็ไม่ต่างกัน ประยุทธ์ก็ระวังเอาไว้ดี ๆ เถอะสัก 3-4 เดือนก่อนเกษียณคอยดูดี ๆ ว่าลิ้มมันจะเกทับแล้วไปลูบกระจับ เอ้ย !! รีบประจบ ผบ.คนใหม่หรือเปล่า คอยดูต่อไป เห็นเขาชมตอนนี้อย่าเพิ่งเหลิงได้ใจไปเชียว

ถ้าอยากจะอ่านเรื่องของสนธิ ลิ้ม ให้แซ่บให้มันส์ เชิญอ่านที่นี่ “เรียบเรียงความอธรรมของสนธิ” http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/06/P6719408/P6719408.html

(ผมเขียนไว้เมื่อปี 51 ยาวนะขอบอกไว้ก่อนแต่รับประกันความมันส์)

สำหรับสนธิ ลิ้ม ผมบอกได้คำเดียวว่ารอดูผลกรรมเช็คบิลได้เลย คนแบบนี้กฎแห่งกรรมไม่ปล่อยไว้ จุดจบไม่สวยแน่

เรื่องสุดท้าย  เห็นหลายวันมานี้ชื่อเสธหนั่นฮอทฮิตติดชาร์จ ก็เลยอยากจะย้อนความหลังเสียหน่อย (ขอเล่าสั้น ๆ แต่เพียงหอมปากหอมคอ ยาวมากไปเดี๋ยวจะเบื่อ)  เสธหนั่นนั้นเป็นอดีต ทส.ของนายพลคนดัง พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ที่ถูกยิงเป้าโทษฐานกบฏ ภายหลังเข้ามาเล่นการเมือง อยู่พรรคประชาธิปัตย์

ตอนเป็นรัฐมนตรีนั้น เสธหนั่นได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรีที่ "เจ้ายศเจ้าอย่าง" มาก ๆ ชนิดที่ตอนเป็นรัฐมนตรีเกษตรมาตรวจราชการที่เชียงใหม่ พวกข้าราชการต้องไปหารถม้าจากลำปางมารอต้อนรับ , หรือเมื่อตอนเป็น รมต.มหาดไทย ก็ถึงกับมีภาพขี่คอตำรวจในเครื่องแบบข้ามลำน้ำพร้อมกับในมือก็ถือแก้วไวน์ไปด้วย ปรากฏออกมาเป็นที่อื้อฉาว

เสธหนั่นนั้นเป็นนักการเมืองในระบบเก่าเต็มตัว (และมีสปี่ชี่สายพันธุ์ ปชป.เต็มตัวเช่นกัน) การเมืองในระบบเก่าที่ว่านี้คือ ระบบการต่อรองแลกเปลี่ยนเก้าอี้ รมต. อาทิ 5 เสียงต่อ 1 ที่นั่ง โดยเอาผลประโยชน์ของพรรคการเมืองเป็นตัวตั้งเรื่องผลงานหรือความต้องการของประชาชนเป็นเรื่องมาทีหลัง ผลงานชิ้นโบว์แดงของเสธก็คือ “ตำนานงูเห่าภาคแรก” อันลือลั่น

ภายหลังเมื่อถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี โดยข้อหาแบบตายน้ำตื้น (ตกแต่งบัญชีอันเป็นเท็จ) เสธก็ต้องเระเห็จออกจาก ปชป. เพราะอยู่ไปก็ไร้บอยส์ ไม่มีใครเห็นหัวอีกต่อไป เคยพยายามที่จะกลับมาใหญ่ใน ปชป. โดยดันประสิทธิ์ และ บัญญติขึ้นเป็น หน. และเลขาฯ พรรค แต่ก็แพ้เด็กปั้นและเกมส์การเมืองของปี้ชวนอดีตนายกฯที่เสธหนุนมากับมือ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เหนือเสธหนั่นยังมีพี่ชวน หรือ น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตายนั่นเอง

เสธหนั่นออกไปตั้ง “พรรคมหาชน” กับนายทุนประดิษฐ ภัทรประสิทธิ์ วาดความฝันไว้สวยหรูว่าจะเป็นตัวแปรทางการเมือง โดยใช้รูปแบบของการเมืองแบบเก่าที่เอาหลาย ๆ พรรคเล็กมาโค่นพรรคใหญ่แล้วแบ่งเก้าอี้กัน ปรากฏว่าคราวนั้น พรรคมหาชนของเสธได้ ส.ส มานิ๊ดดด ..หนึ่ง พวกเราเลยได้เห็น น้ำตาชาละวัน ของจริงกันทางทีวี (เรื่องนี้มีเกร็ดเล่าเยอะ ไม่ว่าเรื่องพนันกราบเท้ากับสุวัจน์ หรือ เรื่องเสียน้ำตาเพื่อรักษาที่มั่น แต่ถ้าเล่าจะยาวเอาไว้คราวหลังดีกว่า)

ว่ากันว่าคราวนั้นเสธเจ็บใจทักษิณมาก (เสธจะไปผูกใจเจ็บทำม้ายยย ... การเมืองก็มีแพ้มีชนะเสธก็รู้) ภาพหลังเราเลยได้เห็น สังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการลูกกระแป๋งข้างซ้ายคู่บารมีของเสธ ออกมาเคลื่อนไหวไล่ทักษิณโดยใช้วิธีชกใต้เข็มขัด คือ การยุยงคนให้โห่ไล่ โดยใช้ชื่อสวยหรูว่า ประชาสังคมต่อต้านทักษิณ ซึ่งก่อให้เกิดวัฒนธรรมโห่ไล่นักการเมืองมาจนถึงปัจจุบัน

เรื่องของเสธฯหนั่นคงทิ้งไว้แค่นี้ เพราะหลังจากนั้นเส้นทางเดินทางการเมืองของชายผู้นี้พวกเราก็คงทราบกันดี เพียงแต่อยากจะฝากไว้ว่า จากประวัติและระบบคิดของของเสธหนั่น เราจะไปหวังการปฏิรูป หรือความจริงใจอะไรคงยาก นอกจากจะว่าด้วยผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นที่ตั้ง

 

แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 53 19:07:10

แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 53 18:13:23

จากคุณ : Uncle-Dave
เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 17:43:55 A:223.206.212.220 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com