5. ปรากฏว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ปฏิบัติด้วยความดีงามกับมนุษย์ทุกคน และส่วนหนึ่งก็ปฏิบัติกับพวกยิว แท้จริงอัลลอฮฺได้สั่งให้มีความเป็นธรรมและประกอบความดีงาม ให้มีจรรยามารยาทที่ดีและคืนสิทธิให้แก่ชาวยิวและแก่คนอื่นๆ ดั่งที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
ความว่า
อัลลอฮฺมิได้ทรงห้ามพวกเขาเกี่ยวกับบรรดาผู้ที่มิได้ต่อต้านพวกเจ้าในเรื่องศาสนา และพวกเขามิได้ขับไล่พวกเจ้าออกจากบ้านเรือนของพวกเจ้าในการที่พวกเจ้าจะทำความดีแก่พวกเขา และให้ความยุติธรรมแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักผู้ที่มีความยุติธรรม ( อัลมุมตะหะนะฮฺ : 8 )
และตัวอย่างส่วนหนึ่งจากความดีงามของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับชาวยิว อาทิ ...
5.1 ท่านไปเยี่ยมเยียนชาวยิวที่เจ็บป่วย อัล-บุคอรีได้รายงาน (หมายเลข 1356) จากอนัส บิน มาลิก เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮู กล่าวว่า
ความว่า แท้จริงมีเด็กชาวยิวเคยรับใช้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ล้มป่วย ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม มาเยี่ยมเขา โดยที่ท่านได้นั่งใกล้ศีรษะของเขาแล้วกล่าวว่า จงเข้ารับอิสลามเถิด จากนั้นเขาได้มองไปยังพ่อของเขา (เพื่อขอความคิดเห็น) พ่อของเขากล่าวว่า จงเชื่อฟังอบุลกอสิม ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม แล้วเขาก็รับอิสลาม ต่อจากนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เดินออกมาแล้วกล่าวว่า อัลฮัมดุลิลลาฮฺ ผู้ที่ทำให้เขารอดพ้นจากไฟนรก
5.2 ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม รับของกำนัลจากพวกยิว มีรายงานจาก อัลบุคอรี (หมายเลข 2617) และมุสลิม (หมายเลข 2190) จากอนัส บิน มาลิก เราะฏิยัลลอฮุ อันฮู กล่าวว่า
ความว่า แท้จริงมีผู้หญิงชาวยิวคนหนึ่ง ได้นำเนื้อแพะใส่ยาพิษมาให้แก่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จากนั้นท่านก็รับมันไปรับประทาน
5.3 ท่านได้ให้อภัยต่อการกระทำที่ชั่วช้าของพวกเขา เนื่องจากท่านได้ห้ามการฆ่าผู้หญิงคนดังกล่าวที่ใส่ยาพิษในเนื้อแพะเพื่อพยายามจะฆ่าท่าน ซึ่งมีระบุต่อจากหะดีษที่ผ่านมาว่า
ความว่า นางถูกนำมาหาท่านเราะสูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้ถามนางถึงเรื่องดังกล่าว นางตอบว่า ฉันต้องการที่จะฆ่าท่าน ท่านเราะสูลกล่าวว่า อัลลอฮฺไม่ต้องการทำให้เธอมีชัยในเรื่องนี้ บรรดาเศาะฮาบะฮฺกล่าวว่า ให้เราฆ่านางได้หรือไม่? ท่านเราะสูลกล่าวว่า : ไม่.
