ความคิดเห็นที่ 1 .... จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 19:58:24

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็ฯเช่นั้นจริง  ดั่งที่ท่านโพส  ท่านโปรดรีบนำเอากระทู้ของท่านไปโพสให้ ศาลาประชาคมส หรือห้องราชดำเนินเลยครับ  อย่าโพสในห้องศาสนาให้คนอื่นเขากินแหนงแคลงใจการแอบแฝง เอาการเมืองเข้ามาให้รกห้อง  ผมเป็นพุทธศาสนิก  ผมเคารพในศาสดาของอิสลามครับ ผมเชื่อว่าพระเจ้าของท่านท่านทรงสอนให้คนมุสลิมให้เป็นคนดีมีศีลทุกคนเป็นคนตรงไปตรงมา    ดังนั้น ท่านต้องทำตามกติกาของห้องด้วยครับ  จึงจะสมเป็นมุสลิมที่น่ายกย่องครับ จากคุณ : กระจอกจัง เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 20:12:47

ความคิดเห็นที่ 3 ท่านกระจอกจังเข้ามายังไม่รีบ ปูผ้ากราบ หรอครับ คำพระทั้งนั้นเลย การปรักปรำผู้อื่น นะเป็นบาป การสู่รู้ เรื่องคนอื่น เค้าเรียก ว่า สอสระเอื้อก ถ้าไม่มีมาตรฐาน ก็อย่ามาวอแวกับผม คนอย่างผมไม่สนลาภยศ ไม่สนว่าจะมีใครนับถือหรือไม่ แต่ถ้าใครมาแหลมมีสวย ปล  ขอโทษนะครับเป็นคนรักษากติกามารยาท เสมอ ถ้าว่าผมผิดกติกา รบกวนบอกด้วยว่าผิดข้อใด ถ้าบอกไม่ได้ท่านนั้นเองนั้นแหละผิดกติกา ชวนทะเลาะเบาะแว้ง แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 21:40:14 แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 21:39:35 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 21:35:28

ความคิดเห็นที่ 4 ....... จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 21:48:48

ความคิดเห็นที่ 5 จุดจบของการให้ร้ายผู้อื่น การให้ร้ายผู้อื่นนั้นหากมาจากตนเองคือการแสดงออกซึ่งความริษยาอย่างหนึ่ง  หากพิจารณาให้ลึกซึ้งจะเกี่ยวข้องกับความสูญเสียที่เรามี  ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียอำนาจ  หากคิดว่าตนเองจะสูญเสียอำนาจนั่นหมายความว่าตนเองคิดว่าตนเองมีอำนาจอยู่   แล้วอำนาจนั้นไม่ว่าจะเป็นอำนาจจริงหรือำนาจแฝงก็ตาม  แล้วลักษณะการใช้อำนาจนั้นจะใช้ในลักษณะที่เป็นพระเดชอย่างที่ผู้เขียนได้อธิบายมาแล้ว  การใช้อำนาจโดยความเป็นพระเดชจึงเป็นการใช้ไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตนเสียเป็นส่วนใหญ่  การที่จะหยุดการให้ร้ายผู้อื่นนั้น  ต้องรู้ก่อนว่าอะไรคือสาเหตุทำให้เกิดการให้ร้ายผู้อื่นเสียก่อน อำนาจและผลประโยชน์ส่วนตนเป็นเหตุแห่งความริษยา  ความริษยาเป็นเหตุทำให้เกิดการให้ร้ายผู้อื่นขึ้น  การให้ร้ายผู้อื่นคือการทำลายู่แข่งไปในตัว  หรือการให้ร้ายผู้อื่นเกิดจากการที่เราไม่ยอมรับความจริงก็ได้   สมัยเด็กผู้เขียนได้ทำบางอย่างที่ไม่ดีขึ้น  แล้วคุณย่าชอบนำเรื่องอะไรต่อมิอะไรมาเล่าให้ผู้เขียนฟังอยู่เสมอ ๆ  แล้วผู้เขียนนิสัยเสียคือเป็นคนช่างฟ้อง  แล้วผู้เขียนก็ได้นำเรื่องที่คุณย่าเล่าให้ฟังไปเล่าต่อให้ญาติที่เกี่ยวข้องฟัง   พอคุณย่าทราบเรื่องก็หาว่าผู้เขียนกุเรื่องนั้นขึ้นมา  ความคิดแวบ ณ.  ขณะนั้นคืออยากจะเอาเทปอัดเสียงแล้วเอาไปเปิดให้ฟังให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปด้วยความแค้น  เรื่องนี้เกิดมาประมาณ 20 ปีแล้ว ก่อนที่ผู้เขียนจะลงมือปฏิบัติธรรม  แต่ด้วยความที่ผู้เขียนไม่นึกว่าคุณย่าจะกลายเป็นคนที่เอาตัวรอดนั่นอย่างหนึ่ง  แล้วอีกกรณีหนึ่งผู้เขียนก็มีส่วนผิดหรือไม่ผิดก็ไม่รู้แหล่ะ  แต่ทำสิ่งนั้นไปด้วยความหวังดี  นี่ก็เป็นการให้ร้ายอย่างหนึ่ง  ฉะนั้นการให้ร้ายผู้อื่นนั้นมาจากการพยายามเอาตัวรอดของตนด้วย แต่การให้ร้ายผู้อื่นด้วยความเอาตนเองให้รอด  ยังไม่ร้ายแรงเท่าการให้ร้ายผู้อื่นด้วยแรงริษยาแล้วอาฆาต  เพราะการเอาตัวรอดเป็นการกระทำเพียงครั้งเดียว   จากในกรณีที่เล่าเรื่องคุณย่านั้น  เพราะผลที่เกิดขึ้นแล้วและจำฝังใจผู้เขียนอยู่นาน  กว่าจะเลิกแค้นก็ตอนที่มาปฏิบัติธรรมแล้วนี่แหล่ะ  นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนได้รับ  แล้วหากผู้เขียนไม่ลงมือปฏิบัติธรรมจะเป็นเหตุแห่งการผูกพยาบาทสร้างเวรต่อกันไปอีกในอนาคตข้างหน้า   ที่สำคัญจะเป็นอนาคตชาติซึ่งสะท้อนให้เห็นผลของการให้ร้ายผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ  หากพูดแล้วยอมรับความจริงกันไปก็จบ  คุณย่าเองก็มีส่วนที่ไม่ถูกเพราะดันเอาความลับมาเล่าให้ผู้เขียนฟัง   หากไม่เล่าเสียอย่างผู้เขียนก็จะไม่รู้  หากคิดแบบปุถุชนผู้เขียนก็ผิดเพราะดันไปเล่าต่อให้ญาติผู้เกี่ยวข้อง  แต่ถ้าคิดถึงการปฏิบัติธรรมก็ถูกแล้ว  เพราะหากนั่นเป็นความจริงก็ต้องเผชิญกันไป หากเราไม่เป็นคนขี้ขลาดเสียอย่างการให้ร้ายผู้อื่นด้วยความเอาตัวรอดก็จะไม่เกิดขึ้น  ส่วนการให้ร้ายผู้อื่นด้วยความริษยา  ให้ลดละความอยากลง   แล้วหนีไม่พ้นคือการทำเพื่อผู้อื่นให้มากขึ้นแล้วทำเพื่อตนเองให้น้อยลง  ด้วยความตั้งใจจะทำให้ได้หรือพยายามให้มีเจตนาในการทำสิ่งนั้นให้ได้  เมื่อเราลดความริษยาลงไปความมุทิตาก็จะมีมากขึ้นตามความริษยาซึ่งจะลดน้อยถอยลง   ส่วนผู้ริษยาคนอื่นแล้วให้ร้ายผู้ที่เราริษยาให้กระจายด้วยการประจานสิ่งที่ไม่เป็นความจริงให้สังคมรับรู้  ผู้นั้นเองก็จะโดนความจริงย้อนกลับมาทำร้ายตนเองมากขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ  แล้วตนเองต้องได้รับแรงกระแทกนั้นให้ได้รับความเจ็บปวดใจและอาจจะรวมทั้งกายด้วย  แล้วจุดจบของตนเองก็จะมาถึงนั่นเอง เมื่อรู้ผลที่จะเกิดขึ้นจากการให้ร้ายผู้อื่นแล้ว  ก็อย่าไปทำเหตุให้เกิดขึ้น  เหตุแห่งความเสี่ยงทั้งสองหากยังมีอยู่ใมนตน  ไม่ว่าการจะเอาตนเองให้รอดจากความผิดที่ตนได้ทำขึ้น  หรือความริษยาผู้อื่นไม่อยากให้คนอื่นได้ดีกว่าตน   เหตุเกิดที่ไหนดับที่นั้น  เพราะหากไม่ดับเหตุผลที่เกิดตามมาอาจจะร้ายแรง  เช่นถ้าผู้เขียนไม่รู้จักการปฏิบัติธรรม  อาจจะทำให้ผู้เขียนไม่อาจหลุดพ้นจากความพยาบาทคุณย่าได้  แล้วผู้เขียนเองก็เป็นคนที่มีความพยาบาทที่รุนแรงมาก   ทำให้ผู้เขียนรู้แจ้งถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับตนและคุณย่า  เพราะนั่นหมายความว่าผู้เขียนยังคิดที่จะทำร้ายคุณย่าอยู่ตลอดเวลา  ถึงแม้จะไม่ได้ทำร้ายคุณย่าจริงก็ตาม  แต่นั่นก็ทำให้ผู้เขียนทุกข์ใจอยู่ไม่น้อย วันพฤหัสบดีที่ 04 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 10:02 น. |  Author: ธนวัฒน์ สวัสดิ์แก้ว http://www.dhumma.net/index.php?option=com_content&view=article&id=686&Itemid=687 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 22:03:57

ความคิดเห็นที่ 6 คนชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก พระอาจารย์สอน " คนชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น " โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก วัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค (กม. ๙๐) จ.กาญจนบุรี อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามาก ๆ ดูตัวเองมาก ๆ หลวงพ่อ (พระโพธิญาณเถระ) บอกว่า 'ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90% ดูตัวเองแค่ 10%' คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น กลับเสียใหม่นะ ดูคนอื่นเหลือไว้ 10% ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90% จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่ ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง โบราณพูดว่า เรามักจะเห็น ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มาก ๆ เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10 เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10 จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมาก ๆ และตำหนิติเตียนตัวเองมาก ๆ แต่ถึงอย่างไร ๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมาก ๆ เช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก รีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่ ..... ไม่แน่ อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้ เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้ สักแต่ว่า.....สักแต่ว่า....ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ยั! งไม่ต้องพูด ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน ก็สงบ ๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิด ๆ ๆ ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มาก ๆ พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา ..... นั่นแหละ เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อย ๆ หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวัน ๆ ก็หมดแรง ระวังนะ พยายามตามดูจิตของเรา ! รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา..... ก็เรื่องของเขา อย่าเอามาเป็นอารมณ์ อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา ดูใจเรานั่นแหละ พัฒนาตัวเองนั่นแหละ ทำใจเราให้ปกติ สบาย ๆ มาก ๆ หัด - ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข http://www.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=846:2009-07-22-16-22-04&catid=61:2009-06-12-17-56-15&Itemid=246 แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 22:12:25 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 22:10:46

