ความคิดเห็นที่ 1 อ้อ แต่ถ้าคราย มันงอล ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมมาตอบให้ฟัง ก็ม่ะเป็นไรน้าาาาาาาา นู๋บีเข้าใจเสมอจร้าาาา ว่า ในบางโอกาส ที่รู้สึกว่า ถูกคุกคาม จากผู้ล่า เจ้าเหยื่อ ตัวน้อยที่น่าฉงฉาน มันก็ต้องพยามซ่อนตัว อยู่ในกระดอง อิอิ จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:21:50

ความคิดเห็นที่ 2 ปอลิง อ๊ะ ๆ ห้ามแก๊งค์ สามช่า ดอดมาลบกาทู้นี้เชียวน้าาาา ม่ะงั้น เด๋ว อาเหล่าม่ามัน งอล แล้วร้องไห้ขี้มูกโป่ง วิ่งไปฟ้อง ด๊อกเตอร์ เลคเตอร์ ขึ้นมา จาหาว่า  อิตั้วเจ้นู๋บีไม่เตือนน้าาาาา เด๋วโดนกินหัว ม่ะรู้ด้วยย อิอิ ที่สำคัญ เห็นชอบอวยตัวเอง กันนักนิ ว่า สาดหนาพุทธ เป็น ศาสนา แห่งปัญญา ม่ะช่ายเหยอ ? แล้วจะ มาแจ้งลบ ทำไม ให้เสีย เครดิต ล่ะเธอว์ ถ้า ทำงั้น มันก็ไม่ต่างอะไร ก๊ะ ตอนที่พวกศรัทธาจริตจ๋าา (ตาลีบัน) มันระเบิด พระพุทธรูปแห่ง บามิยัน ทิ้ง ล่ะว้าาา   จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:23:08

ความคิดเห็นที่ 3 อ่ะ เอามาฝาก อิอิ จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:24:20

ความคิดเห็นที่ 4 อ้อ แต่ถ้า ดูแล้ว เครี๊ยด ...เครียดดดด..... เก๊าะเปลี่ยนบรรยากาศ มาดูการ์ตูน ในลิ้งค์ข้างล่างให้ใจมันชิล ๆ  น้าาาาา ( เอ๊ะ หรือ จะยิ่ง เครียดหนักกว่าเดิมล่ะหว่า ? หุหุ ) http://www.sookjai.com/index.php?topic=13871.0 จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:26:44

ความคิดเห็นที่ 5 อ้อ ต่อ อีกนิ้ดส์ ( กันเหนียว หุหุ ) ห้ามใคร สะแหล๋นแจ๋น มา แถ มาแถก มาโปรเจคชั่น ร้องไห้โยเย นะจ๊ะ แล้ว ก็ไม่ต้องพยามหาเหตุผล มาแหกปาก ตะแบง ว่า เฮ้ยยยย ตรูไม่เชื่อ ยังไง๊ ยังไง พุทธอวตาร ก็ ไม่จริ๊ง ไม่จริง ว้อยยย ฯลฯ เป็นอันขาดดดดดดดดดด เพราะ ว่า กระทู้นี้ ใช้ เทคนิคการนำเสนอ แบบใช้สถานการณ์จำลอง ( Simulation ) นะจ๊ะ http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=3074.msg8671#msg8671 นะเจ้าคะ ดังนั้น  ในกาทู้นี้ จขกท. หญ่ายสุดดดด ห้ามคราย ทะลึ่งมาย้อนถาม เด็ดขาดดด จงปฏิบัติตาม เงื่อนไขที่ จขกท . วางไว้ ดังนี้ 1. สมมุติว่า พุทธอวตาร เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย    ไม่สามารถหาเหตุผลใด ๆ ในโลกนี้ มาคัดง้างได้ 2. เมื่อ รับรู้เช่นนี้แล้ว จงตอบตรูมาซะดีๆ     ว่า พวกเมิงจะทำเช่นไร ? 3. ถ้าไผ ตอบคำถาม ได้แซ่บ ถูกใจ    เด๋วอิตั้วเจ้นู๋บี จาให้รางวัล 1 จ๊วบบบ หุหุ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:09:26 แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 55 23:51:24 แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 55 23:49:49 จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:37:33

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะไม่ใช่เรื่องจริง จึงไม่ต้องทำอะไร โอเค๊? เพราะถ้า(เชื่อว่า)เป็นเรื่องจริง ผมก็คงเหมือนชาวฮินดูในประเทศอินเดีย ที่ไม่เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ แต่ยังนับถือศาสนาฮินดูต่อไป เพราะพระพุทธเจ้าเป็นอวตารของพระนารายณ์ แต่คนอินเดียที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ และเขาศรัทธาในคำสอนของพระพุทธศาสนา ก็ปฏิญาณตนเป็นชาวพุทธ  และประกาศเป็นนโยบาย ๒๑ ข้อ มีข้อหนึ่งว่า "ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นอวตารของพระวิษณุ คนเชื่อเช่นนั้น คือคนบ้า" ผมไม่ใช่คนบ้าครับ และผมก็ไม่เชื่อ และก็คงไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลว่าทำไมพุทธาวตารจึงไม่จริง เพราะจขกท.ไม่ต้องการเหตุผล (และกระทู้ก่อนผมก็ให้เหตุผลไปแล้ว แต่จขกท.คงจะอ่านเหตุผลไม่เป็น ก็เลยย้ายมาตั้งกระทู้ใหม่แทน) ดังนั้น ผมก็เลยแวะมาป่วนกระทู้นี้เล่น ๆ ด้วยการบอกว่า "ผมไม่ตอบว่าถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วผมจะทำอย่างไร เพราะผมไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง" หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ จขกท.ไม่ใช่พ่อใช่แม่ผม และไม่ใช่เจ้าของเว็บบอร์ดพันทิปที่จะมาออกกฏโน่นกฏนี่ให้คนตอบนั่นตอบนี่ตามที่ตนเองคิดครับ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องตอบตามที่จขกท.ต้องการ ผมอยากจะตอบอะไรผมก็ตอบตามนั้น ถ้ายอมรับความเห็นคนอื่นไม่ได้ ก็เชิญไปพล่ามในบล๊อกของตัวเอง แล้วก็ลองตั้งเองตอบเองเพื่อสนองนี๊ดให้สนุกมือไป ก็น่าจะได้อารมณ์ไปอีกแบบ ป.ล. อีกสาเหตุหนึ่งที่ผมตอบแบบนี้ เพราะผมจงใจจะตอบไม่ถูกใจจขกท. เนื่องจากผมตั้งปณิธานประพฤติพรหมจรรย์ตลอดชีวิต ไม่มีคู่ครอง ไม่มีแฟน และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับสตรีใดทั้งสิ้น ก็เลยตอบแบบนี้เพื่อหลีกเลี่ยง ๑ จ๊วบของจขกท.ครับ ป.ล2. พูดไปก็นึกขึ้นได้ บ่อยครั้งที่เพื่อนครูด้วยกัน (ผมเป็นครูสอนนักเรียนมัธยมอยู่ครับ) มักจะถามว่า ผมทำตัวเหมือนเคร่งศาสนามากมาย ภรรยาก็ไม่มี เหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ  อยากรู้ว่า ถ้าต่อไปมีภรรยา พฤติกรรมจะเปลี่ยนไปไหม ผมตอบไปว่า "ผมไม่ชอบคำถามของพี่ เพราะเป็นคำถามปลายปิด"  แล้วก็มักจะตอบไปว่า "ผมไม่ชอบอะไรที่ต้องมีการตั้งคำถามหรือปัญหาประเภท "สมมติว่า" -"แล้วคุณจะคิดจะทำอย่างไร"  เพราะในการตอบตอนนี้ กับการกระทำเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง อาจจะเป็นคนละเรื่องกันไปเลยก็ได้" อย่างเดียวกันนั่นแหละ คำถามของจขกท. ผมไม่ขอตอบ เพราะผมนึกภาพไม่ออกจริง ๆ ว่า การที่พุทธาวตารจะเป็นเรื่องจริงนั้น มันจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะโดยสภาพการณ์ทั่วไปและความเป็นจริง บวกกับความเป็นไปทางประวัติศาสตร์ และหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ก็ไม่เอื้ออำนวยใด ๆ ให้เป็นไปอย่างนั้นได้เลย  ผมก็เลยนึกไม่ออกว่า ต่อให้มันเป็นเรื่องจริง แล้วผมจะมีท่าทีอย่างไร เพราะมันเป็นไปไม่ได้ Impossible.. คล้าย ๆ กับผมจะบอกว่า "ถ้าหากวันนี้พรุ่งนี้ ญาติที่คุณจขกท.รักมากจะตายจากไป คุณจขกท.จะเสียใจมากไหม" คุณจขกท.ก็คงจะด่าผม หรือไม่พอใจกับคำถามดังกล่าว แทนที่จะมาบอกว่า "ฉันจะเสียใจ" หรือ "ฉันจะไม่เสียใจ" หรืออีกแบบหนึ่ง (ตัวอย่างนี้น่าจะเข้าเรื่องมากที่สุด) ถ้าผมถามจขกท.ว่า "สมมติว่า  พ่อของจขกท.ตอนนี้ ไม่ใช่พ่อที่แท้จริง เขาเป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อแที่แท้จริงของจขกท. แต่เขาก็เลี้ยงดูจขกท.ด้วยความรัก จนจขกท.เติบใหญ่ จขกท. จะทำอย่างไรกับเขา" จขกท. จะทำอย่างไรอย่างไร? และจะยอมรับกฏกติกาในการตอบที่ผมตั้งได้ไหมว่า ห้ามบอกเหตุผลใด  ๆ ทั้งสิ้น  หรือห้ามเถียงนะว่า จริง หรือไม่จริง แต่ให้ตอบมา "ซะดีๆ" ว่าจะทำอย่างไร ผมเดาว่าจขกท.ก็คงจะคิดในใจว่า "อีตา chohokun นี่มันเพี้ยนชิบเป๋งเลยวุ้ย" เรื่องปัญหาแบบ If หรือแบบ สมมติว่า, ถ้าว่า  เนี่ย มันไม่ประเทืองสติปัญญาอะไรมากมายนักหนาหรอกครับ และอีกอย่าง โดยมารยาทการใช้เว็บบอร์ด คุณจขกท.ควรจะยอมรับว่า ทุกคนมีความเห็นเป็นของตัวเอง ถึงจะพูดอย่างไร ๆ เขาก็มีสิทธิที่จะบอกจะพูดเหตุผลกันได้ทั้งนั้น  เพราะลักษณะคำถามหรือคำบอกขอในเรื่องการตอบกระทู้ของจขกท. ไม่ใช่การขอร้องในลักษณะที่เอื้อให้ทำอย่างนั้น ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น  ถ้าหากมีคนตั้งกระทู้ถามโดยบอกว่า "ขอถามชาวพุทธครับ....." อย่างนี้โดยมารยาท พี่น้องที่นับถือศาสนาอื่น ก็คงไม่เข้าไปตอบ (และโดยปกติเขาก็คงไม่ตอบอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา) แต่ถ้าคำถามอย่างจขกท.นี่  ผมเอง เห็นว่า ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องปฏิบัติตามอย่างถึงขนาดนั้น ก็เลยบอกกันตามตรงว่า "ผมไม่เชื่อ เมื่อไม่เชื่อ ผมก็ไม่ต้องไปพูดถึงอะไรอย่างอื่นอีก" แต่ถ้าจขกท. จะรอคำตอบที่พึงพอใจอย่างอื่น ๆ เช่นว่า จะมีชาวพุทธคนใดคนหนึ่ง บอกว่าถ้าพุทธาวตารจะเป็นจริง แล้วเขาจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ขอให้รอต่อไป ส่วนผม เพียงแต่มาตอบในฐานะเป็นผู้ขออนุญาตใช้พื้นที่ของเว็บบอร์ดพันทิปในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง เพื่อแสดงความเห็น โดยไม่จำเป็นต้องยอมรับกฏกติกาของจขกท.ที่ไม่อยู่ในบรรยากาศของวิชาการ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:30:19 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:24:02 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:11:00 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:02:58 แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 55 23:57:54 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:53:28

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นจริงพระนาราย คงดับสูญไปแล้ว อีกอย่างในสมัยพุทธกาลพระนารายณ์ยังไม่เกิดเลย เรื่องพระรามก็ยังไม่เกิดขึ้น เพราะชมพูทวีปในพุทธกาลเจริญแค่อินเดียตอนเหนือเพราะฉะนั้นการทำสงครามกับลังกายังไม่มี สรุปคือพุทธาวตารจะขัดแย้งกันเองในการเรียงลำดับอวตาร จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:54:16

ความคิดเห็นที่ 8 ฮั่น-ฮินดู ทำลายพุทธ     เมื่อ พ.ศ. 950-1050(โดยประมาณ)   พวกพรามณ์ดำเนินแผนทำลายพระพุทธศาสนา โดยวิธีกลืนโดยแต่งคัมภีร์วิษณุปุราณะ ขึ้นบอกว่าเทวดารบแพ้อสุรจึงมาขอพึ่งองค์วิษณุคือพระนารายณ์  พระองค์จึงอวตารมาป็นพระพุทธเจ้า เพื่อหลอกพวกอสุรไห้ละทิ้งพระเวทและเลิกบูชายัญ  พวกอสุรจะเสื่อมฤทธิ์ แล้วฝ่ายเทวดาจะได้มาปราบอสุรได้ง่าย (ความหมายว่า  ชาวพุทธ ก็คือ พวกอสุร ที่ถูกพระพุทธเจ้าหลอกให้ละทิ้งพระเวทอันศักดิ์สิทธิ์และพิธี บูชายัญอันประเสริฐ มาสู่ทางแห่งความเสื่อม)     เรียกว่า พุทธาวตาร ว่าเป็นนารายณ์ปาง มายาโมหะ  และบอกว่านารายณ์จะอวตารปางที่ 10 (คงน่าจะหมายถึงพระศรีอริยะเมตไตย)   เรียกว่ากัลยาวตารลงมาเพื่อกำจัดพวกอสุรคือชาวพุทธที่พระพุทธเจ้าหลอกไว้แล้วนี้ (ข้อมูลนี้มาจาก กาลานุกรม พระพุทธศาสนาในอารายธรรมโลก) ของ พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโต) จากคุณ : เงียบงัน เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:16:27