ยิ่งกว่านั้นจากหะดีษอะบีฮุร็อยเราะฮฺ ในเศาะฮีหฺอัลบุคอรี (หมายเลข 3169) แท้จริงเรื่องดังกล่าวเป็นการรู้เห็นของชาวยิวและพวกเขาเองก็ยอมรับถึงความพยายามที่จะฆ่าท่านเราะสูลด้วยกับยาพิษ แต่ทั้งนี้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ไม่ได้สั่งให้แก้แค้นแทนตัวของท่านเอง แต่ท่านได้มีคำสั่งให้ฆ่านางหลังจากที่เศาะฮะบะฮฺท่านหนึ่งได้เสียชีวิตเนื่องจากเขากินแพะอาบยาพิษพร้อมกับท่าน เศาะฮะบะฮฺผู้นั้นคือ บิชร์ อิบนิ อัลบะรออฺ เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮุ
และทำนองเดียวกันเมื่อ ละบีด อิบนิ อัลอะศ็อม เป็นชาวยิวได้ทำไสยศาสตร์กับท่านนบีและอัลลอฮฺทรงปกป้องท่านให้รอดพ้นจากไสยศาสตร์ ท่านไม่ได้แก้แค้นและไม่ได้สั่งให้ฆ่าเขาแต่ประการใด ยิ่งกว่านั้นยังมีปรากฏในสุนันอัลนะสาอียฺ (หมายเลข 4050) และรับรองความถูกต้องโดยเชคอัล-อัลบานีย์ จากเซด อิบนิ อัรกอม กล่าวว่า ท่านไม่ได้กล่าวเช่นนั้นกับยิว และไม่ได้เห็นสิ่งใดบนใบหน้าของท่านเลย
5.4 ปรากฏว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เคยทำธุรกรรมทางการเงิน (ค้าขาย) กับชาวยิวและท่านรักษาสัญญาในการคบค้าสมาคมกับพวกเขา จากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อุมัร เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮุมา กล่าวว่า
ความว่า ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ให้ชาวยิวทำการเพาะปลูกในแผ่นดินคอยบัร โดยการแบ่งปันผลผลิตที่ได้จากการเพาะปลูก (บันทึกโดย อัลบุคอรี หมายเลข 2165, และมุสลิม หมายเลข 1551)
และจากอาอิชะฮฺ เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮา กล่าวว่า
ความว่า ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ซื้ออาหารจากชาวยิวโดยการใช้เครดิตแล้วเอาเสื้อเกราะประกันไว้ (บันทึกโดยอัลบุคอรี หมายเลข 1990, และมุสลิม หมายเลข 1603)
5.5 ในตอนแรกของการเดินทางมายังเมืองมะดีนะฮฺ ท่านนบีเห็นพ้องกับการกระทำและจารีตประเพณีของชาวยิว เป็นการสร้างสัมพันธไมตรีต่อหัวใจของพวกเขาเพื่อเชิญชวนพวกเขาสู่อิสลาม แต่หลังจากที่ท่านเห็นว่าพวกเขามีความดื้อดึง ต่อต้าน และยโสโอหัง ท่านมีคำสั่งให้ปฏิบัติที่แตกต่างและห้ามต่อการเลียนแบบพวกเขา จากอิบนิ อับบาส เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮุมา กล่าวว่า
ความว่า แท้จริงท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ปล่อยผมในขณะที่พวกมุชริกแยกผมโดยที่ชาวคัมภีร์ (ยิว คริสต์) ได้ปล่อยผม และปรากฏว่าท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ชอบที่จะเห็นพ้องกับชาวคัมภีร์ ในสิ่งที่อัลลอฮฺไม่สั่งใช้แต่ประการใด ต่อจากนั้นท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้หวีผมแยก บันทึกโดยอัล-บุคอรี (หมายเลข 3728) และมุสลิม (หมายเลข 2336)
6. เวลาสนทนาโต้ตอบกับพวกยิวท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมไม่แสดงตนว่ามีความสูงส่ง แต่ท่านกลับมีความนอบน้อม อ่อนโยน ไม่กดขี่ ข่มเหงต่อพวกเขา ตอบคำถามของพวกเขาถึงแม้ว่าพวกเขาถามเป้าหมายเพื่อการยั่วยุหรือพิพาทโต้เถียง
ความว่า จากอิบนิ มัสอูด เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ระหว่างที่ฉันได้เดินพร้อมกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่สวนแห่งหนึ่ง ในขณะที่ท่านนอนตะแคงบนทางของต้นอินทผลัม ทันใดนั้น มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา บางส่วนของพวกเขาก็กล่าวว่า "จงถามเขาดูเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ" พวกเขาบางคนกล่าวว่า "พวกท่านสงสัยสิ่งใดในตัวของเขาอีก เขาจะไม่ต้อนรับพวกท่านด้วยสิ่งที่พวกท่านไม่ชอบแน่" บางคนก็ตอบกลับไปว่า "จงไปถามเขาซะ" แล้วกลุ่มหนึ่งจากพวกเขาได้ลุกขึ้นไปถามท่านถึงเรื่องวิญญาณ อิบนุมัสอูดเล่าว่า
ดังนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เงียบเฉยไม่ตอบโต้แต่ประการใด ฉันรู้ว่าวะฮฺยูกำลังถูกประทานมายังท่าน อิบนุมัสอูด เล่าต่อว่า ฉันได้ลุกขึ้นออกจากที่ที่ฉันยืน ดังนั้นอัลลอฮฺจึงประทานโองการลงมาว่า
ความว่า และพวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับวิญญาณ จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) เรื่องวิญญาณนั้นเป็นเรื่องของพระผู้อภิบาลของฉัน และพวกเจ้าจะไม่ได้รับความรู้อันใด นอกจากแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (บันทึกโดยอัล-บุคอรี หมายเลข 4444, และมุสลิม หมายเลข 2794)