 |
[แปล]DAZED & CONFUSED KOREA Vol.49
April 30th, 2012 Leave a Comment
บทที่ผมได้ในหนังเป็นพวกที่ไม่เข้าสังคมแล้วก็ ค่อนข้างจะมีนิสัยแปลกๆ แต่พออีกวัน ผมกลับต้องมายืนต่อหน้าผู้คนนับแสนในคอนเสิร์ตแล้วก็สนุกไปด้วยกัน ผมก็เลยไม่ค่อยอินกับบทในหนังเท่าไหร่ มันค่อนข้างลำบากจริงๆครับ
มีกฎหรือว่าแนวที่คุณชอบเวลาใส่สูทมั๊ย? ผมชอบใส่เสื้อผ้าที่เข้ากับผมได้พอดี วันนี้มันค่อนข้างแปลกออกไปนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรครับ ผมสนุกมากเลยตอนถ่ายแบบ
ชุดไหนที่ชอบที่สุดในวันนี้ ผมชอบชุดสูทที่ดูจาง ผมชอบที่มันแขนสั้นแล้วก็มีหมวกด้วย เรียกว่าอะไรนะครับ?
เค้าเรียกว่าเมลบบัง (คำนี้ในภาษาเกาหลีเป็นแสลงฮับ melbbang) ครับ ก่อนที่สตาฟของเราจะบอกว่า เมลบบังอันนี้เหรอ? ผมก็บอกเธอไปว่า อย่าพูดแบบนี้เวลาอยู่ที่อื่นนะครับ (หัวเราะ) (คือน้องคงเข้าใจผิดว่าสาวเจ้าพูดคำแสลงออกมาน่ะฮับ ฮาาา น่ารักก มีตงมีเตือนด้วย สาวคงงง ทำไมฟระ? XD)
คุณยังเขินอยู่มั๊ยเวลามีคนชมว่าคุณหล่อหรือดูดี เมื่อก่อนคุณเอาแต่ปฏิเสธว่าไม่หรอกครับ โอ้ ไม่ก็ เปล่านะ ผมไม่หล่อซักหน่อย ตอนนี้ชินบ้างแล้วรึยังหลังจากที่ฟังจนบ่อย ตอนผมเด็กๆคุณพ่อไม่เคยชมผมเลยครับ ถึงจะทำตัวเป็นเด็กดีแค่ไหนก็ตาม ช่วงหลังมานี่ผมเคยดื่มกับท่่าน แล้วจู่ๆท่านก็พูดขึ้นมาว่า ขอโทษนะที่ไม่เคยชมเลย ตอนลูกยังเด็กอยู่น่ะ ผมว่าเพราะแบบนั้น ยังไงเวลาผมได้รับคำชม ผมก็ยังไม่ชินอยู่ดี เขินครับ
แต่ต้องมีอะไรบ้างที่คุุณถนัดใช่มั๊ย มันคงจะเหมือนโกหกถ้าบอกว่าไม่มี แต่ว่า
ถ้าให้พูดว่าเก่งด้านไหนคงต้องบอกว่า
ผมไม่แย่ครับ
เหมือนหลายๆคนจะพูดกันว่า ดูเหมือนตัวคุณเองจะไม่รู้ว่าคุณร้องเพลงได้ดีนะ คิดยังไง? อืม..ผมค่อนข้างเข้มงวดกับตัวเองพอดูนะครับ
ถึงจะผ่านมาตั้ง 10 ปีแล้ว? ผมเคยเข้มงวดมากๆกับการเป็นนักเรียนตัวอย่าง(นักเรียนดีเด่น) ผมมักคิดว่าห้ามแสดงด้านไม่ดีของตัวเองออกมา แต่ก่อนเวลาที่ผมให้สัมภาษณ์ ผมมักจะเลือกคำที่ดูเหมาะสม และถูกต้อง แต่ตอนนี้ผมถึงรู้สึกว่า ด้านที่ดีอย่างเดียวที่ผมแสดงออกมานั้น มันเหมือนกับการที่ผมพยายามทำตัวเป็นคนอื่น เพราะผมบังคับตัวเองมากเกินไป มันก็เลยเหมือนทำให้ตัวเองตกอยู่ในกับดักของตัวเองแล้วก็เครียดมากๆเลยครับ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาประทับใจว่าผมเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ผมก็ไม่อยากให้พวกเค้าคาดหวังเพราะว่าผมพูดจาน่าฟัง ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น และมันก็สะดวกใจกว่าที่จะไม่ทำแบบนั้นด้วย แต่ทุกวันนี้ ถึงผมจะทำพลาด ผมก็บอกตัวเองว่า อ๊ะ ไม่เป็นไรนะ ถึงปกติทำได้ดีกว่านี้ แต่คนเรามันก็พลาดกันได้ และต้องพยายามต่อไปนะ ผมเริ่มจะเชื่อว่าความทุ่มเทจะชนะทุกสิ่ง เราได้ทำการแสดงมากกว่า 20 รอบในญี่ปุ่นในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผมไม่เคยรู้สึกโกรธ โมโหถ้าผมทำพลาด ผมสนุกกับมันทุกครั้ง ทุกครั้งที่ผมทำพลาด ผมออกจะประหลาดใจด้วยซ้ำไป
