ความคิดเห็นที่ 1 ช่วยกันขอดุอาร์ค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=lCJs78rC3gU แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 55 18:38:34 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:23:49

ความคิดเห็นที่ 2 โอ้ คลิป ปลุกระดม เสรีภาพในการนับถือศาสนา นะมีอยู่ เสรีภาพของเราก็ไม่ควรไปละเมิดเสรีภาพคนอื่นด้วย โรงเรียนของเขา จะออกกฎใดใดก็ตาม ไม่อยากทำตามกฎของเขา ก็ย้ายไปโรงเรียนอื่น ที่เขาไม่ห้าม ก็ได้ มีอีกเยอะ ทำไมต้องเจาะจงจะเรียนที่นี่ให้ได้ จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:23:32

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่รู้ซิครับ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีศาสนาใดๆในใจที่ยึดถือเป็นหลักเท่าไหร่  แต่เราก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียนนั้นๆนะครับ แต่ก็อยู่ที่การอะลุ่มอะล่วยนะ ผมก็ไม่เคยเห็น ศาสนาอื่นที่มีผ้าโพก ผ้าคลุมหัว ใส่มาเรียนนะครับ บางครั้งถ้าเราต้องการจะเป็นอย่างที่เราต้อิงการก็ต้องยอมรับสภาพ เช่นเป็น เณรใส่จีวร แล้วยังมาเรียน รร.ธรรมดาก็ต้องมองไม่เข้าพวก ยังต้องมีโรงเรียนของเขาโดยเฉพาะก็เช่นเดียวกับ รร.สอนศาสนาอิสลามนั้นหล่ะครับ ได้เต็มที่เลย ..หรือ สมมุติผมเป็น นับถือศาสนาเชน นิกายพวกชีเปลือย ผมถอดเสื้อผ้ามาเรียน ก็คงทำไม่ได้ อาจถูกจับเข้าคุกด้วยซ้ำ ศาสนาเป็นเรื่องปัจเจคแต่บางครั้งก็ต้องมีขอบเขตครับ ในสังคมหมู่มาก ผมเคยเห็นพระไปเมือกนอกนั่งเครื่องบินนะ คนเขามองเหมือนตัวประหลาดเลย อีกอย่าง ผมข้องใจ วัฒนธรรมทำไมต้องให้เด็กสาวใช้ผ้าคลุมด้วยหล่ะครับ ทำไมเด็กชายไม่ใส่หมวกมั่ง ไม่เห็นเป็นไรหรือเรียกร้องอยากใส่โต๊ป มาเรียน จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:36:49

ความคิดเห็นที่ 4 ^^ ก็ไม่เข้าใจว่าการคลุมฮิญาบไปละเมิดศาสนาพุทธยังไง ช่วยชี้แจงให้ทีเถอะค่ะ เท่าที่ทราบ ไตรปิฎกก็ไม่ได้บอกไว้นี่ค่ะว่าการคลุมฮิญาบเป็นการละเมิดเขตวัด? ออกจะสนับสนุนเรื่องการปกปิดและศีลธรรมด้วยซ้ำ? เด็กนักเรียนมีสิทธิในการแสดงออกซึ่งหลักความเชื่อและการศรัทธาเต็มที่ตามรัฐธรรมนูญใน ซึ่งก็ไม่ได้ระบุว่ายกเว้นเขตวัดน่ะ! สิ่งที่เค้าพยายามจะทำ คือการเรียกร้องสิทธิที่ตนมี หากปล่อยไป (ย้ายโรงเรียน) การกดขี่ก็อาจจะมีต่อไปไม่รู้จบสิน่ะค่ะ แปลกดีน่ะค่ะที่คนถือศีบถือธรรมกลับละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนอื่น แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 15:54:02 จากคุณ : asfanj เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:47:49

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่พบกระทู้จากคำค้น  asfanj คำแนะนำ : •ตรวจสอบแป้นพิมพ์ว่าภาษาถูกต้อง •ตรวจสอบคำค้นว่าสะกดถูกต้อง •ลองใช้คำค้นอื่น     Smart Search Engine Copyright © 2011 Smart Office Ltd. จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:57:31

ความคิดเห็นที่ 6 แปลกดีนะ มักจะมีล้อกอินเฉพาะกิจโผล่มา   และเข้าใจอะไรยากจริงๆ จะเข้าบ้านคนอื่น ก็ให้เกียรติเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้าน วางกฎให้ถอดหมวกก่อนเข้า นี่กลับมาอ้างสิทธิมนุษยชน  เขาไม่ได้ บั ง คั บ เลยว่าต้องเรียนที่นี่ที่เดียว หรือว่ามีใครที่บอกว่า ศรัทธาของตนเอง ไม่ได้บังคับ แต่ต้องเชื่อและทำตาม ใครไม่ทำตาม นรก รออยู่ .... . .เด็กนักเรียนมีสิทธิในการแสดงออกซึ่งหลักความเชื่อและการศรัทธาเต็มที่ตามรัฐธรรมนูญใน ซึ่งก็ไม่ได้ระบุว่ายกเว้นเขตวัดน่ะ! จะแสดงออกอะไร ก็ขึ้นกับสถานที่ หากชาวพุทธไปสวดมนต์ทำวัตรเช้าวัตรเย็น ในเขตสุเหร่า จะได้หรือไม่ โดยอ้างสิทธิมนุษยชน หรือมุสลิมจะไปละหมาดในเขตโบสถ์คริสต์ เขาจะให้หรือไม่ ( ในเมื่อพระเจ้าองค์เดียวกันมิใช่หรือ ) จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 16:28:48

ความคิดเห็นที่ 7 ศรัทธาตามศาสนาก็เป็นเรื่องดีครับ แต่มันต้องสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมด้วยครับ เมื่อเราไปอยู่ในคนหมู่มาก ย่อมต้องมีหลักเกณฑ์ แต่หลักเกณฑ์นั้นต้องไม่ทำให้ใครเดืดร้อน ซึ่งไม่ทราบว่า รร.น้องเค้าอยู่ จ.อะไร ปล.ถ้าเล่นคลุมหมดทั้งตัว เหลือแต่ตานี่ก็ไม่ไหวนะครับ น่ากลัวเกินไป ดูแล้วไม่ปลอดภัย จากคุณ : addot เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:16:53

ความคิดเห็นที่ 8 คุน อวิชชา เปรียบเทียบผิดนะครับ น้องๆเค้าแค่จะคลุมฮิญาบ ไม่ได้จะเข้าไปละหมาดในวัด เค้าไม่ได้จะไปละเมิดหรือไม่ให้เกียร์ติอะไรเจ้าของบ้านเลย มันคนละเรื่องกัน อย่างนี้ถ้าพระจะเดินผ่านสุเหร่าต้องจับถอดจีวอน เดินกันเลยมั๊ย ไอ้เรื่องจะมาสวดมนในสุเหร่า หรือจะไปละหมาดในวัดนี่มันก็เกินไป มันคนละเรื่องกันเลย เหตุผลไม่เข้าท่า จากคุณ : anothai_hut เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:45:16

ความคิดเห็นที่ 9 คห.3 การคลุมฮิญาบเป็นคำสั่งใช้จากพระเจ้าค่ะ มีกล่าวไว้ในคัมภีร์ อัลกุรอ่านค่ะ  ไม่ใช่เป็นวัฒนธรรม หรือประเพณีอาหรับ แต่ประการใด คห.7 รร.ที่น้องเค้าเรียนอยู่ที่ รร. มัธยมวัดหนองจอก กทม ค่ะ น้องเค้าไม่ได้คลุมฮิญาบแบบปิดหน้าค่ะ คือคลุมแบบธรรมดา เปิดเผยใบหน้าค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:48:17

ความคิดเห็นที่ 10 คห. 5 ไม่ทราบว่าไปค้นข้อมูลเค้าทำไม เพื่ออะไร ไม่มีอะไรจะเล่นแล้วหรือคะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:50:38

ความคิดเห็นที่ 11 ปัยหาที่มันวุ่นวายไม่รู้จบ ไม่ว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือว่าส่วนไหนๆของประเทศไทย การที่ไม่เคารพอัตตาลักษณ์ทางวัฒนธรรมและโดยเฉพาะเรื่องศาสนา ถือว่าเป็นการกดขี่อย่างรุนแรง โรงเรียนและสำนักงานส่วนใหย่เดี๋ยวนี้เข้าใจและยอมอะลุ้มอะหล่วยให้ ที่น้องเค้าเรียกร้อง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และไม่ได้ทำให้โรงเรียนต้องสูญเสียภาพลักษณ์อะไรไป  คำว่า วิชั่น ของผู้บริหารโรงเรียนยังขาดอีกมากมาย ชื่อโรงเรียนถึงแม้นจะเป้นวัด แต่ขึ้นกับเขตหนองจอก  ซึ่งถิ่นแถวนี้ มุสลิม อาศัยอยู่เป้นจำนวนมาก การละหมาดในวัดทำไมจะทำไม่ได้ มีเยอะไปขอละหมาดที่วัด ขอละหมาดที่โบสถ์ ทัวร์ฉิงฉับมุสลิม นอนวัดด้วยซ้ำไป เพื่อนต่างศานิกอื่น ก็เดินเข้าเดินออกสุเหร่ากันขวักไขว่ ไม่เห็นมีใครเค้าห้ามกันเลย เพียงแต่อย่าไปทำในข้อละเมิดทางศาสนาซึ่งถือว่าไม่เคารพสถานที่ อาจารย์ผมก็เป้นพระ ไปเยี่ยมท่านบ่อยๆไป สิ่งที่ท่านไม่เคยเห้นอย่าไปเหมาว่าไม่ถูกต้อง การที่น้องออกมาเรียกร้อง  เค้าเรียกร้องในการกระทำกรรมดี ไม่ได้เรียกร้องกระทำการชั่ว ถ้าผู้บริหารมีวิชั่นแค่นี้ พี่จิม แนะนำว่า ไปร้องที่สำนักนายก เลยครับ ให้มันเด้งเป็นแถวๆไปเลย จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 18:03:31

ความคิดเห็นที่ 12 คห 6 โรงเรียนไม่ใช่บ้าน    และโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนรัฐ ฉะนั้น ถ้าโรงเรียนตั้งระเบียบที่ขัดกับรัฐ  ระเบียบโรงเรียนก็โมฆะ คห 3 ฮิญาบ ไม่ผิดกฎหมาย  แต่แก้ผ้า ผิดกฎหมาย *************************************************************************** อีกอย่างที่รับทราบมาก็คือ  โรงเรียนนี้ ครูมุสลิมและแม่ค้ามุสลิมคลุมฮิญาบ   แต่ดันมามีปัญหากับนักเรียน มันคือ ผู้ใหญ่รังแกเด็ก  ดีๆนี้เอง จากคุณ : abubilal เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 18:09:26

ความคิดเห็นที่ 13 K.AvijJA มุสลิมสวดมนต์ในโบสถ์คริสต์....ได้สิครับทำไมจะไม่ได้ จากคุณ : Savio เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 18:55:29

ความคิดเห็นที่ 14 อีกที่นึง จากคุณ : Savio เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 18:58:22

ความคิดเห็นที่ 15 ที่นาโปลี อิตาลี จากคุณ : Savio เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:00:26

ความคิดเห็นที่ 16 ความบาดหมางกันในอดีตได้จบสิ้นไปแล้ว จากคุณ : Savio เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:04:47

ความคิดเห็นที่ 17 เสรืมครับ โรงเรียนที่ผมจบมาเป็นโณงเรียนคริสเตียน แต่ก็มีนักเรียนเป็นอิสลามมาเรียนด้วย ทางโรงเรียนจึงได้จัดสถานที่สำหรับ ละหมาดเอาไว้ แต่ในทางปฏิบัติไม่มีคนไปใช้ครับ เพราะด้วยความไม่สพดวกในการปลีกตัวจากชั่วโมงเรียนมาทำละหมาด จึงเลยมาถึงการสวมผ้าคลุม อยากบอกว่าปกติโรงเรียนรัฐเค้าจะมีระเบียบว่าด้วยการแต่งกายครับ แต่ไม่ทราบว่าเค้าจะกำหนดสำหรับนักเรียนมุสลิมไว้หรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริหารโรงเรียน ว่าผอ. จะ  "บักเดียว" หรือไม่ ว่ากันตามจริงประเทศไทยถือกฏหมายฝ่ายอาณาจักรเป็นใหญ่ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับประเทศมุสลิม ก็คงเป็นตุรกี นั้นคือ หลักปฏิบัติทางศาสนาใดๆย่อมสามารถทำได้หากไม่ละเมิดต่อกฏหมายและสิทธิเสรีภาพและความสงบเรียบร้อย ซึ่งหากศาสนิกไม่พอใจว่าเป็นการกีดกัน ก็ไปดำเนินการตามคั่นตอนเพื่อให้ได้สิทธินั้นเอาเอง ยกตัวอย่าง การบวชพระในศาสนาพุทธตามหลักการบวชจะทำได้ง่ายแต่ตามกฏหมายต้องบวชโดยอุปัชชาที่ถูกต้องตามกฏหมาย หรือพิธีกรรมในศาสนาคริสต์ที่ต้องใช้เหล้าองุ่นไม่สามารถทำได้ภายในเขตที่มีการประกาศกฏหมายเลือกตั้ง จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:17:07

ความคิดเห็นที่ 18 โรงเรียนตั้งอยู่ในเขตวัดหรือเปล่า  หรือว่า เป็นที่ของโรงเรียนเอง แล้วกฏเกณฑ์นี้ ใครเป็นคนออก ? ? รร. หรือ วัด หากเป็นวัด เจ้าของที่เขาก็มีสิทธิที่จะออกกฎเกณฑ์ใดใด ออกมา หากโรงเรียนทำไม่ได้ หมดสัญญาเมื่อไร ก็ย้ายไปหาที่ตั้งใหม่ เห็นด้วยเลย ไปร้องเรียน หน่วยราชการ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง หรือไปฟ้องศาลก็ดี  ไม่ใช่ออกคลิปมาปลุกระดมก่อม้อบ มุมภาพในคลิป ใช้มุมเงย ให้ดูเหมือนการออกคำสั่ง ของนายต่อบ่าว หรือเปล่า (สงสัย) แล้วการจัดแสงสี สวยงามดีนะ ตัดต่อฉับไว น้ำเสียงดุดัน เร้าอารมณ์อีกต่างหาก จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:21:26

ความคิดเห็นที่ 19 อย่าหาว่าอย่างงู้อย่างงี้เลยน่ะ..คนไทยพุทธหรือคนศาสนาอื่นๆที่ "ไม่รู้เรื่อง" หลักของศาสนาอิสลามว่าการคลุมอีหญาบมันสำคัญขนาดไหน  ขอร้องอย่ามาแสดออกซึ่งความ โง่ งี่เง่า จะได้มั้ยค่ะ..มันทุเรศอ่ะคะ จากคุณ : เด็กชายตัวเล็ก (เด็กชายตัวเล็ก) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:50:58

ความคิดเห็นที่ 20 ลองเปิดดูyoutube นี้ดูบ้างนะ ท่าจะดี http://www.youtube.com/watch?v=h6xdYDbxZnI http://www.youtube.com/watch?v=jJkYJ3cbxh0&feature=related แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 20:24:06 จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:11:08

ความคิดเห็นที่ 21 นี่อีกอันหนึ่ง                                                       http://www.youtube.com/watch?v=N8sB6bSh1uU&feature=related แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 20:27:19 จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:26:26

ความคิดเห็นที่ 22 ^ อันนี้คงเป็นการแสดงความคิดเห็นของคุณสินะ แต่ก้ไม่แปลก เจตนาของคุณ เห็นมาหลายกระทู้ พอๆกับคุณ AvijJA เลยทีเดียว เอาใหม เดี๋ยวฉันจะเอาคลิปการกระทำของคนศรีษะโล้น ที่อยู่ในคราบผ้าเหลืองมาลงมั้งด้วยดีไหมคะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:40:00

ความคิดเห็นที่ 23 คลุมฮิญาบ เดือดร้อนใคร แล้วห้ามทำไม งานนี้น่าไปด้วยครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:43:27

ความคิดเห็นที่ 24 อืมมม ดูแล้วมีอะไรเหรอครับ เกี่ยวอะไรกับ การไม่ให้คลุมฮิญาบ? ยกมาแล้วมันตรงประเด็นไหมครับ คุณ สุดเดียวดาย จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:45:49

ความคิดเห็นที่ 25 รัฐธรรมนูญเป็นหลักก็จริง แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า เจ้าของสถานที่ก็มีสิทธิต่อพื้นที่ของตนอย่างถูกต้องเช่นกัน โรงเรียนนั้นอยู่ในที่ธรณีสงฆ์ ดังนั้น มติสงฆ์ก็มีสิทธิ์ ที่จะวางระเบียบต่างๆ เช่นกัน เพราะเจ้าของพื้นที่ก็มีสิทธิถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน โรงเรียนเป็นแค่ผู้เช่าอยู่ แม้กฎของโรงเรียนจะมีหลักการของกฎกระทรวงศึกษาฯ รองรับก็ตาม มติสงฆ์ก็มีสิทธิจะยกเลิกสัญญาเช่าที่โรงเรียนได้ เสรีภาพในที่สาธารณะใครจะใส่ยังไงก็เป็นเรื่องของเขา แต่ควรอ้่างในที่สาธารณะ ไม่ใช่อ้างในพื้นที่เฉพาะที่เขามีกฎระเบียบอีกอย่างหนึ่ง ถ้าคุยกันในเชิงกฎหมายจริงๆ ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่มีสิทธิและอำนาจอย่างถูกต้อง ถ้าเป็นคดีขึ้นมา ฝ่ายที่เสียกับเสียก็คือฝ่ายมุสลิม  ทั้งภาพลักษณ์ของพวกคุณ และอาจจะเป็นกรณีลุกลามที่ทำให้เด็กในพื้นที่อื่นลำบากไปอีกด้วย เรื่องนี้ ทำไมเด็กส่วนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ชาวพุทธ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ดังนั้นปัญหาอยู่ที่ตัวนักเรียนเคร่งศาสนาเองครับ ในข่าวมีไม่กี่เองคนด้วย สมควรจะไปเรียนในโรงเรียนศาสนาซึ่งมีเยอะแยะ หรือไปเรียนที่ต่างประเทศก็ำได้ ไม่จำเป็นต้องกลับมาเรียนโรงเรียนเดิม   กลุ่มมุสลิมควรจะช่วยกันดูแลตรงนี้ ไม่ใช่ดึงดันจะผิดกฎมติสงฆ์ในพื้นที่ อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ ไม่มีปัญหาอะไร เด็กก่อนหน้านี้กี่ปี ที่เป็นมุสลิม ที่ไม่ได้คลุมฮิญาบก็ไม่มีข่าวว่าเป็นปัญหา ปัญหาคือมีแต่เด็กไม่กี่คน และกลุ่มปลุกระดมไม่กี่คนทำให้วุ่นวายขึ้นมา ไปประท้วงให้วุ่นวาย  แม้แต่ชาวบ้านมุสลิมในพื้นที่ก็ไม่อยากให้่มีเรื่องวุ่นวายแบบนี้ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:49:55