ความคิดเห็นที่ 7 พอถึง Q ที่ ๑๓ ซึ่งเป็น ลำดับ คคห.ของตนเองพอดี login Jimbovy ก็กลับหลังหัน และหลบลี้หนีหน้า มาตั้งกระทู้ใหม่ ??? ชาวห้องศาสนา ทั้ง ญ/ช คือเรา-เขา ท่าน-เธอทั้งหลาย ณ เวลานี้ ก็ยังได้เวียนเข้าไป รอ รับรู้-รออ่าน การชี้แจง ถึงเรื่องราวที่เป็นตนเอง คือ login JimboVy ได้กล่าวข้อความอันถือว่า เป็น อุกฉกรรจ์ ต่อจริยธรรมด้านความซื่อตรง           เพราะมีใจความสำคัญ อันเป็นที่แสดงชัดเจนว่า ขัดแย้งกับข้อความของตนเอง  ตามที่ปรากฏชัดเจนในกระทู้ บทสรุปฯ นั้น เมื่อการณ์ง่ายๆกลายเป็นเรื่องยากเสียเช่นนี้ ย่อมจำเป็นเสียแล้วที่จะต้องยก คคหที่.๑๓/และข้อความที่เกี่ยวข้อง ตามมา         อนึ่ง เพราะเหตุว่า login Jimbovy เคยมีประวัติดีดี คือไม่ยอมเข้ากระทู้ที่ แสดงชื่อ/เรียกหาlogin ของตนเองมาแล้ว คลิกหลักฐานได้ที่นี่ ความคิดเห็นที่ 13   มาแล้วครับพี่กรองคำ ตกลงพี่ตั้งกระทู้เรื่องอะไรอ่านไม่รู้เรื่อง จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 13:38:41 ยังไม่ใช่คำถาม แต่คล้ายจะเป็นคำถาม...       คือข้อความในกระทู้นั้น และข้อความใดๆนั้นก็ใช้ภาษาไทย        ไม่ได้พลิกแพลง-แผลงคำไปใช้ภาษาพม่า หรือภาษาอาระกัน หรือภาษาเบงกาลิน-อะไรที่ไหนอื่นเลย       ใครเขา-เธอ-ท่าน ชาวห้องศาสนาเข้าไปอ่านเจอ  เขา-เธอ-ท่านเหล่านั้นก็ยังมีความเข้าใจว่า เป็นการตั้งข้อสังเกต จากคำพูดของตนเอง และให้โอกาสชี้แจง        คือ ชี้แจงถึงข้อความอันขัดแย้งกันเองนั้นๆ-เท่านั้น จึงไม่มีอะไรที่ทำให้เป็นเข้าใจยาก         แล้วทำไม login Jimbovy จึงถึงแก่มีอาการ งง ถามว่า *ตั้งกระทู้เรื่องอะไรอ่านไม่รู้เรื่อง* เช่นนี้-นั้น ???       หรือว่าแท้จริงแล้ว login Jimbovy ไม่ใช่คนไทย  เพียงแต่ขอยืมสิทธิ์จากใครคน ๑ มาใช้ทำบัตร ปชช. เลข ๑๓ หลัก เอาไว้ใช้เปิดทางไปหาที่ยืน-นั่ง เดิน-นอน ให้มีที่ทางหายใจทั่วท้องไปวัน ๑ คืน ๑ เท่านั้น ???                     login Jimbovy จึงไม่เข้าใจความหมายภาษาไทยของคำว่า ชี้แจง ??? กระทู้นี้ชื่อว่า คนชอบจับผิดผู้อื่นไม่เจริญในธรรม  ผู้ที่คอยจ้องจับผิดผู้อื่นนั้น จิตใจจะหยาบกระด้าง จึงเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าในธรรม เพราะผู้ที่มีความเจริญก้าวหน้าในธรรมนั้น  จิตใจจะประณีต ละเอียดอ่อนขึ้นไปเรื่อยๆ ตามขั้นของความเจริญก้าวหน้านั้น  ข้อความตามที่ Quote มานั้น แสดงให้วิญญูชนเข้าใจได้อย่างชัดเจน ซึ่งในกระทู้ที่ Jimbovy หนีออกมาด้วยการตั้งกระทู้แตกกระเด็นบังหน้าออกมาแบบนี้นั้น         ก็มีเนื้อหาประเด็น แสดงไว้ให้เห็นได้ง่าย-ให้เข้าใจได้ตรง อย่างชัดเจน เพื่อให้มีการชี้แจง อยู่แล้ว-เช่นกัน   แต่ทำไม - ทำไม login Jimbovy จึงเลี่ยงหลบออกมาด้วยวิธีคิดอย่างง่ายๆ  ด้านแล้วรอด-ดีกว่าอยู่แล้วอับอาย                            login Jimbovy จึงยอมขายหน้าตัวเอง  เอาตัวรอดออกมาจาก การชี้แจงนั้น เสียอย่างง่ายๆ            คือตั้งกระทู้แอบอิงยกข้อธรรมของศาสนาอื่นจากตน เพื่อใช้สอนเตือน/ด่าคนศาสนาอื่นจากตน ซึ่งไม่ต่างกับ การใช้ดาบและโล่ห์ป้องของฝ่ายอื่น มาปิดป้อง-ปิดบังพฤติกรรมของตนเอง เยี่ยงนี้ ??? [ยกส่วนที่เกี่ยวข้องใดๆนั้นมา-นะ] อืมมม์...กรองคำ ขอให้เราท่านทั้งหลายสละเวลา ย้อนกลับไปอ่านบางข้อความใน คคห.ที่ ๑ กระทู้ของท่านvrod ทบทวน กันอีกครั้ง ๑ [ยกลงมาเลยละกัน-นะครับ] เนื่องจากว่างานนี้มีการเชิญชวนสื่อมวลชนทุกแขนง และเชื้อเชิญศาสนิกชนทุกศาสนา มาช่วยกำหนดนโยบาย แม้กระทั่งในนี้ผมก็ปชส ให้ทราบว่าเชิญทุกท่าน มาช่วยกำหนดนโยบาย แลทราบที่มาที่ไปว่าคืออะไร แต่ปรากฎว่า ไม่มีศาสนิกอื่นให้ความสนใจที่จะไปฟัง ที่จะไปให้ข้อคิดเห้น รวมทั้งเพื่อนสมาชิกในนี้  [21 มิ.ย. 55 18:34:20 น.] ความคิดเห็นที่ 37  จากกระทู้ : ถามผู้รู้เรื่องชาวมุสลิมในรัฐยะไข่...ฯ   ท่าน จขกท Bingo ครับ ชัดเจน แล้วละครับ ทั้งพระสงฆ์และผู้นำโรฮิงยา น่าจะเป็นคนเดียวกันที่ผมรู้จัก เพราะประชุมร่วมกันเมื่อวันศุกรืที่แล้ว เค้ากล่าวถึงการประชุมที่เชียงใหม่เช่นกัน พระท่านก้พูดชัดเจน โรฮิงยา ก็ชัดเจน ถ้าอ่านดีๆ ข้อมูลทั้งสองฝ่ายตรงกัน ไม่ชัดเจน คือรัฐบาลพม่า และกองเชียร์นอกประเทศ สรุปนั้นชัดเจนในตัวเองคือปัญหาทางการเมือง ขอบคุณท่าน จขกท ที่มาช่วยย้ำแนวคิดการรักษาสันติภาพ และแยกเรื่องศาสนาออกจาการเมือง จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy)    เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 00:44:44 มีคำสำคัญที่เนื้อหาปรากฏความขัดแย้งกันชัดเจน นั่นคือ :> *ชัดเจนแล้วละครับ ทั้งพระสงฆ์และผู้นำโรฮิงยา น่าจะเป็นคนเดียวกันที่ผมรู้จัก เพราะประชุมร่วมกันเมื่อวันศุกรืที่แล้ว เค้ากล่าวถึงการประชุมที่เชียงใหม่เช่นกัน พระท่านก้พูดชัดเจน โรฮิงยา ก็ชัดเจน ถ้าอ่านดีๆ ข้อมูลทั้งสองฝ่ายตรงกัน*       [22 มิ.ย. 55 00:44:44 น.] กรณีที่มีใจความอันปรากฏว่าเป็นข้อมูลที่ ขัดแย้งกัน นี้          กรองคำ เห็นว่าเราท่านควรจะได้รอคอยให้เจ้าของข้อความ/เจ้าของ คห.เหล่านี้ คือ login Jimbovy เข้ามาชี้แจงด้วยตนเอง-จึงจะเหมาะสม-นะ   ใน คคห.ที่ ๑ จากกระทู้ : Y12269442 *สรุปแล้วกรณีความขัดแย้งในพม่าตอนนี้เป็นเรื่องศาสนาแล้วหรือครับพี่จิม* ของท่านสมาชิกฯ login vrod   Jimbovy กล่าวว่า "แต่ปรากฎว่า ไม่มีศาสนิกอื่นให้ความสนใจที่จะไปฟัง ที่จะไปให้ข้อคิดเห้น รวมทั้งเพื่อนสมาชิกในนี้..." คือเย็นวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. 55 เวลา 18:34:20 น.   วันเสาร์ที่ 22 มิ.ย. 55 เวลา  00:44:44 น. [ซึ่งก็คือช่วงเที่ยงคืนของวันศุกร์นั้นเอง] login Jimbovy กล่าวไว้ในการสนทนาเรื่อง โรฮินย่า กับ login ท่านเจ้าหญิง-น้ำแข็งฯ ในกระทู้ : ถามผู้รู้เรื่องชาวมุสลิมในรัฐยะไข่...ฯ ว่า        *ชัดเจนแล้วละครับ ทั้งพระสงฆ์และผู้นำโรฮิงยา น่าจะเป็นคนเดียวกันที่ผมรู้จัก เพราะประชุมร่วมกันเมื่อวันศุกรืที่แล้ว เค้ากล่าวถึงการประชุมที่เชียงใหม่เช่นกัน*         *พระท่านก้พูดชัดเจน โรฮิงยา ก็ชัดเจน ถ้าอ่านดีๆ ข้อมูลทั้งสองฝ่ายตรงกัน*       เรื่องมีเท่านี้เอง แต่ทำไม login Jimbovy จึงบอกว่า ไม่เข้าใจ/และทำไมไม่โพส คคห.ชี้แจงให้ชาวห้องศาสนาเข้าใจถูกต้องเสียที่กระทู้นั้น  เรื่องนี้ไม่ใช่การจับผิดอะไรเลย ~ ชี้แจงตามจริง เพื่อให้ความถูกต้องปรากฏแก่สังคมนี้เสีย ก็จบ นะ login Jimbovy แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 23:10:36 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 22:55:47

ความคิดเห็นที่ 8 มีใคร ทำงานใน สันติบาล หรือ กรอมน. บ้าง ช่วยตรวจสอบ พฤติกรรมของชน พวกนี้หน่อย น่าเป็นห่วงนะ จากคุณ : ปัจจัย เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:03:53

ความคิดเห็นที่ 9 ท่านปัจจัยตรวจ ให้หมดเลยครับ จะได้รู้ว่าใครสร้างความปั่นป่วนในชาติ กันแน่ พวกอีแอบทั้งหลาย จะได้เผยตัว ตัวผมเป็นบุคคลสาธารณะเปิดเผยชื่อจริงตัวจริง อยู่แล้ว มาตลอด 6 ปีกว่า ตรวจเลยรีบตรวจนะครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า กอรมน  สันติบาลจะจับตาดูใครกันแน่ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 23:17:02 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:14:31

ความคิดเห็นที่ 10 พี่กรองคำ ช่างฉอเลาะนะครับ ใครหนีใครกันแน่ พี่ท้าผมแล้วหางจุดตูดไปไหนละครับ จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:16:06

ความคิดเห็นที่ 11 พี่กรองคำที่เคารพ พีบอกว่าพี่เป้นคนชัดเจน แต่พี่ติดคำถามผมหลายคำถามแล้วนะครับ -พี่เป็นพวก Anti Islam หรือไม่ -พี่เป้นหัวหน้าก้วน ป่วน Islam ใช่หรือไม่ ตอนนี้บอกจะตั้งกระทู้ แล้ว กระทู้เรื่องอะไร ? จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:19:33

ความคิดเห็นที่ 12 กระทู้นี้ ไม่ใช่ การแตกประเด็นใดๆ ออกมาจาก Y12272375 Y12272375ชื่อกระทู้คือ : บทสรุปความคืบหน้าสถานการณ์Jimbovy&โรฮินย่า_แค่สะพานเชื่อมต่อวิวาทะกรรม_หรือเป็นคำำำำำขอมนุษยธรรมจากชาวโลก-ผ่านห้องศาสนา? ซึ่งไม่มีการ จับผิด หรือ ใส่ร้าย/ให้ร้ายป้ายผิดแก่ผู้ใด ~ แต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นเรื่องราว/ข้อมูลอันสืบเนื่องต่อจากการสนทนาใน กระทู้ : Y12269477 ชื่อกระทู้ : ถามผู้รู้เรื่องชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ (อาระกัน) ค่ะ ของท่านสมาชิกฯ login เจ้าหญิงในปราสาทน้ำแข็ง ถามผู้รู้เรื่องชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ (อาระกัน) ค่ะ     หลัง จากพยายามหาข้อมูลในกูเกิล เกี่ยวกับเรื่องชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ ที่เราเรียกกันว่าชาวโรฮิงยา ยังขาดข้อสงสัยบางอย่างที่กูเกิลตอบไม่ได้  หวังว่าผู้รู้ด้านศาสนา น่าจะให้คำตอบได้นะคะ 1 ชาวมุสลิมในรัฐยะไข่เริ่มเ้ข้ามาในประเทศไทยตั้งเเต่เมื่อไหร่ 2 จริงหรือไม่ที่ชาวมุสลิมจากยะไข่ เคยเข้ามาค้าขายในประเทศไทย รวมถึงอาณาจักรล้านนา มาตั้งแต่ก่อนยุคอาณานิคม โดยพวกเขาถูกเรียกรวมว่า แขก 3 จริงหรือไม่ที่โรตีหวาน เริ่มขึ้นจากชาวมุสลิมในประเทศไทย 4 คนขายโรตีหวานในไทยส่วนมากเป็นชาวมุสลิมจากยะไข่ (โรฮิงยา) จริงหรือไม่? 5 กล่าวกันว่าโรตีหวานในประเทศไทย เป็นสูตรของชาวชาวมุสลิมจากยะไข่ (โรฮิงยา) จริงหรือไม่? ปล ไม่แน่ใจว่าคำถามพวกนี้ควรตั้งกระทู้ที่ห้องศาสนาไหม หากใครแนะนำได้่ ช่วยโปรดให้ข้อเสนอแนะด้วยนะคะ จากคุณ         : เจ้าหญิงในปราสาทน้ำแข็ง   เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 55 17:00:12 กระทู้ : ถามผู้รู้เรื่องชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ (อาระกัน) ค่ะ [คคห.ที่ ๕๒] แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 23:45:23 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:35:45

