"โห....'จารย์ มาถึงก็สั่งรายงานเลยเหรอ?" เสียงโอดครวญนั้นดังระงมไปทั่วห้อง ทำเอาคนสั่งทำนึกขำ
"จะได้รู้ลึกไงครับ"
"แล้วรายงานเรื่องอะไรเหรอคะ?" มิรันตีคงจะเป็นคนเดียวที่ยกมือขึ้นถามด้วยความกระตือรือร้น
"ก็เรื่องนาคนี่แหละครับ...หากนาคสร้างเมือง...แล้วต้องล่มเมืองที่ตัวเองสร้างมากับมือ คุณคิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดไหน....เคียงฟ้าช่วยตอบหน่อยครับ"
หญิงสาวสะดุ้งเฮือกทำไมวิมุตติต้องเจาะจงถามเรื่องนี้กับหล่อน ทั้งที่มิรันตีที่นั่งอยู่ข้างเคียงแสดงท่าอยากตอบคำถามถึงขนาดนั้น
"ก็....เพราะเขาเป็นคนสร้างถ้าจะพังทิ้ง เขาคงคิดว่าเป็นสิทธิ์ของเขามั้งคะ? ในเมื่อเขาเป็นเทพเหนือเมืองอยู่แล้ว จะทำยังไงก็ได้!!"
"หือ?....เหตุผลง่ายๆ แค่นั้นเหรอครับ? ถ้าสมมติว่าเราสร้างประติมากรรม ขึ้นมาสักชิ้น เราคงต้องรักและภูมิใจกับมันใช่ไหมครับ แล้วจะทุบทิ้งกันง่ายๆ แบบนั้นเลยหรือ?"
"ได้สิคะ....ถ้าของชิ้นนั้นไม่ถูกใจเทพอย่างเขาแล้ว ถ้าปั้นมาแล้วไม่สวยก็คงอยากทำใหม่มากกว่า เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย" หล่อนตอบด้วยใบหน้าที่เริ่มบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ
"ขยายความมากกว่านั้นได้ไหมครับ? "
"ก็แค่...คงจะมีคนในเมืองนั้นทำอะไรไม่ถูกใจพญานาคสักอย่าง เขาก็แสดงอิทธิฤทธิ์ให้รู้ไปเสียบ้างว่าใครใหญ่"
"ฟังดูเหมือนอันธพาลเลยนะครับนั่น" วิมุตติจ้องหน้าหล่อนด้วยสีหน้าคาดไม่ถึง ก่อนจะเสไปถามคนอื่นบ้าง
"แล้วคนอื่นๆ ล่ะครับคิดว่ายังไง?"
"น่าจะมีเหตุผลมากกว่านั้นนะฮะอาจารย์ แค่ไม่ถูกใจแล้วพังเมือง...มันดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย" นักศึกษาชายคนหนึ่งตอบออกมา แล้วตามด้วยนักศึกษาหญิงอีกคนหนึ่ง
"ตามคำโบราณสงสัยต้องเกิดอาเพศอะไรสักอย่างมากกว่า"
"ตอบได้ตรงประเด็นดีครับ อาเพศ คือ รหัสนัย ที่เราต้องค้นหาไงครับ คนโบราณนั้นแทนสิ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นการกระทำของธรรมชาติ อาเพศนั้นคือการเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นมาจากการทำผิดข้อห้ามธรรมเนียมประเพณีอันเป็นวัตรปฏิบัติ ในปัจจุบันเราก็ยังเชื่อเรื่องพวกนี้กันอยู่ แต่เราแทนคำว่าอาเพศด้วยคำว่าความผิดอื่นๆ ไปแล้ว ตรงนั้นแหละที่ผมอยากให้วิเคราะห์เจาะลึก Myths ของพญานาคที่มีผลกับ Culture ของผู้คนในสมัยโบราณอย่างไรบ้าง"
"โห.......'จารย์ ทำไมมันยากอย่างนี้ล่ะ"
