Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[[ อิสลาม ]] การเหยียดหยามผู้หญิง ติดต่อทีมงาน

“ญาฮิลียะฮฺ” เป็นคำศัพท์ที่อิสลามใช้เรียกแนวคิดหรือพฤติกรรมที่ไม่อยู่ในทางนำจากพระ เจ้า รากศัพท์ของมันมาจากคำว่า “เขลา” หรือ “อวิชา” กล่าวได้อีกอย่างว่า ญาฮิลียะฮฺได้นำเอาความคิดที่คาดเดาของมนุษย์มาให้ความหมายต่อชีวิต สังคม และทุกสิ่งทุกอย่าง           

             อิสลามจึงถือว่า ญาฮิลียะฮฺ เป็นการนำความรู้ที่ผิดพลาดมาอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างในจักรวาล นี้ จึงทำให้การจัดระบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆผิดพลาดตามมา ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับผู้ทรงสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับชีวิตต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างภายในตัวของเขาเอง ความผิดพลาดนี้เกิดจากการแนวคิดที่ตัวเองคิดว่า “รู้ แจ้ง” แล้ว
           

            ที่น่าสนใจ สัญลักษณ์ที่สำคัญของญาฮิลียะฮฺอย่างหนึ่งก็คือ “ท่า ที” ที่มีต่อเพศแม่ ที่เต็มไปด้วยบกพร่องและส่งผลร้ายที่รุนแรงและยาวนานตลอดหน้าประวัติศาสตร์ มนุษยชาติ

เราพบว่า หลายๆอารยธรรมตั้งแต่โบราณ ผู้หญิงถูกปฏิบัติในระดับที่เรียกว่า “มิใช่คน” ทั้งในแบบที่ถูกถือว่าเป็นทรัพย์ชนิดหนึ่งในกองมรดก ทั้งในแบบของสิ่งมีชีวิตที่ถูกนำไปประหารแทนสามี หากสามีไปฆ่าผู้หญิงอื่น ดังปรากฏในอารยธรรมบาบิโลน และถึงแม้นว่าอาจถูกยอมรับว่าเป็นมนุษย์ แต่ก็เป็นมนุษย์ที่เกิดมาเพื่อรับใช้เพศชาย
           

           สิ่งที่คล้ายคลึงกันก็ของแทบทุกอารยธรรมในสมัยโบราณก็คือ ผู้หญิงมักถูกถือว่าเป็นที่มาแห่งความชั่วร้ายบนโลกนี้ นี่คือผลของการใช้ความรู้ที่ผิดพลาดในการให้ความหมายต่อผู้หญิง นี่คือญาฮิลียะฮฺ

 

สังคมอาหรับก่อนการ มาของอิสลาม ได้ตกอยู่ในแนวคิดที่เรียกว่า “ญาฮิลียะฮฺ” ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการให้ความหมายต่อผู้หญิงเช่นกัน ตัวอย่างหนึ่งของพฤติกรรมที่สะท้อนแนวคิดนี้ก็คือการฝังลูกผู้หญิงทั้งเป็น อันเนื่องความอัปยศอับอาย เป็นภาพที่หดหู่ที่สุดที่มนุษย์ด้วยกันปฏิบัติต่อเพศหญิง
           

            ผมฟังการบรรยายภาพเหล่านี้ตั้งแต่ตอน เด็กๆ เกิดคำถามตลอดเวลาว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ได้อย่างไร? ความสำนึกในมโนธรรมของมนุษย์หายไปไหนหมด? อะไรเล่าที่ดลใจให้มนุษย์ถึงกับกล้าฝังมนุษย์ด้วยกันทั้งเป็น? มนุษย์ที่ยังเป็นแค่เด็กทารกที่ไร้เดียงสา จำความอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ!

