ความเดิม ดาราวลีเป็นลูกสาวโนราห์ดวงดาว เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ โดยอาศัยบ้านอาประเทือง
กับอาเดือนเต็ม ซึ่งมีลูกสาวชื่อตวงพร ครอบครัวของอาประเทืองสนิทกับครอบครัวคุณสุรีย์ ที่มีลูกสาว
ชื่อพรศิริ คุณสุรีย์แต่งงานใหม่กับนักธุรกิจ มีลูกชายคนหนึ่งคือพีรวิชญ์ เมื่อสองครอบครัวสนิทสนมกัน
ช่วงปิดเทอม ดาราวลีกลับบ้านต่างจังหวัด ทั้งสาม ตวงพร, พรศิริ และพีรวิชญ์ จึงเดินทางมาเที่ยวพร้อมกันนี้ด้วย
คัดมาจากช่วงท้ายตอนที่แล้ว
หนุ่มหล่อที่มาด้วย หน้าตาดีเชียะ มีแฟนยังหนะ
ฮั่นแน่ สนใจหละสิ เขาเป็นพี่ของน้องของเพื่อนอีกที ลียังไม่รู้จักเขามากนัก ขัดผู้ใหญ่ไม่ได้ เลยต้องให้ตามมานี่แหละค่ะ
ฮิฮิ ปลื้มใจชะม้ายตามองชายหนุ่ม หน้าตาดี ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน ซึ่งกำลังสนใจช่วยตาบดเม็ดถั่วเขียวอยู่ด้านในใต้ถุนบ้าน
เอาไว้มาใหม่ ปลื้มใจเอียงไหล่มากระทบไหล่สาวน้อยเบาๆ ดาราวลียิ้มตอบรับ
ลีว่าจะไปน้ำตกร้อน พาเด็กๆ ไปเล่นน้ำ ยังไงจะโทรหาก่อนไปนะคะ
จ้า พี่หยุดอีกทีราวๆ ปลายเดือนโน่นแหละ
สวัสดีค่ะพี่ ปลื้มใจปล่อยมือจากดาราวลี เดินไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ ยกมือบ้ายบายแล้วเลี้ยวออกไป |
|
|
เชิญติดตามตอนต่อไปได้แล้วค่ะ
***************************
เย็นวันเดียวกันนั้นเอง บนโต๊ะอาหาร ทุกคนนั่งในโต๊ะเกือบครบ ยกเว้นพ่อเมืองแมนที่ออกไปทำงานที่
สวนตั้งแต่เช้า และบอกว่าจะค้างที่สวนเนื่องจากมีปัญหาเรื่องน้ำมากต้องช่วยกันระบายน้ำก่อนที่จะท่วม
ผักไม้ในสวน
ขณะที่กำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ตาเทพซึ่งทำท่าจะอิ่มอยู่แล้ว
รวบช้อน โบกมือให้ดาราวลี ลุกไปรับสายด้วยตนเอง
ฮาโล้
อ้อ หยา ผรือหนะ ตาเทพรับโทรศัพท์ นายสัญญาที่มาติดต่อให้ดาราวลีไปรำโนราห์นั่นเอง
เปลี่ี่ยนแผน ? ทุกคนหยุดชะงัก หันมามองตาเทพรวมเป็นจุดเดียว
อ่อ... อื่อ .. อื่อ...หม้ายไร้หนิ เดี๋ยวตาคุยกับหนูลีเอง อื่อ.. อื่อ.. แค่เน้หนะ
ตาเทพวางหูโทรศัพท์ แล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม ดาราวลีอิ่มทันที รวบช้อนวาง แล้วมองตาเทพ ซึ่งพยักหน้า
หงึกหงักๆ
สูหว้าเปลี่ยนแผนหลาว (สูบอกว่าจะเปลี่ยนแผน)
