Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คำบอกเล่า : ประสบการณ์ในวัดพระธรรมกาย ติดต่อทีมงาน

มีนักศึกษาท่านหนึ่ง ถูกบังคับกลายๆ จากอาจารย์ ให้เข้าไปปฏิบัติธรรมใน วัดไชยบูลย์ เพื่อจะได้คะแนน “จริยธรรม” ผมจึงแนะนำให้เก็บบันทึกข้อมูลไว้ เพื่อที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์ ท่านผู้อ่านท่านนั้น หมดภารกิจแล้ว จึงส่งข้อมูลมาให้ผม มีตัวอย่างที่พอจะนำเสนอในที่นี้ ดังนี้ 

สวัสดีครับ 

มาตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว หลังจากที่ผมได้ไปอบรม-ปฏิบัติธรรมที่ วัดพระธรรมกาย มาทำให้ผมได้ซาบซึ้งถึงบารมี หลวงพ่อธัมมชโย ผู้ซึ่งยิ่งใหญ่มากใน นิพพานภพ สามโลกันต์ ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามกัน อิอิ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า 

กิจกรรมในแต่ละวันที่ให้เราทำ มีการออกกำลังกาย ทำวัตรเช้า-เย็น สวดมนต์นั่งสมาธิ ถือศีล 8 อบรมวัฒนธรรมชาวพุทธ เช่น การแต่งกาย เก็บที่นอน การกราบ-ไหว้ การฟังธรรมจากพระอาจารย์

การดูรายการ โรงเรียนอนุบาลในฝันวิทยา และ การปลูกฝังเรื่องหมู่คณะ-ที่สุดแห่งธรรม-ดุสิตบุรี-มหาปูชนียาจารย์-การสร้างบารมี 

อาหารการกินที่วัด ก็เป็นปกติทั่วไปครับ ข้าวหมูทอด ผัดเผ็ดอะไรตามธรรมดา ห้องน้ำที่อยู่สะอาดดีครับ 

ผมจะพยายามสรุปประเด็นของวัดพระธรรมกาย ให้นะครับ จะได้ไม่เป็นการเล่าไปเรื่อยๆ อย่างจับประเด็นไม่ถูก เพราะผมเล่าไม่เก่ง ทุกๆ ประเด็นที่ได้มา ผมและเพื่อนไม่กี่คน พยายามถามเพื่อจะให้ได้ประเด็นมา ดังนี้นะครับ 

1. ข้อแรกเลยครับ พระอาจารย์ (ผมขอเรียกว่า หลวงพี่กวี) ได้เล่าเรื่องประวัติการสร้างบารมีของหมู่คณะ มีการกล่าวถึงประวัติของ พระธัมมชโย ดังที่ ดร. มนัส เคยกล่าวไว้ว่า มีการเล่าให้ดูดี ดูน่านับถือ 

หลวงพี่กวี ท่านก็คงไม่ได้จงใจหลอกเรา แต่คงเป็นการเล่าต่อๆ กันมาน่ะครับ มีการเล่าที่น่าสนใจ คือ ช่วงที่มีสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงพ่อวัดปากน้ำ ได้สั่งให้ คุณยายจันทร์ ไปตาม หลวงพ่อธัมมชโย มา 

ประมาณว่า ให้ไปอาราธนาพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ซึ่งมีบารมีสูงมาช่วยสืบทอดวิชาธรรมกาย และประมาณ พ.ศ.  2497  5 ปี ก่อนที่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ จะมรณภาพ 

และสั่งไม่ให้คุณยายไปไหน ให้รอผู้สืบทอดวิชาธรรมกายที่วัดปากน้ำนี้ หลังจากที่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ มรณภาพ คุณยายจันทร์ ก็ได้ทำตามคำสั่งที่หลวงพ่อสั่ง ให้รอผู้สืบทอดวิชาธรรมกาย 

ตรงนี้มีการกล่าวเสริมเรื่อง หลานชายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่เคยดูแลหลวงพ่อ ตอนอาพาธว่า หลวงพ่อสด พูดว่า “ผู้สืบทอดวิชาธรรมกายเป็นคนเมืองสิงห์บุรี มีวิชาธรรมกายเด่นมาก คนนี้จะเผยแผ่วิชาธรรมกายไปทั่วโลก” ตรงนี้ก็ยืนยันกันว่าเป็น พระธัมมชโย 

นอกจากนั้น มีการกล่าวว่า “หลวงพ่อธัมมชโย เป็นหนึ่งเดียวกันกับหลวงปู่” คือ กำลังจะสื่อออกมาว่า ท่านทำวิชชาซ้อนกันลงมาตลอดเวลา 

2. เรื่องคุณยายจันทร์ “เป็นหนึ่งไม่มีสอง” เป็นหัวหน้าเวรทำวิชชา เป็นผู้ที่มีธรรมกายแก่กล้ามาก ตามที่ ดร.มนัส เคยวิจารณ์ไปแล้ว ตรงนี้ยังมีการกล่าวถึง จนเป็นที่ติดปากเลยว่า คุณยายอาจารย์เป็นหนึ่งไม่มีสอง

3. เรื่องมหาธรรมกายเจดีย์ มีการเปิดวิดิทัศน์ การสร้างธรรมกายเจดีย์ และมีการพูดเสริมถึงหลักวิชาด้วยว่า ครั้งนั้น หลวงพ่อธัมมชโย คิดที่จะสร้างพระเจดีย์ใหญ่ทรงสูง แต่เมื่อตรวจสอบกับทางราชการแล้วปรากฏว่า เป็นพื้นที่อยู่ใกล้ดอนเมือง สร้างไม่ได้ 

ตอนนั้น หลวงพ่อธัมมชโย ได้ไปนั่งทำวิชชาที่ ดอยสุเทพ และ ได้ค้นวิชาไป จึงพบว่า จริงๆแล้ว ธาตุธรรมฝ่ายพระของเรา มีขุมกำลังซ่อนอยู่ในที่สุดละเอียด ลักษณะคือทรงโดม มีพระธรรมกาย กายเนื้ออยู่มากมาย จึงได้คิดริเริ่มสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ขึ้น 

เพราะเมื่อสร้างแล้ว อานุภาพของเจดีย์ที่จำลองมาจากขุมพลังฝ่ายพระ และมีลักษณะคล้ายอายตนนิพพาน จะทำให้โลกนี้เกิดสันติสุข เกิดกระแสธรรมกายฟีเวอร์ 

ดังในปัจจุบันที่เกิด โครงการบวชพระแสนรูป หลายครั้งหลายหน บวชอุบาสิกาได้เป็นล้าน เกิดการรวมสงฆ์ทั่วโลกนับแสนรูป และ สามารถเผยแผ่วิชาธรรมกายไปได้ทั่วโลก ก็เพราะอานุภาพฤทธิ์เดชของมหาธรรมกายเจดีย์ 

4. เรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ว่ามีการลงซ้อนวิชชากลั่นแก้เรื่องต่างๆ ที่รูปหล่อทองคำองค์แรก ที่มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (ที่หน้าวัดธรรมกาย ที่รูปทรงเหมือนธรรมกายเจดีย์แต่ไม่มีองค์พระ) และที่องค์ที่สอง ที่วิหารบ้านเกิด สุพรรณบุรี หากใครตาดี จะสามารถมองเห็นจักรแก้วใสๆ ลอยเต็มทั่วบริเวณวัดที่มหาวิหารพระมงคลเทพมุนีนั้น 

5. เรื่องดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ พระอาจารย์เล่าว่า ที่สวรรค์ชั้นดุสิต จะมีวัดอยู่ ภายในนั้นจะมี หลวงพ่อวัดปากน้ำ แม่ชีจันทร์ แม่ชีทองสุก และ ทีมทำวิชาธรรมกายชั้นสูง

ผู้ที่เป็นศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคน เมื่อละโลกไปจะไปอยู่ภายในวัดนี้ ที่ดุสิตใครที่อยู่ในวัดนี้จะเป็นภาคปราบ 

