เล่ห์รักโนราห์ ตอนที่ ๙
..
อีกหละ ไม่เคยมีข้อมูลอะไรเลย เป็นเด็กเป็นเล็กก็รู้กว้างขวางได้ถ้าอ่านเยอะๆ แล้วหัดจำซะมั่ง
ไม่ใช่มัวแต่แช้ท กับเล่นเฟสบุ้ค พรศิริกับตวงพรประสานเสียงพร้อมเพรียงต่อให้ ดาราวลีซึ่งจะกลายเป็นแม่แก่ขึ้นเพราะต้องเลี้ยงน้องหัวเราะ
ก็รู้นี่นะ
ฮี่ฮี่ พี่ลีก็ เอาไว้ตวงจะขยันๆ จะได้เ่ก่งแบบพี่ลี
ขยันก็ได้กับตัวเอง ไม่ใช่ได้ตามอย่างพี่ พี่ไม่ใช่คนเก่งสักหน่อย
เอ้อ แ้ล้วทำไมต้องทำขนาดนั้นหละพี่ ทำไมต้องเอาใจฝรั่ง พรศิริถามย้ำอีกที พีรวิชญ์เลยนั่งฟังเงียบๆ ต่อไป จริงๆ คำถามของเขาก็ไม่ได้ถูกละเลยนี่นะ
จะว่ากันตามจริง ก็เพราะวัฒนธรรมไม่ควรมีเส้นขวางกั้น เราอยากให้การรำโนราห์เผยแพร่ไปไกล ไกลเท่าไหร่ยิ่งดี พี่ดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย ชาติหนึ่งนี้อยากทำอะไรเพื่อประเทศชาติบ้าง แม้จะเล็กน้อยก็เถอะ การรำมโนราห์เป็นศิลปะอย่างหนึ่งของชาติไทยเรา เผยแพร่แล้วมีผลดีกับประเทศ พี่ก็เต็มใจทำ เรื่องภาษาอังกฤษนี่ จริงๆ แล้วทำกันตั้งแต่เรียนที่วิทยาลัย เพราะเรามีนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วย อาจารย์เป็นคนแนะนำอีกที คำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษก่อนจะรำ หรือแจกเป็นใบแทรกนี่มีมาตั้งแต่สมัยพี่เรียน
ก็แสดงว่าวิทยาลัยพี่มีนักเรียนแลกเปลี่ยนแปลให้ด้วยเหรอคะ พรศิริถามต่อ
เพื่อนนักศึกษาด้วย เพื่อนที่เป็นฝรั่งที่พี่พูดถึงเมื่อกี้ด้วย ภาคภาษาอังกฤษปรับแต่งกันมาหลายรอบจนตกลงใช้อันปัจจุบันที่แทรกในสูจิบัตรของงานนี้นั้นแหละ แม้ว่าเสียงดนตรี ฉิ่ง ทับ กรับ กลอง และท่ารำ ไม่มีความแตกต่างในชาติภาษา หากคนดูรู้เรื่องความเป็นมาสักนิด เอาไปเล่าต่อได้ ว่ามโนราห์คืออะไร ก็เท่ากับเราสำเร็จในการเผยแพร่
อื้ม..ก็ดีเหมือนกัน รู้ลึก รู้จริง จะได้ไม่เผยแพร่ผิดๆ คนสมัยนี้หายากที่จะชอบศิลปะพื้นบ้านอย่างจริงจัง ได้ข่าวว่าแม้ลูกโนราห์เอง ไม่สนใจสืบทอดก็มีเหมือนกัน เสียงพีรวิชญ์แทรกมาอีก แม้เขานั่งไกลๆ แต่พูดให้ได้ยินชัดเจน
ค่ะ มีบ้าง ในดีมีเสีย ในเสียมีดี ในส่วนของคนที่ไม่ใช่ลูกหลานโนราห์มาก่อนก็สามารถมาหัด มาเรียนได้ แต่ตามประเพณีของเรา หากบ้านไหนเป็นโนราห์ มักจะมีผู้สืบทอดอย่างน้อยหนึ่งคนต่อทายาททุกรุ่นไป สมัยก่อนโนราห์มักเป็นชาย ต่อมาเป็นหญิงก็ได้เหมือนกันค่ะ
