ความคิดเห็นที่ 1 สิ่งที่ต้องการให้ศิริราชหรือภาควิชาทำหนังสือตอบกลับญาติมาครับว่า 1. คุณย่าจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่หรือไม่ เอาให้แน่ (จากงานในเดือนที่ผ่านมาคาดว่าคุณย่าท่านน่าจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่สมดังเจตนาของท่านแล้ว) 2. จะคืนเงินค่าโลงศพที่เจ้าหน้าที่หลอกเรียกไปหรือไม่ ส่วนค่าเบี้ยเลี้ยงค่าน้ำมันก็จะเอาอย่างไร จะไม่คืนส่วนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่บอกมาให้ตรง ชัด 3. มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่กระทำการทุจริตหรือไม่อย่างไร และเป็นไปตามระเบียบของทางราชการหรือไม่อย่างไร 4. มีการแก้ไขระเบียบการหรือดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันปัญหาลักษณะนี้ในอนาคต 5. หากเป็นไปได้ ช่วยชี้แจงด้วยว่าเหตุใดหนังสือตอบกลับถึงได้ผิดวิธีปฏิบัติของทางราชการ รวมทั้งใช้สำนวนภาษาที่ผิดวิสัยของหน่วยงานราชการ รวมทั้งเป็นหัวหน้าภาควิชาลงนามในหนังสือฉบันั้นจริงหรือไม่ 6. หากเป้นไปได้ก็ช่วยตอบด้วยว่าทำไมจึงปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปได้เกือบครึ่งปี ทั้งที่ไม่น่าจะใช้เวลาเนิ่นนานขนาดนั้น 7. จะทำอย่างไรกับจนท. ที่เสนอเงินช่วยค่าน้ำท่วม เพื่อเป็นการยุติข้อร้องเรียน จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:36:55

ความคิดเห็นที่ 2 เอกสารตอบกลับจากภาควิชา ลงนามโดยหัวหน้าภาควิชา จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:39:15

ความคิดเห็นที่ 3 รายละเอียดอื่น ๆ ติดตามได้ที่กระทู้นี้ กรณีเจ้าหน้าที่กายวิภาคศาสตร์ศิริราชหลอกเรียกรับเงินญาติอาจารย์ใหญ่ ยังไม่จบ จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:40:31

ความคิดเห็นที่ 4 เราว่าจบๆ ไปเถอะ เวลาพูดถึงศิริราช หรือหมอ ในทางไม่ดีทีไร เรารู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเราเคยเจอความเป็นความตายของพ่อเราอยู่ตรงหน้า แต่คณะแพทย์ท่านช่วยกันเต็มที่ เราระลึกถึงบุญคุณแพทย์ที่ช่วยชีวิตพ่อเราเสมอมา เราไม่อยากให้ใครต้องเจอแบบเรา แล้วค่อยเห็นถึงภาระอันหนักอึ้งของบุคคลากรในโรงพยบาลหรอก แต่ไม่อยากให้จิกกัดจนเป็นการบั่นทอนจิตใจคนในองค์กรสําคัญแห่งนี้ อีกอย่างเรื่องนี้คงได้รับการแก้ไขระดับนึงแล้วมังคะ จากคุณ : แบ่งฝัน....ปันรัก เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:34:03

ความคิดเห็นที่ 5 คห.4 เรื่องแพทย์ก็เรื่องนึง ที่นี่ได้รับใช้ เบื้องยุคลบาท น่าชมเชยยกย่องเป็นอย่างมาก แต่ เรื่องเจ้าหน้าที่ไม่สุจริต ก็เป็นอีกเรื่องนึง ที่ไม่ควรมองข้ามด้วยเช่นกัน ปัดกวาดซะ โทษเบาก็ตักเตือน ทำทัณฑ์บน หากยังผิดอีกก็โทษหนัก ให้ออก จากคุณ : พันละที เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:02:33

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นเป็นกระทู้แนะนำอยู่นานมากกก  แต่เห็นเรื่องยาวเลยไม่ได้อ่าน เพิ่งได้มาอ่านสรุปก็วันนี้ จนท หากินกับศพอย่างงี้เลยเหรอเนี่ย  มีโดนไปกี่รายแล้วน่ะ จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:16:28

ความคิดเห็นที่ 7 เคยคิดจะบริจาคร่างกายอยู่เหมือนกัน  แต่เคยเจอคนที่ทำงานรพ.  บอกว่าอย่าเลย  ถามก็ไม่ตอบ  หรือเพราะมีลับลมคมใน จากคุณ : pandapigy เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:17:33

ความคิดเห็นที่ 8 คห.4 อย่ามั่วเปลื่ยนประเด็น จากคุณ : issey kasawa เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:29:49

ความคิดเห็นที่ 9 @คห.4 หน้าที่ กับ การทุจริตไม่เหมือนกันนะครับ ถ้ามัวแต่มาหยวนๆให้เรื่องมันจบไป ไม่พูดถึง ไม่ได้รับการแก้ไข แล้วจะพัฒนาปรับปรุงได้อย่างไร เรื่องถูกต้องก็พูด เรื่องไม่ถูกต้องเสื่อมเสียเรายิ่่งต้องพูด จะปิดกั้นไปเพื่ออะไร ในหน่วยงานท่านมีแบบนี้มีเรื่องแบบนี้อยู่ จากคุณ : ถุงกระดาษเปื้อนน้ำตา เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:53:55

ความคิดเห็นที่ 10 อยากจะบริจากร่างกายเพื่อทำบุญก็ต้องคิดใหม่เดี๋ยวกลายเป็นสนับสนุนคนที่จ้องจะทุจริต ศิริราชเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่น่าให้มัวหมองเพราะปลาเน่าไม่กี่ตัวเลย อุตสาห์มีเรื่องแดงขนาดนี้ก็น่าจะจัดการให้ชัดเจนนะคะ เพื่อไม่ให้คนอื่นๆลดความนับถือลงไป และไม่ให้เกิดเรื่องนี้ซ้ำอีก ประชาชนเขาเชื่อถือ มั่นใจ ศรัทธา จึงยกร่างกายทั้งร่างมาเพื่อการศึกษา อย่าทำให้เขาหมดศรัทธาสถาบันเลย ใครเป็นตัวแทนสถาบันก็ออกมาแถลงข่าวแจ้งให้ทราบหน่อยดีมั้ยคะ หรือถ้าไม่จริงประการใดก็ควรออกมาชี้แจงด้วย คนอื่นๆจะได้ไม่เข้าใจผิด นี่เล่นรอให้ข่าวหายไปเอง ยังงี้จะดีเหรอคะ??? จากคุณ : คนรักศิริราช (อากาโต้) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:26:58