 

ความรู้ที่ผิดพลาด ในการให้ความหมายต่อชีวิตและจักรวาล และความหมายของผู้หญิง ได้ก่อเกิดเป็นกระแสญาฮีลียะฮฺที่น่าสะพรึงกลัวมาก เพราะมันเป็นกระแสที่ครอบงำมโนธรรมมนุษย์จนหมดสิ้น พฤติกรรมของคนจึงดำเนินไปตามแรงผลักดันของญาฮิลียะฮฺนั้นๆ

นี่คือโจทย์ที่อิส ลามเผชิญหน้าในยุคนั้น การแก้โจทย์นี้จึงต้องอาศัยกลไกที่มีประสิทธิภาพอย่างสูงยิ่ง

การต่อสู้ในยุคแรก ของอิสลามจึงเริ่มจากการปลดปล่อยแนวคิดญาฮีลียะฮฺที่ครอบงำมนุษย์อยู่ ไม่เพียงแค่ญาฮีลียะฮฺของชาวอาหรับในนครมักกะฮฺเท่านั้น แต่ยังได้กล่าวไปสู่การวิพากษ์ญาฮีลียะฮฺของเปอร์เซีย โรมัน และอารยธรรมอื่นๆรอบข้าง พร้อมๆกับนำเสนอความรู้ที่ได้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างทุกสิ่งทุกอย่างที่ ถูกต้อง เรียกว่า “อิสลาม”

 

ขบวนการปลดปล่อย สตรีที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การตะโกนคำขวัญ “หญิงเท่า เทียมชาย” แต่ต้องเข้าไปแก้ที่รากฐานของปัญหานี้ คือการปลดปล่อยหัวใจของมนุษย์ให้หลุดจากพันธนาการที่ญาฮีลียะฮฺครอบงำอยู่

ด้วยเหตุนี้เอง การปลดปล่อยสตรีจากการถูกต่ำกว่าความเป็นคนจึงถูกนำไปผูกเป็นเรื่องเดียวกับ การปลดปล่อยมนุษย์จากแนวคิดที่มนุษย์คิดกันเอาเอง

 

การรณรงค์ เรื่องท่าทีที่ถูกต้องในเรื่องเพศหญิงถูกกระทำโดยต่อเนื่องผ่านโครงสร้างนี้ ภาพบรรยายชีวิตโลกหน้าหนึ่งจึงถูกตั้งขึ้นเพื่อถามหาความยุติธรรมให้แก่ผู้ หญิงจากอัลกุรอานที่ว่า “….และเมื่อทารกหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นถูกถาม ด้วยความผิดอันใดเธอจึงถูกฆ่า……” (อัต ตักวีร)

 

ผู้หญิงใน อิสลามได้ถูกให้ความหมายใหม่อย่างเป็นระบอบ เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง “ท่าที” ใหม่ที่คนเราพึงมีต่อผู้หญิง ในฐานะมนุษย์ที่เท่าเทียมกับผู้ชาย ยังตามไปด้วยกฎหมายอีกหลายเรื่อง เช่น การที่ผู้หญิงมีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูจากสังคม การที่ผู้หญิงได้รับมรดก การที่เธอไม่ถูกบังคับให้แต่งงาน เป็นต้น

 

ตัวอย่าง บางเรื่องที่ถูกฝ่ายตรงข้ามอิสลามกล่าวหาว่า อิสลามกดขี่ผู้หญิง เช่น เรื่องอนุญาตให้ผู้ชายมีภรรยาได้ไม่เกินสี่คน หากถูกมองด้วยความยุติธรรมแล้วจะพบว่า เป็นกฎหมายที่มาจำกัดการมีผู้หญิงแบบ “ไม่จำกัด” ของผู้ชายที่เป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไรมานับพันปีแล้ว พร้อมๆกับการกำหนดเงื่อนไขในการดูแลและให้ความยุติธรรม ส่งผลต่อการมีภรรยาหลายคนเป็นไปอย่างรับผิดชอบ เช่น ในอินเดีย ผู้ชายมุสลิมที่มีภรรยาเพียงคนเดียวมีมากกว่าเก้าสิบห้าเปอร์เซ็น(ตรงกัน ข้ามเปอร์เซ็นต์ของชาวฮินดูที่มีภรรยามากกว่าหนึ่งคนกลับสูงกว่า)

 

