อันนี้คือทางไปชาแนลคลิปทั้งหมดของครูเจมส์
http://www.youtube.com/user/JamesESL/videos?sort=p&view=u
อันนี้แกก็สอนเรื่องการเขียนอย่างมีประสิทธิภาพ
เราอาจจะรู้อยู่แล้ว แกก็สรุปมาให้เราดูกัน ถือว่าทบทวน
How to Write an Effective Essay
In this lesson, I give you a simple method for writing a good, effective essay in English.
If you don't know where to start when you are given a writing assignment, start here and learn how to do it right!
How to Write an Effective Essay 
สวัสดีครับ เจมส์ครับ
ผมกำลังอ่านบทความครับ ผมไม่ได้ชอบอ่านบทความหรอกครับ
การเขียนก็โอเคครับแต่มันไม่ได้มีผลตอบกลับเท่าไหร่นัก
มันหมายความว่า สำหรับผม เค้าไม่ได้ส่งผ่านความคิดได้ชัดเจนอย่างที่เค้าต้องการ
แบบเขียนได้เข้าใจนะแต่ไม่ได้ดีเยี่ยม
วันนี้ที่ผมจะแสดงแก่คุณคือ เขียนงานเขียนอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
เมื่อคุณเขียนเสร็จ คนจะเข้าใจว่าคุณพูดอะไร
วิธีเช่นนี้เหมาะกับมหาวิทยาลัย มัธยมปลาย งานเขียนใดๆ แม้กระทั่งพนักงานขาย
เอาหละไปที่กระดานกันครับ
สิ่งแรกที่เฉพาะเจาะจง วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง คืออะไรครับ นั่นอะไรครับ
? นั่นคือ เครื่องหมายคำถาม ถูกต้องครับ
คุณต้องถามคำถามครับ วิธีนี้ทำให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนในหัวคุณ
ว่าคุณอยากรู้อะไร เช่น บลอนด์ หรือ บรูเนตต์ ขอโทษครับ
พูดอันนี้ดีกว่า เงินหรือความรัก คุณถามคำถาม
Which is better love or money
ด้วยการถามคำถามก็ต้องมีคำตอบ
คำถามคือจุดที่เราจะเริ่ม ดังนั้น เราเริ่มการเขียนที่มีประสิทธิภาพด้วยการถามคำถามที่เราต้องการคำตอบ เพราะสิ่งที่เราคิดคือ คนอ่านต้องการคำตอบสำหรับคำถามนี้
คิดว่าคนอ่านต้องการอะไร ทำไมเราถึงถามคำถามนี้
และเมื่อเราตอบคำถามนี้ เราก็จะเขียนเกี่ยวกับสิ่งนี้ออกมาสำหรับคนอ่านของเรา
มันทำให้เราเฉพาะเจาะจงลงไปในสิ่งที่เราโฟกัส
เหมือนกับการโฟกัสลงไปที่จุดเป้าหมาย(ดังรูป)
ดังนั้นมาดูที่คำตอบ
1. สิ่งเเรกเราก็จะทำคือ ASK A QUESTION
เราทำแล้ว นั่นคือ ถามว่า เงินหรือ ความรัก
อะไรคือคำตอบของคำถามนี้
คำตอบของคำถามนี้ เรามีคำเฉพาะในภาษาอังกฤษ ดังนั้นเมื่อเราคิดถึงสิ่งนี้ เราก็เขียนมันลงครับ
2. THESIS
นี่คือคำตอบของคำถามครับ
THESIS ต้องแข็งแรง ชัดเจน คุณไม่สามารถพูดว่า maybe อาจจะ อาจจะใช่ อาจจะไม่ใช่
นั่นไม่ใช่ THESIS ครับ เราเรียก weak
THESIS ต้องชัดเจนมากๆ ซึ่งนั่นจะช่วยในการเขียนที่มีประสิทธิภาพ
เพราะคุณรู้ชัดเจนว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร แต่คนอ่านของคุณก็ต้องรู้ชัดเจนด้วยว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร
THESIS HAS TO BE STRONGLY SAID OR STRONGLY STATED
โอเค ตอนนี้เรามี 2 อย่างครับ QUESTION และ THESIS ตอนนี้เราก็สามารถเริ่มเขียนเอสเสย์ได้แล้วครับ
เหมือนกับหนังสือดีๆ หรือเรื่องดีๆ คุณต้องการ introduction
3. ขั้นสามคือ INTRODUCTION (PLUS THESIS)
สิ่งที่คุณกำลังจะทำคือ คนอ่านต้องสามารถระบุ ทีสิส ของคุณได้
I'm going to go to a bar and I'm going to meet a girl.