นอกวัดนี้ จะเป็นภาคโปรด โดยมีการสลับกันลงมา ระหว่างหลวงพ่อสด กับหลวงพ่อธัมมชโย เรียกว่า ลงมาสร้างบารมี 1 ครั้ง บางพุทธันดร ก็ลงมา 2 ครั้ง คือ หลวงปู่ลงมา-หลวงพ่อลงมา แล้วหลวงปู่ก็ลงมาอีก-หลวงพ่อก็ลงมาอีก เช่นพุทธันดรนี้ 

หลังจาก หลวงพ่อธัมมชโย ละสังขาร หลวงปู่จะนำอีกทีมลงมา พอหลวงปู่ละสังขารอีก หลวงพ่อก็จะลงมาอีก ครั้งนี้ที่ตาม หลวงพ่อธัมมชโย ลงมามีจำนวน ทั้งสิ้น 6 ล้านคนพอดี 

6. ผมได้พยายามถามถึง ดวงแก้ว เพื่อจะสอบถามถึงหลักวิชชาเรื่องจักรพรรดิ แต่สิ่งที่ได้รับ คือ พระบางรูปก็กล่าวว่า ดวงแก้ว เป็นเพียงนิมิตให้เข้าถึงธรรมกายง่ายขึ้น บางรูปก็ว่าในดวงแก้วมีกายสิทธิ์อยู่ ที่ต้องหล่อเลี้ยงด้วยบุญ กายสิทธิ์จะนั่งสมาธิอยู่ภายในดวงแก้ว และสามารถทำในสิ่งที่เราอธิษฐานได้ทุกอย่างถ้าเรามีบุญหล่อเลี้ยง 

7. การนั่งสมาธิของที่นี่ จะนั่งโดยการนึกถึงบุญบารมีที่ได้สั่งสมมา ให้ใจปลื้มปีติก่อน แล้วค่อยจรดใจไปที่ศูนย์ก็กลางกายฐานที่เจ็ดเลย ไม่มีการนั่งไล่จากฐานที่หนึ่ง แล้วท่องสัมมาอรหัง โดยให้เสียงออกมาจากศูนย์กลางกายนั้น นึกถีงดวงแก้วก็ได้ องค์พระสีอะไรก็ได้ หรืออะไรก็ได้ 

8. การทำบุญที่นี่ ต้องใช้คำว่า เยอะมากๆๆๆๆ เช่น การจะเป็นผู้แทนสาธุชน กล่าวถวายภัตตาหารนั้น ที่หอฉัน วันปกติ 30,000 บาท วันอาทิตย์ ที่สภาธรรมกายสากล 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท) 

เจ้าภาพกฐินถือผ้าไตร 1 ล้านบาท (ปีๆ นึงคนทำหลายพันคน)   แม้แต่การเดินเวียนประทักษิณรอบธรรมกายเจดีย์ เพื่ออัญเชิญรูปเหมือนทองคำหลวงพ่อสด เมื่อปีที่แล้ว ผู้แทนถือจักรแก้ว 20 ล้าน   ดวงแก้ว 10 ล้าน  ขุนพลแก้ว 5 ล้าน  ขุนคลังแก้ว 4 ล้าน  นางแก้ว 3 ล้าน  ช้างแก้ว 2 ล้าน  ม้าแก้ว 1 ล้าน 

หรือการร่วมบุญปกติ จะไม่มีการกำหนดขั้นต่ำก็จริง แต่มีจิตวิทยา โดยใช้คำว่า กองจิ๋ว 2 หมื่น กองเล็ก 1 แสน กองกลาง 1 ล้าน กองใหญ่ 5 ล้าน คนที่ทำไม่ถึง 2 หมื่น ก็เหมือนทำไม่ได้แม้แต่กองจิ๋ว มันเป็นจิตวิทยาครับ 

มีการสะสมยอดทำบุญ ด้วยครับ ครั้งละ 1 พันเป็นอย่างน้อย ทำ 1 พันได้บัตรสะสม 1 ใบ สะสมครบสิบใบ ได้พระของขวัญรุ่นนี้ ครบยี่สิบใบ, สามสิบใบ, …,ร้อยใบ ได้รุ่นนั้นรุ่นนี้ 

และ พระของขวัญ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พระของขวัญ ที่ทำมาจากมหาสิริราชธาตุ เป็นที่ต้องตาต้องใจของพระรุ่นหลังๆ เป็นอย่างมาก 

ผมเพิ่งทราบว่า พระมหาสิริราชธาตุ มีหลายรุ่น รุ่นเก่าแก่สุดๆ คือ รุ่นดูดทรัพย์ มีการนำออกมาให้ต่อบุญ คือ ทำบุญร่วมกับเจ้าของพระ เท่านั้นเท่านี้ แล้วเอาพระไป เงินนั้นก็ร่วมกับกองบุญของเจ้าของพระนั้น ตอนนี้มีการเล่นถึง องค์ละ 1 แสนบาท 

ดวงแก้วจุยเจีย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ที่เล่ากันว่า ผ่านการซ้อนวิชชาจาก คุณยายแม่ชีจันทร์ ราคาดวงละ 2 หมื่นบาท 

และที่กำลังอินเทรน ในขณะนี้ คือ พระของขวัญ ที่ทำจาก ภาชนะบูชาข้าวพระ รูปพระธรรมกาย 1 ล้าน 5 พันบาท  รูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ 1 ล้านบาท

(อีกหน่อยคงเอา โต๊ะมาทำพระ องค์ละสิบล้าน เพื่อนเพื่อนผม มันพูดขึ้นมา อย่างดังเลย)

 
 

จากคุณ : ราชมัล
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 19:00:44



http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2012/01/Y11592837/Y11592837.html



 
 

จากคุณ : ตรัยพล
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 21:58:52

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 9

ไม่ต้องห่วงฉัน

จากคุณ : จอมมารขาว
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 22:00:17

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 10

อ้าว !!!!!!


ผมทำกระทู้คุณราชมัล เจ๊งบ๊งไปแล้วเหรอครับ ?

จากคุณ : ตรัยพล
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 22:00:30

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 11

มหาธรรมกายเจดีย์ นี่มองยังไงก็เหมือน นมสาว เพิ่่งตั้งเต้า
สร้างมาได้ยังไง ดูยังไงก็ไม่น่าบูชา
คนคิดมันต้องมีจิตอกุศลด้วย
ถึงสร้างออกมาเป็นแบบนี้ได้

จากคุณ : 13th friday
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 22:06:49

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 12

"... มาตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว หลังจากที่ผมได้ไปอบรม-ปฏิบัติธรรมที่ วัดพระธรรมกาย มาทำให้ผมได้ซาบซึ้งถึงบารมี หลวงพ่อธัมมชโย ผู้ซึ่งยิ่งใหญ่มากใน นิพพานภพ สามโลกันต์ ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามกัน ... อิอิ" 




จากคุณ : ตรัยพล
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 22:20:14

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 13

รู้แต่ว่าวัดนี้เป็นที่ซ่องสุมกองกำลังแดง เอาไว้บ่อนทำลายประเทศ ก่อเหตุรุนแรง

จากคุณ : Transformation (TRANSFORMATION)
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:23:10

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 14

วันวันมัวแต่จับผิดชาวบ้าน คงได้ไปสรรค์
ผู้มีปัญญาจะมองแต่ข้อผิดพลาดของตัวเองเพื่อปรับปรุง
แต่ผู้ที่จ้องแต่จะจับผิดผู้อื่น นี่สงสัยว่ามีศาสนานับถือแน่หรือ

จากคุณ : คนมีเมตตา (brightheart)
เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:40:40

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 15

ตามความเห็นของ #14 สิ่งที่นำมาเสนอในกระทู้ เป็นเรื่องที่มีมูลความจริงหรือเปล่าครับ

ตั้งแต่พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าพระสมณะโคดมปรากฎขึ้นในโลกจนถึงกาลปัจจุบัน
ได้มีการสังคายนาพระธรรมวินัยมาหลายครั้งแล้ว สาเหตุของการสังคายนาประการหนึ่งคือ
พระภิกษุสงฆ์ประพฤติตนเหลวไหลไม่อยู่ในพระธรรมวินัยจนเป็นที่ติเตียน