ความคิดเห็นที่ 11 แปลกใจที่ไม่รับคุณย่าของผู้ร้องเรียนเป็นอาจารย์ใหญ่ เพราะ เรื่องการปฏิบติงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าถูกหรือผิด ก็เป็นคนละเรื่องกับงานหลักของหน่วยงาน และไม่เกี่ยวกับความประสงค์ของผู้เสียชีวิต แม้จะเป็นญาติกัน แต่ปัญหาต่างๆเกิดหลังจากท่านสิ้นชีวิตไปแล้ว ท่านก็ไม่ได้รับรู้ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด ทั้งการปฏิเสธย่อมทำให้เสียความตั้งใจของผู้บริจาค และความรู้สึกของลูกหลาน ถ้าแยกพิจารณาได้ก็จะดีมากนะคะ อ่านข่าวเจอว่าทางมหาวิทยาลัยที่อยู่ต่างจังหวัดบางแห่ง ขาดแคลนอาจารย์ใหญ่ ต้องขอจาคจากส่วนกลาง เราไม่ทราบหรอกว่า ในร่างใดร่างหนึ่ง อาจให้ประสบการณ์ความรู้ที่ไปตรงกับการรักษาโรคที่สำคัญอะไรได้บ้างในวันหน้า ปฏิเสธไปหนึ่งร่าง แม้ดูน้อยนิด แต่อาจทำให้คนไข้เสียโอกาสในการรักษาอีกอย่างไรบ้าง เรื่องการที่ทายาทนำเรื่องนี้มาในเว็บบอร์ดสาธารณะ หากหน่วยงานทำตามหน้าที่ สอบสวนข้อเท็จจริง และแก้ปัญหาอย่างเป็นธรรม ก็เป็นการดีที่ได้แพร่ข่าวให้รับทราบกันไว ในวงกว้าง ผลดีจะเกิดแก่องค์กร ไม่มีโทษแต่อย่างใด ถ้ามีคนมาโพสต์ว่าพบเจอตำรวจทุจริต ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นกันทั้งองค์กร ทางกรมตำรวจยังมีหน่วยงานให้ประชาชนแจ้งร้องทุกข์ด้วยซ้ำไป หรืออย่างองค์การอาหารและยา (อย.) ก็มีทั้งเว็บและสายด่วนให้ประชาชนแจ้งเบาะแสความประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ webboard เป็นแค่ media ให้เราใช้เป็นทางผ่านเท่านั้น จากคุณ : Tigerprog เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:27:03

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าอยากบริจาคร่างกาย  แต่ไม่ไว้ใจศิริราช  ก็บริจาคที่อื่นได้นี่คะ   มันคงไม่เลวร้ายไปทุกโรงเรียนแพทย์หรอกมังคะ (บริจาคแล้วเหมือนกันค่ะ) จากคุณ : aicm เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:37:18

ความคิดเห็นที่ 13 พอจะได้อ่านคร่าวๆอยู่เหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ปีที่แล้ว วันนี้เจอกรณีที่สงสัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่การเงินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำให้บังเอิญเหลือเกินที่คิดถึงกระทู้เดิมอันนี้ ความเห็นส่วนตัวเราว่าไม่ควรมองข้ามจริงๆค่ะ. ความดีของแพทย์และบุคลากรดีๆของศิริราชถึงจะมีเป็นร้อยท่านแต่ก็ไม่สามารถเอามาหักกลบลบหนี้กับความผิดของใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ หากมีแต่คนเฉย ก็ทำให้คนพวกนี้หากินกันในทางผิดๆซึ่งไม่ได้เป็นผลดีกับโรงพยาบาล ไม่ว่าค่าใช้จ่ายใดๆที่โรงพยาบาลเห็นว่าคนไข้/ผู้ใช้บริการใดๆควรต้องจ่าย ก็ต้องบอกให้ชัดเจนและออกใบเสร็จให้ทุกกรณี ถือเป็นการรับรู้และยอมรับร่วมกัน ขนาดเซเว่นยังต้องออกใบเสร็จให้เราเลยไม่ว่าจะซื้อของกี่บาท แต่โรงพยาบาลไม่มีใบเสร็จในส่วนนี้แต่กลับบอกว่าเป็นการตกลงกันเองในกรณีต้องเดินทางไกลระหว่างญาติและเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปรับ ถ้าโรงพยาบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตและไม่ได้สนับสนุนให้ใครทำตามอำเภอใจ ก็ควรจะทำหนังสือระบุให้ผู้ต้องการบริจาคร่างกายทราบให้ละเอียดว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายไปเก็บกับญาติพี่น้องกี่พันกี่หมื่นบาท ระบุราคาเป็นกิโลเมตรเลยก็ได้และให้ญาติมาเซ็นรับรองเป็นพยานก็จะดี เพื่อที่คนต้องการบริจาคร่ายกายให้กับโรงพยาบาลจะได้ตัดสินใจถูกว่าเค้ายังจะต้องการทำบุญหรือ ตัดสินใจไม่บริจาคร่างกายเพราะเกรงจะสร้างค่าใช้จ่ายให้กับคนที่อยู่่ข้างหลังกันแน่ เพราะฉะนั้นการที่มีผู้ร้องเรียน เราคนหนึ่งล่ะทีเห็นด้วยว่าควรจะมีบทลงโทษสำหรับคนผิดค่ะ ปล่อยไว้ไม่ดี เพราะยิ่งจะทำให้ภาพรวมของศิริราชดูไม่ค่อยดีนัก กับการกระทำของคนแค่หยิบมือ จากคุณ : เฮ้าส์1 (เฮ้าส์1) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 22:08:35

ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ค่ะ บริจาคที่สภากาชาดไทยไว้นานแล้ว ทั้งร่างกาย ดวงตา และโลหิตทุุก 3 เดือน หากตกลงกันไม่ได้ ย้ายคุณย่าไปเป็นอาจารย์ใหญ่ที่โรงพยาบาลจุฬาได้ไหมคะ จากคุณ : Tigerprog เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 23:17:13

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพในความคิดเห็นที่ 2 สาบานว่านั่นคือหนังสือราชการ  T T จากคุณ : เมาฟรีออริจินั่ล เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 23:27:46

