ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนเริ่ม รายการก็ มีการซักซ้อมนั่งคุยกฏกติกากันก่อน จากเดิม เราเสนอ เงื่อนไขให้เค้าทำสองอย่าง คือ 1 ปิดตาด้วยแว่นว่ายน้ำที่ซีลสนิท ให้อ่านหนังสือ   แต่อันนี้ บอกตามตรง ว่าแอบนึกในใจว่า คงมีข้ออ้าง และข้อโต้แย้งกันได้มากมาย จากที่เคยต่อรองกันมาหลายครั้ง เช่นซีลไม่สนิท หรือ รัดแน่นเด็กบอกเจ็บไรพวกนั้น กับ 2 ซึ่งเป็นอันที่ผมคิดว่า น่าจะ มีปัญหาถกเถึยงน้อยที่สุด และ มีทริค ที่จะแอบโดนเค้าใช้เล่นน้อย และค่อนข้างมั่นใจ  ว่าเราควบคุมได้  น่าจะเป็นกลาง และข้ออ้างต น่าจะน้อย(แต่กลับคิดผิดไปเหมือนกันแฮะ )  ก็คือ การให้คลำ ทายสีลูกปัด เหมือนที่เค้าเคยเล่น ในทีวี รายการอื่น  มาแล้ว สำหรับการทายสีลูกปัดในถุงนี่ ให้อิสระเต็มที่ จะเปิดตา ปิดตาด้วยผ้าที่เค้าถนัดหรือ จะปิดด้วยอะไรก็ได้ ตามสะดวกเพราะว่า อยู่ในถุงปิด ที่เราควบคุมตรวจสอบได้ หรือ แม้แต่ไม่ปิด ก็ยินดีให้เปิดตาคลำ ได้ ขออย่างเดียว อย่าเอาออกมานอกถุง หรือใกล้ปากถุงจนอาจจะมองผ่านได้  (ดังนั้นที่ บอกว่ามีน้องบางคน บอกว่าทำไมได้เพราะว่า Goggle บีบ น่าจะไม่ใข่ เพราะว่า น้องส่วนใหญ่ใช้ผ้า ปิดตา มีแต่บางคนใช้ผ้า แล้วไม่ผ่านขอลองแว่นปิด เอง เผื่อสมาธิจะดีขึ้นก็จัดให้ เค้าทำเอง ตามชอบ ไม่ควบคุมเลย ตรงนี้ กติกา ตอนแรก ที่เสนอไปคือ ถ้าทำถูกสองอย่าง ถือว่า เค้าผ่านการทดสอบเป็นของจริง ผมให้การสนับสนุนค่าขนมน้องๆ 1 แสนบาท (และเค้าฝากให้ ช่วยมาบอก ในเน็ตด้วยว่าถ้าเค้าทำได้ ว่าเค้าคือของจริง ซึ่งผมก็รับปาก ว่าถ้าทำได้ยินดี) แต่ เมื่อ วันก่อน ผมบอก เนื่องจาก ผมเองอยากให้เค้า แสดงออกมาได้หลากหลาย หลายอย่าง เพื่อให้เราได้พิสูจน์เพิ่ม ว่าตรงไหนคือจุด ที่คนดำเนินการรายการก่อนๆเคยพลาดมาแล้ว เราจะอุดมันได้มั้ย วันก่อนไป ก็เลยเปิดให้เค้า เลือกเล่น ปิดตาด้วยแว่นซีล  เล่น รูบิก เพิ่ม จากการอ่านหนังสือ อีกก็ได้ ซึ่งอันนี้ เป็นการเสนอ เพิ่มทางเลือกให้เค้า ทดลองเพิ่มเปิดโอกาสให้เค้าเพิ่ม เช่นพลาดจากการอ่านหนังสือ ทำอันนี้แทนได้ ก็ให้ นับให้ เหมือนกัน แต่ที่สำคัญ ตรงทายสีลูกปัด ซึ่งมันน่าจะมีปัญหาน้อย และถกเถียงกันน้อยที่สุด  และ ป้องกันทริค จากหลายอย่างได้ ดีที่สุดเนี่ย ต้องขอให้ผ่านเหมือนเดิม ถึงจะนับว่าผ่านการทดสอบ แต่เดิม ข้อเสนอเรื่องการทายสีลูกปัด ผมเสนอไปให้เค้า ก็คือ  จะใช้ ลูกปัด ลูกละสี    10 ลูก   แล้วให้หยิบทาย ให้ถูกติดต่อกัน 5 ครั้ง (ทายถูกชักออกไป ) โดยถ้าเปิดตา  เราจะมีสีตัวอย่างให้เลือกชี้ เทียบได้  หรือจะบอกสี ออกมาก็ได้แล้วแต่ถนัด  ซึ่งถ้าน้อง คลำแล้ว มองเห็นเป็นสีได้จริง ก็เหมือนคนทั่วไป ที่มองเห็น ก็หญิบมาเทียบ หรือ บอกสีได้ถูกแน่นอน ร้อยเปอร์เซนต์ ไม่ว่าจะกี่ครั้ง แต่ถ้าจะเดาสุ่มแบบหวังฟลุ้ค อันนั้น ความน่าจะเป็น ที่จะถูก ก็คือ 1/10 X 1/9 X 1/8 X 1/7 X 1/6  หรือ เท่ากับ 1/30240 ซึ่งยากมากๆ  ดังนั้น ถ้าควบคุมเรื่องการทำตำหนิ ที่ลูกปัด  และ การแอบมองผ่านเข้าไปในถุงได้ ก็ต้องยอมรับ ว่าของจริง แต่พอดีวันนี้ ลูกปัดที่เราเตรียมไป มีแค่ 8 สี  ก็เลย ใจดี ลดให้เค้า เหลือ แค่ 8 สี  แปดลูก  ก็เพิ่มโอกาส ความน่าจะเป็น ให้ง่ายขึ้นเป็น 1/8 X 1/7 X 1/6 X 1/5 X 1/4 หรือ เท่ากับ 1/6720 ง่ายขึ้นอีกเยอะ ซึ่งหลังจากคุณตัน เค้าดูตัวอย่างลูกปัดแล้ว และเงื่อนไข แล้ว เราเจอลูกบลัฟ เล็กๆจากคุณตัน ว่า  "โอเค อย่างนี้ จิ๊บจ๊อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เด็กเค้าทำได้แน่นอน ฝึกกันมา แล้ว ทำได้สบายมาก ลูกเล็กกว่านี้ ก็ทำได้ ใหญ่ๆอย่างที่เราเอาไปให้เค้า  สบายๆๆ จิ๊บจ๊อย"  เล่นเอาน้องๆ ที่ไปด้วยกับผมเครียดเลย ว่า เค้ามาไม้ไหน แต่ผมเองยัง เชื่อมั่น กับอุปกรณ์ ที่เตรียมไป ว่า ไม่มีตำหนิ ให้เล่นทริค เลยไม่หมอบหนี ขอ ลงไต๋ ขอดู ไม่หมอบหนี แต่ ก่อน เริ่ม ทดสอบ ทางเค้าติ นิด ว่า สีแดง กับ สีชมภู มันคล้ายกัน เด็กอาจจะสับสน เราอธิบาย ว่า จริงๆ แล้วมีตัวอย่างข้างนอก ที่สีเหมือนกัน วางไว้ให้เทียบชี้ เลยก็ได้ ว่าลูกไหนที่เค้าเห็น  แต่เมื่อ เค้าก็ยัง เกรงเรื่องสับสนระหว่าง แดงกับ ชมพู ขอตัดสี ชมพูออกไป  ผมคำนวน ความน่าจะเป็นในการเดา มันลดฮวบลงมาอีก เหลือ 1/7 X 1/6 X 1/5 X 1/4 X 1/3 หรือ = 1/2520 ต่อการทายแต่ล่ะครั้งให้ถูกติดต่อกัน ห้าครั้ง  น้อยกว่าเดิม เลยที่คิดไว้ สิบกว่าเท่า แต่ ดูแล้ว มันก็ยัง ยากต่อการเดา จนไม่น่าจะฟลุ้คได้ ง่ายๆ ก็ยอม เอา ตัดเหลือ 7 สี (เหลือ สีที่ใช้ ในการทายคือ ม่วง เหลือง แดง ขาว เหลือง น้ำเงิน ฟ้า (ซึ่งสีห่างจากน้ำเงินมากๆๆ)  ซึ่งเค้าก็ แฮ้ปปี้ บอกโอเค สีชัดๆ แบบแม่สีอย่างนี้ สบาย หมดปัญหา ใช้เรียกบอกสีเลยก็ได้ ก็โอเค ตกลงกันตามนี้ พอจะเริ่มภารกิจแรก ด้วยการปิดตาด้วยแว่นว่ายน้ำ ที่ผมซีลไว้แล้ว เพื่อเล่นรูบิค โดยน้องเควินลูกชายคุณดา เจ้าของ PMC พอปิดด้วยแว่นกันน้ำที่ผมซีลสนิท พอลองแล้ว น้องบอกเจ็บ รัดแน่นไป ให้ขยายออกจนหลวม พอแว่นหลวมมาก(จนสายรัดมันหย่อนแล้ว ก็เกิดช่องว่างผม ก็ขอขยับแน่นขึ้นอีกนิด แต่ไม่แน่นมากคือรัดแค่พอสายตึงๆ แล้วจัดตำแหน่งจนเห็นว่าโอเค ก็จะให้เริ่ม พอน้องเตรียมตัว จะบิด น้องเค้าหน้า แบบขยับยักคิ้ว ย่นคิ้ว และตา จมูกไปมา จนผมเห็นว่ามีช่องโหว่ที่ข้างจมูกตรงหัวตา ให้เห็น ผมเลยบอกขอหยุด และ บอกว่า ถ้าขยับอย่างนี้ มันเห็นช่องรอด อ่ะ ขอให้ไม่ขยับได้มั้ย เค้าบอกว่าไมได้ เด็กต้อง ขยับเพื่อหาคลื่นของเค้า ถึงมีช่องเด็กก็ไม่ดูตามนั้นหรอก  ผมเลยบอกว่า ถ้ามีช่องให้เห็นอย่างนี้  เด็กจะดูหรือ ไม่ ก็ตาม คงใช้ไมได้ แล้ว เพราะว่า ถ้าทำได้ ผมเอง คิดว่ามันมองลอดช่องอยู่ดี งั้นขอผ่านอันนี้ ไปดีกว่า ไม่ต้องบิดแล้ว ซึ่ง ก็คงรวมไปถึงการอ่านหนังสือ ด้วย เงื่อนไขเดียวกัน (อันนี้คือหนึ่งในเงื่อนไข ที่เค้าเคยต่อรองกับเรารอบก่อน ตอนจะใช้แว่น ว่า ขอผ้าปิดทับหรือ รองล่าง ซึ่งเราคิดว่ามันทำให้เรามองเห็นแว่นเราได้ไม่ชัด และไม่ยอม รับ ) ระหว่างที่คุยกันนั้นเค้าบอกน้องมีกันหลายคน ความสามารถหลายแบบ เก่งไปคนล่ะทาง ทำได้หลายๆ แบบ ทางเราอยากเห็น อยู่แล้ว จัดให้เป็นตัวเลือกเพิ่มให้กับเค้า อีก ถ้าทำได้ นับ แทนอันข้างบนได้ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 03:50:00

ความคิดเห็นที่ 2 ในที่สุดผมก็เสนอ การทดสอบอีกอันที เค้าเคยแสดง และ เราดูจากเทปแล้ว คิดว่าทราบช่องโหว่ตรงนั้น และ ผมคิดว่า เราน่าจะควบคุมปิดช่องโหว่ จากการมองได้ คือ การทายไพ่ ที่เค้าประกบหน้าหลัง เหมือนที่ เล่นออกรายการคุณไตรภพ แล้ว น้องทายถูก  แต่เราพวกเราดูจากเทป เราเห็นว่าน้องแง้มไพ่ เราคิดว่า น้องอาจจะเห็นรอดจากช่องนั้น แต่ เค้าก็คงจะบอกว่า แง้มอ้าเพื่อดม ซึ่งจากการพูดคุย ก็จริงตามนั้น  เค้ารับว่าเด็กต้องอ้า เพื่อให้ดมกลิ่นได้ ดังนั้น อันนึ้ผมก็นึกแก้เกมส์ไว้ โดยยังไม่ปิดเงื่อนไขของเค้า  ตอนแรกน้องๆ บางคนที่ไปด้วยเสนอว่าไพ่ ที่จะให้ทายควรซีลด้วยเทปกันแอบดู แต่ถ้าทำอย่างนั้น เค้าคงจะไม่ยอม หรือ บอกว่า กลิ่นมันออกมาไม่ได้  ดังนั้น ผมจึงใช้ แม็กซ์เย็บเหมือนกันแต่บอกกับเค้าก่อนเลย ว่าผมไม่เย็บเหมือน รายการก่อนนะ เพราะว่า เราเชื่อของเราว่า การที่เด็กทายได้ เด็กอาจจะเห็นเลขโผล่ที่มุมไพ่ ตอนแง้มดม แล้ว เด็กเองอาจจะเข้าใจผิดคิดว่า ภาพที่เห็น นั่นมาจากการได้กลิ่น ดังนั้นการแม็กซ์ของผม ผมเน้นแม็กซ๊ที่มุมสองด้านนอกตัวเลข ให้ออกมาหมิ่นจนพ้นตัวเลขออกมา(แง้มมุมถ้าไม่งัดจนแม็กซ์หลุดจะไม่เห็นตัวเลข ) ส่วนด้านบน และล่าง ด้านแคบนั่น แม็กซ์เพิ่มด้านละ 1 ตัว และด้านยาว แม็กซ์ เพิ่มด้านล่ะสองตัว (ตามรูป) เพื่อ ไม่ให้อ้ามากจนมองเห็นดอกข้างในเวลาแง้ม  แต่ว่า มีช่องที่เหลือเปิดไว้ให้กลิ่นรอดออกมาให้ดมได้มาก พอ และ แม้จะแง้มได้ มันจะไม่เห็นดอก เห็นสี อยู่ดี  และเนื่องจากมั่นใจการเย็บ ที่ทดสอบดูเองแล้ว ว่าแง้มไม่เห็นเลขดังนั้น เปิดทางเลือก ให้น้องเค้าว่า อยากจะใช้อะไรปิดตา หรือ อะไรก็ได้ ซึ่งน้องเค้าก็เลือกจะใช้ผ้าปิดตาของโรงเรียน ซึ่งเราเอง คิดว่า มันมองลอดได้   แต่งานนี้เราก็กลัวให้เค้าเล่นได้ตามถนัด แค่อย่าแกะแม็กซ์หลุด ดมได้เต็มที่ และ แถมเพิ่มให้ว่า จะเลีย จะ ถูหัว หรือ อะไรก็ได้ เหมือนที่เห็นเค้าเคยแสดง ปล่อยให้ใช้ได้ทุกสัมผัส  ตามแต่สะดวก แต่เค้าบอกว่า เด็กคนนี้ถนัดแต่ดม ก็เอา ดมก็ดม อันนี้ คือ รูปไพ่ตัวอย่างที่ผมแม็กซ์ไว้ เต็มที่ตามนี้ บางอัน น้อยกว่านี้เม็ดสองเม็ดก็มี จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 03:51:57