ด้วยตรรกะเดียวกัน #14 คิดว่าการสังคายนาพระธรรมวินัยคือการจับผิดชาวบ้านด้วยหรือเปล่า

จากคุณ : ทุกวินาที
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:18:46

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 16

มักจะมีคำเชิญชวนจากพวกสาวกจานผี ประมาณว่า
"ขอไห้ลองเข้าไปดูเองในวัด ดีกว่าจะมาแสดงความเห็นในนี้"
อยากจะบอกบรรดาสาวกจานบินทั้งหลายว่า
ถ้าเข้าไปแล้วเจอแบบที่เขาเล่ามาข้างบนน่ะ

บอกได้เลยว่าจะไม่มีวันเข้าไปอย่างเด็ดขาด
และจะคอยบอกคนทั่วๆไปที่ยังไม่รู้ ได้รับรู้ จะได้ไม่โดนหลอก

อยากจะรู้นักว่า "พ่อคนวัด" จะเสนอหน้าเข้ามาแถอะไรอีก
เห็นชอบบอกนักว่า "อยากเจอคนที่ว่าถูกหลอกหน่อย"

จากคุณ : via iPad (ad law)
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:43:46

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 17

กระทู้นี้ ต้องบอกว่า คำบอกเล่า 1:1000คน ประสบการณ์ในวัดพระธรรมกาย นะจ๊ะ

จากคุณ : พัดลมเย็นๆ
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:57:00

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 18

ก่อนอื่นที่เข้ามาตอบ ไม่ใช่เพราะเป็นคนวัดหรอก และไม่ใช่
เพื่อช่วยเหลือวัด แต่เพราะยังมีความเห็นแตกต่างจากคนในนี้เท่านั้น

    แต่ก่อนก็คิดแบบคนในนี้คือ วัดระดมทุนหาเงิน มากเกินไป บ่อยไป
จนรู้สึกเพลียบุญ เมื่อถูกบอกบุญ หรือต้องไปบอกบุญ รู้สึกต่อต้านมาก
แต่ว่าตอนนี้ก็พอจะเข้าใจวัดบ้างแล้ว จึงย้อนกลับเข้าวัดมา และศึกษา
วิชชาธรรมกายต่อ

    เนื่องจากเพราะอะไร เมื่อกลับมาวัด ได้เห็นวัดขยายไปกว่าเดิมมาก
เริ่มเข้าใจว่า รายจ่ายมหาศาลนี้เอง ที่ทำให้วัดต้องเดินหน้าเรื่องบุญไม่หยุด
เมื่อทำธุรกิจแล้วเริ่มเข้าใจ ปัจจุบันจะทำอะไร มันต้องใช้เงินทั้งสิ้น ไม่ว่าวัด
หรือบริษัทไม่มียกเว้น วัดไหนไม่จ่ายค่าไฟก็ต้องจุดตะเกียงเหมือนกัน

    คราวนี้ก็มาอ่าน กระทู้ นี้ก็พบว่าที่มาก็คือ ดร.มนัส โกมณฑา นำมาเผยแพร่
อีกทีหนึ่ง เมื่อค้นคว้าดูแล้ว ดร.มนัส ก็คือผู้ที่ศึกษาวิชชาธรรมกาย เหมือนกัน
แต่คนละสายกับ วัดธรรมกาย  แต่เหตุไฉนขัดแย้งกันเองได้ เมื่ออ่านบทความ
ของ ดร.มนัส จะพุ่งเป้าไปที่วัดธรรมกายเสมอ ความจริงแล้วสายของ ดร.มนัส
จะมีภาคที่พิศดาร ของวิชชาธรรมกาย มากกว่าของวัดธรรมกายอีก

     ลองเข้าไปอ่านดู  
http://drmanaskomoltha.** ไม่ใช่ลิควิด **/

เช่น ภาควิชามรรคผลพิศดาร 2 เป็นต้น  ฉะนั้นเรื่องอื่น ๆ ของวัดธรรมกายเขา
คงจะพอรับได้ มีแต่เรื่องที่ระดมทุนหรือทำบุญจำนวนมากเท่านั้น ที่ต่างกันเนื่อง
เพราะมี ปณิธาน ไม่เท่ากัน ต่างกัน ก็เท่านั้นเอง
     
     มีอีกมากมาย ทั้งจริงทั้งเท็จในเรื่องของวิชชาธรรมกายเผยแพร่มากมาย
ในเวป ผู้เสพข้อมูล ไม่ควรให้ความสนใจเพราะจะทำให้บ้าได้  คนเข้าถึงธรรมกาย
ไม่ใช่ง่าย ๆ  เนื่องจากเป็นเรื่องของวิสัยผู้ได้ฌาณ ขึ้นไป เป็นอจินไตย 4 ใครจะ
นำมาเผยแพร่ควรระวังอย่างยิ่ง  แค่ปฐมมรรค ก็ยากมากแล้วขึ้นอยู่กับบุญวาสนาด้วย

      และคิดว่าผู้เข้าถึงฌาณ คงไม่มีในนี้หรอก เนื่องจากผู้เข้าถึง ต้องรักษาศีลเป็น
อธิศีลก่อน เพราะ ในเนตมีเหตุให้ศีลด่างพร้อยเยอะ ( ไม่ถึงขาด )  
     
       การศึกษาวิชชาธรรมกาย เพื่อเข้าถึง กายผู้รู้ภายใน เพื่อพิจารณา ไตรลักษณ์
ของ ขันธ์ 5 ที่ไม่เที่ยง จึงจะเข้าถึงพระนิพพานได้  เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำก่อนจะ
ศึกษาเรื่องอื่น  สิ่งที่ผมเห็นคือคนวัดพระธรรมกายมีความตั้งใจปฏิบัติธรรมทุกคน ไม่ใช่
จะเน้นทำบุญอย่างเดียวเท่านั้น

ปล.     เวปของ ดร.มนัส  อ.การุณย์  คุณสมถะ  คง serch ในเนตอ่านดูได้

แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 06:00:28

จากคุณ : KOB ON KALA
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 05:31:08

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 19

เรียนคุณ KOB ON KALA

และคิดว่าผู้เข้าถึงฌาณ คงไม่มีในนี้หรอก

ผมไม่แน่ใจเช่นนั้นครับ จะมีหรือไม่ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
เพราะที่แน่ๆคือผู้เคยเข้าถึงฌาณ มีหลายท่านทีเดียว

*สมัยนี้ไม่เหมือนชนบทร้อยปีก่อนอีกแล้ว เพียงมีไฟฟ้า มีน้ำมันและตัดถนน รถยนต์เข้าถึง พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเปลี่ยนไป วิถีชีวิตคนก็พลิกผันไปมาก

ฆราวาสทรงฌาณ เทียบกับพระแล้วอาจจะมีในสัดส่วนมากกว่าสมัยร้อยปีก่อนก็เป็นได้

พระสมัยนี้ใช้เงิน ตอนบวชผมก็ใช้ครับ ก็ทำตามๆกัน และเห็นโทษของเงินที่เป็นอุปสรรค์ต่อการภาวนาชัดเจน พระต้องรับกิจนิมนต์ พระต้องเรียนสวดให้ได้ ปลีกเข้าป่าก็โดนกลุ่มบ้าหวยตามกวน อยู่วัดก็วุ่นด้วยกิจก่อสร้า้งสนองศรัทธาทานชาวบ้าน ถ้าเป็นพระนวกะ ก็ยากที่จะเจริญสติสมาธิได้ถึงฌาณนะครับ ยิ่งบวชไม่ถึงพรรษา และไร้การเตรียมตัวมาก่อนก็ยิ่งมีโอกาสน้อย อีกทั้งบางวัดก็ไม่มีครูบาอาจารย์ที่ชำนาญโดยตรง

เทียบกับฆราวาสที่สนใจฝึกจิต แม้มีศีลน้อยข้อกว่าแต่สภาพสังคมที่เปลี่ยนไปก็เื้อื้อให้รักษาศีลจนบริสุทธ์ได้ง่ายกว่าเช่นกัน มีความต่อเนื่องในการฝึกและเข้าหาครูบาอาจารย์ได้หลากหลายกว่าแค่การบวชตามประเพณีอีกด้วย ที่แน่ๆคือเรื่องวิเวกอันเป็นปัจจัยสำคัญ... ในยุคปัจจุบันเพศฆราวาสอาจได้เปรียบพระเสียแล้วครับ

*อีกประการหนึ่งคือสำนักปฏิบัติธรรม ที่นำโดยฆราวาสก่อตั้งขึ้นเยอะ ถ้าเป็นร้อยปีก่อนฆราวาสแทบไม่กล้าสอนธรรมแบบเป็นกิจจะลักษณะ หากจะสอนก็เฉพาะคนในปกครองเท่านั้น การสอนต่อสาธารณะถือเป็นกิจของพระ ฆราวาสไม่ข้ามพระไปสอนเสียเอง การที่ฆราวาสนำการปฏิบัติเองจึงบ่งบอกถึงสัดส่วนผู้ฝึกจิตอย่างต่อเนื่องในฝั่งฆราวาสได้เช่นกัน

จากคุณ : BlueDelphi
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:29:41

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 20

สงสัยวิชาธรรมกายครับ

สมาธิโดยใช้วิชานี้ ใช่การหลงนิมิตหรือไม่?