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับท่านที่ยังงงๆ อยู่  สงสัยว่าจะย้ายร่างคุณย่าไปที่อื่นได้ไหม ต้องบอกว่า ขณะนี้คุณย่า ได้เป็น "อาจารย์ใหญ่" สมตามเจตนารมณ์ที่สละร่างกายเป็นวิทยาทานแล้วครับ ทางเราได้ทราบเพราะทางภาควิชาทำหนังสือเชิญไปร่วมทำบุญ  แต่ก่อนหน้านั้นทางญาติๆ ก็ได้แต่ลุ้นว่าตกลงภาควิชาจะทำยังไงกับร่างคุณย่ากันแน่ เพราะไม่มีการติดต่อบอกกล่าวว่าทำยังไง จนจู่ๆ มีหนังสือมาบอกว่าคุณย่าเป็นอาจารย์ใหญ่แล้ว ดังนั้นเรื่องร่างคุณย่า ก็วางใจไปได้เปลาะหนึ่ง แต่สำหรับเรื่องการทุจริต การหลอกขายโลง การเรียกรับเงินแบบไม่โปร่งใส และมีการแก้ไขกฏระเบียบป้องกันหรือยังนั้น เรื่องพวกนี้ยังไม่จบครับ คำถามสำหรับคนที่คิดแบบ #4 คือ ถ้าคุณพบว่าหน่วยงานราชการมีการทุจริตกันเป็นขบวนการ พอตอนหลังเรื่องแดง หน่วยงานนั้นเลยมีการเยียวยาแก้ปัญหาบางส่วน  แต่ไม่ใช่ทั้งหมด การทุจริตยังอาจมีการกระทำต่อไป ใครก็ได้อาจตกเป็นเหยื่ออีก การแก้ปัญหาแค่บางส่วนนั้นเพียงพอแล้วสำหรับพวกคุณหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น การทำความดีกับคนอื่นจำนวนมาก แปลว่าบางครั้งเราสามารถทำเลวทรามกับบางคนได้ เพียงเพราะความดีมันมีมากกว่าความเลว ดีมามากแล้ว ขอเลวนิดหน่อยไม่เป็นไร แบบนั้นหรือ?  อยากอยู่ในสังคมแบบนี้รึ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 01:59:09 จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 01:57:43

ความคิดเห็นที่ 17 #4 คนละเรื่องกันครับ คนทำดีก็ต้องชื่นชม คนทำไม่ดีก็ต้องถูกติเตียนและลงโทษครับ แยกกันเป็นเรื่องๆไป ในแต่ละที่ก็ต้องมีคนดีคนเลวปะปนกัน เราต้องแยกคนเลวออกมาอย่าให้เข้าไปทำหน้าที่นั้นๆ ปล. ผมแปลกใจสังคมไทยอยู่อย่างนึง หน่วยงานไหมพอมีใครทำผิด แทนที่จะถูกลงโทษ กลับออกมาช่วยกันปกป้อง ทำแบบนี้เขาก็มองหน่วยงานนั้นในทางไม่ดีสิครับ... ไม่เข้าใจจริงๆ ถ้าเป็นญาติ-พี่น้องยังพอเข้าใจ แต่นี่แค่คนร่วมงาน ไม่ดีก็หาคนใหม่มาแทนได้ คนไม่มีงานทำยังมีอีกเยอะ.. จากคุณ : อิสสระ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 09:05:01

ความคิดเห็นที่ 18 ความเห็น 4 มีปัญหาตรรกทางความคิดนะ อ่านหนังสือเยอะๆ นะครับ จะพอช่วยได้บ้าง ขอสนับสนุนให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังครับ อย่าไปยอม การช่วยกันเป็นหูเป็นตากับความไม่ถูกต้องในระบบราชการ จะช่วยถ่วงดุลปัญหาทุจริตในองค์กรได้  และช่วยแก้ไขปัญหาลูบหน้าปะจมูกได้มาก อย่าไปคิดว่า ทำไปแล้วจะมีคนเสียกำลังใจ คนเสียกำลังใจ คนไม่พอใจ มีแต่คนที่ปฏิบัติราชการด้วยความไม่ชอบ ไม่ถุกต้องเท่านั้นแหละครับ โรงบาลนี้ ใหญ่มากจนมีปัญหาการบริหาร อย่าว่าแต่ปัญหาเล็กๆ ที่ยังไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจังในเรื่องนี้เลย ผมเคยเจอยิ่งกว่านี้ ซึ่งๆ หน้ากว่านี้ งงจนไม่อยากจะเชื่อว่าจะกล้าทำกัน  เพราะเป็นเรื่องที่ข้าราชการส่วนใหญ่ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย  ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิด แต่ก็กล้าทำกัน แถมทำกันซึ่งๆ หน้าด้วยซ้ำ แต่โชคมันยังดี ที่ตอนนั้นพวกผมยุ่งกันมาก จนไม่มีเวลาร้องเรียนเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เลยได้แต่แจ้งให้ผู้ใหญ่ต่างหน่วยงานที่ไปเป็นเจ้าของพิธีกรรมตรงนั้นทราบ ซึ่งก็เดาว่าท่านคงทำอะไรไม่ได้มาก ต้องปล่อยๆ ไป แต่เรียนตามตรงว่า ไม่แปลกใจกับเรื่องของ จขกท. เลยล่ะครับ ระบบใหญ่ คนจำนวนมาก การบริหารจัดการไม่ทั่วถึงและไม่เด็ดขาด ปัญหาแบบนี้ก็เลยเกิดขึ้นได้ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 14:48:29

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เข้าใจจะว่าคห.4ทำไม เค้าอาจจะใช้ความรู้สึกมากกว่าเหตุผลมากไปหน่อยก็เท่านั้นเอง คนที่ชี้แจงดีๆก็โอเคนะ แต่ที่จิกกัดแล้วด่าเค้าทำเพื่ออะไร?? -__- สรุปสังคมอินเตอร์เน็ตจะเห็นต่างไม่ได้ซินะ แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่าก็ต้องเอาผิดผู้ที่ทุจริตอยู่ดี จากคุณ : nuza555 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:15:03

ความคิดเห็นที่ 20 งง จะไปว่าคห.4เขาทำไม จากคุณ : เด็กน้อยหอยโข่ง เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:55:12

ความคิดเห็นที่ 21 เหมือนข้อความในคห.19 จะขัดกันอยู่ในตัวข้อความเองนะครับ -------- v v ถึงคห.23 คิดว่าคนอื่นคงเข้าใจความหมายของกระผม ผมขอไม่อธิบาย ให้ท่านกลับไปอ่านความเห็นของท่านเองว่ามันขัดแย้งกันอย่างไร แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 55 10:23:48 จากคุณ : ถุงกระดาษเปื้อนน้ำตา เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 21:44:14

ความคิดเห็นที่ 22 ผมอ่านแล้ว เค้าไม่ได้ว่า คห.4 นะครับ แต่เป็นการแย้งทางความคิดเท่านั้นครับ สัีงคมเราจะสร้างสรรค์ได้ก็แย้งกันด้วยเหตุ และ ผลครับ อย่าเอารมย์เป็นตัวตั้ง แบบ โต๊ะการเมือง นู้น ซึ่งไม่ทราบเขาคิดอะไรของเค้า หรือ กินแทนข้าวได้ก็ไม่รู้นะ จากคุณ : คน ไท เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 06:32:42 A:1.0.180.212 X: TicketID:286511

ความคิดเห็นที่ 23 คห.21 ขัดแย้งอย่างไรหรอครับ จากคุณ : nuza555 เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 17:41:03

ความคิดเห็นที่ 25 ติดตามมาตั้งแต่ต้น เห็นด้วยควรจะดำเนินการให้ชัดเจนกว่านี้ ไม่ควรมีการหากินแบบนี้ในสถานที่ราชการทุกๆที่ และทุกอาชีพ ถ้าไม่ช่วยกันก็จะทำให้ผู้ที่มีความตั้งใจดี เสื่อมเสียไปด้วย จากคุณ : penza เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 11:58:39

