มีนักศึกษาท่านหนึ่ง ถูกบังคับกลายๆ จากอาจารย์ ให้เข้าไปปฏิบัติธรรมใน วัดไชยบูลย์ เพื่อจะได้คะแนน จริยธรรม ผมจึงแนะนำให้เก็บบันทึกข้อมูลไว้ เพื่อที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์ ท่านผู้อ่านท่านนั้น หมดภารกิจแล้ว จึงส่งข้อมูลมาให้ผม มีตัวอย่างที่พอจะนำเสนอในที่นี้ ดังนี้
สวัสดีครับ
มาตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว หลังจากที่ผมได้ไปอบรม-ปฏิบัติธรรมที่ วัดพระธรรมกาย มาทำให้ผมได้ซาบซึ้งถึงบารมี หลวงพ่อธัมมชโย ผู้ซึ่งยิ่งใหญ่มากใน นิพพานภพ สามโลกันต์ ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามกัน อิอิ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
กิจกรรมในแต่ละวันที่ให้เราทำ มีการออกกำลังกาย ทำวัตรเช้า-เย็น สวดมนต์นั่งสมาธิ ถือศีล 8 อบรมวัฒนธรรมชาวพุทธ เช่น การแต่งกาย เก็บที่นอน การกราบ-ไหว้ การฟังธรรมจากพระอาจารย์
การดูรายการ โรงเรียนอนุบาลในฝันวิทยา และ การปลูกฝังเรื่องหมู่คณะ-ที่สุดแห่งธรรม-ดุสิตบุรี-มหาปูชนียาจารย์-การสร้างบารมี
อาหารการกินที่วัด ก็เป็นปกติทั่วไปครับ ข้าวหมูทอด ผัดเผ็ดอะไรตามธรรมดา ห้องน้ำที่อยู่สะอาดดีครับ
ผมจะพยายามสรุปประเด็นของวัดพระธรรมกาย ให้นะครับ จะได้ไม่เป็นการเล่าไปเรื่อยๆ อย่างจับประเด็นไม่ถูก เพราะผมเล่าไม่เก่ง ทุกๆ ประเด็นที่ได้มา ผมและเพื่อนไม่กี่คน พยายามถามเพื่อจะให้ได้ประเด็นมา ดังนี้นะครับ
1. ข้อแรกเลยครับ พระอาจารย์ (ผมขอเรียกว่า หลวงพี่กวี) ได้เล่าเรื่องประวัติการสร้างบารมีของหมู่คณะ มีการกล่าวถึงประวัติของ พระธัมมชโย ดังที่ ดร. มนัส เคยกล่าวไว้ว่า มีการเล่าให้ดูดี ดูน่านับถือ
หลวงพี่กวี ท่านก็คงไม่ได้จงใจหลอกเรา แต่คงเป็นการเล่าต่อๆ กันมาน่ะครับ มีการเล่าที่น่าสนใจ คือ ช่วงที่มีสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงพ่อวัดปากน้ำ ได้สั่งให้ คุณยายจันทร์ ไปตาม หลวงพ่อธัมมชโย มา
ประมาณว่า ให้ไปอาราธนาพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ซึ่งมีบารมีสูงมาช่วยสืบทอดวิชาธรรมกาย และประมาณ พ.ศ. 2497 5 ปี ก่อนที่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ จะมรณภาพ
และสั่งไม่ให้คุณยายไปไหน ให้รอผู้สืบทอดวิชาธรรมกายที่วัดปากน้ำนี้ หลังจากที่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ มรณภาพ คุณยายจันทร์ ก็ได้ทำตามคำสั่งที่หลวงพ่อสั่ง ให้รอผู้สืบทอดวิชาธรรมกาย
ตรงนี้มีการกล่าวเสริมเรื่อง หลานชายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่เคยดูแลหลวงพ่อ ตอนอาพาธว่า หลวงพ่อสด พูดว่า ผู้สืบทอดวิชาธรรมกายเป็นคนเมืองสิงห์บุรี มีวิชาธรรมกายเด่นมาก คนนี้จะเผยแผ่วิชาธรรมกายไปทั่วโลก ตรงนี้ก็ยืนยันกันว่าเป็น พระธัมมชโย