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ได้เข้าห้องนี้มาหลายปี ตั้งแต่สมัย บังโมเสส  Beckme  ฮกเกี้ยน มุสลิมคน1 Carroth คลื่นแทรก เอื้องอัยราวัณ และอีกหลายๆคนที่ไม่ได้เอ่ยนาม เห็นเรื่องนี้แล้วรู้สึกอยู่เฉยไม่ได้ ประการแรกอยากให้เอาอคติส่วนตัวออกไปก่อน อยากจะขอเริ่มต้นด้วยอัลกุรอ่าน รัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน สิทธิการละหมาดเเละการคลุมฮิญาบรวมทั้งศาสนบัญญัติตามกฎหมายราชอาณาจักรไทย http://www.fityatulhaq.net/forum/index.php?topic=365.0 กฏหมายน่ารู้สำหรับมุสลิม 1) ศาสนาอิสลามได้บัญญัติให้สุภาพสตรีมุสลิมแต่งกายมิดชิดเพื่อเป็นการป้องกัน การละเมิดทางเพศ ดังโองการในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า “โอ้ นบี(มูฮัมหมัด) เอ๋ย จงกล่าว แก่ภรรยาของเจ้า และบุตรสาวขอเจ้า และบรรดาหญิงของบรรดาผู้ศรัทธา ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของพวกนาง นั้นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวน และอัลเลาะฮเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (อัลกุรอาน บทที่ 33 โองการที่ 59) 2) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ได้บัญญัติคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการนับถือศาสนา ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 37 ความว่า “ บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยมในทางศาสนา และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบ ร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในการใช้เสรีภาพตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองมิให้รัฐกระทำการใดๆ อันเป็นการรอนสิทธิหรือเสียประโยชน์อันควรมีควรได้ เพราะเหตุที่ถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมในทางศาสนา หรือปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือ แตกต่างจากบุคคลอื่น ” 3) รัฐสภาได้ตราพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียนพ.ศ.2551 โดยได้กำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการออกระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน และนักศึกษา ตามนัยของมาตรา 5 ความว่า “ให้ นักเรียนแต่งเครื่องแบบนักเรียน ลักษณะของเครื่องแบบนักเรียน วิธีการแต่ง เงื่อนไขในการแต่ง และการยกเว้นไม่ต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียน ให้เป็นไปตามระเบียนที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด” มาตรา 8 ความว่า “ บรรดาระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่ออกโดยอำนาจตาม พระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2482 ที่ได้ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัด หรือแย้งกับบทบัญญัติในพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้จนกว่าจะได้มีการออกระเบียบตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้” 4) กระทรวงศึกษาธิการได้ออกระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียนและนักศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540 ตามข้อ 5.9.2 ความว่า “ เครื่องแบบนักเรียนและนักศึกษาหญิงมุสลิม ประกอบด้วย เสื้อผ้าสีขาว คอปกบัว ผ่าด้านหน้าตลอด แขนยาวปลายแขนจีบรูดมีสาบกว้างไม่เกิน 5 เซนติเมตร ตัวเสื้อยาวคลุมสะโพกไม่รัดรูป ผ้าคลุมผม ใช้ผ้าสีขาวเกลี้ยงไม่มีลวดลาย หรือสีเดียวกันกับสีผ้าของกระโปรง สี่เหลี่ยมจตุรัส ความยาวด้านละ 100 – 120 เซนติเมตร ขณะสวมใส่เย็บติดตลอดตั้งแต่ใต้คางจนถึงปลายมุมผ้า ปักอักษรย่อ ปักสัญลักษณ์ หรือติดเข็มเครื่องหมายของสถานศึกษาตามที่สถานศึกษากำหนด กระโปรง ใช้ผ้าสีเดียวกันกับสีผ้าของกระโปรงนักเรียนและนักศึกษาทั่วไปที่ใช้ในสถาน ศึกษานั้น แบบสุภาพ พับเป็นจีบข้างละ 3 จีบ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีความยาวคลุมข้อเท้า รองเท้า ถุงเท้า ใช้รองเท้าหุ้มส้น สีดำ มีสายรัดหลังเท้า หรือแบบหุ้มส้น หุ้มปลายเท้า มีส้นสูงไม่เกิน 2 นิ้ว ไม่มีลวดลาย ถุงเท้าสีขาวไม่มีลวดลาย ปลายถุงเท้าไม่พับ” จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:09:31

ความคิดเห็นที่ 27 มีนิดเดียวที่เกี่ยวนะครับ คือไม่อยากให้ประเทศแตกแยก แตกแยกนี่ในทุกกรณี รวมทั้งแตกแยกทางความคิดในการปฏิบัติกิจทางศาสนาด้วย ฝรั่งเศสเขาห้ามเด็ดขาดที่จะใส่.....ในสถานที่สาธารณะทุกประเภทครับ..  ถ้ามีกระทู้แบบนี้ เดี๋ยวก้ทะเลาะกันเรื่องหลักปฏิบัติทางศาสนาหนักขึ้นๆๆไปอีก จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:18:30

ความคิดเห็นที่ 28 ผมได้เห็นหลายๆความเห็นทั้งใน http://newweb.bpct.org และ webboard ของชาวพุทธอื่นๆ หลายคนให้ความเห็นว่า -เห็นคนมุสลิมที่รู้จักกัน ก็ไม่เห็นคลุมเลยเค้าก็อยู่ของเค้าได้ ไม่มีปํญหาอะไร หรือความเห็นหนักๆเช่น อยากคลุมก็ไปอยู่ประเทศมุสลิมสิ ที่นี่ประเทศไทย เป็นของศาสนาพุทธ มันได้สะท้อนความคิดความอ่าน ความมีอคติ ของคนบางกลุ่มออกมา รู้สึกไม่สบายใจ นึกไม่ถึงว่าจะมีความแบบนี้ที่ประกาศตนเองว่าเป็นพุทธมามกะ ทั้งที่เป็นฆราวาสและพระสงฆ์ด้วย จะมีใจคอคับแคบแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 21:20:11 จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:19:38

ความคิดเห็นที่ 29 อยากจะโต้แรงๆนิดหน่อย โดยใช้ตรรกะเดียวกับคนที่โต้ต่อต้านฮิญาบ -เห็นคนมุสลิมที่รู้จักกัน ก็ไม่เห็นคลุมเลยเค้าก็อยู่ของเค้าได้ ไม่มีปํญหาอะไร --->เหมือนกับพยายามจะยกคนที่ไม่คลุมฮิญาบ ซึ่งผิดหลักการศาสนาเป็นสิ่งที่ถูก เห็นด้วยและรู้สึกยินดีที่เค้าไม่คลุม เหมือนกับหลายๆคำที่ผมเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆจนถึงโต ผมไม่กินหมูครับ --> เพื่อนกรูแถวบ้านมันยังกินเลย แถมมันยังบอกว่าอร่อยด้วย ผมต้องละหมาด 5 เวลาครับ --> เพื่อนพี่ไม่เห็นมันเข้ามัสญิดเลย ผมไม่กินเหล้าครับ --> เฮ้ย ไปกินกับพี่หน่อยสิ ตอนเลี้ยงรุ่นเพื่อนพี่ที่เป็นมุสลิมสมัยเรียนมหาลัยยังกินเลย ฯลฯ คือพยายามยกคนที่ไม่เคร่งศาสนาแล้วบอกให้เราทำตามในสิ่งที่ผิด ถ้าผมใช้ตรรกะเดียวกัน -ผมเห็นคนพุทธแถวบ้านผม ก็เป็นเพื่อนกับคนคลุมฮิญาบเค้าก็ไม่เห็นมีปัญหาเลย -โรงเรียนอื่นที่เป็นโรงเรียนวัด เค้าก็ไม่ได้ห้ามเด็กคลุมฮิญาบเลย ทำไมโรงเรียนวัดหนองจอกถึงเป็นปัญหา แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 21:39:07 จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:30:42

ความคิดเห็นที่ 30 http://www.aia.or.th/hotnews-hijab@watnongjok.htm ไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ ว่าการสวมฮิญาบกระทบสิทธิของใคร ศาสนาพุทธเสื่อมเสียยังไง ถูกกลืนยังไงหรือคะ ถ้าน้องเขาจะคลุมผม หรือคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เท่ห์ เด็กๆพุทธเห็นแล้วจะทำตาม อีกหน่อยจะใส่ฮิญาบเข้าวัด หรือเดี๋ยวคนจะแห่เข้ารับอิสลาม? ทั้งหมดที่ยกมา มีสักข้อที่เป็นไปได้มั้ยคะ แล้วฮิญาบไปกระทบความสงบเรียบร้อยยังไง ประเทศไทยยังเป็นประเทศประชาธิปไตยหรือคะ ? หากจะบอกว่า รร.มีกฎเกณฑ์ ต้องทำตาม ถามว่า รร.อยู่เหนือกฎหมายด้วยหรือ ?  ถ้างั้นต่อไป จะทำอะไรให้ รร.ขัดใจก็ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวเกิดขัดใจขึ้นมา เราคงลำบากกันหมด แม้กระทั่งกฎหมายยังทำอะไร รร.ไม่ได้ ... โอ้ ประชาธิปไตย แบบนี้ยังกล้าเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยอีกหรือ... หรือว่ารัฐธรรมนูญไทย มีไว้แก้กันเล่นๆในสภา ไม่ได้มีคุณค่าไว้ปกป้องประชาชน แม้แต่เด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งก็ยังให้ความเป็นธรรมไม่ได้ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:31:54

ความคิดเห็นที่ 31 "อยากคลุมก็ไปอยู่ประเทศมุสลิมสิ ที่นี่ประเทศไทย เป็นของศาสนาพุทธ" -> ในรัฐธรรมนูญกับระเบียบของกระทรวงบอกไว้เป็นแบบนี้ คนที่ไม่ทำตามรัฐธรรมนูญกับระเบียบของกระทรวง คือคนที่ควรจะไปอยู่ประเทศอื่นมากกว่าครับ จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:32:08

ความคิดเห็นที่ 32 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 21:38:40 จากคุณ : anothai_hut เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:36:19

ความคิดเห็นที่ 33 โดยส่วนตัวของผม ถ้าโรงเรียนใด ที่ไม่ใช้เงินภาษีของประชาชน ใช้เงินส่วนตัวเองทั้งหมด ไม่ว่าอาคารเรียน เงินเดือนครู ฯลฯ โรงเรียนมีสิทธิที่จะออกกฎตามที่ตัวเองต้องการได้ครับ ถ้าเค้าไม่อยากให้คลุมก็ไม่เป็นไร ผมก็ส่งลูกไปเรียนที่อื่น แต่ในกรณีที่ใช้เงินภาษีของผม ใช้ระเบียบของกระทรวง เงินเดือนครู อาคารเรียนต่างๆก็ใช้เงินภาษีของผม ผมก็ต้องมีสิทธิชอบธรรมโดยสมบูรณ์ที่จะให้เพื่อนร่วมศาสนาของผมคลุมฮิญาบ ถ้าอยากวัดต้องการจะออกกฎระเบียบแบบอคติส่วนตัว(ซึ่งพระพุทธเจ้าเองก็ไม่ได้บัญญัติห้าม ในพระไตรปิฎกก็ไม่ได้บอกไว้) ก็ควรจะใช้เงินส่วนตัวทั้งหมดทุกอย่าง อย่าใช้ภาษีของประชาชน แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 21:40:27 จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:37:32

ความคิดเห็นที่ 34 ต้องขอวิจารณ์คนที่ออกมาต่อต้านการคลุมฮิญาบหน่อยครับ ขอเน้นไปที่ชาวพุทธนะครับ (เพราะคนที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่คือ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย) ความเห็นส่วนตัวนะครับ ภัยของพุทธศาสนาจริงๆแล้ว อยู่ที่ชาวพุทธเองมากกว่าครับ ไม่ทำนุบำรุงศาสนา ไม่ปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนาเอง ศีล5 ทีบัญญัติไว้ ผับ บาร์ คาราโอเกะ เหล้า บุหรี่ การพนัน   กลับเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย การที่จะป้องกันพุทธศาสนาจริงๆ น่าจะบอกให้ชาวพุทธปฏิบัติตามศีลข้อต่างๆให้ครบมากกว่า หรือเรียกร้องรัฐบาลให้หยุดขายเหล้าเบียร์ ปิดผับ ปิดบาร์ กวดขันเรื่องการพนัน หยุดหวย หยุดพระไม่ให้ใบ้หวย ถ้าหากองค์กรพุทธศาสนา มีนโยบาย เรื่องเหล่านี้จริงๆ ผมบอกตามตรงนะครับ องค์กรมุสลิมต่างๆจะออกมาเห็นด้วย  ร่วมด้วยช่วยกันอย่างแน่นอน และยังช่วยสร้างความปรองดองให้กับคนทั้ง 2 ศาสนาได้อีกด้วย แต่การที่มีองค์พุทธศาสนาบางกลุ่ม แสดงออกคล้ายๆกับว่า เราปกป้องพุทธศาสนา โดยการดึงคนมารักษาศีลไม่ค่อยได้แล้ว  แล้วออกมากด ออกมาต่อต้านคนที่พยายามปฏิบัติตามศาสนาที่ตัวเองนับถือ  ดูไม่เข้าท่าเท่าไหร่ครับ จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:53:11

ความคิดเห็นที่ 35 ประเด็นนี้ถ้าเอาตรงๆเนื้อๆมันไม่เกี่ยวกับศาสนานะ ตรงๆเนื้อคือ คนๆหนึ่งเข้าใจว่าตนเองถูกจำกัดสิทธิอันพึงมีตามที่กฏหมายกำหนด สิ่งที่ถูกต้องตามกระบวนการประชาธิปไตย ต้องมีการร้องเรียนตามกระบวนการตามขั้นตอนของกฏหมายอันเป็นที่ยอมรับ เช่นศาลปกครอง หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แต่ตามที่ปรากฏในคลิปเนื้อหาไม่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์คือการเรียกร้องสิทธิอันพึงมีตามรัฐธรรมนูญและกฏหมาย แต่กลับเป็นการปลุกปั่นอันว่าด้วยเรื่องของการกฏขี่ทางศาสนาลามไปจนถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ ซึ่งก็เล็งถึงผลให้เกิดความเกลียดชังในสังคมต่างศาสนา พักหลังๆมักจะเห็นแต่ละความเห็นแสดงให้เห็นถึงอัตตาอย่างสูง มีการเปรียบเทียบยกตนเหนือผู้อื่น ว่ากันตามหลัก ข้อปฏิบัติของแต่ละศาสนาย่อมดีเลิศและสูงส่งอยู่แล้วตามความเห็นของศาสนาตน แต่บางคนผู้มีไม้ทั้งท่อนปักคาตาตัวเองอยู่กับมองเรื่องไม่ดีไม่งามของคนอื่นและยกตนในประเด็นเดียวกันว่าดีเลิศกว่า หรือความเสียหายที่ตัวเองถูกกระทำว่ายิ่งใหญ่ดังขุนเขา นั้นแสดงให้เห็นถึงการคับแคบของจิตืใจอันจะซึ่งไม่สามารถบรรจุคุณธรรมและศีลธรรมอันยิ่งใหญ่ได้ ประหนึ่งตาน้ำจากยอดเขาสูงย่อมเปรียบไม่ได้กับมหาสมุทรอันการใหญ่ที่อยู่ต่ำกว่าแต่ก็อุดมไปด้วยน้ำแห่งปัญญาจากทั่วทุกทิศ ฉันใดก็ฉันนั้น คนที่ยกตัวเหนือผู้อื่นว่าเหนือผู้อื่นย่อมไม่สามารถรับปัญญาความรู้ ความดีงามได้สะดวกประหนึ่งน้ำไม่ไหลขึ้นที่สูงฉะนั้น แต่คนอ่อนน้อม มีจิตใจกว้างขวางต่างหากที่อุดมไปด้วยศีล และปัญญา จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:53:54

ความคิดเห็นที่ 36 ทำไมโรงเรียนวัดไทยไม่ชอบฮิญาบ http://prachatai.com/journal/2011/03/33745 "... จากมติมหาเถรสมาคมในกรณีนี้ที่ 1) การทำให้ “วิถีพุทธ” และ “จารีตประเพณีไทย” เป็นสิ่งเดียวกันบ่งนัยว่าวิถีศาสนาอื่นซึ่งในที่นี้คืออิสลามไม่นับเป็น ส่วนหนึ่งของ “จารีตประเพณีไทย” ที่รัฐไทยให้การรับรองและส่งเสริม และเหตุดังนั้นจึงไม่สามารถแสดงออกในพื้นที่สาธารณะเช่นโรงเรียนได้ และ 2) การ “ห้ามแสดงสัญลักษณ์ทางศาสนาที่ชัดเจน” ในโรงเรียนวัดที่อยู่ในธรณีสงฆ์ประการหนึ่ง กับการกำหนดให้ทุกคนยึด “วิถีพุทธ” ในเขตดังกล่าวที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์และวิธีปฏิบัติของพุทธศาสนาอีกประการ ไม่ได้แสดงความขัดกันเองของมติมหาเถรสมาคม เท่าๆ กับชี้ให้เห็นว่าในกรณีนี้สัญลักษณ์และวิธีปฏิบัติของพุทธศาสนาไม่ถูกนับ เป็น “เรื่องทางธรรม” ที่มีความจำเพาะหรือผูกอยู่กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไป หากแต่กลายเป็น “เรื่องทางโลก” ที่มีลักษณะทั่วไปและดังนั้นจึงสามารถใช้บังคับได้กับทุกคนที่อยู่ในเขตแดน ของรัฐไทย ... " จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:57:12

ความคิดเห็นที่ 37 เอาข่าวเก่ามาเล่าใหม่ วธ.ยันนร.มุสลิมสวมฮิญาบไม่ขัดระเบียบ http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=24753 วธ.-ศธ.เตรียมส่งตัวแทนเข้าเจรจากับวัดหนองจอก กรณีรร.มัธยมวัดหนองจอก ห้ามนร.มุสลิมสวมฮิญาบ ยันศธ.ไม่เคยมีข้อห้ามดังกล่าว วันนี้ (9 มี.ค.54) หลังการประชุมร่วมกับตัวแทนจากกระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก และ ตัวแทนกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ เพื่อหาทางออก และ นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กรณีโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก มีข้อห้ามนักเรียนมุสลิมสวมฮิญาบ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะส่งตัวแทนไปเจรจากับวัดซึ่งเป็นผู้ออกคำสั่ง แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นตัวแทนของกระทรวงวัฒนธรรม หรือ กระทรวงศึกษาธิการ โดยจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่าตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้มีข้อห้ามแต่ยังเปิดกว้างให้นักเรียนสามารถปฏิบัติศาสนกิจและแต่งกายตามความเชื่อของศาสนานั้นๆ ได้ แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนวัด เช่นเดียวกับ สำนักพระพุทธศาสนาก็ไม่ได้มีข้อกำหนดหรือข้อห้าม แต่กรณีนี้ต้องเคารพสถานที่ หากมีการเจรจาลงตัวก็ไม่มีปัญหา พร้อมยืนยันว่า โรงเรียนที่มีนักเรียนที่นับถือหลายศาสนากว่า ร้อยละ 90 ไม่มีปัญหา มีเพียงโรงเรียนวัดหนองจอก ทั้งนี้หลังมีการส่งตัวแทนไปเจรจากับวัด เชื่อว่าปัญหาจะยุติเป็นที่พึ่งพอใจของทุกฝ่าย ทั้งนี้เชื่อการหาทางออกครั้งนี้เพื่อให้โรงเรียน และ ชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ก่อนหน้านี้ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีได้เข้าพบ นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงปัญหาที่ผู้บริหารโรงเรียนวัดหนองจอกห้ามไม่ให้นักเรียนมุสลิม คลุมฮิญาบ ว่า ขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้าใจกันอยู่ และจุฬาราชมนตรีได้เดินทางไปประเทศเยอรมนีเพื่อไปดูนโยบายเกี่ยวกับการกีดกั้นทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งเชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังการห้ามครั้งนี้ เพราะมิติของการคลุมผมไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ซึ่งการคลุมฮิบาบของชาวมุสลิมมีอยู่ทั่วโลกตามปกติ จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:58:27