พูดกันถึงเรื่องภาษา การสื่อสาร การดูแบบรู้ลึกรู้จริง ศิริจำได้หละ พี่ทำตามหนึ่งในหลักการชมนาฎศิลป์อย่างมีความสุขใช่ไหมพี่ ถ้าคนดูรับรู้ในสิ่งที่พี่ลีจะนำเสนอ เขาก็อาจจะสนุก ตื่นเต้น ลุ้นตามไปด้วย เหมือนคนเราดูกีฬาถ้าไม่รู้กติกาก็ไม่สนุก แต่ถ้าเรารู้กติกา เราก็ตื่นเต้น ลุ้นตามไปด้วย
อื้อ..เก่งที่จำได้
พี่ลีแต่งตัวเสร็จหรือยัง เราต้องรออีกนานไหมคะ
เวลาของพี่ อยู่ในรายการแสดงที่ห้า ประมาณสี่ทุ่มกว่า นี่เพิ่งจะสองทุ่ม เบื่อแล้วรึ
ก็ไม่เชิงค่ะ แล้วพี่ลีไม่อึดอัดหรือคะ แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศแบบนี้
ชินแล้วจ้ะ
จริงๆ ตวงก็ไม่รู้จักโนราห์สักเท่าไหร่ แถมความจำก็สั้น พี่ลีแก้เบื่อให้เราโดยการแนะนำเครื่องแต่งกายบนตัวได้ไหมคะ สวยๆ ทั้งนั้นเลย ตวงพรนั่งอมภูมิอยู่นานเผยความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาบ้าง
คุณวิชญ์หละคะ เบื่อไหม ถ้ารออยู่ในนี้ ออกไปเดินเล่นข้างนอกก็ได้นะคะ ไปหน้างานก็ได้มีการแสดงชุดอื่นๆ ก่อนที่ลีจะแสดงหลายชุดอยู่นะ น้องๆ จะได้ถ่ายรูปไปอวดเพื่อนด้วย รบกวนพาน้องไปได้ไหมคะ ดวงตาคมกริบฉายความรู้สึกออกมาไม่ปิดบัง โนราห์สาวแก้มร้อนวูบ
อะ งั้นเดี๋ยวค่อยไปก็ได้ มาดูกันที่วางอยู่ตรงโน้นคือมงกุฏโนราห์กับอุบาทัดหู ไม่ใช่ที่เราเห็นในเน็ตนะ เคยเสริชเข้าไปดูไหมหละ ว่าเครื่องแต่งการโนราห์มีอะไรบ้าง เด่นๆ เลยจะเห็นว่ามีเทริด เขียนยังไงรู้มั้ย
ค่ะ เห็นเขียนเป็น สระเอ ทอ รอ อิ ดอ เหมือนว่าว่า เทริด เลยค่ะ อ่านผิดตั้งนาน
เซิด ไม่นิยมให้นางรำใช้ เขาจะใช้กับนายโรง หรือโนราห์ใหญ่ ตัวยืนเครื่อง พี่ยังเป็นเพียงนางรำ ก็เลยจะใช้มงกุฎโนราห์อย่างนี้
สวยมากเลยพี่ แต่โนราห์มีครูใช่ไหม จับเล่นไม่ได้
ใช่ สัมผัสบางอย่างคนไทยเราถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วของบนศรีษะ อย่างโนราห์เราก็มีครู การจะเป็นโนราห์ได้ต้องผ่านการครอบครูก่อน ไม่ใช่สักแต่สวมมงกุฎ รำท่าโนราห์ก็เป็นได้
อืม..ค่ะ
ตรงที่คอเขาเรียกอะไรคะพี่
กรองคอจ้ะ นี่ต้นแขน กำไล ปีก หาง เข็มขัด รัดเอว