นอกจากนั้น มีการกล่าวว่า หลวงพ่อธัมมชโย เป็นหนึ่งเดียวกันกับหลวงปู่ คือ กำลังจะสื่อออกมาว่า ท่านทำวิชชาซ้อนกันลงมาตลอดเวลา
2. เรื่องคุณยายจันทร์ เป็นหนึ่งไม่มีสอง เป็นหัวหน้าเวรทำวิชชา เป็นผู้ที่มีธรรมกายแก่กล้ามาก ตามที่ ดร.มนัส เคยวิจารณ์ไปแล้ว ตรงนี้ยังมีการกล่าวถึง จนเป็นที่ติดปากเลยว่า คุณยายอาจารย์เป็นหนึ่งไม่มีสอง
3. เรื่องมหาธรรมกายเจดีย์ มีการเปิดวิดิทัศน์ การสร้างธรรมกายเจดีย์ และมีการพูดเสริมถึงหลักวิชาด้วยว่า ครั้งนั้น หลวงพ่อธัมมชโย คิดที่จะสร้างพระเจดีย์ใหญ่ทรงสูง แต่เมื่อตรวจสอบกับทางราชการแล้วปรากฏว่า เป็นพื้นที่อยู่ใกล้ดอนเมือง สร้างไม่ได้
ตอนนั้น หลวงพ่อธัมมชโย ได้ไปนั่งทำวิชชาที่ ดอยสุเทพ และ ได้ค้นวิชาไป จึงพบว่า จริงๆแล้ว ธาตุธรรมฝ่ายพระของเรา มีขุมกำลังซ่อนอยู่ในที่สุดละเอียด ลักษณะคือทรงโดม มีพระธรรมกาย กายเนื้ออยู่มากมาย จึงได้คิดริเริ่มสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ขึ้น
เพราะเมื่อสร้างแล้ว อานุภาพของเจดีย์ที่จำลองมาจากขุมพลังฝ่ายพระ และมีลักษณะคล้ายอายตนนิพพาน จะทำให้โลกนี้เกิดสันติสุข เกิดกระแสธรรมกายฟีเวอร์
ดังในปัจจุบันที่เกิด โครงการบวชพระแสนรูป หลายครั้งหลายหน บวชอุบาสิกาได้เป็นล้าน เกิดการรวมสงฆ์ทั่วโลกนับแสนรูป และ สามารถเผยแผ่วิชาธรรมกายไปได้ทั่วโลก ก็เพราะอานุภาพฤทธิ์เดชของมหาธรรมกายเจดีย์
4. เรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ว่ามีการลงซ้อนวิชชากลั่นแก้เรื่องต่างๆ ที่รูปหล่อทองคำองค์แรก ที่มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (ที่หน้าวัดธรรมกาย ที่รูปทรงเหมือนธรรมกายเจดีย์แต่ไม่มีองค์พระ) และที่องค์ที่สอง ที่วิหารบ้านเกิด สุพรรณบุรี หากใครตาดี จะสามารถมองเห็นจักรแก้วใสๆ ลอยเต็มทั่วบริเวณวัดที่มหาวิหารพระมงคลเทพมุนีนั้น
5. เรื่องดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ พระอาจารย์เล่าว่า ที่สวรรค์ชั้นดุสิต จะมีวัดอยู่ ภายในนั้นจะมี หลวงพ่อวัดปากน้ำ แม่ชีจันทร์ แม่ชีทองสุก และ ทีมทำวิชาธรรมกายชั้นสูง
ผู้ที่เป็นศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคน เมื่อละโลกไปจะไปอยู่ภายในวัดนี้ ที่ดุสิตใครที่อยู่ในวัดนี้จะเป็นภาคปราบ
นอกวัดนี้ จะเป็นภาคโปรด โดยมีการสลับกันลงมา ระหว่างหลวงพ่อสด กับหลวงพ่อธัมมชโย เรียกว่า ลงมาสร้างบารมี 1 ครั้ง บางพุทธันดร ก็ลงมา 2 ครั้ง คือ หลวงปู่ลงมา-หลวงพ่อลงมา แล้วหลวงปู่ก็ลงมาอีก-หลวงพ่อก็ลงมาอีก เช่นพุทธันดรนี้
หลังจาก หลวงพ่อธัมมชโย ละสังขาร หลวงปู่จะนำอีกทีมลงมา พอหลวงปู่ละสังขารอีก หลวงพ่อก็จะลงมาอีก ครั้งนี้ที่ตาม หลวงพ่อธัมมชโย ลงมามีจำนวน ทั้งสิ้น 6 ล้านคนพอดี