ความคิดเห็นที่ 9 ​ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 400 (ราว 150 ปีหลังยุคพระเจ้าอโศกมหาราช) เทพเจ้าองค์ใหม่ได้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาในศาสนาพราหมณ์นั้น คือ พระวิษณุ (ได้แก่พระนารายณ์) และพระศิวะ (ได้แก่พระอิศวร)​ในยุคต่อจากนี้ ตลอดเวลาระยะยาว พราหมณ์ ได้พยายามล้มล้างพระพุทธศาสนาเรื่อยมา ด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งอย่างรุนแรง และอย่างละมุนละม่อม รวมทั้งการสร้างนารายณ์อวตารปางที่ 9 ที่เรียกว่า พุทธาวตาร หรือที่พราหมณ์เองเรียกว่า ปางมายาโมหะ และศิวะอวตาร ตลอดจนตั้งคณะนักบวชฮินดูขึ้นมาเลียนแบบสังฆะเดี๋ยวนี้ชาวฮินดูสร้างเทวาลัย บางพวกวางรูปพระนารายณ์ไว้ตรงกลาง แล้วบางแห่งก็เอารูปพระพุทธเจ้าไปวางไว้ข้างๆ ให้เป็นบริวาร การที่เขาทำอย่างนี้ เป็นเรื่องยุคหลังๆ ที่สืบมาแต่ราว พ.ศ. 1000 ​ครั้งนั้นทางฝ่ายฮินดูแต่งเรื่อง โดยสร้างหลักคำสอนใหม่ขึ้น มาบอกว่าพระนารายณ์ซึ่งเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ จะอวตารลงมากู้และแก้ปัญหาของโลกเป็นระยะๆ แล้วครั้งหนึ่งก็ได้อวตารลงมาเป็นพระพุทธเจ้า เสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าของเราก็กลายเป็นอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์ ​เขาบอกว่า บูชาพระพุทธเจ้าได้ ไม่เป็นไร เพราะพระพุทธเจ้าก็เป็นพระนารายณ์ที่อวตารลงมา ว่าแล้วเขาก็เอาพระพุทธรูปไปวางไว้ข้างๆ เป็นการค่อยประสานกลมกลืนกันไป ​แต่ถ้าทำการศึกษาสักหน่อย ก็จะรู้ว่าเป็นการมุ่งร้าย เพราะที่พระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระพุทธเจ้า เพื่อทำหน้าที่หลอกลวงคน คือ เขาแต่งเรื่องว่า มีมนุษย์จำนวนมากที่เป็นพวกอสูรร้าย เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเป็นเจ้าและต่อพระเวท พระนารายณ์ก็เลยอวตารลงมาเป็นพระพุทธเจ้าเพื่อหลอกลวงคนเหล่านี้เอามารวมเข้าด้วยกันไว้ เพื่อช่วยให้เทพเจ้าทำลายคนเหล่านี้ได้สะดวก ทีเดียวหมดเลย ​หมายความว่า ฮินดูให้พระพุทธเจ้าเป็นพระเอกในบทบาทของผู้หลอกลวง และถือว่าชาวพุทธก็คือลูกน้องของอสูร พราหมณ์ใช้พระนารายณ์ มาชิงอินเดียกลับไป ​เรื่องนารายณ์อวตารนี้เกิดขึ้นในยุคคัมภีร์ปุราณะของฮินดู คล้ายกับคำว่าตำนาน ของฮินดูโดยเฉพาะ มีทั้งหมด 18 คัมภีร์ แต่ก่อนเคยเข้าใจกันว่าเก่าแก่มาก แต่เวลานี้รู้กันลงตัวหมดแล้วว่า แต่งขึ้นเริ่มแรกในราว พ.ศ. 850 และแต่งกันมาเรื่อยๆ จนราว พ.ศ. 1450-2050 ​เรื่อง พุทธวาตาร นั้น ปรากฏขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1000-1100 คัมภีร์แรกที่กล่าวถึง คือ วิษณุปุราณะ โดยขอยกตัวอย่างตอนสำคัญมาให้ดูตอนหนึ่งว่า ​“ พวกอสูร มีปะหลาทะ เป็นหัวหน้า ได้ขโมยเครื่องบูชายัญของเทพยดาทั้งหลายไปแต่เหล่าอสูรเก่งกล้ามาก เทพยดาปราบไม่ได้ พระวิษณุเจ้า(พระนารายณ์)จึงทรงนิรมิตบุรุษแห่งมายา(นักหลอกลวง) ขึ้นมาเพื่อให้ไปชักพาเหล่าอสูรออกไปให้พ้นจากทางแห่งพระเวท ​บุรุษแห่งมายานั้นนุ่งห่มผ้าสีแดง และสอนเหล่าอสูรว่าการฆ่าสัตว์บูชายัญเป็นบาป ทำให้พวกอสูรเป็นชาวพุทธ และชักพาให้หมู่ชนอื่นๆ ออกนอกศาสนา พากันละทิ้งพระเวท ติเตียนเทพยดาและพราหมณ์ทั้งหลาย สลัดทิ้งสัทธรรมที่เป็นเกราะป้องกันตัว เทพยดาทั้งหลายจึงเข้าโจมตีและฆ่าอสูรเหล่านั้นได้” ​ คัมภีร์ ภาควตปุราณะ ซึ่งเป็นปุราณะที่สำคัญที่สุดกล่าวว่า “ เมื่อกลียุคเริ่มขึ้นแล้ว องค์พระวิษณุเจ้า จะลงมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้า โอรสของราชา อัญชนะ (ที่จริงเป็นพระอัยกาของพุทธเจ้า) เพื่อชักพาเหล่าศัตรูของเทพยดาทั้งหลายให้หลงผิดไปเสีย . มาสอนอธรรมแก่เหล่าอสูร . ทำให้พวกมันออกไปเสียจากพระศาสนา พระองค์จะทรงสั่งสอนเหล่าชนผู้ไม่สมควรแก่ยัญพิธีให้หลงผิดออกไป ขอนอบน้อมแด่องค์พระพุทธ ผู้บริสุทธิ์ ผู้หลอกลวงเหล่าอสูร” ที่มา: http://www.whatami.net/lum/lum/book.doc จากคุณ : เงียบงัน เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:17:26

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนผมก็นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนเดิม   ศาสนานี้ปฏิบัติเอง รู้เอง เปรียบเสมือนกับ กินเอง อิ่มเอง จากคุณ : เงียบงัน เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:21:24

ความคิดเห็นที่ 11 อืม...คนที่ตั้ง กระทู้ แนวนี้ได้น่ะ มี 2 ประเภทนะ ไม่เกรียน ก็ เก๋า ดังนั้น ก็ ด้นเดา เอาเองก็แระกัน ว่า อิฉานเป็น แบบไหน ? เอ๊ะ รึว่าง ๆ วิ่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไปถาม ทั่นตั๋งโต๊ะ ก๊ะ ทั่นลิโป้ ดีกว่าแฮะ ว่า ตะละแม่ เทียวเสี้ยมมม คนนี้ เกรียน หรือ เก๋าาาาาาา หุหุ (แบ่บว่า เรา ม่ะชอบ ถาม พวกไอ้ไก่อ่อน สอนขัน 5555 ) ขอย้ำอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 500 ว่า กระทู้นี้ ใช้ เทคนิคการนำเสนอ แบบใช้สถานการณ์จำลอง ( Simulation ) นะจ๊ะ ฉะนั้น ถ้า ฟังภาษาไทยออก  กรุุณากลับเข้าคอก แล้วทำตัวเป็นเด็กดี ปฏิบัติตาม เงื่อนไข และ กติกา ที่ จขกท. วางไว้ ด้วย ( แมร่ง มันสอนเด็ก นักเรียน ยังไง ฟระ ถึงไม่รู้จักเทคนิคแหล่ม ๆ อย่างงี้น่ะ เฮ้ออ ) เอาล่ะ จงปฏิบัติตาม เงื่อนไขที่ จขกท . วางไว้ ดังนี้ 1. สมมุติว่า พุทธอวตาร เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย    ไม่สามารถหาเหตุผลใด ๆ ในโลกนี้ มาคัดง้างได้ 2. เมื่อ รับรู้เช่นนี้แล้ว จงตอบตรูมาซะดีๆ     ว่า พวกเมิงจะทำเช่นไร ? ปอลิง แมร่ง อย่าเพิ่งปิดหูปิดตาปิดปาก ลอย คอออกทะเล สิยะ กลับตอบคำถามอิฉันมาก่อน เด่ะ เอ๊ะ ? หรือว่าที่ ไม่ตอบเนี่ย ไม่สนใจที่จะตอบ....ไม่กล้าที่จะตอบ.... หรือว่า กลัวที่จะตอบกันแน่เอ่ย ? อิอิ  จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:28:28

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนผมก็นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนเดิม   ศาสนานี้ปฏิบัติเอง รู้เอง เปรียบเสมือนกับ กินเอง อิ่มเอง จากคุณ : เงียบงัน เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:21:24 อ้าววววววววว เชื่อ บุคลผู้ที่เกิดเป็นพุทธอวตาร ระวังงานเข้าได้ไป นั่งวิปัสนาต่อ ในกระทะทองแดง โดนหอกแหลมแทง ทุกวัน ๆ นะจ๊ะ จะรับไหว  เหยอ ? น่ากั๊ว น่ากลัว แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 16:03:56 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:32:48 จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:32:21

ความคิดเห็นที่ 13 เอาล่ะ ถ้างั้น จขกท. จงปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ผมวางไว้ดังต่อไปนี้ 1. สมมุติว่า พ่อของจขกท.คนปัจจุบันไม่ใช่พ่อที่แท้จริง แต่เป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อของจขกท. เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย  ไม่สามารถหาเหตุผลใด ๆ ในโลกนี้ มาคัดง้างได้ 2. เมื่อ รับรู้เช่นนี้แล้ว จงตอบผมมาซะดีๆ ว่า คุณจะทำเช่นไร ? ตอบผมได้แล้ว ผมค่อยตอบคุณ โอเค? จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:32:45

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อกี้นั่งนึกอยู่เหมือนกันว่า ผมกลัวที่จะตอบ หรือคิดอย่างไร ผมก็มานั่งคิด  ๆ ดูว่า เอ.. ไม่น่าจะใช่อย่างนั้นนา ผมลองคิดดูหลาย ๆ ตลบแล้ว ก็ได้ข้อสรุปดังนี้ครับ ๑. ถ้าหากว่าพุทธาวตารนั้นเป็นเรื่องจริง ผมนึก ๆ ดูแล้ว ผมเองก็คงไม่เห็นต้องทำอะไรต่อ ผมก็อยู่เป็นชาวพุทธแบบเดิม  เอ้อ ผมอาจจะเป็นพวกอสูรที่เชื่อและไม่ทำพิธีบูชายัญแบบพราหมณ์ อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้ก็ได้นะ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ๒. ผมก็ยังคงเชื่อในพระไตรปิฎกคำสอนของพระพุทธเจ้า (ซึ่งคุณจขกท. ตะบี้ตะบันบังคับห้ามใช้เหตุผลคัดง้างใด ๆ ว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่พุุทธาวตาร) เพราะในเมื่อเป็นถึงอวตารของพระนารายณ์ ก็ควรเชื่อถือไว้สิ ขนาดชาวฮินดูที่ไม่ใช่ชาวพุทธก็ยังกราบไหว้พระพุทธรูป วัดแขกสีลมยังมีพระพุทธรูปเลย แต่ว่าในพระไตรปิฎกมีแต่ข้อความที่ปฏิเสธเรื่องเทพเจ้า การยอมรับถือนับถืออำนาจบันดาลของเทพเจ้า การสอนให้มนุษย์ถือการกระทำของตนเป็นใหญ่ เน้นการพัฒนาชีวิตมากกว่าการรอคอยอำนาจบันดาลจากเทพเจ้า   พอมาถึงตรงนี้ ก็เลยกลายเป็นว่าผมไม่ยอมรับและไม่เชื่อถือเรื่องพระวิษณุที่เป็นเทพเจ้าไปด้วย เพราะเชื่อที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้ และพอเชื่อมาถึงตรงนี้ ก็กลายเป็นว่า ผมไม่เชื่อว่าพุทธาวตารจะเป็นเรื่องจริงเข้าไปอีก  เพราะในพระไตรปิฎกและอรรถกถาฎีกาทั้งหลาย ก็ระบุว่าพระองค์จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงมาอุบัติในครรภ์ของพระนางสิริมหามายา ไม่ได้บอกว่าเป็นอวตารของพระนารายณ์ แล้วผลสุดท้าย ก็เลยต้องกลายเป็นว่า ผมก็ต้องไม่ยอมรับเรื่องพระนารายณ์อวตารเป็นพระพุทธเจ้า  แล้วผมก็เป็นชาวพุทธ ที่ถือว่าพระพุทธเจ้า ก็คือพระพุทธเจ้า ไม่ใช่อวตารของใครที่ไหน บทสรุปของคำถามจขกท. ก็เลยกลายเป็นว่า  ถ้าหากเรื่องพุทธาวตารเป็นเรื่องจริง ผมก็เป็นชาวพุทธ ที่ "ไม่เชื่อว่าพุทธาวตารเป็นเรื่องจริง" เป็นไง งงไหมล่ะ เอ้า ดูซิ จะไปยังไงต่อ เอ้า งงๆ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:45:24 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:42:19

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเห็นที่ 13 เอาล่ะ ถ้างั้น จขกท. จงปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ผมวางไว้ดังต่อไปนี้ 1. สมมุติว่า พ่อของจขกท.คนปัจจุบันไม่ใช่พ่อที่แท้จริง แต่เป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อของจขกท. เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย  ไม่สามารถหาเหตุผลใด ๆ ในโลกนี้ มาคัดง้างได้ 2. เมื่อ รับรู้เช่นนี้แล้ว จงตอบผมมาซะดีๆ ว่า คุณจะทำเช่นไร ? ตอบผมได้แล้ว ผมค่อยตอบคุณ โอเค? จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:32:45 คำถาม อิอ่อนมาก ๆ  เรยนะจ๊ะ ทูนหัวววว ตอน ไอ้โซ๊ยตี๋โอทึ้ง มัน ถามก๊ะ อิตั้วเจ้ เรื่อง เลือก สไนเปอร์พ่อตัวเอง หรือ ชาวบ้าน คำถามยังลึกมี มิติ และ ได้ลับสมอง มากกว่านี้แยะ เอิ๊ก ๆ เฮ้ออ เอาล่ะเพื่อเห็น แก่พระเจ้า และ องค์อัลเลาะห์ เด๋ว จามาเคาะกระโหลก ตอบคำถามให้ก็แระกัน แต่ คืนนี้ ตรูง่วงแร้วว้อยยย จะไปนอนแระ ( นอนดึก ๆ เด๋ว ขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า เด๋วหาผัวมิด้ายย อิอิ ) อ้อ แต่ไม่ต้องกลัว ว่าจะ คนอย่าง อิตั้วเจ้นู๋บี จะหนีนะยะ ขอเดิมพัน ด้วยศักดิ์ศรี ปูชะนียะบุคคล ที่ ไอ้ตี๋โฮฮับ ตัวพ่อแห่งเวบลานธรรมจก มันเคย ยกยอ ไว้ และ ด้วยความแจ่มของ ล็อกอิน ระดับตำนาน ที่ ทั่นลิโป้ เคยชมเปาะ รวมถึง  ความเป็น พหูสูตร ที่เหมาะเจาะ  อัน ทั่น ตั๋งโต๊ะ เคยออกปาก เอ้า เทหมด หน้าตัก  1 ต่อ 10 ไอ้ติมลุงบ้านหม้อ รึใครจะรอง ? หุหุ  จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:47:22

