ประชุมใหญ่ ปชป.ประกาศ 15 ยุทธศาสตร์ ตั้งธงกลับเป็น รบ. ยึดท้องถิ่น ขยายแนวร่วมการเมือง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มีนาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้รับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2554 รายงานการดำเนินกิจกรรมของพรรคในรอบปี 2554 รับรองงบการเงิน ตามข้อบังคับพรรคข้อ 119 แต่งตั้งผู้สอบบัญชีพรรค พิจารณาแก้ไขข้อบังคับพรรค พิจารณาแผนการใช้เงิน แผนการดำเนินงานประจำปี 2556 ตามยุทธศาสตร์ 4 ปี พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการ 3 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง คณะกรรมการนโยบายพรรค และคณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรค ซึ่งมีวาระ 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการลงคะแนนที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น โดยนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส ปชป. เสนอความเห็นว่า อยากให้ที่ประชุมเลือกคณะกรรมการการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง มาจากบุคคลที่อยู่นอกโครงสร้าง ที่สามารถนำพาพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยต้องเป็นคนรอบรู้ มีวิสัยทัศน์และมีบารมี จึงขอเสนอรายชื่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 9 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นให้มีชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค เป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อด้วย แต่นายสุเทพ ลุกขึ้นขอถอนตัว ทำให้ข้อเสนอตกไป จากนั้นที่ประชุมได้เปิดให้สมาชิกลงคะแนนลับเพื่อเลือกกรรมการทั้ง 3 ชุด ปรากฏว่า คณะกรรมการการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง มีผู้ได้รับการคัดเลือก ดังนี้ 1.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 2.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน 3.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน 4.นายกรณ์ จาติกวณิช 5.นายอลงกรณ์ พลบุตร 6.นายนิพนธ์ บุญญามณี 7.นายถาวร เสนเนียม 8.นายวิฑูรย์ นามบุตร และ 9.นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู
ต่อมาที่ประชุมได้ประกาศยุทธศาสตร์พรรค ใน 4 ปี นับแต่ปี 2555-2558 เพื่อให้พรรค ในฐานะที่เป็นพรรคแห่งชาติ มีบทบาทในเวทีสากล และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วประเทศ สามารถเอาชนะการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากในสภา เพื่อเป็นรัฐบาลนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยการพัฒนาฐานสนับสนนพรรคให้มั่นคง จะดำเนินการตาม 15 ยุทธศาสตร์ดังนั้น
1.สมาชิกพรรคมีอุดมการณ์ เข้มแข็ง ทุ่มเทรับใช้พรรค โดยจะขยายฐานสมาชิก
2.ขยายแนวร่วมทางการเมือง มุ่งเป้าไปยังสาขาอาชีพต่างๆ
3.สาขาพรรคเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ เพื่อรับภาระงานการเมืองในเขตพื้นที่
4.ระดมความคิดในแนวทาง เครือข่ายสมัชชาประชาชน-ประชาธิปัตย์ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ยืนหยัดรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5.ท้องถิ่นเข้มแข็ง ประชาธิปไตยมั่นคง
6.จัดกลุ่มจังหวัดเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานการเมืองของพรรค
7.พรรคเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