"สิ้นเทอมค่อยส่งก็ได้ครับ ยังมีเวลาให้ค้นหาคำตอบอีกนาน ตำนานมีส่วนสำคัญกับประวัติศาสตร์มันมักจะอิงมาจากเรื่องจริงเสมอ แต่เมื่อเล่ากันปากผ่านปากแบบ spread widely จึงถูกเพิ่มเติมเข้าไปจนเหนือจริง ผู้สร้าง ผู้รักษา ผู้ทำลาย จึงเป็นนัยยะของตัวแทนสมมุติแบบรหัสนัย นาค เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นกษัตริย์ เป็นชายคนรัก ใน Myths อาจจะเป็นคนๆ เดียวกัน เมื่อเป็นบุคคลจึงมีเหตุผลและอารมณ์ความรู้สึก เรื่องจึงมีเบื้องลึกมากกว่านี้....คงไม่ใช่เหตุผลแค่ว่าเขามีนิสัยอันธพาลหรอกนะครับเคียงฟ้า"
คนถูกเรียกชื่อนิ่วหน้าไม่ยอมสบตา แต่เพื่อนรอบข้างพากันขบขันหล่อนกันเป็นแถบ มิรันตีเองก็คิดว่าหล่อนอายที่ถูกตำหนิแบบนิ่มๆ เช่นนี้ มิได้เข้าใจว่าหญิงสาวไม่อยากฟังคำอธิบายเรื่องพวกนี้ จิตสำนึกของหล่อนคัดค้านสิ่งที่วิมุตติกำลังพยายามนำเหตุผลมาอ้าง หากไม่ติดว่านี่เป็นชั่วโมงเรียนแล้วล่ะก็หล่อนคงลุกหนีไปดื้อเป็นแน่ๆ เคียงฟ้าเองไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร ในใจจึงมีปฏิกิริยากับเรื่องเล่าพวกนั้น ราวกับว่ากำลังถูกใครบางคนขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตมาต่อว่าหล่อน พอหมดคาบเรียนปุ๊บหญิงสาวก็รีบผุดลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้องไปก่อนใครเพื่อนโดยไม่สนใจคนรอบข้าง หรือแม้กระทั่งสายตาของอาจารย์คนใหม่ที่มองมายังหล่อนเลยสักนิด
'ภูวิษะ...เห็นท่าคงอีกนาน...กว่าเทวีของท่านจะยอมรับฟัง' วิทยาธรเทพในร่างอาจารย์เห็นเข้าก็ทอดถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กับถ้อยรำพึงในใจ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 22
ความกังวล
หญิงสาวเฝ้าเพียรถามตนเองว่าเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อใด ที่สายตาตนเองเฝ้าจับจ้องมองกิริยากุสุมาลย์พระพี่เลี้ยงร่วมน้ำนมของตน นับแต่วันที่เคียงฟ้าฝันถึงคืนวิวาห์ของมหิตาเทวีและเจ้านาคราชจำแลง เวลาล่วงผ่านเลยไปอีกหลายเดือน แม้แต่เป็นแค่เพียงความฝัน แต่ดวงจิตกลับซึมซับเอาความรู้สึกของพระธิดาแห่งจุมภะปุระไว้ในใจตนทั้งหมด ยามที่อยู่ในความฝันความสงสัยทั้งปวงรวมทั้งตัวตนของหล่อนแทบจะถูกหล่อหลอมไปรวมกับมหิตาเทวี ความฝันในคืนนี้ก็เช่นเดียวกัน
"ทำอะไรน่ะพี่กุสุมาลย์" หล่อนถามถามออกไป แม้จะคาดเดาเอาไว้บ้างแล้วก็ตาม
"กำลังคัดดอกไม้สำหรับล้างพระบาทภูวิษะเจ้าเพคะ" หญิงงามแห่งตำหนักในตอบโดยทูลตามตรง มิได้ล่วงรู้ถึงความรู้สึกเคลือบแคลงในทรวงพระเทวีเลยแม้แต่น้อย