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องไม่เงียบหายแน่นอนครับ แต่ขอดูรายละเอียดก่อน ในทุกองค์กรมีทั้งคนชั่วและคนดีครับ ไม่เว้นแม้แต่โรงพยาบาลครับ จากคุณ : wichcha เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 11:58:41

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้ว เพิ่งรู้ว่าการบริจาคร่าง จะส่งผลทำให้ลูกหลานที่อยู่ข้างหลังลำบากโดยการเสียเงิน นึกว่า ทำบุญ ส่งเสริมนักเรียนแพทย์ได้มีฝีมือที่เก่งกล้า นึกว่า ไม่ต้องเสียอะไร แบบนี้ บอกคนอื่น อย่าบริจาคดีกว่า เดี๋ยวพวกลูกๆ ซวยกันเป็นแถบๆ มาหาเงินส่งศพอีก จากคุณ : niky02 เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 20:21:03

ความคิดเห็นที่ 28 ติดตามเรื่องนี้มานาน ได้แต่ถอนหายใจ ทำไมระบบจัดการคนผิดของศิริราชแย่ขนาดนี้เนี่ย อย่างงี้จะไว้ใจเรื่องอื่นได้ไง จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:49:36

ความคิดเห็นที่ 29 ยังติดตามอยู่ค่ะ ว่าทางศิริราช จะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร (ไม่ใช่แก้ตัวน่ะ) จะมีมาตราการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร จากคุณ : ของของเรา เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:26:23

ความคิดเห็นที่ 30 จากที่อ่านดูมันไม่เป็นข่าวใหญ่อาจเป็นเพราะ 1. ไม่ได้มีการฟ้องร้องกันถึงโรงถึงศาล ทางหัวหน้าภาคก็ไม่กล้าฟ้องเพราะมันชัดอยู่แล้วว่าเจ้าหน้าที่ทุจริตครับ ฟ้องไปก็แพ้อยู่แล้ว แล้วก็ไม่อยากเสียชื่อด้วย 2. จำนวนเงินที่มาเกี่ยวข้องไม่มากพอที่จะเป็นข่าวสำคัญ สื่อจะสนใจแต่ข่าวที่คิดว่าขายได้เท่านั้นครับ 3. หัวหน้าภาควิชาท่านนั้นอาจเส้นใหญ่และรู้จักคนมาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... ติดต่อหน่วยงานใดในโรงพยาบาลที่เกี่ยวกับเรื่องจ่ายเงินจ่ายทอง...ห้ามลืมขอใบเสร็จเด็ดขาด...ถ้าไม่มีใบเสร็จที่ถูกต้องให้จงโวยวายทันทีต่อหน้าผู้คนที่ไปติดต่อทำธุระนั่นแหละครับ ไม่ต้องไปอาย จะจับพนักงานที่ทุจริตคนใดต้องหน้าด้านกว่าพนักงานคนนั้นครับ อ้อ...ถ้าจะบริจาคร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่อย่านึกถึงแต่ศิริราชเท่านั้น โรงพยาบาลรัฐในประเทศไม่ได้มีแห่งเดียวครับ  บริจาคอาจารย์ใหญ่ให้โรงพยาบาลที่ต่างจังหวัดกันเยอะๆจะดีมากครับ หมอภูธรจะได้เก่งพอๆกับหมอนครบาลนะ มันช่วยเรื่องจราจรในกรุงเทพฯทางอ้อมด้วย คนจะได้ไม่แห่กันเข้ามารักษาในเมืองกรุงครับ จากคุณ : wichcha เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:30:43

ความคิดเห็นที่ 31 คห.30 ข้อ 3 ผมขอเถียงนะ 3. คนขับรถเส้นใหญ่กย่าหัวหน้าภาคฯ ท่านเลยไม่กล้ัาแตะต้อง.............!!! จากคุณ : เชื่อเหอะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 18:15:55 A:1.0.174.90 X: TicketID:286511