ความคิดเห็นที่ 13 พี่กรองคำ ที่เคารพ จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:36:49

ความคิดเห็นที่ 14 . จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 23:51:37

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเห็นที่ 53   พีกรองคำที่เคารพ ถ้าว่าผมสรุปเร็ว ผมถามว่า คห ของพี่สรุปว่าอะไรละครับ รบกวนพี่กรองคำ กูรู แห่งห้องศาสนา ตอบแบบชัดๆสั้นๆ ว่าพี่สรุปว่าอะไรครับ กระทู้ของ login Jimbovy กระทู้นี้ ไม่ใช่ การแตกประเด็นใดๆ ออกมาจาก Y12272375ชื่อกระทู้คือ : บทสรุปความคืบหน้าสถานการณ์Jimbovy&โรฮินย่า_แค่สะพานเชื่อมต่อวิวาทะกรรม _หรือเป็นคำำำำำขอมนุษยธรรมจากชาวโลก-ผ่านห้องศาสนา? ซึ่งไม่มีการ จับผิด หรือ ใส่ร้าย/ให้ร้ายป้ายผิดแก่ผู้ใด ~ แต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นเรื่องราว/ข้อมูลอันสืบเนื่องต่อจากการสนทนาในกระทู้ ของท่านสมาชิกฯ login เจ้าหญิงในปราสาทน้ำแข็ง    กระทู้ : Y12269477ชื่อกระทู้คือ : ถามผู้รู้เรื่องชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ (อาระกัน) ค่ะ และเป็น การสรุป ตามที่ login Jimbovy ได้ทวงถามไว้ด้วย คคห.นี้ นั่นเอง-นะ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 06:50:00 จากคุณ : จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 06:07:25   เพราะเหตุว่า-ตามที่  login Jimbovy  ได้ทวงถามไว้ ก็จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ Y12272375:บทสรุปความคืบหน้า สถานการณ์  Jimbovy&โรฮินย่า * *เป็นการร้องขอ มนุษยธรรม จากชาวโลก-ผ่านห้องศาสนา*   *หรือเป็นเพียงแค่สะพานเชื่อมต่อ เพื่อวิวาทะกรรม ???* **************** จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:10:23

ความคิดเห็นที่ 16 .. จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:16:11

ความคิดเห็นที่ 17 ... จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:17:18

ความคิดเห็นที่ 18 .... จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:17:55

ความคิดเห็นที่ 19 ..... จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:26:12

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท เค้าปิดกระทู้ไปแล้ว ธุระกงการอะไรของพี่ไม่ทราบ บิดเบือนมุสาวาทา ทาสี สะจนเคยตัว เสียผู้ใหญ่นะครับพี่ จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:39:18

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้ของท่าน Vrod ผมบอกไว้ชัดเจน แล้วพี่กรองคำ จะขุดมาหาพระแสงวิมานอะไรไม่ทราบ ข้องใจไปถามกลุ่มมุสลิมสันติเอาเอง ที่อยู่ตามหัวกระดาษจดหมาย เค้าเป็นคนเทคแอคชั่น บิดเบือนเล่นไม่ถูกเรื่องผิดฝาผิดตัว มันจะเสียผู้ใหญ่เอานะครับ พี่กรองคำ จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:45:51

ความคิดเห็นที่ 22 .................. จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:51:29

ความคิดเห็นที่ 23 ผมไปนอนละ ขืนคุยต่อไป ผมคงติดเชื่้อ ไร้สาระตามไปด้วย จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 00:52:55

ความคิดเห็นที่ 24 login Jimbovy อย่าคิดเหิมเกริมฟาดหางเข้าข้างตัวเอง  ใช้สันดานเดิมๆ ดึงเอา ผู้หญิงออกมาบังหน้า ปกปิดความไม่ถูกต้องของตนเอง ซ้ำอีกครั้ง ๑ เลย-นะ ความคิดเห็นที่ 10 การชี้แจง โดย มีหลักฐาน ที่ชัดเจน ชาวศาสนา ทุกศาสนา บนโลกนี้ เรียกว่า "สัจจะวาจา" ครับ ท่าน มี หรือ ไม่ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 08:37:33 จากกระทู้ : ผมยอมจำนนท์.......ต่อเอกองค์อัลลเลาะห์โดยไม่มีเงื่อนใข login Jimbovy เป็นใคร ? login Jimbovy เป็นสมาชิกฯที่เข้าในระบบฯ ระบุตัวตนบุคคล/ยืนยันด้วยหลักฐาน บัตรประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก อีกคนหนึ่งของเว็บพันทิปดอทคอม ลำดับเลขสมาชิกคือ : 358241 หลักฐานที่เหลือพอที่จะใช้ยืนยันได้ว่า  login Jimbovy เคยเข้าร่วมการสนทนาบนเว็บบอร์ดในห้องศาสนาแห่งนี้ คือ คห.ที่ 119  กระทู้ : Y6884429 ขอถามเกี่ยวกับศาสนามุสลิมคับ ตั้งขึ้นเมื่อ วันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค. 2551      และ คคห.ที่ ๒๕ จากกระทู้ : Y8009351 ขอถามชาวมุสลิมครับ ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2552 เวลา15:49:47 น. login Jimbovy กลับเข้าห้องศาสนา ณ พันทิปดอทคอมแห่งนี้ อีกครั้งหนึ่งเมื่อใด ? login Jimbovy ได้กลับเข้าห้องศาสนาอีกครั้ง ๑ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2554 หลักฐานที่ยืนยันได้คือ คคห.ที่ ๑๑  กระทู้ : Y11507934 [[อิสลาม]] ฮิญาบ ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 54 11:23:10 น. login Jimbovy ได้กระทำสิ่งใดให้แก่ห้องศาสนา หรือให้แก่สมาชิกฯห้องศาสนา ในอันที่สามารถจะใช้ รับรอง-รองรับ ให้ตัวตนแท้จริงของบุคคลผู้ใช้ login ว่า Jimbovy เป็นตัวแทนของชาวห้องศาสนา * เพื่อการสื่อสาร-แจ้งความประสงค์ หรือแสดงจิตเจตนา ต่อสิ่ง ๑ ประการใด อันเป็นเรื่องราวของกลุ่มสังคม ๑ ภายนอกห้องศาสนา คือบน/ในสังคมโลกใบจริงนี้-นั้นได้บ้าง ? login Jimbovy ได้เคยกล่าวเป็นนัยยะว่า ตนกลับเข้ามาครั้งนี้เพื่อช่วยกอบกู้วิกฤติศรัทธาในเรื่อง ฮิญาบ ซึ่งมี/เป็นกระทู้ประเด็นร้อนอยู่บนบอร์ดในช่วงเดือน ธ.ค. ๕๔ นั้นเอง และ คคห.สุดท้ายของ login Jimbovy ในกระทู้ฮิญาบนั้น ก็คือ คคห.ที่ 398 ซึ่งโพสเมื่อ วันที่ 2 ม.ค. 55 เวลา18:53:09น. ซึ่งในวันเวลาระหว่างนั้นเป็นต้นมา login Jimbovy ก็ได้ร่วมแสดง คคห.ในกระทู้อื่นๆ และตั้งกระทู้เสนอประเด็นต่างๆขึ้นเองบนบอร์ดสนทนาห้องศาสนา   ลำดับความน่าสนใจและน่าจะเป็น คคห.และกระทู้ ของ login Jimbovy อันมีความสำคัญต่อการนำมาพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเป็น ตัวแทนชาวห้องศาสนา ของ login Jimbovy เป็นอย่างยิ่งนั้น ก็มีปรากฏอยู่หลายคคห.และหลายกระทู้ [รวมถึงทั้งกระทู้ที่ถูกแจ้งลบไปด้วย จขกท.คือ login Jimbovy เองด้วย เช่นกัน] ขอยกมาเพื่อประกอบการพิจารณาครั้งนี้ พอสังเขป เพื่อรักษาแก่นเนื้อหา ประเด็น และความยาวของข้อความต้นกระทู้นี้ ดังนี้ ๑. คคห.ที่เปรียบได้ว่าเป็นการ ปล่อยสุนัขหลุดจากกรง ตั้งแต่วันแรกที่ login Jimbovy กลับเข้ามายังห้องศาสนา ณ พันทิปดอทคอม            โพสเมื่อ : วันที่ 27 ธ.ค. 2554 เวลา18:10:51น. คคห.ที่ 34  กระทู้ : Y11507132 หากฮิญาบเป็นเพียงประเพณี..ปล่อยผมสยายได้เลยหรือ??? ซึ่งใน คห.ที่ ๓๔ นี้-นั้น มีข้อความถึงสมาชิกท่าน ๑ คือ login แมทท์ สมาชิกฯสายศาสนาอิสลาม ผู้มีฐานะเป็น จขกท.  ความว่า... "และอยากสร้างนิกายใหม่ ก็ควรไปสร้างในกลุ่มของท่าน ไม่ใช่มาสร้างในที่สาธารณะอย่างนี้ เค้าเรียกว่า สุนัข หางด้วน..." ๒. ความคิดเห็นที่เปรียบได้เช่นกับการ ฉีก ๑ แผ่นข้อความจากคัมภีร์หลักของพระพุทธศาสนา คือ พระไตรปิฎก ส่วนที่กล่าวถึงพระพุทธเจ้าและพระองคุลิมาลเถระ แล้วเอาไป ยัดเยียด เข้าเล่มให้แก่ คัมภีร์หลักของศาสนาอิสลาม คือ อัล-กุรอาน นั่นคือ คคห.ที่ 68 ในกระทู้ : เรื่องหมู....หมู....ที่ไม่..หมู ของอิสลาม ตอน ผัวเมียละเหี่ยใจ{แตกประเด็นจาก Y11538948} ซึ่ง login Jimbovy เป็นเจ้าของกระทู้ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 55 เวลา11:49:00น. ใน คห.ที่ 68 ซึ่งโพสโดย จขกท. login Jimbovy เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 55 เวลา22:40:39น. นั้น มีข้อความว่า...          "ที่ ผมต้องยาว หน่อยในข้อนี้ เพราะกำลังบอกว่า ไม่ว่าศาสดาจากศาสนา ใหญ่ๆที่เราเห้นในทุกวันนี้ ก็บางท่านก้คือศาสดา และบางท่านก็คือนบี เพราะฉะนั้นจะเห็นทัศนคติ ของผม ยืนบนความให้เกียตริทุกศาสนาไม่ก้าวล่วง อย่างเด็ดขาด พระพุทธเจ้า อาจคือ 1 ในนบี ของอิสลามเช่นกัน           เพราะในคัมภีร์ อัลกรุอานมีกล่าวถึง พระพุทธเจ้าและองคุลีมาร เช่นกัน" ๓. คคห.ที่ 42 ที่กระทู้ : Y11537563 "คำสอนสากลตามหลักการของอิสลาม" โพสโดย login แมทท์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 55 เวลา22:02:17น. ใน คห.ที่ 42 ซึ่ง login Jimbovy โพสเข้าไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 55 เวลา23:51:41น. มีข้อความว่า...  การเปิดของอิสลาม เค้าเปิดเฉพาะคนที่ศรัทธา อัลเลาะห์ฮิดายะห์ ให้หัวใจเค้าศรัทธา ไม่ใช่ไปยัดเยียดให้เค้าในสภาวะ ผู้ปฏิเสธ ไม่มีประโยชน์อันใดเลยครับ สงวนจุดต่างของเรา ไม่ต้องมาให้ชาวบ้านเห้น เหมือนกับ อวัยวะเพศในร่ม ผ้า เอามาเปิดบ่อยๆ แล้วมันจะเหลืออะไร ให้น่าสนใจอีกละ ซึ่งต่อจากนั้น กรองคำ ก็ได้แสดงความไม่เห็นด้วย และ ชี้จุดตำหนิ-ด่าว่า login Jimbovy ในกระทู้ดังกล่าวนี้ว่า เป็นดั่ง *สัดว์ที่ผุดเกิดจากนรก* "ไอ้จิมโบวี่ เอ็งมันสุดยอดของ*ความเป็นสัดว์จากนรก*ผุดเกิดหลุดเข้ามาในห้องศาสนาแท้แท้เลย"           เป็นดั่ง *สัดว์ที่ผุดเกิดจากนรก*login Jimbovy ถึงได้แสดงความดิบ-เถื่อนถ้ำออกมาอย่างสิ้นไร้ใน จริยธรรมของมนุษย์ และ ส่อความต่ำช้าที่มีในจิตใจของตนเองว่า เป็นยิ่งกว่าเดียรัจฉาน ด้วยมีมิจฉาทิฐิ คือเห็นสำคัญผิดในตนเอง ถึงกับกล้าสำแดงวาทะ โอ้อวดภูมิปัญญาโวหารอัน ถ่อย ของตนเองออกมา ด้วยข้อความอันน่าสมเพชและลามกต่ำทราม          ด้วยการเปรียบเทียบ ของสูง คือคัมภีร์แห่งอัล-อิสลาม ลงมาสู่ ของที่ต่ำกว่าอย่างที่สุดจะหาอะไร-สิ่งใดเปรียบได้ ตามหลักแห่งจริยธรรมในวัฒนธรรมของสังคมคนไทย          เพราะว่านามวลีที่ระบุว่าเป็น อวัยวะเพศในร่มผ้า นั้น ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงด้วยคำเดียว,ด้วยภาษาพื้นบ้านตามแบบไทยแท้ต่อสัตว์เพศผู้-กับคนเพศชาย ก็คือคำว่า คxวxย นั่นเอง จากนั้น... ล้วนคือข้อเท็จจริง และเป็นเหตุการณ์~พฤติกรรมของบุคคลอันเนื่องต่อสังคมแห่งนี้ ที่จำเป็นต้องนำมา-ยกขึ้นมาพิจารณา   ๑. ความนับถือ-ซื่อสัตย์ในความจริง ของคำพูดและการกระทำ ทั้งต่อตนเองและสังคมพันทิป ของ login Jimbovy ๒. ความรับผิดชอบในการกระทำ จากประพฤติกรรมของตนเอง ของ login Jimbovy ๓. เจตนาคติทางด้านความเป็นศาสนิกชน การแสดงตนตามที่อ้างด้วยฐานะของผู้มีความเคร่งครัดต่อศาสนา และ การกระทำที่แสดงตนถึง จริยธรรม ~ ความมีศีลธรรม ต่อการอยู่ร่วมกับสังคมหมู่คณะ ของ login Jimbovy และ...ฯลฯ และเป็นไอ้-ใครคนไหน ที่มันเหิมถ่อยจนกล้าดึง อัล-กุรอาน ลงเปรียบกับอวัยวะเพศในร่มผ้า ??? ซ้ำยังกล้าแตกปลายลิ้นไป มุสา บอกคนทั่วไปว่าเป็น กรองคำ ที่ใช้คำว่า คxวxย ด่ามัน ??? ชาวห้องศาสนาทั้งหมดนี้เขาโง่กว่า login Jimbovy ทุกคนเลยหรือ ???   จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 02:49:39