แต่ความผิดพลาดที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่ เราก็ต้องคิดถึงมันใช่มั๊ย ที่ฮ่องกง ถ้าเป็นแต่ก่อน หน้าคงผมเครียดและ อะไรอะไรก็คงจะแสดงออกมาบนหน้าผม มีบางอย่างที่ไม่ค่อยดีในครอบครัวของผมเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว แถมร่างกายของผมก็ไม่ค่อยดีด้วยช่วงนั้น ผมพยายามจจะร้องเพลง แต่ทำไม่ค่อยได้เลย ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า อา วันนี้ทำพังจนได้สินะ และบอกผู้จักการเกี่ยวกับเรื่องนั้นครับ (บวกลบคูณหารแล้ว มันช่วงวันเกิดน้องที่นีงาตะจริงๆด้วย T ^ T )
แล้วคุณให้รางวัลตัวเองยังไง ผมดื่มครับ ผมจะดื่มวันนี้ด้วยเหมือนกัน
คุณบอกว่าคุณเข้มงวดกับตัวเอง แต่ไม่เข้มงวดกับเรื่องแอลกอฮอล์? คุณมีสติรึเปล่าเวลาดื่ม โอ้ ผมแพ้มันครับ แต่มันไม่ได้ออกมาให้คนอื่นเห็นชัดๆขนาดนั้นหรอก
ดื่มกับใคร? เพื่อนร่วมค่ายที่ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ปกติผมมักจะดื่มคนเดียวที่บ้าน(เพราะพี่ยุนไม่ดื่ม) บางครั้งก็กับผู้จัดการครับ
ไม่กลัวลงพุงเหรอ ผมก็มีพุงนะ(ฮาา) แต่จริงๆผมก็ดื่มเพื่อผ่อนคลายมากกว่า
ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหนใช่มั๊ย? บางทีผมก็ไปผับนะ
ไม่ปวดหัวแย่เลยเหรอถ้ามีคนจำได้ ผมจะทักทายเค้าถ้าพวกเค้าจำผมได้ แล้วผมก็จะนั่งดื่มของตัวเองไป ผมไม่ค่อยแต่งตัวฉูดฉาดอะไรหรอกครับเวลาออกข้างนอก
นอกจากเบียร์แล้ว อะไรที่คุณให้เป็นของขวัญตัวเองอีก? ผมไม่ค่อยให้ของขวัญใหญ่ๆอะไรกับตัวเองนะ ผมมักจะซื้ออะไรที่มันใช้ได้นานๆมากกว่า
That reminds me of the Confucius saying on your arm. Good thing we picked Confucius. There is a car Im really eyeing on. But the car I have right now doesnt really need to be replaced. Its a present from our company. Its not like I dont have one, so I dont need to buy another. มีรถที่ผมเล็งๆไว้อยู่เหมือนกันครับ แต่คันที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ก็ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร มันเป็นของขวัญจากทางค่ายน่ะครับ มันไม่ได้เหมือนผมไม่มีเป็นของตัวเองนะ ผมก็เลยไม่ต้องไปซื้อคันอื่น..