ความคิดเห็นที่ 16 "และ ด้วยความแจ่มของ ล็อกอิน ระดับตำนาน" เอ.. เท่าที่ผมดูเลขที่ล๊อกอินนี่ ล๊อกอินผมเก่ากว่าของจขกท.ตั้งสองแสนเลยนะครับ เลขที่ล๊อกอินผม 419356  แต่ของจขกท. 677710 ถ้าพูดคำว่าตำนานนี่ ผมตำนานกว่าเยอะ จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:51:32

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าพุทธวาตารเป็นการที่หลอกลวงหสุรให้หลงผิด งั้นแสดงว่าที่ถูกต้องของฮินดูคือ ฆ่าคนฆ่าสัตว์ เบียดเบียนกัน เป็นสิ่งดี ลักทรพย์เป็นสิ่งดี ผิดประเวณีเป็นสิ่งดี โกหกเป็นสิ่งดี ดื่มเหล้าเป็นสิ่งดี คบึนพาล เป็นมงคบ ไม่คบบัณฑิตเป็นมงคล ไม่นับถือครูอาจารย์เป็นมงคล อกตัญญูเป็นมงคลงั้นสิ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 01:06:48

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ^ ก็นั่นน่ะสิครับ ในการปฏิญาณตนของชาวอินเดียที่จะมาเป็นชาวพุทธ ถึงได้มีข้อหนึ่งว่า "การเชื่อว่าพระพุทธเจ้าคืออวตารของพระวิษณุ คือคนบ้า" เพราะถ้าใครเชื่อแบบนั้น ก็บ้าชัด ๆ เลยทีเดียวแหละ  ผมก็เลยไม่ขอบ้าไปกับจขกท.เขาด้วย แต่เห็น"กระเหี้ยนกระหือรือ" (ขอยืมวลีเด็ดลุงสมัครมาใช้) อยากจะได้คำตอบแบบสนองนี๊ดของตนเอง ก็เลยตอบไป จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 01:10:27

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่านด้วยใจระทึก และค่อย ๆ ระทวย....(หากไม่หมดเรี่ยวแรง ในการตามอ่านเสียก่อน ก็คิดว่า คงจะกลับมาระทึกได้ใหม่) เจ้าของกระทู้ เขามีลีลาที่ยากแท้หยั่งถึงอยู่นาครับ ลองอ่านให้ดี ๆ ตีให้ถูก  ๆ  เผลอ ๆ อาจได้เลขเด็ด ไปแทงหวย ก็ได้นา.... จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 02:31:42

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านแต่หัวข้อแล้วเข้ามาตอบ ผมก็ยังคงกราบพระพร้อมกับระลึกทุกครั้งว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังคัง สะระณัง คัจฉามิ จากคุณ : เด็กวัดจันทร์ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 08:05:46

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ ชักเชื่อคุณสวรรค์ฯแล้วว่าหนูเหงา 55 จากคุณ : transformation (TRANSFORMATION) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 08:06:27

ความคิดเห็นที่ 22 เบื่อคนขี้โม้โอ้อวดความรู้ คนพวกเดียวกันก็มาอวยคนพวกเดียวกันว่ามีลีลาดี ลีลาเด็ด ซึ่งแทบเอาตัวไม่รอดมาแล้ว ครั้งหนึ่ง แม้คนไม่มีศาสนา ก็ตัดสินใจ และพิจารณา ได้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด แม้ไม่มีพุทธศาสนา คนก็ พิจารณาได้ด้วยว่าสิ่งใด ถูกผิด เพราะมนุษย์ มี ความคิด แยกแยะ ผิดชอบ ชั่วดี ถึงแม้ ไม่มีพระพุทธเจ้า ก็ไม่เป็นไร เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าส่วนใหญ่ ก็สอนให้ใช้ชีวิต ในรูปแบบของ"คนดี" ที่คุณเองก็ยอมรับ จากคุณ : ผู้สังเกตุการณ์ (Rorchach) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 09:32:40

ความคิดเห็นที่ 23 ชาวพุทธแท้อยู่กับความจริงครับ ประจักษ์ด้วยตัวเองค่อยเชื่อ ไม่มี ถ้า.....1 ... 2 .... 3..... จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:02:44

ความคิดเห็นที่ 24 ขี้มันเหม็นเลยไม่อยากเข้าไปแตะขี้ โดยเฉพาะคนที่เกิดมาจากส้วม โสโครกทั้งตัว ทั้งความคิด จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:30:11

ความคิดเห็นที่ 25 พล่ามได้พล่ามดี ไม่มีเบื่อ ชีวิตนี้ตรูมีแต่พล่าม จากคุณ : ชาล้นถ้วย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 11:36:20

ความคิดเห็นที่ 26 สนับสนุนคุณchohokun ถ้าเห็นชื่อloginนี้อีก จะไม่อ่านเด็ดขาด จากคุณ : ป้ายังสวย (ป้ายังสวย) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 12:12:54

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกจะทำยังไงเอ่ย? คำถามของ จขกท มีสาระระดับเดียวกับคำถามนี้แหล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 12:17:57 จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 12:17:39

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่านด้วยใจระทึก และค่อย ๆ ระทวย....(หากไม่หมดเรี่ยวแรง ในการตามอ่านเสียก่อน ก็คิดว่า คงจะกลับมาระทึกได้ใหม่) เจ้าของกระทู้ เขามีลีลาที่ยากแท้หยั่งถึงอยู่นาครับ ลองอ่านให้ดี ๆ ตีให้ถูก  ๆ  เผลอ ๆ อาจได้เลขเด็ด ไปแทงหวย ก็ได้นา.... จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 02:31:42 ถูกใจ : ความเชื่อ อุ้ยต๊า๊ยยยย ว้ายยยย กรี๊ดดดดดดดด ในที่สุด ป๋ารถสังข์ ไอดอล ในดวงใจ ก็โผล่หัวออกจากหอย มาจอยกาทู้ตรูจนด้ายยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มิเสียแรง ที่ แอบๆไป อ่อยเรื่อยเปื่อย ทิ้งผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ตั้งนาน อาห์ ในที่สุด วันนี้ ฝันก็เป็นจริงเสียที เหอ...เหอ... อืม... หนุ่ม ๆ เจ้าขราาาา  ไอ้คำถามในกาทู้นี้น่ะ ไงก็ถ่างตาคอยคำตอบไปก่อนน้าาาา เด๋วคืนนี้ นู๋บีคงต้องขอตัวไปแต่งหน้าทาปาก แล้วขอ อนุญาต ลัดคิว ไปคุยกระหนุงกระหนิงหน้าไมค์ ก๊ะ ไอดอลในดวงใจ ในกระทู้นี้ซะหน่อย พวก เม็ด พวกเบี้ย ทั้งหลายไง ก็ชะเง้อคอรอไปก่อนนะจ๊ะ โทษทีน้าาา แบ่บว่า นู๋บี ไม่ได้จัดให้เข้าพบ ตามลำดับในบัตรคิว อ่ะ ( แต่ นู๋บีให้ ปีนเข้าหา ตามลำดับ ความสำคัญ จร้าา หุหุ ) ปอลิง 1 แหม ๆ แอบเอาเวลางาน มาเม้าท์มอยก๊ะป๋างี้ ถ้า นู๋บี โดนหัวหน้าไล่ออก ขึ้นมาล่ะก้อ ป๋ารถสังข์ ต้องรับผิดชอบชีวิตนู๋บีด้วยน้าาา อะซิก...อะซิก... แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 13:57:44 จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:50:29

ความคิดเห็นที่ 29 ปอลิง 2 อันนี้แถม ให้อ่านเล่น ๆ ( ข้อความจากบล็อกสุมหัวนินทาชาวบ้าน หุหุ) http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bsonjb&group=1&month=25-09-2012&gblog=13       ตามไปอ่านมาม่าของอาเหล่าม่ากะหนุ่มๆที่ห้องศาสดา แระก็....แซ่บ หุหุ ปริยัติงูพิษ งี้ ภักษาเต่าปลา งี้ คำพูดคำจาก็ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นแบบขวานผ่าซาก ให้เกียดอาเหล่าม่ากันจัง อ่า หุหุ แต่สำนวนคุณchohokun นี่อ่านผ่านๆนะ เยอะเกิ๊น หุหุ แต่ก็เดาประเด็นของเขาไว้เฉยๆนะ ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกป่าว แระก็... ตะละแม่ เทียวเสี้ยมมม คนนี้ เกรียน หรือ เก๋าาาาาาา อิหม่ามิ๊ ก็...ก็เห็นว่า ทั้งเกรียนและเก๋าส์สสส เรยน้า แต่อาเหล่าม่าจะไปหาหนวดเต่าเขากระต่ายที่ห้องศาสดา ได้สำเร็จสมดังใจหมายหรือป่าวนี่ อิหม่ามิ๊ก็ขอเอาใจช่วย แระกัน แต่เซี้ยวเสียวแทน เรื่องชอบควักกล่องดวงใจ ของคนอื่นมาโยนเล่นนี่ดิ กัวม๊อบคนที่ถูกควักหัวใจ แล้วทนมะด้ายจะเหยียบอาเหล่าม่าแบนแต๊ดแต๋ ตั้งกะไก่โห่ (ฮิฮิ) โทดฐานไปแตะต้องของรักของหวงของที่ เขาเทิดทูนบูชากัน แถมยังทำตัวเป็นตอลิบานระเบิด พระพุทธรูปต่อหน้าต่อหน้าลูกพระพุทธรูปอิ๊ก ชักฉงฉาน ป๊ะป๋าหมานนิดๆ มีลูกฮ๊าวห้าว แถมชอบ เย้ยฟ้าท้าดินอีกแหนะ หุหุ ว่าแต่ว่า ล๊อคอินป๊ะป๋าหมานจะได้ติดแบรนด์ ไวไว ปะเนี่ย เสียวแทน หุหุ เพื่อร่วมสนุกเรื่องโคธชาดก ก็นะ ใจอิอ่อน นะ มันบอกว่าคำสอนมีหลายประเภทเพื่อเอาไป ประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์ เรื่องต้องพิสูจน์ตามก่อนการ เชื่อตามก็มี เช่นสติปัฏฐานสูตร และคำสอนเพื่อใช้ในการ ปฏิบัติได้เพื่อมรรคผล อันนั้นสาวกอย่างเราก็ไปพิสูจน์กัน ได้ในชาตินี้แหละเนอะ ส่วนนิทานชาดกต่างๆก็อ่านเพื่อ ประเทืองปัญญาไปก่อน ถ้ามีพระสัมมาสัมโพธิญาณ หรือ สารพัดญาณต่างๆที่จะพิสูจน์ความจริงได้แล้วค่อยไปพิสูจน์ ความจริง ถ้ายังไม่มีญาณไปพิสูจน์อะไรไม่ได้ก็ต่างคน ต่างไปทำมากินเฮอะ สร้างญาณของตัวเองดีฝ่า ไม่รู้แต่อยากจะสู่รู้แก้ตัวแก้ต่างในเรื่องคำสอนที่หมิ่นเหม่ต่อการ พิสูจน์ทราบมันจะได้รู้จริงกันรื้อ!!! สู้ไปทำนาทำสวนไปปฏิบัติธรรมเพื่อให้ได้อย่าง ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ก่อนดีฝ่า จะไปตบตีแถไถกะ คนอื่นๆที่ศรัธทาจริตต่างกับเรา เพื่อปกป้องศรัธทาของ ตัวเองแต่ไม่ได้ปกป้องสิ่งที่เป็นสัจธรรมของตัวเอง ซะงั้น 3738 หุหุ ปล.ยังไม่เจ๋งนะ ก็พูดตามที่คิด มีศรัทธาของตนที่ต้องปกป้อง อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ยอมรับความคิดต่างของคนอื่นได้ และไม่ได้อยากให้คนอื่นมาคิดเหมือนเรา ความคิดใคร ก็ความคิดมันเนาะ บางทีคนอื่นอาจจะพูดถูกและเราอาจจะ พูดผิดก็ได้ ถ้าโยนิโสแบบไม่เข้าข้างตัวเองได้ ก็แจ่ม อะนะ จะพูดจะจากับใครก็จะไม่ยึดตัวเองเป็นใหญ่เป็นโต หุหุ แทงหวยข้างอาเหล่าม่าตะละแม่นู๋บี ง่ะ ว่าอย่างไรซะ ก็เอาตัวรอดจากม๊อบคนห้องศาสดาได้แบบไร้รอยขีดข่วน แต่คนอื่นนี่ดิ อาจจะติดใจจนผูกพันธ์คิดถึงแต่อาเหล่าม่า แบบว่าเห็นหน้าอาเหล่าม่าก็คิดถึงแต่ปริยัติงูพิษไปซะแระ หุหุ ตีตราจองอาเหล่าขังไว้ในใจเป็นแบรนด์ยี่ห้อดังไปซะงั้น ขนาดเรื่องนู๋บี ผ่านมาหลายๆปีแระ ยังมีแควนเก่าๆมาแจก ฟามร๊ากกกกนู๋บีกันให้ฮึ่ม ภาพพจน์มันติดตราตรึงใจ วางกันไม่ลง จริงๆ สมกะคำว่า รู้ธรรมะ แต่ไม่มีธรรมะ รึป่าว ขนาดเป็นห้องศาสดา นะเนี่ย หุหุ เข้าข้างอาเหล่าม่าเนี่ย จะโดนหางจระเข้ฟาดหน้าไหมนี่ หุหุ     โดย: โว๊วๆๆๆๆๆๆโว๊ววววว!!! IP: 124.120.53.66 วันที่: 15 ตุลาคม 2555 เวลา:11:53:46 น.   จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:54:16

ความคิดเห็นที่ 30 ก็แค่เกรียนอยากได้รับการยอมรับ ยิ่งให้ราคาพวกนี้ยิ่งชอบใจ จากคุณ : มะเส็งไฟ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:11:10

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าโลกมีสัณฐานแบน.... :D จากคุณ : JitZungkabuai เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:20:15

ความคิดเห็นที่ 32 อนุมานได้ว่า ชาวพุทธก็ปฏิบัติตนไปตามคำสั่งสอนของพระศาสดาเหมือนเดิม ถ้าโลกมีสัณฐานแปดหลี่ยม.... :D จากคุณ : JitZungkabuai เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:25:03