ความคิดเห็นที่ 32 ได้อ่านและเห็นกระทู้นี้มาตั้งนาน กระทู้นี้ก็ยังไม่ยอมยุติเสียที อาจมีบางคนก็พลอยที่จะดันกระทู้อยู่เรื่อย เท่าที่ได้อ่านมาตั้งแต่ตอนแรก และการตอบของทางภาค ฯ รพ.ศิริราช น่าจะพอทำความเข้าใจให้เจ้าของกระทู้ได้บ้าง แต่อาจไม่ถึงจุดที่พอใจของเจ้าของกระทู้ ที่ต้องการคำขอโทษและรับผิด จาก รพ.ศิริราช   ก่อนอื่นก็ขออนุโมทนาในความมีใจเป็นกุศล ของคุณย่าผู้วายชนม์ ที่อุทิศร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ศิริราช  แสดงถึงความเป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ มีใจกว้างดุจมหาสมุทร หวังให้การแพทย์ไทยก้าวหน้า  ขออนุโมทนาบุญให้คุณย่าผู้ประเสริฐ ณ ที่นี้ด้วย   ได้อ่านคำชี้แจงของทางภาคฯ รพ.ศิริราช ถึงกฏเกณที่จะรับศพ อาจารย์ใหญ่ จะต้องไม่เกินรัศมี บริเวณที่กำหนด ถ้าเกินก็จะไม่รับ แต่ฝ่ายผู้อุทิศร่าง ต้องการจะอุทิศร่างให้กับภาคฯ รพ.ศิริราช อย่างแรงกล้า เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของคุณย่า ทางภาคฯ รพ.ศิริราช ไม่ขัดข้อง และยินดียิ่งที่จะรับ  และให้รถไปใช้  แต่ทางภาคไม่สามารถออกค่าใช้จ่ายเรื่องคนขับรถและพนักงานอื่นรวมทั้งค่าน้ำมัน จึงให้ฝ่ายญาติผู้อุทิศร่าง พูดคุยตกลงเองกับผู้มาให้บริการ โดยทางภาคฯ รพ.ศิริราชไม่ได้รับรู้ไดๆทั้งสิ้น เพราะเป็นการทำงานนอกเขตบริการ เมื่อฝ่ายญาติได้ตกลงค่าบริการต่างๆเรียบร้อย  คนขับรถและพนักงานอื่นจึงได้มาทำการเคลื่อนย้ายร่างคุณย่า แต่อาจเห็นว่าญาติคุณย่าเป็นผู้มีชื่อเสียงทางสังคม ก็เลยเสนอว่าควรจะมีโลงเพื่อให้การเคลื่อนย้ายร่างคุณย่าดูดี มีเกียรติสมฐานะ ไม่ให้ประเจิดประเจ้อเกินไป หรืออาจต้องการมีรายได้ส่วนหนึ่ง ของผู้บริการ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถ ที่มีรายได้ค่อนข้างน้อย ก็น่าเห็นใจอยู่บ้าง เหมือนที่เราไปรับประทานอาหารตามร้าน บริกรก็อยากได้ทิบจากเรา เพื่อเป็นรายได้พิเศษ ทั้งหลายทั้งปวงทางภาคฯ รพ.ศิริราช ไม่มีส่วนรู้เห็นทั้งสิ้น  เมื่อเป็นเช่นนี้คนรถก็ไม่อาจออกใบเสร็จในนาม รพ. ศิริราชได้  ส่วนที่ให้เอารถออกมาใช้นอกราชการ ก็เหมือนหน่วยราชการทุกแห่งไม่ว่าเทศบาล อบต. อบจ. ราษฎรเดือดร้อนขอใช้รถจากองค์กรเหล่านี้ ก็อนุญาตให้นำไปใช้ได้ โดยจ่ายค่าคนรถและเติมน้ำมันเอง ซึ่งเป็นการบริการประชาชน   สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นการหาเศษหาเลย เบียดบัง ทุจริตในหน้าที่ของทางภาคฯ รพ.ศิริราช เมื่อมีเคสนี้ขึ้นต่อไปคิดว่าทางภาคฯ รพ.ศืรืราช คงไม่อนุญาตให้รถไปบริการนอกเขตได้   เห็นหลายกระทู้ที่บอกว่าตั้งใจจะอุทิศร่างให้กับ รพ.ศิริราช เมื่อเจอกระทู้นี้เข้า ก็เปลี่ยนใจ รังเกียจ ไม่อยากอุทิศให้กับ รพ.ศิริราชอีกแล้ว จะไปอุทิศให้กับที่อื่นนั้น  ก็คงไม่ได้เป็นปัญหาอะไร  ในความเป็นจริง ที่ผมรู้  มีโรงเรียนแพทย์หลายแห่ง ที่ไม่มีใครอุทิศร่างให้เลย แต่ก็ได้รับร่างอาจารย์ใหญ่ จากศิริราชบ้าง จุฬาบ้าง กาชาดบ้าง  เช่นแพทย์รังสิต ก็ได้รับร่างอาจารย์ใหญ่ จาก ศิริราช ดูจากสารคดี กบนอกกะลา  ซึ่งบางทีร่างอาจารย์ใหญ่ที่ศิริราช อาจจะให้ แพทย์จุฬา หรือ จากจุฬา อาจจะมาให้แพทย์ที่ ศิริราช ก็เป็นได้  และคิดว่าผู้อุทิศร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่  คงไม่มีใครกำหนดว่าต้องให้แพทย์ จุฬาเท่านั้น ห้ามไปให้ที่อื่น  หากผู้อุทิศร่างมีความคิดเช่นนี้จริง ก็อย่าได้คิดอุทิศเลย เพราะแสดงถึงความคับแคบของจิตใจ  จะเป็นบาปต่อกันเสียเปล่า   รพ.ศิริราช ได้สั่งสมชื่อเสียง ความดี มากว่าร้อยปี เป็นที่พึ่ง ของผู้เจ็บป่วย ทุกข์ทรมาณ จากโรคต่างๆ ทั่งประเทศ  เป็นปนิธาณอันยิ่งใหญ่ ขององค์พระปิตุลา ในรัชกาล ปัจจุบัน ที่ทรงทุ่มเทให้กับ รพ.ศิริราช  ต้องมาได้รับความมัวหมองจากเหตุการนี้  รอยบาปนี้คงไม่แต่ รพ.ศิริราช ได้รับ  แน่นอนวิญญาณคุณย่าก็หนีไม่พ้นจากบาปนี้เช่นกัน เพราะเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้    หลังจากมีเรื่องทางภาคฯ รพ.ศิริราช แจ้งว่า จะคืนศพและเงินให้กับญาติคุณย่า เพื่อต้องการให้เรื่องจบ ถามว่าประชดหรือไม่ คิดว่าใช่ส่วนหนึ่ง แต่อาจจะมาจากความกดดันของทางญาติคุณย่า จึงได้เสนอเช่นนี้  ซึ่งไม่ถูกต้อง  ควรหันหน้าพูดคุยกันดีๆ ไม่ควรประจาน อย่างที่ เจ้าของกระทู้ ได้กระทำ เพียงเพื่อต้องการเอาชนะเท่านั้น    นับเป็นเดชะบุญอันมีอยู่ของคุณย่า ร่างคุณย่าก็ได้เป็นอาจารย์ใหญ่สมดังตั้งใจ  ผมคิดว่าควรพอเถอะครับ  ถ้ายังไม่หยุด  ก็จงเหลียวมองถึงวิญญาณคุณย่าบ้าง คุณย่าต้องการสร้างบุญครั้งสุดท้ายของชีวิต ความตั้งใจอันประเสริฐสุดของคุณย่าครั้งนี้ อย่าได้กลับกลายมาเป็นบาปเลย ในช่วงชีวิตคุณย่า คิดว่าการบริจากทานหรือทำบุญของคุณย่า ครั้งละหมื่น หรือครั้งละแสน คงมีประจำตามจิตผู้มีใจเป็นกุศลเช่นคุณย่า   ผู้มีจิตใจอันประเสริฐนั้น เมื่อมีคนมาโกงหรือหลอก คงไม่ฟูมฟาย เหมือนปิ่มจะขาดใจ เมื่อเสียรู้คน หรือโดนลบเหลี่ยม  ปล่อยวางเถอะครับ คิดเสียว่าคนที่โกงเราเงินที่เขาได้ไป คงไม่ทำให้เขาดีขึ้นถ้าเราโกรธย่อมทำให้จิตใจเราเหมือนอยู่ในกองไฟ  อาจทำให้เราต้องสูญเสียในสิ่งดีๆที่มีค่ามากกว่าหลายเท่า จากที่ถูกโกงไป  ทำใจให้เป็นสุข ทำจิตให้ผ่องแผ้ว  คิดเสียว่าเงินที่ถูกโกง ร่วมทำบุญให้คุณย่า ถ้าให้ดีก็จงอย่าได้คิดว่าถูกโกงเลย ใจเราจะได้เป็นสุข   แน่นอนผมเชื่อว่า ภาคฯ รพ.ศิริราช ไม่ได้โกง และจะไม่โกง รพ.ศิริราช เป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีบุคลากร ที่มีคุณธรรม ที่เด่นดังทางการแพทย์ มีจรรยาบรรณ ที่ต้องการรับใช้ มวลมนุษย์ที่ทุกข์ยาก จากโรคภัย อยู่ทั่วประเทศ  จงอย่าให้วิญญาณที่สุดประเสริฐของคุณย่า ได้รับผลกระทบจากบาปกรรม ที่คนข้างหลังได้ก่อขึ้น มาแผ้วพานทางเดินสู่สวรรค์ของคุณย่าเลย สิ่งที่ผมเขียนขึ้นนี้ ถ้าไม่ถูกใจเจ้าของกระทู้ หรือผู้อื่น ผมยินดีน้อมรับและจะไม่ตอบโต้ไดๆ   ขออย่าให้กองไฟโกรธที่เป็นตราบาปอย่างมหันต์ ลุกโชนอีกเลย จะทำให้วิญญาณของคุณย่าไม่อาจอิ่มเอิบในบุญที่ได้ทำไว้   สุดท้ายอยากถามเจ้าของกระทู้  ในการไปร่วมงานฌาปนกิจ พระราชทาน ร่างคุณย่านั้น ในใจท่านยังเต็มไปด้วยความกังขาต้องการชนะ ต้องการคำของโทษ ต้องการการรับผิดจากภาคฯ รพ.ศืริราช อีกหรือไม่  ถ้าท่านยังต้องการ งานในวันนั้นคงไม่ได้เป็นงานบุญ แต่เป็นงานบาปสำหรับท่านเองอย่างแน่นอน ถ้าท่านคิดได้และอยากลบล้างบาปนี้ สิ่งดีที่สุดคือ  โปรดแสดงความรับผิดและขอโทษต่อภาคฯ รพ.ศิริราช เสีย เพื่อจะได้ลบรอยด่างให้กับภาคฯ รพ.ศิริราช และล้างความคิดผิดที่เป็นบาปในใจท่านให้กลับมาเป็นบุญ เพื่ออุทิศให้กับวิญญาณคุณย่า ที่อยู่ ณ สัมปรายภพ น้อมส่งดวงวิญญาณคุณย่าสู่สวรรค์ ผมไม่ได้เป็นคน รพ.ศิริราช แต่เคยได้รับการรักษาอยู่สองครั้ง ประทับใจในบริการ ความมีคุณภาพ อย่างมิรู้ลืม เท่านั้นเอง จากคุณ : pisutk เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 14:59:49