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นที่ 35 คุณยองเจียงใหม่ "ต้องมีการร้องเรียนตามกระบวนการตามขั้นตอนของกฏหมายอันเป็นที่ยอมรับ" ->ทางคุณยองเจียงใหม่อาจจะยังไม่ทราบว่าทางมุสลิมเพื่อสันติได้ ดำเนินการตามขั้นตอนมาตลอด 1 ปีกว่าแล้วครับ และคงจะมีบางคนได้ถูกลงโทษทางวินัยแน่ๆ "พักหลังๆมักจะเห็นแต่ละความเห็นแสดงให้เห็นถึงอัตตาอย่างสูง มีการเปรียบเทียบยกตนเหนือผู้อื่น ว่ากันตามหลัก ข้อปฏิบัติของแต่ละศาสนาย่อมดีเลิศและสูงส่งอยู่แล้วตามความเห็นของศาสนาตน แต่บางคนผู้มีไม้ทั้งท่อนปักคาตาตัวเองอยู่กับมองเรื่องไม่ดีไม่งามของคนอื่นและยกตนในประเด็นเดียวกันว่าดีเลิศกว่า หรือความเสียหายที่ตัวเองถูกกระทำว่ายิ่งใหญ่ดังขุนเขา นั้นแสดงให้เห็นถึงการคับแคบของจิตืใจอันจะซึ่งไม่สามารถบรรจุคุณธรรมและศีลธรรมอันยิ่งใหญ่ได้ ประหนึ่งตาน้ำจากยอดเขาสูงย่อมเปรียบไม่ได้กับมหาสมุทรอันการใหญ่ที่อยู่ต่ำกว่าแต่ก็อุดมไปด้วยน้ำแห่งปัญญาจากทั่วทุกทิศ ฉันใดก็ฉันนั้น คนที่ยกตัวเหนือผู้อื่นว่าเหนือผู้อื่นย่อมไม่สามารถรับปัญญาความรู้ ความดีงามได้สะดวกประหนึ่งน้ำไม่ไหลขึ้นที่สูงฉะนั้น แต่คนอ่อนน้อม มีจิตใจกว้างขวางต่างหากที่อุดมไปด้วยศีล และปัญญา " -->ส่วนนี้ผมเห็นด้วยนะ มีกลุ่มองค์กรพุทธศาสนาบางกลุ่มคิดอย่างนี้จริงๆ คิดว่าตัวเองดีกว่า ศาสนาเป็นศาสนาที่อยู่ในไทยมาช้านาน อยากจะออกกฎระเบียบให้กดขี่ศาสนาอื่นยังไงก็ได้ ทั้งๆที่ศาสนาอื่นก็ไม่ได้บังคับให้ชาวพุทธมาปฏิบัติตามหลักศาสนาของตัวเองซักกะหน่อย ผมว่าต่างคนก็ต่างปฏิบัติตามหลักศาสนาของตัวเองน่าจะดีกว่า ส่วนใหญ่ที่จะเลื่อมใสศาสนาไหน ก็ว่ากันไปอีกเรื่องนึง จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:12:25

ความคิดเห็นที่ 39 ผมยังเคยเห็นพระบางรูปใน ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย มาวิจารณ์ ธนาคารอิสลาม วิจารณ์ พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการกองทุนซะกาต ฟังแล้วบางครั้งก็รู้สึกขำๆครับ วิจารณ์แบบไม่มีความรู้ อะไรเลย ไม่รู้ด้วยว่า ธนาคารอิสลาม มีรู้แบบยังไง  ซะกาต มีวิธีการคิดยังไง เก็บจากใคร ให้กับใคร ถ้าเป็นอะไรที่มาจากอิสลาม (กรู)ต่อต้านหมด ว่างั้นเถอะ ขออภัยถ้าหากใช้คำรุนแรงนิดหน่อย แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 06:12:17 จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:17:36

ความคิดเห็นที่ 40 -ประเด็นกฎระเบียบของกรทรวงมีผู้มาชี้แจงแล้ว -ประเด็นที่ธรณีสงฆ์อะไร ก้แล้วแต่ แต่ถ้าโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนของทางราชการ กฎระเบียบก็ต้องใช้กฎกระทรวง -โรงเรียนของรัฐ  ที่แต่งอิญาบ  เช่น เครือเตรียมอุดม ทั้งหมด  กระโปรงยาว ผ้าคลุมขาว -ที่ธรณีสุเหร่าก็มี  ที่วากั้ฟ  เอามาสร้างโรงเรียนประชาบาลก็มาก  ในโรงเรียนก็มีพระพุทธรูป -ผมเรียนอิสลามวิทยาลัย นักเรียนพุทธ  ก็สวดมนต์ไป  นักเรียนอิสลามก็ขอพร แบบอิสลาม ไม่เห้นจะต้องมาตั้งแง่อะไร -ส่วนโรงเรียนชื่อวัดไม่ใช่เรื่องแปลก  สุเหร่าชื่อวัดยังมีเลย  เช่น สุเหร่าวัดม่วงแค สุเหร่ากลีบหมู  สุเหร่าวัดสุวรรณ -ในชื่อโรงเรียนมีทั้งชื่อวัด ชื่อสุเหร่าในคราเดียวกัน  เช่นโรงเรียนสุเหร่าวัดม่วงแค  โรงเรียนสุเหร่ากลีบหมู คนไทยสมัยก่อนนิยมเรียกชขุมชน ตามวัด และสุเหร่า การเดินทางจะได้สดวกและเข้าใจง่าย เรื่องของศาสนา  เป็นเรื่องสงวนจุดต่างแสวงจุดร่วม  ไม่ใช่มาตั้งแง่ของใครดีกว่า หรือว่าประเทศนี้เป็นของข้า ฯ  เท่านั้น  พี่จิม แนะนำให้กลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยให้ละเอียด ว่ามันเป้นอย่างที่ท่านเข้าใจหรือไม่ พุทธและอิสลามไม่ใช่อื่นไกล  ก็พี่น้องไทย ทั้งนั้นแต่งงานกันมีลุกหลาน มาตั้งแต่ยังไม่มีประเทศนี้ด้วยซ้ำ ไม่รู้จะมาแอนตี้กันหาวิมานอะไร ด้วยความเคารพ พี่จิม ปล  ศรัทธาของท่านก้คือของท่าน  ศรัทธาของเราก็คือของเรา  อย่าไปคิดแทนซึ่งกันละกัน  มันยุ่งตาย แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:32:09 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:26:51 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:25:20 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:23:05

ความคิดเห็นที่ 41 กระทู้ชักเน่า น่าจะคุยกันในสิทธิ์ของเรื่องฮิญาบ นี่มาปลุกระดม ด้วยคลิปกัน หรือการพูดเรื่องอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ แม้กระทั้งการยกประเด็นต่างๆ ที่ไม่มีมูล หรืออะไรก็แล้วแต่ มาโจมตีศาสนาต่างศาสนา ผมว่า เพลาๆ หน่อย เอาในประเด็นพอครับ จากคุณ : addot เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:35:31

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ addot ปล.ถ้าเล่นคลุมหมดทั้งตัว เหลือแต่ตานี่ก็ไม่ไหวนะครับ น่ากลัวเกินไป ดูแล้วไม่ปลอดภัย ... ที่คุณบอกว่าไม่ปลอดภัย นี่ไม่ปลอดภัยยังไงคะ แล้วมันน่ากลัวยังไง รบกวนช่วยชี้แจงหน่อยได้ไหมคะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:43:12

ความคิดเห็นที่ 43 ตรงๆง่ายๆครับ สมมุติ ผมจะทำความรู้จักคนมุสลิมซักคน เค้าปิดหน้าคลุมหมดเหลือแต่ตา ผมไม่สามารถรู้จักเค้าได้เลยว่าเค้าคิดอย่างไร หรือมี อารม ความรู้สึกอย่างไรต่อเรา ปฏิกิริยา บนใบหน้า ทำให้ทราบว่าเค้าเป็นไง ดีใจ เสียใจ คบได้ไหม เวลาเรา สนทนากับคนๆ นึง เมื่อผมคุยกับเค้า ผมจะรู้หรอเค้าคิดไง รู้สึกไง  ถ้าผมติดต่อทางธุรกิจ ผมจะไม่ทำธุรกิจด้วย เพราะเราไม่สามารถเข้าถึงคนๆนั้นได้ และถ้าติดตามข่าว ในภาคใต้ ชุดคุล่มทั้งตัวมักใช้ในการก่อเหตุ โดยผู้ก่อการร้ายที่เป็นผู้ชายแต่งตัว ทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นชาย หน้าก็ไม่เห็นว่าเป็นใคร อย่างที่กระทู้อันก่อนผมเคยถาม ทำไมฝรั่งเศสมีกฏห้ามคลุมฮิญาบ ก็เป็นสาเหตุนี้ด้วย ที่ผมพูดไม่ได้เกี่ยวกับศาสนาอย่าเข้าใจผิด แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ที่สะท้อนทางสื่อต่างๆ แล้วที่เป็นประเด็นที่เถียงกันที่ผู้ปกครองหรือครูต่อต้าน เพราะภาพลักษณ์ที่แสดงออกไปตามสื่อต่างๆไปในทางไม่ดี ตรงนี้เราต้องเข้าใจเค้าด้วย จากคุณ : addot เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:55:04

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ ^ ตรงๆ ง่ายๆ ครับ คุณควรหยุดใช้โทรศัพท์คุยกับใครๆ เขาซะ เพราะคุณ "ไม่สามารถรู้จักเค้าได้เลยว่าเค้าคิดอย่างไร หรือมี อารม ความรู้สึกอย่างไรต่อเรา ปฏิกิริยา บนใบหน้า ทำให้ทราบว่าเค้าเป็นไง ดีใจ เสียใจ คบได้ไหม เวลาเรา สนทนากับคนๆ นึง เมื่อผมคุยกับเค้า ผมจะรู้หรอเค้าคิดไง รู้สึกไง  ถ้าผมติดต่อทางธุรกิจ ผมจะไม่ทำธุรกิจด้วย เพราะเราไม่สามารถเข้าถึงคนๆนั้นได้" ดังนั้นทุกคนที่คุณคุยทางโทรศัพท์มีสิทธิ์เป็นผู้ก่อการร้ายด้วยเหตุผลดังข้างต้น! จากคุณ : Zeitgeist aka bAdkArmA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:16:07

ความคิดเห็นที่ 45 Addot ถ้าให้อยู่ในประเด็น ก็คือฮิญาบของ รร.วัดหนองจอก ตามระเบียบกระทรวง ก็ไม่ได้ปิดหน้านะครับ ผมเพิ่งอ่านความเห็นข้างบนๆหน่อยที่ถามว่า ทำไมผู้ชายถึงไม่ใส่หมวกขาว ไม่ใส่โต๊ป แล้วให้ผู้หญิงคลุมฮิญาบ เป็นบทบัญญัติศาสนาที่ผู้หญิงจะเปิดได้เฉพาะใบหน้าและข้อมือ ส่วนผู้ชายปิดตั้งแต่สะดือถึงหัวเข่า และไม่ใช่วัฒนธรรมครับ ส่วนที่เป็นวัฒนธรรมคือรูปแบบของการแต่ง ผ้าที่ตัด ฯลฯ ขอยกตัวอย่างอีกอัน บางคนแยกระหว่างบทบัญญัตศาสนากับวัฒนธรรมไม่ออก ง่ายๆเรื่องอาหาร อาหารห้ามกินหมู หมา กบ สัตว์ที่ตายเอง ฯลฯ ส่วนนี้คือบทบัญญัติทางศาสนา ส่วนจะปรุงกันยังไงอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมแต่ละท้องที่ อาหารจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อิตาลี ก็เป็นอาหารอิสลามได้หมด คนไทยชอบไปนึกว่าอาหารอิสลามคือข้าวหมกไก่ ซุปหางวัวอย่างเดียว ขอยกตัวอย่างเท่านี้เดี๋ยวมันจะออกทะเล ิ จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:18:10

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 44 ทั้งทางโทรศัพท์ ซื้อของทางอินเตอร์เน็ต คุณก็ไม่เห็นหน้า แสดงว่าคุณไม่เคยซื้อหรือขายของทางเน็ตเลย จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:21:55

ความคิดเห็นที่ 48 คห.44 คนเรามันจะใช้โทรศัพท์ทั้ีงชีวิต ติดต่อกันหรอครับ ? อย่ามาพูด มั่วๆ นะครับ เอาเหตุผลดีๆหน่อย คห.45 อันที่บอกผมทราบคับ ว่าบทบัญญัติหรือวัฒนธรรม มันไม่เหมือนกัน ผมเคยอ่านกระทู้ต่างๆในนี้ เลยพอทราบ แต่ที่พูดไปที่คห.43 เพราะ คุณเกาะลันตา ต้องการทราบเหตุผล ผมเลยชี้แจงไปครับ จากคุณ : addot เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:22:21

ความคิดเห็นที่ 49 #48 เหตุผลมั่วๆ ก็ผมเรียนรู้มาจากคุณเองสดๆ ร้อนๆ ไง จากคุณ : Zeitgeist aka bAdkArmA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:25:35

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านแล้ว งง... เข้าใจง่ายนะครับ ว่า - รร. อยู่ภายใต้กระทรวง กระทรวงอนุญาตแล้ว รร.จะไม่อนุญาตได้มั๊ย - หากในเรื่องธรณีสงฆ์ จึงเป็นเหตุให้ ในรร.ห้ามคลุมผม ทำไมครูคลุมได้?? หรืออนุโลม แล้วทำไมจึงอนุโลม - หากในกรณีเป็นที่ธรณีสงฆ์ จึงเป็นเหตุให้ ห้ามคลุมผม ทำไมเวลางานวัด คนเข้ามาขายของที่เป้นมุสลิม สามารถคลุมผมเข้ามาขายของ และเที่ยวงานได้ครับ ... อย่าให้เรื่องนี้เป็นกรณี ของอคติของคนบางคน ที่มิใช่เรื่องหลักการศาสนา เลยครับ จากคุณ : hamzah (hamzah) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:25:59

ความคิดเห็นที่ 51 ผมจะก่อตั้งศาสนา โดยบทบัญญัติให้ ทุกคนชายหญิงธรมมดาแต่งชุด เทเลเทบบี้ และต้องสวมมงกุฎลายโดเรมอนด้วยตลอดเวลา ใครไม่ทำถือว่าบาปมาก ตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด ความเชื่อนี้ของผมเป็นปัจเจค เป็นข้อบังคับต้องทำโดยเคร่งครัด คุณไม่สามารถมาห้ามผมได้ อย่ามารังแกเด็กนะโว้ย !!! เหมือนในอเมริกาที่ในบางรัฐบังคับให้สอนเรื่องพระเจ้าสร้างโลก ก็ต้องบังคับให้สอนศาสนาพาสตาฟาเรี่ยน ที่ปีศาสฟาสต้าเป็นตัวสร้างโลกเช่นกัน http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2 จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:31:26

ความคิดเห็นที่ 52 เอ้า เอาเข้าไป นานๆมาเล่นห้องศาสนา ปกติเล่นหว้ากอ พอเจอพวกพูดไม่รู้เรื่อง คุยด้วยเหตุผลไม่เป็น แล้วอย่างงี้คนอื่นที่จะเข้ามาศึกษาเรื่องศาสนา พอมาเจออย่างงี้ก็เซงซิ จากคุณ : addot เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:33:44

ความคิดเห็นที่ 53 ทำไงดี ผมไม่เห็นหน้าตาตอนคุณเซ็งว่าเป็นไง ได้แต่เห็นเป็นตัวอักษร แบบนี้คุณมีสิทธิ์จะเป็นผู้ก่อการร้ายมั้ยอ่ะ ถ้าด่วนเซ็งกันซะแล้ว งั้นขอตัวไปนอนก่อนนะ ดึกแล้ว ไนท์ จากคุณ : Zeitgeist aka bAdkArmA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:45:03

ความคิดเห็นที่ 54 จะทำไรก็นึกถึงภาพลักษ์หน่อยคับ คนอื่นเข้ามาอ่านเดวจะเข้าใจผิด มาเล่นห้องศาสนา เพื่อเผยแพร่หลักศาสนาเเก่บุคคลทั่วไปให้เข้าใจถึงแก่นแท้มากขึ้น หากคุณเข้ามาแล้วไม่ได้สร้างประโยชน์ แล้วยังมาสร้างปัญหาอีก pantip คนเล่นกันเยอะ ทำไร พิมอะไรก็ คิดดีๆครับ มันจะได้ สร้างสรรค์ให้ห้องศาสนามีคนเข้ามาอ่าน ศึกษาเพิ่มขึ้น จากคนที่เข้าใจผิด ให้เข้าใจถูก เพราะเดวจะกระทบต่อส่วนรวมได้ครับ ปลาเน่าตัวเดวเหม็นทั้งเข่ง แต่ยังดีไม่เอาบัตรผ่านมาเล่น จากคุณ : addot เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:04:43

ความคิดเห็นที่ 55 เท่าที่ผมรู้ ส่วนใหญ่มุสลิมแถบๆประเทศเรานิกายสุหนี่ ไม่เคร่งมากคลุมแค่ส่วนผมเท่านั้นนี้ ก็เห็นแขนเห็นหน้าได้ ก็ตามภูมิประเทศย่านนี้ด้วย แต่ก็แปลกที่ปัจจุบัน ยิ่งแถวชายแดนใต้ไปเลียนแบบอาหรับ ชีอะห์ งคลุมหมด ให้เห็นแต่ลูกกะตาหล่ะครับ ลวดลายเสื้อผ้าก็ไม่มี ผมว่ามันยังไงอยู่อ่ะ ส่วนที่คลุมหน้ากับหมด ผมเคยเห็นคำตอบในห้องนี้หล่ะคนที่เป้นมุสลิม เขาบอกว่าป้องกันผู้ชายเกิดกำหนัด? ซึ่งผมก็งงแทนที่จะเป็นการยับยั้งที่ฝ่ายชายกลับผลักให้เป็นผู้หญิงที่ต้องคลุมหน้าแทน หรือบอกเล่นๆเป็นรสนิยม ไว้ลุ้น ตื่นเต้น ? ซึ่งก็งง รสนิยมสำหรับผู้ชายฝ่ายเดียว ตนเองมีความสุข แต่อะไรกดขี่วิถีชีวิตประจำวันจัง จะกินข้าวนอกบ้านที ลำบ๊ากลำบาก โทษทีที่จะบอกว่า ข้อบังคับนี้มันโหดอ่ะ เหมือนกับพวก ฮินดูที่มีหลายวรรณะ เกิดเป็นจัณฑาลก็โคตรซวยรับกรรมไป หรือตามแอฟริกาที่มีประเพณีเย็บอวัยวะสืบพันธ์เด็กหญิงช่วงวัยเด็กโดยอ้างว่าป้องกันการข่มขืน บางประเทศแถวตะวันออกกลาง เอามาเป็นกฎหมายเลยอ่ะ ที่มีผู้หญิงคนนึง ฝืนดื้อไม่คลุมแล้วถูกสามีตัดจมูกเลยอ่ะ จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:39:34