ความคิดเห็นที่ 33 มหาประเทศสี่ ไม่เหมือนกาลามสูตร นะครับ จากคุณ : JitZungkabuai เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 15:27:09

ความคิดเห็นที่ 34 ก็เป็นแค่เรื่องสมมติ จากคุณ : Nobikun (NobiKun) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:08:01

ความคิดเห็นที่ 35 ก้อถ้าเป็นอย่างในตำราที่ว่า ผมก้อคงใช้ชีวิตไปตามปกติแหละคับ คงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนหลอก คงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะโดนฆ่า คงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินไปสู่ความตายเพราะตำราก้อบอกแล้วว่าผมหลงผิดไปกับคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว จขกทต้องการคำตอบแบบนี้ใช่ไม๊ครับ จากคุณ : อ่านดีๆนะ (นู่ปลาป๋อง) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 16:37:07

ความคิดเห็นที่ 36 เรื่องอวตารหรือแบ่งภาคอะไรนี่ไม่มีหรอก มีคนถามสมเด็จโตๆว่า ....มนุษย์ไม่เข้าใจเรื่องของโลกวิญญาณ ในโลกมนุษย์เขามีวิญญาณที่ดูแลรับผิดชอบเป็นลำดับชั้น เช่น เจ้าที่ เจ้าทาง ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประจำทุกสถานที่อยู่แล้ว จะอวตารมาทำไม ที่บอกเป็นเทพอะไรนั่น บางทีก็เป็นพวกวิญญาณเกเรแอบอ้าง เห็นแก่ความสนุก ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถตรวจได้ ทำลายความเชื่อที่งมงายมานับพันๆปีเลย.........555555 จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:40:46

ความคิดเห็นที่ 37 อืม...กะลังว่า จะแต่งหน้าทาปาก แล้วมาเล่นละครลิง ออนแอร์หน้าไมค์ เพื่อ คุยกระหนุงกระหนิง กะป๋ารถสังข์ ซะหน่อย เจอ หลังไมค์ ฉบับนี้ แล้ว เฉาเลยตรู อะซิก ๆ From : ฝ่ายสื่อสารสมาชิก [15 ตุลาคม 2555 18:56]     สวัสดีค่ะ คุณ ป๊ะป๋าหมาน ทีม งานได้ทำการลบกระทู้ เช่น 12789656 [ โพลเรื่องเอี้ย ๆ ] นี่ ๆ เหล่านักปฏิบัติจ๋า เชื่อป่ะ ว่า สมณะโคดมนั้นหนา คือ ตัว เอี้ย กลับชาติมาเกิด ? นั้นออกไปจากระบบ เนื่องจากท่านแสดงความคิดเห็นโดยใช้คำหยาบคายก้าวร้าว การลบความคิดเห็นออกไปนั้นเพื่อรักษาบรรยากาศการแลกเปลี่ยนความเห็นใน เว็บบอร์ดให้กับเพื่อนสมาชิกอื่น ซึ่งทำให้บรรยากาศพูดคุยเสียไปถือเป็นการรบกวนการใช้งานของเพื่อนสมาชิก ตามที่ได้ประกาศไว้ในไกด์ไลน์ ทีมงานจึงทำการลบกระทู้ดังกล่าวออกไปนะคะ และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่ท่านจะถูกระงับการใช้งานทีมงานจึงขอความ ร่วมมือจาก ท่านโปรดงดโพสต์กระทู้ที่มีเนื้อหาคำหยาบคายก้าวร้าวค่ะ เฮ้ออ งั้นช่วงนี้ อาเหล่าม่าชิ่งดีกว่า วุ้ย แหม ๆ เพิ่งโดน อิพวกมอดใจร้ายที่เวบพังจิต แจกแบรนด์มาหมาด ๆ ม่ะอยากจะมาทำ แพทริก  ต่อที่ พันติ๊ป ว่ะ เด๋วจะโดน หมาน สวดชยันโต ที่ทำให้โดนเีจี๋ยนอมยิ้ม แหะ ๆ อืม...เอาเป็นว่า เด๋ว รอให้เรื่องมันซา ๆ ก่อน แล้วจะ มา แกว่งปากหาเท้า ต่อแระกันนะจ๊ะ อิอิ จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:08:12

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วน ตอนนี้ ขออนุยาด แกล้งตายก่อน เอิ๊ก ๆ อ้อ แต่ก่อนที่จะแกล้งตาย ขอไว้ลาย ปูชนียบุคคลของไอ้โซ๊ยตี๋ มาเคลียร์ ประเด็นที่ ค้าง ๆ คา ๆ ไว้ ซะหน่อย ก็แระ กัน ( เผื่อว่า จะมีคนตาดี ตีเลขท้าย 3 ตัว ตรง แล้ว ถูกล็อตารี่ โดยไม่ต้องไปขูดหวย ที่ โคนต้นกล้วย ขึ้นมามั่ง อิอิ  ) ประเด็นแรก ความคิดเห็นที่ 16 "และ ด้วยความแจ่มของ ล็อกอิน ระดับตำนาน" เอ.. เท่าที่ผมดูเลขที่ล๊อกอินนี่ ล๊อกอินผมเก่ากว่าของจขกท.ตั้งสองแสนเลยนะครับ เลขที่ล๊อกอินผม 419356  แต่ของจขกท. 677710 ถ้าพูดคำว่าตำนานนี่ ผมตำนานกว่าเยอะ จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:51:32 ถูกใจ : ชาล้นถ้วย อืม...ถ้าคิดจะ ดิสเครดิต เบี่ยงเบนประเด็น หาเหตุจุกจิกยิบย่อย มาพื้นฝอยหาตะเข็บ เพื่อ ลดความน่าเชื่อ ถือของอิฉัน คนจะได้ไม่สนใจ เรื่อง พุทธอวตาร เพราะคนพูดขาดความน่าเชื่อถือ อ่ะนะ อันนี้ ถ้าจะยากส์ ว่ะ  เครดิตของ กวนอู ในสายตาของ เล่าปี่ และ โจโฉ เป็น ยังไง อิฉัน ก็มีเครดิต แบบ เดวกันนั่นแหล่ะ อิอิ ( อันนี้ หมายถึง ตัวขุน อ่ะนะ ไม่ใช่ ไอ้พวกเบี้ยกระจอก ๆ แบบไก่ได้พลอย อิอิ ) และ ไอ้เรื่อง ล็อกอินในตำนาน และความเก๋าของอิฉัน น่ะ ขอ แก้ต่าง ด้วย หลังไมค์ ของทั่น ลิโป้ ( นามสมมุติ ) เซเลบคนดังประจำห้องศาสดาก้อแระกัน ว่า อิฉันมัน ล็อกอิน ในตำนาน ( รักดอกเหมย )จิง ๆ ม่ะได้โม้้ น้าาอิอิ เนี๊ยะ หลังไมค์ จาก ทั่น ลิโป้ เหอ...เหอ... From :....[10 ตุลาคม 2552 12:26]     คุณคือนู๋บีบัวเหล่าที่ ๕ ในตำนานใช่หรือไม่ ผมได้ยินกิตติศัพท์ของคุณจากเพื่อนหลังไมค์ ผู้กล่าวถึงนู๋บีด้วยความรู้สึกดีและนับถือ เขาว่านู๋บีถูกยึดล็อกอินไปพักใหญ่แล้ว เมื่อผมเห็นชื่อนู๋บีก็แปลกใจระคนยินดี แสดงว่าพันทิปไม่ได้ยึดล็อกอินอย่างถาวร ผมเป็นสมาชิกเก่าแก่ของพันทิป แต่บางช่วงผมก็ห่างหายไปนานๆ เป็นปี จึงไม่เคยได้พบกับนู๋บี ฟัง เรื่องนู๋บีจากเพื่อนหลังไมค์ (แก๊งหนอนเรียก อีพวกหลังไมค์) ทำให้ผมนึกถึงล็อกอินสมัยก่อนคนหนึ่งคือ ดบัสวนี ซึ่งมีลีลาวาทะและกึ๋นปฏิภาณสมบัติประมาณนู๋บีนั้นเอง แต่ผมไม่เห็นดบัสนานหลายปีแล้ว แล้วเลขที่ ล็อกอิน อันแรก ของอิฉัน  คือ 072209 มั้ง สมัคร ตั้งแต่ สมัย พันติ๊ปหน้าดำ เมื่อสักสิบปีก่อน ตอนที่ ห้อง ศาสดา ยังไม่ถือกำเนิด  มีแต่ ห้องสมุด อ่ะนะ ยังเห็น กาทู้ สตาร์วอร์ สารพัด เอพพิโซด  ผ่าน ๆ ตา เยยย 555 ม่ะทราบว่า เก๋า พอจะเป็นตำนาน ได้ ป่ะคะ ? อิอิ จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:09:32

ความคิดเห็นที่ 39 ความคิดเห็นที่ 13 เอาล่ะ ถ้างั้น จขกท. จงปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ผมวางไว้ดังต่อไปนี้ 1. สมมุติว่า พ่อของจขกท.คนปัจจุบันไม่ใช่พ่อที่แท้จริง แต่เป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อของจขกท. เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย  ไม่สามารถหาเหตุผลใด ๆ ในโลกนี้ มาคัดง้างได้ 2. เมื่อ รับรู้เช่นนี้แล้ว จงตอบผมมาซะดีๆ ว่า คุณจะทำเช่นไร ? ตอบผมได้แล้ว ผมค่อยตอบคุณ โอเค? จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:32:45 ถูกใจ : ชาล้นถ้วย ก็ไม่เห็นจะต้องทำไงเลยนิ  ก็แค่ ทำเหมือนกับที่ กวนอู กระทำ ก๊ะ โจโฉ  หรือ ถ้า ให้ แหล่มกว่านั้น ก็ ทำเหมือนที่ พระอุบลวรรณาเถรี ปฏิบัติ ก๊ะ นันทมาณพ มั้ง อิอิ http://board.palungjit.com/f181/โพสเรื่อยเปื่อย-เมื่อยก็พัก-^-0-^-322353-7.html#post6732978 ส่วนอันนี้ ก็เคยเม้าธ์มอย ไว้ก๊ะ ไอ้ตี๋น้อย ตั้งนาน แระใน ลิ้งค์เนี๊ยะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&month=10-2009&date=08&group=1&gblog=1 อ่ะ จะเอามา หั้ยอ่าน  หุหุ       เจ๊ไอ้เรื่องทำบุญทำทาน เคยได้ยินพระเขาบอกว่า ใครจะอธิฐานก็ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน เรื่องของการทำบุญ ทำทาน มันมีอยู่2ลักษณะ คือ โลกีย์กับโลกุตตระ โลกุตระมันกุดๆสั้นๆตามชื่อ แต่โลกีย์มันเรื่องมาก ทำ อะไรแต่ละทีต้องอธิฐาน กรวดน้ำ ขอโน้นขอนี่เรื่องมากฉิบเป๋ง กะว่ายิงหนังกาติ๊กที่เดียว จะเล่นทั้งแย้ทั้งกะปอม อีหมวยขายก๋วยเตี๋ยวข้างบ้านมันบอกว่า เฮียแบบนี้เขาเรียก อุปสงค์ อุปทาน ทู อินวัน คร้าเฮีย เจ๊เรื่องอนันตริยกรรมไม่รู้เจ๊เคยเข้าไปอ่าน กระทู้ใน เว็ปลานธรรมจักรแล้วหรือยัง มันตามลิ้งที่อั๊วเอามา เจ๊ลองเข้าไปอ่าน แล้วลองมาแร่พมาฉ่อยให้ฟังหน่อย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=36942     โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.100.242 วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:08:43 น.         เหอ...เหอ.......อิโลงผุเอ๊ยยยยย สำนวนลื้อ ยัง ขำขัน โหด มันส์ ฮา ได้คงเส้นคงวา น่าเอ็นดู เหมือนเคย นะจ๊ะ ไอ้ตี๋ อ่านตัวหนังสือ ลื้อทีไร มันก็เหมือนได้เห็น เด็กชายผู้ชายจอมเฮี้ยว มาร้องเย้ว ๆ ท้าตีท้าต่อยก๊ะชาวบ้านทู๊กที๊ ชีวิตจริง ลื้อ เป็นงี้ หรือ เปล่าเนี่ย เฮ้อออออ อืม....เจ้ ชอบ อิหมวย ขายก๋วยเตี๋ยว ข้างบ้านลื้อจังว่ะ สงสัย อิหมวยมันท่าจะ จบเสดสาด มาวุ้ย ว่าแต่ ใช่ อิหมวยคนเดวกัน ก๊ะ ที่ ลื้อเคยเล่าให้ เจ้ ฟัง ป่ะ ที่ อิเคยสอนลื้อ ว่า ที่ใดมีร้ากกกก ที่นั่นมีทุกข์ อ่ะนะ อิอิ อ้อ ส่วนเรื่อง น้องชมพู่ อารยา คิด ฆ่าพ่อบังเกิดเกล้า ใน นิยายน้ำเน่า เรื่อง รหัสทรชน เนี่ย ยังม่ะเคยอ่านอ่ะ แต่ถึงอ่านแร้ว เจ้ คงมิสามารถ ... เต้น แร่พโย่ หรือ โต้ เพลงฉ่อย ก๊ะ ลื้อได้หรอกจร้าาา ไอ้ตี๋น้อย เจ้ ม่ะถนัดว่ะแต่ ถ้า เป็น จ้ำบ๊ะ ล่ะ ก้อ... ถึงไหน ถึงกัลลลล (ไอ้ตี๋ อยากเห็นไหมล่ะจ๊ะ หุหุ ) อืม...พูดถึงเรื่อง อนันตริยกรรม ที่ เหล่าเสือใบลาน เอ๊ย เสือซ่อนเล็บ เค้าเหน็บกันไป เหน็บ กันมา ในกาทู้ เนี่ย เจ้ชอบ คำว่า กฏของแรงยึดมั่นถือมั่นแห่งจิต ที่ อิตาโฮฮับ มันโม้ไว้ในนั้น นะ อ่านปุ๊บ ก็ โดน ใจ ปั๊บ เรยง่ะ เรื่องนี้ เจ้เห็นด้วยก๊ะ อิทั่นโฮ มากมายเรยว่ะ ไง เจ้ ก็ฝาก อิโลงผุ ไปขอ นุยาด อิทั่นโฮ เอาประโยคนี้ ไปเลคเชอร์ โปรด ทั่นประธาน หลาน แง่บ ฟัง ที่ สมาคมสูงกินลม หน่อย นะจ๊ะ ทูนหัววววว เผื่อ ฟังแร้วมันจะซาบซึ้งถึงสัจธรรม จนบอกลาโลกแห่งโลกียะ หันมาหาโลกุตระ ซะมั่ง หุหุ อืม... สิ่ง หนึ่งที่ทำให้ การฆ่า ผู้ให้กำเนิด เป็นการ กระทำ ที่เป็น อนันตริยกรรม นี่ เจ้ คิดว่า เป็น เพราะ สมมุติบัญญัติของโลกแห่งโลกียะนั้น ฟามกตัญูกตเวที ถูกเลือกให้เป็น คุณธรรม ค้ำจุนโลก ตาม กฏแห่ง ฟามยึดมั่น ฯ มั้ง ดังนั้น อุปทานขันธ์ทั้ง 5 ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน (ส่วนใหญ่ ) จึงถูกปลูกฝังให้เกิด สัญญา เกาะเกี่ยว อยู่ กับ คำว่า กตัญญู รู้คุณคน ไง และ หาก มันผู้ใด ทำร้ายได้ แม้กระทั่ง ผู้ให้กำเนิด ซาแดงว่า ความมัวหมองแห่งจิต ของมัน ได้ขึ้นมาถึงขีดสุดแล้ว จิง ๆ นั่นแหล่ะ แต่ กลับกัน เดรัจฉาน มัน ไม่มี สัญญา ในส่วนนี้ จิ๊กซอว์ ของ อุปทาน ขันทั้ง 5 ในส่วนนี้ จึง ไม่ถูกก่อร่าง สร้างเป็น วิบากกรรม ขั้น อนันตริยกรรมไง อย่างมากก็ แค่ ระดับมีวิบาก แค่ ผิว ๆ ระดับผู้ก่อกรรม ก๊ะ ผู้ ถูกกระทำ น่ะ เป็นการ สร้างกรรม ซึ่งกันและกัน แต่ เลเวล ของบาป ( ฟามมัวหมองของจิต ) ที่ติดมากับมโนกรรม เหล่านั้น มันไม่รุนแรง พอที่จะเกิดเอาการจิตตก ได้ง่ะ พอ ก่อกรรม ตาม สัญชาตญาณ เสร็จแร้ว แป๊บ ๆ เด๋วมันก็ วาง แล้ว ก็ ว่าง เป็น กรรมแบบ หยาบ ๆ ไม่มาคิดเล็กคิดน้อย ลึกซึ้ง แบบ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนหรอกนะ เออ แร้ว ฝาก ถาม ทั่นโฮฯ ให้ที จิ ว่า การที่ น้องชมพู่ อารยา ฆ่า พ่อบังเกิดเกล้า เพราะ เค้าถูก เจ้าผู้ร้าย มันหลอก เลย ไม่ลู้ ว่าเป็นพ่อ แค่นี้ ทั่นโฮ ก็ ไปโมเม ตัดสินว่า น้องเค้า มิได้ ทำ อนันตริยกรรม เพราะขาดซึ่ง เจตนา นั้น งั้น ถ้า เจ้ รู้ว่า ป๋าหมาน เป็นพ่อของเจ้ ( โดยไม่ต้องพิสูจน์ ดีเอนเอ ) แต่ เจ้ก็ยังมีเจตนาอันแรงกล้า ที่จะคิดทำลายชีวิตของพ่อตัวเอง ล่ะ จงใจทำ ปิตุฆาตงี้ เรียกว่า อนัตริยกรรม อ๊ะ ปล่าววววว ลื้อ ลอง ใช้ เจโตยาน ๆ มา วิเคาะ วิแคะ แล วิจาน แร้ว เซิ้ง กระติ๊บ หั้ย เจ้ ฟังหน่อยจิ๊ อ้อ อันนี้ เจ้ เปิดโอกาส ให้พิณา บริบทต่าง ๆ สุดแล้วแต่จะปรุงแต่ง ตาม ฉันทาคติ ที่ลื้อ มีต่อ เจ้ ว่ะ อิอิ บ๊ายบาย จร้าาาาาา แร้ว ครึ้ม ๆ ฟกษ์งามยามดี เจ้ จามา เม้าส์ โตยเน้อ แต่ตอนนี้ เจ้ ขอ นุยาด กลับ ไป ซุกหัวในกะลา ต่อ แระ อ่า มัวแต่ มาบ้าน้ำลาย ในนี้ ปฏิบัติ แล ปฏิปทา ตรู เจ๊งบ๊ง หมดเยยย เฮ้ออออออออออออออออออ .     โดย: นู๋บี วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:57:30 น. จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:12:03