ยิ่งกว่านั้น ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกนักสิทธิสตรีในตะวันตกจึงชอบมายุ่งกับผ้าคลุมผม ของผู้หญิงมุสลิมเสียเหลือเกิน ทั้งที่ “ฮิญาบ” ถูกประทานมาเพื่อศักดิ์ศรีของผู้หญิง ในทางตรงกันข้าม “ศักดิ์ศรี” ของผู้หญิงสมัยใหม่อยู่ใน สภาพที่นับวันจะถูกตั้งคำถามหนักขึ้นเรื่อยๆ

 

อะไรคือคำอธิบายถึง การมีอยู่ของผู้หญิงบน เวทีแฟชั่น โชว์ผู้หญิง ที่งานมอเตอร์ โชว์ผู้หญิงบนเวทีประกวดนางงาม ผู้หญิงในหนังโฆษณา ตลอดจนผู้หญิงในหนังลามกอนาจาร ฯลฯ

 

อะไรคือคำ อธิบายถึงการที่ผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นเหยื่อถูกข่มขืนตามประเทศต่างๆ อย่างประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีตัวเลขผู้หญิงถูกข่มขืนโดยเฉลี่ยวันละเกือบสองพันราย

 

ในมุมมอง อิสลามถือว่าผู้หญิงในสังคมสมัยใหม่ยังเป็นญาฮีลียะฮฺ อยู่นั่นเอง เพราะมันเกิดมาจากการให้ความหมายต่อผู้หญิงที่ผิดพลาด ผู้หญิงถูกตีค่าเป็นแค่วัตถุ เป็นสินค้า และถูกผลักดันให้เป็นเหยื่อของผู้ชาย ผลสุดท้ายผู้หญิงก็ยังคงตกอยู่ในสภาพที่ถูกเหยียดหยามต่อไป ไม่ได้แตกต่างกับการให้ความหมายผู้หญิงจากอารยธรรมโบราณ ยกเว้นเรื่องคำขวัญเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้ซื่อจนถึงขั้นไม่รับรู้ว่า ยังมีพฤติกรรมญาฮิลียะฮฺเรื่องเพศหญิงอยู่ในสังคมของมุสลิมทุกวันนี้เช่นกัน ดังเช่นพ่อแม่หลายคนดีใจที่ได้ลูกชาย และรู้สึกเศร้าที่ได้ลูกสาว ซึ่งกระแสค่านิยมเช่นนี้ยังคงเข้มข้นมากในโลกตะวันออก(เช่น จีนและอินเดีย) รวมทั้งสังคมมุสลิมในบางพื้นที่

 

แต่เนื่องจากการถูกแนวคิดที่จริงจังของอิสลามในเรื่องจุดยืนที่มีต่อเพศหญิง อาจทำให้สังคมมุสลิมแสดงออกไม่ได้เช่นวัฒนธรรมจีนและ อินเดีย แต่อาจไปปรากฏในท่าทีที่อยุติธรรมบางอย่าง เช่น การดูแลให้การอบรมเรื่องศาสนาลูกสาวน้อยกว่าลูกชาย การเน้นการจัดการศึกษาให้ลูกชายเป็นพิเศษ การกล่าวถึงเป็นพิเศษต่อลูกชาย ฯลฯ ผมคิดว่าการที่ท่านนบีฯได้พูดถึงสวรรค์ที่จะได้แก่คนที่ได้เลี้ยงดูลูกสาว หลายคนให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนดี น่าจะเพียงพอที่จะยุติความเข้าใจที่พกพร่องเช่นนี้

 

การให้ความหมายของ ผู้หญิงของสังคมต่างๆ ถือว่าเป็นดรรชนีวัดความเป็นอารยะที่แท้จริงของสังคมนั้นๆ ต่อให้สังคมนั้นจะมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขนาดใดก็ตาม แต่หากปล่อยให้ฐานะของผู้หญิงถูกเหยียดหยาม สังคมนั้นถือว่าเป็นสังคมที่ล้าหลัง
..........................................
 

อัล อัค เรียบเรียง

http://www.fityah.com

จากคุณ : Ms.Kohlanta
เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 21:51:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com