แต่ผมคิดว่า หากพระพุทธเจ้า ฟื้นกลับมาได้จริง (ข้อสมมติฐาน อีกแล้ว..ครับทั่น)
คิดว่า พระพุทธเจ้าจะหาวัดอยู่ไม่ได้นะครับ เพราะไม่มีใครต้อนรับพระองค์ !!!
ขอยกตัวอย่าง (อีกแล้ว ครับทั่น)
.....พระพุทธองค์เสด็จมา โดยที่ยังไม่มีใครรู้จัก แล้วเสด็จเข้าไปในวัดใหญ่ ๆ วัดหนึ่ง ใน กรุงเทพ
เด็กวัดเห็นเข้า ก็นิมนต์พระองค์ไปพบเจ้าอาวาส ที่นอนตีพุงอยู่ในห้องแอร์...เจ้าอาวาสงัวเงียลุกขึ้นมา ก็ถามว่า...จอ. = เจ้าอาวาส .... พ. = พระพุทธเจ้า)
จอ. ...ท่านมาจากไหน?
พ. ...มาจากป่า ธุดงค์มา จะขอเข้าพักอาศัยจำวัดที่วัดนี้
จอ. ..อืม...ท่านเป็นพระจากนิกายไหน ห่มจีวรก็ดูแปลก ๆ อยู่น่ะนะ ?
พ. เรา ไม่มีนิกายหรอกนะท่าน
จอ. ห่มจีวรก็แปลก พูดก็แปลก เฮ้อ...เอ่อ ตกลง ท่านเป็น ธรรมยุติ หรือมหานิกาย?
พ. อย่างที่เรากล่าวแล้ว เราไม่มีนิกายใด ๆ
จอ. ท่านเป็นพระไทยหรือเปล่า (ประมาณว่า จะถามว่า..คนไทยหรือป่าว?) ท่านเป็นมหายานล่ะม้าง มาจากจีน อินเดีย ธิเบต หรือเปล่า ถิ่นนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นมหายานนะ
พ. เราไม่มีนิกาย
จอ. (ชักยั๊วะ) เอ..พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว
เจ้าอาวาส นึกตำหนิอยู่ในใจ ประมาณว่า "...หน๋อย เราเป็นถึงเจ้าอาวาส มีสมณศักดิ์เป็นถึง สมเด็จพระราชาคณะ แต่พระรูปนี้ ไม่ให้เกียรติเรา แถมยังมาพูดอะไรกวน ๆ วกวน ต่าง ๆ นานา แบบนี้ เดี๋ยวเราจะต้องหาทางไล่ไปให้พ้น ๆ ดีกว่า...." จึงพูดต่อไปว่า..
จอ. อืม...วัดนี้ ไม่มีกุฏิว่างหรอกนะ พระเณรที่อยู่ที่นี่ ก็ส่วนใหญ่เป็นพระนักเรียน และพระที่บวชนาน ๆ มีพรรษาสูง ๆกันทั้งนั้น ....
พ. พระที่นี่เรียนอะไรหรือ ?
จอ. ก็เรียนทั้งอภิธรรม เรียนทั้งปริยัติธรรม และปริยัติสายสามัญ (เพื่อเอาปริญญาทางโลก) พระที่อาวุโส ก็ทำงานศาสนา ซึ่งก็มีการสงเคราะห์ฐาติโยม เช่น เจิมป้านรถยนต์ เจิมร้านค้า สวดพุทธาภิเษก เสกเป่า และประพรมน้ำพุทธมนต์ สวดภาณยักษ์ สวดสะเดาะเคราะห์ สวดปัดรังควาน สวด ......บลา บลา บลา ฯลฯ
(เจ้าอาวาส มัวแต่นั่งหลับตานับนิ้ว เรื่องพิธีกรรมต่าง ๆ ยังบอกไม่ทันหมด ลืมตาขึ้นมาอีกที พระอาคันตุกะ ก็หายไปแล้ว)
ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหล่ะครับ พระพุทธองค์ คงไม่ได้รับการต้อนรับ อย่างดีแน่ ๆ
และที่แน่ ๆ พระองค์ คงจะต้องทรงโปรดที่จะหลีกเร้นไปจากพวกสาวก ที่นอกรีตนอกรอยแบบนี้เสียก่อนที่จะต้องคอยฟัง จำนวนพิธีกรรม ที่เพิ่มขึ้นมา นับร้อย นับพัน ในศาสนาของพระองค์ ที่สาวกของพระองค์ เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา เพื่อหาลาภสักการะ