ความคิดเห็นที่ 40       เจ๊เรื่องเวรเรื่องกรรมหรือวิบาก มันก็สืบเนื่องมาจาก สัญญา ตามที่เจ๊บอกนั้นแหล่ะ ใครได้รับการอบรมอะไรมาบ้างโดนเขาหลอกมาบ้าง โดนบังคังให้เชื่อบ้าง เอานรกสวรรค์มาขู่สารพัด แล้วแต่จิตใครจิตมันเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ใครเชื่อมากก็ยึดมาก ใครเชื่อน้อยก็ยึดน้อย ใครไม่เชื่อเลย ไม่ใช่ไม่ยึด มันดันยึดสุดลิ่มทิ่มประตู อีเจ๊เอ๋ย จิตเรามันรู้อะไรมันก็ยึดในสิ่งที่รู้ มันเป็นเหตุเป็นผลของมันอยู่แล้ว ถ้าอีเรยา เอ้ยไม่ใช่ อีอารยามัน ไม่รู้ว่าคนที่มันฆ่าเป็นพ่อ มันก็คงยึดแค่มันฆ่าคนอื่นตาย ไอ้ เรื่องอนันตริยกรรมนี่ มันเป็นเพราะใครก็ไม่รู้มันเติมเชื้อใส่ฟืนเสียจนเลยเถิด แต่แท้จริงแล้ว สังคมไทยมันสอนให้เรารักพ่อแม่ มิหน่ำซ้ำ เยื้อใยความผูกพันของพ่อแม่ลุกมันมีมากมันเป็นไปตามธรรมชาติของคนที่อยู่ ใกล้เลี้ยงดูกันมา มันทำให้ตัดกันไม่ตายขายกันไม่ขาด ทั้งหมดทั้งมวล มันก็เป็นเพราะเป็นสิ่งที่รักมาก ความยึดมั่นถือมั่นมันก็มากตามไปด้วย การบรรลุธรรมมันไม่เป็นผลหรือใช้เวลานานก็เพราะยังยึดมั่นกับสิ่งที่ว่า ส่วนไอ้คนที่กล้าฆ่าพ่อมัน มันของแน่อยู่แล้วว่ามันไม่รักพ่อ มัน ความยึดมั่นในส่วนนี้คงไม่มี แต่มันดันไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เขาขู่เอาไว้ว่า ใครฆ่าพ่อเป็นอนันตริยกรรม ตกนรกเจ็ดชั่วโครต แถมบรรลุธรรมได้ยาก มันย่อมบรรลุธรรมได้ยากอยู่แล้ว ก็เราดันไปขู่ไปหลอกมันไว้ว่า ต้องตกนรกแสนกัปบ้างอินฟินิตี้บ้าง จิตมันเลยยึด แต่สิ่งนี้ เลยไม่ต้องบรรลุกันพอดี พระไตรปิฎกมันเล่นอ้างกันซะเละ ไอ้พวกนี้มันจะอ้างแต่ในวรรคในบรรทัดที่มีเนื้อหาของมัน พระไตรปิฎกไม่ใช่ จิตรกรรมฝาพนังในวัดพระแก้วนี่ถึงจะได้วาดลิงคาบบุหรี่ แบบไม่มีสาระได้ เนื้อหาในพระไตรปิฎกมันมีสาระทั้งนั้นเพียงแต่เราจะดูออกหรือเปล่าเท่านั้นแหล่ะ อย่างองคุลีมาลเล่นเสียบแล้วเจี๋ยนนิ้วคนมาเป็นร้อย มันยังเป็นอรหันหน้าตาเฉย อยากรู้ว่ะ ถ้าอาจารย์ขององคุลีมาลย์ ให้เลือกระหว่าง สไนเปอร์พ่อตัวเองคนเดียวกับเล่นm.79คนอื่น1000คน อีเจ๊ว่า องคุลีมาลมันจะเลือกอย่างไหน? เลือกแล้วตอบมาด้วยนะอีเจ๊นู๋บี     โดย: โอทึ้ง IP: 61.90.103.62 วันที่: 16 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:54:45       แหม๊ ! อิโซ๊ยตี๋บุญพิลึก นี่... บทจะงับ ก็ กัด ม่ะยอมปล่อยซะด้วยวุ๊ย ดุงี้ มีลูก เจ้ขอ ตัวนึง น๊าาาาาาา อาตี๋เอ๊ยยยยย ( เจ้จะเอาไว้ เฝ้าบ้านกันขโมย หุหุ ) เฮ้ออออออ ไอ้เรา รึ ก็อุส่า ตั้งใจว่า พอ ปาหิน ข้างทาง ใส่หัวมัน เสร็จ แระ ตรูจะ ชิ่งหนี ไปนอนตีพุง เอ๊ย ไปนั่ง วิปัสนา ในกะลา ซะหน่อย ดั๊นเอาปากแหลม ๆ มาจิกมาทึ้ง มาลากมาดึง เจ้ ออกจากกะลาซะงั้น เอาล่ะ ๆ เพื่อเห็นแก่พระเจ้า อั๊ว หาเรื่อง แว่บมาเม้าส์ เอ๊ย...เสวนาธรรม ก๊ะ ลื้อ อีกสักดอกส์สองดอกส์ ก่อน ชิ่ง เข้ากะลา ก้อได้ฟระ อิอิ อืม...ต่อ ข้อถามที่ว่า ---------------------------------------------- อยากรู้ว่ะ ถ้าอาจารย์ขององคุลีมาลย์ ให้เลือกระหว่าง สไนเปอร์พ่อตัวเองคนเดียวกับเล่นm.79คนอื่น1000คน อีเจ๊ว่า องคุลีมาลมันจะเลือกอย่างไหน? เลือกแล้วตอบมาด้วยนะอีเจ๊นู๋บี +++++++++++++++++++++ เรื่องนี้ เจ้ คง ตอบลื้อได้แค่ว่า ม่ะลู้ว่ะ ! ตรูม่ะช่าย องคุลีมาลย์ นี่หว่า แถม ม่ะมี เจโตยาน ๆ ซะด้วย จะให้ ตรูไป ตรัสรู้ ได้ไงฟระ ว่า เจ้า อหิงสกะ มันจะ เลือก สไตล์ไหน โธ่เอ๊ยยย ไอ้ตี๋ ลื้อม่ะเคยได้ยินอิหมวยข้างบ้าน มันร้องเพลง ให้ฟัง บ้างหรือไง กันนะ " คนที่ม่ะช่ายแควน เลือกแทนทุกเรื่อง ม่ะได้ " อ่ะ อิอิ อืม... แต่ถ้าจะให้คาดเดา เจ้ก็คิด ( เอาเอง ) ว่า เจ้า อหิงสกะ มันคงเลือก ในแบบ ที่ชอบ ๆ ล่ะมั้ง จิตมันชอบแบบไหน ยึดมั่นถือมั่น ก๊ะอะไร มันก็มีแนวโน้ม จะเลือกทางนั้นแหล่ะ บนทางสองแพร่ง ที่ทางหนึ่ง มี พฤกษาหาร อันอุดม แล อีกทาง มี มังสาหาร อันโอชะ สัญชาตญาณของเสือโหย ก๊ะ กวางหิว มันเลือกเส้นทางเดิน เหมือนกัน ซะที่ไหนกันล่ะ ( ยกเว้น ตอนนั้น อิเสือโหย มันกะลัง กิน เจ เพื่อแก้กรรม งิงิ) แต่ถ้า ถามว่า หากอิเจ้ เป็น องคุลีมาล อิเจ้ จะเลือก อะไร อันนี้ ค่อย ตอบได้หน่อย เจ้ ว่า เจ้จาเลือก เอาพานท้ายปืน มาตบบ้องหู อาจารย์ ตัวเอง ว่ะ โทษฐาน ที่มัน เสี้ยมสอน ได้ บ้องตื้น เกินจะกลืนลง หุหุ อุ๊ยต๊ายยยย ลืมไปว่า เจ้ กะลัง ถือศีล อยู๊ ม่ะด๊าย ม่ะด้ายยย เลือกงี้ ...เด๋วเสียภาพพจน์ สาวจ๋วยผู้ทรงศีลโม๊ดดด งั้น เจ๊ ขอ นุยาด ตอบ ใหม่นะจ๊ะ ว่า เจ้ เลือก ที่จะ หยุด มากกว่า อ่ะ หยุด...ที่จะ เบียดเบียนทำลายล้าง ชีวิตผู้อื่น ทั้ง ชีวิตของ พ่อบังเกิดเกล้า และ ผู้คนอีกนับพัน เจ้ เลือกที่จะ วางปืน แล้ว คว้าตาลปัตร มาเลคเชอร์ สอน อาจานตัวเอง เรื่อง ปาณาติบาตฯ ง่ะ จากนั้น เก๊าะ ตะล่อมทั่น หั้ยมา สมาทาน ศีล ห้า อิอิ แต่ หาก จำเป็น ต้องถูกบังคับให้เลือก อย่างใดอย่างหนึ่ง เจ้ ก็คง จะ ไม่เลือก สักอย่าง อ่ะนะ ( กรู ทำไม่ลง ว่ะ ) อีกอย่าง มองไม่เห็นเงื่อนไขหรือเหตุจำเป็นใด ๆ ในการก่อกรรมทำเข็ญ แบบนี้ด้วย เจ้คงยอมให้ อาจาน ทั่นเอาปืนมาจ่อหัวยิงกบาลเจ้ แทนมากกว่านะ เพราะคิดว่า เจ้ม่ะมี ห่วงใดๆ ในชีวิต ที่ต้องเป็นกังวลหนักหนา แร้วนิ หว่า อยู่ก็ได้ ตายก็ดี ม่ะมีปัญหา ว่ะ ม่ะเดือดร้อน อะไรอยู่แระ อิอิ กรณีนี้ถือว่า เป็นการ จงใจให้ผู้อื่น มาช่วย กระทำ อัตตนิวิบาตกรรม อันเป็น อนันตริยกรรม ป่ะ อิอิ อืม...ฟังดู อุดมคติ เหมียนกัลนะนี่ แหม๊ ? นาน ๆ ที จะมีอารมณ์ธรรมมะ ธรรมโม ซะขนาดนี้ เฮ้อออ แต่ พอถึงเวลาจิง ๆ เจ้ก็ ม่ะลู้ จะทำได้ อย่างที่โม้ ไว้รึเปล่านะ บางที หากมัน ม่ะ ฆ่า แต่ ทรมาน จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว เจริญสติปัฏฐาน ไม่ได้ จำใจ ต้องเลือก:-)ไส ให้ผู้อื่น ไปตาย เจ้ ก็อาจจะหน้ามืด ทำได้ทุกอย่างเพื่อรักษาตัวกรู ก็ได้นะ ของงี้ มัน บ่ แน่ดอกนาย ดูอย่างเหตุการณ์น่าหดหู่ที่เกิดขึ้นในจีนสมัยสงครามโลกครั้ง ที่ สอง ตอนที่ตะหานญี่ปุ่นเข้ามารุกรานกดขี่ข่มเหงคนจีนดิ การถูกบีบบังคับให้จนตรอก บางครั้ง ความรักตัวกลัวตาย มันก็ทำให้คนเราเผยธาตุแท้ และ สัญชาตญาณในด้านมืด ของจิต ได้นะ .     โดย: นู๋บี วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:12:26 น. จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:12:44

