"จากนักวิทย์... สู่ชีวิตทหารรับจ้าง" โดยผม จุฬา พิทยาภินันท์ ร่วมบันทึกโดย ผศ.ดร. ว่าที่ ร.ต. เจษฎา เด่งดวงบริพันธ์ หรือ "อ. เจษ JD300" ของพวกเรา และ ดร.นพ. วัชรพล อเล็กซองดร์ กำเนิดศิริ จิตแพทย์เวชศาสตร์การสงคราม ณ กรุงปารีส ผู้ที่ได้เป็น "Life Coach" ให้ผมสามารถทนฝ่าฟันชีวิตทหารรับจ้างอันยากลำบากนี้มาได้จนถึงขณะนี้
จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ ราคา 295 บาท
ซึ่งราคาเท่านี้นั้น ถือว่าไม่แพงเลย สำหรับเนื้อหา 400 หน้าที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาไม่ธรรมดา ชนิดที่หาอ่านจากที่อื่นไม่ได้เช่นนี้
เนื้อหาไม่ธรรมดายังไง? ผมขอยกส่วนหนึ่งของคำนำมาให้อ่านกันตรงนี้ ปกติผมเป็นคนชอบเขียนบันทึกความทรงจำ แต่ในระหว่างที่ดำเนินเรื่องเครื่องตรวจระเบิดลวงโลกจีทีสองร้อย ตอนต้นปี ๒๕๕๓ นั้น ผมไม่ได้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้เลย ด้วยว่าต้องวิ่งวุ่นจนไม่มีแม้แต่เวลาจะนอน หลังเรื่องเสร็จสิ้น มีคำสั่งระงับใช้เครื่องดังกล่าวออกมาเป็นทางการ และเริ่มจะพอมีเวลาพักหายใจได้บ้าง ก็มีความคิดอยากนั่งนิ่ง ๆ ทำใจสงบ ๆ ระลึกความทรงจำ ความคิด ความเห็นส่วนตัว สิ่งที่ได้พบได้เจอมา ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจที่อยากจะแก้ไขปัญหาระดับชาติ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นแค่เด็กนักศึกษาตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไปจนถึงจุดไคลแม็กซ์ของเหตุการณ์ตอนที่ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการทำการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลงบทบาทวงการวิทยาศาสตร์ไทยต่อสังคมไปอย่างสิ้นเชิง แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้นั่งเขียนบันทึกที่ว่า เพราะสมองซึ่งไม่เคยหยุดหาเรื่องดันคิดโครงการใหม่ขึ้นมาได้เสียก่อน นั่นคือการหนีจากวงการวิทยาศาสตร์ไทยไปสมัครเป็นทหารรับจ้าง หรือทหารของกองพลต่างด้าวแห่งกองทัพฝรั่งเศส ! หากจะมองว่าการเป็นนักศึกษาอยู่ดี ๆ แต่ดันกล้าลุกขึ้นมาขัดแย้งกับสถาบันใหญ่ยักษ์อย่างกองทัพนั้นเป็นเรื่องบ้าดีเดือดแล้ว การทิ้งปริญญาเอกและหนีไปสมัครเป็นพลทหารรับจ้างในกองทัพต่างชาติก็คงจะยิ่งเสริมดีกรีความบ้าขึ้นไปอีกไม่น้อย เมื่อผ่านประสบการณ์ความบ้าที่ไม่น่าจะมีใครเคยทำสองเรื่องนี้มาได้ ผมก็ทนไม่ไหว ต้องหาวิธีถ่ายทอดประสบการณ์อันไม่ธรรมดานี้ให้โลกได้รับรู้ ดังนั้น เมื่อคุณหมอวัชรพล ผู้ซึ่งเป็นเหมือนที่ปรึกษาชีวิตให้ผมที่ฝรั่งเศส ออกไอเดียให้ผมเขียนหนังสือเล่าเรื่องทั้งหมด ผมจึงตอบตกลงแทบจะในทันที ทั้ง ๆ ที่ชีวิตพลทหารลูกกระจ๊อกนั้นแทบจะหาเวลานอนสงบ ๆ พักหายใจยังไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมวางเงื่อนไขกับคุณหมอไว้ว่า ถ้าจะให้ผมเขียน คุณหมอต้องร่วมเขียนเล่าประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวของคุณหมอด้วย เพราะกว่าจะมาเป็นด็อกเตอร์นายแพทย์ ทางเวชศาสตร์สงครามที่ฝรั่งเศส เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพียงหนึ่งในห้าคนของโลกได้แบบนี้ คุณหมอวัชรพลก็ผ่านอะไรแปลกประหลาดพิสดารมาเยอะเช่นกัน ตั้งแต่หนีออกจากประเทศไทยไปสมัครเป็นนักเรียนแพทย์ทหารที่กรีซ จนกระทั่งถูกยิงที่โคโซโว จนได้มาลงหลักปักฐานอยู่ที่ปารีสเช่นทุกวันนี้ แต่นอกจากความแปลกน่าสนใจแล้ว ชีวิตของผมและคุณหมอยังมีเรื่องหนึ่งที่คล้ายกันจนแทบจะเรียกได้ว่าดำเนินตามแบบกันมาเป็นคู่ขนาน ต่างกันก็เพียงแค่ยุคสมัย นั่นคือการลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องความถูกต้อง เผชิญหน้าความขัดแย้งกับระบบของผู้ใหญ่ในสังคมไทย จนทนทำใจอยู่ต่อในประเทศไม่ได้ ต้องทิ้งอนาคตอันมั่นคงในบ้านเกิด หนีระหกระเหินออกไปตายดาบหน้าในต่างประเทศ และนี่เองคือประเด็นหลักที่คุณหมอวัชรพลอยากให้ผมสื่อด้วยหนังสือเล่มนี้ คุณหมอบอกผมว่า ยังมีอีกหลายคนเฝ้ามองผมอยู่ ผมจะหายตัวไปเฉย ๆ ไม่ได้ ถ้าผมเงียบหายไป ก็จะมีคนพูดทันทีว่า นั่นไง ดูไอ้นายคนนั้นสิ ลุกขึ้นมาสู้ สุดท้ายก็ซวยไป ป่านนี้ไม่รู้ไปนอนเน่าอยู่ที่ไหนแล้ว อยู่ดีไม่ว่าดี เห็นไหม คุณหมอชี้ให้ผมเห็นว่า ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนั้นแล้ว ต่อไปจะมีใครที่ไหนกล้าลุกขึ้นมาทำดีเพื่อสิ่งที่ถูกต้องอีก ผมจึงต้องเขียน คุณหมอวัชรพลจึงต้องเขียน เราอยากให้ผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้เกิดแรงบันดาลใจ ไม่กลัวที่จะลุกขึ้นมาแก้ไขสิ่งผิดใด ๆ ที่มีอยู่ในระบบบ้านเมืองสังคมไทย โดยมีผมเป็นตัวอย่างของยุคปัจจุบัน ที่แสดงให้เห็นว่าถ้ามีความกล้าเพียงพอ คนตัวเล็ก ๆ อย่างเราก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมได้จริง และมีคุณหมอวัชรพลเป็นตัวอย่างจากยุคอดีต ที่แสดงให้เห็นว่าถ้ามีความอดทนมากพอ ปลายทางของการทำความดีนั้นคือความสำเร็จและชีวิตที่มีความสุข และบันทึกเหตุการณ์จีทีสองร้อย จะสมบูรณ์ไปไม่ได้ ถ้าขาดบันทึกประสบการณ์จาก ผศ.ดร. ว่าที่ร้อยตรีเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ผู้ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้า เบื้องกลาง และเบื้องหลังของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนั้น ซึ่งแม้จะต้องวุ่นวายจากทั้งงานสอนในมหาวิทยาลัย งานเผยแพร่ความรู้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันวิทยาศาสตร์เทียมให้แก่สังคมไทย และชีวิตครอบครัวส่วนตัวแล้ว แต่อาจารย์เจษฎาก็ยินดีรับปากช่วยเขียนบันทึกเหตุการณ์ครั้งนั้นให้ ชนิดที่ละเอียดสมบูรณ์จนแม้แต่ผมที่ได้ร่วมทีมกับอาจารย์ ดำเนินเรื่องนี้มาด้วยกันเองอ่านแล้วยังตะลึง ทึ่ง และเข้าใจความเป็นมาเป็นไปของเหตุการณ์ได้ดีขึ้นมากกว่าที่ตัวเองคิดว่าเคยรู้ด้วยซ้ำ นอกจากการบอกเล่าประสบการณ์การมาสมัครเป็นทหารต่างด้าวแล้ว ผมยังได้เขียนข้อมูล รายละเอียด และคำแนะนำให้แก่ผู้ที่สนใจจะออกผจญภัยในเส้นทางสายนี้ไว้ให้ด้วย ซึ่งหากจะมีคนไทยมาสมัครเป็นทหารต่างด้าวที่ฝรั่งเศสมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผมยินดีที่จะมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนชีวิตของเพื่อนร่วมอุดมการณ์เหล่านั้น เหมือนที่ตัวผมเองและสหายร่วมรบที่นี่หลายคนผ่านมาแล้ว และผมไม่คิดว่าสิ่งนี้จะส่งผลเสียแก่ประเทศไทยแต่อย่างใด ในทางกลับกัน การมีคนไทยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทหารจากกองทัพตะวันตกในระดับการรบจริงนั้น กลับจะเป็นการขยายมิติความสามารถของคนไทยในระดับโลกให้มากขึ้น ทั้งเขาเหล่านี้ยังจะนำความรู้ความสามารถและประสบการณ์กลับมาช่วยเหลือประเทศ ในยามที่ชาติต้องการ ได้ต่อไปในอนาคต |