ความคิดเห็นที่ 3 ผลสรุปหลังจากน้องพยามแง้มที่มุมหลายรอบ และ แง้มมาตรงกลาง เพื่อจะดมกลิ่นทายเลข(ผมเองยืนมองมุมบนว่า จะงัดจนเห็นเลขมั้ยปรากฏว่าหลายนาทีผ่านไป น้องบอกว่ามองไม่เห็น)  สรุปคือทายไม่ได้ ไม่รู้ว่าเลขอะไร ผมเตรียมไว้สี่ชุด ถ้าผมจำไม่ผิดนะน้อง เค้า ลองไปสองชุด  ผล คือ ไม่ผ่านทายไม่ได้ ทั้งสองครั้ง ผมเลย บอกให้ทราบอีกว่า นอกจากเย็บมุมไม่เห็นเห็นเลขแล้ว ตรงด้านข้างที่ผมเย็บไว้ผมเลือกเย็บตรงที่มันจะเป็นดอกไพ่ แถวบนและล่าง ส่วนกลางเว้นว่างไว้ให้ดม แต่การเลือกไพ่เอามาเย็บผมเลือกใช้ แต่ไพ่ 1 -2-3-4-5 ซึ่งมันไม่มีดอกตรงกลางด้านข้าง เหมือน พวก 6-7-8-9-10 ทีให้เห็นสีและเดาทายได้ง่ายขึ้น จากการดูดอกหรือ JQK ที่มีขอบและดอกไพ่ออกมาอยู่ริมกว่าไพ่อื่น คือถ้าแง้มเห็น คือแง้มไปก็ไม่เห็นตรงนี้ เดาต่อยาก เพื่อเสริมความมั่นใจ ตรงนี้พอเด็กทำไม่ได้ ทางคุณตัน บอกว่า การเย็บแม๊กซ์มากขนาดนั้น มันมากไป เหมือนแปะไพ่ติดกันเลย ผมก็ชี้แจงให้ว่า เราเปิดช่องให้เยอะ พอกลิ่นออกได้ แต่มองไม่เห็นแค่นั้น  แต่ช่องมีมากมายให้ดม เค้าก็บอกว่า ช่องแค่นี้ ไม่พอต้องเอาตัวเลขออกมาให้ดมด้วยประมาณนั้น ก็เลยบอกว่า ถ้าตัวเลขโผล่ออกมา มันก็คือที่เราบอกไป แล้ว คือ จะมีตาเข้ามาช่วยมองเห็นได้ ไม่ใช่ดม (อันนี้แอบได้ยินน้องๆเราข้างนอก บอกว่า  ทางฝ่ายเค้าบอกว่าการแม็กซ์ไพ่ แน่นแบบนี้ คือการโกงเด็ก อ้าววววววเป็นงั้นไป อันนี้ มาทราบทีหลังเลยไม่ได้ชี้แจง กับเค้าที่นั่น ชี้แจงตรงนี้ อีกครั้ง ตามข้างบนนะครับ ว่า การแม็กซ์ป้องกันไม่ให้เห็นไพ่ แต่กลิ่นเปิดช่องให้มากเหลือเฟือ ถ้ายอมให้แง้มจนเห็นเลขได้ ก็จบกัน สุดท้าย ยังไม่มีอะไรผ่าน และ มีข้ออ้างข้อแย้งตามข้างบน แต่เพื่อ ที่จะให้เกมส์มันไปต่อได้  ผมเลยเสนอไปแบบ ไม่ต้องกลัวเสียตังค์ แต่ อยากเห็นการทดสอบ ต่อไป ให้ได้ และมั่นใจ ในการควบคุม ได้ระดับนึง ก็เลยเสนอว่า อันอื่น ที่ไม่ผ่าน หรือ ไม่ได้ทดสอบ ไว้ไม่เป็นไร  ทาง PMC จะมีข้ออ้าง อย่างไรก็ว่าไป ผมให้ข้อเท็จจริงให้คนดูได้เห็นได้ฟัง กันจาก เทป ที่ออนแอร์ ไป แล้ว อันนั้น ผมยกให้ ไม่ต้องนับ ว่าตัองทำเสร็จให้ได้ซักอันนึง ไม่ผ่าน ก็ไม่เป็นไร เว้นไป เงื่อนไขพิสูจน์ผ่าน เอาแค่ข้อเดียวเลย ทำได้ ถือว่าผ่านให้เลย ทันที 1 แสนบาท คือ ขอ แค่ ข้อพิสูจน์สุดท้าย ทายลูกปัด ซึ่งลด กันจาก 10 สี เหลือ แค่ 7 สีตามข้อต่อรอง ข้างบน  ซึ่งแม้เค้าจะบอกว่าทำได้แน่นอน จิ๊บจ๊อย แต่ผม ก็มั่นใจ ว่ามันไม่มีช่องโหว่ พอเริ่มเล่น เค้าขอ คัดเลือกคนที่ว่า มีคลื่นดีที่สุด มาเล่น เราเลยบอกว่าไม่เป็นไร ให้ลองมาได้หลายคน ค่อยๆเล่นก็ได้ สบายๆ  และให้ลองซ้อมก่อน ให้พอใจ ถ้าเล่นจริง ขอให้เล่นคนล่ะสามรอบ เพื่อป้องกัน กันตื่นเต้น จะได้แก้ตัว (แต่เอาจริงๆแล้ว ห้าหกคนที่เล่น ทั้งซ้อมทั้งเอาจริงกันคนล่ะเป็นสิบรอบ ให้เล่นกันจนเบื่อไปเลย ) อันนี้คือหน้าตาลูกปัดพลาสติค ที่เราใช้ทดสอบในวันนี้ คุณภาพ เราคัดมาดีหน่อย ลูกเหมือนกันเป๊ะ ป้องกันตำหนิ ขนาดโตเหมาะมือ ประมาณ ลูกชิ้นชนาดเล็กถึงปานกลาง(เซ้นต์กว่าๆ ) จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:00:14

ความคิดเห็นที่ 4 คนแรก ที่เข้ามาล้วง ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะเป็นน้องเควินเหมือนกัน ตอนเริ่ม ผมเอากระเป๋า Prada สีดำที่ผมสะพายไป ซึ่งผมดูแล้ว มันพอดีมันมีฝาเป็นผ้าปิดด้านบนกันมองเห็นได้อีกชั้นเห็นว่าเวิร์คเลยเอาอันนี้ น้องเค้าล้วง นานมากๆ จนเราสังเกตุเห็นว่ามือน้องเค้า เลื่อนมาสูง จนข้อมือ อยู่เกือบถึงปากถุง ก็บอกน้องว่า ขอล้วงต่ำนิดนึงนะ อย่าเอาพ้นขอบมา  ก็โอเค น้องก็เข้าใจ หลังจากลองไปซักพัก น้องทายไม่ถูก ทางคุณตัน บอกว่า ถุงดำมันอาจจะบังคลื่นทำให้ มองไม่เห็นขัด  ขอเปลี่ยนถุง เราก็นึกในใจ(อ้าว มือคลำ ทำไมถุงดำบังคลื่นอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรเปลี่ยนก็เปลี่ยน ไม่ว่ากัน)  (อันนี้ น้อง Mereon อยู่ข้างนอก เข้าใจว่าผมขอเปลี่ยนถุงเพราะว่า เกรงน้องจะดู แต่จริงๆคือผมบอกว่า น้องเค้าดึงมือมาสูง จนอาจจะมองเห็นได้ เลยต้องขอเค้านิดว่าล้วงที่ก้นถึงเท่านั้น) แต่ทางเค้าเป็นคนขอเปลี่ยน ครับ ผมก็ออกมา เอากระเป๋าสีเขียวอีกใบ ที่น้องเราอีกคนเตรียมไป ไปลองแล้ว กับอีกหลายๆคน หลายๆครั้ง ก็ยังไม่ถูกกัน  อีก เค้าเลยบอกว่า ขอเป็นถุงสีขาวดีกว่า เพราะว่ามันน่าจะสะท้อนคลื่นให้เค้าได้ ดี ถึงตอนนี้ ทีมงานเราเองเริ่มเครียดแล้ว อุปกรณ์เริ่มเปลี่ยนมือไปเป็นของเค้า แต่มาถึงตอนนี้ เริ่มน่าคิด  เพราะว่าผมลองดูแล้ว มันเป็นถุงผ้าดิบสีขาว มอง ในแสงไฟ จ้าทีถ่ายทำแล้ว เห็นรางๆ แต่มองไม่เห็นสีชัดเจน แต่พอได้ว่าเข้มหรืออ่อนนิดๆ) แต่ผมลองทบอีกด้านของถุง ทับข้ามไป ก็หนาขึ้นมองไม่เห็น ก็โอเค  ระหว่างนั้น น้องๆก็มาลองเล่นกันหลายๆคน คนล่ะหลายรอบพอน้องตอบผิด ทุกอย่างจะเงียบ มีผม กับ พิธีกร และคนของเค้าคอยให้กำลังใจปลอบน้องไม่เป็นไรเอาใหม่ น้องๆเค้าก็แฮปปี้ ดี ไม่มีการเครียด (คอยดูรอยยิ้มของน้องๆ ตอนออนแอร์) แต่ตรงกันข้าม พอมีการทายเม็ดแรกถูก หนึ่งเม็ด ข้างในคนของเค้าก็เฮ ปรบมือให้กำลังใจ ซึ่งตรงนี้ เราก็เข้าใจ ให้กำลังใจน้องๆ  แต่พวกข้างนอก พวกเค้าก็บอกทำได้แล้วผ่านแล้วเห็นมั้ย  พวกน้องเราข้างนอกไม่รู้อะไร ก็เครียดไปด้วย  แต่ผมอยู่ข้างในเฉยๆ  แค่ฟลุ้ค  นานครั้ง จากการเดาหลายๆครั้งอิๆ เมื่อน้องๆเค้าเล่นกันไม่ได้ ไม่ผ่าน ทางครูเค้าก็ถามว่า ทำไมไม่เห็น หรือไม่ทราบคะ น้องคนนึง(ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นน้องนาเดียน น้องหน้าหวานขวัญใจผม เด็กอะไร น่ารักจริงๆ ใครเห็นไม่รู้สึกเอ็นดู ใจแข็งไปหน่อยล่ะ แอบบอกเลยว่าตอน น้องเค้าทายผมแอบเชียร์ ให้ทายถูกเยอะๆ ด้วย อิๆ )  น้องเค้าบอกว่าเค้ามองไม่เห็นเพราะว่าลูกปัดมันสะท้อนคลื่น เวลาอยู่รวมๆกันหลายเม็ด   อ้าว ปัญหา อยู่ตรงนี้ไม่เป็น ไร พี่หมอเจ เอ๊ยลุงหมอเจ จัดให้ เอางี้มั้ย เด๋วลุงแยกออกมาใส่กระเป๋าสูทไว้ แล้ว  เอาใส่ถุงคืนให้คลำทีล่ะเม็ดๆ จะได้ ไม่กวนกัน ดีมัย้ น้องก็ว่าดี ก็เลยลองกันใหม่ ผลก็คือ มันก็ยังไม่ผ่าน อยู่ดี ลองกันไปพักใหญ่ๆ หลายคน คนละหลายรอบ ปรากฏว่าไม่ผ่าน เค้าบอกขอเอาลูกปัดของเค้าทีเค้าเล่นเองมาลองดู แบบนอกรอบ ไม่นับทดสอบจริงๆ ก็โอเคมาดูกัน ซึ่ง ผมดูแล้วผมบอกว่า  ลูกปัดมันเป็นรูปหัวใจ มีราวๆ หกเจ็ดสี อย่างล่ะหลายอัน แต่ว่ารูปร่างบางอันมันเบี้ยวๆ คือ มันมีตำหนิ พอให้คาดเดาได้ ก็เลยบอกว่า อันนี้ เล่นได้ แต่ถ้า นับเป็นการทดสอบคงไม่ได้ น้องอาจจะจำจากสัมผัสรูปร่างที่ต่างกัน  คือคลำมาหลายๆครั้ง จนจับเม็ดนี้ แล้วรู้ว่า มันคือสีอะไร (เล่นกันจนจำได้) แต่ เค้าอยากขอลอง ก็ให้ ลอง ก็มีน้องทายถูกบ้างผิดบ้าง มี คนทายได้มากสุด ดูเหมือน สามครั้ง ติด  หลังจากนี้ตอนแรกเค้าจะขอให้เราออกไปหาซื้อ ลูกปัด อันใหม่ ที่เป็นสีด้านๆ หรือ ลูกอม แบบเอ็มแอนด์เอ็ม มาแทน แต่ด้วยเวลากระชั้นอย่างนั้น เราคงหาไม่ได้ ส่วนลูกอม คลำไม่กี่ครั้งก็คงเกิดรอย เราเลยขอไม่เอา ขอยืนยันใข้ลูกปัด ที่ เค้าเอง ตอนแรกก็ว่าจิ๊ยจ๊อย แต่ พอไม่ได้ ก็เริ่มจะขอเปลี่ยน (หลังจากเปลี่ยนถุง จากของเรา สีดำ มาเขียว จนกลายเป็นถุงเค้าแล้ว) ก็ยังไม่ผ่าน แต่มันจุดสังเกตุอันนึง ว่าเด็กก็คือเด็ก  ทำไรคิดอะไร ก็ซื่อ ๆประสาเด็ก เหมือนกัน ตอนคลำในถุงๆ คล้ายๆกันเกือบทุกคนใช้เวลานานมากเป็นนาที คลำ เพื่อแยกสี บอกสี แต่พอทายแล้ว หบิบพ้นถุงออกมาเมื่อเห็นว่าผิด บางครั้งร้องว้าผิด และบ่อยครั้งที่น้องทายบอกสีที่ถูกต้อง ได้ทันที เมื่อ มันออกมาพ้นปากถุง เราก็เลยบอกว่า สังเกตุมั้ย เด็กบอกว่าหลายเม็ดรวมกันคลื่นกวน สะท้อนเยอะ เราก็แยกให้เป็นเม็ดๆ ก็ยังไม่ผ่าน จะว่าเป็นคริสตัล (จริง มันก็พลาสติค นั่นแหละ) ทำไมพอพ้นปากถึงออกมา อยู่ในสายตาได้ น้องเห็นทันทีรู้ทันที ร้องออกมาได้โดย ไม่ต้องใช้เวลาเลย  ดังนั้น ประเด็นนี้ น่าจะตัดไป (จริงๆลูกปัดอื่นที่เด็กเค้าเล่นกันเม็ดเล็ก ก็ มีลักษณะแสงสะท้อน แต่มันเป็นลูกปัดราคาถูก ที่ รูปทรงไม่แน่นอนมีขอบเศษพลาสติค ติดเห็นได้ คลำแล้ว อาจจะเห็นความแตกต่างเราถึงไม่รับ ต่อมา เค้าบอกว่า  ขอให้เด็กเค้าเอาลูกปัดไปซ้อม กันที่อีกห้องเพื่อจะได้มีสมาธิได้มั้ย ก็บอกว่าได้ ครับไม่มีปัญหา ให้ลองดูให้จนแน่ใจ แต่ก่อนที่จะยอมให้เค้าเอาไปทดลองกันนั้น ผมเก็บ 7 ลูกที่ผมใช้ทดสอบจริง อยู่กับผมไว้ ให้น้องเค้าเอาลูกเหมือนกันอันอื่น ไปลองทดสอบกัน (7 ลูกที่ข้าใครอย่าแตะ ตอนข้าไม่เห็น อิๆ ) หลังจากไป ซ้อมกันราวๆ เป็นชม. เค้าก็บอกว่า พร้อมแล้ว เค้าทำกันได้ เราก็บอกโอเค พร้อมแล้วมาต่อกัน ก็มาลองกันอีกหลายๆ คน คนล่ะ หลายๆ รอบๆ  ส่วนใหญ่ ก็ผิดตั้งแต่เม็ดแรก นานๆจะถูกเม็ดแรกผ่านให้เฮ กันซักที ซึ่งต้องถือว่า ต่ำกว่าการเดาเฉลี่ย คือควรถูก เม็ดแรกซักครั้ง จากการเดา แปดครั้ง ผมก็บอกเค้าเหมือนกัน ว่าผมอยากให้มีการทดสอบ อันไหน ยอมได้ และผมคิดว่ามันไม่ใช่ช่องโหว่ผมยอมให้(ถ้าเป็นคนอื่น อาจจะต้องหยุดไปแล้วเพราะว่า คิดว่า เราเริ่มถูกกดดันและเสียเปรียบ(น้องๆทีมงานเรา ข้างนอกก็คิดอย่างนั้นกันแล้ว และบอกว่าพอดีกว่ามั้ย) แต่ผมเห็นว่าเค้ายังต้องการพิสูจน์  และ เรายังคุมสถานะการณ์ได้ ก็ให้โอกาสเค้า ต่อเรื่อยๆ   เค้าต่อรอง ขอปิดไฟที่เปิดช่วยกล้องว่า แสงอาจจะรบกวนเด็ก อันนี้ไม่มีปัญหา เราชอบ  เพราะว่า ยิ่งแสงจ้ามัน ยิ่งทำให้ มีโอกาสมองผ่านถุงผ้าได้ลางๆเดาสีเข้มอ่อนได้นิดๆ แต่ ทดลองไปแล้ว ก็ยังไม่ผ่าน สุดท้ายคุณตัน จากที่เคยบอกผมตอนต้นรายการ ว่า " ถ้าผมจะให้พิสูจน์ผมให้หมอเจพิสูจน์คนเดียว คนอื่นไม่ให้พิสูจน์"  กลับบอกว่าเด็กอาจจะกลัวผม  (ทั้งทีเด็กคุยกับผมยิ้มแจ่มใส่ตลอด เพราะว่าผมพยายาม ชวนคุยให้น้องๆไม่เครียด)  อันที่เค้ายกมานี้  อาจจะเพราะว่า มีน้องคนนึง ที่เค้าทำทำไม่ได้ ออกไปหาผู้ปกครองแล้วร้องให้เสียใจ (คนนี้ตอนหลัง ขอมาแก้มือ อีกเหมือนกัน แต่ไม่ผ่าน เช่นกัน) ซึ่งพอเค้าบอกว่าเด็กอาจจะกลัวผม ทำให้สมาธิเสีย(ผมถามเด็กกลัวลุงหมอเหรอ เด็กบอก ไม่กลัว แถมยิ้มๆอีก ) เค้าขอให้ผม แยกออกมาห่างๆ ไม่ไปอยู่ใกล้เด็กไม่ให้ถือถุงนั้น  ตอนนั้นเริ่มชั่งน้ำหนัก  การคอนโทรลต่างๆ บางอันเริ่มหลุดจากมือเราไป อยู่ในมือคนอื่น แต่ว่า ยังพอยืนสังเกตุการณ์ได้  ผมก็โอเคให้คุณ อิทธิ์ พิธึกรถือแทน  ด้วยความไว้วางใจ (ภายใต้การสังเกตุการณ์ อย่างใกล้ชิด อิๆ ) แต่ก็ย้ำคุณอิทธิ์ ว่า จุดสำคัญคือ อย่าให้มองเข้าก้นถุงได้  และ เขย่าทุกครั้ง ที่ใส่ลูกปัดไป ตอนใส่มือ น้องระวังปากถุง อย่าอยู่แนวสายตา ใส่แล้ว ตอนน้องคำ  รวบปากถุงปิด อย่าเปิดช่องโหว่ให้น้องๆเผลอ มองไปเห็น และ ถ้าเป็นไปได้ตลบถุงส่วนเหลือบังให้หนาขึ้นอึกนิด ผลการทดสอบหลังจากนั้น ยังไมผ่านเช่นเคย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:04:23