ความคิดเห็นที่ 41       แถม ไอ้ช้อยส์ ที่ลื้อ ให้เลือกเนี่ย มันก็ตัดสินใจลำบาก ว่ะ นั่นก็ พ่อบังเกิดเกล้า ผู้มีพระคุณ นี่ก็ ประชาชนตาดำ ๆ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แล้ว ถ้า ลื้อเป็นองคุลีมาล ล่ะ ไอ้ตี๋ ลื้อจะเลือกอะไรวะ แหม๊ เห็น กระทู้ถามแต่เจ้ ทีตัวเองล่ะแทงกั๊ก ม่ะเห็นโชว์น้ำลายอะไรเรยฟระ อิอิ อืม...เรื่องนี้บางที เจ้ คงต้องดูบริบทแวดล้อม ก่อนมั้ง ถ้าเป็นไปได้ ไงก็คงให้สิทธิในการเลือก กับผู้มีพระคุณอย่างป๊ะป๋าหมาน ก่อน อ่ะ เจ้จะถามป๊ะป๋า ว่า พ่อ ๆ พ่อจะให้นู๋ยิงกบาลพ่อ หรือว่า พ่อจะขอให้นู๋ ส่งคนอื่นไปตายแทนอ่ะ ? จากนั้น ทุกสิ่ง ก็คงขึ้นกับ ดุลย์พินิจ ของ ป๋าหมานแกว่ะ ถ้า ป๋าแกคิดว่า เออกรูแก่แระ อยู่ไปก็รกโลก ตาย ๆ ไปซะได้ก็ดี ให้คนที่เขายังมีอนาคตมีชีวิต ต่อไปเหอวะ เจ้ก็พร้อมจะเป่าขมองพ่อตัวเอง โดยไม่ลังเลอ่ะนะ อาจมีจิตตกเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็จะไม่มีรอยแผลเป็นเกิดขึ้นในใจเด็ดขาด แร้วก็ม่ะหวาดหวั่น ก๊ะ อนันตริยกรรมใด ๆ ที่จะเกิดตามมาด้วย แต่ถ้า ป๋า หมาน แกทะลึ่งบอกว่า เฮ้ยยย อีนู๋บี เอ๋ยยย ป๋ายังอยากอยู่จู๋จี๋ก๊ะละอ่อน อีกนาน ๆ อ่า สังหารชีวิตชาวบ้าน แทนป๊ะป๋า ได้ป่ะ ? เจ้ก็พร้อมที่จะเป็นฆาตกรโหด สังหารหมู่ผู้คนโดยม่ะหยั่น อะไร นะ ก็ในเมื่อกล้าที่จะทำชั่ว ตัวเราก็ต้องกล้าที่จะชดใช้ กับวิบากกรรมที่จะตามมา อ่ะ มันก็เท่านั้น ม่ะเห็นต้องมา วิตกจริต อะไรนิ แต่ถ้าไม่มีสิทธิถามไถ่ ป๊ะป๋า ว่าอยากมีชีวิตอยู่ หรือ อยาก ตาย อันนี้คงเลือกยากส์ ขึ้นมาอีกขั้น นะ และถ้ายิ่งเจอ เงื่อนไขที่ว่า ถ้าเมิงไม่เลือกสักช้อยส์ กรูจะฆ่าทั้งหมดเยยยย ด้วยอ่ะนะ คงเลือก ฆ่า โดยดูจาก บริบท และสภาวะแวดล้อมอีกเช่นกัน ว่า เลือกทางไหน แล้ว บุคคลที่อยู่ ยังประโยชน์แก่โลกได้มากที่สุด ถ้า คนนับพันที่จะฆ่า เป็นฆาตกรโรคจิต เก๊าะ เลือกฆ่าคนพวกนี้ แต่ถ้า คนนับพันที่จะฆ่า ดั๊น มีบุคลที่จะสามารถทำคุณูปการ เกื้อกูลต่อโลก ได้ แทรกเป็นยาดำ ผสมสิบ อยู่ในนั้น ม่ะต้องถึงขั้นมีพระอรหันต์ หรอกนะ แค่ มีคนอย่าง เอดิสัน หรือ นิวตัน ปนอยู่ด้วย เจ้ก็คง เลือก ฆ่า พ่อตัวเอง ว่ะ ป๊ะป๋าแก แก่แร้วววว สังขารก็เดี้ยง ละสังขารขันธ์ที่เสื่อมโทรมในชาตินี้ ไปเอาดีในชาติหน้า เปลี่ยนบรรยากาศ ซะมั่ง ก็คงจะเข้าท่าว่ะ อิอิ หรือถ้า คาดเดาไม่ได้ เจ้ ก็เลือกฆ่า พ่อตัวเอง อยู่ดีว่ะ เพราะ จาก ทฤษฎีฟามน่าจะเป็น โอกาส ที่จะมีคน ที่สร้างคุณูปการให้แก่โลก ใน คนพันคน ย่อมมีมากกว่า คน 1 คน อยู่ แระ อืม....ในวิถีพุทธ ความตายไม่ได้น่ากลัว อะไรนิ ก็แค่ การเปลี่ยนภพภูมิ แล สังขารขันธ์ ไม่ใช่หรือ แล้วจะต้องวิตกจริต อะไรกันนักหนาวะ ถึงตายแล้วสูญจิง ๆ มันก็ม่ะใช่ปัญหานิ คนเราไงไม่ตายวัน มันก็ตายพรุ่ง ที่สำคัญ เจ้ ก๊ะ ป๊ะป๋า สนิท กัลว่ะ ในฐานะ ลูกบังเกิดเกล้า ถึงเจ้จะฆ่าป๋าหมานตาย คามือ ป๋าแกก็พร้อมที่จะหาข้อแก้ตัวให้เจ้ อยู่แระ อาจจะงอลนิดนึง แต่คงไม่อาฆาตพยาบาท อะไรนักหนาหร็อก คนเป็นพ่อเป็นแม่ น่ะไอ้ตี๋เอ๊ยยยยย ไงก็ โกรธลูกม่ะลงหร็อก ปะเหลาะแป๊บ ๆ เด๋วก้อหายงอล อย่างมากก็คงจะบ่น กระปอดกระแปด ประมาณ ว่า อิลูกเวง เห็นขี้ดีกว่าไส้ มั้ง อิอิ นึกถึง กาทู้หนึ่งในพันดริฟท์ จังอ่ะ จขกท. เล่าถึงฉากหนึ่งในเรื่อง หมอผีเอ็กโซซิส ที่ผู้ร้ายใช้กำลังบังคับจับชาวบ้านมามัดรวมกัน แล้วขู่เข็ญ ให้ บาทหลวงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ชี้ตัว บอกชื่อ ผู้เป็นไส้ศึก ซึ่งแทรกซึมเข้ามาในกลุ่มชาวบ้านเหล่านี้ แน่นอนว่า หาก บอก คนเหล่านั้น ก็ต้องถูกฆ่า และ หาก บาทหลวงไม่ยอมบอก พวกมันก็จะสุ่มเลือกทยอยฆ่าชาวบ้านที่ถูกจับ มา ทีละคน แล้วก้อ เรื่องนี้ ด้วย เด็กกับรถไฟ http://www.oknation.net/blog/learning/2011/04/06/entry-1 อืม...คอนเซปท์ มันคล้าย ๆ กันเลยว่ะ การจำใจ ต้องเลือกเดิน เมื่ออยู่ บนทางสองแพร่งแห่งชีวิต ทั้ง ๆ ที่ หนทางทั้งสองนี้ ไม่มีเส้นทางไหนถูกใจเราเลย มันก็เกิดขึ้นตลอดเวลาตราบเท่าที่เรายังหายใจนั่นแหล่ะ ไม่ว่า จะเป็น การรักษาความกตัญญูกตเวที ที่ต้องแลกมาด้วย มือที่เปื้อนบาป หรือ การรักษาหลายชีวิตของเด็ก ๆ ที่ไร้วินัยไว้ โดยแลกกับ หนึ่งชีวิตของเด็ก ที่ทำทุกอย่าง ถูกต้องตามกฏกติกา เฮ้ออออ ชีวิต มันก็งี้แหล่ะ ไอ้ตี๋เอ๊ยยยยย เต็มไปด้วยทางสองแพร่ง ที่ ต้องตัดสินใจเลือก และไม่สำคัญหรอกว่า สิ่งที่ลื้อเลือก มันจะถูกหรือผิด สำคัญที่ว่า เมื่อ ลื้อเลือกแล้ว .... ลื้อจะ ทำใจ ยอมรับฟามระย่ำ เอ๊ย การกระทำ ของตัวเองได้แค่ไหน ตะหาก ถ้าวางอุเบรคขา ม่ะเป็น มีหวังตายหยังเขียด จากการถูกเจ้ากิเลสตัณหาคอยทำร้าย ไม่ก็โดนเจ้าหิริโอตตัปปะ ( Super ego )คอยทิ่มแทง .     โดย: นู๋บี วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:13:08 น.         อืม... โม้ไปโน่น เรยกรู เอาเป็นว่า เรื่องของ อหิงสกะ ที่โดน พระอาจานเป่าหู เนี่ย เจ้ก็ยังยืนยัน คำเดิม นะ ว่า อหิงสักกะ มันโง่ เอ๊ย... ลู้เท่าม่ะถึงการณ์ เอง อ่ะ เรยม่ะลู้จัก ใช้ โยนิโสฯ มาพิจารณา การก่อกรรมทำเข็ญ ว่า กรรมอันใด เป็น การเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น โดยที่ เจ้าตัว ไม่ยินยอม พร้อมใจ กรรม อันนั้น ย่อม เป็นสิ่งที่พึงละเว้นเสีย ลู้ป่ะ ทำไมอหิงสกะ ฆ่า คนนับพัน ถึงยังบรรลุ อรหันต์ ได้ เจ้ คิดว่า คงเป็นเพราะ ไอ้หมอนี่ มันก่อกรรมด้วยจิตที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี ( แต่เข้าใจผิด ) ประมาณว่า เจตนาดี แต่ดันมี มิจฉาทิฐิ มั้ง ดังนั้น ต่อให้ มันฆ่าแม่ตัวเอง จิง ๆ กึ๋นขนาดนั้น ก็ น่าจะ ทะลุธรรม ได้ง่ะ ถ้าไม่จิตตก ตามแรงยึดมั่นถือมั่นแห่งจิต จนเฉาตายซะก่อนอ่ะนะ อืม...เหมือน เคยมีคนเล่าให้เจ้ ฟังนะ ว่า อิตา อหิงสกะ มันโดน อาจานหลอก ว่า หาก ฆ่าคนครบพันคน จะสำเร็จวิชาสามารถช่วยชุบชีวิตคนได้ อิตานี่ก็ดันบ้องตื้นเชื่อสนิท แล้วยัง ถูกยุแยง ให้เข้าใจผิด ว่า จะสามารถชุบชีวิต คนที่มันฆ่า ให้ฟื้นขึ้นมาได้ด้วยมั้ง แต่ เฮียแก ดัน คิดบวก มากไปหน่อยว่ะ ลืม คิดไปว่า ชีวิตผู้อื่น ไม่ใช่ของเล่น ที่จะนำมาสนองตัณหา และ อัตตาของตน เกิด ฆ่าคนตาย แร้ว ทำให้มัน ฟื้นไม่ได้ เก๊าะอิ๊บอ๋ายจิค๊ะ เจ้ากรรมนายเวร ตามมาขี่คอเป็นผีชัตเตอร์เพียบบ แหง๋ ๆเรยว่ะ ซึ่งก็เป็นงั้นจิง ๆ ซะด้วย โชคดี ที่องคุลีมาลชิ่งหนีไปเป็นอรหันต์ ไปแระ เลย หลุดพ้นจาก ความทุกข์ทั้งมวล สามารถก้มหน้าก้มตารับวิบากของตน ได้โดยดุษฎี มิมีทุกข์ทน แล ปริปากบ่น น่า ขำนะ เมื่อก่อน ถ้ามีคน เลคเชอร์ ให้เจ้ฟังงี้ เจ้ ต้องหมั่นไส้แน่ ๆ เรยว่ะ ประมาณ ว่า เอ๊ะ ทำไม อรหันต์ มันถึง มีอภิสิทธิ ที่จะ หลุดพ้นจากฟามทุกข์ ทั้งมวลได้ด้วยฟระ ก็ในเมื่อ มันเคยทำชั่ว ๆ มาก่อน มันก็สมควรจะต้องรับ วิบากของเวรกรรม ที่มันเคยกระทำสิ งี้มัน ไม่ยุติธรรม เรยนี่หว่า ฯลฯ แต่ พอ เริ่มหัดเจริญสติปัฏฐาน สี่ (ในหมวดกาย ก๊ะ เวทนา ) เจ้ก็ พอจะเข้าใจ เรื่องนี้ มากขึ้นนะ มันก็เกี่ยวข้องกับ กฏแห่งการยึดมั่นถือมั่น ของจิต อย่างที่ลื้อ เคย พูดไว้นั่นแหล่ะ ส่วนวิบาก ต่าง ๆ มันก็เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ของเจ้ากรรมนายเวร อ่ะนะ คาดว่า พระอรหันต์ ยังมี เวทนาทางกาย เจ็บปวดร้อนหนาว เหมือนคนทั่วไป แต่เมื่อ จิตมันไม่เอามายึดมั่นถือมั่น เสียแล้ว จิต ก็จักไม่เกิด ทุกขเวทนาทางใจ ไง อรหันต์ มันก็แค่ บุคคลที่มีศักยภาพ ในการรักษาสมดุล และ ความเสถียร ของ Id - Ego- Super ego ได้มากกว่าชาวบ้าน ง่ะ พวกเขา เรย ปล่อยวางได้ง่ายฝ่าคนทั่วไป ไง ซึ่งพอรู้จัก วาง ให้เป็น แร้วจิตมันเก๊าะ ว่าง ก็ไม่ทุกข์ เรื่องมันก้อแค่เนี๊ยะ อิอิ เรื่องพวกนี้ พูดง่าย แต่ ทำยากส์ ว่ะ เจ้เองก็ยัง เตาะแตะ อยู่เหมือนกัล ไอ้เรื่อง เจริญสติปัฏฐาน อ่ะนะ หมวดกาย ก๊ะ เวทนา น่ะ พอจะผ่านได้แบบ ชิล ๆ แต่ หมวด จิต ก๊ะ ธรรม นี่ ยัง มะหงุมมะงาหรา อยู๊ ทำม่ะค่อยได้หร็อก ม่ะงั้นป่านนี้ ตรูหนีไปบวชชีแระ อิอิ ว้า ฝอย อีกแย้วววว ตรู เอาเป็น ในเรื่อง อนันตริยกรรม โทษฐาน ฆ่าพ่อฆ่าแม่ เนี่ย เจ้ เห็นด้วยก๊ะ ลื้อ ในหลายเรื่องนะ โดย เฉพาะ ที่บอกว่า -------------------------------------------------- ไอ้คนที่กล้าฆ่าพ่อมัน มันของแน่อยู่แล้วว่ามันไม่รักพ่อมัน ความยึดมั่นในส่วนนี้คงไม่มี แต่มันดันไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เขาขู่เอาไว้ ว่า ใครฆ่าพ่อเป็นอนันตริยกรรม ตกนรกเจ็ดชั่วโครต แถมบรรลุธรรมได้ยาก มันย่อมบรรลุธรรมได้ยากอยู่แล้ว ก็เราดันไปขู่ไปหลอกมันไว้ว่า ต้องตกนรกแสนกัปบ้างอินฟินิตี้บ้าง จิตมันเลยยึดแต่สิ่งนี้ เลยไม่ต้องบรรลุกันพอดี +++++++++++++++++++++++++ อ่านตัวหนังสือของลื้อ แร้ว เจ้นึกถึง ชะตากรรมของ พระเจ้า อชาตศัตรู อ่ะ อิอิ หาก ตอนนั้น พระองค์ ปล่อย วางความรู้สึกผิดในใจลงได้ ก็คงม่ะถูก หิริโอตตัปปะ คอยทิ่มแทง จนชวดโอกาสในการบรรลุธรรม หรอกเนอะ เฮ้อออ จากเรื่อง ของ องคุลีมาล จนถึง เรื่อง พระเจ้า อชาตศัตรู มันก็ทำให้เจ้เข้าใจ คำว่า บุญมีแต่กรรมบัง จังเรยง่ะ นี่แหล่ะหนา แข่งเรือแข่งพาย น่ะแข่งได้ แต่แข่งวาสนา มันแข่งกัลไม่ได้จิง ๆ ด้วย เหอ...เหอ... และ ต่อ กรณีศึกษาเรื่อง อิเรยา เอ๊ย อิอารยา คิดฆ่าพ่อ เนี่ย เจ้ก็คิดเหมียนลื้อ อีกแระ อิอิ แต่ ถ้าในบริบท เดียวกัล หาก เจ้เป็น น้องชมพู่ แร้ว ฆ่าพ่อตาย จิง ๆ เจ้ว่า ถึงมาลู้ทีหลัง เจ้ ก็เฉย ๆ ว่ะ ถ้าจะจิตตกไปบ้าง แต่ ก็คงเพราะ ทำศีลข้อ 1 ขาดอ่ะนะ เนื่องจาก เจ้ ม่ะนิยม ทำปานาติบาต ม่ะลู้ดิ กะพ่อ ที่ม่ะเคยรู้จัก กะอีแค่ทำให้เราเกิดขึ้นมาเฉย ๆ จาก กำหนัด และความใคร่ มันจะมี บุญคุณ และ มีฟามผูกพันธ์ อะไรกันนักหนาละ ดังนั้น สัญญาขันธ์ ในเรื่องนี้ สำหรับเจ้ มันคงม่ะเกิด เท่าไร มั้ง อาจจะ นึกฉงน ด้วยซ้ำ ว่า ทำไมตรูต้องวิตกจริตให้ฟามสำคัญ กับ คำว่า อนันตริยกรรม ตามน้ำลาย ชาวบ้านด้วยฟระ อิอิ ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือน ลัทธิคอมมิวนิสต์ วุ้ย แต่ สิ่งหนึ่งที่ต่างไป ก็คงจะเป็นการที่จิตของเจ้ ยังคงยอมรับ ที่จะยึดมั่นถือมั่น และให้ฟามสำคัญ ก๊ะ คำว่า ... "บุญคุณต้องทดแทน แต่ ความแค้นไม่เป็นไร " นะ ม่ะลู้ดิ สำหรับเจ้ แร้ว ฟามกตัญญูกตเวที คือ สิ่งที่ยังสมควรต้องแบกไว้บนหัว นะ ดังนั้น กรรมที่ทำร้ายผู้ที่มีพระคุณและปรารถนาดี ต่อเรา จึง เป็น อนันตริยกรรม สำหรับเจ้ และ ทำให้เจ้ จิตตก ได้ว่ะ ด้วยเหตุนี้ ระหว่าง ฆ่าพ่อแม่ที่ไม่เคยเห็นหน้า กับการ ฆ่าพ่อแม่บุญธรรม ที่เลี้ยงเรามา ตะแต่ตรีนเท่าฝาหอย เนี่ย อย่างหลังจึงเป็น อนันตริยกรรม สำหรับเจ้ มากกว่า นะ ยิ่ง หากทำด้วยเจตนาร้าย เผลอก่อกรรมเข้าแล้ว เจ้คงจิตตก ไปอีกหลายเพลาทีเดียว .     โดย: นู๋บี วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:25:52 น. จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:14:31

