(ต่อ 4)
กลับมาพูดถึงเรื่อง "ลักษณะ" อันคุณฤทธีพยายามจะ re use เอามาเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบชี้วัด(อีกแล้ว)
ทั้งๆที่ได้เคยใช้ตรรกะไว้ ได้อย่าง "สุดยอดจะไม่เป็นเหตุเป็นผล"
และก็จะได้เป็นการตอบ คห 62 ไปด้วยในตัวเลย
อันผมเองก็อยากจะถามเหมือนกัน ว่า"ใคร" ต่างหาก ที่ตัดข้อความกันแน่
ที่โพสท์ไว้นั้น มีอ้างอิงไว้เต็มๆชัดๆ ทำไมใน คห 62 ไม่ยักจะยกมาด้วยล่ะครับ(หืมม)
ที่สำคัญ ต่อให้ย้อนไปอ่านทั้งบทความก็ได้เหมือนเดิมนั่นและ ไม่มีตัดไม่มีแปลงอะไรทั้งนั้น
มั่วไว้"สุดยอด"เอง แต่พอโดนจับได้ ทีนี้จะมาแกล้งตีมึน บอก"คุณกู ไม่รู้เรื่อง แกน่ะแหละแปลงสาร"(ใส่ความเฉย)
(คงจะหมดมุก พูดไม่ออกกระมัง สินะครับ ไม่งั้นปกติมีหวังตีฝีหลักฝีปากอะไรมาเป็นกระบุงแล้ว นี่มันไม่ใช่ๆ)
แล้วพอทีนี้ ใน คห 62 ก็เลยตัดข้อความเสียเอง แกล้งยกที่โพสท์ไว้มาไม่ครบ ทีข้อความตัวเองไม่ยอมยกมาด้วย
นี่บัณฑิตหรือครับ?? อยากหัวเราะเป็นภาษาสันสกฤตครับ 
มาดูเองเถิดว่า มันมีอะไรตรงไหนกัน...
จากที่คุณฤทธีพยายามจะสื่อ(ด้วยเกณฑ์คิดเองเออเอง ดังจะกล่าว)
ว่า เสขิยวัตร มีสิ่งที่ถูกแต่งเติมเข้ามาในพระไตรปิฎก! หรือถูก"พยายามทำให้เป็นสิกขาบทในพระปาติโมกข์"!!
โดยกล่าวไว้ว่า
"ที่น่าแปลกก็คือ ในเสขิยวัตร ๗๕ ข้อนี้ มีความพยายามที่จะจัดรูปแบบให้เป็น
แบบเดียวกันกับ สิกขาบทในพระปาฏิโมกข์ทุกประการ ทั้งๆตัวพระบัญญัติแท้ๆ
ไม่มีการปรับอาบัติ ซึ่งต่างจากสิกขาบทสำคัญๆนอกพระปาฏิโมกข์อย่างชัดเจน !!!!"
(เสขิยวัตร นั้นน่าแปลก เพราะ ...ไม่มี"ลักษณะ" (คือมีปรับอาบัติ ในบลาๆๆ)
...ไม่เหมือนกับ พวกสิกขาบทสำคัญๆนอกพระปาฏิโมกข์ ที่จะมี"ลักษณะ" นี้ )
"ตรงนี้ ขอให้ลองพิจารณาเปรียบเทียบกับพระปาฏิโมกข์แท้ๆ ดังนี้ว่า ตัวของพระบัญญัติซึ่งเป็นพุทธพจน์แท้ๆ
นั้น จะปรากฏ อาบัติ อยู่อย่างชัดเจน ซึ่งลักษณะที่ปรากฏอยู่นี้
จะเหมือนกันกับสิกขาบทที่สำคัญๆนอกพระปาฏิโมกข์
และก็แตกต่างอย่างชัดเจนกับ เสขิยวัตร หรือ มารยาทสังคม ที่ถูกยกขึ้นสู่พระปาฏิโมกข์ โดยใคร และ
ด้วยเหตุผลอย่างไร ก็มิอาจมีใครทราบได้เช่นกัน .... หรือมิใช่ (?) "
(ขอให้พิจารณาเปรียบเทียบ โดย สิกขาบทในพระปาฏิโมกข์ จะมี"ลักษณะ" นี้
โดยจะเหมือนกันกับ สิกขาบทที่สำคัญๆนอกพระปาฏิโมกข์
แต่จะแตกต่างกันกับ สิกขาบทเสขิยวัตร ) ดังนี้ใจความก็คือ ขอให้เอา"ลักษณะ" นี้ มาเป็นเกณฑ์เทียบเคียงชี้วัด
ตรงไปตรงมา ไม่มีหมกเม็ด ใช้เกณฑ์"ลักษณะที่ปรากฏอยู่นี้" ตามสั่ง ชัดเจน. ได้กลายเป็นว่า...
1.ปาฏิโมกข์ จะเหมือนกันกับ นอกปาฏิโมกข์ ...นี่คุณฤทธีบอกอะไรมา??????????
2.แต่จะไม่เหมือนกับ เสขิยะ ...นี่คุณฤทธีจึงกล่าวหาว่า เสขิยะ นั้นเป็น"ที่น่าแปลก" (โดยอะไรใครที่ไหน ก็ไม่รู้)
นี่เกณฑ์คิดเองเออเองเห็นๆ ข้อ 1. ต่างหากสิที่แปลกหลุดโลก ดันกลับไปกล่าวหา เสขิยะ ในข้อ 2. แทนเสียนี่
...ทำไปได้
ชัดไหมครับ ?
แล้วก็ขอแนะครับคราวหน้าคราวหลังจะยกอะไรมา ในฐานะลูกผู้ชายธรรมดา ก็ขอให้ยกมาเต็มๆด้วยน่ะครับ
ไม่ว่าจะพระธรรม หรือจะ คห, ข้อความ ของคนอื่นๆก็ตาม...
