อีกขั้วหนึ่งคือขุนนางที่ต่อต้านโรแลนด์ ซึ่งเล็งเห็นว่าการที่โรแลนด์รวบราชอาณาจักรเอสตาบูลเข้ามาจนกลายเป็นประเทศใหญ่นั้นอันตราย ขั้วนี้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยองค์ชายอันดับหนึ่งของกษัตริย์เนลฟี่ เพื่อขยายอำนาจของตน และจากการที่กษัตริย์กรีด เนลฟี่ ล้มป่วยลง หากโรแลนด์ไม่ชิงโจมตีเข้ามาก่อน ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจอ้างนามของราชานำกองทัพบุกลงทางใต้เพื่อรุกรานโรแลนด์
นั่นคืออำนาจที่ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ระหว่างสองขั้วนี้ ผู้นำของฝ่ายไหนนะที่ตัดสินใจยอมแพ้
เอาเถอะ เดาได้ไม่ยากหรอก
"กรีด เนลฟี่ ยอมแพ้แล้วเหรอ ?"
คลอธก์พูดจบ ชูสก็พยักหน้า
"ครับ ถึงจะชราภาพแล้ว แต่ยังไงก็เป็นกษัตริย์ที่สามารถฟื้นฟูอาณาจักรเนลฟาขึ้นมาใหม่ได้ภายในหนึ่งชั่วอายุคนนะครับ"
"ถึงได้เข้าใจกำลังรบของโรแลนด์ได้ในทันที และรับรู้ว่ามันเป็นการนองเลือดที่ไร้ประโยชน์ ช่างเป็นกษัตริย์ที่ชาญฉลาดจริง ๆ"
"ครับ"
"งั้น สงครามนี้ก็จบแล้วล่ะนะ"
คลอธก์พูดแบบนั้น แต่หน้าก็ไม่ผ่อนคลายความตึงเครียดลง
"แต่ ก็มีข่าวร้ายด้วยใช่ไหม ?"
ชูสพยักหน้าอย่างสงบเสงี่ยม
"แล้ว ข่าวร้ายที่ว่าล่ะ ?"
"คือกษัตริย์ กรีด เนลฟี่......"
ได้ยินเพียงเท่านี้ คลอธก์ก็อยากจะกุมขมับซะแล้ว
"......ตายแล้วเหรอ ?"
"ครับ ทันทีหลังจากประกาศยอมจำนน"
"แก่ตาย ?"
คลอธก์คิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้น จึงถามดู
พอถาม ชูสก็ส่ายหน้า
"ถูกฆ่าครับ"
ใครฆ่า? คงไม่ต้องถาม ก็ต้องเป็นลูกชายที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามแหงอยู่แล้ว
ชูสพูดต่อ
"ราชาเนลฟี่ ยื่นข้อเสนอให้ยุติสงครามคราวนี้ ด้วยหัวของตนเองและการกักตัวเจ้าชายสตาร์เนลผู้สืบทอดราชบัลลังก์ไว้ แต่......"
สตาร์เนล ก็คือเจ้าชายที่ก่อตั้งกลุ่มต่อต้านโรแลนด์และแสดงความเป็นกบฏต่อราชากรีด เนลฟี่
"สตาร์เนลไม่ชอบใจการประกาศยอมจำนนของกษัตริย์เนลฟี่ล่ะสิ ?"
"ครับ"
"เลยฆ่าพ่อเพื่อปกป้องตัวเองสินะ"
ชูสพยักหน้า
"ถ้าโดนโรแลนด์ควบคุมตัว คงถูกฆ่าแน่ ก็เลยสติแตกครับ"
"ให้ตายสิ ไอ้เจ้าชายงั่งนี่"
คลอธก์ยิ้มเฝื่อน
แต่การคาดการณ์ของเจ้าชายนั้น ถูกต้องแล้ว
สงครามในครั้งนี้ จะไม่ปล่อยเชื้อพระวงศ์ไปแม้แต่คนเดียว
พอฆ่าเชื้อพระวงศ์ทุกคนแล้ว โรแลนด์ก็จะประกาศออกไป
ว่าเพราะเนลฟาขัดขวางและต่อต้านการเดินทัพของโรแลนด์ จึงต้องฆ่าเชื้อพระวงศ์ทิ้งให้หมด
แต่ถ้าหากยอมจำนนเสียตั้งแต่แรก เชื้อพระวงศ์จะได้รับการรับรองสถานภาพและตำแหน่งเข้ามาเป็นขุนนางของโรแลนด์
แน่นอนว่าต้องได้ผลที่ยอดเยี่ยมแน่
เพราะคนที่ตัดสินใจว่าจะทำสงครามหรือไม่ ก็คือขุนนางและเชื้อพระวงศ์ และหากเชื้อพระวงศ์ตัดสินใจยอมให้โรแลนด์รุกราน เพื่อรักษาตำแหน่งและชีวิตของตัวเองไว้ เมื่อนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ?