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านเพลินจนเลย์หมดถุง ที่เขาอ้างว่าบังคลื่นนี่มันคลื่นอะไรกันครับ จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:08:27

ความคิดเห็นที่ 6 อาห์ สมองส่วนกลวงสินะ จากคุณ : ท่านประธานบริษัท เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:11:36

ความคิดเห็นที่ 7 ลองกันหลายครั้ง  จนเวลาเลยมาถีง สามโมงกว่า เกือบสี่โมง ทีมงาน เริ่มคิดว่า น่าจะเพียงพอแล้ว กับการทดสอบ แต่ทาง คุณตัน บอกว่า ตอนทดสอบให้เด็กเค้าเล่นกันเอง เด็กเค้าทำได้ อาจจะเป็นว่าห้องข้างๆที่เด็กเค้าเอาลูกปัดผมไปซ้อมกัน แล้วบอกว่าเล่นเองได้นั่น คลื่นมันดีกว่าห้องนี้ ขอย้ายไปห้องนั้น เราคิดว่าตัวแปร  เรื่องห้องเรายังสังเกตุการณ์ได้ ไม่น่ามีปัญหา ก็ยอมอีก ระหว่างย้าย ขอยึดลูกปัดไว้ในมือก่อน  ตามสูตรเดิม อย่าให้ ลูกปัดข้า คลาดสายตาอิๆ พอย้ายไปอีกห้อง ผลยังคงเหมือนเดิม ไม่ผ่าน พอไม่ผ่าน คราวนี้ ถึงคราว  ที่ต้องเริ่มเครียดหนักแล้ว เมื่อคุณตัน บอกว่า ขอทุกคนรวมทั้งผม ออกมานอกห้องมองผ่านกระจกแทน ปล่อยให้ ทีมงานถ่ายทำอยู่กับเด็กเท่านั้น ถึงตอนนี้ ผมว่า มันหลุดไปไกล ต่อรองจนไม่รู้จะต่อรองไรแล้ว แต่ผมดูแล้ว ผมเริ่มไว้ใจคุณอิทธิ์ ที่ยังคุมเกมส์ได้เป็นกลาง เลยยอม ออกมายืนดูหน้าห้องแทน   และหลังจากลองไปอีก พัก ผลก็คือ ไม่ผ่านอีก จนมันล่วงเกินสี่โมงกว่าไปแล้ว เลยต้องหยุด กันตรงนั้น แต่คุณตัน ยังคงยืนยัน ว่า เด็กของเค้าทำได้ เค้าถึงกล้าท้าเราไปพิสูจน์ ผมก็คุยกับเค้าแบบ เป็นมิตร ว่าอาจจะ เป็นไปได้ ที่เค้าคิดว่า ที่ทำได้ เพราะว่าเค้า ไม่ได้ปิดช่องโหว่ต่างๆ ที่ควรจะเป็น เหมือนที่เรา พยายามทำหน้าที่ของเรา อย่างเช่น การที่ผ้ามันมีรูรอดได้ เราคิดว่ามองลอดได้ แต่เค้าคิดว่า เด็กไม่มอง หรีอ การทายสีลูกปัด เด็กอาจจะเห็นแว๊บๆ ผ่านปากถุง แต่ เราคิดว่า เค้าคลำอย่างเดียว รวมถึงการแง้มไพ่ ต่างๆ แต่เค้าก็ยืนยันว่า ไม่ใช่ เด็กเค้าทำได้ จริง แต่วันนี้ ทำไมทำไม่ได้ไม่รู้ อยากลองใหม่ ผมก็บอกว่าถ้ามีโอกาส ก็ยินดี ผมพยายามทำหน้าที่ของผม ให้ดีที่สุด เพื่อให้มีการทดสอบพิสูจน์ ให้ คนดูได้เห็น สำหรับความเห็นผม คุณตัน อาจจะเป็นคนออกแนวแรงๆ บู๊ๆ นิดๆ นึง ตามไสตล์คนจีนแต้จิ๋ว เหมือนผม แต่ว่าผม ใจเย็นกว่า หน่อยนึง  และ ไม่บู๊ เน้นอารมณ์ดี เข้ารับแทน แต่สำหรับคูณดา ตรงกันข้าม ค่อนข้างนิ่มนวล มากๆ ก่อนกลับ มา หลังจากหยุดบันทึกเทปแล้ว คุณดา เค้าก็น่ารัก เค้าบอกว่า ทางเราสอนปิดตาให้เด็กด้วยผ้า สอนให้มีสมาธิ อะไร ของเราตามแบบของเรา แต่คุณหมอทดสอบตามแบบของคุณหมอ เมื่อเด็กทำไม่ผ่านก็ยอมรับว่าไม่ผ่าน อาจจะเป็นจากคลื่น มันไม่ดี หรือเด็กสมาธิ ไม่ดี ก็แล้ว แต่จะคิดกัน แต่ เราเน้นสอนให้เด็กปิดตาจะได้มีสมาธิ มีผลดี ผมก็คุยแย้งไปแบบกันเอง บ้างว่า คือ เรื่องอื่น ที่ว่า การฝึกใช้มือซ้ายมือขวา สองข้างเป็นการฝึกสมองส่วนกลางทางการแพทย์มันไม่ใช่ สมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ทั้งสองข้างมันคือสมองหน้า หรือ ส่วน Cerebrum แต่ว่า ถ้าความผิดปกติ ในการเคลื่อนไหว มันก็เป็น สมองส่วนท้าย หรือ ตรง Cerebellum และ   การฝึกใช้สองข้างนี้ ไม่ได้มีหลักฐานทางแพทย์ ว่าทำให้เด็กฉลาดขึ้นแต่อย่างใด และการฝึกสมาธิที่ดี ก็ควร เป็นการปิดตาหรือหลับตา แล้วทำให้จิตสงบนิ่ง ไม่ใช่ปิดตา แต่ฝืนทำการอ่านหนังสือ หรือกิจกรรมต่างๆ อันอื่นมันพิสูจน์ไม่ได้ ดังนั้นเราก็พิสูจน์กันตรงที่ เราเห็นว่ามันพิสูจน์ได้ ก็ลองทำกัน อย่างที่เราทำกันไปวันนี้ ตามหน้าที่ของแต่ล่ะฝ่าย อีกอย่างแอบแซวคุณตันไปนิดนึงว่า  ไอ้การฝึกสองมือ ซ้ายขวาพร้อมกัน นี่ตามตำนานบู๊ลิ้ม แล้ว มันก็ไม่ใช่ วิชาของเส้าหลิน ของปรมาจาย์ตั๊กม้อ  ตามที่เค้าบอก  แต่ว่ามัน มาจากนิยาย มังกรหยก ที่ เฒ่าทารกจิวแป๊ะท่ง ซือตี๋ ของเฮ้งตงเอี๊ยง ปรมาจารย์ ของ สำนักช้วนจินก่า คิดค้นขึ้น  โดยเอาฝึก มือซ้าย ขวา ทำงานแยกกัน ต่อมา ก็เอามาสู้กันเองแก้เหงา ตอน โดนอึ้งเอี๊ยะซือ จับขังไว้ ที่เกาะดอกท้อ(บ๊วยฮวยเต๋า) และมาสอนให้กับก๋วยเจ๋งในภาคแรก กับ เซี่ยวเล่งนึ้งในภาคสองต่างหาก อิๆ) ก่อนกลับคุณดา บอกอยากให้หมอ ลองดูเด็กเค้าทดสอบอ่านหนังสือด้วยผ้าปิดตาตามที่เค้าถนัดเป็นการนอกรอบ ผมก็บอกว่ายินดี แต่ก่อนอื่นบอกเลย ว่าความเชื่อผม  มันมองเห็นได้ จากการมองผ่านผ้าออกมาตรง หรือ ไม่ก็ มองลอดจากผ้าลงมาด้านต่ำ ตามร่องจมูก ดังนั้น ก่อนอื่นผมขอทดสอบมองผ้า ครูดาก็ใจดี จัดมาให้ลอง ผมลองดูแล้วทั้งด้านตรงด้านข้างทึบ ไม่ใช้ผ้ามายากล ดังนั้นเหลือ โจทก์อีกข้อ คือ มองลอดด้านล่าง เนื่องจากนอกรอบ เอากันง่ายๆ ไม่ได้ควบคุมไรมาก ผมขอแค่ว่าเด๋วผมเขียนกระดาษให้น้องอ่าน วางตรงระดับสายตา ซึ่งเปิดตาน้องอ่านกันได้ แต่ถ้าปิดตา มันจะมองลอดผ้าไม่ได้ ขออย่างเงยหรือเอาลงมาต่ำจนพ้นขอบผ้า โอเคมั้ย ทางเค้าโอเค ก็ลองกัน แบบเล่นๆกันเอง ดูตั้งข้อสังเกตุกัน ก็ลองกัน ผลการทดสอบทั้งสามคน หรือ สี่คน  ออกมาเหมือนๆ กัน คือ ผมเขียน ด้วยเมจิ ตัวโตๆ บน กระดาษ A 4 แล้วพับปิดไม่เห็นยกขึ้นสูงพ้นเหนือศรีษะน้องๆ แล้วค่อยลดลงมาที่ระดับสายตา จนต่ำกว่าเล็กน้อย น้องๆ ก็ยังอ่านกันไม่ได้ น้องบางคน อยากสัมผัสกับตัวหนังสือ ช่วยให้อ่านได้ ก็ช่วยจับมือไปให้สัมผัส ก็ยังอ่านไม่ได้ บางคนอาจจะเผลอตัวพยายามเงยขึ้นจนเริ่มจะสูงจนขอบผ้าขยับมาสูงก็ต้องบอกให้หยุด แต่ พอแอบลองเลื่อนลงมาต่ำจนพ้นขอบผ้า แล้วบอกว่า ต่ำขนาดนี้เห็นแล้วใช่มั้ยครับ เด็กส่วนใหญ่ดีใจ บอกว่า เห็นแล้ว อ่านได้แล้ว ผมก็บอกกับครูดา เค้าว่าตามคาด อย่างที่บอก พอสูงระดับที่มันพ้นมุมก้มของตา มันไม่เห็นแต่พอต่ำแล้ว มันรอดได้ ตามที่บอก แต่ครูเค้าก็ยังบอกว่า มันอาจจะเป็นจากคลื่นเด็กมันออกมาตรงนั้น   แต่สุดท้าย เราแยกกันมาด้วยบรรยากาศ ที่เป็นมิตรในระดับนึง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:12:01

