๑. สัทธรรมนิยามสูตรที่ ๑
[๑๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ
แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควรเพื่อหยั่งลงสู่นิยาม
คือ ความถูกในกุศลธรรมธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
บุคคลย่อมพูดมาก ๑
พูดคำพูดที่ผู้อื่นพูดแล้วมาก ๑
พูดปรารภตน ๑
เป็นผู้มีจิตฟุ้งซ่านฟังธรรม ๑
เป็นผู้มีจิตไม่แน่วแน่มนสิการโดยอุบายไม่แยบคาย ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม๕ ประการนี้แล
๒. สัทธรรมนิยามสูตรที่ ๒
[๑๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ
แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควรเพื่อหยั่งลงสู่นิยาม
คือ ความถูกในกุศลธรรมธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
บุคคลย่อมพูดมาก ๑
พูดคำพูดที่ผู้อื่นพูดแล้วมาก ๑
พูดปรารภตน ๑
เป็นผู้มีปัญญาทราม โง่เง่า ๑
เป็นผู้มีความถือตัวว่าเข้าใจในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล
แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควรเพื่อหยั่งลงสู่นิยาม
คือ ความถูกในกุศลธรรม ฯ
...............
๓. สัทธรรมนิยามสูตรที่ ๓
[๑๕๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ
แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควรเพื่อหยั่งลงสู่นิยาม
คือ ความถูกในกุศลธรรม ธรรม๕ ประการเป็นไฉน คือ
บุคคลเป็นผู้ลบหลู่คุณท่านฟังธรรม ๑
เป็นผู้อันความลบหลู่ครอบงำ มีจิตแข่งดีฟังธรรม ๑
เป็นผู้แสวงโทษ มีจิตกระทบในผู้แสดงธรรม มีจิตกระด้าง ๑
เป็นผู้มีปัญญาทราม โง่เง่า ๑
เป็นผู้มีความถือตัวว่าเข้าใจในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล
แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควรเพื่อหยั่งลงสู่นิยาม คือ ความถูกในกุศลธรรม ฯ
..................