เฟริสกำลังนั่งยอง ๆ บนพื้น และเขียนอะไรบางอย่าง
เขียนว่า 'เธอช่วยโคอาล่าแปดหมื่นหกล้านสี่ร้อยสี่ตัว ที่ปีนขึ้นต้นไม้ไปสูงเกินจนลงมาไม่ได้ไว้ด้วยนะ สุดยอดเลยใช่ไหมล่า ! (ตรงสุดยอดเลยใช่ไหมล่า ช่วยใส่อารมณ์นิดนึง)' เขามองข้อความบ้าบอพรรค์นั้นอยู่
ในที่สุดไลเนอร์กับเฟริสก็มาเจอกันตรงนั้นเอง
"......เอ่อ"
และแล้ว เขาก็พูดขึ้นมา ขณะจ้องมองด้านหลังของสาวสวยเจ้าปัญหาที่อยู่ตรงหน้าด้วยตาที่ลืมอยู่ครึ่งเดียว
พอพูดขึ้น เธอก็หันกลับมาด้วยสีหน้าตกใจเหลือแสนราวกับจะพูดว่า เจอแล้วเรอะ !? และเหมือนอยากจะพูดอะไร แล้วก็หยุด แล้วก็เหมือนอยากจะพูด แล้วก็หยุดอีก จนสุดท้าย
"บะ บังเอิญจังเลยนะ ไลเนอร์ ฉันเองก็เพิ่งมาถึงร้านนี้เหมือนกัน"
"......เห"
"ละ แล้ว เรื่องที่คุณลุงพูดตะกี๊น่ะ นายได้ฟังอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับฉันแล้วสินะ ?"
"......อ่อ ก็ได้ฟังอยู่......"
"คะ คิดว่าไง ? ฉัน…….ฉันที่นายคิดไม่ถึงน่ะ…ฉัน เป็นยังไงบ้างล่ะ ?"
ใบหน้าตื่นเต้นที่กำลังถามว่านิยายของฉันเป็นยังไงบ้าง ทำเอาไลเนอร์รู้สึกเอือมระอาหนักกว่าเดิม
คำตอบของคำถามนี้ ก็คงมีแค่ มันงี่เง่าไร้สาระยิ่งกว่าที่คิดซะอีกเท่านั้นแหละ แต่ขืนตอบไปแบบนี้ ได้โดนฆ่าเห็น ๆ เขาจึงตอบด้วยน้ำเสียงทื่อ ๆ
"......เอ่อ......อา~ อืม เอาเหอะ นั่นแหละ เรื่องที่เธอเป็นคนอ่อนโยนมากนั่นน่ะ ฉันรู้แล้วล่ะ ไม่สิ แปลกใจมากเลยล่ะ"
เขาตอบโดยข่มน้ำเสียงไม่ให้เสแสร้งเอาไว้แทบตาย
และแล้ว
"จะ จริงเหรอ ! จริงใช่ไหม ! จริงสินะ ! ฉันเป็นคนดีสินะ ! หุหุหุ"
เฟริสดีใจมากทีเดียว ใบหน้าของเธอบ่งบอกว่าดีใจมาก
ด้วยเรื่องขี้ปะติ๋วแค่นี้ถึงกับดีใจซะมากมาย
"............"
ไม่สิ เธอไม่ค่อยแสดงสีหน้าออกมาเท่าไหร่หรอก คนอื่นอาจจะมองว่าเธอไม่ได้ดีใจอยู่เลยสักนิดเดียว ถึงอย่างนั้นไลเนอร์ก็มองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอออก
ตอนนี้หน้าของเธอ กำลังแสดงความรู้สึกสนุกสนานมากทีเดียว
ไลเนอร์มองหน้าเธอ เขายังอยากจะต่อว่าเธอสักเล็กน้อย
"............"
แต่ก็ไม่ทำ
เขานึกอยากจะพูดว่าตอนนี้ใช่เวลามาล้อเล่นอะไรแบบนี้หรือไง แต่......เขาก็คิดว่า ด้วยเรื่องงี่เง่าไร้สาระพรรค์นั้น เธอถึงกับดีใจมากขนาดนี้ งั้นก็ช่างมันเถอะ
ก็เพราะตั้งแต่ได้เจอเธอ เธอไม่เคยแสดงสีหน้าแบบนี้เลยสักครั้ง
ครั้งแรกที่เจอเธอ ใบหน้านั้นไร้อารมณ์เหลือเกิน น้ำเสียงเองก็เรียบเฉยอย่างกับตุ๊กตา
นี่คงจะเป็นผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่เธอเติบโตมา
เพราะเป็นน้องสาวของปีศาจที่ชื่อว่าลูซีลนั่น
ไม่สิ ไม่ใช่เพราะแค่นั้น เป็นเพราะตระกูลที่ผิดมนุษย์มนาของเธอด้วย ตระกูลของเธอ----ที่ถูกเรียกว่าตระกูลนักดาบ
ครั้งแรกที่ไลเนอร์ได้พบเธอ เธอไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตา
ตุ๊กตาที่แข็งแกร่งผิดปกติ
สำหรับคนทั่วไปแล้ว เจ้าของความแข็งแกร่งระดับนั้น คงไม่ต่างอะไรกับปีศาจ
และเธอที่ยังอ่อนเยาว์ แต่กลับมีพลังแบบนั้นก็ย่อมจะต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปบ้างอยู่แล้ว
ในกรณีของเธอ คือความรู้สึก สีหน้า และรอยยิ้ม
แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่ในประเทศนี้มากมาย และในสถานที่ที่เมื่อก่อนไลเนอร์เคยเข้าไปอยู่ ก็คล้ายสถานที่แบบนี้
ครั้งหนึ่งในจักรวรรดิโรแลนด์อันคลุ้มคลั่งแห่งนี้ มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเยอะแยะ
คนที่บ้าคลั่งไปจากการฝึกที่ผิดปกติและการทดลองมนุษย์ ไลเนอร์ได้เห็นมามากมาย
มีอยู่สองทาง ไม่ตายก่อนจะคลุ้มคลั่งไป ก็อยู่รอดไปจนบ้าคลั่ง
และเธอก็มีชีวิตรอด
แต่ก็แลกด้วยการสูญเสียอารมณ์ความรู้สึก
"............"