สวยจังนะคะ สวยไหม หันมาถามคนข้างตัว
ส้วย พี่น้องตระกูลพรพูดพร้อมๆ กัน ออกสำเนียงใต้
ขอบใจ โนราห์ดาราวลี ออกเสียงสั้นๆ ฟังไม่ทันไม่รู้ว่าประชด แต่หางตาที่ตวัดค้อนมาฉับยืนยันอย่างนั้น
พี่ลี ตวงพรลากเสียง
พี่ลีเช็คข่าวแผ่นดินไหวมั่งหรือเปล่า ตวงกลัวสึนามิ
ทำไม ดาราวลีทำหน้างงๆ
ตวงรู้สึกเหมือนพื้นมันไหวโคลงเคลงๆ
ใช่ๆ ศิริก็เป็นค่ะ พี่วิชญ์กับพี่ลีไม่รู้สึกเหรอ
ดาราวลีหันไปสบตากับพีรวิชญ์ เขาอมยิ้มแก้มตุ่ย เธอเลยเผลอปล่อยเสียงหัวเราะคิก อย่างกลั้นไม่อยู่ พีรวิชญ์ยิ้มเดินมาใกล้ๆ เขาเอื้อมมือมาผลักหัวน้องสาว เธอทำท่างง แถมยังเอียงตัวไปมาเพื่อยืนยันว่าโลกมันโคลงเคลงจริงๆ ให้ดู
แม่เมรี เขาว่า
อะไรเมรี ไม่เข้าใจค่ะ มุขอะไรอีกหละ ลึกไป หนูไม่เข้าใจ พรศิริหยุดท่าโคลงเคลง มาทำหน้ามุ่ย
แบบเนี้ยเขาเรียกอาการเมาค้าง
เมาค้าง เมาอะไร ไม่เม๊า ไม่ได้ดื่มเหล้่า พี่วิชญ์นี่ยังไง ก็อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ว่าน้องได้ไง คนเป็นน้องเถียงคอเป็นเอ็นเลยหละ ดาราวลียิ้มอย่างเดียว
เคยไปไหนมา้บ้างศิริ ตวง
เที่ยวหรือคะ ตวงพรถาม งง ไปด้วย
ฮื่อ
เที่ยวหลายที่เกือบทั่วไทย แล้วไม่เคยไปเมืองนอกค่ะ
นั่นสิ ไปหลายแห่ง พี่ลีถามทำไม
แล้วเคยนั่งเรือข้ามทะเล นานเป็นชั่วโมงๆ แบบนี้ไหม พีรวิชญ์ถาม ทั้งสองสั่นศรีษะ แล้วนึกอะไรขึ้นได้ ต่างชี้นิ้วชี้ไปที่อีกฝ่าย
เมาเรือ เสียงดังประสานกันก้องคับห้อง
ฮ่าๆๆๆๆ เสียงหัวเราะประสานกันดังกว่าเก่า
โรส..เมรีขี้โก๊ะ ตวงพรพูดกลั้วหัวเราะ ชี้ไปที่พรศิริที่กำัลังหัวร่องอหาย จำตอนที่ออกไปยืนหัวเรือทำท่าแจ็คกับโรส เลียนแบบภาพยนตร์ไททานิคกันสองคน
รู้สึกสนุก เรือโต้คลื่นยกขึ้นสูงแล้วดิ่งวูบลงมาเหมือนเล่นไวกิ้งที่สวนสยาม สนุกกันสุดเหวี่ยง ดาราวลีหรือพีรวิชญ์มาเตือนก็ไม่ยอมเลิก บอกว่าไม่เป็นไร
เล่นกันอยู่นาน จนพอใจ จึงกลับมานั่งเหมือนเดิม ตอนนั้นลมพัดมาปะทะใบหน้าเย็นสดชื่น และยังโชคดีที่วันนี้เมฆครึ้มบังแดดให้ จนออกมานั่งเล่นตรงหัวเรือพร้อมกับฝรั่งนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่หวังอาบแดดแต่ก็ไม่ได้มีแดดให้อาบ มีแต่อาบลมอย่างเดียว
[ยังมีต่อค่ะ]