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่สบายใจจัง ที่หลายๆท่านกล่าวว่าคลิปของจขกท.เป็นคลิปปลุกระดม คือปลุกระดมมั้ย ก็ใช่ค่ะ แต่ถามว่า ปลุกระดมแบบนี้ ผิดด้วยเหรอคะ ? ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ผิดด้วยหรือที่จะออกไปเรียกร้องสิทธิ ? น่าแปลกจริงๆที่เรื่องแบบนี้คนเขาก็ทำกันทั้งบ้านทั้งเมือง ไหงไม่เห็นมีใครมาต่อว่าสักคำ ทีมุสลิมที่มีสัญชาติไทยแท้ๆ จะลุกขึ้นมาทำบ้าง กลายเป็นเรื่องผิด ชาวนาขายข้าวไม่ได้ราคา ก็ออกมาประท้วงปิดถนน ปลุกระดมเพื่อให้ราคาข้าวเพิ่ม หรือให้รัฐบาลช่วย ในฐานะชาวนาคนไทย เพื่อให้ตนเองพ้นจากความเดือดร้อน จะด้านใดก็แล้วแต่ แล้วการที่มุสลิมไทย ขอเน้นย้ำว่าเป็นคนไทย จะออกมาเรียกร้องสิทธิให้เด็กหญิงมุสลิม ที่มีสัญชาติไทย ได้คลุมหิญาบ ได้ทำตามหลักการศาสนา ผิดตรงไหน ?? ยิ่งท่านกล่าวหาเรา มันเหมือนท่านยิ่งแสดงความอคติ ทั้งๆที่พวกเขาก็เป็นคนไทยเหมือนกับท่าน มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับท่าน ทำไมไปริดรอนสิทธิเขาล่ะคะ เขาไม่ใช่พุทธศาสนิกชน เขาต้องถอยเลยหรือ เขากลายเป็นคนต่างด้าวหรือคะ ถ้าไม่นับถือพุทธ ประชาธิปไตยของประเทศ อยู่ตรงไหนคะ ? ถึงคุณหางแหลม ท่านคงจะได้รับข้อมูลผิดๆบางอย่างมา อิสลามไม่มีนิกายนะคะ ที่เรียกกันซุนนี่ แค่จะแบ่งแยกออกจากกลุ่มต่างๆที่ไม่ใช่อิสลามเท่านั้น เรื่องเคร่งไม่เคร่งก็ไม่รู้ แต่ว่าที่ชายแดนใต้หรือที่ไหนก็ตามของประเทศ ไม่ได้ไปเลียนแบบอาหรับหรือชีอะฮฺ ที่เขาทำกันคือตามหลักการศาสนา มุสลิมทุกคนถืออัลกุรอานและหะดีษเป็นครรลองของชีวิต อีกทั้งชาวชีอะฮฺ(ซึ่งความเชื่อและหลักการศรัทธาของพวกเขา ไม่ถือว่าเป็นอิสลาม) ไม่มีการคลุมหน้าค่ะ การคลุมหน้านั้นมีเฉพาะกลุ่มซุนนะฮฺ ก็คือมุสลิมธรรมดาทั่วๆไป เรื่องที่ท่านบอกว่าแต่งกายแบบนี้แล้วมันยังไงอยู่ มันยังไงเหรอคะ ขอคำชี้แจงนิดนึงจะได้ตอบถูก เท่าที่ดูจากความคิดเห็นของท่านคร่าวๆ ท่านเข้าใจว่ามันเป็นการกดขี่สตรีหรือคะ ทั้งๆที่มันเป็นการปกป้องผู้หญิง หากท่านพบหญิงสาวแต่งกายรัดรูปโป๊เปลือย กับมุสลิมะฮฺที่คลุมหมดทั้งตัว ท่านจะมองคนไหน ? แล้วท่านคิดว่าใครมีโอกาสถูกทำร้ายมากกว่ากัน ? ตอบตามความจริงนะคะ อย่าอคติ การคลุมหิญาบเป็นหลักการที่มุสลิมะฮฺจะต้องปฏิบัติ แต่การสวมนิกอบนั้นขึ้นอยู่กับตัวมุสลิมท่านนั้นว่าเต็มใจจะสวมใส่หรือไม่ ตามหลักการของศาสนาไม่มีการขู่บังคับในเรื่องของศาสนา ยิ่งตัวอย่างที่ท่านยกมาลอยๆ ก็ไม่มีความชัดเจนว่า หญิงสาวที่ถูกตัดจมูก ถูกตัดเพราะหลักการศาสนาบ่งชี้เอาไว้ หาหลักฐานมาให้ก่อนนะคะว่ากฎหมายแบบนั้นมีอยู่ แล้วมีหลักการศาสนาอิสลามที่บอกให้สามีตัดจมูกภรรยาแบบนั้น ลิ้งค์ด้านล่างที่นำมาให้ เป็นเรื่องของทัศนะนักวิชาการเกี่ยวกับเรื่องหิญาบที่ถูกต้องค่ะ เผื่อว่าท่านหางแหลมสนใจจะอ่าน http://www.muslimahtoday.net/index.php?option=com_content&task=view&id=44&Itemid=42 จากคุณ : ก้อนหินแห่งศรัทธา เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 05:19:44

ความคิดเห็นที่ 57 ความคิดเห็นที่ 55 หางแหลม คุณรู้หรือเปล่ารูปที่คุณเอามาลง เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสมีกลุ่มคนหัวเอียงซ้าย ไม่ใช่มุสลิม ออกมาต่อต้านรัฐบาลฝรั่งเศสที่ออกกฎหมายห้ามมุสลิมคลุมนิกอบ "บางประเทศแถวตะวันออกกลาง เอามาเป็นกฎหมายเลยอ่ะ ที่มีผู้หญิงคนนึง ฝืนดื้อไม่คลุมแล้วถูกสามีตัดจมูกเลยอ่ะ" -->คุณไปเอามาจากไหน  ยกกฎหมายอิสลามข้อนี้ให้ผมดูด้วย ผมท้าให้คุณไป Search ใน Google หรือ Search engine ด้วยอื่นก็ได้ ผมจะบอกให้ว่า ประเด็นคือ คุณไปเห็นคนมุสลิมทำแบบนี้ คุณก็เลยทึกทักว่า อิสลามต้องสอนแบบนี้ด้วย อย่าลืมไปหามาให้ผมดูด้วยนะครับ คอยดูอยู่ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 07:08:25 จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 06:21:36

ความคิดเห็นที่ 58 น่าเบื่อมากมาย คนกลุ่มนี้.. ไม่สนใจสังคมรอบข้าง ชอบแต่จะอ้างข้อบัญญัติของศาสนาตน อยู่ที่ไหนก็ต่อต้านกฎระเบียบ กฎหมายของที่นั่น เป็นคนส่วนน้อยก็ตั้งกองกำลังขึ้นสู้ ก่อการร้ายไปเรื่อย เป็นคนส่วนใหญ่ ก็ออกกฎระเบียบบีบบังคับ เข่นฆ่าคนศาสนาอื่น.. ในประเทศพวกนี้ ใครปฏิบัติตามศาสนาอื่น มีความผิด บางทีถึงฆ่าทิ้ง จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 07:40:23

ความคิดเห็นที่ 59 ความเห็นที่ 58 มีเหตุผลหน่อยสิครับ   อีกทัศนะครับ จาก อานนท์ มาเม้า  (อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ในประเด็นทางศาสนากับกรณีโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก - http://www.enlightened-jurists.com/directory/151 จากคุณ : Hectic.DIY เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:11:35

ความคิดเห็นที่ 60 ใครจะเป็นอย่างพวกคุณหละครับ... วันเกิด ชนแก้ว วันสอบเสร็จ ชนแก้ว วันอกหัก ชนแก้ว วัน..(...).. ชนแก้ว เอาบทบัญญัติไว้ตรงไหนครับ (มีไว้เพื่อ?)... พวก มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ผมไม่มีเจตนาเหมารวมนะครับ (คนดีๆอย่าร้อนตัว) จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:35:57

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ addot คห .43 ถ้าคนมันจะทำต่อให้ไม่คลุมทั้งตัว มันก็วางระเบิด ฆ่าคน ก่ออาชญากรรม ได้เหมือนกันค่ะ เช่น ถ้าคนหนึ่งจะวางระเบิด หรือ ก่อเหตุต่างๆ แค่ใส่ชุดธรรมดา หรือ แค่ถือ กระเป๋า ใบหนึ่ง ก็สามารถ ก่อเหตุได้แล้ว ใน กทม ก็มีนี่ ไม่เห็นคลุมทั้งตัว ก็เห็นยังก่ออาชญากรรมได้เลย คนสวมหมากกันน๊อคเข้าไปปล้นร้านทองยังมีเลย สวมชุดแบบไอ้โม่ง เหลือแต่ตา แล้วยิงคนก็มี ซึ่งก็มีอยู่หลายครั้ง เห็นตาเห็นตา คือสวมชุดธรรมดาในการก่อเหตุ ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับตัวได้เลย เพราะฉนั้นการที่บอกว่าการแต่งกายแบบคลุมมิดชิดแบบ อิสลาม นั้น มักจะง่ายในการรที่จะใช้ก่อเหตุนั้นไม่มีน้ำหนักเพียงพอต่อความเป็นจริงค่ะ คนมันจะทำชั่ว มันก็คิดหาทางทำชั่วได้อยู่วันยังค่ำหล่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 09:43:06 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:41:53

ความคิดเห็นที่ 62 พระเจ้าก็คงไม่พอพระทัยให้ศาสนิกอ้างพระองค์เพื่อใช้เสรีภาพ ไปละเมิด norm ของชุมชนหรือของสังคม โรงเรียนในสังคมมีหลายแบบ โรงเรียน สำหรับชาวคริสต์ก็มี โรงเรียนสำหรับชาวพุทธก็มี โรงเรียนสำหรับชาวมุสลิม ก็มี และโดยนัยแล้ว ไม่มีการกีดกันการเรียนของนักเรียนต่างศาสนาในระหว่าง โรงเรียนเหล่านี้ จะเห็นว่า มีมุสลิมที่จบจากเซนต์เกเบรียลหรือเซนต์จอห์น หรือเอแบคหรือเทพศิรินทร์ ฯลฯ หรือคริสต์ไปจบจากสวนกุหลาบ/เทพศิรินทร์ แม้แต่โรงเรียนวัดพุทธศาสนา มีโรงเรียนรัฐบาลหลายแแห่งที่นักเรียนหญิงมุส ลิมมีเครื่องแต่งตัวที่แตกต่างจากนักเรียนหญิงอื่นๆ มีผ้าคลุมศีรษะและกระโปรง กรอมข้อ แต่แบบในรูปไม่เคยเห็น...ผมว่าเรื่องเสรีภาพนี้ต้องตระหนักให้ดี เพราะ ไม่อย่างนั้น มันจะมีเส้นแบ่งเพียงบางๆกับคำว่า อำเภอใจหรือตามใจที่ตัวคิด เสรีภาพมันมี territory หรือแนวคิดของมันอยู่ ... สิ่งที่ต้องคิดคือ สิ่งที่ไม่เป็น ปัญหาก็ไม่ควรไปทำให้มันเป็นปัญหา ฮิญาบเป็นเครื่องนุ่งห่มของสตรีมุสลิม จริง แต่ก็มีหลายพื้นที่ในโลกนี้ที่ถืออิสลาม ไม่ได้ยึดติดกับฮิญาบ ก็แต่งตัวใน แบบสุภาพชนหรือชาวบ้านปกติทั่วไป อัลเลาะห์อยู่ที่หัวใจน่าจะสำคัญกว่าการ ทำให้ฮิญาบกลายเป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม ทางออกง่ายๆ เช่น หลายคนแนะ นำและผมก็เห็นด้วย คือหาที่เรียนที่สอดคล้องกับการแต่งตัวแบบฮิญาบดีที่สุด ซึ่งไม่มีที่ไหนเหมาะเท่ากับโรงเรียนมุสลิม จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:45:13

ความคิดเห็นที่ 63 เริ่มอยากเห็นเด็กใส่หมวกกันน็อกไปเรียนที่โรงเรียนละ คงตลกดี จากคุณ : โปรยปราย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:49:57

ความคิดเห็นที่ 64 บ้านเขาอยู่แถวนั้น ถ้าบ้านเขาอยู่เชียงใหม่ป่านนี้ก็คงเรียนที่เชียงใหม่แล้วครับ จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:50:27

ความคิดเห็นที่ 65 คห.55 คุณ หางแหลม ฉันว่ารูปนั้นเป็นการตัดต่อค่ะ ไม่มีมุสลิมะห์ที่ใหน คลุมหน้ามิดชิดขนาดนั้น จะเปิดขาสั้นขนาดนั้น หรือไม่ก็เป็นรูปผู้หญิงที่ไม่ใช่ มุสลิมะห์ แต่ทำภาพตกแต่งภาพให้มีผ้าคลุมศรีษะแบบปิดหน้า เพื่อต้องการโจมตี อิสลาม ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม คนต่างศาสนิกถึงมักจะชอบยกเอาเรื่องแย่ เรื่องการกระทำที่ไม่ถูกต้องมาบอกว่า เนี๊ย อิสลามสอน ชักเซงเหมือนกันค่ะ ส่วนเรื่อง ปิดหน้าของ มุสลิมะห์นั้น บางทํศนะบอกว่า ที่ต้องการให้ปิดก็เพื่อว่าเมื่อผู้ชายมองหน้าเธอแล้วจะเกิดความกำหนัด อันนี้ถูกส่วนหนึ่ง เพราะหากว่า มุสลิมะห์คนนนั้นหน้าตาสะสวย คนมองก็อาจจะชอบและอาจเกิดอารมณ์ทางเพศได้ และ อิสลามเราไม่ได้จำกัดเฉพาะให้สตรีปกปิดอยู่ฝ่ายเดียวนะคะ ผู้ชายก็มี ฮิญาบ แต่ ฮิญาบของผู้ชายคือ การที่พระเจ้าบอกเอาไว้ว่า ให้บุรุษเพศนั้นลดสายตาลงต่ำ  เมื่อมองเพศตรงข้าม หากอยากเรียนรู้เพิ่มเติมแบบละเอียด เกี่ยวกับเรื่องการลดสายตาลงต่ำ ไปลิงค์นี้ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11506032/Y11506032.html ส่วนการที่คุณบอกว่า มีบางประเทศแถวตะวันออกกลาง เอามาเป็นกฎหมายเลย ที่มีผู้หญิงคนนึง ฝืนดื้อไม่คลุมแล้วถูกสามีตัดจมูก ถ้าไม่มีหลักฐานนำมาอ้างอิงก็ไม่ควรพูดดีกว่าค่ะ เพราะคนจะมองว่า ใส่ร้ายปน อคติได้ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 09:58:26 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 09:56:53 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:54:23

ความคิดเห็นที่ 66 2นศ.สาวฝรั่งเศสใส่ชุดนิกอบ-เปลือยท่อนขาเดินทั่วเมือง ประท้วงกม.ห้ามสตรีมุสลิมแต่งกายมิดชิด http://www.munjeed.com/news_detail.php?id=41049 จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:59:26

ความคิดเห็นที่ 67 ยังไงก็ใจเย็นๆนะคะ เราพี่น้องคนไทยด้วยกันทั้งนั้น อาจจะแสดงความคิดเห็นต่างกันได้ เพราะคนละศาสนา ต่างทัศนคติ แต่นั้นก็อาจจะเกิดจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็ได้ เรามาลองหาวิธีเพื่อที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดปัญหาน้อยที่สุดดีกว่า อยากจะให้เข้าใจกัน และ หาข้อยุติกันโดยเร็วที่สุด จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:13:32

ความคิดเห็นที่ 68 น่าเบื่อมากมาย คนกลุ่มนี้.. ไม่สนใจสังคมรอบข้าง ชอบแต่จะอ้างข้อบัญญัติของศาสนาตน อยู่ที่ไหนก็ต่อต้านกฎระเบียบ กฎหมายของที่นั่น เป็นคนส่วนน้อยก็ตั้งกองกำลังขึ้นสู้ ก่อการร้ายไปเรื่อย เป็นคนส่วนใหญ่ ก็ออกกฎระเบียบบีบบังคับ เข่นฆ่าคนศาสนาอื่น.. ในประเทศพวกนี้ ใครปฏิบัติตามศาสนาอื่น มีความผิด บางทีถึงฆ่าทิ้ง ---------------------------------------------------------------------------- ถึงคุณสุดเดียวดาย ท่านเบื่อ คิดว่าพวกเราไม่เบื่อบ้างหรือคะ ที่ทำอย่างไร จะต่อสู้ยังไง ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับความชอบธรรมในเรื่องเสรีภาพของการนับถือศาสนา ยิ่งพูดก็ยิ่งมีคนประเภทเดียวกับท่านเข้ามาต่อต้าน กล่าวหาพวกเราแบบลอยๆ เท่าที่ท่านกล่าวมา เหมือนกำลังมองว่ามุสลิมคือชนกลุ่มน้อย ? หรือจะบอกว่ามุสลิมไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสังคม พวกเราไม่มีสิทธิจะเรียกร้องอะไรในฐานะคนไทยเลยหรือคะ ? หากท่านมองว่าพวกเราพยายามสร้างความแตกแยก คำพูดของท่านก็ไม่ได้สร้างความปรองดองเลยเช่นกัน เพราะท่านเอาแต่ชี้มาที่มุสลิมว่าเป็นตัวปัญหา ทั้งๆที่ท่านรู้ดี ว่าปัญหาเกิดจากอะไร เพิ่งจะมารู้เดี๋ยวนี้เองว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยมันเป็นเพียงมายาเท่านั้น... แม้ว่ามุสลิมจะเป็นคนไทย ก็ไม่ได้มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา ถ้ามาว่ากันตามตรรกะ ท่านบอกว่ามุสลิมเป็นผู้ที่ไม่สนใจสังคมรอบข้าง อ้างแต่บัญญัติศาสนา เอ...แล้วปัญหาที่เกิดอยู่ มุสลิมมีเสรีภาพตามกฎหมาย แต่ใครกลุ่มใดกันที่กีดกันแล้วอ้างเรื่องศาสนาก่อน ? ท่านกล่าวว่าเราเป็นพวกก่อการร้าย กล่าวหาแบบไร้หลักฐานเลยนะคะนี่ เรื่องเข่นฆ่าคนต่างศาสนาก็ด้วย ท่านมีหลักฐานจากคำสอนมาแสดงมั้ยคะ ว่าอิสลามสอนแบบนั้น เห็นได้ชัดว่า ท่านกำลังใช้เหตุผลผิดพลาด ดังนี้ ใช้การที่อีกฝ่ายถูกมองด้วยภาพลบไม่ว่าเรื่องหนึ่งเรื่องใดมาเป็นเหตุผล หรือ หลักฐานเพื่อสนับสนุนจุดยืนของตนเอง ที่อาจจะไปขัดแย้งกับอีกฝ่าย -ท่านใช้เหตุผลที่หลายๆคนมองมุสลิมในภาพลบและพยายามใส่ความมุสลิม ทึกทักว่าสิ่งใดที่เป็นความจริงในส่วนหนึ่งหนึ่งใด ก็จะต้องเป็นจริงเช่นกันแม้แต่ในภาพรวมของสิ่งนั้น -อาจจะจริงที่มีมุสลิมก่อตั้งกองกำลัง หรือเป็นชนกลุ่มน้อยที่ต่อสู้อยู่ แต่มุสลิมส่วนใหญ่ต้องเป็นแบบนั้นด้วยหรือคะ ? ให้เหตุผลสนับสนุนจุดยืนของตนเองโดยอ้าง สิ่งที่ถูกสร้างภาพ หรือฉายภาพออกมาว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้มาเป็นเหตุผล ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นตาม สิ่งภายนอกที่ปรากฏออกมาภายนอก กับความเป็นจริงนั้น อาจจะแตกต่างกันก็ได้ -ท่านใช้เรื่องที่มุสลิมถูกสร้างภาพให้เป็นผู้ก่อการร้ายมาเป็นเหตุผลโจมตี ทั้งๆที่มันไม่เกี่ยวกับหัวข้อเลย ใช้มาตรฐาน หรือกฏเกณฑ์ หนึ่งๆกับ สิ่งหนึ่ง หรือ คนหนึ่งคนใด แต่กลับไม่ใช้ มาตรฐาน หรือ กฏเกณฑ์เดียวกันนี้ กับอีกสิ่งหนึ่ง หรือคนหนึ่ง โดยอ้างว่าแตกต่างกัน ซึ่งเขาจะต้องให้เหตุผลที่มีน้ำหนักมาให้ได้ว่า มันแตกต่างกันอย่างไร -ท่านใช้เรื่องของบัญญัติศาสนามาอ้าง แล้วทางฝ่ายท่านไม่ได้ใช้เรื่องศาสนามาอ้างด้วยหรอกหรือ เพียงแต่ว่ามันไม่มีกล่าวในพระไตรปิฎก แต่ฝ่ายท่านก็ยังหาเหตุมาโต้จนได้ ปฏิเสธ อย่างไร้เหตุผลต่อหลักฐานหรือเหตุผลโต้แย้งของอีกฝ่าย  หรือไม่ก็ สร้างภาพว่า ข้อโต้เหตุนั้นไม่มีน้ำหนักอะไรมาก  หรือ ไม่ก็พยายามอธิบายเหตุผลโต้แย้งนั้นอย่างขอไปที หรือ แบบปัดๆไปให้พ้นตัว  เพื่อสร้างภาพว่าตนเองได้ชี้แจงเหตุผลโต้แย้งนั้นแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เช่นนั้น  ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเหตุผลที่แย้งมานั้น สามารถหักล้างจุดยืนของตนเองได้ และตนเองไม่สามารถหักล้างเหตุผลโต้แย้งนั้นได้อย่างแท้จริง -ท่านยังไม่ได้เอาหลักฐานที่ชัดเจน หรือยกหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ที่พิสูจน์ได้มาเพื่อโต้เลย เท่าที่พบดูจะเป็นเพียงอคติของท่าน แทนที่จะไปหักล้างที่หลักฐานหรือเหตุผลที่เขายกมาโดยตรง  แต่กลับมุ่งโจมตีที่ตัวบุคคลนั้นที่ยกเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงขึ้นมาแทน  อาจจะโจมตีที่ บุคลิก เชื้อชาติ  ศาสนา การศึกษา หรือ สภาพแวดล้อมของคนนั้นๆ หรือ โจมตีว่าคนนั้นๆไม่ยอมปฏิบัติตามที่ตัวเองบอก  หรือโจมตีว่า คนนั้นๆเรียนก็ไม่จบ  ทั้งนี้เพราะไม่สามารถหักล้างเหตุผล หรือ หลักฐานที่เขาผู้นั้นยกมาได้  จึงต้องสร้างภาพว่าตนเองสามารถหักล้างที่หลักฐานหรือเหตุผลที่เขาผู้นั้นยกมาได้แล้ว  แต่ในความเป็นจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ -ท่านมุ่งโจมตีอิสลามและมุสลิมอย่างเห็นได้ชัด ขอให้ท่านยกหลักฐานที่พิสูจน์ได้และเกี่ยวข้องกับหัวข้อมาจะดีกว่านะคะ จากคุณ : ก้อนหินแห่งศรัทธา เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:30:38