จากคุณ : x-philes
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:38:32

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 21

สมาธิตามแนวธรรมกาย  คือหลงผิดทาง  เพ่งส่งนอก  ไม่ได้เพ่งให้ถูกทางตามแนวสติปัฏฐานสี่ คือ เพ่งย้อนมาดูขันธ์ ๕ คือกายใจของตนตามหลักธรรมชาติ...  ดันไปสร้างมโนภาพลูกแก้วและองค์พระเอามาเพ่ง  ก็เลยเป็นวิปลาสเข้ารกเข้าป่าไป   ปรากฏออกมาแบบที่เห็นตอนนี้นั่นแหละ....

จากคุณ : โขตาน
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:33:38

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 22

นึกว่าตัวเองนอนดึกแล้วนะ
ปรากฏว่า "พ่อคนวัด" ไม่หลับไม่นอน นั่งเฝ้าห้องศาสนา
ไม่รู้ว่าแอบมีระบบสัญญานเตือนเวลามีคนนินทา
โพสคคห.ที่16ตอน00:43:46 คคห.ที่17ก็ตามมาติดๆ00:57:00

แต่ไม่เข้าใจที่ว่า 1:1000 หมายความว่าอย่างไรกรุณาชี้แจงหน่อย
ประเดี๋ยวคนไม่รู้จะนึกไปว่า
นักศึกษาที่มาเล่ารู้ทันคนเดียว ที่เหลือทั้งพันคนถูกวัดต้มตุ๋นหลอกหมดตัว
หรือมีแค่คนเดียวที่ได้ยินเรื่อง อภินิหารต่างๆ ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ
ร่วมทำบุญ กองจิ๋ว กองเล็ก กองใหญ่ บัตรสะสมยอดทำบุญ(คิดได้ไง)
ส่วนอีกพันคนไม่เคยได้ยินได้ฟังรับรู้เรื่องเหล่านี้เลย

ที่ถูกคุณพัดลมควรจะระบุไปเลยว่า
ที่น้องนักศึกษาเอามาเล่าให้ฟังน่ะ ตรงไหนที่มันไม่จริง
ไม่ต้องไปอ้างว่าเป็นคำบอกเล่า 1:1000 คน
ทำให้เข้าใจไปว่าถ้าไปถามอีกพันคน เรื่องจะไม่เป็นแบบนี้

ที่รู้สึกแย่มากก็คือการที่อาจารย์บังคับนักศึกษาให้ไปวัดเพื่อคะแนนเรียน
หลอกชาวบ้านยังไม่พอ นี่ถึงกับบงการใช้ครูไปบังคับนักเรียน
ครูพวกนี้ก็ทำไปได้ ไม่รู้ว่ามีผลประโยชน์ตอบแทนหรืออย่างไร

ถึงจะมีท่านที่ออกมาอ้างความจำเป็นของวัดที่ขยายกิจการออกไป
แล้วเลยมีค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะต้องขยายตามไปด้วย
ก็ไม่น่าจะต้องถึงกับไปบังคับเด็กเลย.......เวรกรรม

จากคุณ : via iPad (ad law)
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:25:20

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 23

ตอบคุณ BlueDelphi

  การจะฝึกสมาธิได้จนถึง อธิจิต หรือ ฌาณ ได้น่าจะต้องอย่างน้อย
ศีล 8 เพื่อระวังและประคับประคองใจไม่ให้ศีลด่างพร้อยได้ ฆราวาสก็ทำได้
ครับ แต่คงไม่สะดวก เช่น งดอาหารเย็น หรืองดเว้นดูทีวี เป็นต้น และถ้าหาก
เล่นอินเตอร์เนต ก็อาจจะไปเห็นภาพล่อแหลม หรือคำพูดที่ไม่ดี ทำใจให้ขุ่น
มัวศีลด่างพร้อยได้ ปัญหาอีกอย่างของฆราวาสคือ ยังต้องมีภาระเลี้ยงชีพ และ
ต้องมีครอบครัว โอกาสผิดศีลมากกว่า หรือรักษาแทบไม่ได้  และคนที่ยังเข้า
มาในพันทิพนี้ บางทีก็ได้เห็นภาพ หรือข้อความที่ ทำให้ใจขุ่นมัวได้

   ส่วนการที่ คุณ BlueDlephi เคยบวชพระแล้วพบว่าพระสมัยนี้รับเงิน ทำให้
เกิดปัญหาไม่มีโอกาสได้ปลีกวิเวก หรือ ศึกษาธรรมะ เพราะสนใจ ตำแหน่งหรือ
เงินทองนั้นก็เป็นความจริง  เห็นด้วย วัดแถวบ้าน พระรับเงินทั้งนั้น ทำให้มีกิเลส
ไม่ได้ศึกษาธรรมะ บางองค์สึกไปมีภรรยาก็มี   อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่ายังมีวัด
ที่ปฏิบัติได้เหมาะสม และ สัปปายะพอจะให้ฝึกจิตได้ถึงฌาณ วัดนั้นควรมีเจ้า
อาวาสที่มุ่งการสอนการฝึกสมถะกรรมฐาน เป็นหลัก

    และการฝึกสมาธิแนววิชชาธรรมกาย ไม่ได้เพ่งใจออกนอกนะครับ ผมเคย
ฝึกสมาธิแนว มโนมยิทธิ แนวกสิณ หรือ อาณาปาณสติ แล้ว แนววิชชาธรรมกาย
เป็นแนวที่ ฝึกจิตโดยเอาใจไปจรดที่ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 อยู่ภายในกาย ไม่มี
การส่งใจออกนอกเด็ดขาด เป็นแนวทางเดียวที่เน้นไม่ส่งจิตออกนอก

    แนวทางเข้าถึงธรรมะภายใน หรือวิชชาธรรมกายนี้ คือแนวทางที่ต่อยอดมาจาก
สติปัฏฐาน 4 เช่นเดียวกับภาวนาพุทธโธ ของพระอาจาร์ยมั่น ภูริทัตโต ที่ใช้การฝึก
สมาธิแบบอาณาปาณสติ ในสติปัฏฐานสูตร เมื่อฝึกไปแล้ว จะเห็น อุคหนิมิตร ปฏิภาค
นิมิตร เหมือนกัน กับวิชชาธรรมกาย บางทีก็เห็น เป็นดวงแก้ว เหมือน วิชชาธรรมกาย
ตรงนี้เรียกว่านิมิตร นั่นคือเห็นไม่เหมือนกัน  แต่วิชชาธรรมกายนั้น จะกำหนดให้เป็น
ดวงแก้วตั้งแต่แรกเลย แล้วทำใจนิ่ง ๆ ที่ศูนย์กลางกาย เมื่อใจเริ่มนิ่งจะเหมือนกันคือ
ลมหายใจจะเริ่มหายไป และมีแสงสว่างขึ้น ( เคยทำได้แค่นี้ ) แต่เมื่อเข้าถึงดวง
ดวงปฐมมรรค หรือ ดวงธรรมานุปัสนาสติปัฐฐาน จะเห็นเป็นดวงแก้วเหมือนกันหมด
แต่ขนาดไม่เท่ากัน ต่อเมื่อฝึกต่อไปจะ เห็นเหมือนกันหมด คือ กายมนุษย์ละเอียด
กายทิพย์ กายทิพย์ละเอียด ไปเรื่อย ๆ เพราะฐานที่ 7 เป็นที่ต้องของปฏิสนธิวิญญาณ
เหมือนกันหมดทุกคน เห็นกายในกาย ไปจนถึงกายธรรมพระอรหันต์ ที่เป็นกายผู้รู้
ภายใน จึงสามารถใช้กายธรรมนี้ พิจารณาขันธ์ 5 ตามหลักสติปัฐฐาน 4 ต่อไปจนถึง
พระนิพพาน