ความคิดเห็นที่ 25 และ... จากกระทู้ : Y12246423 เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม login Jimbovy ต้องกลับไป...ฯ นำเรียน ท่านitoursab ที่นับถือ หากไม่มี คคห.ที่ ๒๙ นั้นขึ้นมาแสดงเจตนาพิเศษ ในกระทู้ประกาศเจตนาการทำงานส่วนตัวร่วมกับองค์กรมุสลิมไทย ต่อกรณีโรฮินย่า* ของ login Jimbovy การกระทำใดๆของ login Jimbovy ที่แจกแจงแถลงความตั้งใจและแนวทางต่างๆนานา ใดๆนั้น-ก็ยังเป็นสิทธิส่วนบุคคล อันใครอื่นจะล่วงละเมิดจี้หัวบังคับทิศทางใดๆไม่ได้     ด้วย/โดยทุกประการ กิจกรรมการงาน ทั้งสิ้นนั้น เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่พึงเลือกกระทำได้ตามเจตนาชี้ แสดง ปรากฏ แต่กับกรณีที่ กรองคำ จำเป็นต้องตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา.../เรียนท่านsab คนเดียว-นะ         ท่านฯลองให้หลานชายคนที่เพิ่งจบ ป.๖ ขึ้น ม.๑ บดินทร์ฯปีนี้ มานั่งอ่าน คห.๒๙ แล้วแปลไทยเป็นไทยให้ท่านฯฟังดูทีรึ หรืออ่านเองก็ย่อมสะดวกกว่า-เร็วกว่า-ตรงกว่า         ความหมายปรากฏได้ด้วยข้อความ...ใจความมันก็ต้องเป็นไปตามที่ จขคห.ตั้งใจบอกไว้ใน คห.นั้น - หรือไม่ใช่ครับ ???        ย้อน กลับกระทู้/คคห.ใดๆนั้นๆของ กรองคำ  จะใช้ คีย์เวิร์ด อะไรก็แล้วแต่  ถ้าพบเจอ การขัดแย้ง-ขัดขวาง กิจการของ Jombovy ที่แถลงมา-ที่เกี่ยวเนื่องกับกรณี โรฮินย่า        แม้สัก ๑ ข้อความที่ส่อว่า กรองคำ ปัดแข้งยิงเข่า Jimbovy เพื่อให้ลำบากแก่งานช่วยเหลือ มุสลิมหลายสายเลือดข้ามชาติพันธุ์ คือ ชนเผ่าโรฮินย่า จากพม่า เหล่านั้น หากมี/เป็น หรือพบเจออย่างที่บอกในย่อหน้าบนนั้น แม้สักแค่ ๑ วลีสั้นๆ ๒-๓-๔ คำ       ท่านitoursab ก็จงโปรดสละเวลาส่วนตนสักนิดเดียว       ยกนำข้อความใดๆนั้น ออกมาแสดง-แจ้งแก่สังคม ประจานสันดานของ กรองคำ เพื่อให้ชัดเจนแก่สายตาของสังคมชนอื่น-ใครเขาและเราท่านห้องศาสนานี้ โดยพลันเถิด       ตั้ง ประเด็นขึ้นเป็นกระทู้ใหม่ ให้ชาวห้องศาสนา ได้อ่าน ได้รู้เช่นเห็นชาติ ให้ได้ช่วยกัน นับคืบเส้นไส้ สาวไปจนสุดไส้  ได้เลย-ทันทีนั้นเลย ย่อมจะเป็นเหมาะสมดีด้วย      และท่านฯควรจะ เห็นควรด้วย นะครับ ท่านitoursabที่นับถือ สส. คือผู้แทนราษฎรไทย   กรณีที่ กลุ่มบ้าน ๑๑๑ ทำอะไรไป?/เพราะเพาะอะไรไว้? - ยกไว้  แต่พวกเธอ-เขาเหล่านั้น ก็โดนจำกัดสิทธิ์ ๕ ปี จึงกลับมาอ้าปากหายใจกันได้อีกครั้ง ๑ รอบ ๑ ตามแต่ใจสมัคร~สมัครใจ ฉันใด ก็ ฉันนั้น...นะครับ-ท่านsab          ซึ่ง บนหลักการนี้ เราท่านก็ต้องยึดถือไว้เท่าๆกัน เพราะเป็น equally publicaled rules ไม่ว่าที่นี่จะเป็นเพียง โลกแบน ที่แผ่นไม่หนา แต่ว่ามันกว้างไกลมาก แผ่นนี้-หรือโลกใบกลม !! login Jimbovy  เป็นใคร ?  ในรอบเวลาอีก 3 วันจะครบถ้วน ครึ่งปี ที่เขาได้กลับเข้ามา ณ ห้องศาสนาแห่งพันทิปนี้ login Jimbovy ได้ทำอะไรไว้บ้าง...ที่ยังไม่เคยลบ ที่ยังไม่ได้ล้าง??? ในสิ่งที่ login Jimbovy ควรต้องรับผิดชอบจากการกระทำของเขาใดๆนั้นๆ เขาได้รับผิดชอบหรือยัง ??? login Jimbovy ได้แสดงความนับถือ-ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง และซื่อสัตย์ในหลักศรัทธาต่อศาสนาของตนเอง และไม่ก้าวล่วงศาสนาอื่น แล้วหรือยัง ??? คนเยี่ยงนี้...คือ login Jimbovy นี้ ...loginที่ยังไม่เคยมีคำตอบแท้จริงออกจากปากตนเองอย่าง ตรงไปตรงมา ให้แก่สังคมที่ตนอาศัยอยู่                @ ยังไม่เคยมีคำขอโทษต่อการกระทำของตนเอง ที่ก้าวล่วงกับทั้ง ๒ ศาสนา คือทั้ง พุทธ และ อิสลาม กรณีพระพุทธเจ้าเป็น ๑ นะบีฯ               @ ไม่มีการแสดงถึงสำนึกในความผิดที่ตนเองได้กระทำต่อสมาชิกในสังคมนี้อย่างจริงใจ ปลิ้นชั่วออกจากตัวมาตลอด-ทุกเรื่อง              [แต่กลับ พลิกลิ้นเอาความถูก-ดีเข้าตัวในทุกนาทีที่มีโอกาสให้ฉวยมาใช้] คนที่แสดงสันดานส่อชัดเจนอยู่ว่า ไม่เคยมีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองเยี่ยงนี้         และ...คือ/เป็น login ที่เอาหน้าเอาตาตนเองขึ้นมาก่อนสิ่งอื่นใด-มาตลอด แล้วตอนนี้ จขคห.ที่ ๒๙ คือ login Jimbovy ก็ได้ออกมาใช้สิทธิ์อันชอบธรรมของเขา คือเข้าใช้พื้นที่กระทู้นี้ พลิกลิ้น-ปลิ้นความจริง จากใจความที่ปรากฏอยู่ ทั้งต่อหน้าตนเอง และต่อหน้าสังคมสาธารณะแห่งนี้ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมี  ลิ้น ๒ แฉก ที่แอบแยกตัวอยู่นอก วงนอก แบบซุ่มเงียบ...  เป็นเอกเทศแบบวางตัวเหนือจากกลุ่มใดนั้นอยู่อีก ๑ ตัว เพื่อการ เกรียน&ป่วนกระทู้  เมื่อได้โอกาสเหมาะก็จะงาบเหยื่อที่คิดเอาเองว่าเคี้ยวง่าย ไม่เลือกว่าหญิง หรือ ชาย ขอแค่เป็นคนต่างศาสนาจากตนเท่านั้น คนอย่าง นี้หรือที่ยังจะมาอ้างถึง อะไรใดๆนั้นๆ ที่เป็นจากปาก-จากปลายนิ้วมือของตนเองทั้งสิ้น ที่ แบ๊ะ-แบ๊ะ อ้างว่าคนนั้นทำอย่างนี้-คนนี้ทำยังนั้น กับตนเอง          กรองคำ ละเมิด/ตอแยเรื่องศาสนาอิสลามกับนาย login Jimbovy เรื่องอะไร-เมื่อใด? อย่าพล่อยเอาเพียงแค่คิดรอดตัวไปนาที ๑ วัน ๑ กระทู้ ๑           แต่คนเรา ถ้าถูกกระทำ ก็ยกความจริงใดๆนั้นๆขึ้นมาแสดงให้สังคมเห็นได้   อ้างอิงข้อมูลเป็นหลักฐานมาชี้แจง แถลง-ยืนยัน สัจจะ ในคำพูดของตนเองได้นี่นา-นะ login Jimbovy ออกไปทำงาน กวาดเก็บ - รับซาก vains ก่อน  พรุ่งนี้อาจจะว่างเยอะ จะได้มาดูน้ำเนื้อจากหัวใจกันต่อไปอีกสักช่วงหนึ่ง เพราะอีก 3 วันเท่านั้น ก็ครบครึ่งปีที่ login Jimbovy กลับเข้าย่ำยีห้องศาสนาแล้ว-นะ login Jimbovy จำได้อยู่มั๊ยว่า ใคร-เข้ามาพล่อย &ปล่อยให้หมาหลุดออกจากปากไปกัด ท่านแมทท์ เมื่อ หกโมงเย็นของวันที่ 27 ธ.ค. 2554 ??? และ เป็นไอ้-ใครคนไหน ที่มันเหิมถ่อยจนกล้าดึง อัล-กุรอาน ลงเปรียบกับอวัยวะเพศในร่มผ้า ??? ซ้ำยังกล้าแตกปลายลิ้นไป มุสา บอกคนทั่วไปว่าเป็น กรองคำ ที่ใช้คำว่า คxวxย ด่ามัน ??? ชาวห้องศาสนาทั้งหมดห้องนี้เขาโง่กว่า login Jimbovy กันไปเสียทุกคนเลยหรือ ??? จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 02:55:35