8.พรรคของมวลชนที่มีฐานการเงินมั่นคง ให้มีคณะกรรมการบริหารเงินทุนและมีหน่วยงานเฉพาะ ทำหน้าที่รณรงค์ระดมทุนหารายได้เข้าสู่พรรคโดยวิธีการถูกต้อง เปิดเผย โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ โดยคณะกรรมการฯดังกล่าว เป็นผู้วางแผนจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุน หารายได้จากการสนับสนุนของประชาชน เพื่อให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง
9.การประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างเป็นระบบ เน้นบทบาทผลงานของพรรค ทิศทางการแก้ปัญหาของประชาชน ที่เรียกว่า วาระประชาชน
10.เตรียมความพร้อมเพื่อการเลือกตั้งทั่วไป จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้ง มีแผนระยะสั่น กลางและยว เตรียมความพร้อมของผู้สมัคร การทำงบประมาณการเลือกตั้งและอื่นๆ
11.พรรคเข้มแข็งมีประสิทธิภาพเป็นที่พึ่งของประชาชน
12.ส่งเสริมความรร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระดับนานาชาติ
13.นโยบายพรรคทันสมัย พร้อมเป็นรัฐบาลที่ดี
14.ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรค สนับสนนการเมืองภาคประชาชน และ
15.องค์กรพรรคเข้มแข็ง พรรคแข็งแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนการใช้จ่ายเงินปี 2556 นั้น มีการทำเอกสารแจกให้สมาชิกรับทราบแผนการใช้จ่ายเงินตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวรวม 151 ล้านบาท เพื่อจัดอบรมสมาชิกพรรค ยุวประชาธิปัตย์ พัฒนาสาขาพรรค รวมถึงการจัดโครงการสมัชชาประชาชนที่จะมีขึ้นที่อิมแพคเมืองทองธานี สำหรับงบประมาณที่ใช้มากที่สุดจะอยู่ที่แผนการดำเนินงานการพัฒนาสาขาพรรคให้เข้มแข็ง วงเงิน 35.2 ล้านบาท ในส่วนการขยายฐานสมาชิกพรรควงเงิน 22 ล้านบาท และยังมีแผนงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์อีก 20 ล้านบาทด้วย นอกจากนี้ ในการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ยังได้จัดเวทีสมัชชาประชาชน รวมพลังเดินหน้าประเทศไทย ควบคู่ไปด้วย ที่อาคารอิมแพคเมืองทองธานี โดยมีตัวแทนกลุ่มอาชีพต่างๆ กว่า 300 คน รวมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางในการออกแบบประเทศ ก่อนที่จะมีการประกาศเจตนารมณ์เกี่ยวกับจุดยืนของพรรคต่อสถานการณ์ของประเทศโดยนายอภิสิทธิ์ ในวันที่ 31 มีนาคมนี้
ด้านนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการวางยุทธศาสตร์ ปชป. ว่า เป็นความระดมความคิดเห็นของประชาชนเพื่ออนาคตของประเทศ เพราะขณะนี้คนจำนวนมากทราบดีว่า เราอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะการเมืองกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์ เป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจอย่างเดียว ปัญหาเศรษฐกิจถูกทิ้งไว้ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมในระดับโครงสร้างไม่ได้รับการแก้ไข โดย ปชป.จะหารือถึงการออกแบบประเทศไทย เพื่อให้เห็นว่าอนาคตของประเทศไทยที่ควรจะเป็น เป็นอย่างไร เพื่อนำไปสู่การเดินหน้าร่วมกัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1333091858&grpid=00&catid=&subcatid=
-----------------------------------------
เป็นทิศทางที่ดีนะครับ นี่อาจเป็นนิว-ประชาธิปัตย์ในยุคของอภิสิทธิ์จริงๆ ก็ได้ หากพรรคฯกล้าเอาประชาชนรากหญ้าเป็นตัวตั้งจริงๆ ไม่ใช่ในฐานะ"ฐานเสียง"ของพรรคฯ แต่ในฐานะของผู้ร่วมคิดและเสนอนโยบาย และผู้ร่วมผลักดันนโยบายของพรรคฯ 
แล้วผมเชื่อว่า หากทางพรรคฯจริงใจที่จะ"ออกแบบประเทศไทย"จริงๆ ประเด็นข้อเสนอต่างๆที่ท่านอดีตนายกฯอานันท์และท่านอาจารย์หมอประเวศเคยเสนอเอาไว้ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ มันจะประเดประดังเข้ามาเอง ถึงตอนนั้นหากพรรคฯ"กล้า"เอาประชาชนและประเทศชาติเป็นตัวตั้งจริงๆ ผมเชื่อว่า พรคคฯจะได้รับเลือกตั้งถล่มทลาย