และขณะนี้เธอที่น่าจะสูญเสียความรู้สึกไปแล้ว ก็หัวเราะอย่างมีความสุขอยู่ตรงหน้า
เรื่องที่เธอหัวเราะอย่างมีความสุขนั้น ไลเนอร์เองก็ดีใจ
บางทีอาจจะคาบเส้นก็ได้
ไลเนอร์คิดว่าเธออาจจะคาบเส้นระหว่างมีความรู้สึกกับไม่มี หรือ คลุ้มคลั่งกับไม่คลุ้มคลั่งก็ได้
เหมือนกับที่ไลเนอร์เองก็เลิกหวังในทุก ๆ สิ่ง
เธอปิดผนึกความรู้สึกอย่างแน่นหนา
แต่ใบหน้าของเธอในยามนี้ แม้จะแสดงความรู้สึกแค่เพียงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรก็กำลังหัวเราะ
เธอคือสาวสวยเจ้าปัญหาที่ไร้สีหน้า ไร้อารมณ์ ชอบดังโงะ และไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร
ตุ๊กตาที่น่าจะไร้ความรู้สึก
แต่นับวันความรู้สึกในตัวเธอก็ยิ่งก่อตัวเพิ่มมากขึ้นทุกที ไลเนอร์รู้สึกอย่างนั้น
นับตั้งแต่วันที่ได้ใช้เวลาด้วยกันกับเขา
นับตั้งแต่วันที่ได้ใช้เวลาด้วยกันกับชิออน
นับตั้งแต่วันที่ได้ใช้เวลาที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเหมือนคนบ้าด้วยกันสามคน
และไลเนอร์ก็ยังคิดอีกว่า
ไลเนอร์คิดว่าเป็นเพราะชิออน
เขาคิดว่าชิออนเองก็ได้ช่วยเฟริสไว้
เพราะคนที่แนะนำเฟริสให้กับเขาก็คือชิออน
คนที่ดึงเฟริส ดึงไลเนอร์ที่อยู่ในความมืดมิดมาตลอดขึ้นมาก็คือหมอนั่น
"............"
ปกติเรื่องแบบนี้ไม่มีวันจะหลุดออกมาจากปากเขาแน่ ๆ เรื่องทั้งหมดนั้นราวกับไลเนอร์ฝันไป
ตั้งแต่ได้พบชิออน
ตั้งแต่ได้พบเฟริส
ตั้งแต่ได้อยู่ด้วยกันกับเจ้าพวกนั้น ช่วงเวลาเหล่านั้นสนุกมากจนคิดว่าฝันไป
ทุก ๆ วันโดนชิออนยัดเยียดงานมากมายให้ทำจนแทบบ้า เฟริสก็เอาแต่ใจ ถึงจะรำคาญเจ้าพวกนั้น แต่ถึงยังไง ถึงแม้จะแค่นิดหน่อยแต่ก็คิดว่าสนุก
ถึงจะถูกกวนใจหลายต่อหลายครั้ง แต่จำนวนครั้งที่เจ้าพวกนั้นได้ช่วยเยียวยาหัวใจก็มีมากกว่า ไลเนอร์คิดเช่นนี้
"............"
ในวันฝนตกที่ชิออนบอกว่าจะฆ่าไลเนอร์
ไลเนอร์ก็สิ้นหวังอีกครั้ง
ด้วยนิสัยปกติที่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็เห็นว่าน่ารำคาญก็เลยล้มเลิกไปซะทุกอย่าง
ถ้าถูกหมอนั่นฆ่า
ถ้าถูกเพื่อนคนที่เคยช่วยเหลือตนเอาไว้ฆ่าตาย เขาก็คิดขึ้นมาทันทีว่าจะให้ตายตรงนี้ก็ย่อมได้
ก็อย่างฉันมันไม่มีค่าพอจะมีชีวิตอยู่นี่นา แถมยังได้ฝันดีนิดหน่อยซะด้วย แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ
ก็เป็นแบบนี้เสมอแหละ สิ่งสำคัญน่ะ ตัวฉันที่เป็นปีศาจคงจะเอื้อมมือไปไม่ถึง ก็เลยเลิกหวังมันเสียแต่เนิ่น ๆ
แต่ ณ ตรงนั้น มีบางอย่างแตกต่างจากเมื่อก่อน
ในหัวมีคำพูดของเฟริสผุดขึ้นมา
ในที่ที่ปกติน่าจะสิ้นหวัง ก็มีใบหน้าของเธอผุดขึ้นมา
และเธอก็พูด
พูดต่อปีศาจที่ไม่มีค่าพอจะมีชีวิตอยู่ ปีศาจสกปรกที่มีแต่จะทำให้คนอื่นเจ็บปวด เธอหันหน้ามาและพูด
แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 22:50:09