ความคิดเห็นที่ 26 จาก คคห.ที่ ๒๑ ของ  login Jimbovy ...จขกท.นี้ กระทู้ของท่าน Vrod ผมบอกไว้ชัดเจน แล้วพี่กรองคำ จะขุดมาหาพระแสงวิมานอะไรไม่ทราบ ข้องใจไปถามกลุ่มมุสลิมสันติเอาเอง ที่อยู่ตามหัวกระดาษจดหมาย เค้าเป็นคนเทคแอคชั่น บิดเบือนเล่นไม่ถูกเรื่องผิดฝาผิดตัว มันจะเสียผู้ใหญ่เอานะครับ พี่กรองคำ login Jimbovy ... คิดทำได้แค่นี้เองหรือ ??? ถนัดแต่ โยนขี้ ให้คนอื่น รอเก็บกิน-กลืนแต่สิ่งที่เลือกว่า กลบ-เกลา มิดดีแล้ว เท่านั้น ??? อ้าง ท่าน เจ้าหญิงน้ำแข็ง ขึ้นมาอย่างผู้ชายนุ่งโสร่งหน้าหนา ยังพอว่า - เพราะพอจะมองเห็น/ชินจากสันดานเก่าที่เคยทำไว้ แต่กับ กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ ซึ่งเป็น ตนเองที่ดึง กลุ่มจัดตั้งนี้เข้ามาทำ โปรปรากันดา  ชูทั้งหัวเครื่องหางเครื่องของกลุ่มจัดตั้งนี้ แถมมีแจกนามบัตรโชว์ตัวไปทั่วทั้งถนน  แม้กับตำรวจหญิงก็ยังไม่เว้นจะพล่อยปากแซว !!! โพสรูปแกนนำกลุ่ม กมส. เสียเกือบจะโดนมองว่า Jimbovy รับจ๊อบมาเติมกระแส ยกกระทู้ให้ กมส. ไปทั้งกระทู้นั้นแล้ว แล้วตอนนี้ เป็นตัวเอง ที่คิดกลับกลอกต่อความจริง - ริอ่านคิดกรอกเท็จใส่ขวดกะไปใช้แจกเป็นน้ำใจให้ โรฮินย่า !!! แต่ก็เป็นตัวเองนั่นเอง-ที่ทำขวดน้ำใจผสมความเท็จที่จะเอาให้ โรฮินย่า หลุดมือตกแตก         กลิ่นยาพิษที่คิดสูตรผสมเรื่องเองมันกระจายฟุ้งจนคนรู้กันทั่วสังคมนี้-แล้วจึงกลายเป็นสะบัดมือ โดดหนีเรื่องที่ตนเองคิดสรรหา โยงเรื่องต่างๆนานาเอามา ยำ คนเดียว         แล้วสุดท้าย-ตอนนี้ โยนขี้ ที่ปั้นกับมือไปให้ กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ อย่างไว-ทำไมอ่ะ ??? อย่าให้ กรองคำ ตัดสินใจบอกให้ลูกสาวไปรบกวนท่านยองฯช่วยติดต่อท่านเจ้าหญิงน้ำแข็ง เพื่อทำกระทู้พิเศษ         เป็นข่าวตามกระแสลงใน สังคมศาสตร์ปริทัศน์ ชี้แจงถึง นายJimbovy&โรฮินย่า ณ ห้องศาสนา แห่งเว็บพันทิป อีกกระทู้ ๑ เลย โรตีที่คิดว่าหวานนั้น  มันไม่ได้หวานล้วน กินง่ายดาย ไปเสียทุกแผ่นหรอก-นะ login Jimbovy จากกระทู้ : หีบสมบัติผู้ดี ๑๐ ชิ้น-มั๊ง ??? เปิดดูเองสิ-นะ login Jimbovvy อ่ะ-อย่าเปิดเลย ใครไม่รู้ปล่อยหมาออกปาก ให้หมามันคาบกระทู้นี้มุดลงรูท่อน้ำแยกบางใหญ่ไปแล้ว     ปล สุดท้ายแห่ง คคห.นี้  login Jimbovy : ด้วยความนับถือในศักยภาพของตัวตนคนทำงานที่ท่านฯมี-และมีมากกว่าอีกหลายร้อยพันคนที่อยากจะมี Good GIFT เช่นท่านฯ ขอให้ท่าน จง คิดก่อนทำ คิดอย่างเดียวไม่พอ ควรคิดอย่างรอบคอบและมองกว้างกว่าที่เห็นว่ากว้างพอแล้ว อย่าติดค้างอยู่กับฐานะของความสำเร็จที่เคยผ่านมือไป   เพราะว่า อีกด้านหนึ่ง หรือ เงาของตัวเราที่ทาบฉากอยู่นั้น  มันคืออีกด้าน ๑ ของ ความเห็นผิด ที่มนุษย์เราทุกคนมี จงระวังตรงนี้ไว้ยิ่งกว่าสิ่งใดๆที่ผ่านสำนึกรู้ ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี จากจิตใจของเรามาก่อนแล้ว จงหลีกเลี่ยงการตั้งเหรียญให้ตัวเองเห็นทั้งสองด้าน ต่อหน้าคนอื่น การวางเหรียญด้านที่เป็น ตัวเราจริงๆ ขึ้นมาบนโต๊ะแห่งสังคมชีวิต จึงจะยุติธรรมแก่ตัวเราเอง และยุติธรรมต่อสังคมที่เราต้องพึ่งพาอาศัยอย่างหลีกหนีไม่พ้น สุดท้ายนี้... login Jimbovy อย่ากลับไปประพฤติตนเป็นคนที่ทำให้ผู้คนในสังคมเขาใช้สุภาษิตไทยมาชี้หน้าเปรียบเทียบว่า "ไอ้นี่มัน-ปลาหมอตายเพราะปาก" เพราะมันจะเจ็บปวดเข้าตัวเราเองยิ่งกว่าที่ กรองคำ เคยบอกไว้ว่า "ไอ้นี่มันขี้ยกก้นให้คนดู" -นะ login Jimbovy YOSALAM Uploaded by rukchon on 29 Jul 2010 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 03:45:47

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดเห็นที่ 46  จากกระทู้ : กระจอกข่าวนายจิม... รายงาน หน้าสถานฑูตพม่า   ก็ดีนะ...ในเมื่อ จขกท. login Jimbovy กล้าเอาคำว่า กระจอกข่าว ขึ้นมากลบปิด สันดานเดิมแท้อย่าง ๑ ของตนเอง คือ มักจะโอ่อวดข้างตน-ปั้นคำแบบปากพล่อย-ขอให้ได้แสดงออก ไว้เยี่ยงนี้... ถ้าออกท่ามายังงั้น...ก็คงจะชัดเจน  คือเป็นที่รับรู้กันได้ตรงทั่วทุกตาของชาวห้องศาสนา ณ พันทิปดอทคอม แห่งนี้ แล้วว่า login Jimbovy ได้ทำการก้มหน้าลง ใช้ลิ้นเลียเก็บคราบน้ำลาย ที่ตนเองได้ถ่มถูยฺลงพื้นห้องศาสนาไปเมื่อวานนี้ กลับเข้าปาก-กลืนผ่านคอ ผ่านหลอดอาหาร ลงไปอยู่ในไส้-ในตัวของ login Jimbovy เกลี้ยงเกลาแล้ว !!! ความคิดเห็นที่ 17  กระทู้ : Y12261326 ขอแสดงความเห็นเรื่องการช่วยเหลือชาวโรฮิงยา สำหรับวาระนี้  งานนี้มิใช่กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติออกหน้า งานนี้คือ ศูณย์มนุษยธรรมมุสลิมไทยเพื่อชาวโรฮิงยา ออกหน้า ศูณย์นี้เป็นการรวมตัวของมุสลิมในไทยหลายองค์กร รบกวนทำความเข้าใจที่ถุกต้อง ด้วยครับพี่ ปล  งานชุมนุมหน้าสถานฑูตนี้ ไม่ต้องเอาแผ่นประชาสัมพันธ์ที่น้องเกาะ เอามาอ้างอิงนะครับ เพราะคนละเรื่องเกี่ยวกับการ เทคแอคชั่น ของศูณย์ฯ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 55 07:28:30 แต่ที่เห็นเกลื่อน-เต็มกระทู้นี้ ล้วนแต่บุคคลและเอกสารของ/จากกลุ่มจัดตั้งที่ชื่อ มุสลิมเพื่อสันติ อืมมม์... ยกมาถมกระทู้นี้แบบ ยกแผง เชียวนะ- login Jimbovy !!! และ เมื่อวานนี้เช่นกัน ก็ทันเห็นใคร ๑ หนีบโปสเตอร์เดียวกันนี้ แต่ย่อขนาดลงเอาเข้าไปประกอบกระทู้ของมัน ก่อนที่ระบบจะ ด๋อย-ตัดกระทู้ ที่มี คห.โวยวายฟ้องเรื่องภาพไร้สมองโดนแบน-นั้น เหลือสั้นกุดดุ๊ด-นะ ตอนนี้ login Jimbovy ก็เลยออกสันดานต่ำทรามแบบเดิมๆ คือไม่เคารพตัวเอง ไม่พิจารณาถึงการทำพลาดพลั้งของตนเอง      แต่กลับคิดได้เพียงแค่จะ แก้หน้า ให้ตนเอง กับกรณีที่ภาพใน คห.ตัวเองโดนแบนไปเมื่อวานนี้       ด้วยการฉวยโอกาสเอาภาพอุจาดหวาดเสียวที่ปรากฏซ้อนอยู่ในภาพเหตุการณ์ข่าวมาแสดง           ช่างโชว์วุฒิภาวะได้เหมาะสมกับที่มองตนเองไว้ได้เป๊ะจริงๆ สันดาน/ความสามารถเฉพาะตัวของกระจอกข่าว มันก็คิดทำอะไรได้แค่ระดับต่ำเรี่ยพื้น เช่นการก้มลงเลียน้ำลายตัวเองที่ถ่มทิ้งไปแล้วกลับคืนเข้าคอไปเท่านั้น-เท่านั้นเองจริงๆ [อืมมม์...แว่วๆมาตามลม เพราะเหมือนยังพอหาเจอได้ กับสำนวนโวหารที่คล้ายๆจะ โอ่-โว-เบ่ง ว่า ถึงไม่มีห้องศาสนา-ก็ไม่เห็นเดือดร้อน ..อะไรประมาณนั้น-นะ] เออ....แล้ว-แล้ว ไอ้ข้อมูลหลัก ๑๐๐๐ หลัก ๑๐,๐๐๐  ที่ขยันเอาเข้าไปอ้าง  เอาไปเหยียบยืนเพื่อยกระดับน่าสนใจให้ค่าแก่กระทู้ตัวเองนั้น...          มีตรงไหนล่ะ-ในภาพเหตุการณ์/หรือในข้อความบนการ์ด vowS ที่ ชนเผ่าโรฮินย่า เอาไปโชว์แสดงความจริงที่ข้างถนนนั้น ??? เห็นมีแต่เลข 144 !......ใบ้หวยมาเลย์กันกลางเมืองหลวงเลยหรือไงนิ !!!!  อึ่มม์...ที่เขาแสดงภาพประกอบบทความข่าวแนวนี้-เขาทำกันยังไงนะ  ที่ไม่ใช่การแอบอิง-แบบขอยืมถ้วยคนอื่นมาโชว์ ~ ยืมจมูกชาวบ้านมาหายใจ-อย่างหน้าด้าน-ด้าน ??? a Bangladeshi visionnaire's search for justice   Photo Credit : freedomtosurvive.wordpress แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 55 17:43:44 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 55 17:41:36 @ เพราะที่นี่คือห้องศาสนา_login Jimbovy จึงหนีไม่พ้นวันนี้ @ @ วันที่ต้องแสดงความนับถือต่อตนเอง-และซื่อสัตย์ต่อศาสนาของตนเอง @ ทั้งนี้ ก็เพื่อแสดงถึงการนับถือในความเป็นลูกผู้ชายของตนเอง-ด้วยนะ login Jimbovy  แค่ชื่อของพี่จิม โยนลงไปในกูเกิ้ล ไม่เคยมีอะไรเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่ใช่คนที่แอบหลังใคร เปิดเผย ชัดเจน และสุดท้าย ลูกผู้ชายหัวใจเกิน ร้อย จร้า จากคุณ     : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ     : 11 ก.พ. 55 22:12:54 แต่ การ"ขอถอนคำพูด" ~ การ"ขออภัยที่เข้าใจผิด"   ย่อมนับว่าเป็นการแสดงความนับถือต่อตนเองของ ลูกผู้ชาย ตัวจริง  และเป็น Spirit ที่มัดใจผู้คนในสังคมไว้ได้อย่างน่านับถืออย่างยิ่ง    อีก 3 วันจะครบ 6 เดือน ที่ login Jimbovy กลับเข้ามาสิงสู่ห้องศาสนา เคยมีใครเห็นการยอมรับผิดจาก ลูกผู้ชายหัวใจเกินร้อย สัก ๑ ครั้งบ้างมั๊ย ??? เพราะผ่านมาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีความรับผิดชอบ จากการก้าวล่วงต่อทั้ง ๒ ศาสนาเลย จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 05:34:11