ความคิดเห็นที่ 69 ท่านสุดเดียวดายที่เคารพ ผมนั่งฟังมาหลายคห  ก้พอโอเค ปุจฉากันไปมา แต่ถ้าท่านเปิดประเด็นเรื่องใต้เมื่อใด ผมเรียนว่า  ท่านไปหานักวิชาการที่ว่ารอบรู้เรื่องใต้หรือ  เวบบ้าบอคอแตก อะไรที่กล่าวโจมตี แผนบันได้สารพัดขั้นในการล้มล้างประเทศไทย  มาเจอกับผมหน่อยได้ไหมครับ ท่านจะได้ตาสว่างสักที ผมไม่เก่งเรื่องใต้หรอก แต่ผมตามเรื่องนี้มา 4 ชั่วอายุคนแล้ว จะดูสิว่า ไอ้กองกำลังอะไรนั่นนะมีจริงไหม หรือแค่ทหารรับจ้าง หรือ แค่ กลุ่มโจรห้าร้อย เรียกค่าคุ้มครองปั่นเรทติ้งกันแน่ อย่าพูดเรื่องใต้ ถ้าไม่รู้จริง  ถ้าคันมากอยากรู้ให้ได้รบกวน ไปปลุกผีจอมพล ป  กับปลุกผี นายควง อภัยวงศ์  มาถามดู ว่าทำอะไรไว้บ้าง ส่วนท่านใด มองเหยียดหยาม ศาสนาอิสลาม กับประเทศไทย ผมก็ขอบอกอีกว่า  ประเทศไทย หรือ สยาม ในสมัยก่อน  คนที่ก่อตั้งประเทศนี้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ เป็นเพื่อนคู่ใจพระมหากษัตริย์ไทยมาตั้งแต่ ก่อนกรุงสุโขทัย จนถึง รัชการที่ 5  นั้นนะ   เป็นแม่ทัพมุสลิม จำนวนไม่น้อย ปชช  มุสลิม  ในประเทศไทย ไม่ใช่ชนชั้น 2  แต่คือชนชั้น 1 ในประเทศนี้ โปรดเข้าใจเสียใหม่ และกรุณาแยก ศาสนา ออกจาก การเมืองการปกครอง ประเทศก็คือประเทศ ไม่เกี่ยวกับศาสนาแต่ประการใด คำว่าประเทศ หมายถึงอะไร ลองไปเปิดตำราเรียนใหม่นะครับ ด้วยความเคารพ พี่จิม ปล  ทุกวันนี้ผมก้ทำมาหากิน  ร่วมกับเพื่อนต่างศาสนิกมากมาย ต่างคนต่างให้เกียตริ และนับถือ ในหลักศรัทธา ของแต่ละบุคคล  เราก็อยู่ร่วมกันได้  ที่มันวุ่นวาย เพราะสะกดคำว่าให้เกียตริ กันไม่ออกมากกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 11:11:11 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 11:09:22 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 11:02:05

ความคิดเห็นที่ 70 การพยายามลากไปเรื่องอื่นๆ เช่นเรื่องคนกินเหล้า หรืออบายมุขอื่นๆ การทำแบบนี้ไม่ได้มีศักดิ์ศรีอะไรครับ เป็นแค่เบี่ยงประเด็น   พอคนอื่นอธิบายปัญหา ก็พยายามหนีไปพูดเรื่องอื่นที่ไม่ดีของคนอื่น แต่ตัวเองก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เหมือนที่ พวกปาเลสไตน์อ้างว่ายิวรังแก อเมริการังแก แต่จริงๆ พอถึงโอกาสตัวเองก็ไปทำร้ายแก้แค้นเขาเหมือนกัน ปัญหาของประเทศนี้มีหลายอย่าง ปัญหาของโลกนี้ก็มีหลายล้านเรื่อง ต่างก็มีกลุ่มองค์กรดูแลอยู่ทั้งนั้น การเบี่ยงประเด็นหนี ย่อมทำให้คนอ่านกระทู้รำคาญได้ การจะแก้ปัญหาอะไร ต้องดูด้วยว่า ในสังคมนั้น มีระบบระัเบียบอะไร แม้ประเทศเดียวกัน ในแต่ละพื้นที่ ก็ต่างกันไป การขืนดึงดัน ที่ผ่านมาแก้ปัญหาได้ดีขนาดไหน ที่ผ่านมา เราศึกษาประวัติศาสตร์กันเพียงพอรึยัง ไปดูอย่างภาคใต้ มีกลุ่มพยายามแยกดินแดนให้ได้   ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่แต่เจ้าหน้าืที่รัฐและชาวพุทธจะตาย คนที่ตายเป็นมุสลิมก็มีมากเช่นกัน เด็กกำพร้ามีมากมาย ทำมาหากินก็ลำบากขึ้น   แล้วใครรับผิดชอบ หรือใครช่วยอ้อนวอนให้พระเจ้าแก้ไขให้ได้ไหม? ถ้าเอะอะจะเอาแต่เรียกร้องสิทธิ แก้แค้น  คุณนั่นแหละจะสร้างปัญหาให้บานปลายต่ิอไปอีก ใครที่สร้างปัญหาให้บานปลาย สุดท้ายสิ่งที่จะเป็นปัญหานั้นก็จะย้อนกลับเข้าหาเขาเอง ที่ยุโรปหลายประเทศ ก็มีปัญหาเรื่องนี้ รัฐบาลเขาเด็ดขาด ตัดจบออกกฎหมายห้าม เพราะมันวุ่นวายนัก แค่ผ้าคลุมของเด็กไม่กี่คน คุณย้ายเข้าโรงเรียนที่เขาอนุญาตอย่างถูกต้อง มันก็จบ นี่มันไม่จบเพราะคุณจะดึงดันในสถานที่ที่เขาไม่ยินดี มติสงฆ์ก็มีสิทธิ เพราะเป็นธรณีสงฆ์ ผมไม่เข้าใจมุสลิมนะั หรืออยากให้สถานศึกษาที่อยู่ในธรณีสงฆ์ทุกที่ ออกกฎห้ามเด็กคลุมฮิญาบงั้นหรือไง ถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อจากนี้ไปเด็กๆมุสลิมที่อยากคลุม จะวุ่นวายกับการหาที่เรียนอีกมาก พวกที่ปลุกระดม คุณเป็นลูกผู้ชายพอหรือเปล่า ที่เอาน้ำตาเด็กผู้หญิงมาเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ เอาปมด้อยของเด็กมาเป็นอาวุธ ไปสร้างปัญหาให้กับโรงเรียน จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:02:45

ความคิดเห็นที่ 71 ต้องรู้จัก วลีว่า " ความพอดี " และ " การปรับตัว " ครับ หากไม่รู้จักสองวลีนี้อย่างลึกซึ้งและแท้จริง ก็ทะเลาะกันไม่รู้จบครับ จบประเด็นนี้ก็มีประเด็นใหม่มาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ ครับ จากคุณ : กรประเสริฐ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:24:01

ความคิดเห็นที่ 72 ฉันว่าคุณ ซามูไรหมูตอน คงเข้าใจผิดอะไรบางอย่างค่ะ ในคลิปนั้นเค้าแค่ต้องการถามหาและเรียกร้องถึงความไม่เป็นธรรมของ รร. ในครั้งนี้ต่างหาก ไม่ได้ไปประท้วงแบบขอปิดถนน อะไรเลย เพราะโดยลำพังแค่ครอบครัวของน้องเค้าเองคงจะทำอะไรไม่ได้มาก เลยต้องมาร้องขอความช่วยเหลือ และ ขอความเห็นใจ จากพี่น้อง มุสลิม กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ ....... พี่สาวเผยน้องถูกคุกคาม เมื่อคลุมฮิญาบเข้าเรียนในมัธยมวัดหนองจอกในวันเปิดเทอม .: TND       พี่สาวน้องนักเรียนมุสลิมะฮฺที่ยืนหยัดในการคลุมฮิญาบตามหลักการศาสนาอิสลามเข้าเรียนหนังสือตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ สุดทน หลังน้องสาวคลุมฮิญาบเข้าเรียนตามปกติ แต่ถูกครู และเพื่อนนักเรียนคุกคามความปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน       โดยเฟสบุคของพี่สาวน้องนักเรียนมุสลิมะฮฺที่ยืนยันที่จะคลุมฮิญาบตามหลักการศาสนาอิสลาม และเป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อวันเปิดเทอมวันแรก(7 ธันวาคม)ที่ผ่านมาน้องสาวของเธอได้ไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่ถูกเรียกเข้าห้องปกครอง ถูกครูฝ่ายปกครอง และฝ่ายบริหารของโรงเรียนนั่งรุมน้องของเธอ โดยผู้เป็นครูท่านหนึงกล่าวถ้อยคำข่มขู่น้องสาวของเธอโดยกล่าวว่า “เธอคนเดียวทำให้คนสามพันคนเขาเดือดร้อน เธอจะรับผิดชอบยังงัยตอบซิ่ ตอบ บอกให้ตอบ ครู บอกให้ตอบไง!!!”       หลังจากที่ถูกผู้เป็นครูข่มขู่ คุกคามในห้องปกครองแล้ว ในช่วงพักเทียงในขณะที่น้องสาวของเธอกำลังจะนั่งกินข้าวกลางวัน แต่ยังไม่ทันได้กิน ก็ถูกครูคนหนึ่งเดินเข้ามาต่อว่าอย่างรุนแรงต่อหน้าเพื่อนๆ จำนวนมาก โดยไม่สนใจว่าน้องสาวของเธอไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลยในวันดังกล่าว        ทั้งนี้กรณีดังกล่าวได้ปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนแล้วในหนังสือจากปลัดกระทรวงศึกษาธิการที่ตอบถึงเลขาธิการกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ โดยระบุชัดเจนว่าการที่โรงเรียนไม่ยอมแก้ไขระเบียบการแต่งกายนักเรียนให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง และนักเรียนมุสลิมนักเรียนมุสลิมมีสิทธิที่จะแต่งกายคลุมฮิญาบเข้าเรียนได้ แต่ครูในโรงเรียนยังอ้างว่าเด็กทำผิดระเบียบโรงเรียนโดยท้าทายสังคมโดยทั่วไป เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำผิดกฏหมาย และเป็นการผิดวินัยร้ายแรงในการไม่ยอมดำเนินการตามคำสั่งของปลัดกระทรวงศึกษาธิการตามที่มีคำสั่งให้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ http://www.pinonlines.com/?q=node%2F35535 ....... ดังนั้นก็ไม่ทราบว่า ที่เป็นปัญหาอยู่นั้น จริงๆแล้วเกิดจาก ผ้าผืนเดียว อย่าง ฮิญาบ หรือ ว่า อคติ ของใครบางคน ที่ทำตัวให้เหนือ กฏหมาย แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 12:30:02 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 12:26:53 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:25:56

ความคิดเห็นที่ 73 ถึงที่ผ่านมาผมจะไม่เห็นด้วยกับอาจาร์ยในคลิปที่ตีความอาหารเจได้ตลกแต่ในประเด็นเรื่องการคลุมฮิญาบในโรงเรียนวัด ผมยังคงเห็นว่าการห้ามเป็นเรื่องโง่ และไร้สาระ เป็นเบ่งอัตตา งี่เง่าใส่กันระหว่างศาสนา   มาดูคำพูดงี่เง่าประโยคนี้กันก่อ่น "โรงเรียนของเขา จะออกกฎใดใดก็ตาม  ไม่อยากทำตามกฎของเขา ก็ย้ายไปโรงเรียนอื่น ที่เขาไม่ห้าม ก็ได้ มีอีกเยอะ " พูดได้โง่มากครับ โรงเรียนไม่ใช่เจ้าของประเทศ ไ่ม่มีสิทธิออกกฏที่ผิดหรือขัดแย้งกับรัฐธรรมมนูญ ถ้าคิดอย่างนี้ โรงเรียนจะเปิดซ่องในโรงเรียนก็คงทำได้ใ่ช่ไหมครับ เพราะโรงเรียนของเค้าจะออกกฏใดก็ได้? รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 38   บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยมในทางศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนบัญญัติหรือปฏิบัติพิธีกรรมตาม ความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศิลธรรมอันดีของ ประชาชน ในการใช้เสรีภาพดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองมิให้รัฐกระทำการใด ๆ อันเป็นการรอน สิทธิหรือเสียประโยชน์อันควรมีควรได้เพราะเหตุที่ถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมในทางศาสนา หรือปฏิบัติตาม ศาสนบัญญัติหรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือ แตกต่างจากบุคคลอื่น  ที่มา http://goo.gl/57L0D จบไหมครับ? ไม่ต้องมาพล่ามเรื่องประวัิติศาสตร์ การแบ่งแยกดินแดน เรื่องต่างประเทศ เรื่องการเมืองี่เง่า เรื่องอาหารเจ เรื่องอคติ เรื่องความแตกต่างทางศาสนา เรื่องผลงานในอดีต เอาแค่นี้ก็พอ พูดในฐานะคนไทยด้วยกัน ที่ใช้รัฐธรรมมนูญฉบับเดียวกัน เหยียบแผ่นดินเดียวกันอยู่ จ่ายภาษีเหมือนกันๆ  ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนทีใช้ภาษีรัฐอุดหนุน จะเป็นอะไรก็ตามก็ไม่มีสิทธิทำผิดรัฐธรรมนนูญ ข้อนี้ อย่างมาอ้างส่งๆ เรื่องฮิญาบถ้าไม่นับประเด็นปลีกยอ่ย ถือเป็นการปฏิบัติศาสนากิจ ไม่มีใครหน้าไหน ในโลกนี้อ้างเหตุผลทุเรศๆ เพื่อริดรอนสิทธิ  หรือฉีกรัฐธรรมมนูญข้อนี้ ยกเว้น แต่พวกคิดแบ่งแยกคนไทยด้วยศาสนา  จะที่ดินใครก็ตาม ก็อยู่ใต้รัฐธรรมมนูญนี้เหมือนๆกัน เลิกทำตัวใจแคบทุเรศๆได้แล้วครับ   จบนะครับ  จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:49:50

ความคิดเห็นที่ 74 แปล๊ก ฮิญาบก็บนหัวหนู แต่ดันไปหนักบนหัวคนอื่น เฮ้อ จากคุณ : ลมหนาวกับดาวเดือน เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 13:17:47

ความคิดเห็นที่ 75 ผมเป็น คาทอลิก ในกรณีนี้ ถ้าเป็นจริงดังที่น้องในคลิปกล่าว ผมมองว่าการแสดงออกทางศาสนาเป็นเรื่องที่ควรให้อิสระกันนะครับ ประเทศไทยเป็นประเทศเสรี การให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการไปบังคับ ซึ่งเมื่อมีการบังคับเมื่อไหร่ แรงต่อต้านจะถาโถมเข้าหาซึ่งนั่นหมายถึงการเกิดขึ้นเรื่องการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และแน่นอนคงไม่มีใครที่ยอมให้ฝ่ายตนโดนโจมตีแน่นอน ทีนี้ต่างฝ่ายจะต่างแรง ปัญหาอื่นๆจะตามมา จากคุณ : liverboy เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 13:36:49

ความคิดเห็นที่ 76 ผม หางแหลมใน คห.ที่ 55ครับ ขออภัยที่เรื่องการตัดจมูกนั้น เป็นสาวชาวอัฟกัน ครับได้ขึ้นปก Time ด้วย และเป็นเรื่องการกดขี่ซึ่ง ไม่เกี่ยวกับการแต่งกายส่วนผ้าคลุมแต่อย่างใดเลย ผมไม่หาข้อมูลก่อน ขออภัยอย่างสูง นานๆผมเข้ามาห้องนี้  บางท่านส่งลิ้งค์มาผมอ่านแล้วและพยายามทำความเข้าใจแล้ว ขอบคุณครับ ที่กรุณา อีกอย่างรูปสองสาว คลุมหน้า นุ่งขาสั้นนั้น ผมทราบอยู่แล้วครับเป็นสาวฝรั่งเศสพวกเธอแสดงการประท้วง ในสิทธิ์การแต่งกายหน่ะ จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:40:06

ความคิดเห็นที่ 77 ผมว่าโรงเรียนทำเกินไป จากคุณ : un750 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:41:57

