เอาล่ะ คราวนี้ ค่อยน่ารักขึ้นมานิดหนึ่ง..นะดิแอ๊ค เริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น นิดนึง คือไม่กวน ไม่เกรียนอย่างเดียว แต่ เริ่ม ใช้คำว่า..."พอเข้าใจ ..แต่ยังสงสัย." .....อะไรประมาณนั้น...
ก็โอเค แสดงว่า พอฟังภาษาคนรู้เรื่องเข้าบ้างแล้วล่ะ.....
ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะยอมเปลืองเวลา ไปกับคุณอีกสักเล็กน้อย (หวังว่า ระนาดเอก จะไม่เข้ามาชกเบ้าตาคุณนะ โทษฐาน ทำให้เสียเวลาตอบ ปัญหาติ๊งต้อง ที่เขาถามน่ะ ..... ไปเคลียร์กันเอาเองเถอะ)
คุณได้ถามผม 2 ประการ ผมก็จะตอบ 2 ประการ
คุณถามาว่า.....คุณรถเรณูอาศัยฐานะอะไร ที่กระทำ 2 ประการนี้ (สองประการนั้นเป็นไฉน สองประการนั้น คือ....)
ประการที่ 1. การด่า ซึ่งเราทราบว่าเป็นการผิดศีลของฆราวาส (เบญจศีล)
ตอบเป็นข้อย่อย ๆ นะครับ...
ทก่อนอื่น ผมคิดว่า คุณดิแอ๊ค มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้อง กลับไปศึกษา คำว่า "ผิดศีล" เสียใหม่ และอย่าลืม ศึกษา คำว่า ศีลด่างพร้อย ศีลทะลุ ฯลฯ ตามสมควรแก่การ ที่คุณ ควรจะศึกษาเพิ่มเติม
การทำผิดศีล ในความหมายของคนไทย ก็คือ การ ละมิดศีล ให้ขาดไป ตามที่บัญญัติ เช่น....
1. ฆ่าสัตว์ ให้ตายตกล่วงไป
2. ลักทรัพย์ จนสำเร็จ หรือฉ้อโกง ยักยอก จนสำเร็จ
3. ประพฤติผิดในกาม คือผิดลูกผิดเมีย (ตามคำไทย ผู้อื่น ที่มีพ่อแม่ พี่น้องชาย หรือมีเจ้าของ หรือมีผู้หวงห้าม)
4. พูดเท็จ อันก่อให้เกิดผลเสียหาย
5. ดื่มสุราเมรัย ฯลฯ
ในข้อนี้ คุณอาจจะหมายเอาข้อที่ 4 เท่านั้น .....ดังนั้นเรามา วิเคราะห์กันว่า ..ผม รถเรณู พูดเท็จ ตรงไหน?
- ผมกล่าวว่า นายและนางชั่ว เหล่านั้น ยังเป็นผู้เสพกามอยู่ แลอะาจจะยังเผลอสติ ร้องครวญคราง บนเตียงอยู่กับ ภรรยา/สามี ฯลฯ
ที่ผมพยายามพูดสื่อให้เห็นภาพว่า "สารรูป ที่เป็นฆราวาสที่เสพกามอยู่ แต่ไม่ สำเหนียก ประมาณตน กล้าที่จะใช้วาจาสามหาว ไปชี้ว่า พระมหาเถระ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในบวรพุทธศาสนา เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ นั้น......
มีคำไหน ของผม ที่เป็น มุสาวาทบ้าง ครับ คุณดิแอ๊ค ?
คือมีคำไหนบ้างที่ "ไม่จริง" เช่น
1. นายและนางนั้น ไม่เคยเสพกาม หรือ? หากพิสูจน์ได้ ก็แน่นอนล่ะ ผมคงจะผิดศีลข้อนี้ ผมก็จะยอมรับ
2. นายและนางนั้น ไม่เคยร้องครวญคราง ในขณะเผลอสติตอนเสพกามนั้น ? หากพิสูจได้ ผมก็จะยอมรับล่ะ
ดังนั้น รบกวน คุณดิแอ๊ค ได้โปรด พยายาม ไปหาสองคนนั่นมายืนยัน พร้อมแสดงหลักฐาน ประกอบ อันน่าเชื่อถือได้ ด้วยนะครับ
หวังว่า คงพอจะเข้าใจ กับคำตอบนะครับ คุณดิ แอ๊ค....
แต่หากยังยืนยัน อะไรไม่ได้ หรือยังเหนียมอาย ที่จะยืนยัน ที่หลัง ก็อย่าได้มา พูดว่าผมได้ล่วงละเมิด ผิดศีล อีก เป็นอันขาด นะ ไอ้น้อง..โอเค๊....
...............................................................
บรรทัดต่อไป ถามประมาณว่า.....โดยเฉพาะอย่างยิ่งการด่าผู้หญิงด้วยคำที่รุนแรงเกินกว่าสังคมจะรับได้เช่นนี้
คำพูดแบบที่ผมพูด เขาเรียกว่า คำติติง คำประนาม คนทำความชั่ว ต่างหากเล่า ดิแอ๊ค ไม่ใช่คำด่าเลยนะ หนู
และแต่ละคำ เช่นคำว่า เสพกาม ก็เป็นคำหยาบคายซะที่ไหนเล่าครับ !!!