อ้างอิง วิธีเจริญกรรมฐานตามแบบพระอาจาร์ยมั่น ( เรื่องนิมิตร )
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=520339

ส่วนหลังจากเข้าถึงธรรมะภายในแล้ว ข้อมูลตามเวปไม่ควรสนใจ เพราะทำให้
ไขว้เขว จริงหรือเท็จปนกัน วิชชาธรรมกายของแท้ ของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น
ให้เผยแพร่ก็เพียง หนังสือคุมือสมภาร และ หนังสือทางมรรคผลนิพพานเท่านั้น
อย่างน้อยทำเพื่อพิสูจณ์ความจริง

   อ้าวพึ่งมาเห็น คห. ข้างบน บังคับให้บริจาค ไม่ได้นะครับ บริจาคต้อง
ทำด้วยความเต็มใจเท่านั้นนะครับ

แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 11:51:56

จากคุณ : KOB ON KALA
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:44:26

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 24

เรียนคุณKOB
ไม่ได้บอกว่าบังคับบริจาค
แต่ว่าไปตามหัวข้อกระทู้ ที่ว่าอาจารย์บังคับนักศึกษาให้ไปปฏิบัติธรรม
และเมื่อไปแล้วค่อยได้รับข้อมูลชักชวนให้ทำบุญต่างๆนานา

เลยถือโอกาสนี้ เรียนถามคุณKOB ว่า
หากเรื่องที่น้องนักศึกษาเล่ามาข้างต้น เป็นความจริง
คุณKOB มองว่าวัดทำถูกต้องแล้วหรือ

จากคุณ : via iPad (ad law)
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 12:08:46

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 25

บังคับกลาย ๆไปปฏิบัติธรรม ก็ไม่ผิด ถ้าไม่อยากไปจริง ๆ น่าจะคุยกับ
อาจาร์ยได้ แต่ก็ต้องไปวัดอื่น

  เรื่องข้อมูลที่นำมาให้แค่ชักชวนให้ทำบุญเฉย ๆ นั้นคงไม่ผิด ก็แล้วแต่
คนจะทำหรือไม่ทำ  คนที่อ่านในกระทู้นี้แล้วคิดว่าคงไม่ทำมากกว่า  

แต่ถ้าบังคับกลาย ๆ หรือหว่านล้อมแกมบังคับผิดแน่

จากคุณ : KOB ON KALA
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 13:20:05

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 26

ธรรมกลาย + พุทธพาณิชย์

จากคุณ : มีดกรีดใจ
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 15:24:43

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 27



เรื่องช่วงพุทธันดร นี่เป็นเรื่องที่ว่าง่าย ๆ มันยังสอนผิดพลาดมาหลายสิบปี

มันยังด้านหน้าสอนผิด ๆ ต่อไปอย่างนี้อีกน่ะหรือ ?

ช่วงพุทธันดร  เป็นช่วงที่ว่างจากพระพุทธศาสนา  ใครจะไปพูดพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ คงไม่มีใครรู้จัก   มันก็ยังพล่ามสอนว่า ช่วงพุทธันดรเป็นช่วงที่มีพระพุทธศาสนา  มันอวดอ้างว่า หลวงพ่อสด และอลัชชีธัมมี่จะสลับกันลงมาสร้างบารมี




เรื่องง่าย ๆ อย่างนี้   มันยังพล่ามแบบผิด ๆ มาโดยตลอด   เพราะฉะนั้น เรื่องยาก ๆ คงไม่ต้องพูดถึง  มันคงมั่วตลอด   แต่สาวกมันก็มาเที่ยวปรามาสคนอื่นว่า บุญบารมีไม่ถึง  คนอื่น ๆ เป็นคนไม่มีบุญ  เรียนรู้เรื่องที่ลึกซึ้งไม่ได้  เรียนไปก็ไม่เข้าใจ !!!!!!!!

มันล่ะฉลาดนักนี่  เรื่องพุทธันดรมันสอนผิด ๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยน

จะเปลี่ยนก็คงกลัวเสี่ยเหลี่ยมอลัชชีธัมมี่ล่ะมั้ง   มันถึงดื้อดึงดันพล่ามสอนแบบผิด ๆ มาโดยตลอด

 

จากคุณ : ตรัยพล
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 17:07:23

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 28

ธรรมกลายมันเป็นสำนักผีบ้า  สอนแบบให้คนเป็นบ้า วิปลาส  หลงใหลในตัวตน  ความสวยงาม  ความร่ำรวย  ไม่เคยสอนให้ดูความไม่สวยงาม  ความปราศจากตัวตน และหลักธรรมอื่นๆใดๆ  ตามในพระไตรปิฏกและอรรถกถา

จากคุณ : โขตาน
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 18:22:52

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 29

พุทธันดร = ช่วงว่างพระพุทธศาสนา

แต่ธรรมกาย แปลตรงข้ามไปได้

แปลกใจครับ เพราะสำนักนี้เห็นมีการประโคมข่าวว่า

มีพระสอบได้เปรียญมาก จำไม่ได้ว่าที่สุดในประเทศหรือป่าว

ทำไมถึงมาตกม้าตายเรื่องง่ายๆแบบนี้

จากคุณ : chum
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 21:04:23

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 30

วันนี้ฟังหลวงพ่อจรัญ ท่านก็ฝึกธรรมกายเหมือนกัน ท่านยังบอกว่า หลวงพ่อสด พอฝึกกับท่านเจ้าคุณโชดก ท่านยังทิ้งธรรมกาย แล้วยังบอกว่า เราเป็นทาสมันมาตั้งนาน

จากคุณ : ต้นลูกตาล
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 23:36:25

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 31

วิชาธรรมกาย ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว :)

จากคุณ : ทุกวินาที
เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 12:11:53

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 32

จากคุณ : kingkiev
เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 15:52:47

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 33

ธัมมี่ แสดงอภินิหาร อีกแล้วครับท่าน

จากคุณ : มหาบุรุษแห่งกรุงสยาม
เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 16:25:19

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 34

ว่าแต่เรามีพระรุ่นดูดทรัพย์ตั้งสามอัน แม่ให้มา
มีใครอยากซื้อต่อม่ะ อิ อิ

จากคุณ : ขาวฟู
เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 00:13:58

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 35

พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้แล้วว่าบัวมีสี่เหล่า

จะมีเหล่าไหนที่มันเอาธรรมมะของพระองค์ไปดัดแปลงสอดใส้ ไปหาิกินนอกลู่นอกทาง พระพุทธองค์ก็คงว่าไม่ใช่เรื่องแปลก และพระองค์ก็คงรู้อยู่แล้ว

และเป็นธรรมดาของมนุษย์อยู่เอง ที่มักจะไหลลงสู่ที่ต่ำ หลงไปตามอวิชาที่คิดว่าจะพาตนเองสู่สวรรค์ด้วยทางลัดจอมปลอมนั้นได้

ประเทศไทยมีสถิติคนวิกลจริตโดยไม่รู้ตัว เห็นนิมิตภาพหลอน แต่ไม่ได้รับการรักษาก็มาก
ปรากฎการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดครับ

จากคุณ : คนไทยในต่างมุม
เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 01:27:07