ความคิดเห็นที่ 28 แต่ การ"ขอถอนคำพูด" ~ การ"ขออภัยที่เข้าใจผิด"   ย่อมนับว่าเป็นการแสดงความนับถือต่อตนเองของ ลูกผู้ชาย ตัวจริง   และเป็น Spirit ที่มัดใจผู้คนในสังคมไว้ได้อย่างน่านับถืออย่างยิ่ง   อีก 3 วันจะครบ 6 เดือน ที่ login Jimbovy กลับเข้ามาสิงสู่ห้องศาสนา เคยมีใครเห็นการยอมรับผิดจาก ลูกผู้ชายหัวใจเกินร้อย สัก ๑ ครั้งบ้างมั๊ย ??? @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ แต่ การ"ขอถอนคำพูด" ~ การ"ขออภัยที่เข้าใจผิด"   ย่อมนับว่าเป็นการแสดงความนับถือต่อตนเองของ ลูกผู้ชาย ตัวจริง   และเป็น Spirit ที่มัดใจผู้คนในสังคมไว้ได้อย่างน่านับถืออย่างยิ่ง   ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในนี้อันยาวนาน ที่ login ""กรองคำ""กลับเข้ามาสิงสู่ห้องศาสนา เคยมีใครเห็นการยอมรับผิดจาก ลูกผู้ชายหัวใจเกินร้อย สัก ๑ ครั้งบ้างมั๊ย ??? """"""""""""""Login กรองคำ มุสา คำโต"""""""""""""""" ผมอยู่ในนี้ขอโทษมากกว่า 4 ครั้ง แต่Login กรองคำ ไม่เคย ขอโทษ สำนึกตัวแม้นแต่ครั้งเดียว แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 06:23:31 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:22:45

ความคิดเห็นที่ 29 666666 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:33:24

ความคิดเห็นที่ 30 66 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:34:23

ความคิดเห็นที่ 31 กรอง คำ คนโกหก หน้าด้าน แถ เถือก จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:36:03

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณ พี่กรองคำ ที่เคารพรัก ที่ช่วยเอารูปภาพเก่าๆของผมมาโฆษณา อ้าว"ท่านใด ที่เรียกร้อง กอรมน สันติบาลให้ตรวจสอบ"รีบทำสะนะครับ อย่าลืม ตรวจสอบ พี่กรองคำ และกลุ่ม Anti Islam ทั้งกลุ่มด้วยละครับ เอามาลงให้เห็น ชัดๆดีกว่า ของพี่กรองคำ แค่ คนแก่อยากดังตัดแปะ แต่ไร้น้ำยา และผลงาน จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:44:34

ความคิดเห็นที่ 33 ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนผู้เดือดร้อน อย่างนี้เพื่อมนุษยธรรมหรือไม่ อย่างนี้เรียกว่า วาทกรรม ทสี แบบกรองคำหรือไม่? จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:49:47

ความคิดเห็นที่ 34 อย่างนี้ทำเพื่อตนเองหรือไม่ บ้านผมเองเดือดร้อน จมหมด 4 หลัง รถ 2 คัน เสียหายหลักล้าน แต่ผมยังออกไปช่วยคนอื่นนับครั้งไม่ถ้วน พี่กรองคำ นอกจากนักเลงคียร์บอร์ด ไล่จับผิดคนอื่น เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อ ประเทศชาติหรือไม่ จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 06:56:52

ความคิดเห็นที่ 35 66666 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 07:01:19

ความคิดเห็นที่ 36 ..** จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 07:02:37

ความคิดเห็นที่ 37 เอาให้ชัดๆเลยมะ จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 07:06:53

ความคิดเห็นที่ 38 คุณพี่จิม ขออัลลอฮฺคุ้มครองให้ปลอดภัยจากสิ่งไม่ดีทั้งปวงค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:11:32

ความคิดเห็นที่ 39 ...................... จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:14:33

ความคิดเห็นที่ 40 น้องลันตา  ขอบคุณครับ ทองแท้ย่อมไม่กลัวร้อน มีแต่ทองเก๋ กรองคำ เท่านั้นแหละที่ดิ้นโกหกพกลมไปวันๆ มิได้หยุดหย่อน จองเวรจองกรรมกับคนอื่นที่ไม่ได้ก่อเวรกรรม ต่อ กรองคำแต่ประการใด เที่ยวระรานคนอื่นไปทั่ว ทั้งที่ผู้อื่นหลีกเลี่ยงแล้ว หลีกหนีแล้ว ก็ยังไปกระตุกเข้ามา เมือ่อยากเล่นเกมส์นี้ พี่จิม ไม่ขัดศรัทธา ของกรองคำ และก้วนป่วนอยู่แล้วครับ อัลฮำดูลิ้ลลาห์ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 08:30:36 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 08:19:40 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:18:40

ความคิดเห็นที่ 41 ...... จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:22:33

ความคิดเห็นที่ 42 ท่านพุทธทาสได้แต่งหนังสือชื่อว่า ชีวิตคืออะไร โดยท่านได้อธิบายถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ได้แก่กลไกการทำงานของขันธ์ทั้ง 5 ประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ เห็นว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นอนัตตา แต่สิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์ คืออุปาทานขันธ์ ที่ทำให้คนเห็นว่าเป็นอัตตา เป็นตัวกู ของกู จึงเกิดทุกข์ เมื่อไม่มีตัวกู ของกู ก็ไม่มีทุกข์ ดังนั้น อุปาทานขันธ์ 5 หรือ ปัญจุปาทานขันธ์ จึงควรเป็นแก่น เป็นหัวใจของศาสนาพุทธ ใช่หรือไม่หัวใจของศาสนาพุทธอยู่ในอริยสัจ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีพระสมณะโคดม เป็นผู้ตรัสรู้ในหลักธรรม และแสดงธรรมเทศนา ให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา เป็นผู้นำแนวทางดำเนินชีวิต ทางด้านจิตและ วิญญาณ ของผู้คนจำนวนมากนับหลายๆล้านคน เป็นพระพุทธเจ้า มานานนับพันปี จนกระทั่งทุกวันนี้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เมื่อ สองพันห้าร้อยกว่าปี และ มีผู้คนศรัทธาเลื่อมใสจนทุกวันนี้ กล่าวโดยรวมได้แก่ อริยสัจ 4 เป็นหลักของศาสนาพุทธ หากจะวิเคราะห์ว่าสิ่งใดเป็นหัวใจแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาในรายละเอียด พิจารณาดูเนื้อใน ภายใน จากอริยสัจทั้งสี่ข้อ เป็นต้นไป อริยสัจสี่ ซึ่งประกอบด้วยสัจธรรมเรื่องแรก คือ ทุกข์ พระพุทธเจ้าเห็นว่า ปัญหาพื้นฐานของโลกนี้คือ ทุกข์ การเกิดเป็นทุกข์ ต้องดิ้นรนหาปัจจัย เพื่อตอบสนองความต้องการทางกายทางใจ การแก่เป็นทุกข์ ไม่ว่าแก่ขึ้นหรือแก่ลง การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นทุกข์ ความกลัวตายเป็นทุกข์ ความคับแค้นใจคับข้องใจเป็นทุกข์ การได้การพบกับสิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่รัก ไม่ต้องการ สิ่งที่เราเกลียดกลัวเป็นทุกข์ การพลัดพราก สูญเสียสิ่งที่รักที่ชอบ เป็นทุกข์ การปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ สรุปแล้วทุกข์เป็นตัวปัญหา สัจธรรมเรื่องที่สอง คือ สาเหตุของปัญหา หรือ เหตุแห่งทุกข์ เรียกว่า สมุทัย สาเหตุสำคัญได้แก่ อนิจจัง คือความไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายที่ประกอบด้วย ธาตุต่างๆมารวมกันย่อม ไม่เสถียร ต้องเสื่อมสลายหรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา กลไกของธรรมชาติสร้างให้คนเรา เพลิดเพลินในอารมณ์ จนเกิดอุปาทานยึดติดสิ่งต่างๆเหล่านั้น เป็น อัตตา เป็นตัวกูของกู เกิดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดตัณหา ความทะยานอยาก จึงเป็นทุกข์ การแก้ปัญหาคือต้องแก้ที่สาเหตุต่างๆเหล่านี้ สัจธรรมเรื่องที่สาม คือ การกำหนดสภาวะที่เป็นเป้าหมายสูงสุดที่ต้องบรรลุ เพื่อพ้นจากปัญหาอันได้แก่ความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง เรียกว่า นิโรธ หรือ สภาวะของการดับสิ้นความทุกข์โดยสิ้นเชิง ไม่เกิดทุกข์อีก สัจธรรมเรื่องสุดท้าย คือ แนวทางปฏิบัติ เพื่อบรรลุเป้าหมาย การพ้นทุกข์ เรียกว่า มรรค ประกอบด้วย กิจกรรมที่ต้องปฏิบัติกาย ปฏิบัติใจทั้งสิ้น 8 กิจกรรมด้วยกัน เริ่มตั้งแต่การศึกษาหาความรู้ ความเข้าใจ จนเกิดความเห็นชอบ หรือ สัมมาทิฐิ ปฏิบัติเรื่อยไป จนถึงการเจริญสมาธิ วิปัสสนา ตามแนวทางที่ถูกต้องเป็นสัมมาสมาธิการพิจารณา อริยสัจ ทั้ง 4 เพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นแก่น เป็นหัวใจของศาสนา หากลองแบ่ง สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เช่นแบ่งออกตามลักษณะการเกิดจำแนกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนที่เกิดก่อนและส่วนที่เกิดในยุคพระพุทธเจ้า ส่วนที่เกิดก่อน ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย และ นิโรธ เป็นส่วนที่พระพุทธเจ้าได้ชี้นำให้เรา เห็นให้เราเข้าใจในธรรมชาติ เป็นธรรมะ เป็นความจริงของโลก เป็นสภาวะที่มีอยู่แล้วตามปกติ เรื่องเหล่านี้มีเกิดดับอยู่ใน ธรรมชาติมานานแล้ว ไม่ใช่ของใหม่ อริยสัจ ส่วนหลัง คือ มรรค เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้คิดค้นขึ้นมา เป็นนวัตกรรมทางชีวิต จิต และ วิญญาณ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว และยังเป็นที่เลื่อมใส เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของชาวพุทธถึงทุกวันนี้ การบ่งบอกว่าผู้ใดเป็นชาวพุทธให้ดูจากวิถีปฏิบัติ ผู้คนอาจมีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องโลก เรื่องทุกข์ เหมือนกัน แต่หากหาทางพ้นทุกข์ด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่ มรรคทั้ง 8 นั้น ไม่ใช่แนวทางของพระพุทธเจ้า ย่อมไม่ใช่พุทธ ตัวอย่างเช่น เรามีความทุกข์ เนื่องจากเงินทองไม่พอใช้ แต่เราหาทางดับทุกข์โดยการไปโกง ไปขโมยคนอื่นมา เช่นนี้ไม่ใช่วิถีของชาวพุทธ ดังนั้นอริยมรรคที่พระพุทธเจ้าได้ทำปฐมเทศนาในส่วนหนึ่งของ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร คือจุดเริ่มต้นของศาสนา คือศาสนาพุทธ คือแก่นแท้ เนื้อแท้ของศาสนา เป็นวิถีของชาวพุทธ ผู้ที่จะหาหัวใจของศาสนาจำเป็นต้องศึกษาจาก มรรคทั้ง 8 ข้อ เหล่านี้มรรคแปดคือ แก่นของศาสนาพุทธ ดังที่กล่าวมาแล้ว มรรค 8 คือแก่นแท้ คือเนื้อแท้ของศาสนาพุทธ เปรียบเสมือนร่างกาย หัวใจของศาสนาจึงเปรียบเสมือน หัวใจของร่างกาย หากหัวใจหยุดทำงาน ร่างกายต้องหยุด ต้องตายภายใน 5 นาที หัวใจของศาสนาเป็นเช่นเดียวกัน หากศาสนาขาดสิ่งที่เป็นหัวใจ ศาสนาต้องหยุด ต้องดับสิ้นลงเช่นกัน เพื่อรักษาศาสนาให้เป็นไป จำเป็นต้องรู้ว่าสิ่งใดเป็นหัวใจ ต้องดูแลรักษา ต้องปฎิบัติให้ถูกให้ควร การค้นหาหัวใจของศาสนาต้องค้นหาภายในกาย หรือ ในมรรคทั้งแปดข้อนั่นเอง http://www.novabizz.com/NovaAce/Core.htm แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 08:43:46 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:37:56