ความคิดเห็นที่ 8 f5 ถี่ๆ จากคุณ : AVPT BOMB เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:13:26

ความคิดเห็นที่ 9 ผมคงไม่ชี้ฟันธง ว่าเป็นการหลอกลวง หรือ ว่า เด็กโกหกไรแบบนั้น ผมเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตุ ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได ้ที่คนเราจะมองเห็นหรือ บอกสี หรือ รู้เลข ถ้าไม่ได้มองเห็นผ่านตา ไม่ว่าจะเป็นจากรูช่อง รู้ตัวหรือไม่ก็ตาม  เพราะว่ามันขัดกับหลักวิทยาศาสตร์ และความรู้ทางการแพทย์ ที่ยอมรับกันทั่วโลกโดยสิ้นเชิง ซึ่งวันนี้ ผมก็ได้ทำหน้าที่ของผมไปแล้ว วันนี้ ผมยอมเสี่ยงหลายๆ จุด ยอมลดเงื่อนไข เพื่อให้การทดสอบเกิดขึ้น และผ่านไปได้ ถ้าไม่ยอมยืดหยุ่นเลย ข้ออ้างต่างๆ ก็อาจจะคาใจ อยู่ทั้งหมด แต่เมื่อยอมไปขนาดนั้นแล้ว มันยังไม่ผ่าน  คนดูคงตัดสินใจกันต่อไปได้ ถ้าจะมีการทดสอบอีกครั้ง ผม อาจจะต้องขอให้เงื่อนไขรัดกุมกว่านี้ เพื่อให้ หมดข้อกังขา ตกลงเงื่อนไขการทดลองที่รัดกุม แล้วค่อยทดสอบกัน เหลือคุณตันบอกว่า เค้ามีเด็กอ่านหนังสือทางท้ายด้านหลังได้ ซึ่งผมบอกอันนั้นง่าย ดีเหมือนกัน แค่ผมคุมเรื่องการส่งซิกต่างๆ แล้วจัดหนังสือเองโอเค สถานที่ขอเป็นกลางและสะดวกทั้งสองฝ่าย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:13:35

ความคิดเห็นที่ 10 เกาะขอบจอครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:17:30

ความคิดเห็นที่ 11 สุดท้ายขอบคุณน้องๆ ทีมงานที่ไปร่วมสังเกตุการณ์ ด้วยกัน รวมทั้งตัวแทนจากชมรม รูบิคประเทศไทย ที่ เข้าไปร่วมแจม แสดงการบิดรูบิค แบบปิดตา ให้ เห็น แม้น้องบิล เราจะตื่นน้องจุ๊ คนสวย ที่จ้องมองใกล้ๆ จนจำพลาดไปบ้าง แต่ เรื่องแบบนี้ เข้าใจ ครับ น้อง "  บิลวอนจุ๊ "   สำหรับเพื่อนๆ อยากดู สรุปเรือง สมองส่วนกลาง รวมทั้งการทดสอบ  และเงื่อนไขต่างที่ผมเคยแนะนำไว้ เชิญ ที่ลิ้งค์เก่าผมได้ http://www.2jfk.com/midbrain.htm จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:18:06

ความคิดเห็นที่ 12 เกาะขอบจอด้วยคน จากคุณ : ปลาหมูอู๊ดอู๊ด เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:31:13

ความคิดเห็นที่ 13 ตลกดี ก่อนพิสูจน์โฆษณาเอาสมองส่วนกลางเป็นจุดขาย ออกรายการทูไนท์โชว์ เอารายการมาเป็นตัวอ้าง พอพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นความจริง ก้อแถว่าฝึกสมาธิ น่าจะแฉตามยูทูปหรือทุกที่ที่เขาโฆษณานะครับ บอกตรงๆว่าสงสารเด็ก จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:31:55

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังในการไปพิสูจน์ความจริงนะครับ สุดท้าย โรงเรียนนี้ก็ยังเปิดต่อไปเหมือนเดิม สงสารเด็กๆ ผมหวังว่า น้องๆ ที่ไปโรงเรียนนี้จะได้รับประโยชน์บ้างนะครับ อย่างน้อยในแง่การสร้างกำลังใจ เสริมความมั่นใจว่ามีความสามารถพิเศษ มีโอกาสใช้สังคมเล่นกับเพื่อนๆ และไม่ใช้เวลาว่างไปทำในสิ่งที่ไม่ดี แต่เรื่อง ความสามารถพิเศษจริงๆ ก็คงอย่างที่คุณหมอพิสูจน์ไปแล้ว ว่าควรเชื่ออย่างไร ปล. หมอเจแอบเป็นพ่อสื่อเหรอเนี่ย อิอิ ใน #11 อะ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 04:35:04 จากคุณ : Hephaestuz เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:33:37

ความคิดเห็นที่ 15 .....เยี่ยม จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:37:15

ความคิดเห็นที่ 16 นั่งอ่านจนจบ เดี๋ยวรอดูคลิปต่อวันจันทร์ ยอดเยี่ยมมากครับอาหมอ จากคุณ : THE_AR เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:45:08

ความคิดเห็นที่ 17 นาธานแคมป์ โดนบังคลื่น ...55555 ขอชื่นชมหมอเจ และคณะทำงานครั้งนี้ครับ สงสัย เจ้าสำนักอ่านนิยายกำลังภายในจีนมากไปหน่อย...5555 จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:50:54

ความคิดเห็นที่ 18 จะรอชมรายการครับ ถ้าทางจะ สนุก ตื่นเต้น ลุ้น ระทึก จากคุณ : ReNoVazZ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 04:55:49

ความคิดเห็นที่ 19 เรียบร้อยโรงเรียนหมอเจ ถึงขนาดนี้แล้วพวกเจ้าของยังแถอีกนะ แต่ช่างเถอะหวังว่าพอรายการออกอากาศคงมีหลายคนที่หูตาสว่างขึ้นมาแล้วไปเอาเรื่องกับพวกนี้นะ ส่วนใครคนไหนจะใช้กลไกป้องกันตัวเองก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะปล่อยให้โง่ต่อไปละกัน จากคุณ : HotSmile เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 05:00:47

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านจบแล้วค่ะ เย้!! ติดตามมาตลอด ตั้งแต่ไปออกรายการทูไนท์โชว์แล้้วค่ะ แล้วก็คิดว่าห้องหว้ากอได้ขึ้นกระทู้แนะนำแหง๋ๆ ก็ตามให้กำลังใจมาตลอดค่ะ วันนี้รู้ผลกันสักทีเนอะ ขอบคุณอาหมอและทุกคนด้วยนะคะ เดี๋ยวจะรอดูคลิปค่ะ จากคุณ : มีลูกเป็นแมวดั้งลาด เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 05:02:36

ความคิดเห็นที่ 21 กลายเป็นบังคลื่นแบบ Death Grip  Iphone 4 ซะงั้น จากคุณ : ปลาหมูอู๊ดอู๊ด เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 05:03:57

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ จากคุณ : W.NoWz!! เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 05:19:57

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณหมอเจมากครับ ที่เสียสละเหนื่อยกายเหนื่อยใจเพื่อพิสูจน์ความจริง จากคุณ : กลับมาแล้วเหรอ เก่งมาก ๆ เลย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 05:43:56

ความคิดเห็นที่ 24 คุณหมอทำดีที่สุดแล้วครับ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : ptcomma เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 05:44:17

ความคิดเห็นที่ 25 แจ่มมั่ก ๆ ค่ะ คุณหมอ บางทีอ่านไม่ประติประต่อก็ไม่ค่อยเข้าใจ  คราวนี้ครบขบวนซะที  ^^ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 05:59:36

ความคิดเห็นที่ 26 แม้บรรยากาศจะดูเป็นมิตร แต่มองกันจริงๆผมสงสารเด็กจับใจ ต้องเข้ามาอยู่ในกระบวนการแบบนี้ตั้งแต่ยังเล็กโดนสอนจนกลายเป็นส่วนนึงของกระบวนการโดยไม่รู้ตัว - -* ขอบคุณคุณหมออีกครั้งครับ ดกระจ่างไปอีกเรื่องแล้ว จากคุณ : ~STEP-PANDA~ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 06:03:22

ความคิดเห็นที่ 27 อิอิ   ผมว่าหมอเจนุ่มนวลไป ใน คห ที่ 9 ครับ   ทดสอบออกมาเป็นแบบนี้แล้ว  ก็ยืนยันได้ว่ามันคือการหลอกลวง  และผมอยากแนะนำคุณไตรภพว่าควรดูรายการนี้จริงๆ  ไม่อย่างนั้นจะกลายช่องทางการประชาสัมพันธ์ ให้กับคนอื่นแบบผิดๆอีกน่ะครับ ผมสังเกตได้จากการที่หมอเจบอกว่า ผู้ปกครอง  ของเด็กด้านนอกมีการแบ่งเงิน,มีการโทษสิ่งแวดล้อมต่างๆ  เหมือนกับเค้าเชื่อว่ามันทำได้จริงๆ  แล้วก็สุ่งลูกๆหลานๆไปเรียนเพิ่ม ผมกำลังคิดว่าเค้าคิดว่าเด็กไทยนั้นหลอกง่ายหรืออย่างไร  ถึงมาทำแบบนี้ ขอถามเพิ่มเติมครับ คุณต้นเจ้าของ PMC นี้เป็นคนจีนที่เกิดในไทย หรือได้สัญชาติไทยแล้ว   หรือว่าเป็นเพียงนักลงทุนจากจีนที่เข้ามาหาผลประโยชน์ในไทยหรือครับ จากคุณ : foduck เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 06:04:12

ความคิดเห็นที่ 28  ขอบคุณคุณหมอเจฯ และทีมงานทุกท่าน ที่เสียสละเพื่อพิสูจน์ความจริง ความจริืงปรากฎแล้ว   ใครยังเชื่อเรื่องนี้อยู่ ก็เป็นกรรมของตัวเองครับ จากคุณ : 447 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 06:11:22

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับ คุณหมอ สำหรับรายละเอียด มาโพสให้ซะดึกดื่นเลย จากคุณ : cpu4core เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 06:14:10

ความคิดเห็นที่ 30 พอน้องเตรียมตัว จะบิด น้องเค้าหน้า แบบขยับยักคิ้ว ย่นคิ้ว และตา จมูกไปมา จนผมเห็นว่ามีช่องโหว่ที่ข้างจมูกตรงหัวตา ให้เห็น ผมเลยบอกขอหยุด และ บอกว่า ถ้าขยับอย่างนี้ มันเห็นช่องรอด อ่ะ ขอให้ไม่ขยับได้มั้ย เค้าบอกว่าไมได้ เด็กต้อง ขยับเพื่อหาคลื่นของเค้า ถึงมีช่องเด็กก็ไม่ดูตามนั้นหรอก ------------------------------------------------------ เอิ่ม .. จริง ๆ ป้ะเนี่ย จากคุณ : อีกออินึนเด เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 06:29:31

ความคิดเห็นที่ 31 หมอเจ สุดยอด จากคุณ : นักวิจัยฝุ่น เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 06:30:04 A:115.67.185.140 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 32 ปล แต่ผมสนับสนุนให้ คนรวยๆเอาลูกไปเรียนกันเยอะๆนะครับ เงินมันจะได้เกิดการถ่ายเทหมุนเวียนบ้าง จากคุณ : นักวิจัยฝุ่น เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 06:36:04 A:115.67.185.140 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 33 นาธานแคมป์ หลอกเด็กน่ะไม่เท่าไหร่ ...แต่หลอกผู้ปกครองได้นี่ซิ...เนียน ๆ อยากให้ลูกมีสมาธิดี พาลูกไปเข้าคอร์สตามวัดก็ได้  ประหยัด สบายกว่ากันเยอะ จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 07:22:46

ความคิดเห็นที่ 34 555 จิวแป๊ะทง จากมังกรหยก โห อุตส่าห์จำได้แล้วเอาไปเทียบได้อีกด้วย... คุณหมอบรรยายละเอียดดี อ่านแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เลย ดูเหมือนเด็กๆจะไม่ได้ตั้งใจโกหก แต่โดนผู้ใหญ่หลอก ช่างบริสุทธิ์เสียจริง...ต่อไปนี้ ต้องมีมุมมองกับเด็กใหม่ซะแล้ว(มุมมองใหม่ ไม่ใช่เด็กใหม่) คุณหมอเป็นคนอะลุ้มอล่วยดีมากๆเลย แต่ผมก็คิดไว้แล้วว่าคุณหมอคงทำให้การทดสอบดำเนินไปได้ แต่ไม่นึกว่า จะยืดหยุ่น(อย่างมีเหตุผล)ขนาดนี้ ขอให้ PWC โดนดำเนินคดี ข้อหาอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้อง โดยเร็วครับ งานนี้โดนหลอกทั้งผู้ปกครอง และเด็กๆเลย ถึงแม้ว่า อาจไม่มีผลเสียกับเด็กนัก แต่ที่แน่ๆ เสียตังค์เพราะคำโฆษณาที่ไม่จริง แนะนำคุณตันว่า ถ้าไม่อยากติดคุก ก็เลิกเหอะ ถ้ายังทู่ซี๊ไปเรื่อยๆ เรื่องมันจะดังขึ้นเรื่อยๆเป็นเงาตามตัว เพราะคนในหว้ากอมักเกาะติด เหมือนอย่าง GT200 นั่นไง ใครจะไปนึกว่า นายกรัฐมนตรี จะลงมาเล่นด้วย...ระวังตัวให้ดีครับ อย่าให้ครอบครัวที่น่ารักของคุณต้องพังเลย จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 07:43:41