ความคิดเห็นที่ 78 ถ้าเห็นมุสลิมทำเหล่านี้กาเฟรฺบางคน จะมีความสุขมาก กินเหล้า กินหมู ไม่คลุมฮิญาบ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:47:26

ความคิดเห็นที่ 79 1. ประเทศไทยวุ่นวาย  เพราะคนไทยไม่มีสำนึกว่าต้องเคารพกฎหมาย มักจะใช้คำว่า คนไทยต้องรักกัน  (ผิดถูกช่างมัน  แต่ต้องรักกันไว้ก่อน) 2. ความเข้าใจผิดอีกอย่างคือ  ความเป็นไทยคือความเป็นพุทธ   พอรวมกันก็เลยเป็นว่า คนไทยต้องรักกันบนบรรทัดฐานแบบคนพุทธ  ผิดถูกตามกฎหมายสำคัญน้อยกว่า ห้ามขัดกับวิถีพุทธ  (หมายถึงคนที่มีอคติ ไร้ปัญญา เท่านั้นนะ) อีกข้อที่น่าจะเป็นปัญหา ก็คือ  คำว่า  เพื่อชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์ เพื่อชาติ และเพื่อพระมหากษัตริย์  นี้ยังมีความเข้าใจตรงกันในทุกศาสนิก แต่เพื่อ ศาสนา  นี้ซิ   ก็จะเกิดคำถามว่า แล้วศาสนาไหนล่ะ  คำตอบที่ถูกต้องก็คือ ทุกศาสนา ทุกศาสนิกมีเสรีภาพโดยสมบูรณ์ สุดท้าย   ตั้งข้อสังเกตว่า  คนไทยบางกลุ่มบางพวกอาจจะรวมเอามุสลิมและอิสลาม เป็นหนึ่งในปัญหาความมั่นคงด้วย   ดังนั้นมุสลิมก็ต้องดิ้นรนเรียกร้องสิทธิตนเองตามกฎหมายต่อไป  (ในประเทศที่คนบางพวกบางกลุ่มเอาศาสนาพุทธมาแทนกฎหมาย) *** เป็นความคิดเห็นส่วนตัว แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 14:48:36 จากคุณ : abubilal เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:47:26

ความคิดเห็นที่ 80 คห.76 เรื่อง การกดขี่จากการกระทำของคนๆหนึ่ง หรือ คนกลุ่มหนึ่งนั้น มักจะเป็นข่าวดังไปทั่วโลก และ ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจมาก ถ้าเป็นหญิงมุสลิม ก็ชอบยกเอามาโจมตี อิสลาม แต่ถ้าเป็นผู้ที่ไม่ใช่ มุสลิม ข่าวก็มักจะไม่หวือหวา เท่าไหร่ อันนี้ก็พอจะทราบถึงเหตุผลกันว่าทำไม อีกอย่างฉันก็ไม่เข้าใจว่า ศาสนาที่สอนให้ผู้หญิงปกปิดร่างกาย ปกปิดของสงวน ไม่ให้แต่งตัวโป๊ เพื่อรักษาสถานภาพความเป็นผู้หญิงให้สวยงามและบริสุทธิ์ กลับ ถูกหาว่า  หาว่า กดขี่ผู้หญิง ไม่ให้มีอิสระภาพ ดังนั้น คำว่า อิสรภาพ คือ การที่ใครๆก็สามารถ แก้ผ้าโชว์ ได้ใช่ไหมคะ นี่คือนี่อิสรภาพ ไม่พอใจคนที่ต้องการแต่งตัวปกปิด ก็ออกมาประท้วง โดยการโชว์เปลือย ซะงั้น แปลกมากค่ะ ไม่เห็นมีใครประนามผู้ประท้วงที่โชว์เปลือยบ้างนะ ทำไม ไม่คิดกันว่า การโชว์เปลือยหน่ะ มันคือการกดขี่ตัวเอง  ไม่ให้เกียติตัวเอง เอาเกียติและศักดิ์ศรีตัวเอง ไปให้คนอื่นๆดู http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321940235&grpid=01&catid=06&subcatid=0600 ผู้หญิงถ่ายภาพนู้ดลงปฏิทิน มองว่าเป็น ศิลปะ นักศึกษาแต่งตัวกระโปรงสั้น เสื้อรัดติ้ว มองว่าเซ็กส์ซี่ แต่พอคนจะปกปิด กลับมองว่า กดขี่ข่มเหง ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 15:42:21 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:39:59

ความคิดเห็นที่ 81 อ่านจากกรณีโรงเรียนวัดหนองจอก    ผมเห็นด้วยกับอาจารย์เจ้าของบทความเลยนะ คือเรื่องมันขี้ผงมากนะ ถ้ารู้จักใช้วิจารณญาณและบริบทของสังคมนั้นๆเข้ามาประกอบ ก็อย่างที่บอก ถ้ามันแก้ไขไม่ได้เลยก็มากไป เพราะกฎหมายเขายังแก้ไขกันได้นี่ครับ ก็ น่าจะเข้าใจกันได้ ผมไม่ใช่เจ้าของโรงเรียน ในกรณีอย่างโรงเรียนวัดหนองจอกนี้ ถ้า เป็นผม จะอนุญาตทันที แต่ที่สุดเมื่อเขาไม่อนุญาต ทางออกผมก็ไม่สนับสนุนให้เกิด ความชิงชัง รัฐบาลต้องหาทางสร้างโรงเรียนเพื่อลูกหลานไทยมุสลิมหนองจอกต่าง หาก แต่ถ้าพอคุยกันได้ก็อยากให้คุย อย่าไปยึดติดอะไรมากนัก ยิ่งเป็นโรงเรียนวัดด้วย ก็ยิ่งที่จะมีการพิจารณาด้วยหลักพรหมวิหาร ๔ ถึงจะถูกต้อง อ้างว่าเป็นสิทธินั้นก็ถูกอยู่ แต่สิทธิที่อ้างแล้วก่อความขัดแย้งก็ไม่ควรอ้าง สิทธิคือข้อเท็จจริง แต่เมื่อไม่ก่อ ประโยชน์ มีคนไม่เห็นด้วย มีคนตำหนิ ก็ไม่ต้องอ้าง ให้ไปพิจารณาถึงประโยชน์อื่น ที่จะได้จากเรื่องแบบนี้จะดีกว่า ถ้าอยากให้เป็นประชาธิปไตย โรงเรียนก็ควรทำประชาพิจารณ์ในชุม ชนดูซี ผมว่าชาวบ้านที่เป็นชาวพุทธโดยทั่วไปคงไม่ได้คิดจะมาอินังขังขอบ ในเรื่องแบบนี้กันหรอก แต่ถ้ากระทบเรื่องการอยู่การกิน อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 15:59:26 จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:57:01

ความคิดเห็นที่ 82 หลายครั้งที่นั่งฟัง นั่งดูทีวี ฟังนักวิชาการทางมุสลิมขนาด ดร.หลายคนออกทีวี พูดจาฉะฉาน กล้าหาญชาญชัย ต่อหน้าสังคมว่า  " หลักปฏิบัติตามคำสอน ยิ่งใหญ่เหนือกว่า รัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ถ้ากฎหมายขัดหรือแย้งกับหลักคำสอน ให้มุสลิมต่อต้าน ไม่เชือ่ฟังได้ รัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ระเบียบนั้น ใช้บังคับกับคนมุสลิมไม่ได้".. ลองsearch ดูคำพูดคนเหล่านึ้ดู.. ดร.ต่างๆที่พูดเมื่อสัก หนึ่งเดือนกว่าๆขึ้นไป เคยเห็นในเวปพันธ์นี้ก็หลายครั้ง สรุป ไม่ต้องเคารพเชื่อฟังกฎหมาย ระเบียบของบ้านเมือง... จะตั้งตัวเป็นกลุ่มอิสระ บ้านเมืองนี้จะอยู่อย่างไร.. ถ้าเกิดวันหนึ่ง ผมนับถือลัทธิ3k หรือนิกายยิปซี แต่งตัว แบบ 3k หรือยิปซีไปเข้าเรียนหรือไปทำงาน..???? จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:58:10

ความคิดเห็นที่ 83 การสวมฮิญาบไม่ใช่การกดขี่ครับ เป็นความเต็มที่จะปฏิบัติ ซึ่งถ้าหากไม่พอใจที่จะใส่ เขาเหล่านั้นก็สามารถที่จะเปลี่ยนศาสนาได้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11462518/Y11462518.html แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 16:24:47 จากคุณ : โปรยปราย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 16:24:21

ความคิดเห็นที่ 84 ิอ่านๆดู รู้สึกว่า คนที่ต่อต้านการคลุมฮิญาบในโรงเรียนวัดหนอกจอก ยังไม่ได้ตอบ  ความคิดเห็นที่ 50 ของคุณ Hamzah " - รร. อยู่ภายใต้กระทรวง กระทรวงอนุญาตแล้ว รร.จะไม่อนุญาตได้มั๊ย - หากในเรื่องธรณีสงฆ์ จึงเป็นเหตุให้ ในรร.ห้ามคลุมผม ทำไมครูคลุมได้?? หรืออนุโลม แล้วทำไมจึงอนุโลม - หากในกรณีเป็นที่ธรณีสงฆ์ จึงเป็นเหตุให้ ห้ามคลุมผม ทำไมเวลางานวัด คนเข้ามาขายของที่เป้นมุสลิม สามารถคลุมผมเข้ามาขายของ และเที่ยวงานได้ครับ ... อย่าให้เรื่องนี้เป็นกรณี ของอคติของคนบางคน ที่มิใช่เรื่องหลักการศาสนา เลยครับ " จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 16:29:30

ความคิดเห็นที่ 85 ^ อยากอ่านคำตอบของชาวพุทธค่ะ ใครที่ตอบได้ช่วยตอบด้วยนะคะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 16:34:28

ความคิดเห็นที่ 86 เรื่อง ของเรื่อง ผู้บริหารโรงเรียน เลือกปฏิบัติ จะมาอ้างวัดนั้น ฟังไม่ขึ้น พระอาจารย์พยอม  หลวงพ่อปัญญา  หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ และพระอาจารย์ดังๆ หลายรูป ก็มาปาฐคถาธรรม ในงานสุเหร่า และนักวิชาการอิสลามหลายท่านก็เคยเป็นองค์ ปาฐก ในงานวัด วัดช้างไห้ ปัตตานี  ด้านหลังก็เป็นปอเนาะ เวลามีงาน คนสองฝ่ายไปมาหาสู่กัน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องศาสนา แต่เป้นเรื่องสังคม กรณีเรื่อง โรงเรียนวัดหนองจอก เป็นเรื่องอคตินิยม และวิชั่นของ ผู้บริหารโรงเรียน ร่วมกับพระบางรูป กำลังดึงเรื่อง ศาสนา ให้มาเป็นประเด้นทางสังคม ท่านทั้งหลายที่กล่าวมา ท่านกำลังทำลายศาสนาพุทธ อันเป็นที่รักของท่านให้มัวหมองด้วยน้ำมือท่านเองครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 17:41:03

ความคิดเห็นที่ 87 อยากให้ชาวมุสลิมตอบด้วยว่า "คำสอนกับรัฐธรรมนูญและกฎหมาย กฎ ระเบียบ" จะอ้างคำสอน ละเมิด กฎหมาย กฎ ระเบียบ ได้หรือไม่??? สำหรับผมเอง อยากให้ออกกฎหมาย แบบฝรั่งเศสไปเลย เอาให้เด็ดขาด ห้ามฯทุกศาสนาฯ . จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 17:43:10

ความคิดเห็นที่ 88 ตอบท่าน คห 87 ที่ท่านเข้าใจ คนละเรื่องกัน แกะกับไก่ครับ อย่างแรก ประโยคต่างๆที่อยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน ไม่ใช่แค่เพียงคำสอนแต่เป็นพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งทุกคนยินยอมถวายหัวเอาหัวมามุดในคำสั่งสอนด้วย วิญญานและตัวตน ไม่มีกฎระเบียบใดๆในโลกมาลบล้างพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าได้ เข้าใจหรือยังครับเคลียร์ไหม ถ้าท่านข้องใจหรือไม่เข้าใจ หรือไม่พยายามเข้าใจ ผมว่าท่านไม่ต้องออกข้อคิดเห้นเรื่องเกี่ยวกับศาสนาอิสลามก็ได้นะครับ เพราะพูดเท่าไหร่ ไม่มีวันเข้าใจ  เหนื่อยเปล่าๆ ดังเช่น ประโยคที่ว่า ไม่สามารถทำตามกฎก็เปลี่ยนโรงเรียนสะ หรือย้ายประเทศไปเลย แต่บังเอิญประเทศไทยมีกฎหมายที่รองรับเรื่องคลุมอิญาบเรียบร้อย  ประเทศไทยไม่ใช่ฝรั่งเศส ถ้าอยากให้เหมือนฝรั่งเศส ผมใคร่ขอแนะนำให้ท่านย้ายประเทศไปเสียดีกว่า จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 18:05:46

ความคิดเห็นที่ 89 คคห. 88 ท่านยังไม่เข้าใจคำถาม -ลองไปsearch คำพูดของ ดร.อะไรนั่นที่บอกว่า คำสอนฯย่อมเหนือกว่ารัฐธรรมนูญที่มนุษย์เขียนขึ้น เหนือกว่ากฎหมาย กฎระเบียบ ฯ ถ้าระเบียบโรงเรียนเขาห้ามแต่งฯ เด็กจะอ้างคำสอนมาฝืนได้ไหม??? - เป็นหลักการว่า ธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมของชาติ สังคมนั้นๆ เขาไม่แบ่งแยก ถ้ามีคนพยายามแบ่งแยกโดยอ้างคำสอน..เขาออกกฎมา ไม่ให้สังคมเขาแยกแย่ง ร้าวฉาน เขาทำได้ไหม  - ในฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศในยุโรป เขาห้ามแล้ว ถ้ามันดำเนินการผิด พวกอารยประเทศนี้คง ผิดหมด.. เขาประเทศประชาธิปไตยสุดๆนะ ฝรั่งเหล่านี้เขาบอกว่า ถ้าคุณจะอยู่ในประเทศนี้ ก็ต้องเดินตามประเพณีประเทศนี้ ไม่ใช่ประเพณีกลางทะเลทราย??? ลองไปศึกษาดูนะครับ จะได้ความรู้อีก จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:06:16

ความคิดเห็นที่ 90 เห็นด้วยครับคุณพี่จิม (Jimbovy) คุณสุดเดียวดาย อ่านหนังสือไม่ออกเหรอครับ ทั้งรัฐธรรมนูญกับระเบียบออกมาให้เด็กสามารถคลุุมฮิญาบได้ คนที่ไม่ทำตามก็ควรจะย้ายไปประเทศอื่น อย่างที่คุณอยากไปอยู่ เช่นฝรั่งเศส จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:10:22

ความคิดเห็นที่ 91 **  ผมคิดว่าโรงเรียนนี้มิได้มีมุสลิมเพียงเด็กคนนี้  แล้วมุสลิมอื่นๆโดนแบบนี้หรือไม่ หาสาเหตุให้เจอเพราะอะไร   ทางโรงเรียนน่าจะออกมาชี้แจงเพราะอะไรเด็กคนนี้จึง ถูกตำหนิว่ากล่าว   แล้วทำไมมุสลิมอื่นๆไม่โดนว่ากล่าว  เรื่องมันมีแค่นี้   **  ถ้าหากโรงเรียนห้ามคลุมฮิญาบจริง  แล้วตอนแรกสมัครเรียนทำไมถึงรับเข้าเรียน   มันต้องมีอะไรสักอย่างที่หมกเม็ดไว้     ใครมาเฉลยให้ฟังหน่อยครับ จากคุณ : ตาเป๋า เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:28:50

ความคิดเห็นที่ 92 ท่าน สุดเดียวดาย ท่านนี่เข้าใจยากจริงนะครับ  เรากำลังคุยกันในประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศอะไรต่อมิอะไร  ถ้าจำเป้นต้องย้ายประเทศ นนึกหรือว่าเค้าจะไม่ย้าย และท่านเองก็คงไม่ทราบนะครับว่าที่ประเทศที่ท่านอ้าง ก็มีมุสลิม คลุม อิญาบเดินถนน เต็มไปหมด ***** ผมทำงานบริษัท Alcatel และ France Telecom ****** ไม่ต้องไปอ้าง  ด้อคเตอร์ที่ไหน หรอกครับถามผมและเพื่อนๆในนี้ได้ ความรู้ศาสนาอิสลาม ไม่ได้สอนในมหาวิทยาลัยครับ แต่เป็นหน้าที่ ที่มุสลิมทุกคนต้องสอน ต้องเรียน ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนสามัญ เสียอีก ถ้าจะถามเพื่อประดับความรู้เราและเพื่อนๆมุสลิม ยินดีให้คำตอบ เมื่อได้คำตอบ ก็อย่าตะแบง เพราะเราก้จะไม่ตะแบง และสู่รู้ ในศาสนาของท่านเช่นกัน ผมย้ำเสมอว่า สงวนจุดต่างแสวงจุดร่วม ศรัทธาของท่านก้คือของท่าน ศรัทธาของเราก้คือของเรา อันไหนที่ท่านรับไม่ได้ก้ไม่ต้องไปฟัง เพราะเราเองก้รับไม่ได้ในหลายเรื่องของท่าน แต่เราไม่พยายามไปคุ้ยแคะ คุ้ยแคะเพื่ออะไร คุ้ยแล้วได้อะไร  ใช่ไหมครับ เพราะเถียงกันไป ตายกันไปข้างก็ไม่มีวันรู้เรื่องหรือเข้าใจ ด้วยความเคารพ พี่จิม ได้โปรดทำความเข้าใจ อย่างนึงว่า  อิสลาม  ไม่ใช่ ศาสนา แต่อิสลามคือ ธรรมนูญชีวิต แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 19:33:52 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:29:33

ความคิดเห็นที่ 93 เฮ่อ.ๆๆ แต่ผมอยากให้สภาไทยออกกฎหมายอย่างประเทศยุโรปมากกว่านะ เพราะว่าสังคมไทยจะได้ไม่แตกแยก.หรือถูกกระทำอย่าง link -ที่เอามาให้ดู จริงๆแล้ว วันนี้ คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า ยุโรปเขามีกฎหมายห้ามเด็ดขาดใน ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม สวีส เนเธอแลนด์.ฯลฯแล้ว จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:30:10

ความคิดเห็นที่ 94 ท่านสุดเดียวดาย  ผมไม่ทราบว่าท่านผ่านร้อนผ่านหนาวในกิจกรรมของประเทศไทยนี้มานานเท่าไหร่  แต่ผมใคร่ย้ำเตือนถึงปวศาสตร์ชาติไทยช่วงนึงให้ท่านได้ทราบว่า การทำแบบท่านว่านะเค้าทำมาก่อนเป็นร้อยปีแล้วครับ แต่มันเพิ่มความห่างของชนในชาติมากขึ้น เค้าเลยมาเปลี่ยนแปลงเมื่อ 10ปี ที่แล้วมา ท่านไปอยู่ที่ไหนมาครับ การไม่ยอมรับอัตตาลักษณ์ ของคนร่วมชาต  มันสร้างปัญหามาตั้งแต่ สมัยจอมพลปอ ที่ปฏวัติวัฒนธรรม ให้คนไทยเลิกกินหมาก ใส่ ราชปะแตน ใส่หมวกกางร่ม ผลสุดท้ายเป้นอบ่างไรละครับ เละไหมละ สร้างความเกลียดชังจนตนเองอยู่ในประเทศนี้ไม่ได้ และเกิด การแบ่งฝักฝ่าย ใต้ อีสาน เหนือมั่วไปหมด อันไหนที่ใช้มาแต่ในอดีตไม่ดี เค้าปรับให้ดี ท่านจะถอยลงคลองหรือครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:42:37