ความคิดเห็นที่ 43 มรรคข้อแรก คือ ความเห็นชอบ การพร้อมใจ ริเริ่มทำสิ่งใดต้องมีความเห็นด้วย และความชอบเป็นทุน สิ่งที่พึงระวังคือ ความเห็นชอบไม่ใช่ความเชื่อ ตามที่กล่าวไว้ใน กาลามสูตร ผู้สนใจ ต้องศึกษาให้รู้และหมั่นพิจารณาให้เข้าใจแท้ ว่าโลกนี้ ชีวิตนี้เป็นทุกข์ ทุกข์เกิดจากความไม่เที่ยง ของสังขารของธาตุทั้งหลายที่ไม่เสถียร ทุกข์เกิดจากอุปาทานขันธ์ ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นอัตตา ทุกข์เกิดจาก กิเลส ตัณหา ภายในกาย ภายในใจ แล้วกำหนดจิตให้ รู้สึกเกิดความเบื่อหน่ายในทุกข์และ รู้สึกต้องการ พ้นทุกข์ตามวิถีของชาวพุทธ เหล่านี้ คือความเห็นชอบ หรือ สัมมาทิฐิ มรรคข้อที่สอง คือ การดำริชอบ เมื่อเกิดความเห็นชอบ ต้องการพ้นทุกข์ตามวิถีของพุทธแล้ว ต้องริเริ่มการกระทำอย่างง่ายๆก่อน ง่ายที่สุดคือการทำใจ เพื่อ ให้บริสุทธิ์ เพื่อให้ปราศจากซึ่งราคะ หรือ อยู่ในสภาวะของวิราคะ โดยพยายามระงับความครุ่นคิดหมกมุ่น ในเรื่องต่างๆ ซึ่งได้แก่เรื่องความพยาบาท หรือ ละพยาบาทวิตก โดยพยายามระงับความคิดพยาบาท ผู้ที่เคยทำร้าย ทำเวรทำกรรมกับเรา เลิกวิตกกับมัน ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้อะไร ทุกข์ใจไปเปล่า ระงับความ ครุ่นคิดหมกมุ่นเรื่องกาม หรือ ละกามวิตก เรื่องกามนี้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องเพศ แต่ที่แท้จริงแล้วประกอบด้วยหลายอย่าง เช่น รูปคือสิ่งที่เห็นที่สวยงาม น่าชื่นชมน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ หรือธรรมชาติรอบตัว รสของอาหารที่ถูกปาก กลิ่นที่น่าสูดดมน่าชื่นใจ เสียงคน เสียงดนตรีหรือเสียงเพลงที่เราชอบ ตลอดจนการสัมผัสที่อบอุ่นหรือที่เร้าใจ เหล่านี้เป็นเรื่องของกามาทั้งสิ้น และ สุดท้ายคือเรื่องของ วิหิงสาวิตก คือการละความคิดหมกมุ่นที่จะทำร้าย เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น อยากทรมาน อยากซาดิสท์ การดำริหรือริเริ่มในการละวิตกต่างๆเหล่านี้ หมายความว่าเรา คิดได้ แต่อย่าคิดหมกมุ่น ให้รีบตัดออกจากใจ ทันทีที่ได้รู้สึกตัว หากฝึกทำขั้นนี้ได้สมองจะปลอดโปร่ง จิตใจสงบ สบายขึ้น เป็นการควบคุมใจ โดยการควบคุมความคิดอย่างง่ายๆ คือ การดำริชอบ หรือ สัมมาสังกัปปะ มรรคข้อที่สาม คือการเจรจาชอบ หรือ วาจาชอบ เป็นการฝึกควบคุม หรือฝึกบังคับใจ โดยวิธีการสำรวมคำพูด กำหนดว่าสิ่งใดควรหลีกเลี่ยงไม่ควรพูด อย่าง แรกคือการไม่พูดโกหก อย่างที่สอง คือการไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเรื่องเลวเรื่องร้ายของผู้อื่น อย่างที่สาม การไม่พูดหยาบคาย และ เรื่องที่สี่คือไม่พูดเพ้อเจ้อไร้สาระ ซึ่งสามเรื่องแรกคือ การพูดโกหก การพูดส่อเสียด และการพูดหยาบคาย คนเราพูดสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อหวังประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งของตัวเอง ไม่ว่าเป็นประโยชน์ทางกายหรือทางใจ เป็นการเสริมสร้างกิเลส เสริมสร้างอัตตา ให้กับตน การระงับใจไม่ให้พูด เป็นการฝึกในการระงับ กิเลส ตัณหา ลด อัตตา ตัวกูของกู ลงได้ส่วนหนึ่ง ส่วนการไม่พูด เพ้อเจ้อ นั้นเป็นการควบคุมใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน ให้คิดแต่สิ่งที่เป็นธรรมะ เป็นประโยชน์ เหล่านี้คือ วาจาชอบ หรือ สัมมาวาจา มรรคข้อที่สี่ คือ การกระทำชอบ หลังจากเรา ควบคุมความคิดความวิตก ควบคุมวาจาควบคุมคำพูดได้แล้ว ต้องเริ่มปฏิบัติจริงจัง คือเริ่มการกระทำที่เป็นรูปธรรม สิ่งแรกคือ การควบคุมทั้ง กาย วาจา และ ใจ ไปพร้อมกัน ได้แก่การถือศีล เริ่มตั้งแต่ศีล 5 ที่เป็น การถือศีลขั้นต้นของฆราวาส ได้แก่การไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ที่ล้วนทำเพื่อสนองตัณหาสนองอัตตาของตน หรือ ตัวกู การไม่ลักขโมย ไม่หวังลาภที่ไม่ควรได้ ไม่ละโมภ ไม่ยึดติดกับสิ่งของ หรือ ของกู การไม่ประพฤติผิด หลงมัวเมาในกาม รูป รส กลื่น เสียง สัมผัส ซึ่งเป็นการระงับ กิเลส และ ตัณหาในระดับหนึ่ง การไม่พูดเท็จ พูดเสริมสร้างอัตตาตัวกู สุดท้ายคือ การละเว้นการดื่มของมึนเมา ซึ่งทำลายร่างกาย ทำลายประสาทสมอง ทำให้ ความคิด ปัญญา ตลอดจนสติสัมปชัญญะ บกพร่องพิการ นอกจากถือศีล 5 แล้วยังต้องถือศีลมากขึ้นไปเป็นศีล 8 ศีล 10 จนกระทั่งถึงวินัย ทั้ง 227 ข้อของพระสงฆ์ การถือศีลทั้งหลายจึงนับว่า เป็นการกระทำที่เป็นรูปธรรมขั้นแรกในการปฏิบัติธรรม นอกจากการถือศีลแล้ว มรรคที่เหลืออีกทั้ง 4 ข้อ ต่อจากนี้ถือเป็นการกระทำชอบ หรือ สัมมากัมมันตะ ทั้งสิ้น http://www.novabizz.com/NovaAce/Core.htm แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 08:46:50 จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:41:41

ความคิดเห็นที่ 44 ขอเป็นกำลังใจให้พี่จิมต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮต่อไปครับ ผมคนไม่ค่อยมีความรู้อะไรมากขอเป็นกำลังใจให้ครับ ขออัลลอฮประทานความดีงามให้พี่และครอบครัวครับ จากคุณ : ัyosof (yosof) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:49:30

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ ัyosof (yosof) ขอบคุณครับ ผมถือหลักการผินหน้าหนีทุกวิธีการหลีกเลี่ยงสารพัด เมื่อหลีกไม่ได้ และ มารร้ายไซตอน กรองคำ ก็ยังตื้อไม่เลิก ก็ต้องคงใช้วิธี การตอบโต้แหละครับ อัลฮำดูลลิ้ลลาห์ คนพวกนี้ใจบาป ขนาดนิมนต์พระในศาสนาของเค้ามาเทศนา มันยังไม่ใส่กบาลแม้นแต่น้อย บาปหนา กระโหลกหนาเสียยิ่งกระไร จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:01:22

ความคิดเห็นที่ 46 144. ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงอย่าได้ยึดเอาบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเป็นมิตรอื่นจากผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเจ้าต้องการที่จะให้อัลลอฮฺมีหลักฐานอันชัดเจนจัดการแก่พวกเจ้ากระนั้นหรือ?(*1*) 89. พวกเขาชอบหากว่า พวกเจ้าจะปฏิเสธศรัทธา ดังที่พวกเขาได้ปฏิเสธ พวกเจ้าจะได้กลายเป็นผู้ที่เท่าเทียมกัน(*1*) ดังนั้นจงอย่าได้ยึดเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตร จนกว่าพวกเขาจะอพยพไปในทางของอัลลอฮฺ(*2*) แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ก็จงเอาพวกเขาไว้(*3*) และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ที่พวกเจ้าพบพวกเขา และจงอย่าเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตรและเป็นผู้ช่วยเหลือ(*4*) หวังว่าคำสอนนี้คงเตือนใจพี่จิมได้นะครับ จงอย่าเอาผู้ปฏิเสธศรัทธาเป็นมิตร แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 09:19:33 จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:18:10

ความคิดเห็นที่ 47 MCE คห ซ้ำซ้อน ครับ เอามาลงกี่รอบแล้ว เอาอายะห์ที่ 90 มาลงด้วยสิ อย่าทำสันดานบิดเบือน เหมือน พี่กรองคำ หยิบเฉพาะบางท่อนมา เอาคำสอนของท่านอาจารย์พุทธทาส ภิกขุ ที่ใดเทศนาธรรมมาใส่กบาลทั้งก้วนด้วยละ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 09:25:26 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:25:11

ความคิดเห็นที่ 48 พี่จิมแนะนำ MCE ว่า ไม่ต้องมาต่อกรกับพี่จิม ไปตาม ภูวดล แดนไทย และพนมเทียนมา MCEกระดูกมวยมันคนละรุ่นกันกับพี่จิม   จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:27:06

ความคิดเห็นที่ 49 23. “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงอย่าได้ถือเอาบิดาของพวกเจ้า และพี่น้องของพวกเจ้าเป็นมิตร หากพวกเขาชอบการปฏิเสธศรัทธา(*1*)เหนือการอีมาน และผู้ใดในหมู่พวกเจ้าให้พวกเขาเป็นมิตรแล้ว ชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้อธรรม” จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:29:51

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าจะยกอายะห์กรุอานมา ต้องแบบพี่จิมยกมาทั้งเรื่อง ไม่ใช่ตัดต่อ ต้องอธิบายเรื่องราวได้ทั้งหมดชัดเจน นี่คือ ซูเราห์ อัลนิซะอุ อายะห์ 89 และ 90 ต่อเนื่องกัน 4. ซูเราะฮฺ อัน-นิซาอฺ (An-Nisaa)     89. พวกเขาชอบหากว่า พวกเจ้าจะปฏิเสธศรัทธา ดังที่พวกเขาได้ปฏิเสธ พวกเจ้าจะได้กลายเป็นผู้ที่เท่าเทียมกัน(*1*) ดังนั้นจงอย่าได้ยึดเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตร จนกว่าพวกเขาจะอพยพไปในทางของอัลลอฮฺ(*2*) แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ก็จงเอาพวกเขาไว้(*3*) และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ที่พวกเจ้าพบพวกเขา และจงอย่าเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตรและเป็นผู้ช่วยเหลือ(*4*)   (1)  คือมีฐานะเท่าเทียมกับพวกเขาโดยที่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยกัน (2)  คืออพยพไปมะดีนะฮ์เพื่อนร่วมภาระกิจในวิถีทางของอัลลอฮฺ (3)  ให้จับพวกเขาเป็นเชลยหากมีโอกาส (4)  เป็นผู้ช่วยเหลือในการส่งข่าวความเคลื่อนไหวของพวกกุเรซมักกะฮ์ เพราะเขามิได้จริงใจต่อพวกเจ้า     90. นอกจากบรรดาผู้ที่ติดต่ออยู่(*1*)กับพวกหนึ่งซึ่งระหว่างพวกเจ้ากับพวกนั้นมีพันธะสัญญาอยู่(*2*)หรือบรรดาผู้ที่มาหาพวกเจ้าโดยที่หัวอกของพวกเขาอัดอั้น(*3*)ต่อการที่พวกเขาจะสู้รบกับพวกเจ้าหรือสู้รบกับหมู่ชนของพวกเขาเอง(*4*) และหากว่าอัลลอฮฺทรงประสงค์แล้ว แน่นอนก็ทรงให้พวกเขามีอำนาจเหนือพวกเจ้าแล้ว แล้วแน่นอนพวกเขาก็สู้รบกับพวกเจ้าแล้วด้วยแต่ถ้าพวกเขาออกห่างพวกเจ้า โดยที่มิได้ทำการสู้รบกับพวกเจ้า และได้เจรจาแก่พวกเจ้าซึ่งการประนีประนอมแล้วไซร้ อัลลอฮฺก็ไม่ทรงให้มีทางใดแก่พวกเจ้าที่จะขจัดพวกเขาได้(*5*)   (1)  คือมีความสัมพันธ์กันและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (2)  มีพันธะสัญญาที่จะไม่รุกรานกันและสู้รบกัน กล่าวคือถ้าฝ่ายมุมินจะจัดการแก่พวกมุนาฟิกดังกล่าว แน่นอนผู้ที่มีสัมพันธ์อยู่กับพวกเขาก็จะต้องช่วยเหลือ นั่นก็หมายถึงว่า ฝ่ายมุมินจะต้องทำศึกกับผู้ที่มีพันธะสัญญาระหว่างกันอย่างแน่นอน อันเป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสัญญา ด้วยเหตุนี้จึงให้มุมินละเว้นไม่กระทำต่อมุนาฟิกที่อยู่ในข่ายดังกล่าว (3)  ไม่มีแก่ใจที่จะสู้รบกับพวกเจ้า เพราะไม่ปรารถนาที่จะฆ่าฟันกับผุ้ที่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อน กล่าวคือพวกเขาจะไม่ร่วมกับมุนาฟิกมักกะฮ์รบกับฝ่ายมุสลิม (4)  ไม่ปรารถนาที่จะร่วมกับฝ่ายมุสลิมรบกับพวกมุชริกซึ่งเป็นพวกของเขา (5)  เลิกคิดที่จะประหัตประหารพวกเขาเพราะอัลลอฮฺไม่ทรงเปิดทางให้กระทำได้ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:31:27