ความคิดเห็นที่ 33 จากที่คุณ pisutk ว่ามา สรุปคือเหตุทั้งหมดที่ยืดยาวมาจนป่านนี้เป็นเพราะทางญาติยังถือโกรธ และต้องการเอาชนะ คุณ pisutk แนะนำให้ปล่อยวางเสีย อย่าถือโกรธ อย่าต้องการการเอาชนะ ส่วนเหตุที่เกิดไปแล้วก็จงปล่อยไป จนท. จะไปหาเศษหาเลยอีกหรือไม่ก็จงทำใจยอมรับและปล่อยวางเสีย ศิริราชสั่งสมชื่อเสียงและเกียรติยศมานาน บุคคลากรจะหาเศษหาเลยบ้างก็ปล่อยวางเสีย อย่าได้ขุ่นข้องหมองใจให้เป็นอกุสล สักวันผลกกรมจะตามไปยังคนที่ทุจริตเอง จงปล่อยวางเสีย อย่าไปคาดหวังอะไรจากศิริราช เดี๋ยวคุณย่าจะไม่ได้บุญ ซ้ำจะเป็นบาปเสียอีกที่เพราะคุณย่าเลยทำให้หลาน ๆ ต้องมาทุกข์ใจ จบ ๆ เรื่องไปซะ เดี๋ยวคุณย่าจะไม่ได้บุญ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจที่คุณ pisutk ว่ามาได้ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ครับ หากไม่ถูกต้อง หรือเข้าใจคลาดเคลื่อนไป ขอความกรุณาช่วยให้ความกระจ่างด้วย สำหรับผมแล้ว ผมไม่ใช่ญาติครับ ผมเป็นเพียงคนที่พบเห็นการทุจริตที่เกิดขึ้นในองค์กรอันทรงเกียรติ และผมก็เคยหลงเชื่อว่า ศิริราชจะมีเกียรติมากเกินกว่าจะปล่อยให้มีการหากินทุจริตในองค์กรของตนได้ และผมก็เคยหลงเชื่อว่าในศิริราชมีคนดีอยู่เป็นจำนวนมาก มากจนคนดีเหล่านั้นจะไม่ยอมให้คนไม่ดีเข้ามาหาเศษหาเลยกับศิริราชได้ แต่ตอนนี้ความเชื่อผมได้สั่นคลอนไปแล้ว หากองค์กรนี้มีเกียรติจริง เหตุใดจึงปล่อยให้เรื่องการทุจริตภายในองค์กรเงียบหายไปโดยไม่เข้ามาจัดการ คนดี ๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากหายไปไหนหมด ถึงปล่อยให้คนในองค์กรทุจริตอยู่ได้เนิ่นนาน ถ้าจะบอกว่าเพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ งั้นก็แสดงว่าคนที่มีอำนาจหน้าที่เป็นคนไม่ดีกระนั้นหรือ แล้วเหล่าคนดี เหตุใดจึงปล่อยให้คนไม่ดีเข้ามามีอำนาจหน้าที่ในการจัดการปัญหาทุจริตได้ เห็นเรื่องการทุจริตเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วปล่อยไป สุดท้ายก็จะชินชา เมื่อนานเข้าความชินชาก็จะเป็นเพิกเฉย และเห็นการทุจริตเป็นเรื่องธรรมดา คุณอยากให้ค่านิยมนี้ติดอยู่กับสังคมสืบต่อไป เพียงเพราะขอแค่ฉันสบายใจ ไม่เอาการเห็นการทุจริตมาเป็นอารมณ์ ใครจะทุจริตก็ปล่อยไป ไม่ใส่ใจ ไม่เอามาเป็นธุระให้ขุ่นข้องใจก็พอแล้ว แบบนั้นผมทำไม่ได้ครับ องค์กรระดับนี้ แต่ยังไม่มีสติปัญญาแก้ไขปัญหาแค่นี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม สมควรแล้วหรือไม่ที่จะใช้ชื่อของศิริราชให้เสื่อมเกียรติที่สั่งสมมานานให้ด้อยลงไปตาม จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 17:26:05

ความคิดเห็นที่ 34 เกือบจำไม่ได้แต่กดโหดให้แล้วครับ จากคุณ : สิบทัพ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 16:04:31

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องแบบนี้ จากคุณ : ยกนิ้วให้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 07:57:29 A:122.155.36.237 X: TicketID:361461