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 36

ที่โรงเรียนของลูกเราก็บังคับเข้าวัดธรรมกาย  มีโครงการเด็กดีวีสตาร์
มีพระที่ธรรมกายมาสอนธรรมะ  สอนให้เพ่งลูกแก้ว
เราลำบากใจมาก  เพราะถ้าไม่เอาด้วยก็เป็นแกะดำ
กลัวลูกเดินทางผิด  พยายามพาเข้าวัดป่าบ่อยๆ  แต่สังคมที่ลูกอยู่เป็นแบบนี้
จะย้ายโรงเรียนก็เสียดายวิชาการเข้มของที่นี่

จากคุณ : ดอนทอง
เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 09:46:26

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 37

#36 วิชาการเข้มไม่ได้มีที่เดียวครับ และเรีบนวิชาการเข้มไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะประสพความสำเร็จในชีวิตเสมอไป
   แต่ถ้าน้องถูกฝังความคิดเพี้ยนๆเข้าไปเมื่อไหร่ทีนี้จะเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยากมากนะครับ ลองพิจารณาดู

จากคุณ : The fox in the stock
เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 11:01:42

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 38

ได้ยินมา เช่นเดียวกับ #30 ครับ

จากคุณ : ดูกรท่านผู้เจริญ
เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 12:50:50

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 39

ความคิดเห็นที่ 36

ระวังลูกของคุณ จะโดนสะกดจิตนะครับ เหอะๆๆ ยากที่จะถอนตัวได้

จากคุณ : รักที่่คุณมี รักษาไว้ให้ดี (monton UFO)
เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 20:18:19

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 40

หนึ่งไม่มีสองในโลกอย่างเป็นรูปธรรม........ ตัวจริงคือ ศ.ดร. สุชาติ โกศลกิติวงศ์ เจ้าสำนักปู่สวรรค์ ทูตสันติภาพแห่งโลกซึ่ง 45 ประเทศแต่งตั้ง ทำชื่อเสียงแก่ประเทศไทยที่ไม่มีใครทำได้ตลอดกาลเพราะ เรียนจบแค่ป.4 ไม่ได้เรียนอะไรต่อเลย แต่มหัศจรรย์สามารถพูดได้ทุกเรื่อง ทั้งทางโลกและทางธรรม พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ต่ำต้อยไม่มีต้นทุนทางสังคมเลย บำเพ็ญตนแบบนักบวชโดยไม่ต้องอาศัยเครื่องแบบนักบวชเป็นเครดิต ไม่ครองเรือน กินอาหารมังสวิรัติไม่เบียดเบียนสัตว์ นั่งสมาธิวันละไม่ต่ำกว่า 12-15 ชม.

สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ค เชิญร่วมประชุม นำภาษาไทยไปพูดเรื่องการลดอาวุธ ในสหประชาชาติเป็นครั้งแรก (พูดเรื่องธรรมะมันธรรมดา นักธรรมะทุกคนใครๆก็พูดได้) สร้างเกียรติแบบปิดทองหลังพระให้แก่ประเทศชาติ

 
 

จากคุณ : ไม่คิดมาก
เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:46:55

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 41

การทำให้โลกเกิดสันติสุขได้นั้น ลำพังเผยแผ่ศาสนาเดียว อยู่ในวงของตัวเอง ต่อให้ใช้เวลาเป็นร้อยๆปีก็ไม่มีทางทำให้โลกมีสันติภาพได้เพราะโลกไม่ได้มีแค่พุทธศาสนา และตัวเองมีบารมีทำให้ศาสนาอื่นๆเขาเชื่อถือหรือเปล่า ? ........แต่อาจารย์สุชาติ ท่านทำได้แต่ภายหลังถูกผู้มีอำนาจไทยสกัดไว้ ตามธรรมเนียมไทยไม่ให้ใครเด่นเกินหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในขบวนการ 5 ข้อของมหาตมะ คานธี ที่ใช้พิสูจน์ว่า งานที่ยิ่งใหญ่จะต้องผ่าน 5 ข้อนี้คือ.......

         1     คนไม่สนใจ
         2     เยาะเย้ย
         3     กล่าวหา
         4     บีบบังคับให้ล้ม
 และ   5     สรรเสริญ

  หนึ่งไม่มีสองตัวจริงตลอดกาล คือ อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ คนเดียวเท่านั้น และในอนานคตจะไม่มีอีก.........ขอเชิญไปศึกษาผู้ปิดทองก้นพระ ให้แก่ชาติโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ

 
 

จากคุณ : ไม่คิดมาก
เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 09:01:39

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 42

อย่าบอกน่ะครับว่า  สำนักปู่สวรรค์เป็นต้นตำรับของสำนักอลัชชีธัมมี่แห่งวัดพระธรรมกาย !!!!!!

เพราะกระทุ้นี้เขาพูดถึงกรณีวัดพระธรรมกายที่มีอลัชชีธัมมี่เป็นเจ้่าสำนักปกครองอยู่น่ะครับ

อายุอานามคุณไม่คิดมาก  ก็มากโขแล้วนา  ไม่น่ามาโพสต์ข้อความฟลัดกระทู้เขามั่วซั่วอย่างนี้

จะว่าไม่เกี่ยว  ผมอาจเข้าใจผิดไปก็ได้   เพราะจริง ๆ แล้วสำนักปู่สวรรค์ก็ไม่ใช่สำนักในพระพุทธศาสนา  เช่นเดียวกับสำนักวัดหัวนม UFO ของอลัชชีธัมมี่  หากสำนักปู่สวรรค์เป็นสำนักในพระพุทธศาสนาก็จะไม่มีัการทรงเจ้าเข้าผีหลอกลวงประชาชนหรอกครับ

มีอย่างที่ไหน   สมเด็จโตฯ มาเข้าทรง  พ่นน้ำหมาก

สมเด็จโตเมื่อครั้งท่านยังดำรงธาตุขันธ์  ท่านประกอบคุณงามความดีไว้่มากมายก่ายกอง   เมื่อท่านละสังขารแล้วท่านคงไม่มาวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่กับการเข้่าทรงเข้าสิง  ผมเชื่อว่า ท่านสมเด็จโตจะไม่มากระทำการในสิ่งต่าง ๆ หล่านี้หรอกครับ


จากคุณ : ตรัยพล
เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:55:54

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 43

ไปศึกษาให้ดีก่อนดีไหม ชอบนั่งเทียนตรัสรู้เอง หูเบาเชื่อคนง่าย ตามฉบับไทยแท้

แค่ติดสมมุติว่าเป็นร่างทรงหรือไม่ใช่ร่างทรง เป็นสมเด็จโตหรือไม่ใช่ โดยไม่ดูที่ผลงาน ก็ตกจากการเป็นชาวพุทธแล้ว

การแนะนำเรื่องดีๆย่อมเป็นกุศล แต่การกล่าวร้ายผู้อื่นย่อมเป็นบาป

ทำไมการแนะนำสิ่งที่ดีกว่า มันผิดตรงไหน มองแบบบูรณาการเป็นไหม ....เพิ่งออกจากถ้าหรือไง การเสนอความคิดเห็นที่ดี ยอมรับไมได้แล้วมาเล่นห้องนี้ทำไม

ป.ล.........แน่จริงท้าพิสูจน์กัน เอาอะไรกันก็ได้ กล้าไหมล่ะ ถ้าสำนักปู่สวรรค์ผิดจริง หลอกลวงจริง เราจะยอมทุกอย่างที่ต้องการ สำนักนี้ตั้งมา 45 ปี ไม่เคยมีคนร้องเรียนฟ้องร้องอะไร เรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งโดยรัฐบาลยุคก่อนก็ยกฟ้องหมดแล้ว  ลูกผู้ชายจริงต้องกล้ารับคำท้า เพราะคุณได้พูดไปแล้วว่า สำนักนี้หลอกลวง ไม่รู้จริงน่าจะรับฟังไว้จะน่ารักกว่า

และถ้าใครเก่งกว่า ดีกว่า อาจารย์สุชาติ เจ้าสำนักปู่สวรรค์ บอกมาเราจะไปนับถือ เราไม่ใช่คนอคติ ใครเก่งกว่าจริงเราจะนับถือ และไม่ยึดติดสมมุติเหมือนคนที่บอกว่าเป็นชาวพุทธแต่ยังติดเปลือกพุทธ ไม่ดูที่ผลงาน.....แค่คิดก็ยังไม่เป็นเลย ตรัยพล ชื่อนี้ยังมีวุฒิภาวะอีกไหม ?