6. ผมได้พยายามถามถึง ดวงแก้ว เพื่อจะสอบถามถึงหลักวิชชาเรื่องจักรพรรดิ แต่สิ่งที่ได้รับ คือ พระบางรูปก็กล่าวว่า ดวงแก้ว เป็นเพียงนิมิตให้เข้าถึงธรรมกายง่ายขึ้น บางรูปก็ว่าในดวงแก้วมีกายสิทธิ์อยู่ ที่ต้องหล่อเลี้ยงด้วยบุญ กายสิทธิ์จะนั่งสมาธิอยู่ภายในดวงแก้ว และสามารถทำในสิ่งที่เราอธิษฐานได้ทุกอย่างถ้าเรามีบุญหล่อเลี้ยง
7. การนั่งสมาธิของที่นี่ จะนั่งโดยการนึกถึงบุญบารมีที่ได้สั่งสมมา ให้ใจปลื้มปีติก่อน แล้วค่อยจรดใจไปที่ศูนย์ก็กลางกายฐานที่เจ็ดเลย ไม่มีการนั่งไล่จากฐานที่หนึ่ง แล้วท่องสัมมาอรหัง โดยให้เสียงออกมาจากศูนย์กลางกายนั้น นึกถีงดวงแก้วก็ได้ องค์พระสีอะไรก็ได้ หรืออะไรก็ได้
8. การทำบุญที่นี่ ต้องใช้คำว่า เยอะมากๆๆๆๆ เช่น การจะเป็นผู้แทนสาธุชน กล่าวถวายภัตตาหารนั้น ที่หอฉัน วันปกติ 30,000 บาท วันอาทิตย์ ที่สภาธรรมกายสากล 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท)
เจ้าภาพกฐินถือผ้าไตร 1 ล้านบาท (ปีๆ นึงคนทำหลายพันคน) แม้แต่การเดินเวียนประทักษิณรอบธรรมกายเจดีย์ เพื่ออัญเชิญรูปเหมือนทองคำหลวงพ่อสด เมื่อปีที่แล้ว ผู้แทนถือจักรแก้ว 20 ล้าน ดวงแก้ว 10 ล้าน ขุนพลแก้ว 5 ล้าน ขุนคลังแก้ว 4 ล้าน นางแก้ว 3 ล้าน ช้างแก้ว 2 ล้าน ม้าแก้ว 1 ล้าน
หรือการร่วมบุญปกติ จะไม่มีการกำหนดขั้นต่ำก็จริง แต่มีจิตวิทยา โดยใช้คำว่า กองจิ๋ว 2 หมื่น กองเล็ก 1 แสน กองกลาง 1 ล้าน กองใหญ่ 5 ล้าน คนที่ทำไม่ถึง 2 หมื่น ก็เหมือนทำไม่ได้แม้แต่กองจิ๋ว มันเป็นจิตวิทยาครับ
มีการสะสมยอดทำบุญ ด้วยครับ ครั้งละ 1 พันเป็นอย่างน้อย ทำ 1 พันได้บัตรสะสม 1 ใบ สะสมครบสิบใบ ได้พระของขวัญรุ่นนี้ ครบยี่สิบใบ, สามสิบใบ,
,ร้อยใบ ได้รุ่นนั้นรุ่นนี้
และ พระของขวัญ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พระของขวัญ ที่ทำมาจากมหาสิริราชธาตุ เป็นที่ต้องตาต้องใจของพระรุ่นหลังๆ เป็นอย่างมาก
ผมเพิ่งทราบว่า พระมหาสิริราชธาตุ มีหลายรุ่น รุ่นเก่าแก่สุดๆ คือ รุ่นดูดทรัพย์ มีการนำออกมาให้ต่อบุญ คือ ทำบุญร่วมกับเจ้าของพระ เท่านั้นเท่านี้ แล้วเอาพระไป เงินนั้นก็ร่วมกับกองบุญของเจ้าของพระนั้น ตอนนี้มีการเล่นถึง องค์ละ 1 แสนบาท
ดวงแก้วจุยเจีย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ที่เล่ากันว่า ผ่านการซ้อนวิชชาจาก คุณยายแม่ชีจันทร์ ราคาดวงละ 2 หมื่นบาท
และที่กำลังอินเทรน ในขณะนี้ คือ พระของขวัญ ที่ทำจาก ภาชนะบูชาข้าวพระ รูปพระธรรมกาย 1 ล้าน 5 พันบาท รูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ 1 ล้านบาท
(อีกหน่อยคงเอา โต๊ะมาทำพระ องค์ละสิบล้าน เพื่อนเพื่อนผม มันพูดขึ้นมา อย่างดังเลย)