มันยัง เป็นคำที่แม้แต่พระก็ ยังสามารถเอามาพูดในเวลา ท่านแสดงพระธรรมเทศนาได้เลยนะ หนังสือต่าง ๆ ก็ยังเขียนได้ และที่สำคัญ ในคัมภีร์ ในพระไตรปิฎกเองนั่นแหล่ะ มีเกร่อไป ทั้งเสพกาม เสพเมถุน (ยังดีนะที่ผมไม่ใช้คำว่าเสพเมถุน ไม่งั้น พวกดัดจริต อย่างคุณ และพวก ก็คงร้อง กรี๊ด ๆๆๆ ชักดิ้น ชักงอ งอก่อ งอขิง ตายอีก แน่นอน)
แม้แต่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทรงเคยใช้คำต่าง ๆ ที่สังคม "แบบที่คุณพยายามดัดจริต ว่า "รับไม่ได้" นั่นแหล่ะ" มาแล้ว เช่น...
ดูก่อน โมฆบุรุษ ผู้กระทำกรรมอันลามก ฯลฯ ประมาณนี้ ๆ และพระองค์ ทรงใช้ คำว่า "องคชาติ" และ "โยนิ หรือ โยนี" ตรง ๆ ในหลายที่หลายแห่ง ในพระไตรปิฎก ลองไปค้นกันเอาเอง
คำเหล่านี้ หากผมใช้บ้าง คุณคงบอกว่า (อย่างพยายามดัดจริต) ว่า ." ..โอย เกินกว่าสังคม "อย่างกลุ่มพวกคุณ จะยอมรับได้" กระมัง ?"
คิดดูให้ดี ๆ นาครับ ดิแอ๊ค....ว่า ตกลง คำติเตียน และประนามคนชั่ว คำไหน ของผม ที่เป็นคำหยาบ ล่ะหือ ?
(ส่วนของคูณ ที่พูดว่า ท่อนนั้น สอดเข้าไป และพูดถึงภรรยาผมนั้น ผมยังไม่สนใจจะบอกว่าหยาบหรือไม่หยาบเลย คุณเองรู้อยู่แก่ใจ ว่า เขวี้ยงงู ไม่พ้นคอ.....อันตรายนะ ดิแอ๊ค....งูแว้งกลับมากัดคอ ตายแหง๊ก ๆ มาเยอะแล้วนะ ไอ้น้อง) หากไม่ดัดจริตเกินไป คุณ ก็คงรู้ดี ว่า คำของคุณนั้น มันก็หยาบหรือไม่หยาบ ในสังคมดัดจริต อย่างพวกคุณ
ผมถามจริง ๆ นะ ดิแอ๊ค ผมได้เคยใช้ คำว่า "องคชาติ" "องค์กำเนิด" หรือคำว่า คำว่า "โยนี" กับนายและนางสองคนนั้นไหม ? ก็ไม่เคยนะ ใช่ไหม ?
หากคุณบอกว่า สองคำนี้ ไม่หยาบ ในภาษาไทย ในสังคมเรายังยอมรับได้...และเพราะในพระไตรปิฎก ก็ใช้ บลา บลา บลา ...
ถ้างั้น ไหนลอง เอาคำสองคำนี้ เข้าไปเพิ่ม ในประโยคที่ผมพูดถึงดู สักหน่อยปะไร......เอ้า ลองดูนะ ดิแอ๊ค ลอง จำลองคำพูด เรื่องการเสพกาม ที่ผมพูดถึง สองคนนั้น (ซึ่งเป็นคำ ในพระไตรปิฎกทั้งนั้น) แล้ว เติมสองคำนั้นลงไป
นี่ ตกลงว่า คำต่าง ๆ ที่ใช้ในคัมภีร์ศาสนาพุทธ กลายเป็นคำหยาบคาย เป็นคำด่าไปแล้วเชียวหรือ "เจ้าพวกดัดจริต"
เอาล่ะ หากคุณกำลัง ดิ้น เพราะคำว่า ดัดจริต น่ะเป็นคำด่าแน่ ๆ...ก็แล้วแต่คุณ จะเห็นสมควรแล้วล่ะครับ (คำประเภทนี้ ผมขอสงวนสิทธิ์ ที่จะยังไม่โต้แย้ง ในเวลานี้ แต่จะรักษาสิทธิ์ ที่จะโต้แย้ง ในโอกาส ต่อไป ก็แล้วกัน)
....................................................................
คุณพยายาม ถามและติติงผมต่อไปว่า.....
.... อีกทั้งการทำผิดศีลด้วยการที่เรายึดมั่นในตัวบุคคล คือยอมผิดศีลเพราะรักครูบาอาจารย์ แบบนี้เรียกว่าสมควรหรือไม่ครับ ไม่ว่าคุณเอิงเอยจะิผิดหรือถูก ก็ต้องด่าให้ได้หรือครับ....
ตอบ / แก้ ข้อกล่าวหาวา........ผมไม่เคยยึดมั่นว่าใครเป็นอาจารย์ แล้วเอามาเป็นเหตุ ให้ต้อง "ติติง ตักเตือน และประนาม" คนชั่ว หรอกนะครับ
หากแม้นว่า นายและนาง สองคนนั่น ไม่ได้ด่าพระมหาเถระ รูปนั้น แต่ไพล่กลับมาด่า พระเถระรูปอื่น เช่น สมเด็จพระสังฆราช หรือ พระมหาเถระรูปอื่น ๆ ผมก็จะใช้คำพูดแบบเดียวกัน ในการ ติติง และประนาม คนเหล่านั้น ด้วยเช่นกัน.......
หวังว่าคงเข้าใจ ได้ดีขึ้นนะครับ คุณ ดิแอ๊ค
แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 55 00:52:44