แถวบน คนที่ 2 จากซ้าย............ คนจบ ป.4 ไม่ได้เรียนอะไรต่อเลย พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ค เชิญเข้าประชุมลดอาวุธ มีใครในโลกนี้ทำได้บ้าง เราไม่ได้โอ้อวด แต่เราพูดความจริงที่พิสูจน์ได้ทุกเวลา

 
 

จากคุณ : ไม่คิดมาก
เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:04:03

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 44

กระทู้นี้ไม่มีใครพูดถึงคุณสุชาติ โกศลกิตติวงศ์  ไม่มีใครพูดถึงสำนักปู่สวรรค์เลยน่ะครับ !!!!

ทั้งในด้านที่ดี  และทั้งในด้านที่ไม่ดี   ไม่มีใครพูดถึงเลยน่ะครับ

จู่ ๆ คุณไม่คิดมาก  ก็โพล่งแสดงความเห็นเกี่ยวกับคุณสุชาติ อดีตเจ้าสำนักปู่สวรรค์ขึ้นมาน่ะ


ทำไมเข้าใจอะไรยากจังอ่ะครับ

จากคุณ : ตรัยพล
เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 04:27:59

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 45

กระทู้มีการว่า คุณยายจันทร์ เป็นหนึ่งไม่มีสอง แต่เราเห็นต่างว่า อาจารย์สุชาติ ต่างหากเป็นหนึ่งไม่มีสอง พร้อมด้วยอธิบายรายละเอียดเป็นหลักฐาน ให้ผู้อ่านมีความคิดกว้างขวาง ไม่ดีหรือไง ทำไมชอบการจำกัดความคิดแบบแคบๆ แล้วอยากเป็นผู้วิจารณ์ได้ไง ลืมว่า.....ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด

กระทู้ที่เขาด่ากันอย่างไร้สาระ ออกนอกเรื่องไปอย่างหยาบคายมีมากมายทุกวัน ทำไมไม่ไปด่าเขา

คนอื่นได้ความรู้ แต่คุณไม่ชอบก็น่าจะผ่านไป ไม่เห็นยากเลย เขาให้คนทั่วไปอ่านไม่ใช่เฉพาะใคร มันสาธารณะนะ อย่าหลงว่าของส่วนตัว

แล้วที่คุณว่า สำนักปู่สวรรค์หลอกลวง รับผิดชอบไหม ? มีหลักฐานไหม ? กล้าท้าพิสูจน์ไหม ?
เราเข้าไม่ยากหรอก แต่คุณนะเข้าใจยากกว่า เพราะอยู่ในที่แคบๆ ไม่ยอมออกจากถ้ำ จำกัดความรู้

จากคุณ : ไม่คิดมาก
เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 08:08:08

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 46

อ้าว ทะเลาะกันเสียแล้ว

จากคุณ : Sparking Gunner
เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:52:20

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 47

ยิ่งวิจารณ์ในสิ่งที่เราเรารู้แล้วไม่รู้ไม่รู้ในแนวทางการปฏิบัติของผู้อื่นนั้น อาจพลาดพลั้งได้ทั้งกาย วาจา ใจ ดังนั้นผู้รู้ที่แท้จริงนั้น ปฏิบัติตาม แนวทางของพระพุทธเจ้า แต่กาลก่อนทุกๆพระองค์

อานูปะวาโท
หากปฏิบัติตามได้อย่างยิ่งยวดหรือไม่มากก็น้อย ยิ่งเป็นบุคคลที่เจริญขึ้นแล้วเดินทางไปตามทางของพระพุทธเจ้าในกาลก่อนและพระพุทธเจ้าที่จะบังเกิดขึ้น ในอนาคตกาลภายเบื้องภาคหน้า แม้กระทั้งพระพุทธองค์เอง ซึ่งได้ปฏิบัติมาหลายสำนัก ในสมัยนั้น แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าก็มิได้ กล่าวร้ายสำนักใด เมื่อพระพุทธองค์ทรงค้นพบทางที่ถูกต้องแล้ว นำมาปฏิบัติแล้วเผยแผ่ สิ่งนั้นหละคือสิ่งที่ประเสริฐ ควรค่าแก่มนุษย์ทุกคนให้ปฏิบัติตามเพื่อเข้าถึงความสงบสุขภายในอย่างแท้จริง

แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 14:02:26

จากคุณ : พัดลมเย็นๆ
เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 13:57:56

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 48

ไม่ว่าจะเป็นใครที่มีจิตใน ใส สะอาด บริสุทธิ์
คุณยายอาจารย์ อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยุง ผู้สร้างวัดพระธรรมกาย
ศ.ดร.สุชาติ โกศลกิติวงศ์ เจ้าสำนักปู่สวรรค์
จะเป็นหนึ่งไม่มีสอง ของในใจของใครหลายๆคน แต่สำหรับคนที่อ้างตัวเองว่าเป็นพุทธแล้ว
สองคนท่านนี้ความดีของท่านทำให้อายุพระพุทธศาสนาเจริญขึ้นไปอีก ทำให้ใครหลายๆคนเป็นที่รู้จัก พระพุทธศาสนาในแนวทางของตนเอง บอกต่อได้ เผยแผ่ได้ หากคุณไม่ยอมนับการเกิดนิกายต่างๆในพระพุทธศาสนา
(การเกิดนิกายใหม่ทำให้ศาสนานั้นอยู่ในชุมชนนั้นได้อย่างกลมกลืน) คุณจะวิจารณ์และมองมุมคุณด้านเดียว การศึกษาประวัติศาตร์ ของพระพุทธศาสนาหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานช่วยไขความกระจ่างอะไรได้อีกมากๆ

แล้วบนโลกนี้ก็ยังมีคนที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง อีกหลายๆคนในดวงใจของผู้อื่น ที่ไม่ได้กล่าวนะที่นี้ แล้วคนที่เป็นหนึ่งไม่มีสองยังไม่บังเกิดอีกหลายๆทั้งในโลกนี้โลกหน้า
ดังนั้น ความทำใจให้กว้าง ใส สะอาดบริสุทธ์ จะเป็นบุญเป็นกุศลแก่ตัวเราเองในภายภาคหน้า
ขออนุโมทนา สาธุ

จากคุณ : พัดลมเย็นๆ
เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 14:14:55

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 49

ไม่ชอบตรงที่คนในวัดนี้ชอบพูดว่า ทำบุญมากได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูง พอคนทำบุญน้อยพระในนั้นก็จะพูดว่าไม่อยากขึ้นสวรรค์เหรอ

ดูจากรูปภาพที่เผยแพร่ออกมาที่พระเดินเหยัยบกุหลาบ หลายๆรูปเห็นว่าสีกาล้างเท้าให้พระ

ความเห็นส่วนตัวไม่ศรัทธากับวัดนี้เท่าไหร่ค่ะ

จากคุณ : TwoHeaRt
เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 18:24:52

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 50

อุบาสิกาแค่เอาน้ำขึ้นมาอธิษฐานจิต แล้วส่งต่อให้อุบาสกล้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีอุบาสิกามาล้างเท้าจริงผมก็อยากเห็นรูปครับจะได้เชื่ออย่างสนิทใจ

จากคุณ : หมูน้อยแฮม
เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 22:05:18

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 51

ไ"ม่ชอบตรงที่คนในวัดนี้ชอบพูดว่า ทำบุญมากได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูง พอคนทำบุญน้อยพระในนั้นก็จะพูดว่าไม่อยากขึ้นสวรรค์เหรอ

ดูจากรูปภาพที่เผยแพร่ออกมาที่พระเดินเหยัยบกุหลาบ หลายๆรูปเห็นว่าสีกาล้างเท้าให้พระ

ความเห็นส่วนตัวไม่ศรัทธากับวัดนี้เท่าไหร่ค่ะ "