ความคิดเห็นที่ 35 เด็กโรงเรียนนี้อารมณ์แปรปรวนนะ แค่ทายผิดต้องร้องไห้ไปฟ้องผู้ปกครองด้วย จากคุณ : เขียนบน iPhone (เที่ยวตามใจ) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 07:54:53

ความคิดเห็นที่ 36 อยากทราบว่าน้องเค้าเคยว่ายน้ำไหมจัง น้องคิดว่าใส่ยังไงไปว่ายน้ำมันจะมีประโยชน์ไหมครับ-____-'' จากคุณ : Neon_Nerv เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:01:32

ความคิดเห็นที่ 37 #34  แก๊งทหารกล้าแสดงละครออกทีวี หลอกกินเงินคนไทยทั้งประเทศ ยังลอยนวล แก๊ง 18 มงกุฎ นี่ก็คงรอดได้หมือนกัน  หลอกคนไม่กี่คน ยิ่งผู้ปกครอง คงไม่เอาเรื่อง เพราะกลัวโดนด่าว่าโง่ ปล่อยให้ลูกโดนหลอก เรื่องนี้มันปวดใจพ่อแม่ เพราะว่า ถ้าเอาเรื่องมาดำเนินคดี ลูกตัวเอง ก็ต้องไปขึ้นศาลด้วย แก๊งสารเลวนี่เอาเด็กเป็นตัวประกันชัดๆ ใครจะยอมให้ลูกตัวเองขึ้นโรงขึ้นศาล จากคุณ : Professor เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:04:35

ความคิดเห็นที่ 38 อย่าลืมไปแปะลิงค์ ให้น้าต๋อย ดูหน่อย ...หูตาจะได้สว่างขึ้นบ้าง...ออกมารับผิดชอบหน่อยก็ดี จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:05:51

ความคิดเห็นที่ 39 เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ที่ร้องไห้เพราะทายผิดก็ไม่แปลกครับ พอโตขึ้นเขาก็จะรู้เองว่าต้องควบคุมอารมณ์ยังไง แต่...ถ้าโตแล้วร้องไห้นี่สิแปลก...(แต่ติดคุกแล้วร้องไห้ ไม่แปลกนะ เพราะเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่ไม่เคยเจอมาก่อน) จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:06:48

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบจริงๆ "(7 ลูกที่ข้าใครอย่าแตะ ตอนข้าไม่เห็น อิๆ ) " รอบคอบมากครับ จากคุณ : CrownTail เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:18:29

ความคิดเห็นที่ 41 ชื่นชมในความใจเย็นของหมอเจมากครับ ถ้าเป็นผมคงทนไม่ได้ ด่าพ่อไปหลายครั้ง นี่แค่อ่านอยากเดียวยังด่าไปด้วยในใจ ฮ่าฮ่า ถามเพิ่มนิดนึงครับ ตัวเจ้าของเองนี่เค้าทำแบบนี้ได้มั้ยครับ หรือว่าครูคนที่สอนเด็กเค้าก็ได้(ผมว่าคนที่สอนน่าจะทำได้) ถ้ามีทดสอบครั้ง ผมว่าลองทดสอบที่ตัวผู้ใหญ่ น่าจะง่ายกว่ารึเปล่าครับ อย่างน้อยแว่นดำๆเนี่ย เค้าน่าจะใส่ได้โดยไม่อ้างว่าเจ็บ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:22:03

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นอีก1ภาระกิจ เพื่อสังคมที่ดีขึ้นของชาวหว้ากอ ขอชื่นชมผู้มีส่วนร่วมทุกท่านครับ โดยเฉพาะคุณหมอเจ จากคุณ : เด็กทุ่งครุ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:22:05

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากๆค่ะ อ่านแล้วเหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เลย นับถือว่าพี่เจใจเย็นและมีความยืดหยุ่นสูงจริงๆ ถ้าเป็นหนูล่ะก้อ คงแว้ดๆแจ๊ดๆไปนานแล้วถ้าเจออะไรที่มันยุกยิกตุกติกแบบนี้ ^ ^ " สงสารแต่เด็กๆที่น่ารัก ดูเหมือนพวกเขาจะถูกสะกดจิตให้เชื่อว่าทำได้เช่นนั้นจริงๆ ...แต่ยอมเจ็บตอนนี้ดีกว่าโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจผิดหรือไปหลอกคนอื่นต่อนะลูกนะ ว่าแต่อยากรู้ว่าพวกพ่อแม่จะ support จิตใจลูกอย่างไรต่อไปหนอ? จะดึงลูกกลับสู่ความเป็นจริงโดยเลิกเรียน  หรือปลอบใจในกรณีนี้แล้วหลอกตัวเองกันต่อไป? จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:22:58

ความคิดเห็นที่ 44 ก่อนนี้ใครกันน๊าที่มันว่า หมอเจ แบบลอยๆ หลายที อยากให้มันออกมาขอโทษจัง (ขอโทษเฉยๆไม่เสียตังค์ซะหน่อย) จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:28:01

ความคิดเห็นที่ 45 อยากให้ลูกเก่ง ต้องถามหมอเจ ดีกว่าว่าตอนเด็กหมอเจถูกฝึกมาอย่างไร ถึงเยี่ยมขนาดนี้ จากคุณ : CrownTail เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:47:29

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นความจริงที่ผู้ปกครองควรเอามาคิด คนเราผิดพลาดกันได้ แต่อย่าจมอยู่ตรงนั้น จากคุณ : KeyboardWarrior เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 08:54:34

ความคิดเห็นที่ 47 รู้ผลกันซะที ต้องขอบคุณคุณหมอเจ :) แต่ดูท่าทางเค้าไม่ค่อยยอมรับผลการทดสอบเลยนะคะ เดี๋ยวคงหาเหตุผลมาเบี่ยงประเด็นไปอีก จากคุณ : -ทำเป็นเล่นไป- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:07:54

ความคิดเห็นที่ 48 ดี จากคุณ : precham เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:17:40

ความคิดเห็นที่ 49 เยี่ยมครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าและคำอธิบาย เหมือนได้ไปอยู่ที่ห้องด้วยเลย จากคุณ : Iron-Spider เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:20:45

ความคิดเห็นที่ 50 ต้องโทษผู้ใหญ่ครับ ที่สอนเด็กให้เข้าใจอะไรผิดๆ... ขอบคุณคุณหมอครับที่ให้ความกระจ่าง และนำมาตีแผ่ให้ทราบกันครับ จากคุณ : cwd 1 (cwd 1) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:29:13

ความคิดเห็นที่ 51 ขอชื่นชมความตั้งใจในสิ่งที่ดีๆครับเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง จากคุณ : KHIN7710 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:30:05

ความคิดเห็นที่ 52 เมื่อวานโปรแกรมเดิม คือกลับจากปาเลา วันพฤหัส แล้ว เสาร์อาทิตย์นี่ จะขึ้นเหนือไปรับลมหนาวกับครอบครัว แต่ ความที่ทาง รายการต้องการบันทึกเทป ให้ทันสามตอนติดกัน ก็เลย ต้องแทรกนัด อัดเทป เมื่อวาน คืนวันศุกร์เลย ต้องเปลี่ยนแผน เข้านอนคอนโดที่กทม. ตื่นเช้า แปดโมง แวะรับน้องๆ ทีมงาน และน้องชมรมรูบิค ตามจุดนัด แล้ว ไปพัทยา บันทึกเทป กันตั้งแต่เที่ยง จน เกือบห้าโมงเย็น น้องๆ หิวกันจนไส้กิ่ว  เบอร์เกอร์ ที่รองท้องย่อยหมดกันไปนาน ขอโทษด้วยครับ ที่ให้รอ กว่าจะเสร็จได้ทานข้าว มื้อแรกของวันสำหรับผม  อาจจะมื้อแรก หรือมื้อสอง สำหรับคนอื่น ตอน 5 โมงเย็น ถึงกทม.กัน ทุ่มกว่า ถึงบ้านผม สี่ทุ่มกว่า ใครนึกว่าผมโพสต์ดึก ป่าวหรอก จริงๆแล้ว โพสต์ตั้งแต่กลับถึงบ้านเลย แต่ยาวขนนาดนั้นเผื่อทวนด้วย ซัดไป ตีสี่ไม่รู้ตัว อิๆ ขอบคุณเพื่อนที่ติดตามเป็นกำลังใจให้ ครับ เรื่องความคิดผุ้ปกครอง เท่าที่ทางรายการเค้าสัมภาษณ์ และน้องๆเราหลายคน คุยกับเค้า ก็มีหลากหลาย ผู้ปกครองมีสองส่วน   บางส่วน ออกแนวรุนแรงต่อต้าน ประมาณว่าเรื่อง ของชั้น ชั้นจะให้ลูกชั้นเรียน ลูกชั้นเรียน แล้ว ฉลาดขึ้น ต่อให้ มองไม่เห็นแล้วเป็นไง ไม่เห็นต้องเกี่ยว มาทดสอบ (ทั้งที่จริงๆแล้ว เด็กและผู้ปกครองที่มาทดสอบนั่น อยากขอทดสอบ และเด็กทุกคนที่ เข้าทดสอบ นั่น อยากร่วมทดสอบกันแบบกระตือรือร้นไม่มีการบังคับ เพราะว่า เค้าจะอ้างว่า เด็กตื่นเต้น เด๋วคลื่นเสีย คลื่นหายไม่มีคลื่น ใครเข้ามาแล้ว ลองทำแล้วไม่ได้ ก็วนออกไป หาคนใหม่ มาทดสอบใหม่แทน ด้วยความสมัครใจ อันนี้ ต้อง ขอบคุณ ชื่นชมคุณดา และทีมงาน (และขอชมตัวเองด้วยคนล่ะกัน) ที่ทุกคนพยายาม ทำให้บรรยากาศ มันนุ่มนวลเป็นกันเองกับเด็ก) เด็กตอนอัดรายการ ดูร่าเริง แต่ การที่เค้าทำไม่ได้ แล้วออกไปร้องให้กับผู้ปกครอง ข้างนอก หนึ่งคนนั่น ผมไม่ทราบเหมือนกัน ว่าเด็กคุยอะไรกับผู้ปกครอง หรือ ผุ้ปกคองคุยอะไรกับเด็ก ก่อนเด็กร้องไห้ แต่หลังจากที่น้องคนนั้น ที่ว่าร้องไห้แปล๊บนึง แล้ว ก็วนกลับมาขอทดสอบ แก้มืออีกหลายครั้ง ด้วยบรรยากาศ สบายๆ ไม่ได้ร้องไห้ให้เห็นอีกเหมือนกัน ซึ่งทำให้ผมคิดว่า เกิดจากเด็กเสียใจ หรือผิดหวัง ที่ทำไม่ได้เหมือนที่ตัวเองคิดหรือป่าว เลยอยากแก้มือ แต่ กลายเป็น เรา ถูกใช้เป็นข้ออ้างว่า เด็กอาจจะกลัวเรา จนต้องให้ เราแยกออกมา ทั้งที่เด็ก บอกไม่กลัว แต่ สำหรับผู้ปกครอง บางคน ดูแล้ว เริ่มคิด ตามว่า ที่เค้าคิดไว้ ตามที่ สังเกตุเอง มัน น่าจะผิดพลาด ไม่ได้เป็นเหมือนที่เค้าคิด ก็มีเยอะเหมือนกัน ที่สำคัญ มีผู้ปกครองคนนึง เล่าให้น้องในกลุ่มฟังว่า ตอนแรกไม่ได้คิดจะให้ลูกมาเรียน แต่ว่า เพื่อนส่งมาเรียน เพราะว่า ดูรายการทีวี แล้ว บอกว่า มันดี มากมาย อย่างที่ โฆษณา ดังนั้น แค่ หมื่นสอง กับ การเรียนสองวัน ยอมเสียให้ลูกไม่ได้เหรอ ถ้าไม่ส่งมาเรียน " เพื่อนหาว่างก " ก็เลยให้ลูกมาเรียน  ซึ่งสำหรับ ภารกิจนี้ สำหรับผม คงคิดว่า เปิด มุมมองอีกด้าน ของเรื่องนี้ให้คน ที่ได้รับชม รับรู้ ได้ทราบอีกด้าน และตัดสินใจกันเอง เรื่อง เด็กนี่ ต้องบอกว่า ลำบากใจมาก ที่เราเหมือนถูกนำเด็กมาเป็นข้ออ้าง แต่ทุกอย่าง ก็ผ่านไปด้วยดี แถม เราโชคดี ที่หนึ่งในทีมงานที่ไป มีคุณเมย์เจ้าถิ่น พัทยา ที่ เป็นนักจิตวิทยา คอยให้คำแนะนำ ชี้แจง กับผู้ปกครองน้องด้านนอก และตอบข้อสงสัย   รวมทั้ง ผู้ปกครอง ฝ่ายที่ ต่อต้านเรา อัดเอา และกดดันไปบ้าง  สำหรับ พวกอยู่ด้านนอกห้อง ขอบคุณเพื่อนๆ และน้องๆทุกคนอีกครั้ง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:44:10

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นผมนะ คงเลิก การทดสอบไปตั้งแต่ ครึ่งนึงแล้วอ่ะคับ คือ ขอนั่นนี่เยอะเกิน ผมใจดีนะแต่ในระดับนึงเท่านั้น เห่อๆๆ...แบบนี้ใช้ ทริก (โกง)  ไม่ไหวอ่ะ.. คือมาช่วยกัน สร้าง ชาติ ให้เจริญเถอะครับ อย่ามาหลอกลวงแบบนี้เล้ย มันไม่เจริญหรอกคับ จากคุณ : Externalman เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:51:46

ความคิดเห็นที่ 54 เอ่อ..เขาไปหลอกล่อหมอก่อนหน้าหมอเจมาสัมภาษณ์อีกคนน่ะครับ สรุปอ้างทั้งรายการทูไนท์โชว์ อ้างทั้งหมอ อยากให้ช่วยกันแฉในยูทูปหน่อย http://www.youtube.com/watch?v=0NfsWZi9jZM&feature=related http://www.youtube.com/watch?v=zjybUy2zKGs&feature=related http://www.youtube.com/watch?v=qIFx7q5Lqmg&feature=related http://www.youtube.com/watch?v=zi1KC3T9NUc&feature=related http://www.youtube.com/watch?v=zi1KC3T9NUc&feature=related จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:53:11