ความคิดเห็นที่ 42       ว่าแต่ ที่เจ้ เคยถามลื้อ ไปอ่ะ .... ถ้า เจ้ รู้อยู่เต็มอก ว่า ป๊ะป๋าหมาน เป็น พ่อของเจ้ ( โดยม่ะต้องพิสูจน์ ดีเอนเอ ) แต่เจ้ก็ยังมีเจตนาอันแรงกล้า ที่จะสมคบคิดร่วมมือกับผู้อื่น ปลิดชีวิต พ่อตัวเอง จนสำเร็จเสร็จสิ้นตามที่ตั้งใจ กล้าฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองแบบนี้ จะถูกลื้อเหมา ว่า เป็น อนันตริยกรรม ช่ายป่ะ ? ซาแดงว่า เจ้ ไม่รักป๊ะป๋า ตัวเอง ช่ายป่ะ ? แร้ว งิ เจ้ จะต้อง จิตตก เพราะ ถูก ลื้อ ตราหน้า ว่า เป็น อิลูกทรพี ไหมน๊ออออ ? เหอ...เหอ.... แล้วถ้า บริบท มันเปลี่ยนเป็น กลายเป็นว่า ป๊ะป๋า ของเจ้ เป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย ต้องทนทุกขังกาละมัง กับเวทนาทางกายตลอดเวลา ( เพราะบอบบางเกินกว่าจะเจริญสติปัฏฐาน 4 ) แร้วขอร้องให้อิเจ้ ทำปิตุฆาต ให้ที ลื้อว่า อิเจ้นู๋บี มันจะกล้าทำ ป่ะ ระหว่าง การุณยฆาต อันเป็น อนันตริยกรรม ทำให้ หมดสิทธิ ทะลุอรหันต์ ก๊ะ ปล่อยให้ พ่อตัวเอง ทนทรมานจากโรคร้าย ลื้อ ว่า เจ้ จะเลือกอะไร อ่ะ ? อิอิ ม่ะต้องตอบก็ได้นะ เพราะ ลื้อคงรู้ดี ว่า เจ้ จาเลือกอะไร แค่ เจ้อ้าปาก ลื้อก็เห็น ลิ้นไก่ แร้วม้างงงงงง ( ตาม ประสา ผีเน่าก๊ะโลงผุ ) หุหุ เอาล่ะ แค่นี้นะยะ ไอ้ตี๋ เจ้ฝอยมานานแระ คราวนี้ เจ้บัวฯ จะหายหัว หุบเข้ากะลา จิง ๆ เสียที แท้งกิ๋ว ที่แวะเข้ามาเสวนาธรรม ด้วยจร้าาาาาา เจ้รู้สึกสนุกกับการต่อปากต่อคำ ก๊ะลื้อ มั่ก ๆ ดีใจจิง ๆ ที่ได้ลู้จัก คนธาตุเดียวกัน อย่างลื้อ พันธุ์ประหลาด ปากปลากัด อย่างพวกเรา นี่ มันหายากส์เจง ๆ ว่ะ เหอ....เหอ.... ปอลิง ถ้า ครึ้ม ๆ พอกรึ่ม ๆ เจ้จาเปิดกะลา แวะไปวิ่งเล่นเพ่นพ่าน เกะกะลูกตาชาวบ้าน ที่ ลานธรรมจักร ก๊ะ ลื้อน๊าาาา ช่วงนี้ แบนตัวเอง จาก เวบ พังจิต 2 เดือนว่ะ แว่บไปหลอกหลอน ชาวบ้านแถวนั้น แก้เฉาปาก บ้าง คงมันส์พิลึก ว่า แต่ คนแถวนั้น เค้าขวัญอ่อน เหมียนที่ ลาน ทำสวะ นะ ก๊ะ ที่ แอนตี้ละมุด ไหม เนี่ย ? หุหุ .     โดย: หุบจิง ๆ แระจร้าาาาาา (นู๋บี ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:26:59 น.   จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:15:10

ความคิดเห็นที่ 43 เอาล่ะ อิฉัน ตอบคำถาม คุณ ด้วย  บทสนทนา ที่ เคยคุยกันก๊ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ เสร็จสิ้น ตามที่สัญญา แระ  หวังว่า คุณคงรักษา สัญญา ด้วยล่ะ ? จงตอบมา ซะดี ๆ โดยไม่ต้องแถ ไม่ต้อง ตะแบง ไม่ต้อง โปรเจคชั่น คุณจะ วางใจ วางศรัทธา และ วางท่าที ต่อเรื่องนี้ ยังไงดีเจ้าคะ ภายใต้เงื่อนไข ที่ กำหนด เอาไว้ว่า 1. พุทธอวตาร เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย และ ไม่สามารถหาเหตุผลใด ๆ ในโลกนี้ มาคัดง้างได้ ถ้า เราเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ตายไปเราต้องตกนรก แน่ ๆ 2. เมื่อ ข้อเท็จจริง ที่ปรากฏ มัน ขัดแย้ง และ ไม่สอดคล้อง กับ ศรัทธา และความเชื่อของตัวเองแล้วไซร้ เราจะตัดสินใจ เลือกที่จะเดินทางไหน จะวางใจ ยังไงดี และ มีท่าทียังไง ที่สำคัญจะละทิ้ง ศรัทธาและความเชื่อแบบเดิม ๆ หรือไม่ ? ไงก็ลอง ทำใจยอมรับเงื่อนไข และ กติกา ที่อิฉันกำหนด เหมือนกับที่ อิฉัน ยอมรับ เงื่อนไข และ กติกาที่คุณ กำหนด ดูดิ คุณเป็น ครู คุณก็รู้นิ ว่า เวลาจะออกข้อสอบ ให้เด็กมันทำ สักข้อ เพื่อ ทดสอบ ภูมิกึ๋น ของมัน น่ะ มันไม่ใช่สักแต่ว่า อ้าปากแล้วก็ถามเฉย ๆ ทุก ๆ คำถาม ที่ ถาม ออกไป ล้วนแล้วแต่ มี นัยยะ  และ ความหมายแฝงไว้ทั้งสิ้น แล้ว คุณ คิดว่า อิฉันดูไม่ออกหรือ ไง ว่า ที่ คุณ มายอกย้อน ตีรวน ถามคำถาม โปรเจคชั่นกลับมาที่อิฉัน มันมีอะไรเป็น เหตุปัจจัย ? ไอ้เจ้า ด. มันก็ยังเคย ทำนายไว้เลย ประมาณ ว่า ถ้า พี่บี มาตั้งคำถามนี้ ในพันติ๊ป จะต้องมีคนพยามมา ดิสเครดิต ทำให้พี่ดูไม่น่าเชื่อถือซะเป็นส่วนใหญ่ แต่จะไม่มีใครยอม ตอบคำถามนี้ กับพี่ อย่างตรงไปตรงมาหรอก เพราะลึก ๆ เขา กลัวที่จะรู้ รู้ป่ะ การตอบคำถาม ภายใต้สถานการณ์สมมุติ อ่ะนะ เป็นการละเล่น ที่ อิฉัน ชอบมาก เพราะ มันทำให้เรา มองเห็น รากเหง้า ของ อนุสัย ( Id ) และ ตัวตน ของเรา ผ่าน กระบวนการคิดหาคำตอบ ที่ เราประมวลผล ออกมานะ ถ้าเด็กคนไหน มันมาตะแบง มาแถ ไม่ยอมรับกฏกติกา และ เงื่อนไข เขาก็จะเสียโอกาส ในการสำรวจตัวเอง เห็นพวกพุทธมามกะจ๋า ชอบอวดตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่า ศาสนาพุทธ เป็น ศาสนาแห่งปัญญา นี่ นะ ไหน ลองโชว์ ภูมิกึ๋น ให้ดูหน่อยดิ๊ ว่า มันจริงแค่ไหน ไอ้ศาสนาแห่งปัญญา ของคุณ เนี่ย มันต่างจากศาสนา แ่ห่งศรัทธา อื่น ๆ ยังไง ? และถ้า กะอีแค่ ตอบคำถาม อย่าง ตรงไปตรงมา ยังทำไม่ได้ เลย เพราะ ว่า ลึก ๆ คุณ กลัวที่จะตอบ ก็อย่าลืมบอกชาวบ้าน ด้วยล่ะ ว่า ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาแห่งปัญญา แต่พุทธมามกะจ๋า มีแต่ ศรัทธา มาบังตา ซะจนมืดบอด เอิ๊ก ๆ อืม...คำพูดหนึ่ง ในไบเบิ้ล ที่ อิฉันชอบมาก คือ ผู้เห็นความจริง  ศรัทธา ย่อมไม่จำเป็น อ่ะนะ หวังว่า สักวัน บรรดา พวกพุทธมากะจ๋า ผู้มืดบอด มันคงจะเห็น ความจริง ได้มั่งนะจ๊ะ เฮ้ออ รู้ป่ะ ตอนที่ ไอ้เจ้า น้อง ด. มันถกเรื่องนี้ ก๊ะ อิฉัน มันบอกว่า รู้จักกันมา ตั้งหลายปี ผมเพิ่งรู้ว่า ตัวตนจริง ๆ ของพี่ บี เป็นยังไง ก็ตอนที่ มานั่ง เม้าส์ เรื่อง พุทธอวตาร ด้วยกันนี่แหล่ะ แต่ อิฉัน จะยังไม่เปิดหน้าไพ่ บอกใคร หรอกนะ ว่า คำตอบในเรื่องนี้ ของอิฉัน คืออะไร ถ้า พุทธ อวตาร เป็นจริง คนไม่มีศาสนา อย่างอิฉัน จะมีท่าที ยังไง ให้ พวก พุทธมามกะ จ๋า อย่างคุณ ตอบตัวเองให้ได้ก่อนแระกัน แล้ว ค่อยมา ถาม อิฉัน ว่าตอนนั้น อิฉัน ตอบ ไอ้เจ้า ด. มันไป ว่าไง มันมาถึงมา ชาบู ๆ ซะยกใหญ่โต จนเอาไปเทียบกับ พระบ้าน ๆ ที่อบูแถวนั้นน่ะ ปอลิง นี่แหน่ะ ป๋ารถสังข์  ห้ามป๋าเข้ามา ขโมยซีน อิฉัน ด้วยการ บอกใบ้หรือ ให้เลขท้าย สาม ตัว ก๊ะใคร ในสมรภูมินี้ เด็ดขาด จงนั่งบนภู แล้วดูหมากัดกันเฉย ๆ  ก็พอ ปล่อยให้ไอ้พวก ขนโคทั้งหลาย มันงมโข่ง กันไปเต๊อะ ( รู้นะยะ ว่า โจร ย่อม เห็น โจร ด้วยกัน อิอิ ) อ้อ ส่วน 2 ลิ้งค์นี้ แถม ให้ แควนขับ ที่ตามอ่านผลงานกันอยู่จร้าาา หุหุ http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/03/W7579692/W7579692.html http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/02/W7505269/W7505269.html ส่วน ภาพ ข้างล่างนี้ ก็แถม คำชม จาก อาจารย์ ที่ สอนอิฉันสมัย มัธยม หลังจาก ที่ ไม่ได้เจอกันเกือบ สิบปี จะได้รู้กันซะที ว่า อย่าว่า แต่ หนุ่ม ๆ ในโรงบาลเรยยย ขนาด อาจารย์ ที่สอนตอน มัธยม ยังโดน เทียวเสี้ยมคนนี้ หว่านซาเหน่ ใส่ จนประทับใจ กันเป็นสิบ ๆ ปีมาแระ ดังนั้นจะแปลกอะไรล่ะ  ถ้า ตั้งโต๊ะ แล ลิโป้  จะมาหลง คารม แม่นางเทียว จนหัวปักหัวปำ อิอิ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 01:21:26 จากคุณ : ยื้มล็อกอินป๊ะป๋า มาโพสเจ้าค่ะ (ป๊ะป๋าหมาน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:17:18