ขอตอบคำถามนี้ครับ
คนที่พูดและบอกต่อ ทำบุญมากได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูง ผมก็ยอมรับว่ามีจริง สำหรับคนบางคน แต่พระในนั้นก็จะพูดว่าไม่อยากขึ้นสวรรค์เหรอ
เป็นไปได้ขอระบุชื่อพระรูปนั้นทีครับว่าชื่ออะไร เป็นไปได้อัดคลิปวีดีโอหรือเสียงได้ยิ่งดีครับ
ขออนุโมทนาล่วงหน้าครับTwoHeaRt

จากคุณ : พัดลมเย็นๆ
เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 01:08:05

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 52

อีกเรื่องครับ ขอแบบจะจะด้วยครับพระรูปไหนยืนให้สีกาลูบเท้า ขอแบบเห็นหน้าเต็มๆ
จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ไอแบบมาวิเคารห์นู้นนี่นั้นไม่เอานะครับ

แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 01:14:22

จากคุณ : พัดลมเย็นๆ
เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 01:10:06

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 53

บอกตรงๆ อ่านไม่หมดทั้ง กระทู้และ คห. แต่อยากจะบอกว่า

แอบมาดูภาพประกอบ รูปวัด จขกท. ลง แล้ว แอบนึกว่า จานยูเอฟโอ มาเมืองไทย 55555 (อลังการจริงๆ)

จากคุณ : clear_blue
เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 03:41:37

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 54

# 15 ขออภัยที่ตอบช้า
คุณเข้าใจคำว่าสังคายนาดีแค่ไหน
ไปศึกษาพระไตรปิกให้ดีก่อนจะดีกว่า
ใช้คำสูงเกินตัวมากไปจะไม่ดีต่อตัวเอง

จากคุณ : คนมีเมตตา (brightheart)
เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:58:08

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 55

เคยนั่งดู "พวกนั้น"มันไม่ยอมให้คนที่จบต่ำกว่าปริญญาตรีบวชพระ
ยกเหตุการณ์สมัยพระพุทธเจ้ามาอ้าง บอกเป็นบัวเหล่าโน้นกอนี้

ฟังแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียดมากๆ แถม"คน"ที่มาบอกดันนุงผ้าเหลืองอีก

ถ้ากราบไหว้บูชา แล้วมีความสุข ก็คงไปห้ามอะไรพวกคนเหล่านั้นไม่ได้
เพราะมีคนมากมายที่อยู่ในนั้น มีความรู้ความสามารถมากกว่าตัวผมเองเยอะ
เคยมีทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยที่สอนผมมา ให้ไปช่วยยกน้ำ้เสิร์ฟน้ำแลกกับคะแนนพิเศษ...ปฏิเสธไปแบบไม่ต้องคิด  เคยมีอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังผู้เป็นเจ้าของหอพักมาชักชวนให้ไปร่วมมีทั้งทำบุญ ทั้งลงชื่อประท้วง(มาได้ไงก็ไม่รู้) เคยต้องนั่งฟังเรื่องที่จะทำรูปหล่อทองคำอภิมหามหึมาสุโค่ยได้บุญแบบที่ไม่ไหลย้อนกลับ ได้แน่ๆ เพียงแต่ต้องรอ"ชาติหน้า"

แต่ถ้าเค้าเชื่อแบบนั้น แล้วผมเชื่ออีกแบบนึง
ที่สุดแล้วมันก็คือความเชื่อที่ต่างกัน

ปล.แต่ผมก็รู้สึกเวทนาจากใจจริง

จากคุณ : Vincent Tai303
เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 02:14:26

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 56

ถึง ความคิดเห็นที่ 6
ผมตอบ เรื่องที่คุณทักท้วงไว้ในความคิดเห็นที่ 303 แล้วนี่ครับ

 
 

จากคุณ : deedang
เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 09:27:00

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 57

ขออนุญาต ท่าน ความคิดเห็นที่ 55

ท่านอาจรับข้อมูลมาในอดีต หรือแบบใดอันนี้ไม่ทราบ

แต่ปัจจุบัน บวชได้แน่นอนน่ะ อันนี้ยืนยัน..

ให้ติดต่อมาหลังไมค์ได้ ยินดีพาเข้าวัด ไปสมัครบวช พร้อมเป็นเจ้าภาพให้ด้วยตัวเอง ถ้ามีใครหรือพระรูปไหน ไม่ยอมให้บวชด้วยเหตุผลแค่ไม่จบปริญญาตรี  สัญญาว่าจะยอมกราบขอโทษ พร้อมกับเลิกนับถือและไม่ไปเหยียบวัดพระธรรมกายอีกตลอดชีวิต.....

ปล.

ส่วนเรื่องอื่นๆ ถือว่าเป็น สิทธิ ทางความคิดส่วนตัว ล่ะกัน...

 

แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 12:36:59

จากคุณ : pa-o-toi-uan
เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:34:31

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 58

อาศัยวันหยุดต้นเดือน เขามาเที่่ยวพันทิพ  เจอกระทู้กากๆ อีกแล้ว

ถนัดนักหล่ะ ราชมัล

ขยันหาประเด็น "ตาบอดคลำช้าง" มาให้แจมกันได้เสมอ

ก็เป็นได้แค่ "แมลงหวี่ตอมจี๋ช้าง" กันไปวันๆ
ไม่รู้สึกเหม็นตัวเองกันบ้างเหรอ???

จากคุณ : ปลาบึกอ้วน
เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 20:06:16

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 59

ลัทธินี้ขอเพียงแค่มีเงินมีศรัทธาและความโง่เขลาก็เข้าได้แล้วครับ ชัดเจนนะคับ

จากคุณ : King Kalle
เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:15:25

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 60

วัดธรรมกาย สอนคนให้มีจิตใจสกปรก
เห็นมาหลายคนแล้ว ญาติผมสองสามคน
ชอบมาขอเงินแม่ผม อ้างว่าไปทำบุญกับวัด
พอไม่ให้ก็โกรธ เกลียดจริงๆ ไอ้วัดนี้

จากคุณ : 13th friday
เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:43:02

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 61

เรียนคุณปลาบึก
กระทู้ของคุณราชมัล ไม่ได้ " กาก " อย่างที่คุณว่าเลย
ตรงกันข้ามกลับเป็นประโยชน์ แก่คนทั่วไปที่ยังไม่ทราบ
ให้ได้รู้หรือตั้งข้อสังเกต ว่าภายนอกที่อาจจะดูว่าดี
แต่ภายในกลับมีเรื่องแปลกๆ ที่ไม่ชอบมาพากลอยู่

หากคุณจะแสดงข้อมูล เหตุผล ข้อเท็จจริง เพื่อที่จะมาหักล้างกระทู้
ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไป หรือต่อวัดพระธรรมกายเอง
การออกมาด่าลอยๆ เพียงเพราะมีคนมาแฉด้านไม่ดีของวัดจึงเป็นการ
ตอกย้ำว่าเรื่องที่กระทู้นำเสนอ " เป็นเรื่องจริง " เลยไม่รู้จะเถียงอย่างไร

คุณปลาบึกควรจะศึกษาการแสดงความเห็นของคุณ pa-o ไว้เป็นตัวอย่าง
คือพอมีคนมาเล่าว่า เคยมีเรื่องถูกกีดกันไม่ให้บวชในคห.55
ก็เสนอตัวที่จะอำนวยความสะดวก เพื่อแก้ไขชดเชยเรื่องไม่ดีที่ผ่านมา
ไม่ใช่ว่าพอมีใครพูดถึงวัดในทางไม่ดี ก็ออกมาด่าว่าเขาเสียๆหายๆ

อย่างความเห็นที่58ของคุณนี่ล่ะ จึงเป็นความเห็น " กากๆ " อย่างแท้จริง

จากคุณ : via iPad (ad law)
เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 17:04:57

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 62

หัวข้อกระทู้นี้หละลอยๆ "กากๆ"แท้จริงแน่นอน

จากคุณ : พัดลมเย็นๆ
เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 00:18:18


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com