ค่ะ
บังเอิญแขกที่มาร่วมงาน นอกจากจะเป็นงานวันเกิดผู้ใหญ่ที่สำคัญตามที่สูว่าแล้ว จะมีแขกฝรั่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่
สำคัญของกระทรวงวัฒนธรรมมาด้วย ที่ลูกจะไปรำเจ็ดแปดนาที จะต้องเตรียมบทร้องไปและเตรียมคำบรรยายเป็น
ภาษาอังกฤษด้วย
อืม.. แล้วทำไงดีหละตา ตากับแม่กับหนูด้วยดีกว่าค่ะ
ไม่ผรือไหร้ลูก ไม่ฉ่ายไม่เคยแสดง ก็เหมือนงานโรงเรียนลูกนั่นแหละ แค่เตรียมงานกันก่อน ลูกก็ร้องก่อนรำเดี๋ยว
ตาจะวางแผนให้
ค่ะ
งั้นตาไปบนบ้าน กินข้าวเสร็จตามกันไปนะ ตาจะเขียนแผนว่าทำไงกันดี
ค่ะ พูดจบตาเทพเดินขึ้นเรือนไปดุ่มๆ
แม่ดาวคะ หนูเคยดูวีซีดีที่พี่ลีรำสวยมากเลยค่ะ แม่ดาวเป็นแม่ครูโนราห์ เมื่อไหร่หนูจะมีโอกาสได้ดูหละคะ
ครูดวงดาวยิ้มอย่างเอ็นดู
แม่ไม่ได้รำนานแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงถ่ายทอดให้รุ่นลูก รุ่นหลาน ได้สืบสานวัฒนธรรมไทยภาคใต้ของเรา
เอาไว้ให้ยืนยาว และแม่ก็หวังนะว่าจะคงอยู่ตลอดไป อื้ม แล้วพวกเรารู้ไหมว่าโนราห์ในซีดีที่พี่ลีเขารำ กับโนราห์
ที่แม่รำไม่เหมือนกันนะ
อ้าว จริงหรือคะ หนูไม่รู้เรื่องโนราห์เลยค่ะ ถึงรู้ความรู้ก็แค่หางอึ่ง แม่ดาวเล่าให้พวกหนูฟังได้ไหมคะ
เอาสิ กินข้าวกันให้อิ่ม เดี๋ยวให้พี่ลีไปเตรียมงานกับตา แล้วเราไปขึ้นเรือนไปนั่งคุยกันตรงชานฝั่งโน้นแล้วแม่จะ
เล่าให้ฟัง
เย้..แม่ดาวใจดีจังค่ะ ตวงจะตั้งใจฟังค่ะ เผื่อสักวันตวงจะได้มีโอกาสไปเล่าต่อให้ใครสักคนฟัง เป็นการถ่ายทอด
ตวงอาจจะรับจากแม่ได้ไม่เต็มร้อย แต่ตวงก็ตั้งใจค่ะ ตวงเคยได้ยินพ่อกับลุงคุยกัน ทั้งคู่ภูมิใจในครอบครัวของเรา
มากค่ะ
จ้ะ พรศิริยิ้มเอียงคอมองอย่างชื่นชม แม่ครูดวงดาวยิ้มสวย ประทับใจ เครื่องหน้าที่งดงามของแม่ดวงดาว
ตกทอดมาถึงพี่ลี โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำตาลเข้ม เวลายิ้มฉายมาพร้อมแววตาจริงใจ ใครได้เห็นก็แทบจะตกหลุมรัก
ทันทีที่พบจริงๆ สายตาเธอมองเลยไปถึงพี่ชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม สายตาของพี่วิชญ์ก็กำลังจับจ้องที่ดวงหน้าพี่ลี
แปลกจังหัวใจของพรศิริกระตุก ทำไมหัวใจมันเสียวแปล้บอย่างบอกไม่ถูกอย่างนี้นะ
*~*~*~*~*~*~*~*~*~
[ยังมีต่อค่ะ]