ความคิดเห็นที่ 44 ห้องศาสดา ยังอยู่หรือเปล่าครับ ถ้ามีในคลังช่วยแปะลิ้งให้ด้วยครับท่าน จขกท ขอบพระคุณครับ ตอบคำถามนะครับ หาวิชาใหม่ๆมาฝึกต่อครับ จากคุณ : ชลิโต เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 13:28:36

ความคิดเห็นที่ 45 เอาจริงๆเจอกระทู้แบบนี้ผมว่าน่าจะปล่อยผ่านไม่ต้อวไปตอบจขกท. เขาหรอกยิ่งไปตอบเขาก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสำเร็จความใคร่ทางจิตมากขึ้น ถ้าปล่อยให้กระทู้มันร้างไม่มีใครตอบ จขกท.จะดิ้นเองเพราะไม่มีใครสนใจ พวกเรียกร้อวความสนใจต้องสนองดเวยการอย่าไปสนใจยิ่งสนใจยิ่งไปกระตุ้นต่อมรับรู้ความสุขเนื่องจากการที่มีคนสนใจกระทู้ของเขาและโต้ตอบกับเขา จากคุณ : Vaffancuro เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 08:51:20

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 44 ห้องศาสดา ยังอยู่หรือเปล่าครับ ถ้ามีในคลังช่วยแปะลิ้งให้ด้วยครับท่าน จขกท ขอบพระคุณครับ ตอบคำถามนะครับ หาวิชาใหม่ๆมาฝึกต่อครับ จากคุณ : ชลิโต เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 13:28:36 ถูกใจ : หม่ามี๊แก้ว อิอิ ใน คลังกาทู้ ที่ห้องศาสดา น่ะ ส่วนใหญ่ น่าจะโดน แก๊งค์สามช่า ลบทิ้งหมดแระมั้ง แต่ ไม่ต้องห่วงนะ ไงซะ อิฉัน ก็ ยัง โคลนนิ่ง เก็บงำ เอาไว้อยู่ จร้าาา อ่ะ เอามาฝาก หุหุ http://board.palungjit.com/f181/โพสเรื่อยเปื่อย-เมื่อยก็พัก-^-0-^-322353-4.html#post5917105 อืม...แล้วว่าง ๆ ครึ้ม ๆ จะ ตั้งกระทู้ โอ้ว่าอนิจจา ! ระบบการศึกษาแบบไทย ๆ  ? มาหั้ย ได้ทัศนา น้าาาาา เผื่อว่า ...อิพวก เรือจ้างเรือแจวแถวนี้ จะได้ สำเหนียก  สำนึก และ ระลึก อะไรขึ้นมาได้มั่ง อิอิ และ ระลึก ถึงคำกล่าวของผู้ชายคนนี้ ขึ้นมาได้มั่ง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 17:43:28 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 17:42:35 จากคุณ : ยื้มล็อกอินหม่ามี๊มาใช้เจ้าค่ะ (หม่ามี๊แก้ว) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:40:50

ความคิดเห็นที่ 47 ปอลิง อืม...แวะมาหั้ยกิ๊บ ทุกทั่น ที่เข้ามา เบรนด์ สตรอมมิ่ง ในกาทู้นี้ ตาม ธรรมเนียมปฏิบัติ ของ จขกท. เจ้าค่ะ แท้งกิ๋วคร้าาา ที่มาร่วมด้วยช่วยแจม จาก จขกท. หมายเหตุ จขกท.ยื้มล็อกอินหม่ามี๊มาใช้เจ้าค่ะ เพราะว่า ล็อกอินป๊ะป๋าหมานมีปัญหาทางเทคนิค ( แปลว่า โพสหน้าไมค์ บ่ ได้คร้าาา คริก ๆ )  เอ้ากาทู้เนี๊ยะ มาฝาก จร้าาา http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2012/10/X12803455/X12803455.html http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X12803455/X12803455.html   รบกวน ท่านผู้ใจดี ในห้องหว้ากอ ช่วยออกแบบการทดลองเพื่อพิสูจน์ ความจริงเรื่องนี้ ให้ทีค่ะ ^ - ^ [ย้ายจาก : วิทยาศาสตร์] รบกวน ท่านผู้ใจดี ในห้องหว้ากอ ช่วยออกแบบการทดลองเพื่อพิสูจน์ ความจริงเรื่องนี้ ให้ทีค่ะ ^ - ^ คือว่า ก่อนหน้านี้ มีโอกาสได้ไป...ตบตี...เอ๊ย...ไปเสวนาธรรม เกี่ยวกับ ข้อเท็จจริง เรื่อง สารพัดสัตว์พูดได้ ที่ห้องศาสดา มาอ่ะเจ้าค่ะ ปรากฏว่า พออิฉัน ไปกระตุกหาง บรรดาทั่นผู้มีแต่ศรัทธา ในนั้น เข้า ประมาณว่า ถ้า เอี้ยพูดได้ ในนิทานหลอกเด็ก...เอ๊ย...ใน พุทธชาดก เป็นเรื่อง โกหกสตอเบอร์แหล๋ มีแต่ข้อเท็จ บ่มี ข้อจริง พวกน้อง ๆ นู๋ ๆ ทั้งหลาย จะทำใจยอบรับ กับ สิ่งที่รู้ กันได้ไหมเอ่ย ? http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12785076/Y12785076.html ตานี้ ล่ะงานเข้าเลยคร้าาา มี คนมาร้องถามเหย็ง ๆ ว่า ผมก็อยากทราบเหมือนกันว่า จขกท.มีวิธีไหนที่จะพิสูจน์ว่าเรื่องในชาดกไม่ใช่เรื่องจริง? อิฉันก็เลยต้อง มาโพสกระทู้นี้ ขึ้น เพื่อ ขออาศัยยื้มมือ...เอ๊ย...หมายถึง อาศัยไหว้วาน เพื่อน ๆ ในห้องหว้ากอ อ่ะเจ้าค่ะ แหะ...แหะ.... ใครก็ได้ ช่วยเมตตา ตอบอิฉันที ว่า เราควรจะ ออกแบบ การทดลองในเคสนี้ ให้มี ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และ ตัวแปรควบคุม ยังไง จึงจะสามรถพิสูจน์ ให้ คนที่ห้องศาสดา และ บรรดา ศรัทธาจริตจ๋า ยอมรับความจริงซะที ว่า ทฤษฏี เรื่องเอี้ยพูดได้ แบบในชาดก ที่พวกเขา เชื่อกันจนหัวปัก หัวปำอยู่นั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นแค่ นินทานสอนใจ ที่เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ ในการปฏิบัติ ... จากคุณ : สาวกกาลิเลโอ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 21:45:09 A:110.77.138.136 X: TicketID:378753 bookmark เก็บเข้าคลังกระทู้ ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ หน้าหลัก กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป ความคิดเห็นที่ 1 ปอลิง 1 เฮ้ออ ตอนที่ไปโพส ที่ห้องศาสดา นั้นน่ะ อิฉัน ก็ไม่มีปัญญาเพียงพอ ที่จะไปสร้างไทม์แมชชีน แล้วย้อนเวลา ไป สัมภาษณ์ ทั่น พญาเอี้ยโคธราชา ซะด้วย ดิ ไอ้ครั้นจะ บอก ให้ บรรดาศรัทธาจริตจ๋าพวกนั้น ไป อุ้ม เอี้ย พูดได้ มา พิสูจน์เรื่องนี้ ให้มัน เห็นดำเห็นแดง หรือ อิฉันก็กลัวจะมีชะตากรรมอันรันทด ไม่ต่างก๊ะ กาลิเลโอ อ่ะเจ้าค่ะ หวังว่า พอหนีร้อนมาพึ่งเย็น ตั้งกระทู้ถาม ในห้องนี้แล้ว คงจะไม่ถูกคนใจร้ายที่ไหน จับไปขังลืม จนแทบจะตายคาคุก แล้ว เกิดทุกขังกาละมัง แบบกาลิเลโอ น่ะเจ้าค่ะ อ่ะซิก ๆ เฮ้ออ สมัยเมื่อ หลายร้อยปีก่อน เพื่อให้ได้มาซึ่ง อิสระภาพ และ ความปลอดภัยในชีวิต ทั่นกาลิเลโอ ผู้อาภัพ ก็ยังเคยละทิ้ง อิสระภาพทางความคิด ยอมคุกเข่า ต่อหน้าไม้กางเขน เพื่อ ขอขมา พระเจ้า แล้ว ก็ กัดฟันสารภาพบาป ออกไปว่า ว่า ไอ้เรื่องที่เขา ประกาศ ว่า โลกกลม นั้น มันโกหกพกลม ? ได้เลยนี่นะ เจ้าคะ เพราะฉะนั้น จะแปลกอะไรล่ะ ถ้า อิฉัน อาจจะ ตัดสินใจละทิ้งความจริง ... เพื่อสังเวยศรัทธาอันเชี่ยวกราก ของคนรอบข้าง เพื่อ ให้ตัวเองได้มีที่ยืน อยู่ในห้องศาสดา แห่งนั้นบ้าง อืม...บางที อิฉัน อาจจะไปคุกเข่า ต่อหน้าพระพุทธรูป แล้ว กล่าว คำขอขมา พระรัตนตรัย เพื่อ สำนึกผิด ที่อิฉัน บังอาจคิดสงสัย ในพุทธชาดก อันศักดิ์สิทธิ ดีไหม หนอ ? ขอ ทุกท่าน ในห้องนี้ โปรดแมตตาด้วยเจ้าค่ะ เอ ? หรือว่า อิฉัน ควรจะไปคุกเข่า หน้าพระพุทธรูป แล้ว กล่าว คำขอขมา พระรัตนตรัย ที่อิฉัน บังอาจสงสัย ในพุทธชาดก อันศักดิ์สิทธิ ดีล่ะเจ้าค่ะ ? จากคุณ : สาวกกาลิเลโอ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 21:46:34 A:110.77.138.136 X: TicketID:378753 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 18:20:15 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 17:50:26 จากคุณ : ยื้มล็อกอินหม่ามี๊มาใช้เจ้าค่ะ (หม่ามี๊แก้ว) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:47:25

ความคิดเห็นที่ 48 Philosophy is written In that great book Which ever lies before our gaze --I mean the universe-- But we cannot understand If we do not first lean the language And grasp the symbols In which it is written We cannot teach people anything , we can only help them discover it with themselves Galileo Galilei ปรัชญาเขียนอยู่ ในหนังสือเล่มที่ยิ่งใหญ่ ซึ้งวางอยู่เบื้องหน้าเราตลอดเวลา --ข้าพเจ้าหมายถึงจักรวาล-- ทว่าเราจะไม่สามารถเข้าใจ ถ้าเราไม่เรียนภาษาเสียก่อน และจับความหมายของสัญลักษณ์ ที่ใช้เขียน "เราไม่สามารถสอนอะไรใครได้เลย เราเพียงช่วยให้เขาค้นพบสิ่งที่อยู่ในตัวเขาเท่านั้น" กาลิเลโอ กาลิเลอิ ขอเชิญ ท่านผู้อ่าน ( ที่พลัดหลงเข่ามาในกระทู้นี้ ) ได้โปรดยืนไว้อาลัย 1 นาที ให้กับ ชะตากรรม อันรันทด ของ กาลิเลโอ ผู้เป็น บิดาแห่งโลกวิทยาศาสตร์ ด้วยเทอญ สาธุ๊ - -" แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 18:22:03 จากคุณ : ยื้มล็อกอินหม่ามี๊มาใช้เจ้าค่ะ (หม่ามี๊แก้ว) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:17:46

ความคิดเห็นที่ 49 ###################### ปิดกาทู้แร้วจร้าาาาาาาา  ##################### จากคุณ : ยื้มล็อกอินหม่ามี๊มาใช้เจ้าค่ะ (หม่ามี๊แก้ว) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:25:41

ความคิดเห็นที่ 50 .... แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 55 19:12:25 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 55 19:11:55 จากคุณ : ยื้มล็อกอินหม่ามี๊มาใช้เจ้าค่ะ (หม่ามี๊แก้ว) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 15:40:54