มีความทรงจำพิเศษอะไรเกี่ยวกับการจ่ายเงินบ้างมั๊ย เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ได้ให้เงินแสดงความยินดี(น่าจะเรื่องแต่งงาน)กับผู้จัดการที่ทำงานหนักของเราครับ จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับบุคคล แต่นั่นก็เป็นความทรงจำของผมเกี่ยวกับการจ่ายเงินล่ะ (มีรายจ่ายแค่เนี๊ยะ?? XD 5555)
ที่ได้ข่าวมา คุณได้เป็นอันดับหนึ่งของผลอันดับคนดังที่ประหลาดที่สุด เพราะอะไร? ผมว่านะ..อาจจะเพราะว่า แฟๆนเคยพูดกับผมว่า ฉันเป็นรุ่นพี่ในรร.แต่ฉันมาที่เพื่อมาหาเธอนะ ผมก็เลยถามกลับไปว่า คิดบ้างรึเปล่าเนี่ย (หัวเราะ) ดงวานฮยองชินฮวาก็เคยบอกว่า ชินฮวาไม่สามารถรับผิดชอบชีวิคของคุณ(แฟนๆ)ได้หรอกนะ และคำพูดนั่นก็โดนใจผมมากเลยครับ ผมไม่สามารถจะพูดจาหวานๆใส่ เพราะผมไม่อยากให้เกิดอะไรไม่ดีๆกับพวกเขาโดยที่มีผมเป็นสาเหตุ ผมรับผิดชอบสิ่งเหล่านั้นไม่ไหวหรอกครับ นี่ผมก็พยายามพูดแบบนุ่มๆแล้ว แต่(หัวเราะ) ผมก็คงพูดอะไรที่ผมไม่คิดไม่ได้ ผมคิดว่ามันคงดีที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป ดีกว่าปล่อยให้พวกเค้าเสียเวลาเพราะผมน่ะ
ตอนถ่ายทำหนัง คุณได้พบกับคุณ อาซาโนะ ทาดะโนบุ ,ทสึมาบุกิ ซาโตชิ และผู้กำกับ อึสึทซึ คาสึยูคิ (FLY with the gold) ได้ยินมาว่าที่ได้รับเลือกเข้าไปเพราะเป็นโทโฮชินกิ? มันน่าอายนิดๆนะครับที่จะพูดจากปากผมเอง แต่ตอนที่ผู้กำกับเห็นผม เขาคิดว่า ผมคงจะดูเหมือนไอดอลได้ ถ้าไปให้ตรงทาง แล้วก็ไม่โดนปรุงแต่งอะไรมากนัก ผมไม่แน่ใจว่าเค้าชมหรือว่าติอยู่(หัวเราะ) ผมเลยถามไปว่า คุณชมผมอยู่ใช่รึเปล่าครับ แล้วเขาก็ตอบว่า อืมม..อย่าไปใส่ใจเลย.. (อ่ามมมมมม XD)
ไม่เกร็งแย่เลยเหรอ ที่ได้อยู่ต่อหน้า คุณ อาซาโนะ ทาดาโนบุ และทสึมาบุกิ ซาโตชิน่ะ ครับ จริงๆมันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเกร็งนะ แต่ผมก็เครียดไปเองเพราะว่าเรื่องภาษาด้วยน่ะครับ ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้วกับการอยู่กับคนที่พูดภาษาญี่ปุ่น แต่ผมแปลไม่เร็วขนาดนั้น
แถมบทพูดก็ต้องเป็นภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันที่ผมไม่ค่อยเข้าใจด้วย อย่างในร้านสะดวกซื้อ มันมีแอลกอฮอล์ขายในแก้ว ซึ่งถูกแล้วก็ง่ายมากถ้าจะซื้อมาดื่ม แต่คนที่ส่งมาให้ผมเรียกมันว่า ไนโตรกรีเซอไรน์ ตอนที่ส่งให้ผม ผมฟังแล้วรู้สึกเหมือนมันเป็น ระเบิด หรืออะไรซักอย่าง แล้วเขาก็พูด ไนโตรกรีเซอไรน์ตลอดลย ผมก็เลยเข้าใจก่อนจะถ่าย แล้วหลายๆอย่างก็ทำให้ผมค่อนข้างวิตกกังวลมากเลยครับ ถึงผมจะรู้ว่า ผู้กำกับอยากให้ผมรู้จักตัวละครของผมให้ดี ผมรู้ครับ แต่ผมก็แสดงออกมาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ และนั่นก็เลยทำให้ผมเครียดสุดๆไปเลย