ความคิดเห็นที่ 36 # 33      ถึงคุณ   เหนื่อยนักก็พักก่อน      ขอชื่นชมคุณที่มีอุดมการแน่วแน่  ในการต่อต้านการทุจริต ซ่ึงสอดคล้องกับทาง กทม. ที่รณรงค์โครงการณ์  โตไปไม่โกงติดป้ายทั่ว กทม. ขณะนี้  ความเชื่อมั่นที่มีต่อ รพ.ศิริราช ของคุณ ได้สั่นคลอน เมื่อคุณได้พบเห็นการทุจริตของ รพ.ศิริราช ด้วยตัวเอง และบอกว่า รพ.ศิริราช มีคนดีๆมาก ทำไมไม่ลงมาจัดการปัญหานี้ ปล่อยให้มีการทุจริตอยู่ต่อไปได้อย่างไร  ผมก็อยากรู้ว่าหลักฐานที่ทำให้คุณเชื่อว่า รพ.ศิริราช ทุจริต มาจากกระทู้บอกเล่าของหลานคุณย่า หรือมีเคสอื่นอีกหลายๆเคส  รพ.ศิริราช มีอายุกว่าร้อยปี  แน่นอนต้องมีผู้บริจากร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่กับรพ.ศิริราช  เป็นหมื่นๆร่าง แต่ผมยังไม่เคยได้ยินว่ามีการฟ้องร้อง  หรือกล่าวหาว่าทาง รพ.ศิริราช ทุจริตกับเงินศพเลย  ถ้าหากคุณมี ควรนำมาบอกกล่าวบ้าง     การรับร่างคุณย่าทางภาคฯ รพ.ศิริราช ได้แจ้งแล้วว่าอยู่นอกเขตบริการ แต่ยินยอมให้นำรถยนต์ของทางภาคฯ รพ.ศิริราช มาใช้ เพราะเป็นการบริการประชาชน  ถ้าหากสิ่งนี้คุณคิดว่าเป็นการทุจริต  แล้วทางญาติคุณย่าได้ตกลงกับคนขับรถเป็นจำนวนเงินตามที่ตกลงกัน  มิเท่ากับญาติคุณย่าเป็นผู้ส่งเสริมให้มีการทุจริจหรอกหรือ  แล้วคุณรู้หรือว่าทาง  ภาคฯรพ.ศิริราช ได้รับเงินจำนวนนั้นไป  การที่คนขับรถได้เสนอขายโลงศพ  แล้วทางญาติคุณย่าตกลง  หลังจ่ายเงินไป  แล้วฉุกคิดว่าแพงหาว่าคนขับรถของ ภาคฯ รพ.ศิริราช หลอก เพราะไม่มีใบเสร็จรับเงินออกให้  ซึ่งความเป็นจริงทางญาติคุณย่าก็รู้อยู่แล้วว่าไม่เกี่ยวกับ ภาคฯ รพ.ศิริราช เลย แล้วคนขับรถจะเอาใบเสร็จรับเงินจาก รพ. ศิริราช ให้ได้อย่างไร  จำนวนเงินที่จ่ายไปนั้น  ทางหลานคุณย่าคงเสียดาย ก็เป็นลักษณะนิสัยของคนตระหนี่ ก็คงไม่มีใครว่าอะไร ถ้าหากญาติคุณย่าไม่เอาโลงศพ  คนขับรถคงไม่สามารถบังคับได้ แล้วนี้เป็นความผิดของทาง ภาคฯ รพ.ศิริราช หรือ  ทางญาติคุณย่าไม่ได้ศึกษาเลยหรือ ว่าการเคลื่อนย้ายศพ ควรทำอย่างไร ถ้าไม่มีโลงศพ ทางคนรถก็ต้องเคลื่อนย้ายร่างคุณย่า ด้วยเพียงผ้าคลุมร่างวางไว้กับพื้นรถ  ก็คงเป็นที่พอใจหลานคุณย่าเป็นแน่    ส่วนที่ทางภาคฯ รพ.ศิริราช แจ้งว่ายินดีคืนเงิน และจะออกใบเสร็จให้ ฯลฯ ผมกลับคิดว่านี้เป็นการแสดงออกถึงความรักองค์กร  ไม่อยากให้มัวหมอง เจ้าหน้าที่จะต้องเป็นผู้ควักเงินตัวเองออกมาจ่ายให้กับญาติคุณย่า  แล้วยังต้องออกเงินส่วนหนึ่งจ่ายให้กับภาคฯ รพ.ศิริราช ด้วยตามใบเสร็จรับเงิน และแน่นอนใบเสร็จรับเงินก็คงต้องเขียนเป็นการบริจาก จากญาติคุณย่า จะออกเป็นค่าโลงศพคงไม่ได้เพราะทางภาคฯ รพ.ศิริราช คงไม่มีโลงศพขาย มิเท่ากับทางญาติคุณย่าได้รับทั้งเงิน  และทั้งชื่อ ว่าเป็นผู้บริจาก   เพียงเพื่อต้องการให้เรื่องจบไป    การทุจริต คอรับชั่น ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่  ล้วนเป็นสนิมร้ายที่กัดกร่อนองค์กร ให้ล่มสลายได้ ถูกต้องเราไม่ควรส่งเสริม  รพ.ศิริราช จากอดีต ถึงปัจจุบัน ได้พัฒนาตัวเอง จากการบริหาร ที่มุ่งมั่นของบุคลากร รพ.ศิริราช  รองรับคนไข้ทั่วไป  ทุกระดับ ทั้งที่ได้รับงบประมาณต่อหัวจากรัฐน้อยมาก แต่ยังสามารถพัฒนาศักย์ภาพทางการแพทย์ และสร้าง ตึกใหม่ๆตลอดมา ถ้าหากการบริหารที่ไม่โปร่งใส ก็คงไม่สามารถทำให้ผู้คนศรัทธา บริจากเงินให้ ถึงได้ก้าวมาถึงจุดนี้ได้     เพราะฉะนั้นคำกล่าวหาที่ว่า รพ.ศิริราช ทุจริต  จึงเป็นคำกล่าวห่ที่หนักมากๆ สำหรับ รพ.ศิริราช ถ้าหากคุณมีหลักฐานตามที่คุณบอกว่า เห็นกับตัวของคุณเองจริง  คุณควรนำไปยื่นให้  สตง. หรือ ปปช. เพื่อให้มาตรวจสอบ หรือคุณเพียงได้อ่านกระทู้ของหลานคุณย่า คุณก็เชื่ออย่างหมดจิตหมดใจว่าเป็นจริง คำกล่าวหาที่ไม่จริง ไม่ม่หลักฐานต่อ รพ.ศิริราช  นั้น จะเป็นตราบาปที่ลบไม่ออกตลอดชีวิต  ของคนที่คิดร้ายต่อ รพ.ศิริราช ตลอดไป เมื่อคุณเชื่ออย่างฝังจิตฝังใจว่า รพ.ศิริราช ทุจริต ในเวลานี้ถ้าหาก รพ.ศิริราช จะออกมาบอกว่าไม่พบการทุจริตใน ภาคฯ รพ.ศิริราช ก็คงยากที่จะลบล้างความเชื่อคุณ และหลานคุณย่า รวมอีกหลายๆคนที่เชื่อเช่นนั้น      ผมต้องขอบอกอีกครั้งว่า ผมไม่ได้เป็นคนของ รพ.ศิริราช ผมอยู่ห่างจากศิริราช มากกว่าห้าร้อย กม. ไม่ได้เป็นแพทย์ หรืออะไรทั้งสิ้นกับ รพ.ศิริราช นอกจากเคยเป็นคนไข้ เท่านั้น สิ่งที่ผมเขียน ที่ผมคิดนี้ อาจกระทบต่อ รพ.ศิริราชบ้าง ผมก็ต้องขออภัยด้วย ผมไม่มีเจตนาร้ายต่อ รพ.ศิริราช เลย  เพียงแต่ที่ออกมาเขียนนี้ เพราะไม่สะบายใจต่อผลที่ รพ.ศิริราชได้รับ อย่างไม่ค่อยเป็นธรรม ถ้าหากผมเขียนผิด คิดผิด เชื่อผิด ผมยินดีน้อมรับความผิดและกล่าวคำขอโทษ ณ ที่นี้ด้วย  เช่นกันคุณแน่ใจหรือว่าไม่เคยโกงใคร  ไม่เคยทุจริต  ไม่เคยหลอกใคร  แม้แต่การหลอกตัวเอง       ความจริงผมยังไม่เหนื่อย  แต่ก็ขอพักก่อน  มีโอกาสจะกลับมา จากคุณ : pisutk เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 10:14:49

