|
| แค่มองธุรกิจนี้ก็เหนื่อยแล้วครับ คู่แข่งเยอะมาก ตั้งแต่ระดับแก้วสิบกว่าบาท ยันหลักร้อย(ที่ต้องลงทุนสูง เสี่ยงเจ๊งสูง)
ลองมองหาอะไรที่มันยังมีช่องว่าง คู่แข่งน้อยๆสิครับ
ร้านกาแฟ เป็นธุรกิจที่ผมไม่เคยมองเลย
ขายกาแฟลงทุนเยอะ ผมไปขายโจ๊กดีกว่า ข้าวกิโลนึง ขายได้กำไรเป็นพัน% | | | | | |
| ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วผมขออธิบายมุมมองเพิ่มอีกนิดนะครับ ในฐานะคนที่เคยเลือกจะเปิดร้านกาแฟมาก่อน ^^"
มุมมองคุณ อมยิ้มไม่หวาน ว่ามาก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ ขยายความกฎสุดยอด 20:80 นะครับ
ถ้าคุณเลือกสินค้าที่คนส่วนใหญ่(มากๆ)ต้องการ ก็จะเข้ากฎคร่าวๆ คือ คน 80: กำไรมูลค่า 20 ครับ
หมายความว่า เมื่อทำสินค้าขายเหมือนกัน แต่ของที่คนทั่วๆ ไปมองเห็น เราไม่สามารถเพิ่ม กำไร จากมูลค่าของเราได้มากครับ เช่น ขายตามสั่ง ถ้าคุณจะขายทั่วๆไป กำไรต่อจานมันไม่สามารถบวกได้มาก เนื้องานก็จะเป็น ทำงาน 80% เพื่อรายได้ 20% จากเนื้องาน
ซึ่งตรงนี้จะกลับกัน ถ้าคนที่เราเลือกแบบมีคุณค่า(ลูกค้าชั้นดี) : เราก็สามารถเพิ่มคุณค่ากำไรในสินค้าเราได้มากเช่นกัน เช่น คนต้องการรถเบนซ์ : กำไรรถเบนซ์ต่อคันมันเลยสูงกว่ารถธรรมดามากไงครับ *** จุดยากคือ คุณเข้าใจ คุณค่า ในมุมของลูกค้าหรือเปล่าครับ
ผมยกมาเป็นตัวอย่างของการตลาดแบบสมัยใหม่นะครับ ที่เน้นลูกค้าระดับกลางถึงบน เพราะกลุ่มนี้จะมีพลังในการจับจ่ายตามความพอใจสูง ตัวอย่างง่ายๆ เศรษฐกิจแย่แค่ไหน รถเบนซ์ก็ยังขายดี ไงครับ ^^
และในธุรกิจกาแฟสด มันมี hidden agenda อีกเยอะครับ เยอะในแบบที่เราแบ่งความต่างได้ เมื่อเทียบร้านกาแฟสดข้างทาง หรือ กาแฟสดแบบมีคุณภาพนะครับ
มุมสุดท้าย ผมอยากเหนื่อย 20 ส่วน เพื่อรายได้ 80 ส่วนครับ เอิ้กๆ
*** หมายเหตุ ทุกอย่างที่เล่ามาเป็นไปเพื่อการอธิบายให้เข้าใจแบบให้เห็นภาพเท่านั้น ไม่ได้เน้นรายละเอียดแบบถูกต้องเป๊ะๆ หรือปลีกย่อยที่แตกต่างครับ (โปรดอย่าดราม่าในรายละเอียดนะครับ )
จากคุณ |
:
SundayroyaL
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ธ.ค. 53 02:37:53
|
|
|
|
|