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณที่มานำเสนอครับ ถ้าองค์ประกอบ หรือตัวแปรอิ่นมันมีผลเยอะ ขนาดให้พลังสมอง มันใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้างแบบนั้น ถึงแม้จะฝึกพลังสมองได้จริงอย่างที่อ้าง ก็อย่าไปเสียเงินเรียนเลยดีกว่า สรุป จะเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน ลำบากมาก ไหนจะต้องไปหาห้องที่รับคลื่นได้ ใส่้เสื้อผ้าไม่สะท้อนคลื่น อย่าไปใช้ใกล้คนที่ดูดคลื่น วู้ ต่างๆนานา กว่าจะได้ใช้ ไม่ทันได้ทำอะไรกันพอดี หมดวันละ เหอเหอเหอเหอ จากคุณ : Jazzmo เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 09:58:32

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณพี่เจที่เสียสละเวลาทดสอบ  หนูก็คิดไว้แล้วว่าหากทำได้ ไม่ควรได้แค่การโชว์หรือเล่นกล จะต้องนำไปประยุกต์ใช้ประโยชนได้ด้วย  หากเงื่อนไขมากถึงทำได้ก็ดูท่าจะไม่มีประโยชน์  ฝึกสมาธิก็น่าจะใช้วิธีอื่นที่ถูกต้อง เช่นอาณาปาณสติเป็นต้น เรื่อ่งสมองพี่เจก็อธิบายไปแล้ว ตอนแรกได้ยินสมองส่วนกลางมองเห็น ก็งงเหมือนกันหรือว่าเป็นคำเรียกแบบชาวบ้านไม่ใช่ทางการแพทย์ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 10:46:41 จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:02:22

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านแล้วรู้สึกชอบหมอเจขึ้นมาเลยแฮะ ทั้งความใจกว้างและวิธีการสื่อสารที่เป็นกันเองและให้เกียรติ ขอบคุณครับที่พิสูทย์ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 10:37:44 จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:04:28

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณครับสำหรับการทดลอง ปล.น่าจะมีรูป ''น้องจุ๊'' ประกอบสักหน่อยนะครับ ^^ จากคุณ : ทารกหัดเดิน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:09:53

ความคิดเห็นที่ 59 #52 อ่านแล้วสบายใจจัง ขอบคุณที่เมตตาเด็กๆนะคะพี่ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:11:48

ความคิดเห็นที่ 60 คุณเหงื่อตก ใจๆหน่อย อย่าเซนเซ่อดิ ไอ้พวกปากดีแบบนี้ ประจานมันไปเลยยยยยยยย! จากคุณ : ฮานา ทูล เซด~* เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:14:50

ความคิดเห็นที่ 61 ยาวจัง อย่าลืมกระทู้รายงานสรุปนะครับ อิอิ จากคุณ : CaminoReal เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:15:48

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณมากค่ะ  ^^ จากคุณ : โลกด้านที่หันหลังให้ดวงอาทิตย์ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:31:30

ความคิดเห็นที่ 63 ฮาๆ จากคุณ : KapampaBlue เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:55:46

ความคิดเห็นที่ 64 #54 ดูคลิปสองยังไม่จบไม่อยากดูแล้วค่ะ ไม่ทราบหมอท่านนี้ชื่ออะไรคะ ไม่รู้จัก เราไม่ใช่หมอด้านสมองหรือระบบประสาทแต่ฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วรับไม่ได้เลย คงต้องฝากส่วนเกี่ยวข้องทั้งแพทย์สภา หรือพี่หมอเจจะรับอีกสักเรื่องก็ได้ค่ะ หนูอยู่ชนบทไม่สะดวก :) จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 10:57:17

ความคิดเห็นที่ 65 หมอเจสุดยอดครับ แต่อย่างว่า ต่อให้ผลการพิสูจน์ชี้ชัด 100% ว่าเป็น "การหลอกลวง" จะให้เขาเลิกกิจการที่ทำกำไรมหาศาลจากคนมีเงินแต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์คงจะลำบากหน่อยครับ ประเทศไทยมันเฮงซวยตรงที่กฏหมายไม่เคยจัดการกับคนที่ทำผิดซึ่ง ๆ หน้าอย่างนี้ (แต่มีเงินและแบ็คอัพหนาพอ) ได้เลย ตรงกันข้ามกลับตีความหรือปรับเปลี่ยนตามใจชอบเพื่อเอาผิดกับฝ่ายตรงข้าม หรือช่วยเหลือฝ่ายตัวเอง ไม่รู้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองมันทำอะไรกันอยู่ !? สำหรับผู้ปกครองที่ "พลาดไปแล้ว" ผมว่าคุณควรทำใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และพยายามอธิบายให้ลูก ๆ ของคุณเข้าใจ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย และถ้าทำไม่ดีอาจจะทำร้ายจิตใจลูกของคุณไปก็ได้ แต่คุณอยากให้ "ความเข้าใจผิดว่าตนเองมีความสามารถพิเศษ" นี้ติดตัวลูกคุณไปจนโตหรือครับ? ไม่กลัวหรือครับว่าถ้าลูกคุณโตกว่านี้ เข้าสังคมที่เพื่อนรอบข้าง "มีสติ" มากกว่านี้ แล้วลูกคุณไปโชว์พาว แต่ถูกเพื่อน ๆ หรือสังคมท้าพิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์แล้วจับทริคได้ ถึงตอนนั้นลูกคุณจะไม่เหลือหน้าไปสู้กับคนในสังคมที่เขาอยู่ในเวลานั้นนะครับ ให้เขาเข้าใจและ "เจ็บนิด ๆ" ในวันนี้ จะดีกว่าให้ "ตายทั้งเป็น" ตอนโตกว่านี้นะครับ !! จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:05:02

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณครับ พี่หมอที่ทุ่มเทเพื่อ ความจริง จากคุณ : 1 (huthut) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:05:56

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่น่าเชื่อ ว่ายังมีผู้ใหญ่หากินกับเด็กโดยการปั่นหัวให้กลวงได้อีก จากคุณ : บังเอิญผ่านมา เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:09:14 A:125.27.53.247 X: TicketID:288702

ความคิดเห็นที่ 68 ขอยืนตรง ปรบมือ และโค้งคำนับให้คุณหมออย่างที่สุดครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : konmeekaam เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:09:22

ความคิดเห็นที่ 69 ปิดตา หรือแหกตา จากคุณ : Kritdhaphak เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:12:33

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าคนไทยที่ทำพลาดแล้วกล้ารับว่าตัวเองโง่ ก็คงไม่มีคดีป้ายยา กินคูลฟีเวอร์ และพาวเวอร์มาแคมป์หรอกครับ อีกอย่างที่เค้าพาลูกไป ก็เพราะเชื่อเกินกึ่งนึงแล้ว เด็กๆ ก็โดนล้างสมองให้ไปหลอกพ่อแม่อีกที ผมว่าแทนที่พ่อแม่เค้าจะฟ้องแคมป์ เค้าอาจโดนค่าย(ไม่อยากเรียกว่าโรงเรียน) ปั่นหัวให้หันมากัดเราก็ได้ครับ ผมอาจจะคิดร้ายเกินไป แต่เรื่องความงมงาย และความโง่ที่ทำให้ทำอะไรแบบนี้ มีให้เห็นเยอะแล้วครับในเมืองไทย ได้ยินมานาน วันนี้ได้เห็นจริงๆ แล้วหล่ะว่า พอแม่รังแกฉัน มันเป็นยังไง เพิ่มเติมนิดนึง จากที่อาหมอบรรยายถึงบุคลิกของเจ้าของแคมป์ พอจะนึกออกได้เลยว่าคุณผู้ปกครองทั้งหลายทำไมถึงเชื่อกันง่าย คงเคสคล้ายกับการที่มีกลุ่มคนเข้ามาพูดคุยตกทองหลอกคนแก่ เหมือนที่เป็นข่าวมา เพราะคนร้ายพวกนั้นก็ใช้ความ ขี้เกรงใจของเหยื่อ ใช้หลักวิทยาศาสตร์แบบยกเมฆให้งงๆไว้ และใช้คำพูดหวานหอม หว่านล้อมเหยื่อเหมือนกัน ปล.รู้สึกว่าการทดสอบครั้งนี้มันเป็นทางการและมีความพร้อมมากๆ ยังไงไม่รู้สิ มีทั้งหมอใหญ่ นักข่าว นักจิตวิทยา กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน(รูบิก) นักวิทยาศาสตร์จากสังคมวิทย์ออนไลน์แห่งใหญ่ ขาดอยู่อย่างเดียว            "ตำรวจ"   แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 11:29:29 แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 11:31:04 จากคุณ : ถุนคุง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:14:30

ความคิดเห็นที่ 71 อันนี้คงเป็นลักษณะของค่ายเมื่อวาน drift fail.. จากคุณ : ถุนคุง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:15:48

ความคิดเห็นที่ 72 "สุดยอดครับ" ขอขอบคุณจริงๆครับ จากคุณ : Heimdall เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:17:19

ความคิดเห็นที่ 73 เยี่ยมยอด แต่ผมคงไม่ได้ดูรายการเหรียญสามด้าน(บ้านไม่มีเคเบิ้ล) จากคุณ : นายชอล เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:20:37

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณครับ คุณหมอเจ ขออนุญาตเอาลิ้งนี้ไปโพสเวปบอร์ดอื่นนะครับ จะได้รู้กันกว้างๆหน่อย จากคุณ : ต.ตั้ม กินแต่หญ้า เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:39:12

ความคิดเห็นที่ 75 ดีครับ ส่วนเรา ๆ ชาวบอร์ด ก็ต้องช่วยกันเผยแพร่ขยายตามเว็บต่าง ๆ รวมถึง fwd mail ด้วย ให้คนอื่นได้ทราบกันเยอะ ๆ ครับ งานนี้ขอบคุณพี่หมอเจมาก ๆ เลยล่ะครับ ที่ทำให้คนที่ติดตามอยู่ได้ทราบผล รักพี่หมอเจที่สุดในสามโลกเลยล่ะครับ อิอิ ปล. จากกระทู้ ของคุณ Merion ที่ว่าเงินหายไปบางส่วน หายไปไหนเหรอครับ ^^ จากคุณ : ไก่ทอด (กระเทียมพริกไทย) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:49:08

ความคิดเห็นที่ 76 ...เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกแปลกใจ และผิดคาดมาก ...ว่าทำไม เจ้าของโรงเรียน ถึงกล้าพิสูจน์ โดยที่ไม่มี "ของ" อย่างที่ผมคิดไว้ ...เรียกว่า วิ่งเอาหัวชนกำแพงดื้อๆซะงั้น ...หวังจะให้กำแพงพัง แต่หัวแตกแทน ...เป็นไปได้มั้ย ...ว่าเจ้าของโรงเรียน ก็โดนเด็กหลอกมาอีกที ...หรือ แกสะกดจิตตัวเองให้เชื่อสิ่งที่ตัวเองทำ ...เพราะการทดสอบนี้ ว่าไปแล้วแกไม่จำเป็นต้องรับคำท้าก็ได้ ...มันไม่เหมือนกับตอน GT200 ที่โดนบังคับ เพราะเป็นข่าวพาดหัวขึ้นหน้าหนึ่ง ทุกฉบับ เกี่ยวข้องกับเงินเป็นร้อย-พันล้าน ที่มาจากภาษีประชาชน และชีวิตความเป็นความตายของทหาร-ชาวบ้าน ที่ใช้เครื่องนี้ ...แต่กรณีเรื่องนี้ นอกจากคนที่เข้ามาเล่นห้องหว้ากอ หรือคนที่ดูรายการเหรียญสามด้าน ที่อยู่ในช่องนึงของ cable  ซึ่งเราต้องยอมรับว่าฐานคนดูยังไม่มากเท่าไหร่ (ส่วนนึงเพราะชาวบ้านยังไม่รู้จักคุณจุ๊ ว่าจะน่ารักขนาดนี้) ...ทางโรงเรียนจะกล้าทดสอบ หรือ ไม่ทดสอบ ก็ไม่มีชาวบ้านสนใจเท่าไหร่หรอก ครับ ...เพราะไม่เกี่ยวกับเค้า ...มองอีกมุมนึง ...หรือว่า ...มันไม่มีอะไรจะเสีย ...ตอนโชว์สำเร็จ ออกรายการ ทูไนท์โชว์ , บางอ้อ, ผู้หญิงถึงผู้หญิง ...ซึ่ง 3 รายการที่ดังระดับแม่เหล็กนี้ น่าจะมีคนดูรวมกันเป็นหลัก 5-10 ล้านแน่ๆ ...แต่รายการจับผิด ทั้งคนดูรายการเหรียญสามด้าน + ชาวหว้ากอ อาจมีคนรู้แค่ระดับหลักพัน-หมื่น เท่านั้นเอง ...และของเรา อาจกลายเป็นแค่กระแสข่าวลือ แบบ "เค้าว่ามานะ ว่าทดสอบไม่ผ่าน แต่ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ไม่เห็นได้ข่าวเลย คนทดสอบมีอคติมาแกล้งเด็กหรือเปล่า ก็ไม่รู้" หรือ "ถ้าทางโรงเรียนทำไม่ได้ เค้าจะไปรับคำท้าทำไม ไม่มีใครโง่อย่างนั้ันหรอก โรงเรียนคงโดนแกล้งจากพวกเสียผลประโยชน์" ...โจทย์ต่อไปของเรา ก็คือ ...ทำยังไงให้เรื่องนี้ กลายเป็นที่รับรู้ในวงกว้างระดับประเทศ แทนที่จะรู้กันแค่ไม่กี่คนในนี้ ครับ จากคุณ : sungod เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 11:55:02

ความคิดเห็นที่ 77 ได้ข่าวจากกระทู้รีวิวอันก่อน ว่าเงินแสนของพี่หมอ เหลือกลับมาไม่ครบ มันหายไปไหนเหรอครับ ใครเป็นคนปล้นไป? จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 12:19:05