ความคิดเห็นที่ 95 ขอย้ำว่า ก็แค่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ... ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น.. จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:54:29

ความคิดเห็นที่ 96 ท่านสุดเดียวดาย ยินดีครับ ผมใคร่เสริมความรู้ให้กับท่านนะครับว่า การออกกฎหมายในยุโรป ท่านต้องเอามาทั้งดุ้น นะครับ  กฎหมายเรื่องนี้ มีประเทศเพียง 3 ประเทศในยุโรปใช้ปฏิบัติกัน คือ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม สเปน เท่านั้น และไม่ได้เป้นอย่างที่ท่านเข้าใจ ลองมาอ่านบทเต็มๆนะครับ ****************************************************** องค์การนิรโทษกรรมสากล ประณามมติผ่านกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส ที่ผ่านร่างกฏหมายห้ามมุสลิมะฮฺคลุมฮิญาบแบบปิดหน้าในที่สาธารณะ ระบุ เป็นการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออกและความเชื่อทางศาสนา       จอห์น ดัลฮูเซน ผู้เชี่ยวชาญด้านความมีอคติในยุโรป กล่าวว่า “คำสั่งห้ามคลุมฮิญาบปิดหน้าเป็นการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออก และความเชื่อทางศาสนาของสตรีที่สวมบุรเกาะหรือนิกอบที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ หรือศรัทธาของพวกเธอ”       ดัลฮูเซน กล่าวต่อว่า “ขณะที่กฎเกณฑ์ทั่วไปของสิทธิเสรีภาพทางศาสนาและการแสดงออก กำหนดไว้ว่าประชาชนควรมึอิสระในการเลือกที่จะสวมหรือไม่สวมใส่อะไร สิทธิเสรีภาพเหล่านี้ไม่ควรถูกจำกัดเพียงเพราะว่าบางคนหรือแม้แต่เสียงส่วน ใหญ่ไม่เห็นด้วยก็ตาม”       ด้วยกฏหมายนี้ นั่นหมายความว่า สตรีหลายคนที่คลุมฮิญาบแบบปิดหน้าอาจต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านและไม่สามารถ ออกไป ทำงานได้             สมาชิกสภาผ้แทนราษฎรฝรั่งเศสลงคะแนนเสียง 335 ต่อ 1 เสียง เห็นชอบกับร่างกฎหมายห้ามมุสลิมะฮฺสวมเครื่องแต่งกายที่ปกคลุมร่างกายดชิด ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าที่เรียกว่า “นิกอบหรือ บุรเกาะ” ตามที่สาธารณะ ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับเงิน 150 ยูโรหรือราว 6,100 บาท และหากสามีหรือพ่อมีส่วนในการคลุมฮิญาบปิดหน้าของสตรี จะต้องโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และปรับ 15,000 ยูโร หรือกว่า 610,000 บาท             กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนันจากพันธมิตรหัวรุนแรงของประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภา ขณะที่พวกสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์บอยคอตไม่ร่วมในการลงคะแนนดังกล่าว             ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้วุฒิสภาพิจารณาลงมติในเดือนกันยายนนี้ ก่อนจะประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส คาดการณ์ว่า ขณะนี้มีมุสลิมะฮฺคลุมฮิญาบแบบปิดหน้าเพียง 1,900 คน จากจำนวนชาวมุสลิมทั้งประเทศที่มีมากกว่า 5 ล้านคน             ขณะเดียวกัน สตรีมุสลิมในฝรั่งเศสต่างไม่ยอมรับการผ่านร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรที่ ห้ามสวมชุดคลุมหน้าในที่สาธารณะ และยืนยันจะสวมชุดคลุมหน้าตามวิถีของชาวมุสลิมต่อไป ******************************************** อิญาบ แบบคลุมหน้า แบบไม่คลุมหน้าจะคลุมโปง ก็ไม่มีใครไม่มีกฎหมายอันใดห้ามไว้  ในที่สาธารณะ เพื่อเหตุผลทางด้านความมั่นคงเท่านั้น คนละเรื่องกับท่านกล่าวอ้างนะครับ ส่วนในประเทศอื่นๆแม้กระทั่งอังกฤษ เค้าก็ไม่ห้ามแต่อย่างใด ด้วยความเคารพ พี่จิม แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 20:08:14 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 20:06:15

ความคิดเห็นที่ 97 เพื่อนของผม นับถือ ฮินดู และซิกข์ ฮินดูสายแข็งจะไม่ถอดผ้าโพกหัวเอาออก กฎหมายเรื่องหมวกกันน้อค ก้ต้องอะลุ้มอะหล่วยตาม นักเรียนฮินดูไปเรียนโรงเรียนวัดก็มาก โพกหัวกันทุกคน ผมก็ห้ามตัด หนวดเครา-ขนอะไรสารพัดขนเค้าก็ไม่โกน แต่ทำไมไม่เป็นข่าว กลุ่มที่ออกมาต่อต้านไม่เห็นเอาประเด้นนี้มาเล่น ผมไม่ได้อยากให้เป็นข่าว ไม่อยากให้เอาประเด้นศาสนาซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเอามาเล่นกัน  และผมก็ยอมรับกติกาของฮินดู เพื่อนผมที่เค้าจะโพกหัวตลอดชีวิต ถ้าใครออกมาออกกฎหมายห้ามคนฮินดู โพกผ้า หรืออกกฎหมายที่ไม่เคารพกติกาความเชื่อของคนฮินดู  ผมคนนึงละจะออกมาต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 20:27:22 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 20:19:30

ความคิดเห็นที่ 98 ไว้รอมาตราเรื่องศาสนามีคำว่า "เว้นแต่บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น" แล้วค่อยมาว่ากันต่อครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 20:37:44 จากคุณ : Sheckler เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 20:35:47

ความคิดเห็นที่ 99 ที่บอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ก็ขอให้รับทราบว่า ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นพุทธมามกะ หรือทำไมจึงคิดแบบนี้ .. ไม่เกี่ยวกับอะไรทั้งสิ้น - ความเห็นส่วนตัว.. เท่านั้น.. เมื่อสังคมแตกแยก ร้าวฉาน..วันนั้นจะเข้าใจ..และย้อนกลับมาคิดเรื่องนี้นะครับ..บาย บาย แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 21:06:09 จากคุณ : สุดเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 20:53:51

ความคิดเห็นที่ 100 คุณพี่จิม ชัดเจน ตรงประเด็น และ ให้ความรู้ได้ดีเยี่ยมมากๆค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:06:27

ความคิดเห็นที่ 101 อยากจะเสริมนิดหนึ่งนะครับ อย่าเอาประเทศไทยไปเปรียบเทียบกับฝรั่งเศสนะครับ เพราะรัฐธรรมนูญไทยมีคำว่า "เสรีภาพในการนับถือศาสนา" แต่รัฐธรรมนูญฝรั่งเศสไม่มีคำว่า "เสรีภาพในการนับถือศาสนา" ครับ ฝรั่งเศสเขาแค่ยอมรับการมีอยู่ทุกศาสนา และเป็นกลางทางศาสนา แถมรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้เขียนไว้ให้สิทธิบริบูรณ์ในการแสดงออกทางศาสนาด้วยครับ ตรงข้ามกับรัฐธรรมนูญไทยที่รับรองสิทธิอย่างบริบูรณ์ในการนับถือศาสนา แต่เรื่องการปฏิบัติตามศาสนามีข้อจำกัดเพียงนิดเดียวตามที่คนข้างบนยกมาให้อ่าน คือ ไม่ขัดต่อศีลธรรม ความสงบสุขเรียบร้อย เท่านั้นครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 21:50:56 จากคุณ : Sheckler เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:35:04

ความคิดเห็นที่ 102 รัฐธรรมนูญฝรั่งเศสรับรองสิทธิเด็ดขาดในเสรีภาพทางความคิด(เรื่องศาสนาด้วย) แต่เสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิด(รวมศาสนาด้วย)มีการจำกัดไว้ครับ จากคุณ : Sheckler เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:39:45

ความคิดเห็นที่ 103 มีประเทศบางประเทศเช่น ฝรั่งเศส ออกกฎหมายห้ามแสดงออกถึงสัญลักษณ์ทางศาสนาอย่างชัดเจนได้ เพราะไม่ขัดรัฐธรรมนูญประเทศเขาครับ และบังคับกับทุกศาสนาด้วยครับไม่ใช่เฉพาะอิสลาม สเปนก็มีกฎหมายประเภทนี้ ไม้กางเขนในที่สาธารณะและห้องเรียนก็ถูกรื้อออกครับ เห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญแต่ละประเทศต่างกันครับ อย่าเอามาเทียบให้เสียเวลา จากคุณ : Sheckler เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:47:32

ความคิดเห็นที่ 104 ที่บอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ก็ขอให้รับทราบว่า ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นพุทธมามกะ หรือทำไมจึงคิดแบบนี้ .. ไม่เกี่ยวกับอะไรทั้งสิ้น - ความเห็นส่วนตัว.. เท่านั้น.. เมื่อสังคมแตกแยก ร้าวฉาน..วันนั้นจะเข้าใจ..และย้อนกลับมาคิดเรื่องนี้นะครับ..บาย บาย **************************************************** ท่านสุดเดียวดายครับ  ก็เพราะความเห็นส่วนตัว ของท่านนั้นแหละครับ  กระทู้มันเลยยาวจวนจะถึงโกลก  อยู่แล้วครับ   ความแตกแยกจะเกิดขึ้น  ก็เพราะอีโก้  ของท่านเองนะครับ  สังคมทุกวันนี้เรื่องความแตกแยก แปรเปลี่ยนเป็นความแตกต่างทางความคิด   เรื่องศาสนากำลังไปได้ดี  ได้สวย คนเลิกเรียกคำว่าแขก ก้มาก  เลิกเรียกคำว่าเจ้กก็เยอะ (ปล  ผมก็เชื้อสายจีน) ดีกว่าเมื่อ 40-50  ปีก่อนด้วยซ้ำ  ถ้าไม่มีการป่วนรวนของพวก อัตตานิยม ไม่รู้จักคำว่า อนัตตา ความคิดเห้นส่วนตัวต้องกระซิบครับ  ดูลาดเลาก่อน แต่ถ้าตะโกนดังๆๆ  มันเป้นข้อคิดเห็น สาธารณะไปแล้วครับ ส่วนประโยคสุดท้าย ความแตกแยกจะเกิดขึ้นได้  ก้เพราะมีก้วน อคตินิยมละครับ คงไม่ใช่จากพวกเราแน่นอน  เพราะเพื่อนมุสลิมในนี้ รักเพื่อนมนุษยืทุกท่านไม่ว่าศาสนิกใดก็ตาม อิสลามมีคำสอนว่า  มวลมนุษยชาติคือสมบัติ ของพระผุ้เป็นเจ้านะครับ  บาย   .....บาย   จุฟๆๆๆ ปล.  อย่าหาว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะครับ  นึกว่าผมเป็นคนแก่ขี้บ่น บอกลูกหลานว่าอะไรควรไม่ควร ก็พอแล้วครับ ด้วยความเคารพ พี่จิม แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 21:54:12 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:53:17

ความคิดเห็นที่ 105 เพื่อนๆทุกท่าน โดยเฉพาะเพื่อนๆที่เห็นต่าง  พี่จิม  เคารพในข้อคิดต่างของท่านนะครับ ท่านอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือรู้ไม่เท่าทัน หรือว่าไม่เคยมีประสบการณ์ พีจิม ต้องขออภัย  จขกท  ด้วยนะครับ  ที่ขอชี้แจงแทนเพื่อนทุกท่านในนี้แบบ ชัดเจน  ถึงแม้นมันจะไม่เกี่ยวกับกระทู้ก็ตาม แต่มันเป็นผลสืบเนื่อง จากคำว่าแขก  และทำไมมุสลิม ในไทยต้องกลายเป็นแขก เพราะอะไร เพราะใคร พี่จิม เอง บรรพบุรุษ สืบได้ยัน พระนารายณ์ มหาราช   บรรพบุรุษ เป็นมุสลิมสนองพระเดชพระคุณ  มายาวนาน  วันดีคืนดี แม่ และตา ต้องกลายเป็นคน สัญชาติ ฮอลันดา และอังกฤษ ได้ อย่างไร และทำไม พลเอก กฤษ ศรีวรา บรรพบุรุษ มุสลิมมหานาค แท้ๆๆ  ต้องเปลี่ยนแปลงศาสนา และต้องมีจุดจบแบบข้อกังขา   ถ้าท่าน จขกท และเพื่อนท่านอื่นอยากทราบ ช่วย ชูจักกะแร้ ด้วยครับ ถ้าไม่มีท่านใดอยากฟังก็จะไม่เล่า  เพราะมันผิดมารยาท ด้วยความเคารพ พี่จิม จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:05:56

ความคิดเห็นที่ 106 ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆๆ แล้วค่ะ พี่จิม ^^ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:12:42

ความคิดเห็นที่ 107 อยากฟังครับคุณจิม จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:43:14

ความคิดเห็นที่ 108 ทำไมมันเหมือนคลิป ปลุกระดม เลยค่ะ งง ไมไ่ด้อ่าน คห.ทั้งหมด อ่านแต่ จขกท. และคลิปแรก เท่านั้น ใส่เสื้อผ้ารัดกุมตามคลิปบอก ก็ใส่กระโปรงนักเรียนยาวๆ ใส่เสื้อตัวใหญ่หน่อยก็ไม่โป๊เปลือยแล้วนี่ค่ะ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราแต่งกายถูกระเบียบทุกอย่าง แต่กระโปงสีชมพู ยังไงก็ผิดระเบียบค่ะ เมื่อระเบียบถูกละเมิด แล้วมีข้อยกเว้นเกิดขึ้น เมื่อมีรายแรกก็ต้องมีรายต่อไปอีกเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นมาหาข้อสรุปได้ไหมว่าทำอย่างไรแต่งชุดนักเรียนได้ไหม โผกแต่ศรีษะให้เห็นเครื่องแบบนักเรียน ได้ไหม หาทางออกอย่างสันติวิธีดีกว่าค่ะ  แต่อย่างในคลิปเหมือนปลุกระดมเพื่อรวมพลเลยค่ะ มันไม่ใช่ลักษณะในการหาทางออกค่ะ ปล.เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ  และรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายค่ะ จากคุณ : ราดหน้าเย็นตาโฟต้มยำ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:20:09