ความคิดเห็นที่ 37 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 11:39:53

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องนี้ที่เงียบมาได้นาน เพราะไม่มีคนโดนกระทบโดยตรงมังคะ ลองดูว่าจะร้องเรียนระบุตัวบุคคลไปที่ใครได้ดีไหมคะ เอาเรื่องเป็นคนๆไป ไม่งั้นทุกคนอาจคิดว่า ก็ไม่ใช่หน้าที่ชั้น ส่วนคนที่ทุจริตและควรรับผิดชอบก็นิ่งเนียน จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 17:20:00

ความคิดเห็นที่ 39 เรียนคุณ pisutk 1. ตรงไหนครับ ที่ผมบอกว่า ร.พ. ศิริราชทุจริต ไม่มีเลยนะครับ กลับไปอ่านใหม่ได้เลยครับ หาดูให้ดี ตั้งใจจับผิดตรง ๆ เลยก็ได้ หามาว่าตรงไหนที่ผมบอกว่า ร.พ.ศิริราชทุจริต ทุกครั้งจะบอกเสมอว่า มีบุคลากรของศิริราชทุจริต แต่คนในองค์กรยังเพิกเฉยไม่ใส่ใจ ระบุชัด ๆ ถึงขนาดว่าบุคลากรหน่วยงานไหน ภาควิชาอะไร แล้วผมไปบอกว่าศิริราชทุจริตที่ตรงไหน เมื่อไหร่ อย่างไร อย่ามามาทำนิสัยใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นแบบนี้ครับ อ่านดี ๆ หัดอ่านแล้วจับใจความให้ได้ อย่าให้ต้องถึงขั้นต้องสอนวิธีการอ่านเพื่อจับใจความในกระทู้นี้เลยนะ 2. ไม่ทราบว่าคุณได้ติดตามอ่านเรื่องราวจนครบถ้วนแล้วหรือไม่ เพราะถ้าคุณติดตามอ่านเรื่องราวอย่างครบถ้วนแล้ว คุณจะพบคำตอบที่คุณถามมา และได้ทราบว่าคุณเองกำลังแสดงความไม่รู้ออกมาพอสมควร ขออนุญาตไม่ทวนให้นะครับ เพราะผมและท่านอื่น ๆ ได้ชี้แจงและตอบประเด็นเล่านี้ไปมากพอสมควรจนเบื่อจะแย่แล้ว ชี้แนะให้อีกนิดว่า ถึงขนาดอาจารย์หมอที่เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ในตอนต้นยอมรับออกมาเองว่ามีการทุจริตแบบนี้อยุ่เนือง ๆ ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้คิดไปเองแบบบางความเห็นที่รู้น้อย แต่พยายามแสดงความไม่รู้โดยการคิดไปเองออกมา ลิงค์ต้นเรื่อง ข้อมูลต่าง ๆ ก็ลงไว้ให้แล้ว ศึกษาด้วยตนเองบ้างนะครับ 3. อ้อ ย้ำอีกทีนะครับ รบกวนอ่านความเห็นแรกตรงหัวกระทู้ใหม่ด้วยนะครับ สิ่งที่คุณว่ามานั้น ทางญาติและผู้เกี่ยวข้องได้ทำไปแล้วครับ อย่าให้อคติบังตา จนอ่านหนังสือน้อยกว่าค่าเฉลี่ยที่คนไทยอ่านกัน 4. คุณเองบอกว่าทางญาติร้องเรียนเพราะมีอุปนิสัยตระหนี่ คุณมีหลักฐานอะไรครับ คุณอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือไม่ตอนที่ตกลงไปรับร่างคุณย่า คุณทราบได้อย่างไรว่า จนท. กับญาติตกลงเรื่องค่าเดินทางค่าโลงศพอย่างไร ในเมื่อคุณไม่ทราบ คุณไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ แล้วคุณไปนึกฝันเอาเองได้อย่างไร ว่าญาติยอมจ่ายแล้วมาเสียดายเงินในภายหลัง ไม่ทราบ ก็กรุณากลับไปอ่านรายละเอียดบ้างนะครับ อย่าปล่อยให้อคติที่คุณมี มาบดบังการค้นหาความจริงจนกลายเป็นอคติบังตา กรุณากลับไปอ่านให้ครบถ้วนเถอะนะครับ จะได้ไม่ต้องแสดงความไม่รู้ออกมาให้คนอื่นเห็นแบบนี้ เหตุผลตอนแรก ๆ ดูเหมือนจะดูดี แต่พอความเห็นที่ 36 ก็แสดงให้เห็นแล้วนะครับว่าไม่รู้จริง แต่ก็คิดเป็นตุเป็นตะไปเอง ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด เป็นแบบนี้นี่เอง อ้อ ปล่อยวางซะบ้างนะครับ อย่าให้อารมณ์โกรธ อารมณ์อยากแสดงภูมิ มาทำให้จิตใจต้องเศร้าหมอง จนถึงขนาดต้องแสดงความไม่รู้ออกมาต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้ จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 17:56:23

ความคิดเห็นที่ 40 ความคืบหน้าล่าสุดครับ เผื่อคนไม่รู้แต่พยายามแสดงว่าพอจะมีความรู้บางคนจะเกิดความรู้จริงขึ้นมาบ้าง จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 18:09:36

ความคิดเห็นที่ 41 ... ครับ ... ครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 09:57:54

ความคิดเห็นที่ 42 ผมติดตามเรื่องนี้มานานพอสมควรแล้วครับ จนมาถึง ณ วันนี้ผมมองได้ว่า มันมีส่วนที่จบไม่ได้ 2 ประการดังนี้ 1.ทางคุณ deerja กับทาง จขกท. ไม่จบเรื่องง่าย ๆ ซึ่งทำให้เรื่องราวมันไม่จบเสียที ทำให้เรื่องราวมันคาราคาซังกันแบบนี้(จบแบบนี้คือจบแบบไม่สวย คือยังมีคำถามคาใจที่ไร้คำตอบออกมา) 2.ทางหน่วยงานไม่ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะชนว่า ได้ดำเนินการเรื่องราวนี้อย่างไร (อันนี้คือจบแบบสมบูรณ์) ขอออกความเห็นแค่นี้ครับ จากคุณ : jatuchai (jatuchai) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 18:17:40