Hi! I'm James, what's your name? That's a pretty name.
I'm from Canada and I teach English.
Would you like to learn more about English and How I teach it?
Oh, come with me! I'll get you a drink!
เห็นมั๊ยว่ามันเวิร์ค นั่นคือ (ตัวอย่าง) อินโทรดัคชั่นที่ดี
โอเคนะครับ ดังนั้น เราต้องการอินโทรดัคชั่นที่ไปด้วยกันกับทีสิส
เราใส่ทีสิสข้างในอินโทรดักชั่น
แล้วเราทำให้มันน่าพึงพอใจเพื่อให้ผู้คนต้องการจะอ่านมันมากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้มันน่าสนใจ โอเคนะครับ
นี่คือ 3 ส่วน ต่อไป เราต้องการอีก 2 ส่วนครับ
4. THE BODY เนื้อเรื่อง เนื้อหา
เนื้อเรื่อง เป็นส่วนที่สำคัญมากครับ เพราะผมบอกคุณเรื่องทีสิส แต่ทีสิสไม่ได้ทำให้มันเป็นจริง
ทีสิสหมายความว่า I BELIEVE IT TRUTH.
เหมือนผมบอกว่า ผมเป็นมหาเศรษฐี สิ่งแรกที่คุณพูดคือ พิสูจน์สิ แสดงเงินให้ผมดู (นั่นผมเอามาจากในหนังครับ) แสดงเงินให้ผมดู
นั่นหมายถึง คุณต้องการข้อ 4 ครับ
4. PROOF
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อทำการพิสูจน์
เมื่อเราดูที่ทีสิส เราพูดเรื่องพื้นฐานซึ่งไม่ใช่สิ่งใหญ่โต สิ่งที่เราต้องการทำ คือ มี 3 เหตุผล ที่ทำให้ทีสิสถูกต้องเป็นจริง
- BODY
-- MAIN REASON ไม่ได้หมายความว่าทำให้ทีสิสเป็นจริง เราต้องการสิ่งที่ซัพพอร์ท MAIN REASON ซึ่งเรียกว่า
-- SUPPORTING IDEAS (เหตุผลประกอบ เหตุผลสนับสนุน)
ถ้าเราพูดถึง BODY เราควรมี 3 เหตุผลประกอบทีสิส
มันดีที่อย่างต่ำเรามี 3 เหตุผลประกอบ เพื่อทำให้ MAIN REASON เป็นจริง ดังนั้น ข้อ 3 ก็สำคัญมากสำหรับเราครับ
ถ้าเรามีอย่างละ 3 นับก็เท่ากับ มี 9 ประโยค
(3 เมน รีซั่น แต่ละ1เมนรีซั่น แตกออกมี 3 ซัพพอร์ททิ่งไอเดียย่อย 3*3 เท่ากับ 9 )
และท้ายที่สุดเรามาถึงข้อสรุป มาดูกันครับ
5. CONCLUSION
ถ้า THESE 3 IDEAS ARE TRUE SO THE CONCLUSION MUST BE TRUE
คุณเป็นทนายได้แล้วครับ หรือคุณก็เป็นศรีธนญชัยได้ครับ
OUR CONCLUSION IS BASED ON THE PROOF OF MAIN REASON
นั่นเลยครับของบทเรียนนี้ของเรา ซึ่งมันมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งผมได้พิสูจน์ในกรณีของผม ผมคิดว่า ถ้าคุณทำตามขั้นตอนนี้ คุณก็จะกลายเป็นนักเขียนภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพครับ
สรุป
1. ASK A QUESTION
2. WRITE A THESIS STATEMENT
(ANSWER THE QUESTION)
3. WRITE AN INTRODUCTION
(INCLUDING YOUR THESIS)
4. PROVE YOUR THESIS
ESSAY BODY
==> MAIN REASON
==> SUPPORTING IDEAS
5. WRITE YOUR CONCLUSION
















แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 11:25:34
แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 03:44:44