ความคิดเห็นที่ 109 นำเรียนถึง สมาชิกฯห้องศาสนา ณ พันทิป.คอม ทุกๆท่านที่ผ่านมาแวะกระทู้นี้ และทั้งท่านผู้ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ ท่านที่คิดว่าสนใจที่จะเกี่ยวข้อง ด้วยความห่วงใย และ/หรือ ด้วยสิ่ง-เหตุอันใดก็ตาม... เรื่อง ฮิยาบ กับ สถานศึกษาเก่าแก่ แห่งตำบลหนองจอก คือ ร.ร.วัดฯ นี้  ไม่ใช่เรื่องใหม่  แต่ก็ยังไม่ใช่  เรื่องเก่า  เกินกว่าที่ใครหลายๆคนจะลืมได้ โปรดพิจารณา ข้อคิดเห็น ความคิดเห็น และแนวทางปฏิบัติฯ กรณี ฮิยาบกับนักเรียน และสถานศึกษา ที่มีมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ กระทู้          และ กระทู้ที่คิดว่าเป็น/มีเนื้อหาสาระโดยตรงกับ กรณี ฮิยาบ ร.ร.วัดหนองจอก  ก็ได้แก่ กระทู้ที่ กรองคำ นำ คคห. มาลงไว้เพื่อรักษาเนื้อหาเดิมแต่ก่อนมา-นี่เอง ท่านสมาชิกฯ & ศาสนิกชนทั่วไป ที่ต้องการเนื้อหาเพิ่มเติมมากกว่านี้ ก็กลับเข้าไปอ่านกระทู้ตัวเต็มได้ตามสิ้งก์ที่แสดงไว้นี้เถิด ท่าน จขกท.นี้คงจะไม่ตำหนิใครที่ต้องการแสวงหา ข้อมูล ที่เกี่ยวข้องเพื่อ ความถูกต้อง ทั้งปวง ประการ ๑ นั้นก็เพราะเหตุว่า จขกท.ตามลิ้งก์ที่ กรองคำ วางให้พร้อมชื่อกระทู้นี้-นั้น ก็ใช้ login Ms.Kohlanta ด้วยเช่นกัน ปลัด ศธ.ส่งหนังสือแจงกรณีฮิญาบมัธยมวัดหนองจอก  ชี้โรงเรียนดำเนินการไม่ถูกต้อง <คลิกไปกระทู้]   ความคิดเห็นที่ 84 อ้างถึง ความคิดเห็นที่ 57 จากคุณ     : Carroth เขียนเมื่อ     : 10 ก.ค. 54 21:13:20 (ครั้ง แรกคิดว่าจะแยกไปขึ้นเป็นอีกกระทู้หนึ่ง แต่เมื่อตรองดูอีกชั้นหนึ่งแล้ว เห็นว่าควรรวมเนื้อหาไว้ในกระทู้นี้ จะเหมาะสมที่สุด จึงนำมาลงเป็น คคห.  อาจจะยาว แต่ขอให้พิจารณากันอย่างถ้วนถี่และไม่รีบร้อนด่วนสรุป) คุณ 5tik คนเรียนจะเรียนที่ไหนก็ได้ครับ เขามีสิทธิ และในเมื่อปลัดกระทรวงศึกษาธิการนั้นบอกว่านักเรียนมีิสิทธิแต่งกาย ตามหลักศาสนาได้ ดังนั้น นักเรียนมุสลิม มีสิทธิแต่งกายตามหลักศาสนา และไปเรียนโรงเรียนวัดนั้นได้ ครับ ยังไม่ปรากฏว่าปลัดกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบัน ได้บอกว่า นักเรียนมุสลิมมีสิทธิ์แต่งกายตามหลักศาสนาไปเรียนโรงเรียนวัดใดๆได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเอกสารแบบแถลงการณ์ หรือ ออกเป็นหนังสือคำสั่ง ให้แก่สำนักงานฯ หรือสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานใด/โรงเรียนวัดใดให้ถือปฏิบัติ คือรับรู้สภาพสิทธิ์ ดังที่กล่าวมานั้นเลย ถ้าคุณไม่ใช่ปลัดกระทรวง คุณไม่ได้มีหน้าที่ออกกฎหมายใหม่ คุณก็ไม่มีสิทธิบังคับให้ใครไปเรียนที่ไหนครับ ปลัด กระทรวง(ในที่นี้หมายถึง ก.ศึกษาธิการ) ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการ ออกกฏหมายใหม่ แต่อย่างใด และไม่มีสิทธิ์บังคับให้ใครไปเรียนที่ไหน หรือทำสิ่งใดๆ ตามอำเภอใจของตนเองได้เช่นกัน อย่ามาบอกว่าใจกว้าง ครับ เพราะที่โรงเรียนนั้นทำ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเรื่องนี้ยืนยันโดยปลัดศธ ไม่ใช่หรือ? ในหนังสือจากสำนักปลัดฯ ซึ่งมีปลัด ก.ศธ. คนปัจจุบัน ลงนาม ที่ส่งถึงเลขาฯ กมส. มีข้อความจากการชี้แจง-วินิจฉัย ที่ระบุว่า "เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง" ปรากฏอยู่จริง  แต่ ไม่ปรากฏว่ามีการให้ถ้อยคำ หรือหนังสือจากสำนักปลัดฯ โดยปลัด ศธ. คนปัจจุบันลงนาม  "ยืนยัน" ในกรณีที่กล่าวถึงนั้นแต่อย่างใด ( คำว่า ชี้แจง กับ ยืนยัน  มีความหมายต่างกันชัดเจนตามพจนานุกรม ฉบับราชฯ) มี สิทธิอะไรมาห้าม ไม่ว่าจะวัดไหน ที่พูดลอยๆ มาว่าโรงเรียนวัดนั้นห้ามวัดนี้ห้าม อยากจะรู้ว่าวัดนั้นน่ะวัดไหน แล้วมีสิทธิตรากฎหมายมาเองหรืออย่างไร? ใหญ่กว่าปลัดกระทรวงหรือ? ปลัด กระทรวง ศธ. มีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ได้กำหนดไว้ให้รักษาการในภาระกิจนั้นๆ  การสั่งการใดๆก็ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการบริหารราชการ (ตามลำดับชั้น-ขั้นตอน) วัฒนธรรมก้าวล่วง-ก้าวก่ายใดๆในงานราชการ ถือเป็นการประพฤติมิชอบได้ทั้งสิ้น(โดยเฉพาะกับข้าราชการประจำ)   หนังสือแจ้งจากสำนักปลัดฯ ถึงเลขาฯ กมส. จึงออกมาในลักษณะนั้น  คือแจ้งเพื่อให้ทราบว่า ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณา ในกรณีที่ กมส. อ้างถึง ไปตามลำดับแล้ว  เพราะปลัดฯเล็งเห็นว่า ไม่ใช่ ข้อปัญหาใหญ่เร่งด่วน ที่หน่วยงานตามลำดับชั้น-ขั้นตอนจะดำเนินการพิจารณาแก้ไขปัญหาไม่ได้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่ง ปลัดฯ ย่อมทราบดีว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวง ศธ. นั้น ยังมีตำแหน่งหน้าที่ราชการอื่นที่ สูงกว่า  และต้องทราบดีว่า ปลัดฯ มิได้ "ใหญ่" กว่าใครผู้ใดที่มีตำแหน่งหน้าที่ราชการ "ต่ำกว่า" ด้วยเช่นกัน   ดังนั้น  ความเห็น ในหนังสือฯฉบับนั้น ก็ยังมีขอบเขตอยู่เพียงแค่เป็น  ความเห็น ของปลัดฯ จากการวินิจฉัย ที่ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับทราบ เพื่อนำไปเป็นข้อปฏิบัติ ตามลำดับชั้น-ตามขั้นตอนต่อไป เท่านั้น การที่จะนำมาตีความเป็น คำสั่ง ของเจ้าของความเห็นนั้น แล้วดำเนินการ-กระทำการใดๆ ไปตามที่(เข้าใจเอาเองแล้ว)ยกขึ้นมากล่าวอ้างนั้น ย่อมถือว่าเป็นการ  รีบด่วนตีความ  แล้วนำมากล่าวอ้าง อย่างไม่ถูกต้อง และถ้ากระทำหรือดำเนินการใดๆที่เกี่ยวเนื่องกับการอ้างนั้น ก็ยังต้องให้ถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบ คือเป็นการกระทำที่ ไม่ถูกต้อง ตามเจตนาแห่ง หนังสือแจ้ง ฉบับนั้น  จึงพึงกระทำการใดๆไปตามการตีความเช่นนั้นมิได้ วัด ไม่มีมีสิทธิ์ตรากฏหมาย* แต่วัดมิสิทธิ์ ตั้ง "กฏ-ระเบียบ" ที่กำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องต้องถือปฏิบัติในขอบเขตของแต่ละวัดได้  ทั้งนี้ ด้วยสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ และตามสภาพสิทธิ์แห่งความเป็น นิติบุคคล ของแต่ละวัด  ซึ่งเรื่องนี้ ผู้บริหารราชการแผ่นดินระดับ ปลัดกระทรวงฯ ย่อมต้องทราบดีว่ามี "กฏ-ระเบียบ" ในลักษณะแห่งสิทธิ์ดังกล่าวนี้อยู่เป็นส่วนใหญ่แล้ว   เช่นเดียวกันกับ "กฏ-ระเบียบ" ของสถานศึกษา ที่แต่ละแห่ง ก็จะมี "กฏ-ระเบียบปฏิบัติ เฉพาะกาล-สถานที่" ไว้ให้บุคลากรและนักเรียนในสถานศึกษานั้นๆใช้ถือปฏิบัติ โดยยึดถือในหลักการของ การอยู่ร่วมกันแบบคนหมู่มาก เพื่อเป็นการรักษาสภาพสังคมนั้นๆไว้ ให้มีความเป็นปรกติ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆไปด้วยกันได้อย่างราบรื่น เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ตามเป้าหมายทางการศึกษาของแต่ละสถานศึกษานั้นๆ หาก "กฏ-ระเบียบ" ของวัดหรือสถานศึกษาใดมี ข้อให้ปฏิบัติ ที่ ขัด หรือ แย้ง กับ ระเบียบหลัก ตาม พ.ร.บ.ฯฉบับใด ก็ให้มีการดำเนินการสอบสวน และชี้แจงเพื่อดำเนินการปรับปรุง-แก้ไขเป็นกรณีๆไป  ซึ่ง "การปรับปรุงแก้ไข" หรือ ดำเนินการใดๆ ของแต่ละกรณีนั้นๆ ให้เป็นไปตามลำดับชั้น ตามขั้นตอนของระบบงาน "การบริหารราชการ" โดยเริ่มต้นจากหน่วยงานต้นสังกัดนั้นๆ ทั้งนี้ ต้องให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ ข้อย่อย ที่กำหนดไว้ให้ปฏิบัติ ฯ ซึ่ง ตามระเบียบปฏิบัติเช่นที่กล่าวมานี้  ในหนังสือจากสำนักปลัดฯที่ กมส. ยกขึ้นมานั้น  จึงปรากฏข้อความของลำดับขั้นตอนการปฏิบัติของ "การบริหารราชการ" ไว้ที่ย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือแจ้งฉบับนั้นอย่างชัดเจน ดัง นั้นหนังสือฯที่ กมส. ยกมาสู่สายตาสาธารณะชนนั้น  จึงเป็นเพียงแค่ ความเห็น ตลอดจนการปฏิบัติตามหน้าที่ "รักษาการ" ของปลัดฯ คือท่านได้รับเรื่อง และ แจ้งต่อผู้เกี่ยวข้อง คือ กมส.  เพื่อให้ทราบว่า หลังจากได้รับเรื่อง ก็ได้มีการ สั่งการ เพื่อดำเนินการแล้ว คือมีหนังสือแจ้งให้ สนง.สพฐ.เขต พิจารณาดำเนินการในกรณีนั้นๆกับสถานศึกษาในสังกัด ในขั้นตอนต่อไปแล้ว เท่านั้นเอง @ (ดังนั้น ใครที่คิดจะ แทงยาง หรือรอจะอ้างเรื่อง เพื่อตั้งเรื่องฟ้อง (หรือข่มขู่ว่าจะฟ้อง) ว่าปลัด ศธ. ละเลย-ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  ก็เป็นอันว่าลืม/ฝันค้างไปได้เลย เพราะหนังสือฉบับนั้นเป็น คำตอบ ที่ชัดเจนถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายให้รักษาการ โดยตำแหน่งของปลัดฯ ก.ศธ. ตาม พ.ร.บ.ฯ ๒๕๕๑ - คหสต.) @ ถ้า คุณ 5tik ยกเหตุผลดังกล่าวมาว่าไม่พอใจก็ไปเรียนที่อื่น หรือมีโรงเรียนที่คลุมผมได้มากมายแล้วล่ะก็ เวลามีข่าวพระถูกฆ่าตายที่ชายแดนใต้ ช่วยออกมาแสดงความเห็นด้วยนะครับว่า ถ้าไม่พอใจก็ไปอยู่จังหวัดอื่นครับ เพราะคนพื้นที่บางกลุ่มไม่ปลื้มกับชุดคลุมเหลือง เอาไหมล่ะครับ?  ได้ โปรด...ท่าน Carroth อย่าสร้างมุมมองให้ผู้คนได้คิดเห็นกันว่า แท้จริงแล้วท่านเป็นคนที่มีจิตใจเบื้องลึกเป็นเช่นไร จากการเปรียบเทียบแบบนี้เลย เพราะที่ท่านยกมานั้น เป็นเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นจริงมาแล้วหลายครั้ง ถ้ายกมาเช่นนี้อาจจะเป็นการ เปิดช่อง ทางความคิดให้ผู้คนคิดไปได้ว่า "กรณี ปฏิบัติ ฮิยาบ ในสถานศึกษา(ทั่วประเทศ*)นี้ ก็คงจะ มีเป้าหมาย ที่ไม่ต่างจาก "เป้าหมาย" อันเป็นเหตุทำให้ บาตร และสังขารร่างกายของพระไทยถูกสะเก็ดระเบิดฉีกทำลายใน ๓ จชต. !! " นี่กำลังพูดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่กำลังถูกละเมิด ปลัดศธ ก็บอกแล้วว่า มุสลิมมีสิทธิแต่งกายได้ แล้วอะไรที่ทำให้คนออกกฎมาห้ามครับ? กฏ-ระเบียบข้อบังคับให้ปฏิบัติ ของโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก มีมานานกว่า 50 ปี และมีการปรับปรุงเพื่อความเหมาะสม สอดคล้องตาม กฏ-ระเบียบหลักจากต้นสังกัด คือ  ก.ศธ. มาโดยตลอด  ทั้ง นี้ การบริหารก็ย่อมเป็นไปเช่นเดียวกันกับ สถานศึกษาของรัฐบาลทุกแห่ง ที่ย่อมมีการเจริญเติบโตภายในองกรณ์นั้นๆตามวันเวลาและยุคสมัย จึงมี ข้อกำหนดให้ปฏิบัติ ที่เรียกว่า กฏ-ระเบียบเฉพาะกาล ของสถานศึกษาขนาดใหญ่นั้นๆ  ซึ่ง มีอยู่ และ เป็นไป โดยทั่วกันทั่วประเทศ (ที่บอกว่า ระดับปลัดฯต้องทราบดีในความจำเป็นที่ต้องมี กฏ-ระเบียบเหล่านี้ไว้) นี่กำลังพูดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่กำลังถูกละเมิด ยังไม่มีสิทธิขั้นพื้นฐานฯใดๆของผู้ใดที่กำลังถูกละเมิด จากระบบการบริหารงานของ ร.ร. มัธยมวัดหนองจอก เพียงแต่มีการขอปฏิบัติ ฮิยาบ ในโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก เมื่อ ช่วงปลายภาคการศึกษาที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๒ ซึ่งได้มีการชี้แจงถึง กฏ-ระเบียบเฉพาะกาลของ ร.ร. ไปแล้ว  แต่เรื่องที่ขอปฏิบัติ ฮิยาบ ยังไม่ยุติ หากกลับมีลักษณะ ขยายขอบเขตเหตุ-การชี้แจงเพื่อปฏิบัติ มากขึ้นๆ  กระทั่งขึ้นไปถึงระดับ ปลัดกระทรวง ศธ. จนสุดท้าย กมส. ก็ได้รับหนังสือฉบับที่ได้ยกขึ้นมา อ้างแก่สังคม เพื่อจะดำเนินการปฏิบัติ ฮิยาบ ณ วันปัจจุบันนี้ เท่านั้นเอง @ ในส่วนของ มหาเถระสมาคม ที่มีมติ ออกมาตามที่ทราบโดยทั่วกันแล้วนั้น ก็เป็น สิทธิและหน้าที่ ของ คณะทำงานด้านดูแลกิจการศาสนา โดย สนง.มหาเถรสมคม ตามกฏหมายรัฐธรรมนูญเช่นกัน  ซึ่งในมุมมองของแต่ละคนแต่ละฝ่ายย่อมเห็นไม่ตรงกันทั้ง100มติ(ถ้ามี๑๐๐มติ)  แต่ถ้า ในมตินั้นๆไม่มี ข้อใด ที่ ขัด หรือ แย้ง กับ พ.ร.ก. หรือ พ.ร.บ. ฉบับใดอันปรากฏในประมวลฯ ซึ่งได้ประกาศลง ราชกิจจาฯ ไว้แล้ว  มติ มส.  ก็แปลได้ตรงตัวว่าเป็น มติ ของ มส.  ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ...แล้วอะไรที่ทำให้คนออกกฎมาห้ามครับ? และ...ก็ เมื่อมีเสียงบอกให้ดูให้รู้ให้เห็นในเรื่องที่ว่า มี งูขนาดเล็กกว่าปรกติ แพร่พันธุ์ขึ้นมา แล้วสามารถลอดผ่านรูตะข่ายกั้นภัยขนาดมาตรฐานเข้าไปกิน ลูกเต่าทะเล ในสระอนุบาลได้  ซึ่งต้องก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเลี้ยงดู เพื่อนำส่งลูกเต่า ไปเลี้ยง-บำรุงให้เติบโตแข็งแรงขึ้นตามลำดับ  จนสามารถปล่อยกลับลงสู่ทะเล ดำเนินชีวิตของความเป็น เต่าทะเล ไปตามธรรมชาติได้โดยปลอดภัย  ตามเจตนาที่เป็นมาแต่เดิมของโครงการเพาะเลี้ยงลูกเต่าทะเล  (ซึ่งมีจริง และเป็นโครงการเนื่องด้วยพระราชดำริฯอยู่หลายแห่งในจังหวัดทางภาคใต้) จากกรณี ลูกเต่า ที่ยกมาเป็นอุทาหรณ์นี้ ท่าน Carroth และสาธุชนคนมีศีลธรรมทั้งหลาย คิดว่า อะไรที่ ทำให้ผู้มีหน้าที่ดูแล ลูกเต่า ในสระนั้นต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสิ่งป้องกันชีวิต ลูกเต่าทะเล ซึ่งในที่นี้คือ ตะข่ายกั้นภัย ... อะไร ??? และ ผู้ดูแลสระอนุบาลลูกเต่าเขาจะเปลี่ยนขนาดของ ตะข่าย เป็นแบบใด  ขยาย หรือ ลดขนาด ของช่องตะข่ายป้องกันภัยนั้นๆ ??? ฉันใด ก็ ฉันนั้น ... ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนมี เหตุ และปัจจัย ในการเกิด  และผลที่เกิด  ก็เนื่องมาแต่มี เหตุ เกิดขึ้นมานั่นเอง  @ พระบรมศาสดาผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงตรัสรู้ สัจจธรรม และทรงชี้นำหนทางดี สั่งสอนเหล่าพุทธสาวกและพุทธบริษัท ไว้โดยชอบเช่นนี้แล้ว @ หนังสือราชการ ศธ 04219/3701 ปตน.๓ คลิกlink http://www.pattani3.go.th/eoffice/view.php?key=2105 ขอแนะนำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ศึกษารายละเอียดของระเบียบเครื่องแบบนักเรียน ตามที่ปรากฏใน  พ.ร.บ.ฯ ๒๕๕๑ ในหัวข้อต่อไปนี้ ข้อ ๔  / ข้อ ๕ วงเล็บ ๗ / ข้อ ๑๒* -ย่อหน้าสุดท้าย ถ้าฝ่ายกฏหมาย-นิติกรของหน่วยงานใด ตีความ ส่วนนี้ได้ไม่ถูกต้อง มองไม่เห็น เหตุ ที่จำต้องตราระเบียบข้อ ๑๒ ขึ้นมาขยายความคำว่า สถานศึกษาอื่น* (อันไม่ปรากฏใน ข้อ ๔ แต่ระบุชัดแจ้งในข้อ ๕)  ก็จะทำให้เข้าใจไขว้เขว ผิดไปใหญ่ เพราะจะแย้งกับ ข้อ ๔ และข้อ ๕(๗)  ซึ่งจะทำให้เสียเวลาดำเนินการใดๆเพื่อจะนำเข้าสู่ขั้นตอนในชั้นศาลไปเปล่าๆ (และนักเรียน ๑ ล้านคน -ตามแผนฯเชิงรุกของ กมส.- ก็จะเสียโอกาสทางการศึกษา เสียเวลาเล่าเรียนไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วยเช่นกัน) ข้อ ๑๓ / ข้อ ๑๔ / ข้อ ๑๖  และข้อ ๒๐  ความว่า "ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้." (ไม่ได้ระบุให้มีอำนาจตัดสินชี้ขาดแต่ประการใด) ซึ่งหนังสือราชการที่มีถึงเลขาฯ กมส. นั้น ก็สามารถนำขึ้นเป็น เอกสาร-วัตถุพยาน ในชั้นศาล ได้ชัดเจนว่า ปลัดฯ ก.ศธ. คนปัจจุบัน ได้ปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ตามที่ พ.ร.บ.๒๕๕๑ กำหนด อำนาจ ไว้ให้ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แล้าท่านทั้งหลาย ผู้ซึ่งคิดว่า ตนจะต้องมีส่วนในการดำเนินการ-กระทำการใดๆ เพื่อการได้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในเรื่องนั้นๆ  ได้ทำหน้าที่ของท่านตามลำดับชั้น-ตามขั้นตอน ได้ถูกต้อง ตามอำนาจหน้าที่ ที่ทุกท่านมีอยู่กันบ้างหรือไม่ ??? ความอ่อนน้อมถ่อมตน   ความตรงไปตรงมา  ความไม่เห็นแก่ได้แต่ฝ่ายเดียว ความรู้จักพอ-รู้จักประมาณตน และการ "วิ สาสา ปรมา ญา ติ"  ซึ่งไม่ผิดหลักการในหมวดศีลธรรม-ไม่ว่าจะของศาสนาใด เมื่อได้เพิกเฉย-ละเลยทิ้งไป โดยผู้ที่ถือตนว่ามีศรัทธามั่นคงในศาสนานั้นๆ  ฉันใด... ศรัทธานั้นก็เป็นได้แค่  ใบดาบ  ที่ฟาดฟันไปในอากาศ มันย่อมไม่รับรู้ ผล ของความคมจากตัวมันเอง  ฉันนั้น ฯ @ ด้วยความเคารพในสิทธิ์ของท่าน จขกท. และท่าน Carroth @   * แก้ไขข้อความและคำผิด ครั้งที่ ๒ * แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 16:47:38 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 23:35:39 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 22:55:35 ท้ายที่สุดแห่ง คคห.นี้ ขอให้ท่านจงพิจาณาในเนื้อหาของ Clip ประกอบความคิดเห็น เกี่ยวโยงต่อกรณี ฮิยาบกับนักเรียนและสถานศึกษา <คลิกอีก ๑ ทางเลือก]  ศูนย์การค้า~ห้างฯในเมืองใหญ่ทั้ง ๔ ภาค รวมทั้งในเมืองหลวงของเราท่านนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่มีภาพเช่นใน Clip ประพฤติกรรมของเยาวมุสลิมะอฺฮ์ จากประเทศเพื่อนบ้าน ต่างกันก็แต่เพียงว่า  เหตุ ๑ ถอดคลุมหัวเพื่อเข้าโรงเรียน-เพราะอะไร ?                          อีก เหตุ ๑ ถอดคลุมหัวออกก่อนเข้าห้างฯ-เพื่ออะไร ?   ฤาเราท่านจะ คิดเอาแต่ทางได้ จากมุมของคนผู้ผ่านกาลมานานพอแล้ว-เท่านั้นเองหรือ ??? ไม่ใช่ คลิปจัดทำเพื่อ propaganda หรือ ปลุกระดม แต่เป็นเรื่องจริงจากประเทศเพื่อนบ้าน  Credit : Uploaded by tamiljaguar on 3 Dec 2008 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 02:25:33