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านแล้วนับถือหมอเจมากเลยครับ หมอเจเป็นคนที่มีสติดีมากกกก คนหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น เป็นผมคงโดนจูงง่าย ๆ เอาง่าย ๆ แค่ไปซื้อเสื้อผ้า เข้าไปก็โดนแม่ค้าไซโคต่าง ๆ นานา ไม่ทันได้คิด ไม่ทันนึก เลยต้องซื้อของร้านนั้นโดยไม่อยากได้ แต่นี่หมอเจ บอกได้คำเดียวครับว่า "สุดยอด" นับถือด้วยใจจริง ไม่อิงนิยาย(มังกรหยก^^") นับถือ นับถือ... จากคุณ : ระวังแตก เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 12:22:15

ความคิดเห็นที่ 79 มาตามอ่านครับ ตอนแรกนึกว่า PMC หมายถึง Private Military Company ฮิฮิ (เล่น metal gear solid 4 บ่อย) จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 12:45:48

ความคิดเห็นที่ 80 แนะนำผู้ปกครอง(ที่ยอมรับ)ที่เด็กผิดหวัง  ให้บอกเด็กไปว่า มันเป็นมายากลลูก  เอาไว้ไปเล่นกับเพื่อน ๆ  ได้ แค่ให้เขาจำใหม่จากสมองส่วนกลาง  เป็นมายากล จากคุณ : Zew เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:02:13

ความคิดเห็นที่ 81 ได้ข้อสังเกต จาก คห 7 คือ กลุ่ม ที่อ้างวิทยาศาสตร์ (รวมทั้งวัดเส้าหลินด้วย) มาลวงผู้อื่น ความจริง เขาก็ไม่ได้รู้จริงเลย อ้างมั่วๆ แทบทั้งนั้น แต่คนทั่วไป ก็ไม่รู้  หรือรู้น้อยกว่า  ทำให้หลงเชื่อได้ง่าย วิธีที่คนทั่วไปจะฉุกคิดได้ ก็ต้องพิจารณาว่า   สิ่งที่เขาคุยโม้ยืดยาว  มันวิเศษมากมาย  แต่ทำไม ไม่มีใครรู้มาก่อนเลย กรณ๊นี้  ถ้า สมองส่วนกลางมันเห็นได้จริง นายตันเป็นคนค้นพบ เขาคนเดียว จะทั้งค้นพบ  ทั้งพิสูจน์หาวัสดุทดสอบ   ค้นหาคุณสมบัติ คุณประโยชน์มากมายของมัน ด้วยตัวคนเดียว ด้วยเวลาอันน้อยนิดของชีวิตเขา มันสมเหตสมผลหรือ จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:09:39

ความคิดเห็นที่ 82 หึ หึ ขอเสนอให้ทาง PMC คัดเด็กที่ว่าเก่งๆ สัก 6 คน ไปออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล จากคุณ : เฮียเด้ง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:21:00

ความคิดเห็นที่ 83 เสียหน้านี่เรื่องใหญ่มากนะ ในประเทศไทย ทำยังกับว่าชีวิตไม่เคยผิด ชีวิตไม่เคยพลาดเลยนะ พ่อแม่ทั้งหลาย เฮ้ออ จากคุณ : sillygang เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:24:45

ความคิดเห็นที่ 84 แวะเข้ามาตอบ ข้อสงสัยเพื่อนๆ  ในบางเรื่อง เรื่องตังค์ที่หายไป นั่น น้องๆ ที่ไปด้วย เค้าแกล้ง คิดกันว่า อำเพื่อนๆ เล่น ให้ลุ้น ว่าตังค์ เหลือกลับมาไม่ครบ  เสียตังค์ไปหรือป่าว ประมาณนั้น จริงๆแล้ว ส่วนที่หาย คือ ที่เราไปทาน ซีฟู้ด กันหลัง บันทึกรายการเสร็จ แค่นั้นครับ ตอนแรก กะว่า จะพาน้องๆที่ มาบันทึกรายการด้วยกัน กับเราไปเลี้ยง ข้าวหรือไอติมกัน แต่ น้องเค้ามี ปาร์ตี้วันเกิด น้องคนนึงกันอยู่แล้ว เลยไปไม่ได้ จะฝากค่าขนม ไว้ให้น้องๆ เค้าเป็นตัวแทน ไปทานกันทีหลัง ทางเค้าก็บอกไม่เป็นไร ไม่รับ ก็เลย ไม่ได้ push อะไรตรงนี้ (เพราะลึกๆ ก็เกรงว่า เด๋วจะกลายเป็น ไปหาว่าดูถูกเค้าอีก ) ผม นั่งดูคลิป ซักห้านาทีแรก จากที่บันทึกมา ราวๆ ชม. โดยเป็น ตอนที่เราไปถึง และคุยกัน ปรับจูนเรื่องราวกันแล้ว ผมรู้สึกบรรยากาศ เป็นกันเองมีรายละเอียด ต่างๆ ดี ได้ปรับจูนความเข้าใจ และกติกัน ดี เด๋วจะ ตัดมา  อัพโหลด You Tube แปะให้ ดูกัน ครับ ผมว่า มันดู ดีด้วยกันทุกฝ่าย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:25:08

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณหมอเจที่ฆ่าเห็บหมาตายคาทีวี ต่อจากนี้ก็อยากจะเห็นรายการคลับ 7 ออกมารับผิดชอบการกระทำของตัวเองหน่อย power mind drift เห็บหมาดริฟ เดี๋ยววันนี้ไปติดจานดาวเทียมดีกว่า ยังไม่มี thaicom c band เลย มีแต่ ubc จากคุณ : SkillFull เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:33:38

ความคิดเห็นที่ 86 จาก 300 กว่าเหลือ 25 นาที 2 วันกับอีก 1 คืนผ่านไป (คนตัดต่อเริ่มนั่งสนทนากับคอมพ์ อย่างออกรสชาติ..เพราะเป็นคนไปถ่ายด้วย) ขณะนี้เทปรายการตอน "ภารกิจลองของ กับ powermind camp" อยู่ในมือผมเรียบร้อยแล้วครับ วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคมนี้...เชิญร่วมจบภารกิจพร้อมกันทั่วทวีปครับ จากคุณ : เหรียญสามด้าน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:34:01

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณ ทีมงาน ความเห็น 86 ที่แวะมาส่งข่าว ทำได้ ไง จากเมื่อวานค่ำตัดต่อเสร็จแล้ว ผมพิมพ์เล่า ยังซัดไป ถึงตีสี่ แน่ะ อิๆ เด๋วผมชิง ลงคลิป เล็กๆ น่ารักตอนเรา เจรจากัน ก่อนนะ อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:40:03

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณ คุณหมอ ที่ออกมาพิสูจน์ความจริงให้ได้รู้กันด้วยครับ หวังลึกๆให้มีการจัดการกับขบวนการหลอกลวงแบบนี้ด้วยเถ๊อะ ! เหอๆ ปล. ไปดูเว็บคุณหมอมา Hayabusa สวยมากครับ อยากได้ ^^" จากคุณ : BluesyArM เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:43:44

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณ คุณหมอและทีมงานครับที่ช่วยกัน หวังอยู่ว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์  จะช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง  เจียดเอางบฯ มาทำสารคดีสั้นๆก็ได้   ไม่งั้น เราก็จะอยู่ในสังคมอุดมงมงายต่อไป อยากมีความสามารถเหนือมนุษย์ก็ไป megamindcamp อยากหายจากโรค ก็กินน้ำยา ป้าเส็งเคร็ง อยากสมองดีก็กินน้ำ B12 ของลุงอู๊ดคาราบวม เราก็ทำได้ในส่วนที่เราเอื้อมถึง  พยายามนำข้อมูลเหล่านี้บอกคนใกล้ตัว แต่วงกว้างคงสู้สื่อกระแสหลักไม่ได้ เป็นไปได้ไหมว่าเราจะเอาข้อมูลเหล่านี้ส่งให้รายการดังๆ ดังกล่าวนำเสนอข้อเท็จจริงเหล่านี้เพื่อลบล้างความเข้าใจผิด ที่เขาเคยนำเสนอ จากคุณ : Ganja เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:44:39

ความคิดเห็นที่ 90 http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=1e2d8b7431805017 เราช่วยกันได้ คนละไม้คนละมือครับ กระจายๆ หรือแก้ไขข่าว ตามที่ต่างๆไป คนละเล็กละน้อย จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:47:16

ความคิดเห็นที่ 91 http://www.powermindcamp.com/main/modules/news/ อ่านนามสกุลดู สิ้นหวังแล้วประเทศไทย ปัญญารชุน ริ้มทองกุล บลาๆๆๆๆ จากคุณ : SkillFull เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 13:50:03

ความคิดเห็นที่ 92 ผมสงสัยความสัมพันธ์ของ powermindcamp กับหมอแซม ดูเหมือนจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่ http://www.dek-geng.com/ http://www.samsixthsense.com/ อีหมอนี่จะตามเชียร์ pmc ตลอด รวมทั้งคลิปโปรโมต pmc ต่างๆ บนยูทูปก็หมอนี่เป็นคนโพส เหมือนเป็นหุ้นส่วนหรืออะไรสักอย่าง ระวังให้ดีเหอะ แล้วจะรู้พิษสงการขุดคุ้ยของชาวอินเตอร์เน็ต จากคุณ : ปลากวน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 14:04:35

ความคิดเห็นที่ 93 จากการที่ไปดูมาเมื่อวานนะครับ พอดีผมไปดูช่วงบ่ายไม่ได้ดูตอนถ่ายทำ เพราะต้องกลับก่อน แต่บอกได้อย่างนึงครับ ต่อให้เด็กทำได้ เค้าก็ทำไม่ได้หรอกครับ (แต่ผมว่าจริงๆก็ทำไม่ได้เหมือนกัน) จากที่ดูจากห้องโถงข้างนอก ผมรู้สึกว่า คุณหมอกดดันเด็กทางอ้อมนะครับ ผมรู้ว่าหมอไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แต่เป็นเพราะคุณหมออยากให้มั่นใจว่าพิสูจน์อย่างถูกต้อง แต่จะกลายเป็นว่าเด็กเครียดครับ จากที่เด็กทำได้ก็จะทำไม่ได้ พอถึงช่วงรูบิค ผมเห็นขณะที่เด็กกำลังปิดตาหมุนรูบิค คุณหมอกับคุณตันคุยอะไรกันไม่รู้ เกี่ยวกับเด็ก ยื่นมือไปทางเด็กในขณะที่เด็กกำลังปิดตาหมุนรูบิคอยู่ แล้วเด็กจะมีสมาธิได้อย่างไรกัน และในด้านคุณตันที่คุยด้วย ผมคิดว่าเค้าจะให้ความสำคัญในเรื่องสมาธิเด็กซะอีก แต่กลับคุยเรื่องอะไรไม่รู้กันอยู่สองคน (ส่วนจะคุยเรื่องอะไรนั้น ผมไม่นับเรื่องนี้นะครับ) อยากให้หมอเจทำบรรยากาศในห้องนั้นให้น้องเค้ารู้สึกกดดันน้อยลงน่ะครับในตอนนั้น เพื่อที่ว่า เด็กจะได้พร้อมและยอมรับว่าทำไม่ได้จริงๆ รวมถึงพ่อแม่ของน้องๆเค้าด้วย แต่ถ้าตอนถ่ายทำบรรยากาศไม่เหมือนแบบที่ผมดูตอนก่อนถ่ายทำ ข้อความที่ผมพูดถึงนี้ก็เว้นข้อความที่ผมพูดถึงข้างบนได้เลยครับ ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยจนจบครับ พอดีต้องแวะที่บ้านแล้วกลับมากรุงเทพก่อนจะมืด เพิ่มเติมความเห็นนะครับ ถ้ามีถ่ายทำอีกให้น้องเค้าอยู่ในห้องคนเดียวแล้วเราตั้งกล้องไว้ แล้วดูทางนอกห้อง แต่ลูกปัด ให้น้องเค้าหันหลังหยิบขึ้นมากำไว้แล้วทายสีให้เราได้ยิน แล้วค่อยแบมือดูก็ได้นี่ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 14:18:40 จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 14:11:20

ความคิดเห็นที่ 94 สรุปว่า มี พ่อแม่ เด็กคนไหน เลิกความคิดที่จะส่งลูกไปเรียนบ้างหรือยังครับ หรือยังคิดว่า หาคลื่นไม่เจอ อยู่ จากคุณ : ceobank เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 14:12:16

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณคุณหมอเจและทีมงานสำหรับภารกิจนี้ และสำหรับการรายงานข่าวยันเช้านะคะ ขอบคุณ ทีมงาน เหรียญสามด้านความเห็น 86 ที่แวะมาส่งข่าวด้วยค่ะ ห่วงสภาพจิตใจของเด็กระหว่างการทดสอบเหมือนกัน แต่อ่านคห.52แล้วสบายใจขึ้นเยอะเลย ขอบคุณหมอเจด้วยค่ะ ที่ให้ความสำคัญกับตรงนี้ จากคุณ : HeLL_Is_HeRe เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 14:46:12

ความคิดเห็นที่ 96 มืออาชีพจริงๆ ครับ ตัดต่อได้เร็วมาก จะรอรับชมนะครับ แต่คงต้องทาง Youtube คร้าบ จากคุณ : Merion เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 14:46:48

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณทีมงาน และคุณหมอเจ สำหรับเรื่องราวดีๆมากครับ ^^ จากคุณ : คุณชายไข่เจียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:00:46

ความคิดเห็นที่ 98 -*-   ไอ้ใช้สมองส่วนกลาง ถ้ามันใช้แล้วมีความสามารถไม่ต่างจากใช้ตามองเลย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรครับ ใช้ตามองง่ายกว่าเยอะ   ปล.  ชื่นชม หมอเจมากๆ จากคุณ : มิวกำลังจะครองโลก เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:02:28

ความคิดเห็นที่ 99 ผมอยากทิ่มตาเ้ด็กให้บอดจริงๆ แล้วให้ทดสอบดิ ถ้าทดสอบแล้วผ่าน จะจ่ายค่ารักษาตาให้ทั้งหมด พร้อมค่าทำขวัญด้วย อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะดริฟอย่างไรอีก จากคุณ : Kp เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:10:52 A:58.9.172.25 X: TicketID:218689