ความคิดเห็นที่ 51 MCE ลงซ้ำซ้อน ความคิดเห็นที่ 49 เอามาจากอายะห์ใด ซุเราะห์ใด เรื่องราวเป็นอย่างไร เก็บไปเหอะ มุกเสี่ยว แบบ พี่กรองคำ และภูวดล แดนไทย และ พนมเทียน จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:33:08

ความคิดเห็นที่ 52 MCE  หันมาอธิบาย ซูเราะห์ที่ 89 และ 90 ที่ MCE เอามาลง สิ กลับมาอย่าออกทะเล อธิบายเป็นภาษาไทยชัดๆ สั้นๆ อธิบายไม่ได้ หลบไป แสดงว่าป่วน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:34:54

ความคิดเห็นที่ 53 56. ในสวนสวรรค์เหล่านั้นมีหญิงสาวพรหมจารี ผู้ลดสายตาลง (เฉพาะสามีของนางเท่านั้นป (*1*) ซึ่งไม่มีมนุษย์ และไม่มีญินแตะต้องพวกนางมาก่อนเลย (*2*) (1)  คือหญิงสาวพรหมจารีเหล่านั้นจะลดสายตาของนางลงเฉพาะแต่สามีของนางเท่านั้น นางจะกล่าวแก่สามีของนางว่า ด้วยเกียรติ และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของฉัน ในสวนสวรรค์นี้ฉันไม่เห็นผู้ใดดียิ่งไปกว่าท่าน อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ ที่พระองค์ทรงให้ท่านเป็นสามีของฉัน และฉันเป็นภริยาของท่าน (2)  คือไม่มีผู้ใดที่เป็นมนุษย์หรือญิน จะมาร่วมเพศกับพวกนางก่อนสามีของพวกนางเลย กล่าวคือนางเป็นสาวพรหมจารี จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:38:28

ความคิดเห็นที่ 54 ประกาศ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:38:34

ความคิดเห็นที่ 55 ....... จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:39:06

ความคิดเห็นที่ 56 ความคิดเห็นที่ 51 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน MCE ลงซ้ำซ้อน ความคิดเห็นที่ 49 เอามาจากอายะห์ใด ซุเราะห์ใด เรื่องราวเป็นอย่างไร เก็บไปเหอะ มุกเสี่ยว แบบ พี่กรองคำ และภูวดล แดนไทย และ พนมเทียน จากคุณ : Jimbovy [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:33:08 [แก้ไข] อ้าวไหนว่าอ่านอัลกุรอาน จบมาตั้งเเต่เป็นเด็กไงครับ จำไม่ได้หรอว่ามันอยู่ตรงไหนของอัลกุรอาน จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:40:32

ความคิดเห็นที่ 57 ผมแค่ยกเอาคำสอนมาเตือนใจ มสุลิมครับ เกิดบ้างทีมุสลิมลืมตัวไป คิดในแง่ดีสิครับ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:41:46

ความคิดเห็นที่ 58 mce001 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:42:32

ความคิดเห็นที่ 59 MCE ยกมาเตือนใจ ยกมาให้หมด สิ ยกมาขาดๆตอนๆเค้าไม่เรียกว่าเตือนใจ แต่เค้าเรียกว่า ป่วน และบิดเบือน ผิดศีลมุสา ข้างบน ย้อนกลับไปอ่านไป และมรรคข้อที่ 3 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:44:29

ความคิดเห็นที่ 60 MCE ผมบอกหรือยังว่าผมจำไม่ได้ แต่MCE ยกมา ต้องมีที่อ้างอิง และต้องรับผิดชอบ ไม่งั้นเค้าเรียกว่าป่วน กลับไปอ่านคำสอน ขององค์พระพุทธเจ้านะไป แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 09:46:22 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:46:01

ความคิดเห็นที่ 61 89. พวกเขาชอบหากว่า พวกเจ้าจะปฏิเสธศรัทธา ดังที่พวกเขาได้ปฏิเสธ พวกเจ้าจะได้กลายเป็นผู้ที่เท่าเทียมกัน(*1*) ดังนั้นจงอย่าได้ยึดเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตร จนกว่าพวกเขาจะอพยพไปในทางของอัลลอฮฺ(*2*) แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ก็จงเอาพวกเขาไว้(*3*) และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ที่พวกเจ้าพบพวกเขา และจงอย่าเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตรและเป็นผู้ช่วยเหลือ(*4*)   (1)  คือมีฐานะเท่าเทียมกับพวกเขาโดยที่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยกัน (2)  คืออพยพไปมะดีนะฮ์เพื่อนร่วมภาระกิจในวิถีทางของอัลลอฮฺ (3)  ให้จับพวกเขาเป็นเชลยหากมีโอกาส (4)  เป็นผู้ช่วยเหลือในการส่งข่าวความเคลื่อนไหวของพวกกุเรซมักกะฮ์ เพราะเขามิได้จริงใจต่อพวกเจ้า  พี่จิมเอาคำสอนของอัลเลาะมาบิดเบือนเช่นนี้มีโทษอะไรคงรู้ใช่ไหมครับ ผมไม่ได้ป่วนอะไรเเค่ยกเอาคำสอนมาให้ดู นี้ถือว่าป่วนเเล้วหรอครับ คำสอนที่ผมยกมาล้วนมีค่าทั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 09:48:39 จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:47:25

ความคิดเห็นที่ 62 อายะห์ที่ 90 ว่าอย่างไร เอามาอธิบายด้วย เรื่องเดียวกัน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:56:34

ความคิดเห็นที่ 63 MCE ตั้งกระทู้เลย ยกมา 1 บท มาตั้งกระทู้บิดเบือนอย่างนี้ เค้าเรียกว่า ป่วน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:58:11

ความคิดเห็นที่ 64 90. นอกจากบรรดาผู้ที่ติดต่ออยู่(*1*)กับพวกหนึ่งซึ่งระหว่างพวกเจ้ากับพวกนั้นมีพันธะสัญญาอยู่(*2*)หรือบรรดาผู้ที่มาหาพวกเจ้าโดยที่หัวอกของพวกเขาอัดอั้น(*3*)ต่อการที่พวกเขาจะสู้รบกับพวกเจ้าหรือสู้รบกับหมู่ชนของพวกเขาเอง(*4*) และหากว่าอัลลอฮฺทรงประสงค์แล้ว แน่นอนก็ทรงให้พวกเขามีอำนาจเหนือพวกเจ้าแล้ว แล้วแน่นอนพวกเขาก็สู้รบกับพวกเจ้าแล้วด้วยแต่ถ้าพวกเขาออกห่างพวกเจ้า โดยที่มิได้ทำการสู้รบกับพวกเจ้า และได้เจรจาแก่พวกเจ้าซึ่งการประนีประนอมแล้วไซร้ อัลลอฮฺก็ไม่ทรงให้มีทางใดแก่พวกเจ้าที่จะขจัดพวกเขาได้(*5*)   (1)  คือมีความสัมพันธ์กันและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (2)  มีพันธะสัญญาที่จะไม่รุกรานกันและสู้รบกัน กล่าวคือถ้าฝ่ายมุมินจะจัดการแก่พวกมุนาฟิกดังกล่าว แน่นอนผู้ที่มีสัมพันธ์อยู่กับพวกเขาก็จะต้องช่วยเหลือ นั่นก็หมายถึงว่า ฝ่ายมุมินจะต้องทำศึกกับผู้ที่มีพันธะสัญญาระหว่างกันอย่างแน่นอน อันเป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสัญญา ด้วยเหตุนี้จึงให้มุมินละเว้นไม่กระทำต่อมุนาฟิกที่อยู่ในข่ายดังกล่าว (3)  ไม่มีแก่ใจที่จะสู้รบกับพวกเจ้า เพราะไม่ปรารถนาที่จะฆ่าฟันกับผุ้ที่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อน กล่าวคือพวกเขาจะไม่ร่วมกับมุนาฟิกมักกะฮ์รบกับฝ่ายมุสลิม (4)  ไม่ปรารถนาที่จะร่วมกับฝ่ายมุสลิมรบกับพวกมุชริกซึ่งเป็นพวกของเขา (5)  เลิกคิดที่จะประหัตประหารพวกเขาเพราะอัลลอฮฺไม่ทรงเปิดทางให้กระทำได้ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:59:28

ความคิดเห็นที่ 65 23. “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงอย่าได้ถือเอาบิดาของพวกเจ้า และพี่น้องของพวกเจ้าเป็นมิตร หากพวกเขาชอบการปฏิเสธศรัทธา(*1*)เหนือการอีมาน และผู้ใดในหมู่พวกเจ้าให้พวกเขาเป็นมิตรแล้ว ชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้อธรรม” ฝากไปเป็นการบ้านนะครับ จะได้เอาคำสอนนี้ไปสอนผู้ที่เข้าอิสลามใหม่ๆ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:59:59

ความคิดเห็นที่ 66 MCE กลับไปอ่านหัวข้อกระทู้ อย่าดราม่า อย่าออกทะเล จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:01:43

ความคิดเห็นที่ 67 MCE เอาไปตั้งกระทู้ เลย อย่าเก็บขี้ลิ้นขี้ฟันมา จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:02:57

ความคิดเห็นที่ 68 ถ้าไม่บอกว่าเอามาจากคัมภีร์ใด ซูเราห์ใด อายะห์ใด พี่จิม ถือว่า "เป็นข้อมูลเลื่อนลอย ไปเอาของศาสนาใดมาก็ไม่รู้ ศาสนา ของ MCE กะมัง" จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:04:53

ความคิดเห็นที่ 69 وَإِن جَاهَدَاكَ عَلى أَن تُشْرِكَ بِي مَا لَيْسَ لَكَ بِهِ عِلْمٌ فَلَا تُطِعْهُمَا وَصَاحِبْهُمَا فِي الدُّنْيَا مَعْرُوفًا “แต่หากพวกเขาทั้งสองบังคับเจ้าให้ตั้งภาคีต่อข้า ในสิ่งที่เจ้าไม่รู้มาเลยว่า (มันอาจจะเป็นภาคีได้) เจ้าก็จงอย่าเชื่อฟังเขาทั้งสอง แต่เจ้าก็จงปฏิบัติต่อทั้งสองในโลกนี้อย่างมีคุณธรรม” (อัลลุกมาน โองการที่ 15) ซึ่งแน่นอนถึงแม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้เป็นผู้ศรัทธาแต่ก็ถือว่าเป็นวาญิบที่จะต้องกระทำดีต่อพวกท่าน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:09:02

ความคิดเห็นที่ 70 ความคิดเห็นที่ 68 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ถ้าไม่บอกว่าเอามาจากคัมภีร์ใด ซูเราห์ใด อายะห์ใด พี่จิม ถือว่า "เป็นข้อมูลเลื่อนลอย ไปเอาของศาสนาใดมาก็ไม่รู้ ศาสนา ของ MCE กะมัง" จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:04:53 [แก้ไข]   อ้าวไหนว่าอ่านอัลกุรอาน จบมาตั้งเเต่เป็นเด็กไงครับ ไม่คุ้นมั่งเลยหรอครับคำสอนนี้ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:10:01

ความคิดเห็นที่ 71 MCE เมื่อ MCE ไม่บอก ก็ไม่ทราบว่าเอามาจาก ศาสนาใด คัมภีร์อัลกรุอาน จะมีบทกำกับไว้ทุก ตอน ถ้าไม่ใช่คือของปลอม ของผมเรียนแต่ของแท้ ของปลอมไม่เรียน แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 10:13:52 จากคุณ : พีจิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:12:37

ความคิดเห็นที่ 72 MCE จะตั้งกระทู้ได้หรือยัง หรือไม่มีปัญญา ตั้งกระทู้ เหมือน ลูกพี่ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:14:59

ความคิดเห็นที่ 73 เอาเเล้วไง ตกลงพี่จิมรู้เรื่องอิสลามดีหรือป่าวครับ  คำสอนนี้ เป็นอิสลามน่าจะรู้อยู่เเล้ว จะมาให้กาเฟร์บอก หรอครับ  ผมไม่ตั้งกระทู้ครับ 55+ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:17:16

ความคิดเห็นที่ 74 MCE ก็ไหนละเรื่องอิสลาม ไปยกอะไรมาจากที่ไหนไม่รู้ แล้วผมจะไปรุ้คุณหรือไปเอามาจากที่ใด แต่อิสลามไม่มีคำสอน ว่า ให้เนรคุณพ่อแม่ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม ตามอายะห์และซูเราะห์ที่ผมยกมา จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:21:05

ความคิดเห็นที่ 75 MCE จะมาถามพี่จิม รู้เรื่องอิสลามดีหรือป่าว ไม่สำคัญเท่ากับได้ปฏิบัติตามศาสนาดีพอหรือยัง MCE ปฏิบัติตามคำสอนของท่านพระพุทธเจ้าหรือยัง ที่พี่จิมมานำเสนอ มีที่มาที่ไปชัดเจน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:22:45