เพราะทุกคนไม่ได้เป็นกษัตริย์ที่ฉลาดหลักแหลมและยอมสละตัวเองเพื่อปกป้องประชาชนอย่างกรีด เนลฟี่
ถ้าถูกบีบให้ปกป้องตนเอง แน่นอนว่าต้องยอมจำนน
เพียงแค่นี้ก็จะลดการขัดแย้งที่ไร้ประโยชน์ได้ และลดการสูญเสียได้
เพื่อจะให้กลายเป็นแบบนั้น เขาก็รู้สึกผิดที่จำเป็นต้องใช้อาณาจักรเนลฟาเป็นตัวอย่าง
เขาได้รับคำสั่งจากชิออนว่าให้ฆ่าเครือญาติที่มีความสำคัญไล่มาถึงอันดับสองให้หมด
แน่นอนว่า กรีด เนลฟี่เอง ก็น่าจะรู้ เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามต่อรองโดยใช้หัวของตัวเอง เพื่อแลกกับชีวิตลูกชาย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เขาคิดว่าโรแลนด์น่าจะยอม
เขาจึงยอมจำนนโดยเร็ว
เพียงแค่กองกำลังป้องกันข้าศึกแรกสุดทลายลงเท่านั้น และเนลฟาเองก็ยังเหลือกองกำลังอีกเจ็ดหมื่นนายซึ่งยังไม่ได้เคลื่อนทัพมา
จากการที่ยอมจำนนรวดเร็วอย่างนี้ โลกจะกล่าวขานถึงความแข็งแกร่งอันล้นหลามยากจะต้านทานของทัพโรแลนด์ แล้วจะไม่รับข้อเสนอหรือ ?
นั่นเป็นการคาดการณ์ที่หลักแหลมจริง ๆ
สถานการณ์ขณะนี้ น่าจะสื่อถึงความคิดนั้นได้
เมื่อถูกโรแลนด์จู่โจม เนลฟาก็พ่ายภายในสองอาทิตย์
คนในราชวงศ์ซึ่งควรจะต้องตายทั้งหมดจะมีโอกาสรอด หากยอมจำนนในทันที และยังได้รางวัลเป็นการรับรองสถานภาพและตำแหน่ง มันยังกลายเป็นทิศทางให้ประเทศอื่นคิดว่า ยอมจำนนซะ......จะดีกว่า
ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ น่าจะจบด้วยการสูญเสียที่น้อยที่สุดได้
แต่กรีด เนลฟี่ตายแล้ว ถูกฆ่าโดยลูกชายที่คิดแต่จะปกป้องตัวเองและไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
"แล้ว ไอ้ลูกชายหน้าโง่นั่น หลังจากฆ่าพ่อแล้วมันทำยังไงต่อ ?"
ชูสทำหน้าเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อยต่อคำถามนี้
"สั่งให้ทหารหนึ่งหมื่นนายโจมตีทหารโรแลนด์ครับ......"
"โฮ่ สละทหารหนึ่งหมื่นคนมาถ่วงพวกเรา แล้วระหว่างนั้นก็หนีไปสินะ ? อย่างกับกระจกสะท้อนพวกขุนนางชั้นเลวเลยแฮะ"
แต่ชูสไม่พยักหน้าให้กับคำพูดนั้น เขาเพียงแต่มองมาด้วยใบหน้าหม่นหมอง
"เปล่าครับ สตาร์เนลยังไม่ได้หนี"
"หา ? งั้นมันทำอะไรอยู่"
พอคลอธก์ถาม ชูสก็สูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง เพื่อรวบรวมถ้อยคำ
จากนั้นก็พูดออกมา
"ฆ่าชาวบ้านครับ"
"เฮ้ย"
คลอธก์เปล่งเสียงตกใจ
แต่ชูสไม่ใส่ใจและพูดต่อ
"......ฆ่าประชาชน แล้วปล้นสิ่งที่พอเอาไปได้ แล้วตั้งใจจะหนีไปทางเหนือครับ"
"............"
คลอธก์ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
เลวร้ายที่สุดจริง ๆ
ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้ ฆ่าคนของประเทศตัวเอง ขโมยของแล้วหนีไป ไม่คิดว่าจะทำเรื่องเลวร้ายอย่างนี้
ถ้าเป็นอย่างนี้ นอกจากการสู้รบตามปกติแล้ว ก็จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก
แถมเนลฟาในตอนนี้ ก็ไม่มีผู้มีสิทธิ์ทำหน้าที่ยอมจำนนต่อโรแลนด์อยู่อีกแล้ว ซึ่งหมายถึง เนลฟายังไม่ยอมจำนน
แล้วถ้ายังไม่มีการประกาศยอมจำนน โรแลนด์ก็ยังคงต้องฆ่าฟันต่อไป
ฆ่าทหารหนึ่งหมื่นคนนั่นที่จะบุกเข้ามาทั้งที่พวกเขารู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องตายแน่ ฆ่าพลเมือง แล้วเนลฟาจะถูกทำลายย่อยยับ
ต่อเรื่องนี้ คลอธก์
"............"
อยากกุมขมับจริง ๆ
ดังนั้นถึงได้เกลียดสงครามไงล่ะ
เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ก็หดหู่ สกปรก น่าเวทนา น่าเศร้า
แม้จะคาดไว้แล้วว่าสถานการณ์จะเลวร้ายที่สุด แต่มันก็มักจะโหดร้ายกว่าที่คิดไว้ก้าวหนึ่งเสมอ