นี่เนื้อความเต็มที่โพสท์ไว้ครับ ไม่ใช่แปลงสารมาใช้ผรุสวาทลอยๆ อย่างแบบรูป คห 62 นั่น
========================================================
ที่คุณฤทธีพยายามจะจับมาชนกันให้ได้ว่า มีการ"จับยัดใส่พระโอษฐ์"
แต่งเติมพระไตรปิฎก จึงสมควรต้องตัด เสขิยวัตร ออก !?!?
ดูดีๆจะเห็นว่า ที่พูดมาเองนั้น
สุดยอดจะไม่เป็นเหตุเป็นผล เลยด้วยซ้ำครับ
ที่เขากล่าวมายาวๆจนอ่านเพลิน ว่า
"ตรงนี้ ขอให้ลองพิจารณาเปรียบเทียบกับพระปาฏิโมกข์แท้ๆ ดังนี้ว่า ตัวของพระบัญญัติซึ่งเป็นพุทธพจน์แท้ๆ
นั้น จะปรากฏ อาบัติ อยู่อย่างชัดเจน ซึ่งลักษณะที่ปรากฏอยู่นี้ จะเหมือนกันกับสิกขาบทที่สำคัญๆนอกพระปา
ฏิโมกข์ และก็แตกต่างอย่างชัดเจนกับ เสขิยวัตร หรือ มารยาทสังคม ที่ถูกยกขึ้นสู่พระปาฏิโมกข์ โดยใคร และ
ด้วยเหตุผลอย่างไร ก็มิอาจมีใครทราบได้เช่นกัน .... หรือมิใช่ (?) "
ดังนี้ขอให้สังเกตที่ผมขีดเน้นนะครับ แล้วอ่านจับใจความดูอีกที ดังนี้ (เลขอ้างอิงด้วยครับ ที่จะใช้ดูต่อไป)
"ตรงนี้ ขอให้ลองพิจารณาเปรียบเทียบกับพระปาฏิโมกข์แท้ๆ ดังนี้ว่า
ตัวของพระบัญญัติซึ่งเป็นพุทธพจน์แท้ๆนั้น จะปรากฏ อาบัติ อยู่อย่างชัดเจน
(2)ซึ่งลักษณะที่ปรากฏอยู่นี้ จะเหมือนกันกับสิกขาบทที่สำคัญๆนอกพระปาฏิโมกข์
(1)และก็แตกต่างอย่างชัดเจนกับ เสขิยวัตร หรือ มารยาทสังคม ที่ถูกยกขึ้นสู่พระปาฏิโมกข์ โดยใคร
และด้วยเหตุผลอย่างไร ก็มิอาจมีใครทราบได้เช่นกัน .... หรือมิใช่ (?)"
โปรดดูใจความนะครับ ว่ามันเป็นเหตุเป็นผลกันตรงไหน ??
"ขอให้ลองพิจารณา...พระปาฏิโมกข์แท้ๆ...จะเหมือนกันกับสิกขาบทที่สำคัญๆนอกพระปาฏิโมกข์"
"ปาติโมกข์ จะมีลักษณะเหมือนกันกับ นอกปาติโมกข์"
ปาติโมกข์ = นอกปาติโมกข์
...อะไรของเขาครับเนี่ย ??? มึนงงสงกายิ่งนัก
(พวกการเล่นคำ มีใช้คำว่า "สิกขาบทสำคัญๆ" อะไรพวกนี้ ที่จริงไม่เกี่ยวกับประเด็นเลย)
แล้วจะเอา เหตุผลวิบัติแบบนี้ เนี่ยน่ะหรือ มาใช้เป็นข้ออ้างตัด เสขิยวัตร ออกได้ !?
นี่ตลกแล้วครับ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อมั่วขนาดนี้มาแต่แรก
มั่วผิดฝาผิดตัวเห็นๆ แถมสองมาตรฐานชัดๆ
ก็ขนาดเจ้าตัวเองก็ยังบอกอยู่ชัดๆว่า "ลักษณะนี้"(คือมีชื่ออาบัติ) นั้น ไปเหมือนกับ "นอกพระปาฏิโมกข์"
ดังนั้น ถ้าจะเอา "ลักษณะนี้" มาเป็นเกณฑ์ชี้วัด อย่างที่พยายามจะสื่อมานี้...
คุณฤทธีก็มีหวังต้องเพิ่ม "สิกขาบท(ที่สำคัญๆ)นอกพระปาฏิโมกข์" ทั้งหลาย ใส่เพิ่มเข้าไปในพระปาฏิโมกข์ ด้วยสิ !
(1)จะมาบอกว่า เสขิยวัตร ไม่มี"ลักษณะนี้" เลยจะตัดออกจากปาฏิโมกข์ ?
(2)แต่บอกเองว่า สิกขาบทอื่นๆนอกปาฏิโมกข์ กลับมี"ลักษณะนี้".. ถ้างั้นก็แปลว่าควรจับใส่เข้าไปในปาฏิโมกข์แทน ??
นี่เกณฑ์คิดเองเออเองขนานแท้เลยครับ แถมเจ้าตัวพูดเอง งงเองอีกต่างหาก (!)
ใช้เหตุผลไม่เป็นเหตุผลได้แบบนี้...เลิศครับ
ก็คงไม่รู้จะพูดอะไรกันต่อไปได้ละครับ
ดังนี้ ท่านทั้งหลายโปรดพิจารณากันให้ดีต่อไปเถิดครับ
ขอให้เจริญในธรรม สวัสดี.
แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 11:54:14
แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 11:51:06