Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+++++ บัญชีที่อัมเสตอร์ดัมนำมาแสดง คือบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ใช่บัญชีผู้ไปใช้สิทธิ+++++ ติดต่อทีมงาน

ดังนั้น จะมามั่วแต่ล้อเลียนโดยไม่พิจารณาให้ดีแบบไร้สาระว่า ทำไมมาร์คจำไม่ได้ว่าตนเองไปใช้สิทธิแล้ว จึงดูไม่สมเหตุสมผล เพราะในความเป็นจริง เขาอาจจะไม่เคยไปใช้สิทธินั้นเอง

อันนี้ว่าไปตาม ที่อัมเสตอร์ดัมเองเป็นคนเล่าไว้ในเวบของตนที่นี้ ( คลิกอ่านดูที่นี้ )  ดังนี้ คือ

Abhisit, as well as former Finance Minister Korn Chatikavanij, were registered as electors (voters) at St Johns College, University of Oxford on 10th October 1983, giving them both eligibility to vote from 16th Feb 1984 to 15th Feb 1985, and again in the 1986 register, and again in 1987.

The Oxford City Council, who organize the “electoral roll” or “register of electors” have informed us that the colleges forward the names of students who are eligible to vote to them. You gain eligibility to vote if you are a British, Irish or Commonwealth (ex-Empire) student. The council also informed us that they double check with the college if they are unsure of the eligibility to vote of someone the college puts forward, and if there is any doubt regarding the citizenship of the voter, they are able to show their birth certificate to be included on the voter register. ...

The college deduces voter registration eligibility by the nationality put on the enrollment form by the student. Proof of nationality for all British, Irish and Commonwealth students would be required and would need to be provided by the student at the time of enrollment.


อภิสิทธิ์และกรณ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนในทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง(were registered as electors (voters))ของเซนต์จอนห์ เมื่อ 10 ตุลาคม 1983 ทำให้คนทั้งสอง มีสิทธิตามกฎหมายที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง ( both eligibility to vote) ในช่วง 16 กพ 1984 ถึง 15 กพ 1985 และในช่วงปี 1986 และ 1987

วันที่ 10 ตุลาคม 1983 ที่ทั้งสองได้รับการขึ้นทะเบียนในทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ใช่วันที่มีการเลือกตั้งในอังกฤษหรือออกซ์ฟอร์ดดังที่มีคนเข้าใจผิดๆ และจึงไม่ใช่วันที่คนทั้งสองไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การถูกขึ้นทะเบียนในวันนั้น เป็นการขึ้นทะเบียนของราชการอังกฤษเพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้นในช่วงนั้นๆเท่านั้น

รายชื่อในบัญชีนี้มาจากไหน อัมเสตอร์ดัมอธิบายว่า ทางวิทยาลัยเป็นผู้ส่งรายชื่อมาให้กับทาง City Council( the colleges forward the names of students who are eligible to vote to them) แล้วทางวิทยาลัยจะรู้ได้อย่างไรว่านักเรียนคนไหนจะมีสิทธิตามกฎหมายหรือไม่มีสิทธิ คำตอบคือ ทางวิทยาลัยดูจากสัญชาติที่มีการระบุในเอกสารการสมัครเรียน (The college deduces voter registration eligibility by the nationality put on the enrollment form by the student.)

ความข้อนี้ทำให้ทราบว่ามาร์ค คงลงสัญชาติในใบสมัครเรียนที่เซนต์จอน์หเป็นสัญชาติอังกฤษจริง น่าจะเพือทำให้เสียค่าบำรุงการศึกษาลดลง เพราะหากเป็นนักเรียนต่างชาติคงถูกเก็บมากกว่า

แต่จากคำอธิบายทั้งหมดของอัมเสตอร์ดัมเองเกี่ยวกับเอกสารที่นำมาแสดงนั้น ไม่มีความตอนใดที่ระบุว่า เอกสารนั้น เป็นเอกสารของผู้ที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนะครับ แต่มันเป็นเพียงเอกสารขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งมาร์คและกรณ์ อาจจะไม่เคยได้ไปใช้สิทธิเลยก็เป็นได้ และทั้งสองอาจะไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำไปว่า ไปมีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิโดยอัตโนมัติโดยกระบวนการของระบบการขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งของอังกฤษ



   คำถามสำคัญ ปัจจุบันมาร์คมีชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งของอังกฤษหรือเปล่า

ที่สำคัญก็คือ หากอัมเสตอร์ดัมสามารถหาบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในช่วงดังกล่าวมาได้ ทำไมอัมเสตอร์ดัม สามารถหาบัญชีรายชื่อผู้มิสิทธิเลือกตั้งของอังกฤษ ในช่วง 20 ปีหลังที่มาร์คเป็นนักการเมือง เป็น สส เป็นรัฐมนตรี และเป็นนายกฯ มาได้หรือไม่ ในเวลาที่มาร์คควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบในเดือนพฤษภาคม 2553 ที่นำไปฟ้องศาลโลกนั้น

มาร์คมีชื่อเป็นพลเมืองอังกฤษ มีชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งของอังกฤษ อย่างที่อัมเสตอร์ดัมค้นมาในช่วงปี 1983-1987 หรือไม่


    หากไม่มี สัญชาติอังกฤษที่มาร์คมี ก็นำมาอ้างตามกฎหมายระหว่างประเทศไม่ได้

หากไม่มี ตามหลัก Effective Nationality ก็เท่ากับว่าสัญชาติอังกฤษที่มาร์คมีอยู่นั้น ไม่มีความหมายในมุมมองของกฎหมายระหว่างประเทศ  และไม่สามารถนำมาใช้ฟ้องร้องเอาผิดได้ ดังกรณีที่ศาลโลกเคยตัดสินเรื่องนี้มาแล้ว ในคดี Nottebohm คนเยอรมันที่ไปมีสัญชาติ Liechtenstein แต่ไม่มีความผูกพันที่แท้จริงกับ Liechtenstein จนศาลโลกถือว่าจะนำสัญชาติ Liechtenstein มาอ้างมิได้นั้นเอง (คลิกอ่านกระทู้เดิมที่นี้ )


เหมือนกับมาร์คที่ไม่มีความผูกพันกับอังกฤษ ที่จนกระทั่ง ไม่มีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งของอังกฤษอีกเลย นับแต่กลับจากการศึกษา ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมานั้นเอง สัญชาติอังกฤษที่มาร์คมีจึงนำมาใช้อ้างตามกฎหมายระหว่างประเทศมิได้ เพราะขาดความผูกพันที่แท้จริงกับประเทศเจ้าของสัญชาติ เหมือนคดี Nottebohm นั้นเอง







เนื่องจากมีสมาชิกจิตไม่ปกติ คอยพยายามเที่ยวจับผิดคำพูดในกระทู้ จึงขอปรับเพิ่มคำิธิบายเพื่อป้องกันพวกโรคจิตเหล่านั้น


แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 55 11:05:41

จากคุณ : thyrocyte
เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 09:27:51 A:58.137.0.146 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com