คงจะเหนื่อยมากที่ต้องไลฟืทัวร์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน บทที่ผมได้ในหนังเป็นพวกที่ไม่เข้าสังคมแล้วก็ ค่อนข้างจะมีนิสัยแปลกๆ แต่พออีกวัน ผมกลับต้องมายืนต่อหน้าผู้คนนับแสนในคอนเสิร์ตแล้วก็สนุกไปด้วยกัน ผมก็เลยไม่ค่อยอินกับบทในหนังเท่าไหร่ มันค่อนข้างลำบากจริงๆครับ แต่เพราะว่าผู้กำกับเก่ง นักแสดง และผู้คนที่กองถ่ายเก่งจริงๆ จนผมรู้สึกได้ว่าอา..มันเศร้าจริงๆนะ ผมได้เรียนรู้มากมายเป็นรางวัลครับ แต่มันก็ยอมรับยากนิดนึงว่า มีหลายอย่างเลยครับที่ยังอยากทำอีก มันยังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ผมรู้สึกแบบนั้นหลายครั้ง และมันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆครับ
ถ้ามีคนชวนให้ไปเล่นหนังอีกครั้ง จะไปมั๊ย มันมีธรรมเนียมที่ว่าจะต้องให้ช่อดอกไม้แก่นักแสดงที่ถ่ายทำเสร็จ พวกเขามอบดอกไม้ให้ผม แล้วตากล้องก็ถามผมว่า รู้สึกยังไงบ้างหลังถ่ายเสร็จ ผมก็บอกว่า ถ้ารู้ว่ามันยากขนาดนี้นะ ผมไม่ถ่ายหรอกหนังน่ะ ผมพูดไปแอบมองไปที่ผู้กำกับด้วยล่ะ(หัวเราะ)
คุณแสดงได้ดีใน พาราไดซ์แรนช์ แต่เรตติ้งค่อนข้างต่ำและดูไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก (T_T) คุณเคยรู้สึกบ้างมั๊ยว่า พยายามแล้วแต่ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเลย มันเป็นครั้งแรกของผมน่ะครับ ผมก็เลยไม่หวังว่ามันจะไปได้ดีขนาดนั้น แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันล้อมเหลวหรอกนะสำหรับการถ่ายละครครั้งแรก ผมไม่ได้โดนชี้นิ้วต่อว่าซํกหน่อย(หัวเราะ)
คุณไม่ชอบให้คนมาชี้นิ้วใส่คุณใช่มั๊ย ใช่ครับ ผมเกลียดอะไรแบบนั้นมากเลย มันเหมือนสำหรับพวกเขาแล้ว มันไม่เคยพอ ถ้าจะพูดแบบไม่สุภาพก็คือ แย่ (ห่วย/อะไรประมาณนั้น) ผมไม่ชอบจริงๆ
เคยได้ยินใครว่าคุณแบบนั้นรึเปล่า แน่นอนครับ ผมได้ยินมันบ่อยเลยล่ะ ช่วงเดบิวต์แรกๆผมเต้นได้ไม่ดี พูดตามตรงเลยว่า ผมไม่เคยคิดจะเอาดีด้านเต้นเลยด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ผมไม่อยากได้ยินคำพูดเชิงที่ว่า เค้าทำมันไม่ได้หรอก
ก่อนจะมาเป็นคนมีชื่อเสียง เคยชอบคลั่งไคล้ ดาราคนไหน เอาโปสเตอร์แปะบนผนังอะไรแบบนั้นบ้างมั๊ย ไม่ครับ ผมมีอะไรให้ทำเยอะแยะกับเพื่อน (เอิ่มม น้องคระ เจ๊ก็มีนะคะ =_=) เล่นเกม เตะบอลอะไรแบบนั้นครับ ฮ่าๆ
ถ้าเกิดใหม่อีกครั้ง จะเป็นทงบังชินกิอีกครั้งมั๊ย? ถ้ามีโอกาสแบบเดิมอีก พูดตามตรงเลยว่า ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงอยากอยู่แบบคนปกติทั่วไป ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบที่จะทำขนาดนั้น แต่เพราะผมเคยลองทำมันไปแล้ว ผมอยากลองทำอย่างอื่นบ้าง แต่ทุกวันนี้ ผมชอบสิ่งที่ผมทำอยู่ เต้น ร้องเพลง และถ้าให้ตอบด้วยความรู้สึกตอนนี้ ผมอยากเป็นทงบังชินกิ อีกครั้งครับ
อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกลำบากใจที่เป็นคนดัง แล้วรับมือได้มั๊ย หลังๆมานี่ผมก็ไม่ได้มีแฟนๆเยอะขนาดนั้นแล้วนะครับ(หัวเราะ) ล้อเล่น ตอนที่ผมเดบิวต์ใหม่ๆผมเป็นพวกอ่อนไหวมาก มันไม่ใช่ความฝันนะสิ่งที่ผมต้องผจญเนี่ย ผมทำงานในที่ๆไม่เคยคิดฝันมาก่อน ผมโทษตัวเองมาตลอดเวลาคิดว่าทำไมผมถึงอยู่ที่นี่ นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำ ทำไมผมต้องมาเครียดกับอะไรแบบนี้ด้วย แต่ตอนนี้ ผมสนุกกับมันมากๆเลยครับ
สนุกยังไง? ทำงาน และร้องเพลงแบบนี้ ฝึกเล่นกีตาร์(จะรอน้องโซโลแบบมีกีตาร์ นอนตายแน่นอน) ฟังเพลง และไปต่างประเทศ ถ้าผมไม่ได้ทำงานนี้ ไมล์สะสมผมจะเยอะเป็นล้านแบบนี้เลยเหรอ(หัวเราะ) และแน่นอนครับ พวกเราทำมันได้ดีเลย
ฉันเห็นรูปของคุณที่ซื้อหนังสือในสนามบิน อ่านจบรึยัง ชีวประวัติของสตีฟจ็อบส์ (เอิ่มม คุณคนสัมภาษณ์เป็นแฟนทงบังชิม๊อยคร้าา XD) โอ..หนังสือเล่มนั้น มันหนากว่า 900หน้าอีกนะครับ(หัวเราะ) ผมอ่านไปได้ 2/3 แล้วล่ะครับ
มีอะไรที่น่าจดจำบ้างมั๊ย? เวลาที่มีคนเขียนถึงคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนมากเค้าก็จะเขียนถึงแต่ข้อดีๆ แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แบบนั้น ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่า หือ..คนนี้นี่มันยังไงเนี่ย หรือว่าคุมสติตัวเองไม่ได้เนีย่? ทำไมครอบครัวเค้าเป็นแบบนี้กัน มันน่าสนใจมากๆเพราะอะไรที่คาดไม่ถึงแบบนั้น สตีฟจอบส์คิดต่างจากคนอื่น และวิธีคิด วิธีมองของเค้าน่าประหลาดใจมากๆครับ มันเข้าใจง่ายดี กับประโยคที่ว่า Stay Hungry, Stay Foolish (จงหิวกระหายต่อไป และจงโง่เง่าต่อไป หมายถึง จงอย่าคิดว่าตัวเองพอแล้ว เก่งแล้ว จะได้มีแรงบันดาลใจในการหาสิ่งใหม่ต่อไปเรื่อยๆ เหมือนน้ำไม่เต็มแก้วนั่นแหละค่ะ** Everkiss)
ถ้ามีหนังสือเกี่ยวกับคุณบ้างล่ะ ชางมิน คิดว่าประโยคดีๆเกี่ยวกับคุณคืออะไร? ผมหวังว่ามันจะเป็นแบบพวกคำแสลง..แบบนี้ได้มั๊ยนะ ถ้าพูดให้มันอ่อนลงหน่อยคงประมาณว่า เขาใช้ชีวิตแบบน้องหมา และชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวือหวา ฮ่าๆๆ แบบนั้นคงจะดีล่ะครับ (เอิ่มม
ทำไมต้องน้องหมา???)
แล้วตอนนี้ยังหวือหวาอยู่รึเปล่า แรกเลยก็คือ ที่มันขัดข้องอยู่เลยคือผมเป็นลูกชายของครูสอนภาษาเกาหลีครับ (หัวเราะ) พออยู่ในตำแหน่งนี้นี่ มันไม่ง่ายเลยนะ
แล้วจะโอเครึเปล่าถ้ามันจะหวือหวายิ่งกว่านี้อีก โอ้ ครับ
ผมหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น
แปลไทย : EVERKISS Source: DAZED & CONFUSED KOREA Vol.49 Translated by: joozie @ContinueTVXQ.com Distributed by: joozie @ContinueTVXQ.com Please keep the original credit intact, thank you.
จากคุณ |
:
ชวนชิมมิน
|
เขียนเมื่อ |
:
30 เม.ย. 55 13:55:13
|
|
|
|
 |