ความคิดเห็นที่ 100 เงื่อนไขเยอะมากจนไม่รู้ว่าจะไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างไร ผิดสี ผิดกลิ่น ผิดรูปร่าง อะไรก็ไม่ได้ทั้งหมดบังคลื่น ผมเชื่อแล้วจริงๆ ว่าในประเทศไทยการทำมาหากินที่ตั้งอยู่บนความเชื่อของคนนั้นเป็นธุรกิจที่ต้นทุนต่ำ ความเสี่ยงน้อย ราย ได้สูง แถมเมื่อมีคนโต้แย้งยังมีสาวกออกมารับหน้าแทนและยังแถไปได้เรื่อยๆ อีกด้วย ชนิดความลื่นของปลาไหลยังแพ้ และ เมื่อลองพิจารณาถึงนามสกุลผู้มีอปุการะคุณอันยิ่งใหญ่ภายในเว็บไซด์นั้นแล้ว ผมกล้าฟันธงเลยว่าเรื่องนี้ก็คงจะเงียบหายเข้า กลีบเมฆไปเหมือยอย่างกรณีอื่นๆ ที่ผ่านมา เช่น GT200 ...ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำได้อย่างมากที่สุดก็คือการบอกบุคคลรอบ- ข้างของเราและบอกเตือนสมาชิกในครอบครัวไม่ให้เข้าไปตกเป็นเหยื่อของธุรกิจหลอกลวงเช่นนี้ได้เท่านั้น การที่จะหวังว่าการ เปิดเผยความจริงเช่นนี้จะสามารถล้มล้างและเปิดโปงธุรกิจสิบแปดมงกุฎให้ย่อยยับไปนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะขนาดภาครัฐ เองยังไม่กล้าลงมาเล่นเรื่องนี้ เราเป็นเพียงประชาชนธรรมดาทำได้แค่ตีแผ่ความจริงและบอกกล่าวกันไปเป็นทอดๆ เท่านั้นคง ไม่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้ ขนาดสื่อเองยังเอาไปเป็นเครื่องมือทางธุรกิจรูปแบบหนึ่งโดยออกรายการเพื่อ เรียกเรตติ้งเลย ผมว่ายุคนี้บางครั้งการเอาตัวรอดเพียงอย่างเดียวคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราพึงกระทำแล้ว ใครจะโง่ตกเป็นเหยื่อของ คนคดโกงบ้างก็คงต้องปล่อยไป จากคุณ : axquest เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:23:21

ความคิดเห็นที่ 101 แวะตอบความเห็นนี้ โดยเฉพาะ เพราะว่า มองจากนอกห้อง คงจะไม่ทราบเหตุการณ์ทั้งหมด ความคิดเห็นที่ 93 จากการที่ไปดูมาเมื่อวานนะครับ พอดีผมไปดูช่วงบ่ายไม่ได้ดูตอนถ่ายทำ เพราะต้องกลับก่อน แต่บอกได้อย่างนึงครับ ต่อให้เด็กทำได้ เค้าก็ทำไม่ได้หรอกครับ (แต่ผมว่าจริงๆก็ทำไม่ได้เหมือนกัน) จากที่ดูจากห้องโถงข้างนอก ผมรู้สึกว่า คุณหมอกดดันเด็กทางอ้อมนะครับ ผมรู้ว่าหมอไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แต่เป็นเพราะคุณหมออยากให้มั่นใจว่าพิสูจน์อย่างถูกต้อง แต่จะกลายเป็นว่าเด็กเครียดครับ จากที่เด็กทำได้ก็จะทำไม่ได้   อย่างที่บอก ครับ ทุกอย่างต้องรัดกุม ไม่งั้น ก็กลายเป็นช่องโหว่  แต่ไม่กดดันเด็ก ผมพยายามชวนเด็กคุย และ ปลอลตลอด ให้รู้สึกกันเอง เด็กส่วนใหญ่ ก็ยิ้มแย้มกันดี ระหว่างทดสอบ พอถึงช่วงรูบิค ผมเห็นขณะที่เด็กกำลังปิดตาหมุนรูบิค คุณหมอกับคุณตันคุยอะไรกันไม่รู้ เกี่ยวกับเด็ก ยื่นมือไปทางเด็กในขณะที่เด็กกำลังปิดตาหมุนรูบิคอยู่ แล้วเด็กจะมีสมาธิได้อย่างไรกัน และในด้านคุณตันที่คุยด้วย ผมคิดว่าเค้าจะให้ความสำคัญในเรื่องสมาธิเด็กซะอีก แต่กลับคุยเรื่องอะไรไม่รู้กันอยู่สองคน (ส่วนจะคุยเรื่องอะไรนั้น ผมไม่นับเรื่องนี้นะครับ) ตอนนั้น เราคุยกำลังทดสอบแว่นกันครับ โดยน้องเค้าบอกว่าให้ผม จับแว่นเข้าที่ เค้าจะดึงสายคล้องศรีษะเค้าเอง ก็โอเคตามนั้น แล้วให้ผมจัดแว่นเข้าที่สนิทมั้ย  แต่ พอเข้าที่ น้องเค้า ทดสอบขยับคิ้ว  ขยับตา ยักคิ้ว ย่นจมุกไปไปมา จนเห็นช่องโหว่าตามที่บอก เราขอว่า ไม่ขยับได้ มั้ย ไม่งั้นมีรูรอดช่อง   แต่ทางฝายเค้า บอกว่า ไม่ได้ เด็กต้องหาคลื่น สรุป อันนี้ ผมเลย บอกว่า ถ้าอันนี้ ไม่ตองบิดครับ มีรู เรารับ ไม่ได้ และสุดท้าย คือ ยกให้ไปเลย ไม่ต้องทดสอบ เอาแค่ ลูกปัดอย่างเดียว ดูจากข้างนอกเลยอาจจะติดว่า มีการรบกวน ขณะทำการทดสอบ แต่จริงๆ แล้ว น้องเค้าไม่ได้ บิดรูบิคเลยครับ  อยากให้หมอเจทำบรรยากาศในห้องนั้นให้น้องเค้ารู้สึกกดดันน้อยลงน่ะครับในตอนนั้น เพื่อที่ว่า เด็กจะได้พร้อมและยอมรับว่าทำไม่ได้จริงๆ รวมถึงพ่อแม่ของน้องๆเค้าด้วย   ตามนั้นเลยครับ เราคอยพูดให้กำลังใจน้องกัน ปลอบน้องเวลาทำไม่ได้ แต่ไม่พูด ตอนน้องเค้าทดสอบ เพราะว่าเกรงจะรบกวนสมาธิ เค้า อันนี้ ทีมงานของเค้า ซึ่งอยู่ ในนั้น ประมาณห้าคน แต่มีผมคนเดียว เค้าก็ไม่มีใคร ว่ากัน   มีแต่ที่ บอกคือ คุณตัน บอกว่าเด็กอาจจะกลัวผม ได้ยินชื่อหมอเจก็กลัวกัน กลายเป็นข้อที่ เค้ายกมาให้ผม ห่าง ออก และออกห้อง แม้เด็กจะยังยิ้มแย้ม กันดี แถม ก่อนไป บอกว่า รอเอาตังค์ลุงหมอเจกัน ซะอีก อิๆ    แต่ผมเอง คิดว่า ไม่มีปัญหา ก็ยอม ทุกอย่างตามที่บอกไว้ แต่ถ้าตอนถ่ายทำบรรยากาศไม่เหมือนแบบที่ผมดูตอนก่อนถ่ายทำ ข้อความที่ผมพูดถึงนี้ก็เว้นข้อความที่ผมพูดถึงข้างบนได้เลยครับ ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยจนจบครับ พอดีต้องแวะที่บ้านแล้วกลับมากรุงเทพก่อนจะมืด เพิ่มเติมความเห็นนะครับ ถ้ามีถ่ายทำอีกให้น้องเค้าอยู่ในห้องคนเดียวแล้วเราตั้งกล้องไว้ แล้วดูทางนอกห้อง แต่ลูกปัด ให้น้องเค้าหันหลังหยิบขึ้นมากำไว้แล้วทายสีให้เราได้ยิน แล้วค่อยแบมือดูก็ได้นี่ครับ   ตอนหลังเค้าก็ทำ คล้ายๆ แบบนั้น อย่างที่ผม บอกไว้ข้างบน ทุกคน ออกมาหมด เหลือแต่กล้อง และพิธีกร ดูกันเอง ผมก็ยังยอม ยอมจน พรรคพวก  เริ่ม เสียว ว่า มากเกินไปหรือปล่าว แล้ว ครับ   ขอบคุณ นะครับ ที่สงสัย แล้ว บอกผมเลย ได้ชี้แจงอีกที จะได้ ไม่เข้าใจผิดกัน แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 14:18:40 จากคุณ : Akexorcist จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:32:39

ความคิดเห็นที่ 102 มาตามผลครับ ชื่นชมคุณหมอมาก ๆ ครับ ที่ไม่นิ่งเฉยกับเรื่องแบบนี้ จากคุณ : angel of music เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:36:05

ความคิดเห็นที่ 103 รูบิค นี่ไม่ต้องปิดตาผมก็ว่ายากอยู่แล้ว - - สำหรับผมนะ... แต่ ผลสรุปคือ โกหกหรือไม่ไม่รู้ แต่การไปออกทีวีต่างๆ แล้วมีคนหลงเชื่อ ทั้งๆที่ทำจริงๆไม่ได้ตามพิสูจน์.. แล้วได้รับผลประโยชน์ไปเท่าไหร่ เท่ากับ ฉ้อโกงประชาชนรึเปล่าล่ะนั่น จากคุณ : ลูกหมูหัดกลิ้ง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:52:36

ความคิดเห็นที่ 104 ขอลงอีกรอบครับ เงินแสนที่กลับไม่ครบ มันมาอยู่ที่ ณ สถานที่แห่งนี้ครับ ก่อนกลับ... จากคุณ : ไม่ยึดติด เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:54:56

ความคิดเห็นที่ 105 ูู^ ^ ^ ตัวแทนชมรมรูบิคแห่งประเทศไทยทั้งนั้น คนซ้ายนี่แชมป์ประเทศไทย อันดับ 5 ของโลกเลยนะครับ ไปร่วมท้าพิสูจน์กัน ของคุณทีมงานทุกท่านครับ โดยเฉพาะคุณหมอเจ ที่ ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ถ้ามาอีกรอบก็โทรหาได้นะครับ ยินดีเข้าร่วมพิสูจน์กันอีก .... จากคุณ : ไม่ยึดติด เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:58:15

ความคิดเห็นที่ 106 มาแปะคลิป วีดีโอเพิ่มให้ ครับ ปล.คุยกับน้องๆที่ไปด้วยเพิ่มเติม บอกว่า เหมือนมีการจัดฉาก ให้ดู ว่ารังแกเด็กข้างนอกให้ผุ้ปกครองเห็นอย่างไรก็ไม่ทราบ ประมาณ ว่า เด็กออกมาจากห้อง เรียกร้องหาน้ำแข็งประคบตา บอกตาช้ำแล้ว จาก Goggle ทั้งที่คน ตกลงว่าจะให้ใส่ Goggle มีคนเดียว คือ น้อง เควินที่จะบิดรูบิค แต่ พอ ผมเห็นปัญหา เลยยกให้เลยไม่ต้องบิด คนที่เหลือ ที่มาดมไพ่ ก็ใช้ผ้าเค้า ตามถนัด (เข้ามาแก้ไข ตรง เรื่องปิด Goggle ตอนซ้อม ล้วงลูกปัด หลังจากไล่ดูคลิป ลำดับเหตุการณ์ ทำให้เห็นว่า มีน้อง อารีน่าอีกคนที่ใช้ปิด แต่เป็นการขอปิดโดยน้องเอง  ทั้งที่ ตอนนั้นเรา บอกแล้ว ว่า ปล่อยอิสระให้ เปิดตา เล่นก็ได้ ปิดผ้าแดง ก็ได้ แต่น้องอยากได้ Goggle ด้วย ตอนแรก รองผ้าแดง ด้วย แต่ตอนหลัง ขอใช้แต่ Goggle ลองเองหลายครั้ง ที่ทั้งที่เกมส์นี้ เราบอกแล้ว ลูกปัดในถุง เล่นตามสบาย เปิดตาก็ได้ เข้ามาแก้ให้ถูกต้อง กับ เหตุการณ์  คับ จำผิด บ้าง เพราะว่า ผมคนเดียว รับมือกับหลายคนทางฝ่าย PMC ตลอดจน เด็กๆ ก็วนเข้ามากันหลายคน  หลายรอบ ทั้งจริงๆ และซ้อม  และต้องพิจารณา ข้อเสนอ ต่อรองที่เค้าเสนอมาตลอด เวลา เลย จำลืมไปมั่ง อิๆ)    คนหยิบลูกปัด ก็ให้ เลือกตามชอบ จะปิดผ้า หรือ ไม่ปิดก็ได้ ผมให้อิสระ มีแค่น้องบางคน ขอเลือกใส่แว่น เอง ก็ปล่อยเค้าตามใจ แต่กลายเป็นเหมือนสร้าง ให้ดูเรากดดันเด็ก ส่วนเด็กร้องไห้  นี่ ผมไม่รู้เค้าเสียใจทำไม่ได  หรือ จากอะไร แต่ให้ข้อสังเกตุ ว่า เกือบทุกคน ขอกลับมา ทดสอบกันซ้ำใหม่ อีกหลายรอบ หลายคน ขอผู้ปกครองเข้ามาด้วย เราก็ยินดี ให้เข้ามาดูภายใน กันหมด ทำให้อดคิดไม่ได้ ว่านี่คือแผนสำรอง ของเค้าหรือป่าว ทั้งที่ในห้องที่ เราทดสอบกันนั้น ทุกอย่างไปสบายๆ ทั้งหมด ทำไม่ ข้างนอก กลับ สร้างภาพอย่างนั้น มาดูคลิปบรรยากาศ สบายตอน คุยกันนอกรอบ ตกลงกติกา ยังไม่ได้เริ่มบันทุกเทป จริงๆๆกันครับ กันล่ะกัน/FONT> แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 53 21:31:50 จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 16:01:15

ความคิดเห็นที่ 107 ทางชมรมรูบิคได้โชว์ปิดตาหมุนรูบิคให้ชมไหมครับ จากคุณ : SkillFull เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 16:05:08

ความคิดเห็นที่ 108 พวกรายการก่อนหน้าที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ มันน่าโดนด่าบ้างนะครับ มีใครจะเอาไปตั้งในห้องเฉลิมไทยรึเปล่าครับ จากคุณ : Hephaestuz เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 16:11:44

ความคิดเห็นที่ 109 #99 เด็กคงบอกว่าหนูไม่ใช่ "ชิริว" นะ จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 16:19:23

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณมากครับคุณหมอเจ สำหรับข้อเท็จจริงและการพิสูจน์ครับ จากคุณ : SaFax เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 16:23:22

ความคิดเห็นที่ 111 การ clip 106 คุณจุ๊นี่อย่าคุยโทรศัพท์ในห้องทดสอบสิ มันส่งคลื่นรบกวนเด็กนะ อิอิ จากคุณ : Hephaestuz เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 16:28:42